Group Blog
 
All blogs
 
รวมเรื่องแปลกที่แตกต่างของอเมริกากับบ้านเฮา

หลังจากที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องราวที่ไปสัมผัสประเทศนี้ตลอด 3 อาทิตย์ ก็อัดแน่น จนอยากเล่าสู่กันฟังในเวปบล็อกนี้นะคระ มันเป็นเรื่องแปลกสำหรับ จขบ. ม๊ากกกกก บางคนอาจจะว่าไม่แปลกก็ได้นะ ถ้าใครมีเรื่องทำนองนี้ก็ทิ้งเม้นไว้ด้วยนะคระ อยากรู้นะจ๊ะ อิ อิ เอาล่ะเริ่มกันเลย

1. เรื่องของห้องน้ำสาธารณะ สังเกตมั้ยว่าช่องประตูห้องน้ำมันห่างมากกก มันไม่ใช่ห่างแค่ข้างเดียว มันห่างทั้งสองข้างเลยอะ จนคนข้างนอกมองเห็นเราได้อย่างวอบๆ แวม ๆ แต่ถ้าใครทะลึ่งส่องดูนิดหน่อยก็จะเห็นภาระกิจเหม็นๆ เต็มๆ เลยทีเดียว เวลาเข้าห้องน้ำก็เลยต้องพยายามให้ตัวเองอยู่ตรงกลางประตู ทำตัวซะลีบเชียว ทรมาณมากคร่า เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆ เพราะไม่มีอารมณ์จะถ่ายน่ะ ก็เลยถามพี่สาวว่าทำไม๊ ทำไมเป็นแบบนี้ เค้าบอกว่า เวลาคนเป็นลมหรือว่ามีอุบัติเหตุอะไรจะได้มองเห็นได้ และเข้าไปช่วยได้ทันท่วงที แต่ จขบ. ว่า ถ้าเข้าไปใช้บริการบ่อยๆ คงจะเป็นโรคท้องผูกแน่ๆ เลย มันอึ๊มะออกอะจิ๊

2. เรื่องของห้องน้ำที่บ้าน ที่บ้านพักของพี่สาวมันมี 3 ห้องนอน มี 1 ห้องน้ำ แย่งกันเข้าแทบแย่ ตอนแรกยังไม่รู้สึกแปลก แต่แค่รู้สึกว่า ทำไมว๊า มีตั้ง 3 ห้องนอน ทำไมไม่ทำห้องน้ำให้เยอะกว่านี้ เผอิญมีวันนึง พี่สาวไปมองๆ บ้านไว้มันเป็นบ้าน 2 ชั้น ไอ้เราก็พูดเล่นๆ
"เออดีๆๆ จะได้มีห้องน้ำหลายๆ ห้องหน่อย"
แต่พี่สาวบอกว่า " เปล๊า มีห้องน้ำเดียวเหมือนกันย่ะ"
ไอ้เรา " อ้าว ไหงงั้นล่ะ มีตั้งหลายห้อง ทำไมเค้าสร้างห้องน้ำน้อยจัง"
พี่สาว " ที่นี่เค้าเก็บค่าภาษีบ้านตามจำนวนห้องน้ำ ถ้าห้องน้ำเยอะ แสดงว่ามีคนอยู่เยอะ ต้องเก็บภาษีแพงหน่อย"
ไอ้เรา " แบบนี้ก็มีด้วยแฮะ ทำไมต้องมาทรมาณตุ๊ด กันแบบนี้"
***ข้อมูลนี้อาจเป็นเฉพาะบางรัฐก็ได้นะ***

3. เรื่องห้องน้ำยังไม่หมดแค่นี้ เพราะ จขบ. เป็นประเภทชอบเข้าห้องน้ำสะอาดๆ ดีๆ ไม่งั้นอึ๊มะออกง่า ห้องน้ำเมกันเป็นห้องน้ำแบบแห้งไม่ว่าที่บ้านหรือห้องน้ำสาธารณะ ไม่มีตัวฉีดน้ำเหมือนบ้านเรา ต้องใช้ทิชชู่เช็ดสถานเดียวเท่านั้น คนที่ไม่คุ้นเคยกับระบบคงต้องปรับตัวกันหน่อยแย้วววววว

