==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
มนุษย์เงินเดือน - ทำไมเงินเดือนของแต่ล่ะตำแหน่งแต่ล่ะงานในบ.ไม่เท่ากัน

ต่อเนื่องมากจาก => CV กับ จดหมายสมัครงาน : เขียนกันยังไงให้เป็นสับปะรด

เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมเงินเดือนของแต่ล่ะตำแหน่งแต่ล่ะงานในบ.ไม่เท่ากัน ฟังดูแล้วขัดแย้งกับที่ผู้บริหารหรือผู้จัดการมักชอบบอกว่า ทุกงานมีความสำคัญต่อบริษัทเท่ากัน เพราะขาดตำแหน่งใดไป ก็ไม่สามารถทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างพนักงานขับรถส่งสินค้าก็ได้ง่ายดี ลองไม่ขับส่งสินค้าสิครับ บ.ก็เจ๊ง ที่ผู้บริหารพูดแบบนี้เพราะท่านมองมุมเดียว (ซึ่งไม่ได้ตอบคำถามที่ว่านั้น) คือมองในมุมของ กลไกเฟืองขับ หรือ จิ๊กซอ ซึ่งถ้าขาดเฟืองชิ้นใด (แม้ว่าจะเป็นเฟืองชิ้นที่ห่วยที่สุด ราคาไม่กี่ตังค์) กลไกบริษัท (หรือรถยนต์) มันก็ขับไปไม่ได้



ผมเคยคิดแบบกำปั้นทุบดินว่า "ระดับเงินเดือนสะท้อนคุณค่าของตำแหน่งนั้นในบริษัท" ถ้าคุณค่าของงานตูกับท่าน CEO สำคัญเท่ากัน คือขาดใครไปก็ไม่ได้ งั้นทำไมเงินเดือนตู(คนขับรถ)น้อยกว่า CEO (ว่ะ)

ผมเคยถามผู้จัดการ (ซึ่งก็เป็นลูกจ้างเขาเหมือนกัน) เคยถามฝ่ายบุคคล ก็ได้คำตอบแบบเถไปไถมา ขี่ม้าเลียบค่าย ไม่ตรงจุด เพราะท่านเหล่านั้นไปติดกับตรรกะที่ว่า "เฟืองทุกชิ้นสำคัญเท่ากัน เพราะขาดเฟืองชิ้นใดไปแล้ว บ.ก็ไปไม่รอด" กับ "ระดับเงินเดือนสะท้อนคุณค่าของตำแหน่งนั้นในบริษัท" เพราะมันฟังดูออมชอบ ออกแนวสมานฉันท์ กลางๆ และเท่ห์ดี



ผมมาถึงบางอ้อเอาเองภายหลังว่าตรรกะสองข้อนั้น ถูกข้อเดียว คือข้อแรกนะถูก เพราะเห็นๆอยู่ เช่น ถ้าคนขับรถไม่ทำงาน บ.มันก็เจ๊ง เสียเวลาไปหาคนมาแทน เสียโอกสาสทำกำไร เสียลูกค้า ฯลฯ ไอ้ข้อที่ไม่ถูกทั้งหมดคือ "ระดับเงินเดือนสะท้อนคุณค่าของตำแหน่งนั้นในบริษัท"

บางอ้อที่ผมว่านั่นคือ ระดับเงินเดือนสะท้อนอุปสงค์ (demand - ปริมาณความต้องการใช้ของชิ้นนั้นๆในระบบ ณ. เวลาหนึ่ง) และ อุปทาน (supply - ปริมาณของที่มีให้ใช้ในระบบ ณ. เวลาหนึ่ง) ของงานนั้นๆในตลาดครับ ไม่เกี่ยวกับคุณค่าหรือความสำคัญในบ.เลยสักนิดครับ



