==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
"คำถามจริง" ที่โดนถามในการสัมภาษณ์ ข้อเขียน บ.ในวงการฯ เพื่อนๆจำเอามาแบ่ง update 17/4/12 (part 7)

ตอนแรก == > คำถามจริงในการสอบสัมภาษณ์ภาคแรก

ตอนที่สอง == > คำถามจริงในการสอบสัมภาษณ์ภาคที่สอง

ตอนที่สาม == > คำถามจริงในการสอบสัมภาษณ์ภาคที่สาม

ตอนที่สี่ == > คำถามจริงในการสอบสัมภาษณ์ภาคที่สี่

ตอนที่ห้า == > คำถามจริงในการสอบสัมภาษณ์ภาคที่ห้า

ตอนที่หก == > คำถามจริงในการสอบสัมภาษณ์ภาคที่หก

สอบข้อเขียนของ Chevron wireline operator, เดือนมีนา 2012

คำศัพท์จากหน้าเวปของ chevron อย่างเช่นพวก reservior caprock อะไรประมาณนั้น แล้วก็จะภาพทดสอบเชาว์ให้ดูภาพ ประมาณว่าภาพไหนแตกต่างจากภาพอื่นหรือภาพต่อจากภาพนี้จะเป็นภาพไหน (ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกข้อสอบแบบนี้ว่าอะไร ) อันนี้เยอะหลายข้อมาก ถ้าจำไม่ผิด 30-40 ข้อ แล้วก็ออกพวกเรื่องเกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมัน ว่าได้อะไรออกมา

ตรีโกณ กลศาสตร์เรื่องรอก เลขก็ออกพื้นๆ 1-10 บวกกันได้เท่าไหร่ 2 ยกกำลัง 10 ได้เท่าไหร่ OPEC ย่อมาจากอะไร น้ำมัน e20 e85 คือยังไง เน้นความรู้ทั่วไป(ทางช่าง)
มีข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะครับ ประมาณ 15-20 ข้อซึ่งจะถามเกี่ยวกับปิโตรเลียม

ส่วน TEPPI พาร์ท Listening คิดว่าน่าจะพอๆหรือง่ายกว่าโทอิค แต่พอเอาเข้าจริงผมคิดว่ายากกว่า(ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) เนื่องจากเสียงที่ออกจากลำโพงไม่ดีเท่าไหร่

- 20ข้อแรกเป็นภาพ แต่ภาพที่เอามาไม่ชัด บางรูปแตกเหมือนโดนขยายใหญ่ ดูไม่ค่อยจะออกว่าคนในรูปทำอะไรอิริยาบทไหน ต่างกับโทอิคที่รูปจะชัดเจนดี
- คำศัพท์และบทความสนทนา จะเน้นไปทางการทำงานในไซต์(ซึ่งก็สมควรแล้ว) จะมีศัพท์ที่ไม่ค่อยได้ยินเยอะ
- ข้อนี้สำคัญคือบทสนทนาจะพูดกันเร็วมาก การเว้นจังหวะระหว่างข้อเพื่อให้ฝนคำตอบก็น้อยมาก ยังฝนไม่ทันเสร็จก็ไปข้อใหม่ซะแล้ว

Part Reading ก็พอๆกับโทอิคครับ พาร์ทที่เป็น ไวยยากรณ์จะง่ายกว่าโทอิค ในส่วนของบทความ จะมีบทความที่ที่เกี่ยวกับวงการปิโตรเลี่ยม ทั้งบทความ เมมโม ชาร์ท ง่ายบ้างยากบ้าง มีทั้งสั้นและยาว (อ่านกันเบื่อเลยที่เดียวศัพท์แปลกๆเยอะ)

ข้างล่างนี้เป็นของเพื่อนอีกคนหนึ่ง มีคำตอบให้ด้วย แต่บอกก่อนนะครับว่า ผมไม่รับรองว่าเพื่อนคนนี้ตอบได้ถูก ดูเอาไว้เป็นแนวๆก็พอ แต่ที่ผมไม่ตัดคำตอบออกเพราะว่าซึ้งในความตั้งใจดีที่เขาเอามาแบ่งปันกัน

- trap คือ อะไร ตอบ แทรป (อังกฤษ: Trap) คือโครงสร้างทางธรณีวิทยา (structural geology) หรือลักษณะทางการลำดับชั้นหิน (stratigraphy) ที่สามารถกักหรือกั้นไฮโดรคาบอนไว้ได้
- หินกักเก็บ (reservoir) ทำหน้าที่บรรจุเอาไฮโดรคาร์บอนไว้ และมีชั้นหินที่ทำหน้าที่กั้นไม่ให้ปิโตรเลียมเคลื่อนที่ผ่านไปหรือออกไปจากชั้นหินกักเก็บ
-ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาติไหนเป็นสมาชิก โอเป็ก ผมตอบ บรูไน
-ปิโตเลียม มาจากภาษาอะไร ตอบ ปิโตรเลียม (ละติน: petroleum,
-ภาษากรีก petra (หิน) กับภาษาละติน oleum (น้ำมัน) รวมหมายถึง "น้ำมันที่ได้จากหิน") หรือเรียกว่า น้ำมันดิบ
-ปิโตรเลียม ประกอบด้วยสารผสมซับซ้อน ระหว่างไฮโดรคาร์บอน
- การขุดเจาะน้ำมันเป็นวิธีการส่วนใหญ่ในการได้มาซึ่งปิโตรเลียม ซึ่งเป็นขั้นตอนหลังการศึกษาโครงสร้างธรณีวิทยา การวิเคราะห์แอ่งตะกอน และลักษณะหินกักเก็บปิโตรเลียม
-ปิโตรเลียมมีธาตุองค์ประกอบหลัก 2 ชนิด คือ คาร์บอนและไฮโดรเจน และอาจมีธาตุอโลหะชนิดอื่นปนอยู่ด้วย เช่น กำมะถัน ออกซิเจน และไนโตรเจน ทั้งนี้ปิโตรเลียมเป็นได้ทั้ง 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส โดยจะขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบของปิโตรเลียม รวมถึงความร้อนและความดันของสภาพแวดล้อมในการเกิดและ
-การกักเก็บปิโตรเลียม แบ่งตามสถานะได้เป็นสองชนิดหลัก คือ น้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติ โดยแก๊สธรรมชาตินั้น ประกอบด้วยคาร์บอนตั้งแต่ 1-4 อะตอม
-ปริมาณสำรองน้ำมัน ประเทศอะไรมีมากที่สุด
-การขุดเจาะทางปิโตรเลียมจะพบ สิ่งใดก่อน
-ปิโตรเลียมเกิดจาก ตอบ การซากสิ่งมีชิวิตทบถมกันในอดีต
-การตัดสินถึงความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐกิจ อยู่ในขั้นตอนไหนของการเจาะสำรวจ

--การสำรวจปิโตเลียมมีขั้นตอนอะไรบ้าง

ตอบ การสำรวจปิโตรเลียมทำได้หลายวิธี และมีขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้

1. การสำรวจทางธรณีวิทยา(Geology) โดยทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ สำรวจทางธรณีวิทยาพื้นผิว โดยการเก็บตัวอย่างหิน ศึกษาลักษณะของหิน วิเคราะห์ซากพืชซากสัตว์ที่อยู่ในหิน ผลการศึกษาช่วยให้คาดคะคะเนได้ว่ามีโอกาสพบโครงสร้างและชนิดของหินที่เอื้ออำนวยต่อการกักเก็บปิโตรเลียมในบริเวณนั้นมากหรือน้อยเพียงใด

2. การสำรวจทางธรณีฟิสิกส์(Geophysics)
การวัดความเข้มสนามแม่เหล็กโลก จะบอกให้ทราบถึงขอบเขต ความหนา ความกว้างใหญ่ของแอ่ง และความลึกของชั้นหิน การวัดค่าความโน้มถ่วงของโลก ทำให้ทราบถึงชนิดของชั้นหินใต้ผิวโลกในระดับต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยในการกำหนดขอบเขตและรูปร่างของแอ่งใต้ผิวดิน การวัดค่าความไหวสะเทือน (Seismic wave) จะช่วยบอกให้ทราบตำแหน่ง รูปร่างลักษณะ และโครงสร้างของหินใต้ดิน โครงสร้างของชั้นหินใต้ดินที่ได้จากการสำรวจทางธรณีฟิสิกส์

3. การเจาะสำรวจ จะบอกให้ทราบถึงความยากง่ายของการขุดเจาะเพื่อนำปิโตรเลียมมาใช้ และบอกให้ทราบว่าสิ่งที่กักเก็บอยู่เป็นแก๊สธรรมชาติหรือน้ำมันดิบ และมีปริมาณมากน้อยเพียงใด ข้อมูลในการเจาะ สำรวจจะนำมาใช้ในการตัดสินถึงความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐกิจ เมื่อเจาะสำรวจพบปิโตรเลียมในรูปแก๊สธรรมชาติหรือน้ำมันดิบแล้ว ถ้าหลุมใดมีความดันภายในสูง ปิโตรเลียมจะถูกดันให้ไหลขึ้นมาเอง แต่ถ้าหลุมใดมีความดันภายในต่ำ จะต้องเพิ่มแรงดันจากภายนอกโดยการอัดแก๊สบางชนิดลงไป เช่น แก๊สธรรมชาติ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

- การเจาะสำรวจจะพบ สิ่งใดก่อนหลัง ก๊าซ น้ำมันดิบ หรือ น้ำ
- สูตร โมเลกุลของ มีเทน ตอบ CH4
- แก๊ซที่เกิดจากควันเสียของ รถยนต์ ที่ทำให้เกิดอาการมึน คือ คาร์บอนมอนอกไซด์
- ก๊าซอะไรเบากว่าอากาศ ตอบ NGV
- หน่วยความความร้อน ตอบ BTU
- ทวีปไหนผลิตน้ำมันได้มากที่สุด ผมตอบ ตะวันออกกลาง

ข้างล่างนี้ก็มาจากเพื่อนอีกคนหนึ่ง ... (ผมดีใจมากๆที่มีเพื่อนๆน้องๆที่มีใจดีแบ่งปันกัน - พี่นก)

psi (pound-force per square inch) เป็นหน่วยวัดความดันนี่แหละครับ
psia (pounds-force per square inch absolute) เป็นความดันสัมบูรณ์ครับ คือ ความดันเกจบวกกับความดันบรรยากาศรอบบริเวณนั้น ความดันบรรยากาศมีค่าเท่ากับ 14.7 psi
psig (pounds-force per square inch guage) - ความดันเกจ วัดความดันเทียบกับความดันบรรยากาศที่ระดับน้ำทะเล โดยเกจวัดความดันมักปรับค่าเป็น 0 psi
ดังนั้น 14.7 psia = 0 psig = 29.92 in Hg รู้สึกว่าถามอยู่ประมาณ 2-3 ข้อ นะครับ

