==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
อีกก้าวเล็กๆก้าวหนึ่ง ... สู่ความเป็นลูกผู้ชายตัวจริงของลูกผู้ชายตัวเล็กของพ่อ

30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เย็นวันนั้น ...

พ่อ "อารมณ์เสีย" ที่ต้องอยู่เย็นเพื่อประชุมงานที่ไม่ได้คาดหมายที่บริษัท
เลิกประชุมฝนก็ตก
ตัดสินใจไม่ปั่นจักรยานกลับบ้าน
เรียกแท๊กซี่ แทนที่จะขึ้นรถเมล์ ต่อสองแถว แล้วเดินเข้าซอย
ด้วยคิดว่าจะซื้อเวลากลับไปสอนการบ้าน และเล่นกับหนูและพี่เฟิร์น
...
แท๊กซี่ที่ปกติเคยเรียกให้เข้ามารับที่หน้าตึก ... เย็นนั้นก็เรียกเข้ามาไม่ได้
เพราะมีเจ้าใหญ่นายโตมาทำธุระที่ตึก
บริเวณหน้าตึกถูกฉลามบก 2 คัน ปิดไม่ให้รถอื่นเข้า
... ยิ่งทำให้ "อารมณ์เสีย" มากขึ้นไปอีก
ต้องลงไปเรียกแท๊กซี่ที่ริมถนนหน้าตึก ... กลางสายฝน
มีหลายคนเดินตามออกมา
หลายคนที่คิดว่าพ่อน่าจะเสียสละแท๊กซี่ที่นานๆมาทีให้

เปียกฝนอยู่นาน นานพอที่จะทำให้ "อารมณ์เสีย" เพิ่มมากขึ้น ... แม้สายฝนจะเย็นฉ่ำ
ได้แท๊กซี่มา 1 คัน ... ก็เพื่อที่จะทำให้ "อารมณ์เสีย" อีกเป็นรอบที่เท่าไร ไม่ได้จำ
เพราะรถในซอยติดมาก ... ลงจากแท๊กซี่เดินจากกลางซอย ...
เสียค่าแท๊กซี่แต่ต้องเดินเปียกฝนไกลกว่าที่ถ้ากลับรถเมล์ ...

ด้วยมาตราฐานคนทั่วไปที่ว่าพ่อ "งก" แต่พ่อพอใจที่จะเรียกว่า "คุ้มค่าเงิน"
ยิ่งทำให้พ่อคิดถึงค่าแท๊กซี่มากขึ้นขณะที่เดินตากฝน ....
เสียค่าแท๊กซี่แต่ต้องเดินเปียกฝนไกลกว่าที่ถ้ากลับรถเมล์ ...
ถึงบ้านก็ช้ากว่า ... จ่ายแพงกว่าทำไม ...
ผลคือ "อารมณ์เสีย" มากขึ้น

เดินไปพลางก็คิดไปพลางว่า ทำไมวันนี้อะไรๆมันก็แย่ไปหมด
วันนี้คุณเมอร์ฟี่คงมาเยี่ยม (Murphy's law)

เปิดประตูบ้าน ... ก็ "อารมณ์เสีย" (อีก) กับที่วางรองเท้าที่มันไม่ได้อยู่ในที่ๆ(พ่อคิดว่า)มันควรจะอยู่
"อารมณ์เสีย" รอบที่เท่าไร ไม่ได้จำ ไม่ได้นับมันแล้ว ....
แต่ก็แปลกนะที่พอไม่นับมัน ไม่จำมัน กลับรู้สึกดีขึ้นหน่อยนึง

เดินผ่านห้องทำงาน ... พี่เฟิร์นล่ะสายตาจากจอคอมฯ หันมา "สวัสดีค่ะ" แล้วก็ง่วนต่อไปกับ paint brush
เอ๊ะ ... ทำไมไม่วิ่งมากอดเหมือนเคย ... "อารมณ์เสีย" อีก
เปิดประตูห้องนอน ... หนูนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่บนเตียง .... เงียบ
เอ๊ะ ... ทำไมไม่วิ่งมากอดเหมือนเคย ... "อารมณ์เสีย" อีก
แม่หนูอ่านหนังสืออยู่บนเตียงอีกด้านหนึ่ง .... เงียบ

