Group Blog
 
All blogs
 
ประสบการณ์ทำงานร้านอาหารต่างแดน

ตอนที่มีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวเยี่ยมพี่สาวที่ USA ก็ได้เข้าไปช่วยงานที่ร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นงานเสริฟ ล้างจาน ทำเครื่องดื่ม

เรียกได้ว่าช่วยทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

ที่พูดเรื่องนี้เพราะเห็นในกระทู้ห้องไกลบ้าน + เพื่อน ๆ หลายคนต้องการไปหาประสบการณ์ต่างแดน โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น คิดเสียแต่ว่าอยากไปทำงานเมืองนอก ๆ เท่านั้น

แต่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่า จะไม่ให้ไปทำนะคระ แต่ก่อนที่ตัดสินใจไป ขอให้พิจารณาถึงคุณสมบัติส่วนตัวก่อน แรก ๆ มันก็ตื่นตาตื่นใจอยู่ แต่พออยู่ที่นั่นจริงๆ แล้ว โอ้โห คิดเลยค่ะ คิดว่า "ตรูมาทำอะไรที่นี่วะเนี่ย"

มีไม่น้อยนะคะ ที่พอไปแล้ว คิดแบบนี้น่ะ อยู่สบาย ๆ เมืองไทยไม่ชอบ

ยกตัวอย่าง จขบ. เอง ที่ประเทศไทยนี้ ทำงานออฟฟิส งานสบายมาก ถึงแม้เงินเดือนจะน้อย แต่ก็พอกินพอใช้ พอเก็บค่ะ

ไม่เคยทำงานหนักมาก่อน คนที่เคยปากกัดตีนถีบ จะมีความอดทนได้ดีกว่า คนที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อน จริงอยู่ที่ว่า "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" ตามสโลแกนลูกแม่โจ้

แต่ต้องอยู่ที่สภาพร่างกาย + สภาพจิตใจด้วยนะคะ

งานร้านอาหาร เป็นงานที่ใช้เวลาชั่วโมงนานมาก ประมาณ 10-12 ชั่วโมง ต่อวัน คุณไหวกันมั้ยล่ะคะ ปกติแค่ทำงานออฟฟิส ก็ประมาณ 8 ชั่วโมงเท่านั้นเอง แถมวัน ๆ นั่งแต่ที่โต๊ะทำงาน เดินไปเดินมานิดหน่อย แสนสบาย

แต่ที่ร้านอาหารไม่ใช่ ต้องทำงานทั้งวัน ยิ่งร้านไหนลูกค้ามาก ขอบอกว่า แถมไม่ได้หายใจหายคอ คิดดูสิคะ 12 ชั่วโมง นี่ต้องอึดใช่เล่น

จขบ. ไปทำงานวันแรก ขนาดลูกค้าไม่ได้เยอะมาก แต่ก็เหนื่อยมากกกกกก ชนิดที่ว่า ไม่เคยทำงานหนักเช่นนี้มาก่อนในชีวิตเลย ให้ตายเหอะ ปวดหลังมากกกกก

เวลาร้านปิด บางวัน 3 ทุ่มครึ่ง บางวัน 4 ทุ่ม ไม่ใช่ว่าพอร้านปิดแล้วจะกลับบ้านได้เลยนะคะ

นี่เลยค่ะ ต้องเคลียร์ทุกอย่างในครัว เช็ดโต๊ะ กวาดพื้น ถูพื้น ล้างห้องน้ำ (อันนี้ไม่ทำเด็ดขาดดดดดดค่ะ ขยะแขยงค่ะ + ไม่เคยล้างห้องน้ำแบบแห้ง) พี่สาวแหละค่ะ เป็นคนทำ

คนเสริฟ ก็ไม่ใช่จะสบายนะคะ ก่อนทำงานต้องจัดโต๊ะอาหาร เช็คความเรียบร้อยภายในร้าน

ยืนทั้งวัน เวลาว่าง ก็ต้องเอาช้อน มีด มาห่อเตรียมไว้

ลูกค้าทานอาหารเสร็จ ก็ต้อง เก็บจาน เช็ดโต๊ะ พอเวลาร้านอาหารปิด ก็ต้องทำความสะอาดด้านหน้าร้าน กวาด ดุดฝุ่น ถูพื้น เหมือนในครัวนั่นแหละค่ะ

เห็นมั้ยคะ ระหว่างวันก็เหนื่อยอยู่แล้ว ยิ่งเวลาเลิกงานนี่ต้องมาเคลียร์ร้านอีก ฮุ้หู จขบ. อยากจะร้องว่า "หนูอยากกลับบ้านนนนนนน" ทีเดียวเลยค่ะ

ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ช่วง slow ร้านอาหารมีแต่ลดคนทำงานค่ะ เพราะฉะนั้นอะไรช่วยกันได้ ก็ต้องทำ

จขบ. เรียกได้ว่า ประสบการณ์ดีค่ะ ไปไม่เท่าไหร่ ได้ทำเกือบครบทุกตำแหน่ง เว้น ตำแหน่ง App กะ แม่ครัว ค่ะ ที่ไม่สามารถ

เรียกได้ว่า ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงมากกกกก ยิ่งไปเจอ แม่ครัว หรือเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ไม่ดีด้วยแล้ว นรกค่ะ นรกชัด ๆ

ถ้าใครมีความอดทนก็จะอยู่รอดค่ะ เพราะว่าต้องใช้เวลาปรับร่างกายซักพัก ถึงจะเคยกับงานหนัก

ถึงได้บอกไงล่ะค่ะ ว่าถ้าเป็นคุณหนูอยู่เมืองไทย หรือไม่ถึงขั้นคุณหนูก็เถอะ เพียงแต่ อยู่ที่เมืองไทย ไม่เคยเล้ยยยยที่จะทำงานบ้าน หรือ ไม่เคยเล้ยยยยย ที่จะต้องทำงานใช้แรงงานแบบนี้ อย่าริ ค่ะ อย่าริ

ลำบากลำบนเปล่า ๆ ถึงแม้ว่าเงินจะดีกว่า แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราต้องเจอแล้ว มันคุ้มรึเปล่า ต้องชั่งใจกันเยอะ ๆ ค่ะ

ยิ่งประเภทที่ไปแล้ว ยอมเป็นโรบินฮุด คุณก็ต้องอยู่อย่างเงียบ ๆ จะไปมีปากมีเสียงกะใครไม่ได้ เดวนังคนนั้น จะได้แจ้ง ICE หรืออิมมิเกรชั่น มาจับเอานะคะ ไม่ใช่ใครหรอกค่ะที่ทำ ส่วนใหญ่คนไทยด้วยกันเองนี่แหละ

ที่เขียนแบบนี้ ไม่ได้ซ้ำเติมใครนะคะ แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่อยากไปทำงานเมืองนอก ทั้ง ๆ ที่งานการที่เมืองไทย ก็พอมีพอกิน เข้าที่เข้าทางอยู่แล้วนะค่ะ

สำหรับคนที่ไม่มีทางเลือก ก็จำเป็นจะต้องทำ อันนี้ จขบ. ก็เข้าใจค่ะ แต่อย่าลืมประเมินตัวเองด้วย อย่างที่บอกไปข้างต้นนะจ๊ะ ต้องอึดและอดทนเท่านั้นถึงจะอยู่รอด

จขบ. ประเมินตัวเองดูแล้ว ถ้าไม่มีพี่สาวอยู่ที่นั่น รับรองในชีวิตนี้ไม่ทำแบบนี้อีกแน่นอนค่ะ

เคยคิดนะคะ ว่าถ้าไปเรียนต่อ แล้วต้องทำงานหนักเช่นนี้ ต้องขอกำลังใจอย่างแรง อิ อิ จะขอหนีบเอามามี๊ไปด้วย จนกว่าจะปรับตัวได้น่ะค่ะ ไม่งั้น จขบ. ต้องร้องไห้กลับบ้านอย่างแน่นอน

เป็นประเภทความอดทนต่ำมาก ค่ะ สบายจนเคยตัว


Create Date : 21 มีนาคม 2552
Last Update : 21 มีนาคม 2552 18:32:26 น. 3 comments
Counter : 536 Pageviews.

 
แต่พอได้ค่าแรงกับทิปแล้วมันหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยน้า


โดย: มันจะดีเหรอคะ วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:6:14:40 น.  

 
ถ้าเป็นงั้นก็คงจะหายเหนื่อยไม่น้อย แต่ช่วงที่ไปทำ เป็นช่วงหิมะตกหนักค่ะ สโลเชียว


โดย: moomi55 วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:9:10:39 น.  

 
แต่ก็อยากไปทำงานที่เมื่องนอก
หาเงินเก็บ ตกงานค่ะ


โดย: แหม่มมมมม IP: 111.84.30.225 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:0:53:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

moomi55
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใครจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีความสุขไปกับทุก ๆ วัน เครียดได้ อะไรได้ แต่อย่าปล่อยให้มันกัดกินหัวใจนานนะคะ

บล็อคนี้ บางเรื่องอาจหาสาระไม่ได้ ก็ข้ามไปได้ ไม่ว่ากัน
ถ้าถูกใจทิ้งเม้นท์ไว้ให้ชื่นใจก็ดีนะคะ





นาฬิกา ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี A cheerful heart is a good medicine
Friends' blogs
[Add moomi55's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.