4. พูดถึงเรื่องทิชชู่ ก็ขอเอ่ยถึงอีกนิดหน่อยละกัน ทิชชู่แบบม้วนๆ บ้านเราสามารถเอามาเช็ดปาก เช็ดมือ เช็ดตุ๊ด ฯลฯ สารพัด ไม่มีการถือ นอกจากบางคนที่อาจไฮโซ ไปเมืองนอกเมืองนามาแยะ อาจจะรับแบบนี้มะค่อยได้ ก็ไม่ว่ากันจร้า แต่สำหรับ จขบ. เป็นคนง่ายๆ ทิชชู่ก็คือทิชชู่ จะเอาเช็ดปาก หรือเช็ดตุ๊ดก็ไม่ถือ (แต่เช็ดปาก แล้วเอามาเช็ดตุ๊ด นี่ม่ายล่ายน๊า) แต่ที่เมกาฝรั่งเค้าถือมั๊ก มาก กระดาษทิชชู่ ต้องใช้เช็ดตุ๊ดเท่านั้น อย่าแสลมเอามาขึ้นโต๊ะอาหารเช็ดปากแบบบ้านเราเชียวนา เดวเปงเรื่อง กระดาษที่ใช้เช็ดหน้า เช็ดปาก เช็ดมือ เค้าเรียกว่า แนปกิ้น ที่ขายเป็นกล่องแบบบ้านเรานั่นแหละ ขนาดชื่อเรียกยังต่างกันเยยเนี่ย ไอ้เราเรียกทิชชู่ยัน

5. เรื่องของวาสลีน ที่เป็นขวดเหลืองๆ ฝาสีฟ้า นั่นแหละ จขบ. ชอบเอามาทาปากม๊ากกกกก ไปไหนก็จะพกไปด้วย เวลาปากแห้งก็หยิบมันขึ้นมาใช้แบบมั่นใจ เพราะดูตามฉลากข้างขวดมันแล้ว สามารถทาปาก ทาเล็บ ทาก้นเด็กก็ได้นี่นา แต่พอไปที่นู่น จขบ. หยิบมันขึ้นมาทามาแบบสบายใจ กำลังจะเปิดฝา คุงพี่สาวอิช้านนนน มาจากไหนมะรุ บอกว่า มะได้ เอามันเก็บลงไปเดวนี้ ที่นี่เค้าใช้ทาเท้าย่ะ ไอ้เราก็ อ้าว ปากอิชั้นเป็นเท้าไปเสียแล้ว แต่เราก็บอกไม่เห็นเปงไรเลย ข้างขวดมันก็บอกว่าใช้อะไรได้บ้าง ใครอยากจะเอาไปทาตรงไหนก็ทาไปดิ๊ หนักหัวคราย แต่คุงพี่ดันมากระซิบอีกครั้งว่า อันที่จริงทาเท้าก็เรื่องนึง แต่ฝรั่งเค้าเอามันไปใช้ในเรื่องอย่างว่าด้วย ก็เลยบอกว่าอย่าใช้เลย เดวโดนฝรั่งคิดมากหาว่าเราเอาไปใช้เรื่องพันนั้น อีกอย่างเดวเพื่อนชายคุงพี่สาวแซวเอาไม่เลิกมะรุด้วย เฮ้อ เปงงั้นไป จขบ. จำนนด้วยเหตุผล ก็เลยต้องยอมเก็บ แต่ไม่ยอมเลิกทาน๊า เวลาจะทาต้องไม่เอามันออกมาจากกระเป๋า ต้องแอบๆ ควักมันจากในกระเป๋านี่แหละ เป็นความลำบากของตูดีแท้น๊ออออ

6. เรื่องของสกั๊งค์ ส่วนใหญ่ก็คงจะรู้จักว่ามันคือตัวที่ส่งกลิ่นเหม็นเวลามันตกใจ หรือเวลาที่ต้องป้องกันตัวเอง ตัวมันลักษณะคล้ายกระรอกแต่ตัวใหญ่กว่า คงจะประมาณนั้น เท่าที่เคยเห็นในสารคดี แถบๆ รัฐโรสไอแลนด์ คอนเนคติคัส มักจะมีอยู่ตามป่าข้างทาง เวลาที่เรานั่งรถก็มักจะได้กลิ่นสกั๊งค์ เหม็นเข้ามาในรถ กลิ่นมันคล้ายกับชะอมเน่า ประมาณนั้น แต่บางคนก็บอกว่าไม่เหมือน แต่มันเหม็นขิ่วๆ บอกไม่ถูก ถ้าเป็นบ้านเราก็คงจะเป็นกลิ่นหมาเน่าที่ตายข้างถนนนะ แปลกแต่จริง พี่สาวเคยเล่าว่าครั้งนึงจะขับรถไปเที่ยวกันที่นิวยอร์ก ระหว่างทางเกิดไปเจอตัวสกั๊งค์นอนตายกลางถนน ประมาณว่าโดนรถชน รถทับว่ากันไป ล้อรถดันไปเหยียบใส่เลือดสกั๊งค์เข้าให้ ป๊าดดดดดด บอกว่าเหมือนตั้งแต่คอนเนคติคัส ยันนิวยอร์กเลย ว่างั้น ยังไม่พอเหม็นจนกระทั่งเที่ยวแล้วกลับถึงบ้าน ขนาดนั้นเลย บรื๋ยยยย พี่สาวแทบจะลมใส่ซะ

