==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
"คำถามจริง" ที่โดนถามในการสัมภาษณ์ ข้อเขียน บ.ในวงการฯ เพื่อนๆจำเอามาแบ่ง update 2/3/11 (part 2)

ภาคต่อจากตอนแรกนะครับ

ตอนแรก == > "คำถามจริง" ที่โดนถามในการสัมภาษณ์ ข้อเขียน บ.ในวงการฯ เพื่อนๆจำเอามาแบ่งปัน (ภาค 1)

------------
น้องคนนี้จบ KMITL ไฟฟ้ากำลัง สมัคร Chevron ตำแหน่ง FE Technologist ทำงานบนแท่นผลิต - surface facility

ผมขอตัดคำตอบของน้องเขาออกไปนะครับ เพราะนานาจิตตัง เดี๋ยวจะมีการถกเถียงกันได้ เอาแต่แนวคำถามไปก็แล้วกันนะครับ
------------

ผมได้สัมภาษณ์ประมาณ บ่าย 2 โมง นัดบ่าย 2 สัมภาษณ์บ่าย 2 ตรงเวลาแป๊ะเลยครับ เข้าไปมีคนสัมภาษณ์ทั้งหมด 4 คน ผมนั่งฝั่งตรงข้าม ผู้สัมภาษณ์เค้าเแนะนำตัวเค้าเองก่อนว่าชื่ออะไร…

ถาม: น้องลองแนะนำตัวหน่อยให้พี่รู้จักเป็นภาษาอังกฤษ (จะมีพี่คนที่สัมภาษณ์ เป็นผู้จัดการ Facility ) นั่งอยุ่แล้วถามเยอะมาก นั่งตรงกลางเพราะว่าเค้าแนะนำตัวก่อนผม
ถามต่อ: Can you tell me the implementation project as you worked with xxx (ชื่อบ.ที่ทำปัจจุบัน)?

ถึงตอนนี้คนอื่นก็ยังไม่ได้ถามอะไร ผมดูหน้าคนอื่นแล้วยังเด็ก ๆ อยู่เลย มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งก่อนสัมภาษณ์ก็แนะนำตัวว่าเป็น FE engineer เค้าเรียกผมว่าพี่แสดงว่าน่าจะอ่อนกว่าผม พี่ Manager

ถามต่อว่า น้องผ่านแท่นของ Bongkot มาใช่มั้ย ผมตอบครับ
พี่แกก็ต่อว่า แต่ก่อนพี่ก็อยู่ที่ PTTEP มาก่อนตั้งแต่โครงการ 14, 15 และย้ายมา ที่นี้ แล้วบนแท่นใช้พลังงานอะไร
ผมตอบอย่างไม่ลังเลว่า เป็น xxx
แล้วถ้า Designหล่ะ จะต้องให้มีกี่ตัว ผมใช้เวลานึกอยู่นิดหน่อย แล้วตอบไปว่า xxx

พี่เค้าถามต่ออีกว่า แล้วมีระบบอื่นมั้ยที่สามารถผลิตไฟฟ้าใช้ ผมก็ไล่ไปว่ามี xxx และนึก ๆๆ จนนึกไม่ออก
เค้าก็บอกว่า มองรอบตัวเรา ผมตอบ aaaa
เค้าถามต่อว่า แล้วที่ Bongkot แต่ก่อนมีใช้ aaaa แต่ตอนนี้ยกเลิกทำไมให้อธิบาย
ผมตอบ เพราะว่า xxx

เค้าก็พยักหน้า และทำเสียง อืม ๆ และพี่แกก็อธิบายเพิ่มเติมนิดหน่อยเกี่ยวกับ ข้อแตกต่างเสริมจากที่ผมพูดไปแล้ว

แล้วพี่แก ก็หันไปหาผู้สัมภาษณ์ท่านอื่นว่ามีอะไรถามหรือเปล่า
น้อง engineer FE ท่านหนึงหยิบ CV ผมขึ้นมาแล้วถามว่า เห็นพี่ทำงานที่ xxx ในทีมมีกี่คน
ผมตอบ xxx
แล้วถามต่อว่าพี่ทำอะไร ผมก็ตอบ xxxx
แล้วทำไมถึงออกจาก ที่แรกมาที่ ๆ สองและออกจากที่ๆ สองมาที่สาม

น้องเค้าก็ พยักหน้า และคราง ๆ ฮืม ๆ โดยไม่มีคำถามอื่นมาแทรก บรรยากาศเงียบไปซักพัก และพี่ Manager ก็เริ่มคำถามต่อมาว่า งานของเรา ตอนนี้เราต้องการคนที่จะมาดูแลด้าน booster compressor รู้จักมั่ยมันคืออะไร
ผมก็ตอบพี่แก ไปว่า xxx

ถึงเวลานี้จวบจะเป็นเวลา 1 ชั่วโมง พี่ manager ก็ถามว่า งานนี้เรารับ แบบ Contract ไม่ใช้ตำแหน่ง engineer ไม่ได้เป็น employee นะต้องมาเป็น Support ให้กับ Engineer FE ตาม JD* ของงานทำได้ไหม

พี่แกให้ถาม ผมถามต่อว่า ต้องมีการสัมภาษณ์อีกรอบหรือไม่ พี่แกตอบว่า ครั้งเดียวเพราะว่า ไม่ได้เป็น Employed เราแค่จะรับเข้ามา support ในแผนก ถ้าเห็นว่าได้ก็รับเลยครับ

พี่แกก็หัน ไปถามคนอื่นว่า มีอะไรจะถามพี่เค้าอีกมั้ย หรือมีคำถามอื่น ๆ หรือเปล่า น้อง ๆ คนอื่นก็เปิดดู CV ผมใหญ่เลย แล้วก็มีน้องผู้ชาย ถามว่า ตอนเรียน ทำโปรเจคอะไร ครับ และทำกิจกรรมอะไร

* JD of Technologist (FE)
Overview: The FE Technologist position is responsible to support Facility engineers and offshore team member.
Key Job Responsibilities
- Manage and maintain Field Work request, follow up with Facility engineers and field personal.
- Discuss with Facility Engineer to technically evaluate and define the appropriate scope for assigned modification projects (MOC) and other requirement.
- Discuss with Facility engineer to collect information, provide technical judgment and troubleshooting to field.
- Work as project manager/coordinator on assigned project or MOC.
- Discuss with Facility Engineer and offshore team to identify shutdown project list and scope and coordinate on assigned shutdown
- Monitor production, booster compressor performance and follow up with defined action items.
- Maintain Engineering database and seek for information as request.
- Maintain proficiency with engineering data, software and tools.
- Participate in appropriate trainin



ตำแหน่ง Electronic Technician บ. Halliburton

สัมภาษณ์รอบแรกกับพี่หัวหน้าช่างคนไทย 1คน กับHR 1คน คุยกันภาษาไทยทั้งหมดครับ

เริ่มแรกพี่เค้าก็แนะนำตัวก่อนเลยครับ จากนั้นเค้าก็ให้เราแนะนำตัวครับ
1. Generator ว่าทำงานยังไง เคยเจอปัญหาอะไรบ้างเกี่ยวกับ Gen (จะเน้น Gen มากเลยครับ)
2. ทำงานแบบ team กับทำงานเป็นทีมอะไรดีกว่าเราคิดยังไงบ้างครับ
3. เคยเจอประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาว่าเคยทำอะไรที่ร้ายแรง หรือสร้างความเสียหายในการทำงานบ้าง แล้วมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร
4. HR ถามบ้าง ว่าเคยไปฝึกงานที่เนี่ยเป็นอย่างไรบ้าง ได้ทำอะไรบ้าง
5. รู้เกี่ยวกับตำแหน่งนี้อะไรบ้าง ก็ว่าไป
6. ชอบงานoffshoreหรือonshoreมากกว่าครับ
7. ถ้าไปอยู่offshoreจะไปอยู่ได้มั๊ย
8. ต้องการเงินเดือนเท่าไร
9. และก็ถ้ามีเครื่องมือชนิดหนึ่งซึ่งเราไม่มีความรู้ เราจะจัดการ มีวิธีการแก้ไขอย่างไรครับ ก็ว่าไป

ก็จบสัมภาษณ์รอบแรกนะครับ อีกอาทิตย์ให้มาสัมภาษณ์รอบสองนะครับ คราวนี้เจอหัวหน้าช่างคนไทยคนเดิมครับ และน่าจะเป็นหัวหน้าช่างฝรั่งครับ ทั้งหมดรอบนี้เป็นภาษาอังกฤษครับ

เริ่มเลยเค้าก็แนะนำตัวอีกเช่นเคยครับ พี่ฝรั่งก็เริ่มถามเลยครับ
1. ให้เราแนะนำตัวแบบคร่าวๆเรียนที่ไหน
2. จบอะไรมาตอนนี้ทำงานที่ไหน
3. ทำไมถึงเลือกเรียนสายนี้ครับ
4. พอจบพี่ฝรั่งแกเริ่มไล่ใน CV เลยครับ (พี่แกจะไล่ละเอียดยิบเลยครับเพราะฉะนั้นทุกตัวที่เขียนลงไปต้องเข้าใจจริงๆนะครับ อย่าเขียนมั่วนะครับ ผมเจอมาเหมือนกัน555)
5. ทำ project อะไรมา ทำไมถึงเลือกทำ project นี้ครับ
6. ชอบเรียนวิชาอะไรทำไมถึงชอบวิชานี้

มาถึงช่วงสำคัญครับ

7. Gen ที่ผมทำงานอยู่ปัจจุบันนี้ Brand อะไร
8. กี่Hz กี่โวลต์ L-L , L-N, powerเท่าไร ใช้อะไรเป็นตัวขับครับ (ของผมใช้น้ำมันครับ)
9. รู้มั๊ยว่าถ้าได้ทำงาน จะไปทำอะไรในตำแหน่งนี้
10. ไปอยู่offshoreได้มั๊ย
11. เอาเงินเดือนเท่าไร

ก็จบการสัมภาษณ์รอบสองครับ



ข้างล่างนี้เป็นการทำ group activities และ สัมภาษณ์รอบสอง ของบ.service ยักย์ใหญ่แห่งนึงในวงการครับ ผมเองก็แจ้งเกิดกับบ.นี้เมื่อ 20 กว่าปีมาแล้ว อย่าลืมนะครับ อ่านของเพื่อนแล้ว เขียนมาแบ่งปันประสบการณ์ของคุณบ้าง เอื้อเฟื้อแบ่งปันกันนะครับ สังคมเล็กๆของเราจะได้น่าอยู่ (HR อย่าเขม่นนะ เพราะว่าเดี๋ยวหาทีเด็ดคำถามไม่เจอ แต่ก็แอบๆมาหาแนวๆที่นี่ได้นะเออ ว่าบ.อื่นเขาทำอะไรยังไงกันบ้าง)

มารายงานความคืบหน้าตามสัญญาครับพี่นก

ตอนนี้กำลังรอจะไป field exposure ครับ ที่พิษณุโลก น่าจะ assume ว่าได้งานได้แล้วมั้งครับ คิดว่านะ หุหุ อีกอย่าง ผมสละสิทธิ์ททาง xxx ไปแล้วด้วยครับ มาเล่าประสบการณ์ให้คนที่สนใจสมัครได้อ่านกันนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

เริ่มเลยละกัน คือผมสมัคร scluhm ผ่านทาง //www.slb.com เลยครับ ตำแหน่ง field engineer (อยู่ตรงหัวข้อ resent graduate อ่ะครับ) หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ได้รับโทรศัพท์และ agenda ทาง mail ให้ไป group dynamic ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับ เรื่องเวลารอนี่ แต่ละคนรอไม่เท่ากันครับ คงแล้วแต่จังหวะว่าสมัครไปตอนที่เค้าต้องการรับคนพอดีรึเปล่า (มีตั้งแต่รอ 2 วัน ถึง ปีกว่าๆ) แล้วคนที่ได้มา ส่วนใหญ่เท่าที่คุย จะจบโททางวิทยาปิโตร หรือวิศวะปิโตร ประมาณนี้ มีตรีสายทั่วๆไป บ้างนิดหน่อย

มาถึงเรื่อง group dynamic นะครับ ในเมลที่เค้าส่งมาจะบอกว่าตองเตรียมอะไรไปบ้าง หลักๆก็ present ตัวเอง 5 นาที ห้ามเกิน ถ้าเกินเค้าตัดเลยครับ วันที่ไป group dynamic เค้านัด 8 โมง ที่อาคารรสา (ตรงข้ามแดนเนรมิตเก่าพอดีเด๊ะ) ผมไปตั้งแต่ 7!! แต่ .. มีคนไปก่อนแล้ว .. เลยได้นั่งคุยกัน พอขึ้นไป พี่เค้าก็ให้เข้าไปนั่งรวมกันใน conference room คนก็ทยอยมาเรื่อยๆ จน 25 คน จากนั้นเค้าก็เริ่ม present เกี่ยวกับบริษัท ลักษณะงาน บลาๆๆ

แล้วก็มาถึงนาทีระทึก เค้าให้ออกไป present ตัวเอง ทีละคนต่อหน้า hr ประมาณ 5 และ candidate คนอื่นๆ ผ่านไป .. มาถึง group activity .. ก็แบ่งกลุ่มละ 5 คน ให้ work sheet เป็นโจทย์ เค้าให้สร้างโครงสร้าง จากกระดาษ a4 และ เทปใส มารับน้ำหนัก golf ball 8 ลูก โดย galf ball ต้องสูงจากพื้น 100cm และ ทุกความสูงของโครงสร้างที่เกิน 120cm จะได้ 10 แต้ม หลักๆก็ประมาณนี้ ให้เวลา design 15 นาที และ สร้าง 30 นาที จากนั้นก็นับคะแนน ประกาศผลผู้ชนะ (อ้อ ลืมบอกไป ทั้งหมดที่พูดมา all in english นะครับ เพิ่งจะเคยเถึยงกะคนอื่นภาษาอังกฤษก็งานนี้)

นึกว่าจบแล้ว .. แต่เหลือเวลาอีกชั่วโมงตาม schedule .. ไอ้เราก็นึกว่าจะมีอีก activity ที่ไหนได้ ..