นี่ก็อีกคน

นึกข้อ Mathematics ได้ ถามว่ามีคนทำงาน mec+ elec =20 คน และก็ทำ elec + other ไม่ทำ mec = 17 คน และทำ mec+ other ไม่ทำ elec = 15 คน ถาม ที่ไม่ได้ทำงาน mec และ elec กี่คน ตามสมการเลยครับ 3 สมการ 3 ตัวแปร แก้สมการ other = 6

-ความน่าจะเป็น รับคน 2 คน จาก 5 คนมีกี่วิธี (5-2)! = 3! = 3*2*1 = 6 วิธี

- เลี้ยวโค้งรถ3คันคันนอกเร้วสุดเพราะระยะทางมากสุด

และนี่ก็อีกคน

ที่นึกออก ฟิสิกส์ก็จะมีเรื่องเขื่อน อีก 2 ข้อ ถามว่าสันเขื่อนส่วนไหนรับแรงดันน้ำมากสุด(มั้ง) แล้วก็ควรออกแบบสันเขื่อนยังไง

ระฆังโบสสูง10เมตรทอดเงาไปทางทิศตะวันตก14 เมตร
หากเจเดีย์โบสทอดเงาทางทิศตะวันตกไป16เมตรเจดีสูงกี่เมตร
(ตัวเลขสมมติ)


(ผมว่าใครอ่านเจอตรงนี้ก่อนสอบงวดหน้าก็สบายไปเลยครับ ถึงเปลี่ยนข้อสอบแต่แนวๆไม่หนีนี้แน่ๆ ... ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนอีกหนหนึ่งตรงนี้เลย - พี่นก ...)

===========================

Horizon field engineer ของ Chevron ราวๆมีนา 2012

ไปสัมภาษณ์ที่โรงแรม สวิส โฮเทล รอบแรก ตำแหน่ง Horizon FE ในห้องสัมภาษณ์ ผมคาดว่าน่าจะเป็นพี่วิศวกรสองคน

1. เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวครับ เป็นภาษาไทย

2. ดูจากเรซูเม่ แล้วถามว่า เราเรียน Major ไหน Minor ไหน ผมเรียน Minor ในด้าน energy management ครับ เลยโดนถามว่าเรียนเกี่ยวกับอะไร Refrigeration cycle รู้จักมั้ย คืออะไร อุปกรณ์แต่ละตัวเอาไว้ทำอะไร มีหน้าที่ยังไง กราฟ TS diagram เป็นยังไง ทำไมเส้นนี้เป็นเส้นตรง ถามละเอียดมากครับ เน้นคอนเซปต์ , การถ่ายเทความร้อนมีกี่แบบ อันนี้ให้บอกสูตรเลย conduction convection radiation

3.พี่เค้าให้เราบอกเรื่องที่เราเจ๋ง มั่นใจ ไปหนึ่งเรื่อง ผมเลือก rankine cycle ครับเพราะมันคล้ายกับโปรเจคผม เลยโดนถามว่า มันคืออะไรไหนลองอธิบายให้ฟังหน่อย เป็นภาษาอังกฤษหมด แล้วก็เหมือนข้อสอง คือให้อธิบายหลักการทำงาน และจุดประสงค์ของอุปกรณ์แต่ละตัวใน cycle นี้ และ การเพิ่มประสิทธิภาพทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง Output คือส่วนไหนใน TS diagram ตรงไหนคือ Input

4.หลังจากหมดส่วนของ technical พี่เค้าก็ถามว่าเราชอบงานแบบไหน Design หรือ ลุยๆ แบบ ไปนั่งขัดเครื่องจักร หลังจากผมตอบว่าชอบงาน design ไป พี่เค้าก็ถามต่อว่า แล้วน้องเคย design อะไรมาบ้าง

หมดแล้วครับ

ในความคิดเห็นของผม การสัมภาษณ์งานของวิศวกรตำแหน่งนี้ เค้าจะเน้นถามในสิ่งที่เราพูดออกมาครับ ถ้าเราเตรียมตัวไปดี พูดในเรื่องที่เรารู้จริง ผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาครับในการผ่านรอบนี้

------------------------------------------

สอบสัมภาษณ์ wireline operator ของ Chevron ราวๆปีที่แล้ว - 2011

wireline opt.ที่เคยสอบ ส่วนใหญ่พูดแต่อังกฤษ เลยทําให้ผมบอกกว่ายาก ^^ ใครเก่งอังกฤษก็คงบอกว่าง่ายแระ

คําถามก็มี แนะนําตัวเองตามสเตป การศึกษา ฝึกงานหรือทํางานที่ไหน พอเราแนะนําตัวไรเสร็จ กรรมการก็จะเริ่มถาม ภาษาอังกฤษล้วนๆ กรรมการก็จะมี5-6คน เป็นซุปคนไทย1คน ซุปฝรั่ง1คน แล้วก็อีก3คน น่าจะเป็นอาจารย์ที่ศูนย์ (ที่รู้เพราะไปถามเพื่อนที่เคยฝึกงานที่เชพรอน) ทั้งหมดนี้เป็นภาษาอังกฤษ...เริ่มถามรู้จัก wireline ไหม wireline toolมีกี่แบบ อธิบาย ,,Slickline รู้จักไหม,, แล้วก็คําถามเกี่ยวกับsafetyที่คุณเคยฝึกงาน ว่าคุณใช้อะไรมั้ง, ส่วนใหญ่ก็ถามในresumeที่เขียนไป ไล่ตั้งแต่การศึกษา ว่าวิชานี้อธิบายได้ไหม วิชา... ไหนลองอธิบายให้กรรมดูหน่อย ,ฝึกงานคุณทําเกี่ยวกับอะไร แล้วแต่ว่ากรรมการเค้าจะถามคุณ(เพราะต่างคนต่างฝึกงานคนละด้าน) แต่เน้นถามแต่ความปลอดภัยนะครับ

พอตอบอังกฤษไม่ค่อยได้ หลังๆก็จะพูดไทย ย้อนกลับไปถามคําถามด้านบน เป็นภาษาไทยแทน บางที่กรรมการก็พูดไทยมาแล้วให้เราตอบเป็นอังกฤษ นี้แระที่บอกว่ายาก

เช่นคุณเรียนในสาขานี้ แล้วทําไมไม่รู้จักwell head, slicklineม ,tool มีกี่แบบ, chistmas tree ล่ะ อะไรกันพึ่งจบมาใหม่ ทําไมถึงลืมแล้ว อาจารย์อะไรสอนคุณ .....ก็ว่าไปโดนกดดัน

พอจบ กรรมการก็จะให้ถามคําถามว่ามีอะไรจะถามไหม ผมถามว่า ประกาศผลวันไหน กรรมการบอกคุณยังจะถามอีก ผมบอกได้เลยว่าคุณไม่ผ่าน มีคําถามกดดันคุณอีกมาก ในที่แห่งนี้แล้วแต่จะโดนหรือไม่ ปล.เขียนไม่ค่อยถูก นึกออกก็พิมๆไป พิมผิดพิดถูกอย่าว่ากันนะ นึกคิดคําตอบให้ดี ก่อนที่จะตอบไปว่ารู้ ไม่งั้นก็จะโดนถาม จนคุณตอบไม่ได้

--------------------------------------------

Wireline helper ของ Chevron

แนวทางการสัมภาษณ์ครับ ผมได้รวบรวมจากที่ผมและเพื่อนๆโดนถามกันมาครับ

เริ่มจากแนะนำตัวเองตามหัวข้อ English only
แนะนำตัวเอง
Education
Experiences
Motivation joint chevron
รู้จักงาน wireline หรือเปล่า(หาข้อมูลมาบ้างก้อดีครับ)
ประสบการณืการทำงานของคุณ(อาจลงถึงรายละเอียดของงานที่คุณทำ)น่าจะเยอะครับหัวข้อนี้ถามไปเรี่อยๆ
ความปลอดภัยในที่ทำงาน
อุปกรณ์พื้นฐานด้านความปลอดภัย
เหตุผลที่อยากเปลี่ยนงาน ทำไม อย่างไร
เมาเรือหรือเปล่า(อันนี้น่าจะแน่นอน อิอิ)

ทุกอย่างที่บอกเป็นประสบการณ์ที่ผมและเพื่อนๆ wireline helper โดนมาครับเลยมาแชร์ให้พี่ๆน้องๆฟังครับ อีกอย่างครับ ทุกคำถาม English only แนะนำให้ฝึกมาเยอะๆครับ(เน้นครับเน้น)เป็นตัวเองให้มากที่สุด ไม่ต้องเกร็งครับ เจอฝรั่งแน่นอน อิอิ

ฟิตร่างกายมาทดสอบพละด้วยเด้อพี่น้อง เอาพอดีที่เราทำได้อย่าให้ตัวเองบาดเจ็บจนมาสอบไม่ได้ล่ะ อิอิ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับพี่ๆน้องๆ นะครับ

================================

สอบสัมภาษณ์ของ field eng ของ SLB และ Group activity

รอบแรกผมสอบสัมภาษณ์ไปวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมากับพี่ Hr

คำถามเท่าที่จำได้ก็ดังนี้นะครับ
1. Field engineer คืออะไร มีอะไรบ้าง ให้อธิบายเท่าที่รู้
2. ถามเกี่ยวกับครอบครัว
3. ถ้าครอบครัวทีธุรกิจที่บ้าน แล้วทำไมไม่ช่วยครอบครัวทำธุรกิจ
4. วิศวกรรมสาขาที่จบมาเหมาะกับงานด้านไหนมากที่สุด

หลังจากนั้นเค้าก็จะอธิบายลักษณะงานเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ถามต่อว่า

5. ไหวมั้ยกับงานนี้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ
6. ถามว่ามีประเทศไหนที่ไม่อยากไปบ้าง
7. ขอหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าคุณสามารถทำงานที่หนักๆได้

นี่คือที่ผมจำได้คร่าวๆนะครับ จากนั้นวันรุ่งขึ้นผมก็ได้รับเมลล์ให้ไปทำ group activity ครับ

มาถึง 8 โมงเช้าก็ให้ลงทำเบียนครับ จากนั้นพี่ HR คนนั้นก็จะ brief เกี่ยวกับบริษัทชลัมเบอเจครับ อ้อลืมบอกรอบนี้มี field specialist ด้วยครับรวมๆแล้วก็ประมาณ 35 คน