7. เรื่องนี้บ้านเราอาจเป็นของแปลกกว่าก็ได้ที่จะทำอะไรก็ได้ เสรียิ่งกว่าเมกา เรื่องมันมีอยู่ว่า จขบ. เห็นว่า พวกฝรั่งมักชอบเอาขยะดีๆ มาทิ้ง เช่น โซฟา จักรยาน เป็นต้น ก็เลยถามพี่สาว ถ้าเราทำอาชีพเก็บขยะไปขายนี่จะโอ มะ พี่สาวเลยบอกว่า "มันต้องมีใบ (licence สะกดถูกอะเป่า) ทำอะไรทุกอย่างที่นี่ต้องมีใบ ไม่งั้นผิดกฎหมายเต็มๆ" จขบ. ก็อดเลยอะจิเนี่ย ข้อมูลนี้ไม่ชัวร์เรื่องไลเซ่นเก็บขยะเนี่ย พี่สาวอาจไม่รุจริงก็ได้ วานผู้รู้ช่วยทีนะ อิ อิ

8. สวิทไฟ อันนี้มีรูปประกอบ เพราะ จขบ. รู้สึกว่า แบบที่เมกาใช้นี่มันโบร๊าน โบราณ เห็นด้วยมั้ย ตอนแรกนึกว่าจะมีแต่บ้านพี่สาว แต่ที่ไหนได้ ส่วนใหญ่ ค่ะ ส่วนใหญ่ ที่ใช้แบบนี้ เรียกว่ายอดฮิต ขนาดในร้านอาหารก็ยังเป็นแบบนี้เลยนิ



9. เสาไฟฟ้า บ้านเค้ายังเป็นไม้อยู่เลย ไม่น่าเชื่อ แต่ว่าไปแล้วแบบนี้ดูคลาสสิกดีกว่าเสาปูนแยะเลย ลืมสังเกตในเมืองใหญ่ เช่น NYC น่ะ ไม่รู้ว่าใช้เป็นเสาปูนอะเป่า อ๊ะ หรือว่าใช้เสาไม้ในรัฐชนบท (จะว่าบ้านนอกก็กะไรอยู่)



10. เรื่องของไส้กรอก กับ ซอสเซส จขบ. ชอบกินไส้กรอกมั๊กมากอะ ตอนที่ไปฮ่องกง ก็ไปลองกินไส้กรอกเค้า อร่อยยยยยยยดีมากกกก ติดใจเลยจำยี่ห้อไม่ได้แล้ว ทีนี้พอมีโอกาสไปเมกา ก็ต้องขอลองชิมซะหน่อยจิจริงนะ ในใจคาดหวังไว้มากๆ เลยว่า ไส้กรอกของฝรั่งนี่ต้องอร่อยสุดยอดกว่าทางบ้านเราแน่ๆ แหะ แหะ พอกำลังจะซื้อ พี่สาวเบรกทันที "แน่ใจแล้วเหรอ จะกินเหรอ" ไอ้เรา "ไมอะ แน่ใจอะไร" พี่สาว "เฮ้ย มันเค็มมากกกกเลยนะ ตัวเองกินมะได้หรอก" เรา "ขนาดนั้นเลย ไม่เชื่อ ต้องลอง ๆ เลยหยิบยี่ห้อที่ดูเค็มน้อย (วัดจากตรงไหนเนี่ย) " พอเช้าวันรุ่งขึ้นเอามันเข้าไมโครเวฟ อุ่นๆ เรา "เอ้อ เค็มนิดหน่อย ไม่เห็นเค็มจนกินไม่ได้เลยนี่" พี่สาว "เฮ้ย แปลก ยี่ห้อไรเนี่ย ไหนชิมซิ ...อื้ม ยี่ห้อนี้เค็มน้อยแฮะ" เราคิดว่า แหนะยังไม่วาย ลิ้นคุงเธอต้องผิดปกติแน่ มันไม่ได้เค็มอะไรขนาดนั้นซะหน่อย แต่พอกินไปๆ เออ มันเค็มจริงๆ แฮะ ไม่ได้ คราวหน้าต้องลองซื้อยี่ห้ออื่นดู ทำไมใครๆ (ไม่ใช่แต่เฉพาะพี่สาว แควนพี่สาวที่เป็นฝรั่งก็บอกเหมือนกัน) ก็เลยไปซื้อยี่ห้ออื่นมาชิมดู โอ้โห เค็มปิ๊ดๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆ ดั๊ว ขนาดคุงพ่อกินอะไรง่ายๆ แล้วนะ ยังว่าไม่อร่อยเลย คิดดู มะรุทำไมต้องกินเค็มกันขนาดนั้นก็มะรุ หรือว่าเค้ากินกับขนม หรือว่าเครื่องเคียงอย่างอื่นที่ทำให้ไม่เค็มเหรอ แปลกใจ
สรุปก็คือ ที่คาดหวังไว้ว่ามันต้องอร่อยกว่าทำที่เอเชียแน่ เป็นอันต้องผิดหวังไปซะงั้น