เค้าเรียกออกมาทีละกลุ่ม แล้วถาม ประมาณว่า คุณทำหน้าที่อะไร แบ่งหน้าที่ยังไง ถ้าหัวหน้าไม่อยู่คุณคิดว่าใครควรเป็นหัวหน้า คุณเห็นด้วยกับความคิดของคนอื่นเรื่องนี้มั้ย ถ้าต้องเลือกคนนึงออกจะเลือกใคร etc. กดดันสุดๆ เพราะต้องนึกและตอบ in english ต่อหน้า hr และ candidates คนอื่นๆ หลังจากนั้นเค้าก็พาไปกินข้าว แล้วก็ประกาศผลคนที่จะได้สัมภาษณ์กับ hr ในรอบต่อไป ..
ผมโชคดีผ่านเข้ารอบ เค้านัดสัมภาษณ์วันต่อมา ..

รอบนี้ไม่เท่าไหร่ สัมภาษณ์ประมาณเกือบชั่วโมง in enlish เช่นเคย ถามเกี่ยวกับตัวเรา เชิงกดดันนิดๆ เช่นพวกข้อเสีย เกรด ทำงานหนักๆไหวมั๊ย เคยทำอะไรมาบ้าง ... รออาทิตย์นึง แล้วเค้าก็แจ้งทางเมลว่าผ่านสัมภาษณ์ ได้ไป field exposure 9 วัน จบ .. อ้อๆ เท่าที่รู้ รอบนี้เค้าบอกว่ารับเยอะกว่าปกติ รวมทุกฝ่ายก็ 5 คนถ้วนๆครับ!! แล้วมีไรหลังจากนี้จะมารายงานเพิ่มนะครับ

ps. รบกวนถามพี่นกเกี่ยวกับ FEP อ่ะครับ มันต้องลงมือทำเลย หรือไปเชิงๆดูงานเฉยๆ แล้วมาถึงจุดนี้นี่ โอกาสได้ค่อนข้าง sure แล้วรึเปล่าครับ


ก่อนอื่นก็ตองขอแสดงว่ายินดีที่ฝ่ามาได้ถึงตรงนี้นะครับ แล้วก็ขอบใจที่ยังไม่ลือสัญญาที่ต้องมาชดใช้โดยการเล่าประสบการณ์ตามขั้นตอนต่างๆที่ฝ่าฟันมา

แต่ก่อน field exposure เนี้ย SLB เขาไม่มี เพิ่งมามีตอนหลังเพื่อเป็นขั้นตอนกรองอีกที่นึ่งว่าคนๆนั้นเหมาะกับงานสนามไหม ก็คือไปทำงานจริงๆเลยนั้นแหละครับ แต่ได้ได้ทำงานแบบวิศวกร หรือ แบบผู้ช่วยวิศวกร (SLB เรียก Operator) แต่ทำงานเป็นลูกมือ operator อีกที พูดง่ายๆก็เป็นเบ้เป็นม้าใช้นั่นแหละ ถามว่าชัวร์ไหม มันก็ยังไม่ เพราะมีบางคนโดนคัดออกในขั้นนี้ เป็นผมผมให้ความมั่นใจแค่ 80% เท่านั้นล่ะครับ

ลงมือทำเลย หรือไปเชิงๆดูงานเฉยๆ - ไม่ได้เดินเอามือไผล่หลังดูๆงานหรอกครับ ยิ่งกว่าลงมือทำเลยอีก ลงทั้งตัวทั้วใจเลยครับ จะเป็น 9 วันที่คุณจะไม่ลืม (ขึ้นกับว่าช่วงนั้น SLB มีงานหรือเปล่า) ถ้ามีงานต้องออกไปทำ ผมถือว่าสนุกแน่ จะเป็น 9 วันที่คุณไม่ได้นอน หรือ นอนน้อยมากๆ เพราะต้องตื่นก่อนมาเตรียมงาน(พวกแบกๆหามๆ) และต้องนอนทีหลัง(จัดเก็บล้าง) จะมีวิศวกรคอยดูคอยให้คะแนน หนักเอาเบาสู้ไหม ขี้บ่นไหม ทัศนคติเป็นไง เรื่องมากไหม ใส่ใจถามหรือเปล่า หัวไวไหม สอนทีเดียวทำได้เลยหรือสอนกันหลายที ภาษาอังกฤษเป็นไง กล้าถามไหมถ้าไม่รู้ รับความกดดันได้ไหม ลนๆลกๆไหมเวลาตกใจทำอะไรไม่ถูก ฯลฯ

ผมว่าถ้าคุณไม่หน่อมแน้มจนเกินไป ผมว่าจะจะผ่านไปได้นะครับ ... แล้วอย่าลืม เช่นเคย จำมาเล่าสู่กันฟังนะ ... โชคดีนะครับ ... พี่นก



คราวนี้สัมภาษณ์ที่ Baker Hughes

ผมสัมภาษณ์ตำแหน่ง Field engineer ผ่านทาง Skype จาก Toledo, Ohio ผมนัดไว้ตอน 20.30 ติดต่อมาตรงเวลาเป๊ะ

ตอนเริ่มก็ทักทายตามปกติ ถามว่าเราจบจากที่นี่ใช่มั้ย เกรดเท่านี้ใช่มั้ยเหมือนเช็คว่าถูกตัวเหรือเปล่า หลังจากนั้นเค้าก็อธิบายว่าตำแหน่งนี้ต้องเปลี่ยนที่ทำงานไปทั่วโลกนะจากนั้นก็เริ่มคำถาม

- คิดยังไงกับการทำงานในที่ๆไกลกันดาร และ สภาพแวดล้อมไม่ดี

- มีงาน 3 ลักษณะให้เลือก (ผมจำได้แค่ 2) อยู่ในโลเคชั่นที่ดีแต่ทำงานนาน หรือ ต้องย้ายที่ไปเรื่อยๆเงินดี

- มีงาน 2 Taskให้เลือก 1.ติดตั้งมอเตอร์ 2.นั่งวิเคราะห์ข้อมูล

- เคยทำอะไรที่เป็นผู้นำมั้ย แล้วทำไมถึงเลือกงานนี้มาบอกเค้า

ถ้าผมผ่านไปรอบต่อไปจะมาเล่าต่อนะครับ




อันนี้ไม่ใช่สัมภาษณ์แต่มีน้องที่หูเบา(ฮ่า)เชื่อผมจนได้ไปทำงานเป็นวิศวกรของบ.service ข้ามชาติ บ.หนึ่ง เขียนมาเล่าให้ฟังหลังจากไปทำงานจริงได้ 2 ผลัด (ผลัดล่ะ 3 อาทิตย์มัง)


การไปเริ่มงานช่วงแรกๆทุกอย่างดูยากไปหมด แต่พอเข้า hitch2 ก็เริ่มมองภาพออกบางแล้วเริ่มมีความมั่นใจขึ้นครับ เพิ่งได้รู้เลยว่าคนทำงานoil fieldนี่ทำงานกันหนักจิงคุ้มค่าเงิน(ไม่เจอเองไม่รู้นะนี่) ผมทำ6เช้า6เย็น แต่หลังจาก6เย็นก็ต้องเจียดเวลาอ่านหนังสือ รอดูoperationที่สำคัญๆก็จะไปขอเค้าดู ไปช่วยลูกพี่ กว่าจะได้นอนก็เกือบเทียงคืน เช้ามาตื่นตีห้าครึ่ง เตรียมทำงานหกโมงเช้าครับ การเรียนรู้ก็อาศัยถามแล้วรีบจดใน tally bookบ้าง ดูเค้าก่อนแล้วขอทำในครั้งถัดไปบ้าง (แบบว่า ครูพักลักจำเลยหละ 555) ช่วงนี้ได้หยุดแต่ก็ไม่ว่างอยู่ดีต้องเตรียมความรู้เพื่อไปtrainที่อเมริกา ถ้าเกิดไม่ผ่านกลับมาคงเป็นเรื่องแน่ครับ

สุดท้ายนี้เด็กใหม่ขอคำชี้แนะจากพี่นก เพื่อจะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับการทำงานใน field นี้ครับ


ฮ่าๆ ... เห็นไหม ตูบอกแล้วววว ใช้พวกเรายังกับควาย คุ้มค่าฟาง(เงิน) ซะจริงๆ ไม่มีอะไรจะสั่งเสีย เอ๊ยสั่งสอนหรอกครับ บอกได้อย่างเดียวว่าต้องอึดครับ งานสนามมันก็แบบนี้ นี่ยังดีแค่แท่นบกที่ค่าเช่าแท่นไม่แพงเท่าไร ถ้าไปลงทพเลที่ค่าเช่าแท่นแพงกว่านี้สิบๆเท่า เวลาเป็นเงินเป็นทอง รับรองโดนบี้ จับเวลากันทุกเม็ด เอาล่ะขู่พอแล้ว ขอให้อดทนต่อไปเมื่อไรเป็นลูกพี่เขาบ้างก็คงสบายขึ้นมาจิ๊ดนึง อุปสรรคมีเสมอ คิดง่ายๆว่าถ้างานไม่ยากไม่ลำบากไม่มีปัญหาขนาดนี้ เขาก็ไม่จ้างเราหรอก จริงไหม เขาไปจ้างเด็กที่คุณสมบัติลงไปกว่าเราก็ได้ (แล้วเราก็จะตกงาน) คิดซะอย่างนี้แล้วก้มหน้าทำไป ส่วนไปอเมริกา ไม่รู้ว่าเคยไปไหม แต่อย่าลืม น้ำพริก มาม่า ขาดไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน (ฮ่า)



สมัคร HorizonEngineer at Chevron - first round (ปลายๆกรกฎาคม 2510)

1.พี่ๆเขาจะแนะนำตัวว่าพี่เขาชื่อไรบ้างทำตำแหน่งไรกัน
2.เสร็จแล้วเขาจะให้เราพรีเซนเกี่ยวกับโพรเจ็คที่ทำตอนฝึกงาน(ตอนแรกนึกว่าจะให้แนะนำตัวเองเป็นอังกฤษหมดนะครับ)
3.พี่เขาจะถามเกี่ยกับที่เราพูดมาทั้งหมดเป็นอังกฤษ
4.มีปัญหาอะไรไหมตอนฝึกงาน
5.เคย lead อะไรมาก่อนไหม
6.ตอนเป็น lead มีปัญหาไรไหม แก้ยังไง
7.why มาสมัครงานที่นี่หละ

==============================

ข้างล่างนี่เป็นสอบรอบแรกของ Halliburton ซึ่งเป็นบ. service แนวหน้าๆของวงการฯครับ ข้อสอบนี้เอามาของรอบปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมานี่เองครับ ต้องขอของคุณ คุณ Supertramp มาณ.ที่นี้ครับ

(ปล. ได้ข่าวว่าท่านๆ HR ทั้งหลายก็เป็นแฟนบล๊อกด้วย ขอต้อนรับและน้อมรับคำชี้แนะนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ได้มีเจตนาจะก้าวก่ายงานท่านๆ แต่ก็อยากช่วยเหลือน้องๆเพื่อนๆ ถ้าล้ำเส้นหรือผิดถูกยังไงก็สะกิดมาได้ครับยินดีปรับปรุง)


เวลารวม 2 ชั่วโมง 20 นาที (ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ)

1. ภาษาอังกฤษ (1 ชั่วโมง 20 นาที) ประมาณ 40 ข้อ
- Grammar (Error)
- Reading (บทความประมาณ 10 - 15 บรรทัด)
- Writing (แปลอังกฤษเป็นไทย แปลไทยเป็นอังกฤษ)