หลังจากนั้นก็จะเป็นการออกไปพูด 3 นาทีของแต่ล่ะคนครับโดยต้องครอบคลุม

1. Self-introduction
2. Strengths and weakness อย่างล่ะ 3 ข้อ
3. Why do you want to become SLB Field Engineer?

จากนั้นก็เป็น highlight ครับ group activity

โจทย์คราวนี้เป็น สร้างตึกให้รองรับลูกกอล์ฟ 5 ลูก โดยต้องมีความสูงอย่างต่ำ 100 cm

โดยมีอุปกรณ์ที่เค้าให้มาคือหนังสือพิมพ์
นอกนั้นจะเป็น optional equipments ครับ ซึ่งแต่ล่ะกลุ่มเลือกได้แค่ 2 อย่างครับก็มี โดยแต่ล่ะกลุ่มเลือกซ้ำกันได้นะครับ

1.กรรไกร 2. เทปใส 3. หนังสือพิมพ์แบบแข็ง 1 คู่ใหญ่ 4. ลูกโป่ง 5 ลูก 6.เชือก 7. แม็กเย็บกระดาษ ไส้ไม่อั้น

พอทำเสร็จเค้าก็จะเรียนทีล่ะกลุ่มมาตอบคำถามครับเกี่ยวกับโมเดลที่สร้าง

คำถามก็มี(เท่าที่จำได้)
1. จะปรับปรุงโมเดลให้ดีขึ้นยังไง อย่างไร
2. มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง
3. ใครเป้นคนออกแบบ แต่ล่ะคนมีหน้าที่อะไรบ้าง

จากนั้นก็ประกาศราบชื่อคนผ่านเข้ารอบ เพื่อไปสัมภาษณ์กับ manager ในตอนบ่ายวันนั้นเลยครับ

ผมสังเกตดูคนทีผ่านเข้ารอบกลุ่มผมคือคนที่ตอบคำถามช่วง presentation เยอะๆครับ พวกที่ตอบน้อยกว่าก็ตกรอบกันไป
----------------------------
pttep services

สวัสดีครับทุกๆท่าน
ผมพึ่งได้ไปมาวันนี้เองครับ ก็เลยอยากเอาประสบการณ์มาแชร์กัน
ก่อนอื่นเลยผมขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้รับการพิจารณานะครับ -*-
จึงรู้มาแค่ช่วง pre-scanning เท่านั้น ดังนั้นผิดพลาดประการใดขออภัยอย่างแรงครับ

มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ คือก่อนผมจะไปผมได้พยายามโทรไปสอบถามหลายครั้งมาก
แต่ก็ไม่มีคนรับสายครับ ผมเลยตัดสินใจไปซะเลยดีกว่า
พอมาถึงโรงแรม ก็เจอกับคนมาสมัครงานมากมาย สถานที่สมัครอยู่ชั้น 2
พอขึ้นไปถึงจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับบัตรคิว เจ้าหน้าที่จะบอกรอบเวลาที่เค้าจะเรียกเข้าไป

ห้องแรกคือ ห้อง pre-scanning resume ซึ่งเค้าจะปล่อยคนเข้าไปเป็นรอบๆ (แนะนำว่าจดไว้ก็ดีครับเพราะตอนผมไปก็นั่งรอเกือบ2ชั่วโมงกว่าจะถึงรอบตัวเอง)
พอผมได้เข้าห้องแรก ก็เข้าไปยืนต่อแถวที่ยาวมากๆ (เหมือนกับรอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอะไรประมาณนั้น)แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่ของ ปตท นั่งอยู่ 3 คนที่โต๊ะคอยประทับตรา เอ้ย คอยตรวจ resume ของผู้สมัคร กับสอบถามนิดหน่อยจาก resume นั้นแหละ พวกเรื่อง ประวัติ, การศึกษา, อยากทำตำแหน่งอะไร ฯลฯ ถามกันคนละประมาณ 2-3 นาทีเองครับ คนที่ผ่านก็จะได้ใบสมัครงานให้ไปเขียนและส่งเอกสารอื่นๆที่เตรียมมาในห้องถัดไป
ส่วนคนที่ไม่ผ่านก็เดินออกทางเดิมที่เข้ามานั้นแหละครับ

ส่วนเหตุผลที่ผมไม่ผ่านก็คือ ผมเป็นเด็กจบใหม่ ป.ตรี engineer จากเมืองนอก ทำให้ไม่มีประสบการณ์หรือแม้กระทั้งฝึกงานที่ไดมาก่อน (ไม่มีประสบการณ์เค้ายังพอรับนะครับ)
แต่เค้าบอกว่างานนี้ไม่รับ วุติ ป.ตรี engineer ที่จบใหม่ แต่รับ ปวช ปวส หรือ ผู้ที่มีประสบการณ์มานานเท่านั้น งานนี้จะออกไปแนวๆ ช่างเทคนิก หรือ operator ซะมากกว่าแนว engineer(จากที่คุยมา ถ้าสมัครงานในฐานะ engineer เค้าจะไม่รับครับ แต่ถ้าวุติ ป.ตรีขึ้นไปที่ไม่ใช่ engineer เค้าจะรับไม ผมไม่ทราบครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยครับ) แต่เค้าก็แนะนำผมว่าให้ไปสมัครใน program ADP ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะเปิดรับเด็กจบใหม่เข้าทำงานทุกๆปีของ ปตท ครับ ซึ่งเค้าก็เก็บ resume ผมไปแล้วก็บอกว่าเค้าจะยื่นให้ถ้าโปรแกรมนี้เปิดแล้ว ซึ่งก็บอกว่าให้ผมส่งใบสมัครมาซ้ำอีกทีด้วย (เห็นบอกว่าจะเปิดหลังเดือนกรกฎาคม)

คราวนี้มาถึงคนที่ผ่าน pre-scanning แล้วเข้าไปห้องถัดไปนะครับ (ผมไปถามคนที่ผ่านมา) เค้าบอกว่าให้กรอกใบสมัครกับยื่นเอกสาร แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะนัดวันให้ไปสอบข้อเขียนที่ Adecco!! ในกรุงเทพ
แล้วถ้าผ่านก็จะมีการนัดสัมภาษณ์งานตัวต่อตัวอีกทีครับ และแล้วก็เป็นอันจบพิธีแยกย้ายกันกลับบ้านครับ

=============================

Field engineer ของ SLB - group activity ต้นเดือนเมษายน 2012

-Candidate ทั้งหมด 30คน; 20 field eng. , 10 field specialists.(FS) (คัดเหลืออย่างละประมาณอย่างละครึ่งนึง; สำหรับ FE; 4D&M, 3Wireline, 2Well Services)
-เริ่มจากการลงทะเบียน 8.00 am.
-ติดป้ายชื่อหน้าหลัง
-Company Presentation
-แบ่งกลุ่ม(FE 3กลุ่ม FS 2กลุ่ม) และ อธิบายgroup assignment

ให้สร้างตึกสูงอย่างน้อย 1เมตร และ รับน้ำหนักลูกกอล์ฟอย่างน้อย 5 ลูกได้ โดยให้กระดาษหนังสือพิมพ์ 1 ฉบับ ประมาณ 6-7 แผ่น และ ให้เลือก optional tools อีก2อย่าง จาก สก็อตเทป, แม็ก, คลิปหนีบกระดาษ, ลูกโป่ง, หนังสือพิมพ์ 1 แผ่น ) ให้เวลาคิด + วาดแบบ 10นาที หลังจากนั้นจะเก็บแบบ และ ให้เริ่มทำให้เสร็จภายใน 20นาที.

-ระหว่างทำให้ใช้ English ในการสื่อสาร และ committee จะเดินว่อนเพื่อให้คะแนนแต่ละคน
-Present ทีละกลุ่ม
-เมื่อ presentครบ จะเรียกรวม + ประกาศผลทันที

=====================================

ตำแหน่ง Horizon Facilities Engineer (Mechanical Background) ของ Chevron มาเมื่อปลายเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2555

ก่อนสัมภาษณ์ทาง HR จะโทรมาแจ้งวันและแจ้งให้ทราบว่าเนื้อหาการสัมภาษณ์จะเกี่ยวกับความรู้เชิงเทคนิคทั่วไปของวิศวกรรมเครื่องกล วิชาที่ผมอ่านเตรียมไปก็มีวิชา Fluid Dynamic, Heat Transfer, Thermodynamics และ Mechanic of Material นอกจากนั้นก็ทบทวน Senior Project กับ Project ที่ทำตอนฝึกงานกับทางเชฟรอนไปด้วย

เข้าไปในห้องสัมภาษณ์จะมีกรรมการทั้งหมด 3 คน บรรยากาศการสัมภาษณ์เป็นกันเองมากครับ เริ่มต้นโดยการให้แนะนำตัวเองเป็นภาษาไทย ผมก็แนะนำ ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น สาขาและสถาบันที่เรียนอยู่ กิจกรรมและก็หน้าที่ต่างที่ได้รับผิดชอบตั้งแต่ ปี1 - ปี4 การฝึกงานและสุดท้ายก็ Senior Project ครับ

จากนั้นพี่เค้าก็ให้เขียนกระดานไวท์บอร์ดอธิบายเกี่ยวกับ Senior Project ครับ แล้วก็ถามถึงรายละเอียดต่างๆ ของโปรเจคเช่น เราวัดค่านี้ไปทำอะไร, ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆในโปรเจค และวัตถุประสงค์หลักของโปรเจค โดยรวมแล้วน่าจะเป็นการเช็คว่าเรามีความเข้าใจในตัวโปรเจคของเรามากน้อยแค่ไหน

ต่อจากนั้นก็ให้สรุปโปรเจคที่ทำกับเชฟรอนตอนฝึกงานเป็นภาษาอังกฤษ

จากนั้นพี่เค้าก็ให้อธิบายการทำงานของเครื่องทำน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดในโปรเจคที่ทำกับเชฟรอน ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องนี้ แล้วเราจะซ่อมตรงไหน เพราะอะไร

คำถามต่อมาเกี่ยวกับ Brayton Cycle หรือ Gas-Turbine Cycle (เด็กเครื่องกลน่าจะรู้จักดี) พี่เค้าให้วาด Schematic Diagram และ T-S Diagram ของ Brayton Cycle พร้อมอธิบายรูปให้ฟังไปด้วย อธิบายเสร็จพี่ก็ถามว่า ทำไมเราถึงต้องใช้ Compressor ใน Cycle นี้, ถ้าอากาศขาเข้าร้อนขึ้นจะมีผลยังไง แล้วพี่ก็บอกว่า งั้นให้น้องคิดวิธีการ Improve Efficiency ของ Cycle นี้มา 3 วิธี