รู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ
แต่พ่อก็เงียบ ... อาจจะเป็นเพราะกำลังนับว่า "อารมณ์เสีย" ไปแล้วกี่รอบ
แล้วรอบต่อไปจะเรื่องอะไร เมื่อไร
ไม่นานเกินรอ ...
"พ่อ ... น้องภัทร ไม่ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ พูดอย่างไรก็ไม่ยอม เลยต้อง ignore ไม่ต้องไปยุ่งด้วย"
พ่อพยักหน้ารับทราบ ...
อาบน้ำ ... ขั้วสายฝักบัวเสีย พยายามซ่อม ไม่สำเร็จ หักมันออก ใช้แต่สายยาง
ถอดหัวฝักบัวเก็บไว้ เพราะยังใช้ได้
ฟาดสายฝักบัวกับผนังไป 3 ที (ไหนๆมันก็เสียแล้ว) ระบาย "อารมณ์เสีย" ที่มันจะระเบิด
... พ่อหนูก็คนธรรมดาๆคนนึงนี่แหละ

"... วันนี้มันเป็นอะไรของมัน (ว่ะ)" ...
ในห้องน้ำก็มีปัญหา นอกห้องน้ำก็มีเรื่องต้องให้จัดการ

ออกมา ... หนูนั่งรอคิวเล่นคอมพิวเตอร์ต่อจากพี่เฟิร์น
"พ่อ ... ไม่ต้องให้ภัทรเล่นนะ ยังไม่ได้ท่องศัพท์"
พ่อเดินไปบอกหนู ...
หนูเดินไปอ่านหนังสือการ์ตูนต่อบนเตียงเงียบๆ
พ่อนอนอย่างหมดสภาพอยู่บนพื้นข้างเตียง (พ่อชอบนอนพื้นแข็งๆ สงสัยพ่อจะแก่แล้วจริงๆ)
... นับ 1 2 3 4 ... เผื่อว่าหยุดวงจร "อารมณ์เสีย" อุบาทว์นี้ได้

... นับได้ไม่เกิน 10
"พ่อ ... ไม่ให้ภัทรอ่านการ์ตูนนะ เพราะ ... "
.... "เดี๋ยวก่อนนะ พ่อเหนื่อยมาก ขอพักเดี๋ยวนึง" ... ทนไม่ไหวแล้วล่ะ ต้อง(เสี่ยง)แทรกขึ้นมา
แล้วพ่อก็นอนนับต่อไปเรื่อยๆ จำไม่ได้ว่านับได้ถึงเท่าไร
ในใจคิดว่าจะพูดกับแม่หนูเป็นภาษาอังกฤษ(เพื่อไม่ให้หนูเข้าใจ) บอกว่าไม่ควรจะต้อนให้จนมุม
น่าจะเหลือทางออกให้เอาไว้สักทางหนึ่ง หรือให้เลือก 1 ใน 2 ทางที่เรากำหนดให้
เพราะการต้อนให้จนมุม ผลที่ได้ก็คือการหันกลับมาดับเครื่องชน
ถึงแม้เป็นการดับเครื่องชนของเด็กผู้ชายอายุ 7 ขวบ ... พ่อก็ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อเรามีสติ มีปัญญา ที่จะทำให้มีทางเลือกที่ดีกว่านั้นมากนี่นา ...

ได้แต่คิด แต่ไม่ได้พูดออกไป ... เพราะคิดว่าไม่น่าจะทำอะไรให้ดีขึ้น
หัวล้านๆของพ่อจึงนับเลขต่อไป ในขณะที่ตัวอ้วนๆแผ่หราอย่างหมดแรง ...
แว่บหนึ่ง ... จึงคิดขึ้นมาได้ว่า ... ต้องสงบสติอารมณ์กับ 108 เรื่อง "อารมณ์เสีย"
แม่หนู หนู และ พี่เฟิร์น ไม่ควรต้องมารับรู้
และรับผิดชอบ กับอะไรต่อมิอะไรที่เกิดขึ้นกับพ่อ ก่อนพ่อจะเปิดประตูบ้านเข้ามา

หันกลับมาทำสิ่งที่พ่อต้องทำจะดีกว่า

A man has to do what a man has to do

หัวล้านๆจึงหยุดนับเลข ...