2. IQ Test (20 นาที) ประมาณ 50 ข้อ A, B, C, D และ E
- ลำดับเลขอนุกรม
- ภาพนี้เป็นอย่างนี้ ภาพต่อไปเป็นอะไร
ปล.จำไม่ค่อยได้ แต่ต้องทำเร็วมาก และทุกข้อเป็นภาษาอังกฤษประมาณ 2 - 3 บรรทัด
แนะนำให้รีบทำข้อที่เราคิดว่าเราทำได้

3. General Technical Knowledge (1 ชั่วโมง) ประมาณ 30 ข้อ(เขียน)
- แม่สีทีวี (คำตอบมี 3 สี แต่ไปดูในกูเกิลบอกมี 5 สี...งง)
- ถ่านไฟฉาย เท่านี้ ๆ ต่ออนุกรมกันได้กี่โวลท์
- Battery รถยนต์กี่โวลท์
- เต้ารับไฟบ้านกี่โวลท์ กี่แอมป์ กี่ Hz กี่เฟส
- ลมยางรถยนต์กี่ .../... Psi
- Power เท่านี้ Volt เท่านี้ Power เท่านั้น Volt เท่าไร
- Multimeter วัดค่าอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง 4 ข้อ
- Computer ตัวย่อ ADSL, RAM, USB, BIOS, LAN บอกชื่อเต็ม
- บอก Program ของ Computer ที่ดังๆ เช่น Internet - IE, Firefix, Safari หรือ Anti-Virus เช่น ...
- เสียงเดินทางในน้ำ หรือในอากาศได้ดีกว่ากัน อธิบาย
- 88 fm คืออะไร
- picowatt, megawatt คืออะไร
- วัตถุ A กว้าง 3 cm อุณหภูมิ 100 C ที่ 0 cm อุณหภูมิ 0 C ถามว่าที่ 1 cm อุณหภูมิกี่ C
- กฎของ Pascal แรงดันเท่านี้ พท.เท่านี้ พท.เท่านั้น แรงดันเท่าไร
- โมเมนตัม (คาน, ล้อและเพลา) แรงเท่านี้ ห่างจากจุด center เท่านี้ ถ้าห่างจากจุด center เท่านั้น แรงเท่าไร
- อธิบายหลักการทำงานของตู้เย็น Compressor มีหน้าที่อะไร
- ถามแรงตึงเชือกของรอก (มีรอก 2 ตัว ต่างระดับกัน ตัวนี้เท่านี้ ตัวนั้นเท่าไร)
- ชั้นหินของโลก 3 ชั้น พร้อมยกตัวอย่าง

จำได้แค่นี้หล่ะครับ ส่วนใหญ่ก็ออกเหมือนเดิมที่เคย Post ไว้ เติมรายละเอียดนิดหน่อย อิอิ จำผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วย - Supertramp

========================


วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน
ตำแหน่ง: Facilities Engineer Internship ของบริษัท Chevron

แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสิ :
บอกข้อดีข้อเสีย
และก็บอกเหตุผลว่าที่อยากร่วมโปรแกรมนี้
ทำกิจกรรมอะไรบ้างในมหาลัย :
ที่แข่งเนี่ยมีกี่คน เราเป็นตำแหน่งอะไรในทีม :
ทำไมหนูถึงไม่เป็นหัวหน้าล่ะ :
แล้วไปแข่งมาเนี่ย ผลเป็นยังไงบ้าง :
ไหนเรียนอะไรบ้าง (ก้มดูทรานซคริป)
เอ๊ะ W นี่คือถอนใช่ไหม electromag น่ะ ทำไมถอนไปล่ะ:
แล้วอิงเมคที่ Wล่ะ :
แล้วมีวิชาไหนที่ชอบไหม น้องคงถามเพื่อนมาหมดแล้วล่ะนะ ก็อยากพูดอะไรก็พูดมาละกัน (หนูสอบรอบบ่ายค่ะ) :
อ้าเมื่อเช้าก็มีดิจิตอลไปแล้ว เอ้าไหนอธิบายฟลิปฟลอปมาซิ เอาอันไหนดี ทีฟลิปฟลอปก็ได้ เขียนตารางของทีมาซิ :...อธิบายๆๆ...
แล้วพาวเวอซิสล่ะ เรียนอะไรบ้าง :
แล้วทำไม DC ถึง loss น้อยกว่า AC ล่ะ :
แล้วเห็นน้องเขียนในเรซูเม่ ว่าเคยไปติดตั้งโซลาเซลล์ด้วยใช่ไหม :
แล้วน้องทำอะไรบ้าง :
ไหนวาดพาวเวอร์ไลน์ไดอะแกรมของที่น้องไปติดตั้งโซลาเซลล์มาซิ :
แล้วไฟที่ได้จากโซลาเซลล์เนี่ยมันเอาไปต่อเข้าระบบได้เลยไหม ไฟเท่ากันไหม :
แล้วไฟจากโซลาเซลล์นี่เค้าใช้ตอนไหนล่ะ :
เก็บไง :
เออ แล้วที่น้องว่าข้อเสียของตัวเองอะ คือxxx ทำไมถึงคิดว่ามันเป็นข้อเสียล่ะ :
น้องคิดว่าตัวเองมีข้อเสียอะไรที่ควรปรับปรุง :
เล่นกีฬาอะไรบ้าง :
ยังเล่นอยู่ไหม :
เป็นคนจังหวัดอะไร :
เออ แล้วน้องคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพี่เอาอุปกรณ์ไฟฟ้าญี่ปุ่นที่ใช้ไฟ 110 โวลต์มาใช้กับบ้านเรา :
ถ้าเอาเตารีดมาใช้ล่ะ :
ที่ชาร์จมือถือล่ะ :
อะไรอีกดี พัดลมล่ะ :
จากนั้นเค้าก็ปล่อยให้หนูถามสิ่งที่อยากรู้ค่ะ ก็ถามสัก สิบกว่านาที ก็จบ
รวมแล้วประมาณ 35 นาที
แล้วหนูก็มาคุยกับเพื่อน เพื่อนหนูถามเขาว่า การจะทำงานกับบริษัทพี่ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
เขาบอกว่า ต้องสื่อสารได้ คือสื่อสารให้คนที่ไม่มีความรู้ด้านเดียวกับเราเข้าใจได้
ต้องมีความรู้ เพราะทุกคนในนี้เป็นจอมยุทธ์ เค้าไม่ต้องการตัวถ่วง
ต้องนำได้ เค้าต้องการผู้นำเท่านั้น เพราะใครๆก็เป็นผู้ตามได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำได้
และเขาก็อธิบายว่า เวลาเขาถามเรื่องโปรเจกที่เราทำ สิ่งที่เข้าต้องการจากเราคือ
เรารู้ว่าโปรเจกของเราทำอะไร เราเป็นส่วนไหนของโปรเจก
ประมาณนี้ล่ะคะ ความจริงมีอีกเยอะ แต่นึกไม่ออกแล้ว
เป็นครึ่งชั่วโมงที่ยาวนานมากค่ะ

========================

ขอเข้ามาแชร์ประสบการณ์ด้วยคนนะครับ

ล่าสุดเพิ่งไปทำ group activity และ first interview กับบริษัท Schlumberger มาครับ (สดๆ ร้อนๆ เลย) หลังจากที่สมัครในเว็บไซต์ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้รับโทรศัพท์เรียกตัวก่อน หลังจากนั้นก็ได้รับ agenda ทาง e-mail ให้ไปทำ group activity อีกที

โดยรวมๆ แล้วก็เหมือนกับที่ข้างบนได้แชร์ประสบการณ์เอาไว้เลย แตกต่างกันในรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้นเอง แต่ขั้นตอนและวิธีการคัดเลือก แบบเดียวกันเป๊ะ !!

สิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วยแน่ๆ ก็คือ Updated CV/Resume และ Transcript และอีกอย่างที่ทุกคนต้องเตรียมไป ก็คือ Self-Presentation พูดง่ายๆ ก็คือ การแนะนำตัวเอง โดยใน agenda จะบอกเลยว่า ให้พูดได้ไม่เกิน 4 นาที และให้พูดครอบคลุมในหัวข้อหลักๆ คือ แนะนำตัวเองคร่าวๆ จุดแข็ง-จุดอ่อนอย่างละ 3 และเหตุผลที่ว่าทำไมถึงอยากทำตำแหน่งนี้

ไปวันแรก เขานัด 8 โมงเช้าที่ตึกรสา ก็รวมตัวกันที่ห้องประชุมที่เขาจัดเตรียมเอาไว้ ลงทะเบียน เซ็นชื่อ พร้อมติดป้ายชื่อตัวเองทั้งด้านหน้าขวาและด้านหลังเอาไว้ รอบนี้ ทั้งหมดก็ 22 คน (ถ้าจำไม่ผิด) มีทั้งที่สมัครตำแหน่ง GG และ FE (3 ใน 4 ที่มากันในวันนี้ สมัครตำแหน่ง FE) จากนั้นหัวหน้า HR ซึ่งเคยเป็น Field Engineer มาก่อน ก็เริ่ม presentation แนะนำบริษัท ประวัติความเป็นมา ตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ลักษณะงาน และอื่นๆ พอสังเขป จากนั้นก็ Q&A เปิดโอกาสให้แต่ละคนได้ซักถาม ใครอยากถามอะไร เขาเปิดโอกาสให้ถามได้เต็มที่ (ภาษาอังกฤษ)

ช่วง Q&A จบลง ก็พักเบรค 5 นาที แล้วเวลาที่น่าตื่นเต้นของแต่ละคนก็มาถึง โดยเขาให้ออกไป self-presentation กันทีละคน ต่อหน้าเพื่อนๆ รวมทั้ง HR และกรรมการคนอื่นๆ ที่เข้ามาฟังอีก 2-3 คน ซึ่งก็เรียงตามลำดับในลิสต์รายชื่อที่เขาให้เซ็นชื่อตอนลงทะเบียนนั่นเองครับ

เน้นย้ำเลยว่า ควรพูดให้อยู่ในช่วงเวลาไม่เกิน 4 นาที เพราะเขาจับเวลาด้วย ถ้าพูดเกิน เขาจะให้หยุดพูดและเรียกให้คนต่อไปขึ้นมาพูดทันที วันนั้น มีทั้งคนที่โดนให้หยุดพูดกลางคันเนื่องจากพูดเกินเวลา 4 ไปแล้ว แล้วก็มีคนที่โดนทัก เพราะแอบดูโน็ตที่จดลงบนฝ่ามือด้วย อ้อ เรื่องการให้เกียรติและเคารพเพื่อนคนอื่นๆ นั้นสำคัญมากนะครับ อย่าพูดคุยกันเด็ดขาด ตอนที่เพื่อนกำลังแนะนำตัวเองอยู่ เดี๋ยวโดนตำหนิได้นะครับ

พอแนะนำตัวกันครบทุกคน พักเบรคกัน 5 นาที แล้วก็มาถึงการทำ group activity เขาก็แบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม ให้ assignment มาทำ โดยเขาให้ทำการสร้างสะพานจากกระดาษ A4 (โดยเขาให้กระดาษมาทั้งหมด 30 แผ่น พร้อมสก็อตเทปใส 2 ม้วน และกรรไกร 2 อัน) เพื่อมารับน้ำหนักรถของเล่น ซึ่งรถจะต้องสามารถวิ่งได้จากจุดแรกสุดไปยังจุดปลายสุดของสะพานโดยที่สะพานต้องไม่ล้มเด็ดขาด และในส่วนของการให้คะแนนนั้น จะมีรายละเอียดการให้คะแนนหลายส่วนด้วยกัน เช่น หากสร้างสะพานได้สูงเท่าไรก็จะได้คะแนนโบนัสคูณเพิ่มเข้าไป หรือยิ่งกระดาษเหลือมากเท่าไร (พูดง่ายๆ ก็คือใช้กระดาษน้อยนั่นเอง) ก็จะได้คะแนนคูณเพิ่มเข้าไป (อย่างเยอะ) เป็นต้น จากนั้นก็สรุปคะแนน เพื่อหาทีมที่ชนะ

แรกเริ่ม ทางกรรมการเขาจะให้เวลาแต่ละกลุ่มช่วยกันคิดและช่วยกันออกแบบสะพานก่อน ประมาณ 10 นาที จากนั้นก็ส่งแบบที่สรุปออกมาแล้วให้กรรมการ จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะต้องช่วยกันสร้างสะพานตามแบบที่ร่างเอาไว้ ให้เวลาประมาณ 20 นาที พอเสร็จ ก็ถึงเวลาให้คะแนน และประกาศผลผู้ชนะ โดยช่วงที่ทำ group activity นี้ ทุกคนต้องสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเสนอความคิดเห็นใดๆ จะแย้งหรือว่าถกเถียงกัน อะไร ยังไง ก็ต้องพูดกันเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยกรรมการแต่ละคนจะเวียนมาคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา

