~*+ความสุขของหนูมอญ+*~
Group Blog
 
All blogs
 
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา#3 (งานเลี้ยงของเรา)

งานเลี้ยงของเรา


“เมื่อกี้พี่เล็กโทรมา”
พี่เล็กหรือป้าเล็ก เป็นภรรยาของรุ่นพี่พ่อฉัน สนิทกับที่บ้านตั้งแต่ฉันเด็กๆ

“เหรอ โทรมาว่าไง” แม่ฉันถามกลับไปตามประสา ในขณะที่ฉันเริ่มเปิดถุงขนมที่ซื้อมา

“โทรมาขอเบอร์น้องฉัน”

“ฮ้า” ฉันกับแม่อุทานเกือบพร้อมกัน... ถุงขนมดังแคว้ก

“มีเสียงโห่เสียงฮากันใหญ่” หัวใจฉันเต้นแรงและเร็ว

“แล้วพี่ว่าไง” แม่ถามกลั้วหัวเราะ ถูกใจคุณนายแกนักล่ะ

“สัญญาณไม่ดีเลยวางไป” ลูกโป่งอัดลมแน่นโดนปล่อยลมฉันใด หัวใจฉันที่พองโตเมื่อครู่ก็แฟ่บลงฉันนั้น

พ่อใจร้าย จะปล่อยให้ลูกขึ้นคาน... แต่ฉันยิ้มกว้างกว่าเก่า กว้าง กว้าง กว้าง จนแก้มแทบปริ มันเหมือนมีอะไรวิบวับๆ ที่เรียกว่า ‘ความหวัง’ ปรากฏขึ้นในใจ

เมื่อมาถึงบ้านฉันอดไม่ได้ที่จะไปดูเบอร์ที่ได้รับสายในเครื่องพ่อ เพราะมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง... เบอร์พี่เค้า ปรากฏที่เครื่องพ่อฉันจริงๆ

อะไรกันเนี่ย เกิดอะไรขึ้น ฉันตกใจ ดีใจ ตื่นเต้น แต่จะทำยังไงดี จะทำยังไงดี จำทำยังไงดี (วะ)

เป็นผู้หญิงนะเว้ยเฮ้ย

แต่ไม่มีแฟนมานานแล้วน้า

พี่เค้าเก็กจะตาย

แต่ได้คุยกันแล้วเค้าก็ดีไม่ใช่เหรอ

แต่เราเป็นผู้หญิงนะ

ฉันถือโทรศัพท์ของฉันเดินวนไปวนมาในห้องอยู่หลายนาที แล้วก็ได้รับคำตอบในที่สุด... บางทีเราก็ต้องยอมเสี่ยงกับอะไรบ้างเพราะเรื่องดีๆ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ที่สำคัญที่สุดเรื่องประหลาดๆ แบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับฉันง่ายๆ แน่นอน...

“สวัสดีครับ ผมพลทหาร บลา บลา บลา รับสายครับ”

“เอ่อ พี่เค้าไม่อยู่เหรอคะ”

“แกออกไปข้างนอกครับ แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป”

“อ๋อ งั้นไม่เป็นไร ขอบคุณมากค่ะ”

ฉันวางหู และคิดว่าพลทหารบลาบลา ย่อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามหน้าที่ ประเดี๋ยวพี่เค้าคงโทรมา ฉัน รอ รอ รอ สองชั่วโมงผ่านไป พี่เค้าไม่โทรมา ฉันคิดในแง่ดีไว้ก่อนว่าพลทหารบลาบลา อาจไม่ได้รายงาน พี่เค้าเลยไม่รู้ หรือไม่พี่เค้าก็อาจจะยังไม่กลับ จะโทรไปอีกครั้งก็ดึกมากแล้ว ฉันเลยตัดสินใจส่งแมสเซส

สวัสดีค่ะ... พอดีเห็นเบอร์พี่เค้าที่เครื่องคุณพ่อค่ะ ไม่ทราบมีอะไรรึเปล่า แต่นี่เบอร์ฉันนะคะ มีอะไรก็โทรมาได้ (แต่คงไม่มีใครแซวให้โทรแล้วมั้ง อิอิ)

อะแฮ่ม... ทำไมค้า ทีพี่เค้ายังอ่อยได้ ฉันก็อ่อยได้เหมือนกัน

วันต่อมา แม่ได้รับโทรศัพท์จากป้าเล็กเล่าความเป็นไปเรื่องเมื่อวาน... เรื่องนี้มันสำคัญมากขนาดไหนกันเนี่ยพ่อแม่พี่น้อง ป้าเล็กรายงานว่า...