11. พูดถึงอาหาร ขอพูดถึงเรื่องรสชาดอาหารซะหน่อย ส่วนใหญ่ฝรั่งชอบกินรสหวาน ไม่ใช่หวานธรรมดา แต่หวานมากอะ มะรุทำไม คือ ถ้าคนไทยเรากิน จะบอกว่าไม่อร่อย หว๊าน หวานเกิ๊น เลี่ยนอะ แต่ฝรั่งกับกลับชอบ บอกอย่างนี้สิอร่อย

12. เมกันชอบกินขิงกันมากๆ เลย เรียกว่า มีตั้งแต่น้ำอัดลมขิง ลูกอมกลิ่นขิง หมากฝรั่งขิง นี่ยังไม่เท่าไหร่ พอดีไปซื้อลิปมันมันมาเป็นแพครวมหลายกลิ่นประมาณ 8 แท่งในแพคเดียวกัน ที่แปลกใจคือ มันมีลิปมันกลิ่นขิงด้วยเหรอเนี่ย ?????

เอาละรวมได้ตั้ง 12 ข้อแล้วแหนะ ถ้าคิดออกอีกจะเข้ามาเพิ่มเติมนะจ๊ะ ใครอ่านแล้วเห็นด้วยบ้าง ยกมือขึ้น แต่ถ้าใครมีเรื่องแปลกกว่าก็เล่าสู่ จขบ. ให้รู้บ้างนะ ชอบ ชอบ


Create Date : 27 มกราคม 2552
Last Update : 28 มกราคม 2552 20:36:23 น. 2 comments
Counter : 645 Pageviews.

 
ช่างสังเกตจังค่ะ เราก็ว่าเสาไฟฟ้าทำไมบ้านนอกอย่างนี้ ที่เมืองไทยเป็าคอนกรีตหมดแล้ว แต่สามีบอกว่า สงสัยเพื่อความปลอดภัยของคนขับรถมั้ง เสาคอนกรีตขับชนแล้วตายไปเลย แต่เสาไม้ มีคนขับรถชน เสาหัก คนไม่ตาย ถูกไม่ถูกไม่รู้นะ

เรื่องวาสลีน ตอนไปเทรนนิ่งปากแตก หาลิปมันไม่เจอ ก็เอาวาสลีนปาดๆ เลย ตอนกำลังนั่งเรียนอยู่ แต่ไม่รู้ว่ามีใครเห็นหรือปล่าว หรือ สงสัยแอบนินทาเราป่าวน้ะ

ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ ต่อไปจะจำไว้ให้ป็นประโยชน์ อิอิ


โดย: Bannorker วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:22:21:50 น.  

 
 วัฒนธรรมเมกาคล้ายๆของญี่ปุ่น เลยเช่นเรื่องทิชชูจะแยกอย่างชัดเจนที่นี่ี่ี่ี่ก็ถือเช่นกัน


โดย: decoba วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:10:38:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

moomi55
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใครจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีความสุขไปกับทุก ๆ วัน เครียดได้ อะไรได้ แต่อย่าปล่อยให้มันกัดกินหัวใจนานนะคะ

บล็อคนี้ บางเรื่องอาจหาสาระไม่ได้ ก็ข้ามไปได้ ไม่ว่ากัน
ถ้าถูกใจทิ้งเม้นท์ไว้ให้ชื่นใจก็ดีนะคะ





นาฬิกา ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี A cheerful heart is a good medicine
Friends' blogs
[Add moomi55's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.