"คนที่มีความฝันให้ตามหา มีความทรงจำให้คิดถึง คือคนที่โชคดีที่สุด" ๐ จิมมี่ เลี่ยว ๐ http://twitter.com/nopsukda

พรเก้าประการ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ทำระบบการเงิน
๐ เริ่มแล้ว

สร้างสรรค์งานเขียน และ ถ่ายภาพ
๐ เริ่มแล้ว

รักใครสักคน
๐ เริ่มใหม่ได้เรื่อยๆ

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พรเก้าประการ's blog to your web]
Links
 

 

เทปแรกที่ออกอากาศ

ออกอากาศไปแล้วครับ
เมื่อวานนี้ตื่นเต้นสุดๆครับ
เทปแรกที่ออกอากาศ
เป็นการสัมน้องเต๋อ นวพลนักทำหนังสั้น นักเขียนบท นักเขียน นักเล่าเรื่อง
เรียกว่าครบนะ สาวๆกรี๊ดเยอะ แต่แฟนเขาสวยนะครับ 555
เราก็มาคิดว่าถ้าคุยเรื่องหนังที่อื่นเขาคงพูดไปเยอะละ

แอคครีเอทีฟประจำช่วงฟิ้วเลยคิดว่า ถ้างั้นก็เล่าในมุมของเทศกาลไหม
เลยได้เทปนี้มาครับ



ชมจบแล้ว
แนะนำกันหน่อยนะครับ
เราอยากฟังความคิดของทุกคนครับ


ดูช่วงอื่นๆของรายการ bioscopetv ได้ที่นี่ครับ
https://www.youtube.com/user/BIOSCOPETV#p/a/u/2/4A2FE3CFPw8

ตามเชียร์พวกเราด้วยนะครับ




 

Create Date : 07 มิถุนายน 2553    
Last Update : 7 มิถุนายน 2553 1:37:32 น.
Counter : 377 Pageviews.  

4>6>10

วันนี้ถ่ายเทปที่ 4
ได้มานั่งคุยกับโอม

สาวน้อยที่ชื่นชอบการทำหนังอิสระขั้นฮาร์ดคอร์
น้องเขาดูหนังในแบบที่เราไม่เคยดู
น้องเขาเคยได้รางวัลจากมูลนิธิหนังไทย
น้องเขาเคยไปเรียนรู้วัฒนธรรมเช็กอยู่ 1 ปี
น้องเขาได้เรียนทำหนังกับคนทำหนังระดับมืออาชีพเช่น
พี่ลี (นักตัดต่อมือรางวัลระดับเอเชีย)
พี่ใหม่ อโนชา(ผู้กำกับเจ้านอกกระจอก)
พี่ทองดี (โปรดิวซ์หนังวันเดอฟูลทาวน์)
พี่อาทิตย์ (ผู้กำกับวันเดอฟูลทาว์น)

และล่าสุดน้องเขาได้เข้าไปทำงานกับพี่ลีอีก
ที่เล่ามาทั้งหมด
น้องเขาเพิ่งเรียนอยู่แค่ ปีสอง ที่นิเทศ จุฬาฯ

พระเจ้า

จะเก่งเกินไปแล้วไอ้น้องงงงง

บางครั้งการที่เราได้เห็นความสามารถของเด็กรุ่นใหม่
มันทำให้ความสดใหม่ในตัวเราไม่แห้งเหี่ยวตายไปพร้อมกับชีวิตของคนทำงาน

เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราต้องทำงานเดิมๆทุกวัน
และกินเงินเดือนที่มากขึ้นตามอายุงาน
เราขอยอมทำงานที่กระตุ้นชีวิตเราให้คึกคักตลอดแต่เงินเดือนพอไปได้แบบคงที่ดีกว่า

ซึ่งตอนนี้ก็เป็นแบบนี้เลย เอิ๊ก...
ไม่ต้องรอให้รวยแล้วค่อยมีความสุข
ขอให้การทำงานแบบมีความสุขมันตั้งแต่ตอนนี้เลยละกัน

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

อีก18ชม.เราจะกลายเป็นอากาศและไปโผล่ตามทีวีทุกบ้านที่เปิดช่องแมงโก้ได้

สามทุ่ม ทุกวันเสาร์

ตามเชียร์พวกเราด้วยครับ




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2553    
Last Update : 5 มิถุนายน 2553 2:49:25 น.
Counter : 400 Pageviews.  