หลังจากที่ครอบครับฉันกลับไปแล้ว ฉันก็ตกเป็นTopic ทันที เมื่อบรรดาลุง ป้า น้า อา ส่งเสียงเชียร์กระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ให้พี่เค้าจีบฉันให้ได้ ประมาณว่าน้องฉันน่ารักอย่างโน้น เก่งอย่างนี้ เป็นเด็กดีเห็นมาแต่เล็ก จีบเลยๆ

แล้วไงรู้มั้ยคะ อีตาพี่เค้าทะลึ่งบอกทุกคนว่ามีเบอร์ฉันแล้ว... ฉันเดาจากรูปการณ์ได้ว่า พี่เค้าคงเข้าใจผิดว่าตอนที่ฉันยืมโทรศัพท์เขาโทรหาพ่อน่ะ ฉันโทรเข้าเครื่องตัวเอง ว้ายๆ ขี้ตู่จริงๆ ฉันโทรหาพ่อฉันต่างหาก เรื่องอะไรฉันต้องทิ้งเบอร์ไว้ให้เขาด้วยเล่า (แต่ก็ได้ส่งแมสเซสไปแล้ว ฮ่าๆ) ...ก็นั่นแหละ บรรดาพ่อสื่อแม่สื่อต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่ แต่ไม่วายขอดูเบอร์ฉันจากพี่เค้าเป็นการยืนยัน... เมื่อทุกคนเห็นเบอร์ก็ฟันธงฉับๆ ว่าเฮ้ย ไอ้เค้านี่มันเบอร์พ่อน้องฉัน พี่เค้าคงทำหน้าเหวอ ก็เลยโดนบังคับให้โทรไปที่เบอร์นั้นซะเลย แล้วไงล่ะ พอเป็นพ่อฉันรับ พี่เค้าก็รีบส่งให้ป้าเล็กพูดเลยทีเดียว... ป๊อดซะไม่มีอ่ะ

ฉันรอโทรศัพท์ ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ยัน 3 ทุ่ม พี่เค้าไม่โทรมา ฉันเริ่มดาวน์แล้ว ไม่ผ่อนด้วย ดาวน์จริงๆ เหมือนคนอกหัก เหมือนฉันทำอะไรผิดพลาดลงไป (ไงล่ะ เรื่องเสี่ยงของหล่อน สมน้ำหน้านัก... จิตใต้สำนึกของฉันเยาะเย้ย) ฉันเหี่ยวแล้วเหี่ยวอีก ทนไม่ไหวแล้ว พี่เค้าบ้า หลอกให้อยากแล้วจากไป

ฉันออนไลน์Msn เปิดเว็บแคมไปด้วยให้เพื่อนรักเห็นใบหน้าซังกะตาย แล้วยังตั้งชื่อใหม่ในเอ็มว่า ‘เหมือนอกหัก’ เพื่อนๆ ต่างแวะเวียนมาถามสารทุกข์สุกดิบ ฉันก็เล่าความทุกข์แบบดิบๆ ให้เพื่อนฟัง

ฉันเหี่ยวอยู่อย่างจน 21.40 น. โทรศัพท์ก็ดังขึ้น... อื้ม... โทรมาซะทีนะค้าไอ้พี่เค้า

“ขอสายน้องฉันครับ”

“พูดอยู่ค่ะ”

“พี่เขาน่ะครับ”

“ค่ะ”

เมื่อวานพลทหารบลาบลาละเลยต่อหน้าที่โดยการไม่รายงานพี่เค้าว่าฉันโทรไปจริงๆ พี่เค้าบอกว่าเดี๋ยวต้องไปคุยกับมันซะหน่อยแล้ว ปากของฉันบอกออกไปว่า ‘โอ้ยยย ไม่ต้องไปว่าเขาหรอก คนเรามันลืมกันด้ายยย’ แต่ในใจคือ ‘เอาเลยพี่ เล่นให้หนัก’