ตอนแรกก็คิดว่าเสร็จแล้ว แต่เปล่าเลย พอหลังจากนั้น ก็มาถึงช่วงเวลาซักถาม โดยเขาจะให้กลุ่มอื่นๆ ออกไปรอข้างนอกห้องก่อน เหลือแต่กลุ่มที่โดนซักถามกับกรรมการเท่านั้น ซึ่งก็ยัังไม่ทันได้ตั้งตัวดี กรรมการก็เริ่มกันเลย ซักถามกันใหญ่ ใครทำอะไร ยังไง ใครเป็นคนออกไอเดียนี้ ช่วยกันมากน้อยแค่ไหน แล้วกลุ่มนี้มีผู้นำไหม แล้วใครกันที่เป็นผู้นำ ใครมีบทบาทเยอะที่สุด ใครมีบทบาทน้อยที่สุด ถ้าต้องเลือกคนออกจากทีม จะเลือกใครออก เพราะอะไร คนอื่นๆ เห็นด้วยไหม ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร แล้วคนที่โดนให้ออกคุณรู้สึกยังไง หรือถ้าจะต้องเลือกคนที่จะต้องทำงานด้วยกับคุณได้เพียง 2 คนเท่านั้น คุณจะเลือกใคร เพราะอะไร บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกม survivor อยู่ยังไงยังงั้น และแน่นอนทั้งหมดสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ

พอครบทุกกลุ่ม ก็ถึงช่วง wrap up และประกาศผลคนที่จะได้สัมภาษณ์รอบที่ 1 (ตามที่เขาแจ้งเอาไว้) ในช่วงบ่ายของวันนั้นและในช่วงเช้าวันถัดไป ซึ่งก็แน่นอนครับ ต้องมีทั้งคนที่ผ่านและคนที่ไม่ผ่าน

โชคดีที่ผมเป็นคนหนึ่งที่ผ่านเข้ารอบ บอกตรงๆ ก็งงพอสมควร เพราะจริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะผ่านด้วยซ้ำไป ผมก็ไม่รู้ว่าทางกรรมการพิจารณาหรือตัดสินจากอะไรนะครับ บางคนที่ผมคิดว่าเขาน่าจะผ่าน ก็กลับไม่ผ่าน (เช่น เพื่อนในกลุ่มผม หรือคนที่ผมคิดว่าเขาแนะนำตัวเองได้ดีตอน self-presentation) บางคนที่คิดว่าไม่น่าจะผ่าน แต่ก็ผ่าน (เช่น ผม เป็นต้น แหะๆๆ)

แต่จากการทำ group activity และตอนที่โดนกรรมการซักถามทีละกลุ่มนั้น ผมคิดเองว่าทางกรรมการเองคงไม่ต้องการคนที่มี ego สูงมาก หรือคนที่ submissive จนเกินไปแน่ๆ (ไม่รู้ว่าจะคิดถูกไหม แต่ผมคิดแบบนั้น)

พอมาถึงรอบสัมภาษณ์รอบที่ 1 ผมไม่เจอคำถามทางเทคนิคเลยในรอบนี้ แน่นอนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ 4 ต่อ 1 ก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์แอบเครียดและกังวล แต่พอเข้าไป ดูไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ ออกแนวสบายๆ ถามมาตอบไป (ผมว่า ผมเครียดช่วงโดนซักถามเป็นกลุ่มตอนทำ group activity มากกว่าอีก) จนพาลให้รู้สึกว่า เหมือนกรรมการเขาไม่ค่อยสนใจผมเท่าไรเลย เพราะสัมภาษณ์แป๊บเดียวน่าจะไม่ถึง 20 นาทีได้มั้งครับ (คนก่อนหน้าผม สัมภาษณ์นานมากๆ) แล้วเรื่องที่คุยก็ออกแนวทั่วไป ตอนนี้ทำอะไรมาบ้าง รู้อะไรเกี่ยวกับตำแหน่งนี้บ้างไหม และมีคำถามเชิงให้คิดวิเคราะห์ 2-3 คำถามเองได้มั้ง ก่อนจะออกจากห้อง เขาก็บอกว่า ให้รออาทิตย์นึง แล้วเขาถึงจะแจ้งให้ทราบว่าผ่านหรือไม่ ออกจากห้องสัมภาษณ์ ช่วงลงลิฟท์และตอนนั่งรถกลับ ก็คิดไปสะระตะ บ้างก็คิดว่าทำไมภาษาอังกฤษตัวเองไม่ค่อยดีเท่าที่ควร บ้างก็คิดว่าตอบคำถามได้ไม่ดีเลย ทำไมไปตอบแบบนั้น ไม่ตอบแบบนี้ หรือเสริมประเด็นนั้นเข้าไปอีก (คือแบบ ผมเพิ่งคิดออกหลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จไปแล้ว 555) บ้างก็คิดเลยเถิดไปว่า สงสัยคงไม่ผ่านเข้ารอบต่อไปแน่ๆ เฮ้ออออ กลุ้มได้อีก แต่ยังไง ผมก็ถือว่าได้ทำเต็มที่และทำดีที่สุดแล้วครับ...

ตอนนี้ ก็รอฟังผลอย่างเดียวครับ Wish me luck !!!

ท้ายที่สุดนี้ ขอขอบคุณ พี่ Nong Fern Daddy มากๆ นะครับ สำหรับ Blog ดีๆ และเป็นประโยชน์มากๆ แบบนี้ รวมไปถึงขอบคุณประสบการณ์ของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนอื่นๆ ที่ได้ร่วมแบ่งปันกันผ่าน Blog นี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณจากใจจริงครับ...

=============================

สัมภาษณ์วันที่ 25/11/2010 ตำแหน่ง wireline field engineer บ. Weatherford

(น้องคนนี้ปัจจุบันเป็น mud logger)

วันนี้ไปสัมภาษณ์มาแล้วครับ เป็นการสัมภาษณ์รอบแรกน่ะครับ สัมภาษณ์กับคนต่างชาติครับ ยังไม่มีคำถามวิชาการครับ โดนถามว่ารู้อะไรเกี่ยวกับoil fieldบ้าง ทำไมถึงอยากจะทำงานตำแหน่งนี้ ทำงานที่เก่าทำอะไรบ้าง รู้ไหมว่างานตำแหน่งนี้เป็นอย่างไร มีความสุขกับที่ทำงานปัจจุบันไหม ถ้าให้ย้ายมาทำตำแหน่งเดิมที่บริษัทนี้เอาไหม ประมาณนี้แหล่ะครับ แล้วเค้าก็บอกว่าถ้าได้สัมภาษณ์รอบสองเค้าจะติดต่อกลับมาใหม่ครับ

========================

ตรงนี้เป็นเคล็ดวิชา ผมแทรกไว้เองครับ

เวลาจะบอกว่า เรารู้อะไรสักอย่าง หรือ ชำนาญอะไรสักอย่าง ส่วนมากประโยคมาตราฐานของเด็กไทยเราคือ I know a lot หรือ ไม่ก็ very much ซึ่งไม่ผิด แต่จะฟังดูติดๆโอ้อวดไปนิด ถ้าจะให้ฟังดูถ่อมๆตัวนิด แต่ไม่โกหก ผมมักจะใช้คำว่า I know quite a bit แทน

quite แปลว่ามากพอควร a bit แปลว่า นิดเดียว คือมันจะขัดๆกันเองนิดๆ แต่มันเป็นสำนวนมากกว่า แปลว่ารู้พอสมควร ซึ่งเจ้าของภาษาฟังแล้วจะเข้าใจว่า คนนี้รู้แต่ถ่อมตัวนิดๆ ก็ฝากเอาไว้ใช้กันนะครับ

ปล. ถ้าใครจบอักษรศาสตร์เอกอังกฤษผ่านมาเห็นว่าผมเข้าใจผิด กรุณาชี้แนะด้วยนะครับ เพราะผมแนะนำจากประสบการณ์ความรู้สึกที่ใช้ภาษาฯหากินมา 23 ปี ผมและเพื่อนเจ้าของภาษาผมเข้าใจประมาณนี้น่ะครับ ไม่ได้เรียนอะไรมาจริงจัง จะว่าไปภาษาอังกฤษผมพัฒนามาจากระดับไกด์ผีจับแขกดอนเมืองก็คงไม่ผิด - พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร

---------------------------------------

บ. Weatherford ตำแหน่ง Wireline field engineer / technology วันที่ 25/11/2010

วันนี้ผมไปสัมภาษณ์ที่ weatherford มาเมื่อตอนบ่ายสดๆร้อนๆเลยครับ ไปถึงเขาก็ให้นั่งรอในห้องประชุม เจอเพื่อนๆพี่ๆ(ที่ไปสัมภาษณ์) คุยกันสนุกสนานเลยครับเป็นกันเอง (หลายคนบอกว่ามาจากบอร์ดของพี่) ไม่รู้สึกว่าแข่งขันกันเลยครับ พอถึงคิวผมเข้าไป เจอฝรั่งเป็นคนสัมภาษณ์ครับ เป็นกันเอง เฮฮา ไม่มีแนะนำตัวภาษาอังกฤษ

คำถามแรกถามว่าทำมัยถึงอยากทำ wireline technology ผมก้งงสิครับ เพราะผมสมัคร wireline engineer ผมก้บอกคำว่าผมอยากทำอันนี้ๆๆ แล้วเค้าก้บอกว่าผมน่าจะเหมาะกับ wireline technology เพราะเรียนมาด้านไฟฟ้า ผมก้ถามข้อแตกกต่างระหว่าง wireline eng กับ technology เค้าบอกว่า tech เตรียมอุปกรณ์ไว้ให้ eng ทำงาน แล้วเงินเดือนสูงกว่า

ผมก็ถามเรื่อง career path เค้าบอกเหมือนกัน แล้วก้ถามว่ามีอะไรจะถามไหม ผมก็ถามไปบลาๆๆ แล้วเค้าก้บอกว่าวันนี้เรียกว่าคุยเล่นๆ จะเรียกรอบสองอาทิตย์หน้า จะเป็นด้านเทคนิคแล้ว
สุดท้ายก่อนออกผมเหลือไปเห็นรูปแท่นกางทะเลที่ไหม้ ผมก้เลยถามว่าที่ไหนเค้าบอกออสเตรเลีย ของสผ เป็นการคุยเล่นๆๆเหมือนเรียกมาดูตัวอะครับ ประมาณ15นาที (ยินดีมาก ถ้าพี่นกจะนำไปเผยแพร่เพื่อนๆในเวป) อ่อแล้วเมื่อวานผมสอบ halliburton เค้ามาจัดสอบที่ลาดกระบังอะครับ ข้อสอบเหมือนที่เพื่อนๆที่มาโพสไว้เลยต่างแค่ไม่มีแปลบทความอะครับ

============================================

บ. IAESTE //www.iaeste-thailand.org/
The International Association for the Exchange of Students for Technical Experience
โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษานานาชาติเพื่อการฝึกงานด้านเทคนิคประจำประเทศไทย (ไอเอสเต้ประเทศไทย)

สัมภาษณ์กับคนไทยค่ะ แต่เป็นภาษาอังกฤษ แกรมม่งแกรมม่า ถึงตรงนั้นก็ลืมหมด เอาเป็นว่าพูดให้เค้ารู้เรื่องพอ เค้าก็ถามว่าชื่อนี้ใช่ไหม จบมาจากไหนละ major อ่ะไร (เหมือนเค้าจะไม่ค่อยสบาย จึงถามเขาไปว่า หนาวหรอ เค้าก็บอกว่าใช่ แล้วถามหนูกลับ หนูก็เลยบอกไปว่าไม่ค่ะ เพราะมีแจ็คเก็ต)แล้วเราก็เข้าเรื่องต่อ เริ่มทำ thesis รึยัง คิดว่าจะทำเรื่องอะไร รู้จักโครงการเค้าจากไหน ทำกิจกรรมอะไรบ้าง แบ่งเวลายังไง ครอบครัวเป็นยังไง รู้อะไรเกี่ยวกับน้ำมันบ้าง (หนูสมัคร oil technology) เราก็เริ่มคร่าวๆ ว่าเจอน้ำมันยังไง ชั้นหินไรก็ว่าไป ได้มาแล้วไปล้างเกลือ blah blah เข้าหอกลั่นแยก แล้วเค้าก็ถามว่า อะไรที่ risk ในขั้นนี้ (คำถามนี้หนูตอบตั้งแต่เค้ายังถามไม่จบเลย ว่าsulfer เค้าก็แบบว่า อึ้งไปแบบนึงว่า ประมาณว่าหนูจะรีบไปไหน 555) เท่านี้แหละที่เค้าถามหนู