คำถามชุดต่อไปจะเกี่ยวกับพื้นฐาน Piping เริ่มต้นที่ พี่เค้าจะวาดข้อต่อท่อมา 2 แบบ แล้วถามว่าต่อแบบไหนแข็งแรงกว่ากัน เพราะอะไร คำถามที่สอง ท่อใหญ่ กับท่อเล็ก วางบน Support ห่างเท่ากัน ท่อไหนจะงอง่ายกว่ากัน เพราะอะไร

แล้วพี่เค้าก็ย้อนกลับมาถามเกี่ยวกับโปรเจคฝึกงานที่ยังค้างคากันอยู่ครับ แต่คราวนี้ผมงัดไม้ตายขึ้นมาใช้ครับ บอกตรงๆเลยว่า ผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้วครับ แต่ผมปริ้นท์สไลด์ที่ใช้พรีเซ้นต์ตอนนั้นมา ขอเอาขึ้นมาให้ดูได้มั้ยครับ ทางพี่ๆเค้าก็โอเคเลยครับ ให้ผมเอาขึ้นมาเลย ผมก็เปิดสไลด์อธิบายให้พี่เค้าฟัง แล้วก็ส่งให้พี่ๆเอาไปอ่าน (รู้งี้ขอเปิดโพยแต่แรกก็ดี 555)

ช่วงสุดท้ายก็เป็นการให้ถามคำถามกลับครับ พี่เค้าก็ได้ถามด้วยว่าตอนที่ผมมาฝึกงานรู้มั้ยว่าหน้าที่หลักๆ ของพี่เลี้ยงของเราคืออะไร อยากกลับไปทำงานในแผนกที่เคยฝึกงานมั้ย แล้วถ้าเลือกได้อยากทำงานแบบไหน

จากการไปสัมภาษณ์รอบนี้บทเรียนที่ได้ก็คือ

1. ถ้าเราเคยทำโปรเจคอะไรมาไม่ว่าจะ Senior Project หรือ โปรเจคฝึกงาน ต้องรู้ให้ลึกรู้ให้จริงครับ ถ้ามีเอกสารที่เกี่ยวข้องก็ควรจะเอาติดไปด้วยเผื่อเราขาดตกบกพร่องตรงไหนจะได้หยิบขึ้นมาเป็น Backup ได้ครับ
2. เนื้อหาวิชาต่างๆที่เรียนมานอกจากเข้าใจหลักการเบื้องต้นแล้ว ยังต้องสามารถนำมาประยุกต์ร่วมกันใช้เพื่ออธิบายสถานการณ์ต่างๆให้ได้ด้วยครับ

หลังจากสัมภาษณ์ประมาณ 1 สัปดาห์ทาง HR ก็โทรมาบอกว่าได้ผ่านไปสัมภาษณ์รอบ 2 ครับ

สัมภาษณ์รอบ 2 ช่วงปลายเดือน มีนาคม 2555 ครับ

รอบที่สองนี้การสัมภาษณ์จะมีกรรมการทั้งหมดสามคน เป็นระดับ Management ทั้งหมดครับ โดยมีกรรมการเป็นคนไทยเพียงคนเดียว เพราะฉะนั้นไม่มี option เปลี่ยนภาษาให้เลือกครับ อังกฤษล้วนเลย

เริ่มการสัมภาษณ์กรรมการจะบอกให้แนะนำตัวเรา, โปรเจคที่ได้มาฝึกงานที่เชฟรอน และ Senior Project ครับ จากนั้นกรรมการก็จะเริ่มถามคำถามเกี่ยวกับโปรเจคที่เราได้บอกไปครับ โดยของผมคำถามเกี่ยวกับโปรเจคจะแบ่งเป็นสามช่วง ก็คือ โปรเจคตอนฝึกงาน 2 + Senior Project 1 ครับ

สำหรับโปรเจคแรกที่ทำเป็นโปรเจคเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบปรับอากาศครับซึ่งคำถามเท่าที่พอจำได้ก็มี
- ระบบปรับอากาศที่เข้าไปทำมีปัญหาอะไร ทำไมถึงต้องมีการปรับปรุง (ถาม objective ของ โปรเจคนั่นเอง)
- รับหน้าที่อะไรในโปรเจคนี้ ทำงานร่วมกับใครบ้าง
- เราได้ทำการคำนวณของเราเองมาเทียบกับทาง Supplier หรือเปล่า ซึ่งตรงนี้ผมไม่ได้ทำครับ ก็เลยเจอคำถามต่อมาว่า
- แล้วทำไมไม่ทำ
- ทำไม Supplier ถึงคำนวณได้
- เแล้วเราจะเชื่อถือโปรแกรมที่ Supplier ใช้คำนวณได้ยังไง
- ให้เราอธิบาย วิธีการแก้ปัญหาที่คิดขึ้นมาครับ ซึ่งตอนที่ผมฝึกงานผมไม่ได้อยู่ต่อจนโปรเจคนี้จบ จึงอธิบายแนวคิดคร่าวๆของวิธีการแก้ปัญหามา 2 วิธีครับ
- มีวิธีการยังไงที่จะโน้มน้าวให้ Supplier ทำงานที่มีคุณภาพดีให้เรา

ส่วนที่สองเป็นคำถามเกี่ยวกับโปรเจคฝึกงานเหมือนกันครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลครับ
- ถาม objective เหมือนเดิม
- วิธีการอะไรที่เราใช้ในการประเมินปริมาณการใช้น้ำในแต่ละวัน
- มีการอ้างอิงข้อมูลจากเอกสารใด มาเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้รับจาก Offshore เพื่อเช็คความน่าเชื่อถือหรือไม่
- ให้อธิบาย วิธีการแก้ปัญหา ซึ่งโปรเจคนี้ผมได้ทำจนเกือบจบ ผมก็อธิบายทางเลือกไปทั้งหมด 3 วิธี
- ทางเลือกที่เสนอมานั้นได้มีการประเมินในเชิงเศรษฐศาสตร์รึเปล่า(พวก NPV นะครับ)

ส่วนที่สามเกี่ยวกับ Senior Project
- อธิบายโปรเจค
- Objective อีกละ
- ประโยชน์ที่ได้จากโปรเจค (นอกจากทำให้เรียนจบ 555)
- Challenge ของโปรเจคนี้ ตรงนี้ควรจะเล่าเกี่ยวกับปัญหาต่างๆที่เราพบหรือความยากลำบากในการทำโปรเจคพร้อมกับวิธีการแก้ปัญหาของเราครับ

สุดท้ายก็เป็นคำถามทั่วไปครับ เช่น อยากทำงานในส่วนไหน, คิดว่าอีก 10 ปี คุณจะเป็นยังไง แล้วก็ให้เราถามคำถามกลับครับ

สรุปการสัมภาษณ์รอบที่ 2 นะครับ
การสัมภาษณ์รอบ 2 จะไม่เน้นความรู้วิชาการแล้วครับ แต่กรรมการจะดูวิธีคิด, วิธีการแก้ไขปัญหา และวิธีการทำงาน จากโปรเจคที่เราเคยทำครับ ซึ่งส่วนที่กรรมการจะให้ความสำคัญมากก็คือ เรามีการเช็คความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่เรานำมาใช้กับแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้หรือไม่ และกรรมการนั้นลงรายละเอียดโปรเจคกันทุกเม็ดจริงๆครับ

--------------------------

สัมภาษณ์ฝึกงานที่ ปตทสผ แผนก Maintenance and Inspection (EMI)

ตอนแรกให้แนะนำตัวเองภาษาอังกฤษ ส่วนวิชาการ ให้อธิบายเป็นภาษาไทยครับ

1.ให้อธิบาย TS diagram และก็ถาม แต่ละ state คืออะไร ให้อธิบาย T เท่าไร P เท่าไร ให้ขึ้นกระดาน
2.ถามว่า LMTD คืออะไร
3.Hoop Stress คืออะไร

========================================

FEP - Field exporsure D&M (Drilling and Measurement) SLB ราวๆต้นปี 2012

สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ขอโทษที่มารายงานตัวช้ามากๆๆ เพิ่งเรียนจบจริงๆ บวกกับไปเที่ยวสงกรานต์กับที่บ้านค่ะ :) มาส่งการบ้านเรื่อง Field exposure ค่ะ

ระยะเวลา ทั้งหมด 6 วัน สังกัดแผนก D&M ค่ะ ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันเสาร์นะคะ SLB ก็ส่งตั๋วเครื่องบินมาให้

เดินทางถึงพิษณุโลกประมาณ 10.30 น. แล้วก็เจอพี่คนขับมารอรับที่สนามบิน ไปถึงออฟฟิศ ก็รายงานตัวกับเมเนเจอร์ก่อน ว่าเป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไร คนที่โน่น เค้าก็ไม่ได้ทราบว่าเราจะมาค่ะ แล้วเค้าก็พาไปเปลี่ยนเป็นชุด Coverall นั่งรอสักพักๆ ก็เกือบเที่ยงๆ พอดี ก้นั่งทักทายพี่ที่ออฟฟิศไป ทำความรู้จักค่ะในนั้นก็จะมีทั้ง FE (field engineer) และ FS (field sup) โชคดีที่ช่วงที่ไป FEP เป็นช่วงที่ Rig down (เสร็จงาน ขนของกลับฐาน - พี่นก) กันเรื่อยๆ พี่ๆก็เลยกลับมาที่ออฟฟิศ คนเยอะค่ะ แรกๆ ก็งงๆ ทำไมคนเยอะจัง เพราะคิดว่าชีวิตส่วนมากไป Rig กันหมดค่ะ..

ก็ไปคุยกับพี่ๆ ว่าชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยมั๊ย หนักมั๊ย ต้องทำงานอะไรบ้าง ตอนไป school เป็นอย่างไรบ้าง ก็จะโดนถามกลับว่า ทำไมถึงอยากทำที่นี่ ยินดีต้อนรับสู่ชีวิต(บัดXX) +555 เพราะคิดว่าชีวิตส่วนมากไป Rig กันหมดค่ะ.. เห็นพี่ๆ บางคนเข้ามาทำ training เพื่อโปรโมทไปอีกขั้นนึง กระโดดไปๆ มาๆ วันแรก เรียนรู้เซฟตี้นิดหน่อย ตรงไหนเดินได้ เดินไม่ได้ อะไรต้องระมัดระวัง +ทำความรู้จักพี่ๆ ค่ะ

วันที่ 2 ก็ลงไปดู Shop ที่ซ่อมของ+ดูแลรักษาให้ tool ที่จะใช้ทำงานต่างๆ อยู่ในสภาพที่ดีค่ะ ไฟแรงมาก อยากจะลงไปช่วยทำ ช่วยขัด tool ซ่อม tool แต่ว่ามีกฎของทางชลัมถ้ายังไม่ผ่านการเทรนนิ่งก็ห้ามยกของหนัก จึงได้แต่เดินดู T_T เดินถามไป tool อะไร ใช้ทำอะไร ยังไงค่ะ .. จนเค้าเห้นว่าหนูไม่มีไรทำ เลยสั่งให้ไปหาความแตกต่างของ tool แต่ละชนิดมาtool มีกี่แบบ อะไรบ้าง MWD กับ LWD ต่างกันยังไง ก็ไปหามาค่ะ แล้วมาตอบพี่เค้า ..