BIOSCOPE TV

มาแล้วครับ มาแล้ว
รายการที่เราได้แอบไปเป็นพิธีกรเล็กๆ
จะออกอากาศตอนแรกวันเสาร์นี้แล้ว (5.6.53)
ตอนสามทุ่ม ทางช่องแมงโก้
ไปดูตัวอย่างรูปแบบรายการกันครับ



เอาละตื่นเต้นพอละ
งั้นข้ามมาเล่าการเข้าสู่รายการนี้ของเราละกันครับ
คือเรามาสมัครงานด้านกิจกรรมพิเศษของทางนิตยสารไบโอสโคป
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งหน้าทีหลักๆของเราคือการทำกิจกรรมให้เป็นจริง
และพ่วงด้วยการเป็นผู้ดำเนินรายการในแทบทุกกิจกรรมที่จัดขึ้น
คงเป็นเพราะเราชอบ งานพิธีกร + ภาพยนตร์ และเจ้าของหนังสือเล่มนี้ (พี่หมูและพี่ดา)

และพี่เขาก็เป็นคนที่ชอบให้โอกาสเราจึงได้มาเต็มๆ
พอเราได้เข้ามาทำงานกับทีนี่ ทำไปเรื่อยๆ ทำทุกอย่าง
และโอกาสก็เข้ามาเรื่อยๆ ให้เราได้ฝึกได้เรียนรู้
โชคดีที่เราเป็นคนไม่เกี่ยงงาน ทำมันหมด เพราะเรารู้สึกว่า ยิ่งทำมากเท่าไร เราก็ยิ่งก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ

จนเมื่อปลายปีที่แล้วทางเนชั่นก็มาติดต่ออยากให้ไบโอสโคปได้ทำรายการทีวีบ้าง
ทางพี่หมูและพี่ดาก็มีรู้สึกว่าน่าลองดูกันสักหน่อยด้วยสาเหตุที่ว่า
๐ นิตยสารเราทำเกี่ยวกับภาพยนตร์เชิงลึก
๐ ทางช่องแมงโก้ของทางเนชั่นเป็นช่องบันเทิงเชิงสาระ
๐ ทางไบโอเคยทำรายการทีวีมาสองรายการ หนังนอกตลาด ช่อง11 (ตอนนั้นก็ได้เป็นพิธีกรช่วงสั้นๆประมาณ5เทปแล้วโปรดิวซ์ก็หายตัวไปT-T) และ คนมีของ ทางช่องทีวีไทย (อันนั้นจ้างคนนอกผลิตอีกต่อ)
๐ เราได้พี่นิคมาร่วมงานด้วย (พี่เขาเคยเป็นโปรดิวซ์รายการหนังกลางแปลงมา)

เมื่อทุกสิ่งลงตัวรายการไบโอสโคปทีวีก็เลยเกิดขึ้นมา

โดยในรายการจะเป็นรายการเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ีพยายามยืนให้อยู่ระหว่าง
สาระ บันเทิง อินดี้ แมส โดยรูปแบบรายการในช่วงนี้จะประกอบไปด้วย

ช่วงแรก การอัพเดทข่าวภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศ
ช่วงที่สอง พาไปดูเบื้องหลังภาพยนตร์ไทย ว่ากว่าจะเป็นหนังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ช่วงที่สาม เป็นช่วงที่จะมาเล่าถึงวงการภาพยนตร์โลกที่น่าสนใจในเชิงลึก
ช่วงที่สี่ จะพาไปดูวงการหนังอิสระ พูดคุยกับคนทำสื่อใหม่ที่น่าสนใจ (ช่วงเราเอง)
ช่วงสุดท้าย จะเป็นการแนะนำภาพยนตร์ใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายในอาทิตย์นั้นๆ

เราหวังว่ารายการนี้จะเป็นอีกรายการที่ทำให้คุณดูหนังได้สนุกขึ้น

ตามเชียร์พวกเราด้วยนะครับ

ปล.วิธีจูนดูช่องแมงโก้ครับ

ช่องทางการรับชม Mango TV ซึ่ง ออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคม 5 ในระบบ C-Band และ KU-Band