มาส่วนที่หนูถามเค้าบ้าง เค้าจะหางานให้เราได้เมื่อไร เราเลือกช่วงเวลาทำได้ไหม ถ้าเรามีปัญหาจะทำยังไง ถ้า accident จริงๆ เค้าจะช่วยเราไหม เค้าจะปล่อยเราลอยแพรึป่าว จะเป็นไปได้ไหมว่าถ้าหนูจะเลือกฝึกงานให้ตรงกับปิดเทอม แล้วเค้าก็เกริ่นเรื่องเตาเผาsulfer (หนูรู้สึกว่าเหมือนเค้าจะถามหนู แต่หนูรู้ตัวว่าตอบไม่ได้แน่ๆ เลยชิงถามเค้าไปก่อน) เตาเผานี้มันเกิด pollution ไหม มันเผาหมดจริงรึเปล่า คุณคิดว่า เค้าโกหกเราไหม ว่ามันจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แล้ว เราจะได้อะไรกับเตาอันนี้ เราเอามันไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง สุดท้าย หนูก็ถามประมาณว่า คุณเป็นอาจารย์รึป่าวคะ ที่ไหน สอนเอกอะไร จบทางด้านไหมมาประมาณนี้อ่ะคะ

ปล.ขอบคุณคนสัมภาษณ์ด้วยค่ะ สนุกมาก คิดซะว่าไปหาเพื่อนใหม่ เราจะได้ไหม่เกร็ง

===============================

ตำแหน่งด้าน safety บ. MI-Swaco (บ.น้ำโคลนของ SLB) สัมภาษณ์ราวๆปลาย พ.ย. 2510

1 รู้จัก MI SWACO ไหม ทำอะไร
2 รู้จัก MSDS ไหม
3 ในการ implement ระบบ HSE ทำยังไง
4 เคย present by using power point ให้กับลูกค้าบ้างไหม
5 ถ้าเดินไปเห็น คน 2 คน 1ในนั้นไม่สวม PPE คุณจะทำอย่างไร
6 เคยทำระบบการจัดการคุณภาพไหม ทำอะไรบ้าง
7 ยกตัวอย่างการปรับปรุงเรื่อง hse ที่เคยทำ
8 ถ้าเลือกตำแหน่งในองค์กรนี้ได้ อยากทำส่วนไหน (ไม่พลาด คำถามนี้พี่นกติว ฮ่าๆ เก็ง แม่นมาก)
9 บ้านอยู่ไหน

(MSDS = Material SafetyData Sheet จะบอกว่าสารเคมีนั้นๆประกอบด้วยอะไร ปฐมพยาบาลยังไง คล้ายๆฉลากติดกระป๋องยาฆ่าหญ้า แต่มีมาตราฐานมีองด์กรรับรองความถูกต้องของข้อมมูล, HES = Health Safety Environment ตรงตัว ไม่ต้องแปล, PPE = Personal Protective Equipment ก็พวก แว่นตา รองเท้าหัวเหล็ก หมวกกันน๊อค ถุงมือ ฯลฯ น่ะครับ)

===============================


(อีเมล์มาราวๆต้นธันวาคม 2010 ครับ ... พี่นก)

ผมเพิ่งได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ในตำแหน่ง Facilities Engineer Internship ที่ Chevron ครับ แล้วก็มีเรื่องจะถามนิดหน่อยจากการสัมภาษณ์น่ะครับ

ก่อนอื่นผมขอเล่าบรรยากาศคร่าวๆ ก่อนนะครับ กรรมการสัมภาษณ์มีสองคนครับ คนนึง เป็น Facilities Eng แล้วก็อีกคนเขาบอกว่าอยู่ฝ่าย Asset Reliability จำไม่ได้ว่าเป็นวิศวกรรึเปล่า แต่ก็น่าจะเป็น เพราะฟังจากการถามคำถามของเขาแล้ว เขาถามเกี่ยวกับวิศวกรรมได้หมดเลย เริ่มเขาก็ให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็พูดกันเป็นภาษาอังกฤษพักนึง หลังจากนั้นก็พูด
ไทยกัน โดยส่วนใหญ่เขาก็ถามเรื่องเกี่ยวกับวิชาเรียน ให้เขียนคำตอบบนฝาผนัง บางคำถาม ผมก็ตอบได้ บางคำถามก็ตอบไม่ได้ บางคำถามก็ตอบไปแต่มารู้ตอนหลังว่าผิด แต่รวมๆแล้ว
ก็คิดว่าตอบได้เป็นส่วนใหญ่ เสร็จแล้วเขาก็ให้ตั้งคำถาม ผมก็ถามเกี่ยวกับบริษัท แล้วก็ลักษณะ ของงานที่จะได้ไปฝึก รวมๆแล้วก็ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

คำถามแรกคือว่า ฝ่าย Asset Reliability นี่เขาทำอะไรกันครับ คือผมก็ถามเขาแล้วแต่จับประเด็นไม่ได้หมด อีกคำถามก็ เกี่ยวกับการตอบคำถามของผมเนี่ย ที่ตอบได้ก็ดีอยู่ แต่ที่ตอบไม่ได้หรือตอบผิดเนี่ย มันจะมีผลมากมั้ยครับ หรือมันขึ้นอยู่กับกรรมการ ประเด็นคือ Chevron นี่เป็นที่สุดท้ายแล้วครับ ที่อื่นอย่าง ปตท.สผ. ก็ไม่ได้ไปสอบเพราะติดสอบปลายภาค ตอนเริ่มจะกังวลแล้วครับ ว่าจะได้หรือไม่ได้ อีกข้อคือ การถามคำถามพวกนี้หลักๆแล้วเป็นการวัดอะไร ความรู้ที่เรียน หรือปฏิกิริยาในการตอบหรือเป็นอย่างอื่นครับ

ในฐานะที่พี่นกก็เคยเป็นกรรมการสัมภาษณ์มาก่อน พี่นกมีความเห็นยังไงครับ รบกวนด้วยนะครับ

ปล. ตกลงแล้วพี่นกทำงานอยู่ที่ Chevron รึเปล่าครับ จากการอ่าน blog มาหลายครั้งผมก็ลองเดาดู หรือถ้าไม่ใช่ผมค่อยลองเดาใหม่คราวหน้าก็ได้ครับ


ขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลและบรรยากาศการสัมภาษณ์นะครับ

ฝ่าย Asset Reliability นี่เขาทำอะไรกันครับ - จนปัญญาครับ เพราะผมอยู่ฝั่ง subsurface เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของ surface facility ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นเรื่องความน่าไว้ใจได้ ความน่าเชื่อถือได้ (ว่าจะเป็นตามที่ออกแบบ) เช่น ระบบโรงแยกนี้ (ซึ่งเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง)ออกแบบมาให้รับน้ำมันดิบได้ 100 บาเรล ต่อวัน ถ้าเขย่งเต็มที่แล้วน่าจะได้ 120 บาเรล แต่ไม่น่าจะต่ำกว่า 80 บาเรลในกรณีถ้ามีองค์ประกอบบางตัวไม่ทำงาน ... พูดง่ายๆว่าสเป็คของนั่นแหละ แล้วในความเป็นจริงมันได้ตามนั้นไหม ถ้าได้ตามนั้นก็ถือว่า Reliability ดี คนคุมนอนหลับสนิทได้ แต่ถ้ามันผีเข้าผีออก คนคุมก็นอนผวาต้องตื่นมากลางดึก ซึ่ง reliability นี้มันเป็นฟังก์ชั่นกับงบฯซ่อมบำรุง คราวนี้มันก็ต้องตัดสินใจให้สมดุลระหว่าง ก. จะทุ่มสุดๆแล้วไม่ให้มันเจ๊งเลย หรือ ข. ทุ่มแต่พอดีแล้วให้มันเจ๊งได้บ้าง ยอมออกค่าซ่อม และเสียโอกาสการผลิตหรือการใช้งานทรัยพ์สินนั้นบ้าง ก็เลือกเอา ก.หรือ ข.ที่ถูกที่สุด ทั้งหมดนี่พูดง่าย แต่ทำจริงๆต้องใช้ข้อมูลทางวิศวกรรม สถิติขั้นสูงการวิเคราะห์เชิงปริมาณ และ การบริหารจัดการ ตามลิงค์นี้ไปล่ะกัน ผมก็มั่วๆไปตามที่เข้าใจนะครับ //www.focusmg.com/services/assetreliabilitymanagement.aspx

ตอบผิดเนี่ย มันจะมีผลมากมั้ยครับ - ขึ้นอยู่กับว่าคนถามคาดว่าคำถามนั้นคุณควรรู้ไหม กรณีเด็กจบใหม่อย่างคุณ (เดาว่ายังไม่จบเพราะบอกว่าติดสอบปลายภาค) ถ้าตอบไม่ได้ในเรื่องพื้นๆของสาขาคุณนี่มีผลแน่ๆครับ เช่น จบเครื่องกลแล้วอธิบายกฏของนิวตัน กฏของเทอร์โมฯและการนำเอาไปใช้ไม่ได้เนี่ย หรือจบไฟฟ้า ตอบผมเรื่องกฏของโอห์ม โวลท์ แอมแปร์ แมกเวล ไม่ได้ เป็นผม ผมไม่รับเลยนะครับ เพราะถือว่าเป็นหัวใจของสาขาที่คุณจบ แต่ถ้าเป็นคำถามเกี่ยงกับงานหรืออื่นๆ ผมเฉยๆ เพราะถือว่าคุณไม่เคยทำไม่เรียนมาจะรู้ได้ไง

คือมันมี 3 ระดับในสายตาผม ก.ต้องรู้หรือควรรู้ ข.น่าจะรู้ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ค.ถ้ารู้แปลว่าขนคว้าทำการบ้านมาดี มันขั้นกับว่าที่คุณตอบผิดมันเป็นคำถามไหนครับ

การถามคำถามพวกนี้หลักๆแล้วเป็นการวัดอะไร ความรู้ที่เรียน หรือปฏิกิริยาในการตอบหรือเป็นอย่างอื่นครับ - อย่าที่ผมตอบไว้นะครับ ขึ้นกับคำถามครับ บางคำถามเนี่ยถ้าไม่รู้ไม่รับเลยเช่นตัวอย่างที่ผ่านมา บางคำถามก็แกล้งถามให้ยากเข้าไว้ เอาว่าเด็กไม่รู้แน่ๆ แต่อยากจะดูว่าจะรับมืออย่างไร จะแถ จะเดา จะดำน้ำบุ๋มๆ จะยอมรับว่าไม่ได้แล้วไม่ตอบ ยอมรับว่าไม่ได้แต่บอกว่าขอเดา หรือไม่รู้ไม่ชี้แถแหลก คือมันหลายแนว ไม่ใช่ว่าพวกแถแหลกจะไม่ดี แต่เหมาะหรือไม่เหมาะกับบางงานต่างหากครับ

พี่นกทำงานอยู่ที่ Chevron รึเปล่าครับ - ฮ่าๆ เดาไปเรื่อยๆถึงเดาถูกก็ไม่รับอยู่ดีครับ มีที่บ.ผมรับเข้าใหม่ 2-3 คน มาทำงานนั่งโต๊ะข้างๆผมเป็นเดือน เพิ่งรู้ว่าผมคือคนเขียนบล๊อกนี้ที่ตามอ่านมาเป็นปี มาขอบอกขอบใจ เสียงดังจนผมต้องรีบลากไปอุดปากที่ห้องชงกาแฟ ที่รู้เพราะผมดันตั้ง screen saver นานไปหน่อย อัพบล๊อกแล้วไปฉี่ไปชงกาแฟ เปิดจอค้างไว้ เด็กๆมันเดินมาเจอ (ไม่งั้นก็คงไม่รู้ไปอีกนาน) แต่ตอนนี้ตั้งให้เหลือ 2 นาทีแล้วครับ แล้วหมั่นกด ctrl-alt-del ก่อนไปฉี่ หุหุ

=======================================

Facility Technologist ของ Chevron สัมภาษณ์ไปเมื่อ กลางเดือน มกราคม ปี 2011

Technologist ซึ่งเป็น Engineer assistant ของแผนก Facilities engineering จ้างเป็น yearly contract คือไม่ใช่พนักงานประจำอะค่ะ งานก็จะเป็นเกี่ยวกับงานเอกสารซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ว่าก็มีโอกาสได้รับผิดชอบงานด้าน engineering เหมือนกัน พี่เค้าอธิบายว่าการมอบหมายงานจะขึ้นกับความสามารถเป็นหลักอะค่ะ คือถ้าเค้าเห็นว่าสามารถทำได้ งานก็จะมี scope ใกล้เคียงกับ Facilities engineer