วันที่ 3-4 นี่กระโดดไปมาระหว่าง shop กับ surface ค่ะ ห้อง surface เป็นที่จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่บนดินทั้งหมด พวกเซนเซอร์ การแปลข้อมูลจาก tool ที่อยู่ลงไปวัด ระบบน้ำ ไฟ แอร์ รวมถึงตู้คอนเทรนเนอร์ที่ทำงาน พอดี rig down เลยได้ไปตรวจดูตู้คอนเทรนเนอร์ที่เพิ่งกลับมาจาก rig ค่ะ ว่ามีของอะไรบ้างก็เดินตามไปดู.. ตกใจเล็กๆ ตู้ทำงานเล็กมาก เข้าไป 4 คนเต็ม 555 ตอนไปห้อง surface ครั้งแรกก็งงๆ sensor แต่ละตัว อะไร ยังไงเนี่ย ทำไมมันเยอะไปหมด พี่เค้าเลยให้ไปนั่งดู โปรแกรมที่อธิบายว่าแต่ละตัวทำอะไรบ้าง ก็นั่งเรียนรู้ไปค่ะ เค้าบอกว่าไว้ไปดูหน้างานจริงก็จะเห็นว่ามันติดอยู่ แล้วเราเนี่ยแหละที่ต้องไปติดเซนเซอร์เหล่านั้น พอเย็นๆ เมเนเจอร์ก็จะเดินมาถามว่า วันนี้ไปไหนมาบ้าง เรียนไรมาบ้าง เพราะหนูไม่ค่อยได้นั่งออฟฟิศเลย เพราะมันไม่มีไรทำ ก็เลยลงไปเรียน

วันที่ 5 พอ Rig Down ก็เป็นช่วงงานเข้าของหนูด้วย เพราะไม่มี Rig ให้ไปดู ต้องรอถึงวันศุกร์ มีริกเพิ่งเริ่มพอดี นั่นคือ xxx ตอนแรก เมเนเจอร์บอกว่าให้ไป 8 โมง แล้วกลับ 4 โมง..ค้างไม่ได้ เพราะไม่มีที่นอนสำหรับหนูค่ะ ก็ไปถึงที่โน่นประมาณ 9 โมงค่ะ มีพี่คนขับรถมารับ พอไปถึงโอ้วว ชั้นอยู่ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี ริกมันดูใหญ่และสูงมาก ไม่เห็นเหมือนในรูปเลย.. ก็ไปทำความรู้จักกับพี่ที่อยู่ที่แท่นค่ะ แล้วก็ DD ด้วย ห้องเต็มมากค่ะ อัดกันอยู่ 5-6 คน พี่ FE 1 คน FS 2 คน DD 2 คน แล้วก็หนู แทบไม่มีที่เดิน หมุนตัวก็ลำบากค่ะ พี่เค้าก็พาไปดูริก อธิบายว่าอะไรเป็นยังไง อยู่ตรงไหน มีไว้ทำอะไร ห้องทานข้าว ห้องน้ำอยู่ที่ไหน .. ห้องน้ำนี่ไปเข้าห้อง Radio มี 1 ห้อง
พี่ๆ เค้าก็เตรียม tool ที่ใช้กันค่ะ ก็ได้ดู แต่ทำไม่ได้+ช่วยไม่ได้เช่นเคยค่ะ เสียดายที่พี่เค้ามาเมื่อวานเพื่อติดเซนเซอร์อะไรหมดแล้ว

งานวันนี้คือหย่อน tool ลงในหลุมค่ะ ก็ได้ดูด้วย เอาเครนมายก แล้วค่อยหย่อนลงหลุม..ตื่นเต้นดีค่ะ สำหรับหลุมนี้ใช้ slim pulse ในการวัดค่าต่างๆ ไปถาม DD มาอยากดู plan ที่เค้าขุดกันว่าลงไปกันลึกเท่าไหร่ DD ก็ใจดีค่ะ เอามาให้ดู ว่าหลุมนี้ขุดที่ความลึก 2200 เมตร ทำมุมเท่านั้น เท่านี้ แล้วพี่เค้าก็ได้รับโทรศัพท์ค่ะ ออฟฟิศบอกมาไม่ต้องกลับให้อยู่ดู งานกลางคืนด้วย.. ก็คือไม่มีที่นอนค่ะ นั่งดูพี่ๆ เค้าทำงานไปทั้งคืน เดี๋ยวรถมารับกลับพรุ่งนี้เช้า ..ตกใจเล็กน้อยเพราะไม่มีไรมาเลย แต่ก็ไม่เป็นไร ชิวๆ ไป เพราะนั่งทำงานโต้รุ่งที่มหาวิทยาลัยบ่อยอยู่แล้ว : ) แล้วก็เตรียมใจมาอยู่แล้ว ตั้งแต่คิดที่มาทำงานนี้

ที่แผนก D&M จะมีพี่ๆรันอยู่จริงๆ 2 คน คือกะกลางวันและกลางคืน อีกคนคอยหมุนเวียนกันไปค่ะ ทำงานกะละ 12 ชั่วโมง 6 เช้า-6 เย็น ห้องทานข้าวนิดนึง จะบอกว่าอุดมสมบูรณ์มากค่ะ มีข้าวให้ทานทั้งวัน ทั้งคืนเลย เพราะมีคนเค้าทำงานตลอด 24 ชั่วโมง อาหารก็อร่อยมากเช่นกัน 555 คราวนี้ก็นั่งอยู่คุยกับพี่ซีเนียร์เอนจิเนียร์ (ทำงานมา 4 ปีครึ่ง) กะกลางคืนไปค่ะ เค้าก็สอนหลายๆ อย่างทั้งการใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ แล้วก็การทำงานบนริก
คุยไปคุยมาก็สว่างพอดี พี่ก็ชมว่าน้องอึดดีนะ.. เค้าบอกว่าน้องที่มา FEP เดือนก่อน สลบไปตั้งแต่ตี 3 แล้วประมาณ 8 โมงก็มีพี่คนขับรถมารับกลับไปโรงแรมเพื่อเช็กเอ้าท์ แล้วไปขึ้นเครื่องกลับบ้านค่ะ

ปล. ขอบคุณพี่นกมากๆ นะคะ สำหรับทุกสิ่ง ทุกอย่าง..มันเปลี่ยนชีวิตหนูจริงๆค่ะ จะสู้ ขยัน อดทน ตั้งใจ ตอนนี้รอเริ่มงานวันที่ xxx แล้วค่ะ

(ชีวิตวิศวกรสนามบ.นี้ของหนูเพิ่งเริ่มต้น อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปและขอบคุณผม อนาคตอีก 2-3 ปีผ่านไป อาจจะกลับมาโทษผมก็ได้ ประมาณว่า "รู้งี้ไม่เชื่อพี่นกดีกว่า ชีวิตบัดxxx จริงๆ" ฮ่าๆ ... พี่นก)

-----------------------------------------

ข้อเขียน PTTEP services รอบแรก กลางเมษายน 2555

ข้อสอบ มี 3 ชุดครับ

1. ความถนัดเชิงตัวเลข 70 ข้อ ความสัมพันธ์ภาพครับ และก็เลข ไม่ยากครับ แต่เวลาน้อย

2. ภาษาอังกฤษ 75 ข้อ ต้องเข้าใจภาษาหน่อยครับ แบบประมาณ ถามตอบ ประมาณนี้

3. ทัศนคติการทำงาน 100 ข้อ อันนี้ไม่ยากครับตอบตามความคิดเราครับ

------------------------------------------------------

pre-screen test ของ Manpower ในตำแหน่ง Reservoir Engineer

ข้อสอบชุดแรกเป็น English test ครับ โดยช่วงต้นของข้อสอบ จะเป็นการดูกราฟและแผนภูมิต่างๆ ต่อมาจึงเป็น Grammar test โดยเท่าที่จำได้จะเป็นเรื่อง tense, preposition และ question tag. คำศัพท์ไม่อยากฉะนั้นใครที่ไปสอบให้เตรียมทวน Grammar ไปดีๆนะครับ

ข้อสอบชุดที่สองเป็น Aptitude test ช่วงต้นจะเป็นข้อสอบแนวๆ วัดไอคิว แนะนำให้ลองทำข้อสอบวัดไอคิวก่อนไปสอบ ต่อมาเป็นโจทย์เลข มีเรื่อง เลขยกกำลัง บวกลบเศษส่วน แนะนำให้หาหนังสือเทคนิคการคิดเลขเร็วอ่านก่อน ต่อมาส่วนที่สามเป็นปัญหาเชาว์แนวตรรกกะซึ่งต้องใช้เวลาในการคิดนาน อันนี้หนังสือแนวปัญหาเชาว์คงช่วยได้ 

ที่สำคัญมากคือเรื่องเวลา ส่วนตัวคิดว่าข้อสอบถูกออกแแบบมาให้ทำไม่ทัน แต่คำสั่งนั้นให้ทำทุกข้อ ฉะนั้นข้อไหนที่อ่านโจทย์แล้วคิดไม่ออกว่าต้องทำอย่างไร ให้ข้ามเลยนะครับ (ย้ำ ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

สองชุดสุดท้ายเป็น Job fit และ personality อันนี้ไม่ขอพูดนะครับเพราะเป็นทรรศนคติส่วนบุคคล

ถ้าได้เข้าสัมภาษณ์เมื่อไหร่จะมาแชร์ให้เพื่อนๆฟังอีกนะครับ

==============================

PTTEP services 27/04/12

วันนี้ไปสอบมาแล้วที่อาคารสำนักงานใหญ่ ชั้น5 บ่ายๆ รอบเช้าก็รู้สึกว่าค่อนข้างเยอะเหมือนกัน สำหรับการได้รับแลือกให้ได้ไปสอบ aptitude test การสอบจะมี laptop ให้คนละเครื่องให้ทำการสอบออนไลน์ผ่านแลน ขอบอกว่าเครื่องมีการตอบสนองที่ช้ามากๆ เวลาจะเสียไปกับการรอคอยข้อต่อไป นานประมาณ เกือบ15วิ ซึ่งยิ่งถ้าคุณทำช้า ไม่ค่อยได้ ยิ่งทำให้คุณพะว้าพะวง ไม่เป็นอันคิด เว้นไว้แล้วกะจะกลับมาทำทีหลังโปรดอย่าคิดจะทำ เพราะคุณจะต้องรอมันโหลดมาให้คุณได้ตอบให้ และเยอะๆ ข้อ ขอบอกว่าไม่ทันกิน ไม่ได้ให้เดาไปก่อนเลย เวลาเหลือจริงๆ ค่อยกลับมาคิดใหม่ หรือมาแก้
ตัว.....

