คืนที่สองเรามาพักกันที่นี่ครับ ตอนออกมาหาข้าวกินก็ตระเวนหาที่พักไปด้วย แล้วก็ไปเจอะที่นี่ครับ เรียกว่าเป็นที่พักที่ชอบที่สุดเลยในทริปนี้ โรงแรม เค - วัน อยู่ใกล้กับสนามบินน่านครับ


ด้านหน้าของโรงแรมครับ

มุมนี้คุณนายก็ขอด้วยยย

แชะ...อีกสักรูป คุณนายชอบถ่ายรูปมาก ไม่เหมือนผมชอบอยู่หลังกล้องมากกว่า

ในส่วนของ LOBBY ครับ ดูเหมือนพึ่งจะเปิดได้ไม่นาน บางอย่างเลยดูไม่เข้าที่สักเท่าไหร่

ตอนเช้ามีกาแฟให้ครับ แต่ผมและเธอ ไม่ทัน !!!

ทางขึ้นครับ มีสองชั้นแต่ไม่แน่ใจว่ากี่ห้อง

หลังเปิดเข้าห้องมา ผมพูดได้คำเดียว ชอบมากครับ โทนสี..สำหรับผม มันใช่ อบอุ่น ดูดี สบาย หลาย ๆ อย่าง ผมเองยกให้ที่นี่เป็นที่พักที่ชอบที่สุดตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายครับ และเธอเองก็เช่นกัน

กุญแจห้องพักและหมายเลขครับ

มาดูในส่วนของห้องน้ำ ค่อนข้างกว้างครับ

นี่คืออีกมุมหนึ่งที่ชอบครับ แค่ไม่กี่เมตรคือบ้านของชาวน่าน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมที่แค่เปิดประตูออกไป คุณก็จะได้เจอชีวิตอีกแบบหนึ่ง ยังกับประตูโดเรมอนแน่ะ...

วันนี้ลองไปสอบถามเรื่องรถรางอีกครั้งปรากฎว่ามีครับ แต่...พวกเราเป็นแค่ผู้อาศัยร่วมทริปเท่านั้น เพราะ....

พวกเขาครับ เจ้าของทริปนี้...เด็ก ๆ เขาออกมาทัศนาศึกษากันครับ พี่ขอติดไปด้วยเน้อ...

ที่แรกที่มาครับ...

ภายใน จะประกอบพิธีแต่ผมเองจำไม่ได้ว่าช่วงนั้นเรียกว่าพิธีอะไร

พญานาคที่ราวบันได้

หลังจากนั้น ก็เดินทางกันต่อ แม่อุ้ยออกมาโบกมือร่ำลากัน...

ต่อมาครับ...

มีของเก่ารวบรวมไว้...





ดูน้อง ๆ เขาสนใจกันมากทีเดียว

หลังจบทริปแล้วก็เป็นเช่นนี้ครับ เงียบเชียว...นั่งรถกลับไปที่ศูนย์..เพราะรถจอดอยู่ที่นั่นครับ

พอถึง...ฝั่งตรงข้ามเดินมาไม่ไกลนัก วัดภูมินทร์...

ด้านหน้า...

คุณนายบอกว่า ถ้าได้เดินลอดก็จะได้กลับมาอีก หรือคนโสดก็จะได้แฟนเป็นคนน่าน ผมไม่รู้ว่าเธอหรอกหรือเปล่า แต่ผมได้แฟนเป็นคนน่านตั้งแต่ก่อนมาแล้วครับ...แต่เธอเป็นลูกครึ่งน่าน ลำปาง เอาว่าพอได้ละกัน

มุมเฉียง ๆ

ก่อนเข้าครับ...สักแชะ

พอเข้ามาด้านในแล้วจะเห็นพระพุทธรูปหันหน้าไปทั้งสี่ทิศ

และจุดไคลแมกซ์ อยู่ที่ตรงนี้ครับ "กระซิบรัก"


สรุปแล้ววันที่สองก็เที่ยวแบบเรื่อยๆ ครับ เราคุยกันตั้งแต่แรกแล้ว เรามาครั้งนี้เราจะเที่ยวแบบช้า ๆ ไม่เร่งรีบวันหนึ่งเที่ยวได้แค่ไหนเอาแค่นั้น เหนื่อยก็พัก...