การสัมภาษณ์รอบแรก ตามธรรมเนียมก็จะให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษก่อนค่ะ ส่วนคำถามอื่นๆจะเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา คือหนูเคยเป็น process engineer ที่ xxx มาก่อนค่ะ แล้วก้อเคยมีประสบการณ์ commissioning ที่ไซต์มาแล้ว ส่วนด้านเทคนิคอลไม่ได้ลงลึกเลยค่ะ คำถามส่วนใหญ่เลยจะเป็นเกี่ยวกับงาน project ที่เคยทำ และคำถามเรื่องงาน commissioning ค่ะ แล้วก็คำถามเกี่ยวกับ attitude แทรกด้วยค่ะ

คำถามก้อมีถามว่า
คุณเคยมีความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานหรือเปล่า แล้วคุณแก้ปัญหายังไง
แล้วก็ช่วงที่คุณทำงานเบื่อเรื่องอะไรบ้างไหม แล้วคุณทำยังไง
ก็เลยตอบเค้าไปว่า XXX
เค้าบอกว่าแล้วคุณรู้สึกยังไง เพราะงานที่นี่ก็มีการเปลี่ยน requirement บ่อยเหมือนกันนะ

การสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยตลอดค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าพี่เค้าเข้าใจว่าหนูภาษาอังกฤษค่อนข้างใช้ได้จากการแนะนำตัวอะค่ะ อิอิ เวลาที่ใช้ในการสัมภาษณ์ประมาณ 50 นาทีค่ะ

ส่วนรอบสองที่เข้าไป ก็เข้าใจผิดอีกค่ะ คือพี่เค้าเรียกไปเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันเรื่อง scope ของงานอะค่ะ ไม่ได้มีการสัมภาษณ์เพิ่มเติม เพราะกลัวว่างานที่ได้รับมอบหมายอาจจะไม่ตรงกับความคาดหวังค่ะ แล้วเค้าก้อให้เวลากลับไปตัดสินใจค่ะว่าจะรับงานนี้รึป่าว

ขอบคุณน้องคนนี้ด้วยนะครับ ที่นำมาแบ่งปันกัน ตำแหน่งนี้สมัครกันบ่อยมากๆ - พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร

================================

(ของน้องคนนี้ไม่เกี่ยวกับวงการเรา แต่เป็นการขอทุนไปฝึกงานกับมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น)

สัมภาษณ์ไปฝึกงาน กับ TOKAI U. ประเทศญี่ปุ่นจ๊ะ เป็นเวลาหนึ่งเดือน

คำถามก็ออกแนวเดิมๆเหมือนที่สัมภาษณ์ผ่านๆมาทุกที่ คือ ไหนลองแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษซิ
รู้อะไรเกี่ยวกับโครงการนี้บ้าง
แล้วอยากไปฝึกด้านไหน (เค้าให้เขียนไปในใบสมัครไปแล้ว สามเรื่อง)
พูดญี่ปุ่นได้ไหม
ทำไมถึงอยากไปญี่ปุ่นล่ะ
คาดหวังว่าจะได้อะไรจากการไปฝึกครั้งนี้

แล้วก็ถึงเวลาที่หนูสัมภาษณ์เค้าบ้างล่ะ

ไปช่วงไหน ระบุวันแน่นอนได้รึป่าว วีซ่าใครดำเนินให้ ตั๋วล่ะ ต้องเตรียมเองไหม
ที่อยู่ล่ะ อยู่ยังไง กับใคร ต้องจ่ายค่าไรเพิ่มบ้าง ต้องทำสัญญารึเปล่า แล้วเรื่องประกันล่ะ
ถ้าหนู Accident จริงๆ ทำยังไง ติดต่อใคร มีอาจารย์ไปด้วยรึป่าว
อาจารย์อยู่จนจบโครงการไหม มีข้อผูกพันธ์อะไรบ้าง Blah Blah Bla.....

=================================

Chevronตำแหน่งfacility engineer(mechanical engineer)รอบที่สอง ราวๆปลาย กพ. 2011

สัมภาษณ์ไปประมาณชั่วโมงนิดๆกับชาวอเมริกันสองคนครับ อายุประมาณ30กว่าและ40กว่า

เริ่มมาเค้าก็แนะนำตัวเองก่อนแล้วต่อด้วยให้ผมแนะนำตัวเองตาม resumeพอพูดๆไปได้ไม่ถึงสองนาทีก็โดนตัดบทถามเลยครับ ส่วนมากจะถามตามresumeเลยครับ เขียนอะไรไปเค้าก็ถามตามนั้นเลย

ตอนแรกก็สงสัยว่าเอ๊ะทำไมออกแนววิชาการจัง แต่จริงๆแล้วคำถามมันแฝงให้เราตอบเชิงความคิด เค้าคงจะดูความคิดในการแก้มากว่าทฤษฎีในการแก้ครับ

โดนถามเรื่องหลักๆอยู่สองเรื่องคือเรื่องฝึกงานกับ senior project ครับ แต่จะออกไปแนววิธีการ deal กับคนมาก ผมก็เล่าไปตามที่ตัวเองเคยเจอเลยครับ ปิดท้ายคำถามด้วย why chevor....why don't ptt แล้วก็จบครับ

=========================

Production operator ของบริษัท PTTEP ปลายเดือน กพ. 2011

1.ให้แนะนำตัวเปนภาษาอังกฤษ
2.ถามเกี่ยวกับครอบครัว แล้วก็เวลาว่างชอบทำอะไร ภาษาอังกฤษ
3.ถามเป็นภาษาไทย เกี่ยวกับงานที่เคยฝึกมาอะคับ
4.ถามกิจกรรมที่เคยทำตอนอยู่มหาวิทยาลัย
5.ให้อธิบายว่างานนี้ทำอะไรในความเข้าใจของเรา
6.ถามว่าวางแผนในอนาคตอย่างไร เรียนต่อไหมกี่ปี เรียนต่อ ต่อด้านไหน ทำไม
7.ถามว่าทำไมเลือกเรียนสายนี้ แล้วทำอยากทำงานสายนี้
8.ถามเราว่ายอมรับได้ไหมว่า ตน นี้ ไม่ค่อยมี แคเรียพาท ต้องใช้เวลานาน หรืออาจจะไม่มีเลย
9.มีคำถามจะถามไหม?

ครับเท่าที่ผมจำได้ก็จะมีประมาณนี้ แล้ว เขาก็อธิบายเกี่ยวกับงานจริงๆให้ฟังว่า ทำอะไรบ้าง บอกเพิ่มตรงที่ผมอธิบายผิด

เนื้อหาเกี่ยวเนื่อง คลิ๊กเลยครับ

งานวิศวกรสนาม (field engineer) ... เขาสัมภาษณ์อะไรกันนักกันหนา - ตอบอย่างไรให้โดนใจ

ผลการสำรวจเงินเดือนวิศวกรประจำปี 2552

มนุษย์เงินเดือน - ทำไมเงินเดือนของแต่ล่ะตำแหน่งแต่ล่ะงานในบ.ไม่เท่ากัน

CV กับ จดหมายสมัครงาน : เขียนกันยังไงให้เป็นสับปะรด

สาวไหนอยากส่งพ่อเจ้าประคุณออกมาทำงานที่นี่ โปรดตรวจสอบคุณสมบัติพ่อตัวดีตามนี้ก่อนนะครับ

ข้อดีของการทำงานแบบเป็นกะนอกชายฝั่งทะเล เอ้า ! ... แฟนใครทำงานแบบนี้รีบมาอ่านนะ

อ่านต่อเลือกคลิ๊กกันเลยครับ
=> FAQ #1 FAQ #2 FAQ #3 FAQ #4 FAQ #5 FAQ #6 FAQ #7 FAQ #8 FAQ #9 FAQ #10 FAQ #11
FAQ #12 FAQ #13 FAQ #14 FAQ #15 FAQ #16 FAQ #17 FAQ #18

ห้องสมุดเล็กๆของผม <=== คลิ๊ก
รวบรวมตำราการขุดเจาะ คลิ๊ปการทำงานในบางตำแหน่ง แบบประเมินความเหมาะสมกับงานในสนามเบื้องต้น วิธีเขียน resume ที่ไม่โดนโยนทิ้งตะกร้า รายชื่อบริษัทฯในวงการ และ อื่นๆอีกมากมาย


มีคลิปการทำงานของบางตำแหน่งให้ดูเป็นน้ำจิ้ม มีตำราวิศวกรการขุดเจาะให้ดาว์โหลดเป็นบทๆ มีความหวังดีและเอื้ออาทรเสมอ ถ้ารู้สึกขอบคุณ ไม่ต้องตอบแทนอะไรผม แค่คุณจะแบ่งปันสิ่งที่คุณมีให้คนอื่นต่อไป ผมก็รู้สึกว่าคุณได้ตอบแทนผมแล้ว


Create Date : 10 มิถุนายน 2553
Last Update : 12 เมษายน 2556 15:37:06 น. 39 comments
Counter : 3518 Pageviews.

 

หวัดดีตอนเย็นๆ ค่า อิอิ^^



โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:18:32:55 น.  

 
รบกวนถามพี่ๆหน่อยค่ะ คือหนูจะไปสัมภาษณ์ที่ Weatherford ตำแหน่ง Application Engineer ซึ่งหนูต้องเตรียมตัวสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ค่ะ หนุไม่ทราบว่าจะหาเนื้อหาอ่านเรื่องอะไร ตรงไหน และอยากรู้ว่าตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้างค่ะ รบกวนพี่ช่วยตอบหน่อยนะคะ
นอกจากนี้แล้วหนูลองหาข้อมูลพบว่าตำแหน่งนี้จะต้องรู้เกี่ยวกับ
1. Well Construction Products
2. Control Pressure Drilling and Testing
3. Engineered Chemistry
4. Intervention and Drilling Solutions
5. Cased Hole Completion
ซึ่งจากหัวข้อพวกนี้ หนูไม่ทราบค่ะว่าต้องอ่านเนื้อหาจากตรงไหน รบกวนพี่ช่วยให้ความรู้และคำแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ


โดย: ABC IP: 125.27.170.145 วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:13:57:08 น.  

 
ตอบคุณ ABC - ตอบไว้ที่ FAQ#16 นะครับ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=05-06-2010&group=6&gblog=55


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:19:50:34 น.  

 
อยู่ใน 25 คนวันนั้นเหมือนกันครับ ตอนนี้อยู่พิษณุโลกทำ field exposure อยู่ครับ อยากรู้ว่าคนอื่นเปนยังไงบ้าง


โดย: ^^ IP: 124.157.233.52 วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:21:34:38 น.  

 
หวัดดีคับ พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร
ตอนนี้ผมเรียนปี4อยุ๋วิศวะครับ
ผมอยากทราบว่าสมัครงานผ่านเอเย่นเนี่ยทำไงครับอยากไปทำงานเมืองนอกครับ รบกวนช่วยทีครับ
อันนี้เมลผมครับ grikt@hotmail.com


โดย: grikt IP: 58.9.176.128 วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:21:06:30 น.  

 
ตอบคุณ ^^ - แหม มีกัน 5 คนถ้วนอย่างที่เพื่อนเล่าให้ฟัง ป่านนี้คงคงกอดคอตีเข่าเขย่าแก้วเบียร์กระป๋องกันเสียผู้เสียคนกันอยู่ที่โน้นแล้วมัง ฮ่าๆ ... ส่วนอีก 20 คนก็คงต่างคนต่างไป

ตอบคุณ grikt - ไปตอบใน FAQ 16 ล่ะกันครับ คำถามนี้น่าตอบในวงกว้าง จะได้ประโยชน์ทั่วๆกัน


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:15:49:16 น.  

 
พี่คะ รบกวนอีกครั้งนะคะ
1.น้องสงสัยว่า weatherford กับ weatherford,KSP มันบริษัท เดียวกันรึป่าวคะ
2.ปิโตร วิดยา ลาดกระบัง ยื่นฝึกงานแนว field engineerได้ป่าวอ่ะคะ หรือพี่ว่าควรยื่นแนวไหน แนะนำด้วยจ้า


โดย: kinobuli IP: 161.246.25.222, 161.246.254.167 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:16:15:03 น.  

 
ตอบคุณ kinobuli - อยู่ใน FAQ16 นะครับ คำถามดีแบบนี้ต้องแบ่งปัน

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=05-06-2010&group=6&gblog=55


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:22:09:22 น.  

 
อยากรู้ว่า Drilling School สัมภาษณ์ ยังไง บ้างอะค่ะ


โดย: narakjung IP: 58.64.77.75 วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:51:19 น.  

 
ตอบคุณ narakjung - ยังไม่มีใครเอามาแบ่งปันกันเลยครับ ต้องรอคุณ narakjung แล้วล่ะครับ ไปแล้วเจออะไรก็เล่าสู่กันฟังหน่อยนะครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:55:33 น.  

 
ค่ะ ถ้าได้อะไรมา แล้วจะเอามาแชร์ให้ฟังนะค่ะ แต่ถ้าเป็นไปได้ อยากให้รุ่นที่เรียนก่อนหน้า นี้มาแชร์ให้ฟังหน่อยอะค่ะ เพราะตอนนี้ ไม่รู้จะเตรียมตัวยังไงดีอะค่ะ


โดย: narakjung IP: 58.64.77.75 วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:59:21 น.  

