"คนที่มีความฝันให้ตามหา มีความทรงจำให้คิดถึง คือคนที่โชคดีที่สุด" ๐ จิมมี่ เลี่ยว ๐ http://twitter.com/nopsukda

พรเก้าประการ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ทำระบบการเงิน
๐ เริ่มแล้ว

สร้างสรรค์งานเขียน และ ถ่ายภาพ
๐ เริ่มแล้ว

รักใครสักคน
๐ เริ่มใหม่ได้เรื่อยๆ

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พรเก้าประการ's blog to your web]
Links
 

 
29>5>10

อัพช้าไปสองวันครับ เจองานเข้านิดหน่อย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
วันนี้ไปรับ จ๊อบ มาครับ
อย่างที่เคยเล่าไป เรามาจากการทำงานสายอีเว้นต์
ไต่ๆมาเรื่อยๆจนมาได้ 8 นาทีกับช่วงฟิ้ว
เพราะฉะนั้นถ้ามีงานด้านอีเว้นต์อะไรถ้าไม่กระทบกับงานหลักก็จะขอนายกลับไปรับน่ะ

วันนี้ก็เช่นกันเราไปรับงานของกลุ่มมันตา
ซึ่งจะว่าไปที่นี่เป็นที่แรกทีี่เราได้ทำพิธีกรรายการทีวีทางเคเบิ้ลนะ
ถ่ายไปประมาณ 3หรือ 5 เทปเนี่ยแหละ
ด้วยความใจถึงของพีี่หนืด ผู้นำของกลุ่มละครกลุ่มนี้
พี่เขารักศิลปะโดยพยายามหาจุดกึ่งกลางระหว่างศิลปะและการตลาด
โดยให้ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน

และเราก็นิยมชมชอบการทำงานแนวนี่อยู่แล้ว
เป็นการทำงานเพื่อสังคม และสามารถอยู่ได้
เพราะคนส่วนใหญ่จะคิดว่าการทำงานเพื่อสังคม
คือเป็นการทำงานแบบต้องเสียสละ
ต้องต่อสู้ ต้องเรียกร้อง
แต่สิ่งที่เราทำงานให้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ออฟิศเรา ไบโอก็ไม่ได้ทำงานหวังรวยอะไร
แต่ทำพออยู่ได้ มีตังค์มาหมุนให้ธุรกิจเดินต่อไปได้
และก็ไม่ทิ้งตัวเองลงเพื่อที่จะต้องการจะรวย

ส่วนที่มันตานี่ก็เช่นกัน
แม้จะคนละสายงาน (เราผลิตสื่อ มันตาผลิตศิลปะ) แต่ทั้งสองมีจุดหมายคล้ายกัน
เราก็เลยที่จะทำงานให้กับทั้งสองแห่งนี้
แม้เงินจะไม่ได้มากมายอะไร
แต่มันก็มีความสุขแหะ

ขอโทษที่เราพาออกทะเลไปไกล
กลับมาสู่งานวันนี้ดีกว่า
หลังจากพี่หนืดเขาทำศิลปะมาหลายแขนง
แกก็อยากจะลองหนังสั้นบ้าง
และทางที่ทำงานหลักของเราก็ทำงานสนับสนุนกลุ่มหนังสั้นอยู่แล้ว (เราทำฟิ้วแค้มป์ เป็นไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อๆไปนะ)
พี่หนืดก็เลยลองมาเปิดเวทีหนังสั้น และคนที่ชื่นชอบได้มีเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบ้าง
แต่เวที หนังสั้นบีบคั้น จะต่างกับฟิ้วแค้มป์ตรงที่ว่า
หนังสั้นบีบคั้นทางมันตาจะจัดเป็นโปรแกรมและคัดเลือกหนัง
แต่ฟิ้วแคมป์เราจะเป็นเวทีที่เปิดกว้าง ใครมีงานก็เอาฉายกันได้
โดยจัดกันที ทีเค (แต่ตอนนี้คงหยุดยาว ยังหาสถานทีอยู่ถ้าได้เมื่อไรจะรีบมาแจ้งให้ทราบค้าบ)