ข้อสอบจะมี 3 part ให้ทำเวลา 90 นาที ตก partล่ะ ครึ่งชั่วโมง

part แรกจะเกี่ยวกับตัวเลข อนุกรม ค่อนข้างเยอะ เช่น 2 5 10 17 ..... ทำให้ทันนะ ฝึกกันเยอะๆ ในหนังมือเตรียมสอบของข้าราชการก็มีให้หัดทำกัน คล่องๆ จะได้ชิวๆ

part 2 จะเกี่ยวกับอนุกรมสัมพันธ์ส่วนใหญ่ เช่น มีตาราง เหมือนเมตริก แล้วมีตัวเลขให้หาว่าจะเป็นอะไร อันนี้ก็หัดไปเลยครับ, ศัพท์สัมพันธ์ เช่นถามว่า วัยรุ่น ก.ความคิด ข. อิสรภาพ ค. การเรียน ง. คบเพื่อน ที่ถูกคือ คบเพื่อนเพราะวัยรุ่นจะสนใจเพื่อนมากที่สุด, อีกอย่างจะมีภาพในตารางที่เป็นภาพเข้าพวก ไม่เข้าพวก ยุ่งเหยิงไปหมด

part 3 จะเกี่ยวกับการสรุปความ เช่น อ่านบทความมาแล้วจะถามคำถามว่า คนที่หนึ่งทำอาชีพนี้ คนที่สองทำอาชีพนี้ แต่คนที่จะไม่ทำงานถ้าคนที่สามทำอยู่แล้ว คนที่สี่ ทำมาแล้ว5 ปี คนที่2 ทำมา 3 ปี อื่นๆ อ่านแล้วงง แล้วมาเจอคำตอบงง ก็สรุปให้ได้ หาเงื่อนไขให้เจอ และมีบความอุปมาอุปไมย ให้ตอบว่า บทนี้กล่าวถึงอะไร เช่นพระคุณพ่อ แม่ , และบทความเกี่ยวกับธรรมมะ มีคำอิงธรรมะ ว่าดอกบัวเมื่อได้ที่แล้วมันจะบาน เหมือนคนถ้าได้ปฏิบัติแล้วจะซึ้งในพระธรรมเอง...

หลังจากสอบเสร็จเค้าจะมีสัมภาษณ์เล็กๆ น้อยคนละ 10 นาทีเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น ถามว่า คุณมีเป้าหมายสำหรับตำแหน่งงานนี้อย่างไร คุณพอใจกับเงินเดือน สวัสดิการของปตท รึเปล่าซึ่งก่อนสอบ aptitude เค้าจะ present เรื่องรายได้ตำแหน่งต่างๆ ระดับหลายระดับ สวัสดิการต่างๆ

มีถามว่าคุณสามารถไปทำงานที่ต่างๆได้รึเปล่า เช่น ภาคใต้ เหนือ อีสาน ระยอง ชลบุรี ประมาณนั้น ก่อนหน้านั้นเค้าจะให้เรากรอกใบสมัครภาษอังกฤษที่เป็นแบบฟอร์มของเค้าให้หมด ระบุเงินดือน ส่งใบทรานสคริป สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน resume หรือ cv ใบผ่านงาน ใบผ่านการเกณฑ์ทหารสำหรับผู้ชาย รูปถ่าย1นิ้ว คะแนนโทอิค ถ้ามีจะดีมากๆ เพราะจะได้รับสิทธิ์พิจารณาก่อน เรียกไปสัมภาษณ์ก่อน เค้าว่าอย่างนั้นนะ แต่ถ้ายังไมมี เขาให้สิทธิ์ทุกคนไปสอบมา โดยได้ส่วนลดจกาการลงทะเบียนของ ปตท ไปสอบ ราคา 850 บาท จาก 1500 หรือมากว่านั้นไม่แน่ใจ พอได้คะแนนแล้วประมาณ 600 up ก็ส่งไปให้ HR ได้เลย (ไอ้ที่ยากก็คือทำไงจะไปสอบให้ได้ 600 up ก็ลองๆกันดูครับ...)

-----------------------------------------
สอบข้อเขียนกับ ageny addeco ของ pttep services รอบแรก วันที่ 2/5/2012

ข้อสอบมี3part
Part1 ตรรกะคณิตศาสตร์ 70ข้อ
Part2 อังกฤษ 75ข้อ
Part3 job test 100ข้อ

=========================

Group Activity @SLB ต้นพ.ค. 2012

สวัสดีครับพี่นก ตามที่ผมได้ไป Group Activity @SLB ผมสัญญากับพี่ไว้ วันนี้ผมมาส่งการบ้านครับ

Part 1

ผมสมัคร SLB ไปก่อนสงกรานต์ครับ พอพ้นช่วงหยุดยาวพี่ SLB ก็โทรมานัดผมไปสัมภาษณ์เบื้องต้น ที่รสาทาเวอร์ @ พหลโยธินครับ พี่เค้านัดผมไว้บ่าย 2 ครึ่งผมไปถึงก็ก่อนเวลาล่ะครับ นั่งรอสักพัก พอถึงเวลาก็มีพี่อีกคนมาเรียกเข้าห้องครับ หลังจากเข้าห้องไปก็เป็นการคุยเบื้องต้นกับพี่ HR (พี่...) ครับ แรกเริ่มพี่...ก็เริ่มคุยเป็นภาษาไทยก่อน ถามโน่นนี่ นิดหน่อย หลังจากนั้น พี่...ก็บอกว่าเดี๋ยวเราจะสวิตช์ไปคุยกันในโหมดภาษาอังกริดแล้วนะ ประมาณ 20-30 นาที หลังจากสวิตช์เปลี่ยนภาษาก็เริ่มคำถามครับ คำถามที่โดนถามก็มีตามนี้ครับ

- แนะนำตัวหน่อยว่าเราคือใคร ? มาจากไหน ?
- พูดเกี่ยวกับครอบครัวหน่อย ?
- ออกจากงานเก่าทำไมหรอ ? ขอเหตุผลหน่อย ?
- รู้อะไรเกี่ยวกับ Field Engineer บ้างล่ะ ?
- มีสมัครที่ไหนไว้อีกหรือเปล่า ? ถ้าไม่ได้งานนี้จะทำไงต่อ ?

จำได้ประมาณนี้ครับ ไม่ค่อยจี้เรื่องความรู้มาก พอคุยกันเสร็จ พี่...ก็บอกว่าเดี๋ยวพี่จะแจ้งผลไปให้ในอีก 1 อาทิตย์ ผมก็โอเคครับ ออกมาใช้เวลาไปประมาณ 25 นาทีครับ กลับลงมาเดินดุ่มๆ ไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านครับ ! ตอนนั้นรู้สึกว่าตอบคำถามได้ไม่ค่อยดีเท่าไร เกร็งๆ ครับ (ขนาดว่าผ่านสนามสัมภาษณ์มาพอสมควรนะครับ) ทำใจแต่ก็แอบหวังว่าคงได้ไปรอบ Group Activity ครับ

กลับบ้านมาเปิดเมล์มาก็ได้รับจดหมายเชิญไป Group Activity มาครับ ดีใจครับ ! ดีใจ !ได้ไปต่อ อิอิอิ ^^ (เล่าเหมือน reality show เลย ได้อารมณ์มาก ชอบๆ - พี่นก)

Part 2

หลังจากผมได้รับจดหมายเชิญไปทำ Group Activities ของ SLB วันที่ 2 พค 55 ครับ ผมเตรียมตัวเยอะมาก ซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม จนพี่ที่บ้านบ่นว่า บ่นอะไรนักหนา ??? 555+ รายละเอียดกิจกรรมวันนั้นบอกว่าให้เราเตรียมตัวพูด 3 นาทีไปด้วย โดยทั้ง 3 นาที ต้องครอบคลุมเนื้อหา 3 หัวข้อนี่ครับ

1. Self Introduction, Who you are ?
2. Your strengths and weakness อย่างละ 3 ข้อ
3. Why do you want to be Field Engineer @ SLB ?

ก็ได้จากบล๊อกพี่อีกล่ะครับ เตรียมตัวไปก่อนแล้ว 555+ ซ้อมพูดๆ สามนาที ค่อนข้างชัวร์ว่าครบทั้งเนื้อหาและเวลาไม่เกินแน่นอนครับ ! (นี่แหละครับที่ฝรั่งบอก practice makes perfect)

เวลานัดคือ 8 โมงเช้าครับ ผมไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อยครับ แลกบัตรเรียบร้อยก็ขึ้นมา รอสักพัก จะ 8 โมงแล้วนะเนี่ย มากัน 4 คน ตกใจ ผมก็เข้าไปทำความรู้จักกับ 3 คนที่เหลือครับ คุยๆไปก็ถูกคอดีนะครับ (ตอนทำกิจกรรมผมได้ร่วมกลุ่มกับ 2 คนที่ผมไปคุยตอนอยู่ด้วยกัน 4 คนเนี่ยแหละครับ หลังจากนั้นงานง่ายเลย รู้จักกันแล้ว !) หลังจากนั้นก็มีพี่มาตามเข้าห้องไปเตรียมทำกิจกรรมกลุ่มครับ นั่งรอในห้องสักพักก็มีเพื่อนๆ เข้ามาเรื่อยๆ ครับ วันนี้มากันทั้งหมด 21 คน เป็นเด็กจบใหม่เยอะพอสมควรประมาณ 13 คนได้ครับ มีชาวพม่ามา 2 คนด้วยครับ เป็น ญ 1 และ ช1 ทั้งสองคนเรียนอยู่ที่ AIT และกำลังจะจบเดือนหน้านี้แล้วล่ะครับ