ยกตัวอย่างง่ายๆครับ ลองให้รัฐบาลจำกัดใบอนุญาติขับรถบบรทุกสินค้าซิครับ แล้วตำรวจต้องเข้มงวดกับการบังคับใช้กฏหมายด้วยนะ เงินเดือนคนขับรถบรรทุกชนิดนั้นก็ขึ้นมาเอง เหมือนที่สิงค์โปร์ ทำไมคนขับรถแท๊กซี่ถึงอยู่ได้ เพราะรัฐบาลจำกัดจำนวนไงครับ คนขับแท๊กซี่ถึงมีรายได้ทัดเทียมกับช่างเทคนิคหรือพนักงานธุรการ(admin) ในบ.ดังๆใหญ่ๆ หรือ ในบางประเทศตะวันตกที่ใครจะเป็นช่างตัดผมได้ต้องผ่านการทดสอบและมีใบอนุญาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมปริมาณผู้ถือใบอนุญาติในระบบ ช่างตัดผมก็ขึ้นค่าตัดผมได้ เป็นต้น



ศัพท์วิชาการเท่ๆ เรียกการทำแบบนี้ว่า "แทรกแซงกลไกตลาด" เพราะถ้าให้กลไกตลาดทำงานจริงๆมันต้องให้ คนขับแท๊กซี่ หรือ ช่างตัดผม มันล้มหายตายจากตลาดไป (ลด อุปทาน - supply) ด้วยตัวมันเอง เพราะมันแข่งกันราคาถูกจนอยู่ไม่ได้ พวกที่อยู่รอดจากการเจ๊ง ก็จะมีจำนวนน้อย ก็เลยขึ้นราคาได้อีก แล้วมันก็วนๆเป็นวัฏจักรของมันแบบนี้เรื่อยๆไป

ผมความรู้น้อย ไม่สามารถไปวิจารณ์ได้ว่า สินค้า บริการ หรือ อาชีพ อะไรควรแทรกแซงเมื่อไรอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของนักเศรษฐศาสตร์ ระดับ PhD กับนักกินเมือง เอ๊ย การเมือง เขาโม่กันเอง



พอถึงบางอ้อ ... ผมก็ไม่น้อยใจแล้วว่าทำไม่ งานตูก็สำคัญ ขาดตูไปก็ไม่ได้ แต่ทำไมเงินเดือนตูน้อยกว่าไอ้ตัวที่นั่งห้องแอร์หรูๆมีรถคันใหญ่มีเลขาสาวสวย แล้ววันๆไม่เห็นมันทำอะไร ก็เพราะว่า ถ้าขาดผมไปสักคน มันก็ยังมีคนอีกหลายพันคนที่เข้าแถวรอทำงานแทนผมได้ ในขณะที่มีไม่กี่คนหรือไม่มีเลยที่จะมาทำแทนไอ้ตัวที่นั่งห้องแอร์หรูๆแล้วไม่เห็นวันๆมันทำอะไรเท่าไรนัก

.... ก็เพราะความสามารถผมมันโหลๆนี่เอง ขาดผมไปสักคน งานคงสะดุดแค่วันเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้มะรืนนี้ก็ไปหาคนมาทำแทนผมได้แล้ว ฝึกงานคนใหม่ 5วัน 7 วัน มันก็ทำได้เกือบเท่ากับผม ให้มัยชำนาญหน่อย แค่เดือนเดียว ทุกคนก็ลืมผมไปแล้ว

ในระบบแรงงานเสรีก็งี้แหละครับ .... แล้วทำไงผมจะขึ้นค่าตัวผมได้ล่ะ ... ????



ผมต้องพยายามลดคนหลักพันที่มาเข้าแถวรอต่อตำแหน่งงานผม (ถ้าบ.ไม่มีผม) อย่างนั้นหรือ ... เอาปืนไปไล่ยิงหัวมัน เอายาถ่ายไปแอบให้มันกิน ทีล่ะคนเลยดีไหม นั่นมันระบบคอมมิวนิสต์เขาทำกันครับ งั้นหาวิธีไหม่ ผมต้องพยายามย้ายตูดผมให้ไปอยู่ในกลุ่มผู้มีความสามารถในหลักร้อยเข้ามาต่อแถว(ถ้าบ.ไล่ผมออก) โดยปล่อยให้ไอ้คนหลักพันเข้าแถวรองานแบบนั้นของพวกมันต่อไป ไม่ต้องไปไล่ใส่ยาถ่ายให้มันกิน