เมื่อทั้งสองเวทีแตกต่างกัน
เราก็ไม่มีปัญหาในการเป็นพิธีกร
รับงานทั้งสองเวทีซะเลยโลภมาก ๕๕๕๕

และครั้งล่าสุดที่ผ่านมาเป็นครั้งที่ ๓ แล้ว
โดยหนังที่มาฉายครั้งนี้มาให้หัวข้อหนังเด็กๆ
เพราะพี่หนืดบอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องทั้งหมดขึ้นในตลอดเดือนที่ผ่านมา
เขาเป็นห่วงมากที่สุดคือเด็กๆ พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร
ที่ได้เห็นผู้ใหญ่มาทะเลาะกัน

วันนี้เลยได้ดูหนังทั้งหมด ๕ เรืื่องครับ
เรื่องแรก กระท่อมรัก ของ ทิฆัมพร ภูพันนา
เป็นเรื่องที่พูดถึงการก้าวผ่านวันร้ายๆไปให้ได้
ฉากที่ทรงพลังที่สุดสำหรับเราคงไปซีนที่แม่ป้อนกล้วยน้ำว้าให้ลูกหลังจากที่เพิ่งตีลูกไป
มันง่าย น่ารัก ไม่ซับซ้อน และจริงใจดีชอบๆ

ตามมาด้วยเจ้าชายน้อย...น้อย ของ ทศพร มงคล (เขาเพิ่งเสียไปครับ หนังคุณเจ๋งมาก หลับให้สบายคับ)
เรื่องราวของมิตรภาพระหว่างเด็กสองคน หนึ่งรวย หนึ่งจน และการร้องลิเก

เรื่องที่สาม กล่อง ของศุภวัฒน์ หงษา
เป็นงานของเด็กมอสี่ เมื่อเจ็ดปีที่แล้วที่ว่าด้วยสิ่งที่เด็กรุ่นนั้นกำลังหลงลืมไป
ที่สำคัญพูดเป็นกลอนค่อนเรื่อง ย้ำครับว่า เด็กมอสี่ เจ็ดปีที่แล้ว

เรืื่องที่สี่ เพียงความธรรมดาของเส้น ของ ขวัญแก้ว เกตุผล และ ศุภชัย ทองศักดิ์
เป็นเรื่องของการละเล่นของเด็กกลุ่มหนึ่ง จริงจังมาก น่าจะเอาไปเปิดให้ทุกสีได้ดูจัง
หนังเด็กแต่เอามาตบหน้าผู้ใหญ่ได้ตลอดเวลา
ถ้ายังบ้าวิ่งเข้าใส่คำว่าอำนาจอย่างไม่ลืมหูลืมตา

เรื่องสุดท้ายเป็นสารคดี บันทึกกิจกรรมของกลุ่มศิลปะขันธา
ที่ดูแล้วรู้สึกดี ทำให้เราอยากกอดใครสักคนจัง

พอจบทั้งห้าเรื่อง ก็ได้เวลาแยกย้าย
แต่พี่หนืดบอกว่า หลังจากที่ได้ดูเรืื่องสุดท้ายไป
พี่เขาก็อยากให้ผู้ชมได้ลองสัมผัสกิจกรรมนี้ดู
ซึ่งไม่บังคับ ใครอยากลองก็อยู่ต่อก็ได้

อะไม่มีงานอะไรตกค้างตอนเย็นอยู่แล้วเราก็เลยอยู่ลองกันสักหน่่อย
ทำให้เราได้เจอคุณ โซโนโกะ พราว
ตอนแรกที่เขาขึ้นมาสัมภาษณ์บนเวทีเกี่ยวกับหนัง
ก็ไม่กล้าชวนคุยนึกว่าเป็นคนญี่ปุ่น
พอคุยไปมา เขาพูดไทยได้เลยโล่งอก
แถมยังชวนเขาคุยแบบงงๆ อีกต่างหาก