เริ่มแรกพี่...ก็จะ Brief ให้ฟังเกี่ยวกับ SLB ครับ เล่ามาพอสมควรครับ SLB ทำอะไรบ้าง อยู่ที่ไหน พี่เค้าก็เล่า+แชร์ประสบการณ์ของเค้าครับ ! จบการแนะนำ SLB ก็จะเป็นการออกไปพูดแนะนำตัว 3 นาทีที่ให้เตรียมมานั้นแหละครับ ลำดับการพูดนั้นจะอยู่ตามใบรายชื่อที่เราเซ็นชื่อน่ะครับ หากชื่อเพื่อนๆ พี่ๆ อยู่บน ๆ ของกระดาษ ทำใจเลยครับ ไม่ต้องคิดมาก คุณคือคนแรกๆ ที่จะออกไปพูดครับ ส่วนตัวผมนั้น โชคดีหน่อยได้คนกลางๆ อิอิอิ ^^

หลังจากนั่งฟังประวัติของทุกคนหมดแล้ว ต่อไปจะเป็น Highlight ประจำวันครับ Group Activity แบ่งเป็นทั้งหมด 4 กลุ่ม กลุ่มผมมีสมาชิกทั้งหมด 5 คน คือ ผม น้องจากลาดกระบัง 2 คน(ญ 1 ช 1) พี่สาวชาวพม่า และพี่ชายจาก AIT อีกคน ยอมรับครับว่าผมโชคดีมากที่ได้ร่วมกลุ่มกับพี่จาก AIT และน้องจากลาดกระบัง (นั่งคุยกันมาตั้งแต่เช้าแล้ว สบายๆละกัน อิอิอิ !) โจทย์วันนี้คือ สร้าง Shopping Mall จากกระดาษหนังสือพิมพ์+ลูกโป่ง 1 ลูกครับ ! บังคับให้ใช้ลูกโป่งในแบบด้วยนะครับ และตึกต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 1 เมตร+ต้องรองรับน้ำหนักของลูกกอล์ฟอย่างน้อย 5 ลูกได้โดยไม่ล้มลงมา ระหว่างทำทุกอย่างให้สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเท่านั้น ให้เวลาวาดแบบ 10 นาที และสร้างให้สำเร็จอีก 20 นาที มี Option เสริมให้เลือกเพิ่มอีกคือ 1.ตะเกียบ 2 คู่ 2.ลวดเย็บกระดาษ 3.กาว 4.นิตยสารเล่มหนาๆ 1 เล่ม 5.กรรไกร 6.ลูกโป่ง 1 ลูก

เริ่มแรกเป็นการออกแบบครับ ผมคิดเลยครับ วาดแบบให้ทุกคนเห็นว่าทำแบบนี้ๆ นะ ตกลงมั้ย ? เห็นด้วยมั้ย ? ทุกคนตกใจหมดเลยครับว่าผมคิดได้ไง ? 555+ (ผมเตรียมตัวมาก่อนแล้ว 555 ลงทุนไปซื้ออุปกรณ์มานั่งทำที่บ้านและทดสอบเองเลยครับ ได้จากบล๊อกพี่จริง ๆ ครับ อาศัยการอ่านจากเพื่อนคนอื่นที่มาแชร์ประสบการณ์ โดนสร้างตึก สร้างเรือ นั่งทดลองเป็นวันๆ อากาศก็ร้อน ทดลองหมดครับ ทั้งตึก ทั้งเรือ เห็นได้ชัดเลยว่าการเตรียมตัวไปก่อนช่วยได้เยอะมากๆครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่ (-/l-) ) - (ต้องให้ความดีความชอบเพื่อนๆก่อนหน้าที่มาแบ่งปันกันครับ ผมแค่เปิดพื้นที่ให้เฉยๆ ใครตักตวงได้เท่าไรเอาไปเลย ที่นี่มีให้อย่างไม่กั๊ก และคุณก็อุตส่าห์ไปซื้อมาลองสร้างเลยด้วย เจ๋งมากเลย)

หลังจากนั้นผมวาดแบบให้ทุกคนเห็น ก็ตกลงกันตามที่ผมวาดเนี่ยแหละครับ ระหว่างคุยกันครับ พี่จาก AIT และน้องจากลาดกระบังเป็นงานมากครับ พี่เปิดนาฬิกาวางตรงกลางกลุ่ม น้องคอยเตือนเวลาตลอด ทุกคนในกลุ่มช่วยกันดีมากครับ (อันนี้แนะนำเลยครับ พยายามหาคนที่เป็น Time Keeper ไว้ 1 คนเพื่อคอยเตือนเวลาภายในกลุ่มครับ ) หลังจากออกแบบเสร็จกรรมการก็บอกว่าให้เอาแบบมาส่ง หลังจากนั้นเป็นการทดลองแล้วครับ เป็นงานกันมากครับ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เฮฮากันตลอดมีหยอกเล่น แต่งานก็ดำเนินไปได้ด้วยดี พี่สาวชาวพม่าก็เฮฮาครับ ตลกดีๆ ทำไปก็เน้นตามแบบที่วาดไว้ล่ะครับ ช่วงใกล้หมดเวลามีเหตุการณ์ตึงเครียดกันเล็กน้อยแต่ว่าไม่มีปัญหาครับ ทำเสร็จทันเวลาพอดี 20 นาที (เร็วมากครับ มัวแต่นั่งหัวเราะไปทำงานไปกันอยู่ 555+) ลืมบอกไปว่าระหว่างทำงานกันกรรมการจะคอยเดินดูการสื่อสาร การทำงานของแต่ละกลุ่มด้วยนะครับ หลังจากกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา เป็นเวลาเชือดรอบสองครับ

คราวนี้จะต้องทดลองใส่ลูกกอล์ฟจริง พรีเซนต์ผลงานของเรา วันนั้นมีกรรมการทั้งหมด 5 ท่าน กลุ่มผมโดนพรีเซนต์เป็นกลุ่มแรกเลยครับ ผมก็อธิบายว่าผมออกแบบ และวาดแบบเอง โดยที่ทุกคนในกลุ่มตกลงความเห็นกันว่ามันน่าจะใช้ได้ และมันก็ใช้ได้จริงครับ 5 ลูกใส่ได้และไม่ล้มครับ (กลุ่มผมใส่ลูกกอล์ฟได้ถึง 9 ลูกครับ กรรมการตกใจถึงกับต้องเดินมาดูว่ามันใส่ได้จริงและไม่ล้มครับ 5555 + ) ส่วนคำถามที่โดนตอนพรีเซนต์ก็มีประมาณนี้ครับ

- คิดว่าใครเป็นหัวหน้ากลุ่ม ?
- ให้ทุกคนวิจารณ์ ไอ้คนที่พวกคุณคิดว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาเป็นคนยังไง เขามีอะไรที่ต้องแก้ไข? ตอบเรียงคนครับ !
- ถ้าไม่มีไอหัวหน้ากลุ่มคนที่พวกคุณเลือกกันตอนแรก คิดว่าใครจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม ? ตอบเรียงคนอีกแล้วครับ คำถามนี้ !
- ผลงานที่ทำเนี่ยมีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง ?
- รู้ได้ไงว่ามันสูง 1 เมตร ? ให้วัดโดยห้ามใช้ไม้บรรทัด ! เหมือนเขาจะดูไหวพริบเราในการวัดครับ !
- ถ้าอยากปรับปรุงไอ้ตึกเนี่ย จะปรับปรุงอะไรบ้าง ?
- ทำไมไม่เอากระดาษหนังสือนิตยสารมาใช้ล่ะ ? มันก็แข็งกว่านิ ?

จบการพรีเซนต์ใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณครึ่ง ชม. ครับ ออกมาก็เม๊าท์แตกเลยครับ ฮา หลังจากที่พรีเซนต์ครบทุกกลุ่ม ! ก็เป็นการเรียกรวมครับ บรรยากาศเหมือน The Star มากเลยอ่ะครับ พี่...พูดว่า สำหรับชื่อที่จะเรียกต่อไปนี้คือ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก ได้ไปต่อในรอบต่อไป สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปต่อก็ไม่ต้องเสียใจครับ คุณอาจจะยังไม่เหมาะกับตำแหน่งเราในตอนนี้ ! นี่มัน The Star ชัดๆ !++ (สงสัยพี่ HR คนนั้นอินกับ the star คืนก่อนหน้า - พี่นก)

สรุปผลผู้ได้ไปสัมภาษณ์ต่อครับ

- D&M 3 คน (ชายล้วน สามหนุ่ม สามมุม !)
- พี่ชายและพี่สาวชาวพม่าผ่านครับ แต่ต้องไปดูว่าจะไปลงตำแหน่งอะไรที่พม่าอีกทีนึง (พี่สาวชาวพม่าอยู่กลุ่มผม !)
- พี่ชายจาก AIT 1 คนก็ผ่าน ได้ไปฝึกงานครับ แต่จะลง D&M หรือ Wireline ต้องรออีกที (พี่ชายคนนี้ก็อยู่กลุ่มผม เจ๋งมาก ๆ ตอนที่โดนถามว่าถ้าไม่มีไอคนที่เป็นผู้นำ คิดว่าใครจะเป็น พี่แกตอบว่าพี่นี่แหละ หัวหน้า ! เจ๋งมาก !)
- Well Service 1 คน (เป็นน้องที่เคยฝึกงานกับ CTEP ครับ หน้าตาดูเก่งมากครับ ^^)
- Wireline ประมาณ 10 คนได้มั้งครับ (พี่...อ่านชื่อมาอะไรๆ ก็ Wireline Wireline ไปเยอะจิงครับ ! ^^ 1 ในนั้นเป็นน้องสาวเด็กลาดกระบังกลุ่มผมครับ อิอิอิ ^^)

สำหรับคนที่ผ่านเข้ารอบต่อไปก็ต้องรอฟังรายละเอียดการนัดสัมภาษณ์ครับ ! ส่วนตัวผมโดนนัดสัมภาษณ์ในวันถัดไปเลยครับ ตื่นเต้นมาก ๆ ! ดีใจด้วย ! แต่ก็ไม่ประมาทครับรีบกลับบ้านไปเตรียมตัวต่อครับ !

Part3

ผมโดนนัดเวลาประมาณ 10 โมง ที่รสาทาเวอร์ ผมไปถึงก่อนเวลาอีกเช่นเคย ก็ไปนั่งรอครับ ! ไม่นานก็มีพี่มาเรียกครับไปสัมภาษณ์กับ D&M Manager ซึ่งเป็นผู้หญิงครับ ผมจำเธอได้ครับ ตอน Present ช่วงกิจกรรมกลุ่ม เธอเป็นคนถามผมว่าเธอออกแบบเองหรอ วาดเองด้วยอีกเนี่ยนะ ! พร้อมทำหน้า งงๆ ! สำหรับวันนี้เธอดูไม่สบายครับ นั่งสั่งน้ำมูกตลอดการสัมภาษณ์ คำถามที่โดนถามก็ประมาณนี้ครับ

- แนะนำตัวเอง ทำไรมาบ้าง ?
- ทำงานสายเครื่องกล ทำไมถึงเรียนวิศวะไฟฟ้าล่ะ ?
- เคยทำงานหนัก ๆ อะไรมาบ้าง ?
- รู้อะไรเกี่ยวกับ SLB บ้าง ?