พี่เฟิร์นเสร็จจากคอมพิวเตอร์ก็เลยมานอนเล่นกับพ่อด้วย
คุณแม่หนูไปทำงานที่คอมพิวเตอร์ในห้องทำงาน
"ภัทร ... คุณแม่ไม่ให้หนูอ่านการ์ตูนนะครับ เพราะหนูไม่ท่องศัพท์"

หนูวางการ์ตูนลงมาเล่นกับพ่อกับพี่เฟิร์นข้างเตียง

ไม่นานนัก ...
"พ่อ ... พาเด็กๆนอนได้แล้ว และพรุ่งนี้ดูแลน้องภัทรด้วย เพราะไม่ท่องศัพท์"
"แม่เลยบอกว่า ถ้าไม่ท่องศัพท์ก็ไม่ต้องมายุ่งกับแม่"
เสียงแม่หนูมาจากห้องทำงาน
เริ่มเห็นภาพชัดขึ้น ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้าที่จะเปิดประตูห้องนอนเข้ามา

พ่อหยุดเล่น
"ภัทร หนูต้องนอนแล้วนะครับ เพราะหนูไม่ท่องศัพท์ คุณแม่เลยไม่ให้หนูไปยุ่งด้วย"
"ดังนั้น พรุ่งนี้เช้าคุณพ่อจะดูแลหนูจนถึงส่งขึ้นรถโรงเรียน"

หนูขึ้นไปบนเตียง นั่งก้มหน้าหันหลังให้พ่อกับพี่เฟิร์น

"หนูมีทางเลือก 2 ทางนะครับ ทางแรกหนูไปขอโทษคุณแม่ แล้วพรุ่งนี้เช้าคุณแม่จะเป็นคนดูแลหนูตามปกติ"
พ่อนอนพูดจากข้างเตียง
"ทางที่สอง หนูไม่ขอโทษคุณแม่ และพรุ่งนี้เช้า พ่อจะดูแลหนูเอง"
"และหนูก็รู้ใช่ไหมว่า พ่อไม่ยืดหยุ่นเหมือนคุณแม่ พรุ่งนี้เช้าหนูต้องทำในสิ่งที่หนูต้องทำในเวลาที่ต้องทำ"

"ไม่ ... ไม่ ... คุณพ่อไม่รู้เรื่องอะไรเลย ... โฮ ... คุณพ่อไม่เข้าใจ"
" ... หนูเกลียดคุณพ่อแล้ว .... โฮ"
... ดังไปถึงหน้าปากซอยได้ พ่อเดา ...
"คุณพ่อไม่รู้เรื่องหรอก ... โฮ"

พ่อหันไปจุ๊ๆปากกับพี่เฟิร์นที่นั่งอยู่ข้างๆที่ทำทางจะออกความเห็นเสียเหลือเกิน ..
พ่อกางแขนออกกว้างๆ ... หนูหันหน้ามา
"ภัทร พ่อไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะครับ พ่อฟังจากคุณแม่เท่านั้น"
"พ่ออยากฟังจากลูกผู้ชายของพ่อ หนูเล่าให้พ่อฟังบ้างซิว่าเกิดอะไรขึ้น"
หนูพยักหน้า ... คลานช้าๆลงจากเตียงมาซบไหล่ โดยที่ยังไม่หยุดร้องไห้
"มาหาพ่อซิ เล่าให้พ่อฟังว่าเกิดอะไรขึ้น" ... (ยุทธการแง้มฝากาน้ำ - ที่กำลังเดือด)
... หนูยังร้องไห้
ในอ้อมกอดพ่อ .... "ไม่เป็นไรลูก ร้องไปให้พอเลย ไม่ต้องรีบ พ่อไม่ได้ไปไหน"
"ร้องไห้ให้เต็มที่ หยุดร้องไห้แล้วเรามานั่งคุยกัน"

...
...
...
"เฟิร์น ... หนูออกไปอยู่ในห้องทำงานกับคุณแม่ก่อนได้ไหมค่ะ"
"ทำไมค่ะ"
"หนูต้องเคารพสิทธิ์ส่วนตัวของน้องภัทรนะลูก ตอนที่หนูร้องไห้คุยกับคุณพ่อ"
"คุณพ่อขอให้น้องภัทรออกไปเหมือนกัน น้องภัทรก็เชื่อฟัง"
"ก็หนูอยากช่วยคุณพ่อพูดกับน้องภัทรนี่ค่ะ"
"หนูอยากฟังว่าคุณพ่อจะพูดอะไร หนูจะได้จำเอาไปพูดบ้าง" ... (ชักแม่น้ำทั้งห้า)