1. จานดาวเทียม

C band ความ ถี่ fre. 3958 , V , Sym 30000 5/6

KU band ความถี่ fre. 12355 , H , Sym 27500 2/3

1.1 จานดาวเทียม C-Band (จานดำ) ทุกยี่ห้อในท้องตลาดที่สามารถรับชมรายการจากดาวเทียมไทย คม 5 กรณีรับชมจากจานดาวเทียมยี่ห้อ “PSI” ที่ ใช้กล่องรับสัญญาณรุ่น O2 (โอ ทู) แมงโก้ทีวีจะอยู่ช่อง 79 (ออกอากาศจริงจะย้ายช่อง แจ้งให้ทราบภายหลัง)

1.2 จานดาวเทียม KU-Band ทุก ยี่ห้อในท้องตลาดที่สามารถรับชมรายการจากดาวเทียมไทยคม 5 กรณี รับชมจากจานดาวเทียมดีทีวี (จานเหลือง) แมงโก้ทีวีจะอยู่ที่ช่อง 34

2. เคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ (สอบถามช่องได้จากผู้ให้บริการ เคเบิลใน ท้องที่นั้นๆ)

3. เวบไซต์ //www.mangotv.tv




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2553    
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 2:45:11 น.
Counter : 573 Pageviews.  

29>5>10

อัพช้าไปสองวันครับ เจองานเข้านิดหน่อย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
วันนี้ไปรับ จ๊อบ มาครับ
อย่างที่เคยเล่าไป เรามาจากการทำงานสายอีเว้นต์
ไต่ๆมาเรื่อยๆจนมาได้ 8 นาทีกับช่วงฟิ้ว
เพราะฉะนั้นถ้ามีงานด้านอีเว้นต์อะไรถ้าไม่กระทบกับงานหลักก็จะขอนายกลับไปรับน่ะ

วันนี้ก็เช่นกันเราไปรับงานของกลุ่มมันตา
ซึ่งจะว่าไปที่นี่เป็นที่แรกทีี่เราได้ทำพิธีกรรายการทีวีทางเคเบิ้ลนะ
ถ่ายไปประมาณ 3หรือ 5 เทปเนี่ยแหละ
ด้วยความใจถึงของพีี่หนืด ผู้นำของกลุ่มละครกลุ่มนี้
พี่เขารักศิลปะโดยพยายามหาจุดกึ่งกลางระหว่างศิลปะและการตลาด
โดยให้ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน

และเราก็นิยมชมชอบการทำงานแนวนี่อยู่แล้ว
เป็นการทำงานเพื่อสังคม และสามารถอยู่ได้
เพราะคนส่วนใหญ่จะคิดว่าการทำงานเพื่อสังคม
คือเป็นการทำงานแบบต้องเสียสละ
ต้องต่อสู้ ต้องเรียกร้อง
แต่สิ่งที่เราทำงานให้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ออฟิศเรา ไบโอก็ไม่ได้ทำงานหวังรวยอะไร
แต่ทำพออยู่ได้ มีตังค์มาหมุนให้ธุรกิจเดินต่อไปได้
และก็ไม่ทิ้งตัวเองลงเพื่อที่จะต้องการจะรวย

ส่วนที่มันตานี่ก็เช่นกัน
แม้จะคนละสายงาน (เราผลิตสื่อ มันตาผลิตศิลปะ) แต่ทั้งสองมีจุดหมายคล้ายกัน
เราก็เลยที่จะทำงานให้กับทั้งสองแห่งนี้
แม้เงินจะไม่ได้มากมายอะไร
แต่มันก็มีความสุขแหะ

ขอโทษที่เราพาออกทะเลไปไกล
กลับมาสู่งานวันนี้ดีกว่า
หลังจากพี่หนืดเขาทำศิลปะมาหลายแขนง
แกก็อยากจะลองหนังสั้นบ้าง
และทางที่ทำงานหลักของเราก็ทำงานสนับสนุนกลุ่มหนังสั้นอยู่แล้ว (เราทำฟิ้วแค้มป์ เป็นไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อๆไปนะ)
พี่หนืดก็เลยลองมาเปิดเวทีหนังสั้น และคนที่ชื่นชอบได้มีเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบ้าง
แต่เวที หนังสั้นบีบคั้น จะต่างกับฟิ้วแค้มป์ตรงที่ว่า
หนังสั้นบีบคั้นทางมันตาจะจัดเป็นโปรแกรมและคัดเลือกหนัง
แต่ฟิ้วแคมป์เราจะเป็นเวทีที่เปิดกว้าง ใครมีงานก็เอาฉายกันได้
โดยจัดกันที ทีเค (แต่ตอนนี้คงหยุดยาว ยังหาสถานทีอยู่ถ้าได้เมื่อไรจะรีบมาแจ้งให้ทราบค้าบ)