ฉันและพี่เค้าคุยกันเรื่องโน้น เรื่องนี้อยู่เกือบชั่วโมงก่อนวางสาย ไม่น่าเชื่อว่านิ่งๆ เก็กๆ อย่างนี้จะคุยด้วยแล้วเพลินดีเหมือนกัน

ฉันทิ้งท้ายว่า ถ้ามีอะไรก็โทรมาคุยได้นะคะ พี่เค้าบอกว่า ครับ แต่ฉันก็ไม่ได้หวังว่าเค้าจะโทรมาในเร็ววัน อาจจะเป็นเดือนหน้า หรือไม่โทรเลยก็เป็นได้ เพราะการที่พี่เค้าโทรมาครั้งนี้มันย่อมเป็นการโทรตามมารยาทอยู่แล้ว (ผู้หญิงอ่อยซะขนาดนี้) ฉันเองก็คิดว่าจะแมสเซสไปหาเขาบ้างในเทศกาลสำคัญ เช่นปีใหม่ สงกรานต์ หรือวาเลนไทน์… อย่างน้อยเราก็ได้รู้จักกัน

แต่เรื่องไม่คาดคิดมักจะมาให้เราคิดเสมอ เมื่อหลังจากนั้นอีกสามวัน ริงโทนที่ฉันตั้งไว้เป็นเบอร์พี่เค้าโดยเฉพาะก็ดังขึ้น ฉันแปลกใจไม่น้อย... มากเลยล่ะ

“พี่เขานะครับ”

“ค่ะ”

ฉันคุยกับพี่เค้าอีกเกือบชั่วโมง เรารู้จักชื่อจริง และวันเกิดกันแล้ว พี่เค้าบอกสวัสดีปีใหม่ฉันล่วงหน้า (วันนั้นวันที่30) โดยให้เหตุผลว่าทุกปีบ้านพี่เค้าจะจัดงาน อาจวุ่นๆ และไม่ได้โทร (จะโทรหาแฟนก็บอกมาเถอะพี่) จากนั้นก็วางสายแบบงงๆ เค้าอาจจะโทรมาอีกครั้งเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดก็ได้ ฉันคิด

วันรุ่งขึ้นฉันออกเดินทางไปต่างจังหวัดตอนตีสามเพื่อหนีรถติด และจังหวัดที่จะไปก็ไม่ใกล้นัก ฉันส่งแมสเซสสวัสดีปีใหม่ให้พี่เค้าในรถ แต่ก็ไม่มีข้อความตอบกลับ จนกระทั่งถึงบ้านพักกลางหุบเขาที่ไร้ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์ ฉันตัดขาดโลกภายนอกอยู่ 3 วันเต็มๆ แล้วกลับมาบ้านในวันจันทร์

ฉันคิดถึงพี่เค้าที่เดียวแหละ แต่ทำอะไรไม่ได้ ฉันตั้งใจว่าจะไม่โทรหาพี่เค้าเด็ดขาด เพราะแค่อ่อยไปคราวเดียวก็เกินพอแล้ว และด้วยความทำอะไรไม่ได้ ฉันจึงไประบายออกกับกูเกิล (www.google.co.th) เพื่อนฉันเคยบอกว่าฉันโรคจิต โอเคล่ะ ยอมรับก็ได้ว่าฉันเป็นโรคจิตอย่างหนึ่ง คือเวลาที่สนใจใครฉันจะใส่ชื่อคนคนนั้นในกูเกิล เผื่อบางทีฉันอาจจะได้ข้อมูลของเขาเพิ่มขึ้นก็ได้ สำหรับพี่เค้า... ฉันไม่ได้รับแค่ข้อมูล แต่ได้มาทั้งหน้าเลยล่ะ... โอ้โห พี่เค้าเคยลงปกนิตยสารด้วย แต่เอ๊ะ ทำไมนิตยสารถึงลงว่าพี่เค้า ว่าชื่อเขาล่ะ ฉันเริ่มเอะใจ พอดีกับสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกแล้ว เพลงของพี่เค้าดังขึ้น

“สวัสดีครับ ‘พี่เขา’ นะครับ”

“ค่ะ”

ฉันเริ่มครุ่นคิด พี่เค้าดูเน้นคำว่าเขาแปลกๆ รึเปล่านะ

“พี่ค้าวคะ” ฉันพยายามเรียกชื่อไม่ชัดเขาจะได้ฟังไม่ถนัด

“ครับ”