พ่อส่ายหน้าช้าๆ มองหน้าพี่เฟิร์น แต่ไม่พูดอะไร .. (แปลว่า ... ไม่ได้ผลหรอกยัยเฟิร์น ไปเดี๋ยวนี้)
พี่เฟิร์นของหนูเข้าใจ ... เดินออกไปโดยดี ...
...
...
หนูยังสะอื้น ...
...
...
เงียบ ...
...
...
"ภัทร ... หนูพร้อมหรือยังครับ พ่ออยากฟังจากลูกผู้ชายของพ่อว่าเกิดอะไรขึ้น"
เงยหน้าจากไหล่พ่อ จากเสื้อที่ชุ่มน้ำตา ... หนูพยักหน้าช้าๆ
...
...
"คุณแม่จะให้หนูท่องศัพท์ หนูอยากท่องศัพท์ภาษาไทย"

"คุณแม่จะให้หนูท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่หนูอยากท่องศัพท์ภาษาไทย"
... พ่อขยายความและทวนที่หนูพูดอีกรอบ เพื่อย้ำให้หนูเข้าใจในสิ่งที่หนูพูดออกมา
"พ่อเข้าใจอย่างนี้ถูกไหมครับ"
... หนูพยักหน้า
"อืม ... ถ้าคุณแม่ให้หนูท่องศัพท์ภาษาไทยก่อนสัก 2-3 คำแล้วหนูจะท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ"
" ... คุณพ่อพูดอย่างนี้ถูกต้องไหมครับ"
หนูพยักหน้า ...
"แล้วยังไงต่อครับ"
"คุณแม่บอกว่า ถ้าไม่ท่องศัพท์ก็ไม่ต้องมาพูด ไม่ต้องมายุ่งกับคุณแม่"
"อืม ... แล้วทำไมหนูไม่บอกคุณแม่ล่ะครับว่า หนูอยากท่องศัพท์ภาษาไทยสัก 2-3 คำก่อน แล้วค่อยท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ"
"ก็คุณแม่บอกว่า ไม่ต้องมาพูด ไม่ต้องมายุ่งกับคุณแม่ แล้วหนูจะไปพูดได้ยังไง ... โฮ ... "
"หนูก็เลยไม่พูด ไม่ยุ่งกับคุณแม่ ... โฮ"
...
...
ระหว่างรอให้นิ่งอีกรอบ ... พ่อกำลังคิดว่าจะเดินหมากตาต่อไปยังไงดี
แต่ที่รู้แน่ๆยังไกลจาก "รุกฆาต" อีกโขอยู่
...
...
"หนูพร้อมจะคุยกับคุณพ่อต่อหรือยังครับ"
พยักหน้า
"หนูอยากฟังความเห็นของคุณพ่อไหมครับ"
พยักหน้าทั้งน้ำตา
"เรื่องวันนี้ คุณแม่น่าหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้ ถ้าคุณแม่ฟังหนูอธิบาย"
"คุณแม่อาจจะกำลังยุ่งอยู่ หนูต้องเข้าใจคุณแม่ด้วย"
"คุณพ่อเข้าใจหนูนะครับ ... ส่วนหนูก็ต้องแก้ไขนิดนึงเหมือนกันที่ หนูโต้ตอบด้วยการงอนและไม่พูดกับคุณแม่"

พ่อพยายามที่จะไม่ใช้คำว่า "ผิด"

...
"หนูคิดว่าเราน่าจะหาทางออกอย่างไรดีกับเรื่องนี้"
... เงียบ ...
"หนูจำเรื่อง แก้มอีกข้างหนึ่ง ที่หนูอ่านในวัดเมื่อวันอาทิตย์ได้ไหม ... "
"พ่อภูมิใจในตัวหนูมากนะที่หนูอ่านจนจบ และเข้าใจด้วย พ่อไม่คิดว่าหนูจะเข้าใจแต่หนูก็เข้าใจ"
"หนูจำได้ไหมว่าตอนจบของเรื่องนั้นว่ายังไง ..."

... เงียบ ...

"เพราะฉันรัก ...." พ่อขึ้นให้
" .... " หนูต่อประโยคพ่อจนจบ ...


"พ่อรู้นะว่า ถึงหนูจะบอกว่าหนูเกลียด หนูไม่รักคุณแม่แล้ว แต่ว่าลึกๆจริงๆแล้วหนูรักคุณแม่มาก ใช่ไหม"

... เงียบ ...