เมื่อทั้งสองเวทีแตกต่างกัน
เราก็ไม่มีปัญหาในการเป็นพิธีกร
รับงานทั้งสองเวทีซะเลยโลภมาก ๕๕๕๕

และครั้งล่าสุดที่ผ่านมาเป็นครั้งที่ ๓ แล้ว
โดยหนังที่มาฉายครั้งนี้มาให้หัวข้อหนังเด็กๆ
เพราะพี่หนืดบอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องทั้งหมดขึ้นในตลอดเดือนที่ผ่านมา
เขาเป็นห่วงมากที่สุดคือเด็กๆ พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร
ที่ได้เห็นผู้ใหญ่มาทะเลาะกัน

วันนี้เลยได้ดูหนังทั้งหมด ๕ เรืื่องครับ
เรื่องแรก กระท่อมรัก ของ ทิฆัมพร ภูพันนา
เป็นเรื่องที่พูดถึงการก้าวผ่านวันร้ายๆไปให้ได้
ฉากที่ทรงพลังที่สุดสำหรับเราคงไปซีนที่แม่ป้อนกล้วยน้ำว้าให้ลูกหลังจากที่เพิ่งตีลูกไป
มันง่าย น่ารัก ไม่ซับซ้อน และจริงใจดีชอบๆ

ตามมาด้วยเจ้าชายน้อย...น้อย ของ ทศพร มงคล (เขาเพิ่งเสียไปครับ หนังคุณเจ๋งมาก หลับให้สบายคับ)
เรื่องราวของมิตรภาพระหว่างเด็กสองคน หนึ่งรวย หนึ่งจน และการร้องลิเก

เรื่องที่สาม กล่อง ของศุภวัฒน์ หงษา
เป็นงานของเด็กมอสี่ เมื่อเจ็ดปีที่แล้วที่ว่าด้วยสิ่งที่เด็กรุ่นนั้นกำลังหลงลืมไป
ที่สำคัญพูดเป็นกลอนค่อนเรื่อง ย้ำครับว่า เด็กมอสี่ เจ็ดปีที่แล้ว

เรืื่องที่สี่ เพียงความธรรมดาของเส้น ของ ขวัญแก้ว เกตุผล และ ศุภชัย ทองศักดิ์
เป็นเรื่องของการละเล่นของเด็กกลุ่มหนึ่ง จริงจังมาก น่าจะเอาไปเปิดให้ทุกสีได้ดูจัง
หนังเด็กแต่เอามาตบหน้าผู้ใหญ่ได้ตลอดเวลา
ถ้ายังบ้าวิ่งเข้าใส่คำว่าอำนาจอย่างไม่ลืมหูลืมตา

เรื่องสุดท้ายเป็นสารคดี บันทึกกิจกรรมของกลุ่มศิลปะขันธา
ที่ดูแล้วรู้สึกดี ทำให้เราอยากกอดใครสักคนจัง

พอจบทั้งห้าเรื่อง ก็ได้เวลาแยกย้าย
แต่พี่หนืดบอกว่า หลังจากที่ได้ดูเรืื่องสุดท้ายไป
พี่เขาก็อยากให้ผู้ชมได้ลองสัมผัสกิจกรรมนี้ดู
ซึ่งไม่บังคับ ใครอยากลองก็อยู่ต่อก็ได้

อะไม่มีงานอะไรตกค้างตอนเย็นอยู่แล้วเราก็เลยอยู่ลองกันสักหน่่อย
ทำให้เราได้เจอคุณ โซโนโกะ พราว
ตอนแรกที่เขาขึ้นมาสัมภาษณ์บนเวทีเกี่ยวกับหนัง
ก็ไม่กล้าชวนคุยนึกว่าเป็นคนญี่ปุ่น
พอคุยไปมา เขาพูดไทยได้เลยโล่งอก
แถมยังชวนเขาคุยแบบงงๆ อีกต่างหาก