 
มีใครสัมภาษณ์ pttep บ้าง


โดย: gikrt IP: 61.90.84.60 วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:26:37 น.  

 
ตอบคุณ gikrt - ยังไม่มีเลยครับ ถ้ามีแล้วรับรองไม่งุบงิบ เอามาลงที่นี่แน่ๆครับ หมั่นมาดูเป็นระยะๆก็แล้วกันครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:58:21 น.  

 
น้องเคยไปอยู่ Toleo, OH คิดว่าเป็นเมืองที่สงบเมืองหนึ่งเลยละ ไม่กันดารเท่าไร ยังอยากไปอีกเลยค่า ^^


โดย: kionbuli IP: 161.246.25.222, 161.246.254.167 วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:14:01 น.  

 
ขอเข้ามาแชร์ประสบการณ์ด้วยคนนะครับ

ล่าสุดเพิ่งไปทำ group activity และ first interview กับบริษัท Schlumberger มาครับ (สดๆ ร้อนๆ เลย) หลังจากที่สมัครในเว็บไซต์ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้รับโทรศัพท์เรียกตัวก่อน หลังจากนั้นก็ได้รับ agenda ทาง e-mail ให้ไปทำ group activity อีกที

โดยรวมๆ แล้วก็เหมือนกับที่ข้างบนได้แชร์ประสบการณ์เอาไว้เลย แตกต่างกันในรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้นเอง แต่ขั้นตอนและวิธีการคัดเลือก แบบเดียวกันเป๊ะ !!

สิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วยแน่ๆ ก็คือ Updated CV/Resume และ Transcript และอีกอย่างที่ทุกคนต้องเตรียมไป ก็คือ Self-Presentation พูดง่ายๆ ก็คือ การแนะนำตัวเอง โดยใน agenda จะบอกเลยว่า ให้พูดได้ไม่เกิน 4 นาที และให้พูดครอบคลุมในหัวข้อหลักๆ คือ แนะนำตัวเองคร่าวๆ จุดแข็ง-จุดอ่อนอย่างละ 3 และเหตุผลที่ว่าทำไมถึงอยากทำตำแหน่งนี้

ไปวันแรก เขานัด 8 โมงเช้าที่ตึกรสา ก็รวมตัวกันที่ห้องประชุมที่เขาจัดเตรียมเอาไว้ ลงทะเบียน เซ็นชื่อ พร้อมติดป้ายชื่อตัวเองทั้งด้านหน้าขวาและด้านหลังเอาไว้ รอบนี้ ทั้งหมดก็ 22 คน (ถ้าจำไม่ผิด) มีทั้งที่สมัครตำแหน่ง GG และ FE (3 ใน 4 ที่มากันในวันนี้ สมัครตำแหน่ง FE) จากนั้นหัวหน้า HR ซึ่งเคยเป็น Field Engineer มาก่อน ก็เริ่ม presentation แนะนำบริษัท ประวัติความเป็นมา ตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ลักษณะงาน และอื่นๆ พอสังเขป จากนั้นก็ Q&A เปิดโอกาสให้แต่ละคนได้ซักถาม ใครอยากถามอะไร เขาเปิดโอกาสให้ถามได้เต็มที่ (ภาษาอังกฤษ)

ช่วง Q&A จบลง ก็พักเบรค 5 นาที แล้วเวลาที่น่าตื่นเต้นของแต่ละคนก็มาถึง โดยเขาให้ออกไป self-presentation กันทีละคน ต่อหน้าเพื่อนๆ รวมทั้ง HR และกรรมการคนอื่นๆ ที่เข้ามาฟังอีก 2-3 คน ซึ่งก็เรียงตามลำดับในลิสต์รายชื่อที่เขาให้เซ็นชื่อตอนลงทะเบียนนั่นเองครับ

เน้นย้ำเลยว่า ควรพูดให้อยู่ในช่วงเวลาไม่เกิน 4 นาที เพราะเขาจับเวลาด้วย ถ้าพูดเกิน เขาจะให้หยุดพูดและเรียกให้คนต่อไปขึ้นมาพูดทันที วันนั้น มีทั้งคนที่โดนให้หยุดพูดกลางคันเนื่องจากพูดเกินเวลา 4 ไปแล้ว แล้วก็มีคนที่โดนทัก เพราะแอบดูโน็ตที่จดลงบนฝ่ามือด้วย อ้อ เรื่องการให้เกียรติและเคารพเพื่อนคนอื่นๆ นั้นสำคัญมากนะครับ อย่าพูดคุยกันเด็ดขาด ตอนที่เพื่อนกำลังแนะนำตัวเองอยู่ เดี๋ยวโดนตำหนิได้นะครับ

พอแนะนำตัวกันครบทุกคน พักเบรคกัน 5 นาที แล้วก็มาถึงการทำ group activity เขาก็แบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม ให้ assignment มาทำ โดยเขาให้ทำการสร้างสะพานจากกระดาษ A4 (โดยเขาให้กระดาษมาทั้งหมด 30 แผ่น พร้อมสก็อตเทปใส 2 ม้วน และกรรไกร 2 อัน) เพื่อมารับน้ำหนักรถของเล่น ซึ่งรถจะต้องสามารถวิ่งได้จากจุดแรกสุดไปยังจุดปลายสุดของสะพานโดยที่สะพานต้องไม่ล้มเด็ดขาด และในส่วนของการให้คะแนนนั้น จะมีรายละเอียดการให้คะแนนหลายส่วนด้วยกัน เช่น หากสร้างสะพานได้สูงเท่าไรก็จะได้คะแนนโบนัสคูณเพิ่มเข้าไป หรือยิ่งกระดาษเหลือมากเท่าไร (พูดง่ายๆ ก็คือใช้กระดาษน้อยนั่นเอง) ก็จะได้คะแนนคูณเพิ่มเข้าไป (อย่างเยอะ) เป็นต้น จากนั้นก็สรุปคะแนน เพื่อหาทีมที่ชนะ

แรกเริ่ม ทางกรรมการเขาจะให้เวลาแต่ละกลุ่มช่วยกันคิดและช่วยกันออกแบบสะพานก่อน ประมาณ 10 นาที จากนั้นก็ส่งแบบที่สรุปออกมาแล้วให้กรรมการ จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะต้องช่วยกันสร้างสะพานตามแบบที่ร่างเอาไว้ ให้เวลาประมาณ 20 นาที พอเสร็จ ก็ถึงเวลาให้คะแนน และประกาศผลผู้ชนะ โดยช่วงที่ทำ group activity นี้ ทุกคนต้องสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเสนอความคิดเห็นใดๆ จะแย้งหรือว่าถกเถียงกัน อะไร ยังไง ก็ต้องพูดกันเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยกรรมการแต่ละคนจะเวียนมาคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา

ตอนแรกก็คิดว่าเสร็จแล้ว แต่เปล่าเลย พอหลังจากนั้น ก็มาถึงช่วงเวลาซักถาม โดยเขาจะให้กลุ่มอื่นๆ ออกไปรอข้างนอกห้องก่อน เหลือแต่กลุ่มที่โดนซักถามกับกรรมการเท่านั้น ซึ่งก็ยัังไม่ทันได้ตั้งตัวดี กรรมการก็เริ่มกันเลย ซักถามกันใหญ่ ใครทำอะไร ยังไง ใครเป็นคนออกไอเดียนี้ ช่วยกันมากน้อยแค่ไหน แล้วกลุ่มนี้มีผู้นำไหม แล้วใครกันที่เป็นผู้นำ ใครมีบทบาทเยอะที่สุด ใครมีบทบาทน้อยที่สุด ถ้าต้องเลือกคนออกจากทีม จะเลือกใครออก เพราะอะไร คนอื่นๆ เห็นด้วยไหม ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร แล้วคนที่โดนให้ออกคุณรู้สึกยังไง หรือถ้าจะต้องเลือกคนที่จะต้องทำงานด้วยกับคุณได้เพียง 2 คนเท่านั้น คุณจะเลือกใคร เพราะอะไร บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกม survivor อยู่ยังไงยังงั้น และแน่นอนทั้งหมดสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ

พอครบทุกกลุ่ม ก็ถึงช่วง wrap up และประกาศผลคนที่จะได้สัมภาษณ์รอบที่ 1 (ตามที่เขาแจ้งเอาไว้) ในช่วงบ่ายของวันนั้นและในช่วงเช้าวันถัดไป ซึ่งก็แน่นอนครับ ต้องมีทั้งคนที่ผ่านและคนที่ไม่ผ่าน

โชคดีที่ผมเป็นคนหนึ่งที่ผ่านเข้ารอบ บอกตรงๆ ก็งงพอสมควร เพราะจริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะผ่านด้วยซ้ำไป ผมก็ไม่รู้ว่าทางกรรมการพิจารณาหรือตัดสินจากอะไรนะครับ บางคนที่ผมคิดว่าเขาน่าจะผ่าน ก็กลับไม่ผ่าน (เช่น เพื่อนในกลุ่มผม หรือคนที่ผมคิดว่าเขาแนะนำตัวเองได้ดีตอน self-presentation) บางคนที่คิดว่าไม่น่าจะผ่าน แต่ก็ผ่าน (เช่น ผม เป็นต้น แหะๆๆ)

แต่จากการทำ group activity และตอนที่โดนกรรมการซักถามทีละกลุ่มนั้น ผมคิดเองว่าทางกรรมการเองคงไม่ต้องการคนที่มี ego สูงมาก หรือคนที่ submissive จนเกินไปแน่ๆ (ไม่รู้ว่าจะคิดถูกไหม แต่ผมคิดแบบนั้น)

พอมาถึงรอบสัมภาษณ์รอบที่ 1 ผมไม่เจอคำถามทางเทคนิคเลยในรอบนี้ แน่นอนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ 4 ต่อ 1 ก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์แอบเครียดและกังวล แต่พอเข้าไป ดูไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ ออกแนวสบายๆ ถามมาตอบไป (ผมว่า ผมเครียดช่วงโดนซักถามเป็นกลุ่มตอนทำ group activity มากกว่าอีก) จนพาลให้รู้สึกว่า เหมือนกรรมการเขาไม่ค่อยสนใจผมเท่าไรเลย เพราะสัมภาษณ์แป๊บเดียวน่าจะไม่ถึง 20 นาทีได้มั้งครับ (คนก่อนหน้าผม สัมภาษณ์นานมากๆ) แล้วเรื่องที่คุยก็ออกแนวทั่วไป ตอนนี้ทำอะไรมาบ้าง รู้อะไรเกี่ยวกับตำแหน่งนี้บ้างไหม และมีคำถามเชิงให้คิดวิเคราะห์ 2-3 คำถามเองได้มั้ง ก่อนจะออกจากห้อง เขาก็บอกว่า ให้รออาทิตย์นึง แล้วเขาถึงจะแจ้งให้ทราบว่าผ่านหรือไม่ ออกจากห้องสัมภาษณ์ ช่วงลงลิฟท์และตอนนั่งรถกลับ ก็คิดไปสะระตะ บ้างก็คิดว่าทำไมภาษาอังกฤษตัวเองไม่ค่อยดีเท่าที่ควร บ้างก็คิดว่าตอบคำถามได้ไม่ดีเลย ทำไมไปตอบแบบนั้น ไม่ตอบแบบนี้ หรือเสริมประเด็นนั้นเข้าไปอีก (คือแบบ ผมเพิ่งคิดออกหลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จไปแล้ว 555) บ้างก็คิดเลยเถิดไปว่า สงสัยคงไม่ผ่านเข้ารอบต่อไปแน่ๆ เฮ้ออออ กลุ้มได้อีก แต่ยังไง ผมก็ถือว่าได้ทำเต็มที่และทำดีที่สุดแล้วครับ...

ตอนนี้ ก็รอฟังผลอย่างเดียวครับ Wish me luck !!!

ท้ายที่สุดนี้ ขอขอบคุณ พี่ Nong Fern Daddy มากๆ นะครับ สำหรับ Blog ดีๆ และเป็นประโยชน์มากๆ แบบนี้ รวมไปถึงขอบคุณประสบการณ์ของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนอื่นๆ ที่ได้ร่วมแบ่งปันกันผ่าน Blog นี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณจากใจจริงครับ...


โดย: PTG IP: 124.157.239.74 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:31:41 น.  

 
ตอบ PTG - สุดยอดละเอียดมากๆเลยครับ งานนี้ SLB มาอ่านเจอได้ ออกข้อสอบใหม่แน่ๆ อิอิ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:37:16 น.  

 
สมัครงานHalliburtonทางเว็บได้ป่าวครับ
ผมสมัครแล้วไม่รุ้ส่งไปเขาจะเรียกมาสอบรึป่าว
นานแล้วครับ


โดย: Gri IP: 58.11.31.101 วันที่: 10 ธันวาคม 2553 เวลา:21:47:18 น.  