"ภัทร หนูเป็นลูกผู้ชาย หนูคือคนที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคนที่คุณพ่อฝากให้ดูแลพี่เฟิร์นและคุณแม่"
"หนูรู้ใช่ไหมว่า ... "
"... การที่รู้จักขอโทษเป็นการบอกว่าใครที่จะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง หรือใครไม่ใช่ลูกผู้ชายตัวจริง"
"การขอโทษไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ การขอโทษทำให้เราเข้มแข็งขึ้นต่างหาก"
"หนูต้องทำให้คุณแม่เห็นว่า หนูนี่แหละเข้มแข็งพอที่จะดูแลคุณแม่ และพี่เฟิร์นแทนคุณพ่อได้"

"จำได้ไหม ... เพราะฉันรัก ... อะไรนะ ต่อว่าอะไร พ่อจำไม่ได้แล้ว ..."
" ... " หนูต่อประโยคพ่อจนจบอีกครั้ง ...
..
... พ่อจงใจทิ้งให้ความเงียบทำงานสักพัก
..
"หนูขอโทษตอนนี้ไม่ได้ หนูยังโกรธอยู่ ..." พ่อได้ยินออกจากลำคอเบาๆ
"อืม .. พ่อเข้าใจหนูนะ ถ้าเป็นพ่อ พ่อก็คงขอโทษตอนนี้ไม่ได้เหมือนกัน ... "
"งั้นเอางี้ เรานอนกอดกันเงียบๆสักพักดีไหม"
ไม่ต้องรอคำตอบ พ่อโน้มหนูลงนอนหนุนไหล่ เรากอดกันนิ่งๆ ...
...
ในความมืด ... พ่อให้ความเงียบทำงานอีกครั้ง
...
"ภัทร ... ลูกผู้ชายของพ่อ ... หนูพร้อมหรือยังครับ"
หนูพยักหน้า ...
"แต่พ่อต้องไปกับหนูนะ"
แทนคำตอบ ... พ่อกระชับ "มือหนู" ใน "มือพ่อ" ให้แน่นขึ้น
เราเดินจูงมือกันไปหาคุณแม่ที่กำลังทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเงียบๆ
"ขอโทษ ... โฮ" หนูตะโกนจนเกือบจะเป็นการตะคอก ... และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่พ่อต้องการ
พ่อคุกเข่าลง กอดหนูแน่นขึ้น
กระซิบเบาๆ "ไม่เป็นไรเลยลูกพ่อ ... หนูแค่ยังไม่พร้อม ไม่ใช่ว่าหนูทำไม่ได้"
...
เรากลับมานอนกอดกันบนพื้นแข็งๆข้างเตียง ..
เริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ..
...
เรากอดกันในความมืด ...
ความเงียบทำงานของมันอีกครั้ง ...
...
พักใหญ่ๆ คุณแม่เลิกทำงาน กลับมานอนบนเตียง
พี่เฟิร์นกลับมานอนข้างๆคุณพ่อที่กำลังกอดหนูอยู่
พ่อหันไปจุ๊ๆ เพราะรู้ว่าพี่เฟิร์นอยากมีส่วนร่วมเต็มที ... แต่ยังไม่ถึงเวลา
...
...
ในความมืด ... พ่อคิดว่าพ่อเห็นหนูพยักหน้า
พ่อคลายแขนออกนิดนึง ...
หนูคลานขึ้นเตียงช้าๆไปหาคุณแม่ ..
....
พ่อหันมากอดพี่เฟิร์นแทน ..
โดยที่ไม่ลืม จุ๊ๆปากพี่เฟิร์น และชี้ไปที่หู เป็นการบอกใบ้ว่าให้ "ฟัง"
เพราะรู้ว่าพี่เฟิร์นADHD ของหนูเกือบจะอดทนที่จะไม่ออกความเห็นไม่ได้
...
...
ในความมืด ...
ในความเงียบ ...
...
คืนนี้ ...
สิ่งที่หนูเพิ่งทำไป
หนูได้ก้าวข้ามไปอีกหนึ่งขั้นของการเป็น "ลูกผู้ชาย"
วันนี้อาจจะเป็นครั้งแรกในชีวิตหนูที่ได้ "ขอโทษ" ผู้หญิงที่หนูรัก โดยที่หนูยังคาใจ
แต่พ่อรับรองได้ว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ...
....
เพราะไม่มีอะไรที่ทำให้ "ลูกผู้ชาย" เป็น "ลูกผู้ชาย" ได้ไปมากกว่า "การขอโทษ" ผู้หญิงที่เรารัก
ไม่ว่าเราคิดว่าเราผิดหรือไม่ก็ตาม ...
ถ้าเธอคิดว่าเราควรจะขอโทษเธอ ... นั่นต่างหากที่เพียงพอแล้ว ...
เพราะความหมายของการขอโทษนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อบอกว่า "ขอโทษ"
แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญกว่านั้นมาก
... เพราะเราขอโทษจากใจ เพื่อที่จะรักษาผู้หญิงที่เรารักไว้ให้อยู่กับเราตลอดไป ...
... นั่นต่างหากที่สำคัญที่สุด
...
...
...
ในความมืด ...
...
ในความเงียบ ...
...
... เขาสารภาพ
... และเธอให้อภัย ...
(*)
...
...
...