พอเข้าช่วงกิจกรรมก็เริ่มด้วยการวอร์มอัพสไตล์ละคร
ไม่ได้ออกแรงอะไรมากมาย เหงื่อท่วมเลย โหนับถือคนเล่นละครเลย
ร่างกายเขาต้องแข็งแรงมากแน่ๆ
นี่ขนาดเราโดนชุดเล็กไปนะ สองวันแล้วยังปวดน่องอยู่เลย

เมื่อวอร์มร่างกายเสร็จ เขาให้เริ่มด้วยการนั่งจ้องตากับคู่ของตัวเอง 8 นาที
เราได้จับคู่กับพี่หนึ่ง ชายหนุ่มเคราดก นาทีแรกๆก็เขินนะที่ต้องมานั่งจ้องตาใครก็ไม่รู้จัก
และที่สำคัญเป็นผู้ชายซะด้วย หลงรักเขาขึ้นมาใครจะรับผิดชอบละเนี่ย

พอสักพักเริ่มผ่อนคลาย เราเริ่มอยู่กับตัวเองมากขึ้น
เริ่มสงบลง เพราะช่วงที่ผ่านมาเราเจอทั้งเรื่องงาน เรื่องหัวใจ
ส่งให้สมองเราป่วนได้ไม่หยุดเลย รู้ว่าการนั่งสมาธิน่ะดี แต่ไม่เคยทำสำเร็จสักที
แต่คราวนี้เราต้องมานั่งจ้องตาใครก็ไม่รู้จัก แถมต้องนั่งจับมือเขาด้วย

การที่ได้จ้องตาเขานั้้นทำให้เรามีจุดโฟกัส การจับมือเหมือนกับให้เราอยู่กับที
เมื่อทั้งสองอย่างร่วมกันทำให้เรารู้สึกว่า มึงต้องอยู่กับตัวเอง
ไม่มีใครช่วยมึงได้เลย มึงต้องช่วยตัวเองนะไอ้นพ

พอครบเวลา เป็นครั้งแรกเลยที่เรารู้สึกดีกับตัวเอง มีคุณค่า
สงบ ไม่ฟุ้งซ่านในรอบหลายๆปี เป็นแปดนาทีที่ีมีค่ามากๆในชีวิต

หลังจากนั้นคุณโซโนโกะ ก็ให้เรามาเล่าถึงความรู้สึกให้ทุกคนฟัง
พอทุกคนเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากแปดนาทีนั้นจบ

เขาปิดท้ายด้วยการให้กอดกัน
เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยครับที่เราได้กอดผู้ชายโดยไม่เขอะเขินและรู้สึกดี
ส่วนใหญ่เราจะรู้สึกดีกับการกอดผู้หญิงมากกว่า ไม่ได้ทะลึ่งน่ะ
บางครั้งผู้ชายก็ต้องการกอดจากผู้หญิงโดยไม่ได้คิดเรื่องใต้สะดือเหมือนกันนะครับ


ถ้าวันนี้เรากลับไปก่อนเราคงไม่ได้ความรู้สึกเหล่านี้แน่ๆ
อย่างที่บอกละครับ การที่เราได้ทำงานที่เรารักนั้น
มักจะให้สิ่งดีๆกับมาในชีวิตเราอย่างเกินคุ้มครับ


ป.ล.
ถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติมกับกลุ่มศิลปขันธา ก็ตามไปที่นี่เลยครับ
//www.khandhaarts.org/

สำหรับใครอยากรู้จักมันตามากขึ้นก็ตามไปได้ที่นี่ครับ
//www.montaart.com




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2553    
Last Update : 5 มิถุนายน 2553 3:27:48 น.
Counter : 431 Pageviews.  