 
ตอบคุณ Gri - สมัครทางเว็บได้ครับ การที่จะเรียกมาสัมภาษณ์หรือไม่นั้น ผมไม่คิดว่าเป็นเพี่สมัครผ่านทางไหนนะครับ ผมเจอทั้งสองแบบที่ได้เรียกสัมภาษณ์ เอาว่า ช่องทางไหนสะดวกก็เอาตามนั้นล่ะกันครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:12:17:39 น.  

 
สวัสดีค่ะ เป็นแฟนบอร์ดพี่มานานแย้วว เปนแรงบันดาลใจแบบว่าเยอะมากเลยทีเดียว ทาง weatherford โทรมาเรื่องสัมภาษณ์งานเกี่ยวกับ Application Engineer พี่คิดว่าเค้าจะสัมภาษณ์ประมาณไหน ตื่นเต้ลลมากมาย ฮ่าๆ หนูเกรด 2.75 เอง ก้งงเหมือนกัน เค้าเรียกด้ายงาย หะหะ พี่คิดว่าต้องยังไงดีคะ ก้อยากได้งานนี้ม้ากมาก แหะๆ ขอคำแนะนำด้วยคร่า


โดย: Aonny IP: 203.146.16.141 วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:17:11:32 น.  

 
ตอบคุณ Aonny - อย่างแรกเลย หัดเขียนและพูดภาษาไทยให้ชัดๆนะจ๊ะหนู อย่างนี้ไม่เอาๆลุงอ่านไม่รู้เรื่อง และก็ส่งอีเมล์มาที่ nnookk@hotmail.com มีน้องผู้หญิงคนนึงเคยผ่านสนามนี้มาแล้ว และตอนนี้ก็ทำอยู่ที่นั่น ยินดีให้คำปรึกษา จะให้อีเมลคุยกันเอาเอง


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 23 ธันวาคม 2553 เวลา:19:50:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ ได้ไปสัมภาษษณ์ที่ weatherford ตำแหน่ง application engineer มาเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ได้ผ่านการสัมภาษณ์มาแล้วค่ะ แล้วทาง weatherford เรียกให้ไปทำ assessment ค่ะ
พี่คิดว่าจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้างค่ะ


โดย: Frazil IP: 115.87.133.13 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:23:04:22 น.  

 
ฝากอีเมล์ไว้นะคะช่วยตอบกลับทางอีเมล์นะคะ
tapueng@hotmail.com


โดย: Frazil IP: 115.87.133.13 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:23:31:32 น.  

 
ตอบคุณ Frazil - ตอบไปทางอีเมล์แล้วนะครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:21:28:47 น.  

 
อยาทาบรายละเอียด ของตำเเหน่ง Electronic Technician ของ SLB ครับ
- offshore หรือ onshore
- รายละเอียดของงานที่ต้องทำ


โดย: Boy IP: 180.210.216.74 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:34:19 น.  

 
ตอบ คุณ Boy - เป็นงานซ่อมเครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นส่วนไฟฟ้ากับส่วนอิเลคทรอนิคส์ครับ เป็นงานบนฝั่งครับ รายละเอียดก็ไม่มีอะไรมาก ก็งานซ่อมน่ะครับ นึกถึงพวกช่างซ่อมวิทยุโทรทัศน์ที่ห้างอมรฯฟอร์จูนก็ใกล้เคียงกัน แต่เครื่องมือสำรวจน้ำมันไฮเทคกว่าเยอะครับ อ้อ รวมไปถึงซ่อมเครื่องคอมฯทุกชนิดทุกประเภทด้วยนะครับ

เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยซ่อมกันแล้ว เอาสโคปจิ้มๆดูว่าการ์ดใบไหนเสียก็ถอดเปลี่ยนเลย ตำแหน่งนี้สมัยผมเรียก IE หรือ Instrument engineer จะมีอีกตำแหน่งคู่กันคือ Sonde man คือซ่อมส่วนที่เป็น mechanic ไม่รู้ว่าสมัยนี้เรียกอะไรเหมือนกัน


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:22:42 น.  

 
What about salary of electronic technician karb?

Big thank.


โดย: Boy IP: 180.210.216.74 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:42:10 น.  

 
ถ้าเป็น ตับอักเสบ บี ทำงาน offshore ได้ใหมครับ


โดย: บอย IP: 124.120.111.121 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:03:21 น.  

 
ตอบคุณบอย - ผมว่าขึ้นกับว่าเป็นหนักแค่ไหน ระยะไหนมากกว่าครับ หลายโรคที่ดูเหมือนร้ายแรงแต่ถ้าเพิ่งเป็นและรักษาได้ ควบคุมอยู่ก็เห็นทำงานกันอยู่เยอะแยะ ขึ้นกับลักษณะงานของแต่ล่ะบ.ด้วยครับ เมื่อได้สัมภาษณ์รู้ลักษณะงานคร่าวๆแล้วปรึกษาคุณหมอจะดีกว่าครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:38:28 น.  

 
ตอบคุณ Boy - ไม่ทราบครับ แต่ถ้าให้เดา รายได้คงไม่มาก น่าจะราวๆ 15000 มังครับ แต่ไปหนักเบี้ยกันดาร อะไพวกนั้นมากกว่า รวมๆแล้ว น่าจะได้สัก 25000 มัง นี่ผมเดาล้วนๆนะครับ ขึ้นกับปัจจัยมากมาย เช่นประสบการณ์ในงาน ลักษณะงาน ตัวบ.เองว่าเป็นรับเหมาช่วง เจ้าของจ้างเอง หรือ นายหน้าส่งคน ฯลฯ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:41:53 น.  

 
ตอนเข้า Schlumberger โชคดีว่ายังเรียนอยู่อเมริกาเลยได้สัมภาษณ์กับพี่คนไทยที่เมืองไทยทางโทรศัพท์ กลับมาก้อเจอเหลือแต่แผนก Testing คุยกับบอสเทสติ้งแค่ห้านาทีว่า offshore Testing work เป็นไง อีกวันเค้าก้อรับเลย

โชคดีที่ว่าเค้าต้องการผู้หญิงไปทำพอดี และต้องการ International staff ม๊าไม่อยากให้ทำ พี่ที่ HR เลยบอกงั้นให้ไปเวียดนาม โลเคชั้นที่ดีและใกล้บ้านสุดแล้วนาไม่เอาได้ไง แต่ที่ม๊าให้ทำจริงๆ เพราะเงินเดือนฟังแล้วตกใจ 55

จำไม่ได้มากว่าสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์มีไรมั่ง แต่โดยมากรอบแรกเป็น Attitude ทั่วไป โดยสัมภาษณ์ไปชม.หนึ่ง หลักๆพี่เค้่าบอกว่าเค้าชอบเราเพราะเค้าชอบคนไม่รู้ก้อบอกไม่รู้ พอดีพี่เค้าถามเทคนิคบ้างแล้วบางเรื่องเราไม่รู้เราก้อบอกเราไม่ได้เรียนอันนี้ ตอบไม่ได้ เค้าบอกเค้าไม่ชอบคนอวดรู้แล้วจริงๆไม่่รู้

จริงๆเราคิดว่าบริษัทไม่ได้อยากได้คนอวดรู้นะคะ เก่งแต่นิสัยไปกับคนอื่นไม่ได้ก้อไม่มีประโยชน์ เพราะคุณต้องทำงานเป็นทีม ต้องเจอคนมากมาย แล้วต้องไป service ลูกค้า ลูกค้าเป็นพระเจ้า ดังนั้น ต้องเป็นคนมองโลกแง่บวก ฮาเฮพอควร

เท่าที่ทำงานมาสำหรับ Schlumberger โดยมากคนแผนกเทสติ้งจะฮาเฮมาก เพราะไปทีไปเป็นทีมใหญ่
ส่วน Wireline ออกแนวฉลาด มั่นใจตัวเองสูง เพราะไวด์ไลน์เอนจิเนียไปทีสองคนไน้กะเดย์ชิ้พ ต้องดีลกะคอมพานีแมน ต้องกล้าตัดสินใจ ไม่แปลกที่จะเจอแต่วิศวกรไวด์ไลน์ฉลาดๆ
Drilling ก้อคล่้ายๆไวด์ไลน์ คาแรกเตอมาคล้ายๆกัน


โดย: ตูนแอกกี้ IP: 200.220.207.28 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:08:21 น.  

 
ตอบคุณ ตูนแอกกี้ - เห็นด้วย และ ขอบคุณที่ช่วยๆกันให้ข้อมูลนะครับ ข้อมูลผมเองก็ขึ้นสนิมไปหมดแล้ว

ส่วน wireline engineer นั้น สมัยก่อนตอนที่เรื่องความปลอดภัยยังไม่ขลังเหมือนทุกวันนี้ พวกผมทำงานกันคนเดียวตลอดครับ จะ 3 วัน 3 คืน ก็คนเดียว แล้วก็ไม่มีแบ่งประเภทงานเป็น Open hole, Case hole, Perforation, Production ฯลฯ แบบทุกวันนี้ พวกเราโดนสอนมาให้ทำมันหมดเป็นเป็ดไปเลย เรียกว่าบ.ส่งไปคนเดียวคุ้มสุดๆ พวกเราก็คุ้มเหมือนกัน โค-ร เหนื่อยสุดๆเหมือนกัน

ผมเคยทำงาน 3 วัน 3 คืน เห็นพระอาทิตย์ ขึ้นตก พระจันทร์ขึ้นตก 3 รอบ เลยล่ะ ไม่เคยลืม job นั้นเลย ถ้า 2 วัน 2 คืน นี้คือปกติ ถ้า 24 ชม. คือเช้าชนเช้า หรือ ค่ำชนค่ำนี่ถือว่าโชคดี

ส่วนเรื่องความมั่นใจสูงของพวกเรานั้นจริงครับ ไม่งั้นไม่รอด เพราะสมัยก่อน การสื่อสายไม่ดีเหมือนทุกวันนี้ พวกเราโดดเดี่ยวมาก ผิดถูกอย่างไร เราต้องตัดสินใจเองหมด งองแง เอะอะอะไรก็โทรฯเข้าฝั่ง โทรฯหาหัวหน้าไม่ได้ มันเลยต้องการคนที่เข้มๆไปโดยปริยาย

เห็นวิศวกรสนามสมัยนี้แล้วปลง ถามอะไรมันหน่อย จะโทรฯกลับถามฝั่งอย่างเดียว ... เฮ้อ ... การสื่อสารที่ดี บางทีมันก็มีข้อด้อยเนอะ ...

แล้วคนแก่มาบ่นอะไรเนี่ย ...

เอาว่าขอบคุณมั๊กๆเลย ...


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:05:28 น.  

 
ตำแหน่ง WELL SITE มีลักษณะงาน และการทำงานอย่างไรบ้างครับ


โดย: หาดใหญ่ IP: 202.12.74.65 วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:1:26:29 น.  

 
หาดใหญ่ - ตามลิงค์นี้ไปเลยครับ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=17-09-2011&group=6&gblog=87

ถ้ามีคำถามต่อก็ถามมาได้ครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 1 ตุลาคม 2554 เวลา:0:04:27 น.  

 
สอบถามเรื่องสายตาสั้นมีผลต่อการตรวจสอบร่างกายเปล่าคับ


โดย: dakwat IP: 58.8.80.227 วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:20:51:51 น.  

 
Dakwat - โดยทั่วไป ไม่มีนะครับ ยกเว้นแต่จะสั้นมากๆ ชนิดที่ใส่แว่นใส่คอนแทคเลน์แล้วก็ยังมองไม่เห็น


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:6:49:47 น.  

 
มีคำแนะนำเกี่ยวกับตำแหน่ง Technical Assistant ของ Chevron มั้ยค่ะ


โดย: ดิ๊ก IP: 171.4.99.234 วันที่: 7 กันยายน 2555 เวลา:23:46:06 น.  

 
ดิ๊ก - ยังไม่ผ่านตาผมเลยครับ คงรอคุณดิ๊กมาส่งการบ้าน :)


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 8 กันยายน 2555 เวลา:6:31:12 น.  

 
อยากทราบรายละเอียดการสัมภาษณ์และข้อมูลเก่ียวกับตำแหน่ง application engineer ของ weatherford ค่ะ


โดย: Abc IP: 27.55.21.10 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:7:30:26 น.  

 
Abc - มีอยู่ในบล๊อกกรุ๊ปคำสัมภาษณ์ที่เพื่อนๆเอามาแบ่งปันกันน่ะครับ ลองไล่อ่านๆดู ผมจำไม่ได้ว่าว่าตอนไหน แต่จำได้ว่ามีน้อง Weatherford เลยมาเล่าไว้ให้ฟังครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:9:30:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.