เช้าวันรุ่งขึ้น ...

หนูกำลังนั่งทานข้าวเช้า ...
พ่อเดินไปกอดหนูอย่างหลวมๆ ...
"ภัทร ... พ่อภูมิใจในสิ่งที่หนูทำเมื่อคืนมากนะครับ พ่อรักหนูนะ"
หนูพยักหน้า
พ่อยื่นมือออกไป
"สวัสดีครับ" ... แล้วสองมือเล็กๆของหนูก็พนมลงบนมือพ่อ... เหมือนเคยทุกเช้า ก่อนที่พ่อจะออกไปทำงาน
...
...
...

บันทึกตอนนี้ ...
อาจจะยาวสักหน่อย
แต่พ่อก็อยากบันทึกไว้ เพราะมันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของลูกผู้ชายตัวน้อยของพ่อ ...
เพราะอย่างน้อยก็มีผู้ชายบางคนที่ทั้งชีวิตก็ยังทำอย่างที่หนูทำในวันนี้ไม่ได้
... แต่หนูทำได้เมื่ออายุแค่ 7 ขวบ

รัก
พ่อ ...
3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552



เพราะฉันรัก ...
"...." น้องภัทร ต่อประโยคนี้ให้จบว่าอย่างไร หาคำตอบได้ที่นี่ครับ
แก้มอีกข้างหนึ่ง <== คลิ๊ก

(*) ดัดแปลงจากส่วนหนึ่งในบทภาพยนต์ "As good as it gets" ... In the dark, he confessed and she forgave.

บทเรียนที่ 13 ของน้องเฟิร์น ... ความไม่ยุติธรรม

บทเรียนของลูกผู้ชายตัวเล็ก ... เมื่อคืนแห่งชัยชนะ(ที่ได้จากการเสียสละของพี่สาว)ผ่านไป ...

บทเรียนเล็กๆของลูกผู้ชายตัวน้อย ... ตอน เมื่อพ่อติดอยู่ในห้องน้ำ

ความกล้าหาญ ความเจ็บปวดของแม่ การเกิดของลูกภัทร

แด่เธอ ... ผู้หญิงที่ผมตายแทนได้ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการ





Create Date : 03 กรกฎาคม 2552
Last Update : 29 ธันวาคม 2552 22:55:15 น. 6 comments
Counter : 1459 Pageviews.

 
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ

คุณพ่ออดทน และ เข้มแข็ง ดีจัง



โดย: iamsquid IP: 192.168.1.136, 61.7.143.234 วันที่: 3 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:39:53 น.  

 
I have read what you have taught and written for your kids. They are great.


โดย: K IP: 87.193.225.124 วันที่: 3 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:49:15 น.  

 
มีวิธีการแก้ปัยหาที่ดีเยี่ยมเลยค่ะ ขอชื่นชมจากใจจริง


โดย: หนูแหม่มตัวจุ้น IP: 122.193.56.62 วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:49:25 น.  

 
ขอเอาไปลงที่ multiplyของตัวเองได้มั้ยคะ
น้ำตาไหลเลย


โดย: nontanjp IP: 192.168.8.198, 203.146.6.146 วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:34:54 น.  

 
OK ยินดีให้เผยแพร่ต่อครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:49:25 น.  

 
ขออนุญาติเรียกพี่เพราะเป็นรุ่นน้องที่ KMITL#45 นะครับ
ผมอยากขอบคุณที่พี่ได้แบ่งปันประสบการณ์ดีในหลายๆเรื่องในส่วนเรื่องการทำงาน เรื่องการใช้ชีวิต ซึ่งมันอาจจะดูเป็นอะไรที่เล็กน้อยสำหรับบางคน แต่สำหรับผมมันเป็นอะไรที่มากมายเกินกว่าคำว่า "ขอบคุณ" คำเดียวจะเพียงพอ ดีใจครับที่หาข้อมูลการสมัครงาน แล้วบังเอิญได้มาเจอบล็อคของพี่ ขอบคุณมากๆจากใจครับ


โดย: IE_KMITL IP: 125.25.220.48 วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:23:57:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.