27>5>10

เทปที่สามแล้ว
วันนี้ได้คุยกับน้องเอ็ม เมทัส ในประเด็นของการเรียนทำหนังที่จุฬา
เพราะในประเทศเราจะมีสถาบันสอนหนังอยู่ไม่กี่ที่
และที่นี่ก็ปั้นนักทำหนังออกมาค่อนข้างเยอะ
เช่นพี่ย้ง ปิดเทอมใหญ่ พี่กล์อฟ บอดี้ ไหนจะกลุ่มแฟนฉันอีก
ก็เลยคุยกันกับพี่นิค(โปรดิวซ์) แอค(ครีเอทีฟ) และพี่ดา(ควบคุมการผลิต)
ว่าน่าสนใจดี และน้องคนนี้ก็ชอบการทำหนังแบบมีนัยยะ
ก็เลยอยากจะนำมาสำรวจดูซิว่าที่นี่เขาสอนหนังเด็กเป็นแบบไหนกันแน่

บ่ายสามได้เวลานัดคุยกับน้องเขา
ตอนแรกไอ้แอคมันขู่เราว่า "เอ็มมันคุยไม่ค่อยเก่งนะพี่"
ง่าตูต้องดึงอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย
เอานะมันหน้าทีเราก็ต้องทำให้ได้

พอได้เวลาถ่ายก็จัดเต็มไป
คุยกันมันส์มาก น้องมันก็ใส่เต็ม เราก็ใส่เต็ม
เทปนี้เลยรู้สึกว่า เฮ้ย หนุกดี
แถมเนื้อหาที่เอ็มเล่าเจ๋งมากเลย
ทำให้เราเห็นความสามารถของเด็กรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่งที่ไม่ก๊อกแก๊กไปวันๆ

นี่คือสิ่งดีที่งานพิธีกรให้เรา
การที่เราได้เห็นความคิดของคนที่น่าสนใจ
แล้วนำมาถ่ายทอดต่อให้กับคนดู
มันเป็นอาชีพที่ทำให้ได้ทั้งความรู้และความรู้สึกดีๆ

เทปนี้เสร็จเมื่อไรจะเอามาอัพให้ดูนะครับ
ที่จริงเทปสองและหนึ่งตัดเสร็จแล้ว
แต่ไม่สามารถเอาขึ้นได้ครับ
คงต้องรอให้รายการออกอากาศไปก่อนแล้วจะเอามาขึ้นที่บล็อคนี้นะครับ

แต่ถ้าบ้านใครมีจานดาวเทียมที่สามารถรับช่องเนชั่นได้
ก็สามารถติดตามให้กำลังใจกันได้ครับ
เทปแรกจะออกอากาศวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ทางช่องแมงโก้
ช่วงที่เราทำพิธีกรอยู่คือช่วง ฟิ้ว ในรายการไบโอสโคปทีวี ออกอากาศทุกวันเสาร์ 3 ทุ่ม และรีรันวันจันทร์ 10 โมงเช้าทางช่องเดียวกัน

ซึ่งคอนเซ็ปของช่วงฟิ้วจะถูกแบ่งออกเป็น
ช่วงแรกเป็นช่วง ออกไปเดิน (4นาที)
จะนำเสนอกิจกรรมต่างๆที่คนทำสื่อรุ่นใหม่สนใจ

ช่วงที่สองเป็นการคุยกับคนทำสื่อรุ่นใหม่ๆที่ีน่าจับตามาเล่าเรื่องราวต่างๆที่คนทำสื่อสนใจ (8นาที)
เทปแรกเป็นเต๋อนวพล คุยเรื่องการส่งหนังไปตามเทศกาลต่างๆ
เทปสองสลับเอาเอ็มจากเทป3มาก่อน จะคุยเรื่องการเรียนทำหนังในเมืองไทย เพื่อโปรโมดหนังกางจอครั้งที่สิบเจ็ดด้วย
เทปสามน่าจะเป็นน้องโอม จะคุยเรื่องการเรียนที่ประเทศเช็กทำให้กระบวนการมองโลกในการทำหนังของน้องเขาน่าสนใจ
เทปสี่น่าจะเป็นรัฐ(ซึ่งคนนี้ถูกสัมภาษณ์เป็นคนแรกเลยแต่หนังเขาฉายกรฏาคมเลยถูกขยับไป)นักแอนิเมเตอร์ทำหนังยาวครั้งแรก

อย่างไรก็เชิญชมนะครับ
ออกอากาศวันที่ 5 มิถุนานี่แล้วจ้า




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 28 พฤษภาคม 2553 3:23:59 น.
Counter : 414 Pageviews.  

1  2  3  4  5  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.