ระหว่างที่นั่งถามไปเธอก็จดๆ แบบฟอร์มเกี่ยวกับเราไปอ่ะครับ วันนี้เธอดูไม่ค่อยสบายเลย เราเลยได้คุยกันค่อนข้างน้อยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นผมที่ฝอยน้ำลายเยอะมาก ๆ เตรียมตัวไปเยอะครับ 555+

หลังจากคุยกันไปสักพัก เธอเปิดโอกาสให้ผมถามกลับ ผมก็ถามไปเล็กน้อยครับ ! เกี่ยวกับ Job Description ว่ามันใช่กับไอที่ผมคิดไว้หรือเปล่า ! พูดคุยประมาณ 20 นาทีได้ครับ หน้าตาเธอดูเหมือนจะไม่ไหวแล้ว ! แล้วเธอก็ถามผมกลับมาต่อว่า รู้ป่าว ในตลาดมี Smart Phone ยี่ห้อไรบ้าง ? ผมอึ้งไปสักพักเลยครับ ผมตอบไป 4-5 แบรนด์ได้ เธอก็พยักหน้านะครับ แต่หลังจากออกจากห้องสอบมาผมคิดได้เป็นสิบเลยครับงง เหมือนกัน ทำไมคิดไม่ออก ! 555 (สงสัยเธอกำลังจะเปลี่ยนมือถือยี่ห้อใหม่ ... ฮ่าๆ ... พี่นก)

เรื่องทั้งหมดก็มีประมาณนี้แหละครับพี่นก ขอบคุณพี่มาก ๆ นะครับ ตอนนี้ก็รอผลรอบ FEP อยู่อ่ะครับ ! ยังไงผลออกเมื่อไรผมจะเขียนมาเล่านะครับพี่ !

(อ่านจบแล้ว ได้อะไรไปจากเพื่อนคนนี้บ้างครับ ที่เด่นชัดมากเลยคือ 1. เรื่องการเตรียมตัว เพื่อนเราคนนี้เตรียมตัวมาอย่างดี ลงทุนซื้ออุปกรณ์มาลองทำจนสำเร็จ จึงไม่กดดันด้านเทคนิคเลย เพราะรู้แหง๋ๆว่าทำได้ 2. มนุษยสัมพันธ์ ไม่ปล่อยให้เวลาขณะนั่งรอเสียไปเปล่าๆ แนะนำตัวทำความรู้จัก ผูกมิตรไว้ล่วงหน้า การทำงานมันก็ราบรื่น 3. เตรียมสคริป 3 นาที ท่องๆ ซ้อมๆ จับเวลามาอย่างนี้ 4. มีความเป็นผู้นำ ดูได้จากตอนที่ได้โจทย์มา เอาแบบที่ตัวเองทำการบ้านมา เอาเสนอกลุ่มเลย ไม่รั่งรอให้เสียเวลา เพื่อนๆจำไว้นะครับ เราอาจจะไม่เก่งเท่าเขาเท่าใคร แต่การเตรียมตัว การซ้อม ช่วยปิดจุดอ่อนเราได้ และมีผลมากๆครับ)

===========================

สัมภาษณ์ Schlumberger wireline field engineer ราวๆ มกราคม ปี พ.ศ. 2532

ไม่ได้พิมพ์ผิดครับ ปี พ.ศ. 2532 จริงๆครับ เพราะเป็นเรื่องของผมเอง แฮ่ๆ ให้คนอื่นเล่าซะเยอะจนลืมไปว่าผมยังไม่ได้เล่าของตัวเองเลย ฮ่าๆ แต่จะเอามาเล่าในนี้มันก็จะยาวไปหน่อย เพราะไม่ใช่สัมภาษณ์อย่างเดียว เรียกว่ากระบวนการคัดสรรก็แล้วกัน ตามลิงค์ไปนะครับ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=04-05-2012&group=6&gblog=113


Create Date : 26 มีนาคม 2555
Last Update : 12 เมษายน 2556 15:13:38 น. 11 comments
Counter : 2771 Pageviews.

 
part TEPPI แสบหูมาก


โดย: Eng^^เด็กใต้ IP: 118.173.16.75 วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:0:36:35 น.  

 
ขอบคุณเวบดีๆแบบนี้ครับที่ทำให้เด็กน้อยที่อยากทำงานoffshoreได้ดิบได้ดีไปหลายคนแล้ว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์ครับ
มันเป็นประโยชน์มากเลยครับสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นและไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานoffshoreเลย ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆที่เอางานมาแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณที่จำแนวข้อสอบและประสบการณ์สัมภาษณ์มาแชร์ครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันนะครับ
ปล.เป็นกำลังใจให้เจ้าของเวบนะครับ อยากเป็นแบบพี่ครับพี่เป็นไอดอลของผมเลยครับให้ด้วยใจจริงให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนครับ ขอบคุณครับพี่


โดย: braze IP: 125.25.11.58 วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:13:47:21 น.  

 
braze - ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยผมก็ได้ปลูกคุณขึ้นมาเป็นอีก 1 เมล็ดของการแบ่งปัน ... เติบโตและปลูกคนอื่นๆต่อไปนะครับ ...


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:21:05:08 น.  

 
ขอบคุณมากๆเลยครับ กำลังจะได้สัมภาษณ์ที่ SLB น่ะครับ อยากทราบว่าถ้าภาษาอังกฤษผมเป็นแบบพูดได้ถูไถนี่ มีโอกาสรึปล่าวอ่ะครับ


โดย: เด็กจบใหม่ IP: 10.0.0.168, 180.183.105.176 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:1:46:39 น.  

 
เด็กจบใหม่

มีโอกาสเสมอครับ เขาดูหลายๆอย่างประกอบกันครับ การสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารนาเท่านั้นครับ มีอีกหลายส่วนที่ระกอบกัน กล้าพูดกล้าแสดงออกเอาไว้ก่อน แต่ถ้ามีเวลาไปฟิตภาษาฯมาได้มันก็ดี แต่ถ้าจวนตัว ก็ทำใจครับ แต่ถ้าให้ดี ไปฟิตมาก็ได้ ไม่ได้ใช้งานนนี้งานหน้าก็ได้ใช้อยู่ดี


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:5:18:36 น.  

 
สวัสดีครับ อยากจะขอคำแนะนำหน่อยน่ะครับ คือตอนนี้ทาง Weatherford เค้าเรียกตัวเข้าไปทำ assessment อ่ะคับ ซึ่งเอาจริงๆผมก็ลองหาๆอ่าน มันจะมีแต่ของ SLB อ่ะคับ แต่ไม่มีของ Weatherford เลย พอจะให้คำแนะนำได้รึเปล่าคับ เป็น assessment ทั้งวันอ่ะคับ เช้า และบ่าย ใน Email เขียนว่า exercise 1, exercise 2 และก็ interview ด้วย อันนี้เป็น Graduate Engineer อ่ะคับซึ่งจิงๆผมก็ไม่ทราบว่ามันมีตำแหน่งอะไรอยู่ในนั้นบ้าง
คำถามก็คือ
1. พอจะให้คำแนะนำได้รึเปล่าคับเกี่ยวกับ assessment อันนี้
2. อยากทรายว่าตำแหน่งที่เค้ารับมันมีตำแหน่งอะไรบ้างอ่ะครับ? ที่แว่วๆมาตอน Phone interview เค้าก็เปรยๆว่า LWD, application engineer น่ะคับซึ่งยังไม่ได้ Fix ไว้ (เค้าก็พูดด้วยว่าอาจจะเป็นได้ทั้ง ออฟฟิต และ ofshore อ่ะคับ) แล้วทีนี้เนี่ย ผมอยากทราบว่า ค่าตอบแทนมันดีรึเปล่าคับ ผมก็เพิ่งจบน่ะคับ ยังไม่มีประสบการทำงาน ฝันว่าอยากจะเป็น field engineer ด้วย แต่ไม่รู้อันนี้มันใช่รึเปล่า

ขอบคุณมากๆคับ


โดย: คุณนิค IP: 110.168.179.85 วันที่: 9 พฤษภาคม 2555 เวลา:16:36:31 น.  

 
คุณนิค

ผมก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหลัครับว่า wfd มีขั้นตอนนี้ คงเป็นรุ่นแรกที่ทำกัน ปกติทีแต่สอบข้อเขียนกับสอมสัมภาษณ์ คาดว่าคงตามๆบ.ในระนาบเดียวกันที่มีกิจกรรมธรรมนองนี้ สรุป คุณเป็นรุ่นแรกมังครับ งั้นก็ต้องรบกวนแล้วครับ เอามาแบ่งปันกันด้วยนะครับ

ส่วนตำแหน่งงานที่ยังไม่ได้กำหนดลงไปนั้น ก็คงจะออกแนวเดียวกับที่อื่นๆคือ มาดูหน่วยก้านกันก่อนในระหว่างกระบวนการคัดสรร ว่าใครเหมาะไปทางไหน และคงมีตำแหน่งทั้งสนามและไม่สนามมังครับ

ในเรื่องค่าตอบแทน ผมเชื่อว่าดีครับ ชื่อเสียงของบ.นี้ก็อยู่ในแถวหน้าของวงการ ผมอยากให้คุณให้น้ำหนักเรื่องรายได้เป็นเรื่องรองไว้ก่อนในขั้นนี้ครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:06:43 น.  

 
ขอบคุณมากคับ คุณพ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร

เห็นทีต้องเตรียมตัวหนักแน่เลยงานนี้
อะไรยังไงจะเอามาแบ่งปันนะคับ


โดย: คุณนิค IP: 110.168.179.85 วันที่: 9 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:14:23 น.  

 
หากมีคำแนะนำดีๆรบกวนส่งเข้า เมล์ Roseapple_ix@hotmail.com หน่อยนะคับ

ขอบพระคุณมากคับ


โดย: คุณนิค IP: 110.168.179.85 วันที่: 9 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:41:36 น.  

 
ช่วยบอกข้อสอบของช่างเครนหน่อยครับ ขอบคุณครับ


โดย: กิตติศักดิ์ IP: 110.49.243.199 วันที่: 15 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:21:11 น.  

 
กิตติศักดิ์ - ยังไม่มีมาแบ่งปันเลยครับ คงต้องรอคุณคนแรก :)


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2555 เวลา:4:18:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.