พอเข้าช่วงกิจกรรมก็เริ่มด้วยการวอร์มอัพสไตล์ละคร
ไม่ได้ออกแรงอะไรมากมาย เหงื่อท่วมเลย โหนับถือคนเล่นละครเลย
ร่างกายเขาต้องแข็งแรงมากแน่ๆ
นี่ขนาดเราโดนชุดเล็กไปนะ สองวันแล้วยังปวดน่องอยู่เลย

เมื่อวอร์มร่างกายเสร็จ เขาให้เริ่มด้วยการนั่งจ้องตากับคู่ของตัวเอง 8 นาที
เราได้จับคู่กับพี่หนึ่ง ชายหนุ่มเคราดก นาทีแรกๆก็เขินนะที่ต้องมานั่งจ้องตาใครก็ไม่รู้จัก
และที่สำคัญเป็นผู้ชายซะด้วย หลงรักเขาขึ้นมาใครจะรับผิดชอบละเนี่ย

พอสักพักเริ่มผ่อนคลาย เราเริ่มอยู่กับตัวเองมากขึ้น
เริ่มสงบลง เพราะช่วงที่ผ่านมาเราเจอทั้งเรื่องงาน เรื่องหัวใจ
ส่งให้สมองเราป่วนได้ไม่หยุดเลย รู้ว่าการนั่งสมาธิน่ะดี แต่ไม่เคยทำสำเร็จสักที
แต่คราวนี้เราต้องมานั่งจ้องตาใครก็ไม่รู้จัก แถมต้องนั่งจับมือเขาด้วย

การที่ได้จ้องตาเขานั้้นทำให้เรามีจุดโฟกัส การจับมือเหมือนกับให้เราอยู่กับที
เมื่อทั้งสองอย่างร่วมกันทำให้เรารู้สึกว่า มึงต้องอยู่กับตัวเอง
ไม่มีใครช่วยมึงได้เลย มึงต้องช่วยตัวเองนะไอ้นพ

พอครบเวลา เป็นครั้งแรกเลยที่เรารู้สึกดีกับตัวเอง มีคุณค่า
สงบ ไม่ฟุ้งซ่านในรอบหลายๆปี เป็นแปดนาทีที่ีมีค่ามากๆในชีวิต

หลังจากนั้นคุณโซโนโกะ ก็ให้เรามาเล่าถึงความรู้สึกให้ทุกคนฟัง
พอทุกคนเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากแปดนาทีนั้นจบ

เขาปิดท้ายด้วยการให้กอดกัน
เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยครับที่เราได้กอดผู้ชายโดยไม่เขอะเขินและรู้สึกดี
ส่วนใหญ่เราจะรู้สึกดีกับการกอดผู้หญิงมากกว่า ไม่ได้ทะลึ่งน่ะ
บางครั้งผู้ชายก็ต้องการกอดจากผู้หญิงโดยไม่ได้คิดเรื่องใต้สะดือเหมือนกันนะครับ


ถ้าวันนี้เรากลับไปก่อนเราคงไม่ได้ความรู้สึกเหล่านี้แน่ๆ
อย่างที่บอกละครับ การที่เราได้ทำงานที่เรารักนั้น
มักจะให้สิ่งดีๆกับมาในชีวิตเราอย่างเกินคุ้มครับ


ป.ล.
ถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติมกับกลุ่มศิลปขันธา ก็ตามไปที่นี่เลยครับ
//www.khandhaarts.org/

สำหรับใครอยากรู้จักมันตามากขึ้นก็ตามไปได้ที่นี่ครับ
//www.montaart.com




Create Date : 01 มิถุนายน 2553
Last Update : 5 มิถุนายน 2553 3:27:48 น. 4 comments
Counter : 429 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:9:14:13 น.  

 
ขอให้มีวันดีดีเช่นกันครับ


โดย: พรเก้าประการ วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:16:32:01 น.  

 
ถูกต้องที่สุดครับ !! ทำสิ่งที่เรารัก

เราจะสนุกกับมัน และได้อะไรดีๆจากมันเยอะ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะครับผม


โดย: 1O8C วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:12:08:30 น.  

 
ขอบคุณครับ
อย่างไรก็ติดตามเชียร์กันด้วยครับ


โดย: พรเก้าประการ วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:2:55:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.