“น้องฉันมีเรื่องจะถาม”

“อะไรครับ”

“อย่าโกรธนะ”

“อื้ม”

“พี่ชื่อเค้าหรือเขาอ่ะคะ”

“อืม... พี่ก็ว่าแล้วว่าทำไมในแมซเสจเขียนเค้า ชื่อเขาครับ ขอไข่”

“ฮ่าๆๆ ขอโทษษษ แต่ตัวเองแหละไม่ยอมบอกเอง ปล่อยให้เรียกผิดอยู่ได้”

“อ้าว พี่ก็ไม่แน่ใจ”

“โอเค พี่เขา พี่เขา พี่เขา ขอโทษน้า”

สรุปว่าพี่เขาปล่อยให้ฉันออกเสียงชื่อเขาแบบผิดๆ อยู่ได้ไม่รู้จักบอก มันเลยเป็นเรื่องขำๆ ที่เกิดขึ้นอีกเรื่องระหว่างฉันกับพี่เขา

เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างนี้ พี่เขาโทรมาหาฉันอาทิตย์ละ2-3 ครั้ง บางทีก็อาทิตย์ละครั้ง แต่ฉันไม่เคยโทรไป เพราะฉันไม่อยากรบกวน คิดแต่ว่าถ้าพี่เขาว่างคงโทรหาฉันเอง

แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือฉันเฝ้ารอ... การชวนออกไปข้างนอกจากพี่เขา ฉันได้แต่ซื้อเสื้อผ้าน่ารักๆ เก็บไว้ เผื่อวันใดวันหนึ่งพี่เขาอาจจะชวน แต่ก็ไร้วี่แวว ฉันได้แต่คิดว่าเพราะฉันเป็นลูกพ่อรึเปล่า พี่เขาถึงไม่กล้าชวนฉันออกไปไหนๆ ให้เวลาเขาหน่อยแล้วกัน

...บางครั้งฉันก็ลืมนึกไปว่าพี่เขามีแฟนแล้ว...

เราคุยกันเรื่อยๆ อยู่สองเดือนกว่า วันหนึ่งพี่เขาก็พูดขึ้นว่า

“น้องฉันครับ น้องฉันจะโทรหาพี่บ้างก็ได้นะครับ”

ฉันหัวเราะ ก่อนหน้านี้หลายอาทิตย์ฉันเคยบอกพี่เขาว่าฉันเกรงใจ เวลาพี่เขาโทรมาให้ Missed call มาก็ได้ แล้วฉันจะโทรกลับเอง เพราะฉันมันคนว่าง ใครจะโทรมาก็ได้เสมอ แต่จะให้โทรไปน่ะเกรงใจ แต่คราวนั้นพี่เขายืนยันเสียงหนักแน่นว่า ‘ไม่ได้ ไม่เอา น่าเกลียด ทำงั้นได้ไง’

“ไม่ใช่นะ พี่ไม่ได้หมายความว่าพี่เปลืองหรืออะไรนะ เพียงแต่อยากบอกให้น้องฉันรู้ว่าถ้ามีอะไรน้องฉันโทรหาพี่ได้ตลอด”

“แล้วถ้าไม่มีอะไรล่ะคะ” ฉันไม่วายเล่นลิ้น

“ไม่มีอะไรก็โทรได้”

“โอเคค่ะ จะโทรไปจนเบื่อเลย”

คืนนั้นฉันยิ้มมม รู้สึกเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีคนขอให้โทรไปหา เขาอนุญาตให้ฉันโทรหาเขาได้เมื่อต้องการ ฉันจึงเริ่มโทรหาพี่เขาบ้าง



Create Date : 21 กันยายน 2549
Last Update : 22 กันยายน 2549 8:53:08 น. 0 comments
Counter : 342 Pageviews.

โรสลาวาตี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




MorNRo$E = กุหลาบมอญ ^^
ทำไมต้อง "มอญ" >> ก็มีเชื้อมอญอะจิ
แล้วทำไมต้อง "กุหลาบ" >> ก็สวยอ้ะ ฮี่ๆๆๆ
(หน้าไม่อายจริงๆ ผู้หญิงอาไร้)


Friends' blogs
[Add โรสลาวาตี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.