ผมขอนำเสนอยุทธวิธีย้ายตูด เอ๊ยขึ้นค่าตัวเป็นน้ำจิ้มสัก 2-3 วิธี ดังนี้ครับ

1. ไปล้วงความลับทางการค้าของบริษัทมากำไว้ แล้วไปต่อรองกับผู้บริหารของขึ้นเงินเดือน (เอาแบบอย่างท่านผู้ทรงเกียรติพรรคร่วมทำกับพรรครัฐฯตอนจะของตำแหน่งกระทรวงเกรดเอ) ... อืม ผมว่าอย่าดีกว่า ตัวอย่างไม่ดีครับเด็กๆหนูๆ ม่ายอาวๆ อย่าทำ อย่าทำ



2. เรียนต่อในด้านที่บริษัทต้องการความชำนาญด้านนั้น ไม่ว่าจะทุนบริษัทออกให้ หรือ จะออกเอง จะนารีอุปถัมภ์ หรือ บุพการีอุปถัมภ์ ก็ว่าไป

3. หัดภาษาที่ 2 ที่ 3 ตามความจำเป็นต้องใช้ในงาน

4. ทำงานเกินความรับผิดชอบที่ได้รับ ภาษาปะกิดเขาเรียกว่า go extra miles คือ ทำให้เกินความคาดหวังของหัวหน้า และ ลูกค้า



ขอยกตัวอย่างคนขับรถประจำตำแหน่งคนเก่าของผม พี่ท่านไม่ใช่ขับรถอย่างเดียว เป็นไกด์ เป็นเลขาส่วนตัวตอนผมอยู่บนถนน เป็นช่างซ่อมรถเองได้อีกต่างหาก (คนขับบางคนที่ผมเจอ ทำได้ แต่ไม่ทำ โบ้ยช่างตลอด ทำให้เสียเวลาเอารถเข้าอู่เพื่อเรื่องเล็กๆน้อยๆ) ทำบันทึกรายการใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ (routine maintenance and consumable) ให้ผมเป็นรายเดือน ทั้งๆที่ตรงนี้เป็นหน้าที่ของเลขาและบัญชี เขาแค่ส่งบิลให้ก็พอ พอผมให้ไปรับส่งลูกจากรร.เป็นประจำ ก็ขอไปอบรมปฐมพยาบาลกับกาชาด บอกว่าจะได้ดูแลคุณหนูได้ระหว่างทางกลับบ้าน โถ อย่างนี้ผมไม่ให้ไปก็บ้าแล้ว (win-win ใช่ป่ะ พี่เขาก็ได้ความรู้ติดตัว ลูกผมก็ปลอดภัยมากขึ้น) อย่าว่าให้ลางานไปเลยครับ ให้ไปเวลางานด้วย ผมจ้างคนขับชั่วคราวมา 3 วันเพื่อให้พี่แกไปอบรมเลย นับเป็นเวลาทำงานให้ด้วย ... ไม่ต้องบอกว่าผมเงินเดือนขึ้นทุกปี คนขับรถผมคนนี้รายได้เท่าวิศวกร แต่คุ้มครับ

5. คิดเอาเองมั่งซิครับ ...(อิอิ)



อย่างน้อยถึงไม่ได้ 2 ขั้น เอ๊ย เงินเดือนขึ้น ณ. งานปัจจุบัน (หรือตอนย้ายงาน) แต่ถ้าบ.จะต้องลดกำลังคน (lay offf) คุณก็จะอยู่ในลำดับท้ายๆของบัญชีหนังสุนัขล่ะครับ

และท้ายที่สุดการที่คุณจะตะหนักในคุณค่าที่แท้จริงของตัวคุณ ไม่ได้ขึ้นกับการให้คุณค่าและการยอมรับขององค์กรที่ให้คุณหรอกนะครับ มันขึ้นกับคุณค่าของคุณต่อคนที่คุณรักและครอบครัว นั่นต่างหากครับที่จะอยู่กับคุณตลอดไป ตำแหน่งหน้าที่การงานในบ.มันก็แค่หัวโขน เป็นแค่สิ่งที่ทำให้คุณมีปัจจัยสี่ดำรงชีวิต อย่าให้มันมาเป็นตัวกำหนดคุณค่าของคุณ

เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าคุณไม่เห็นคุณค่าตัวเองแล้ว ต่อให้คนทั้งโลกเห็นคุณค่าของคุณ มันก็จะมีประโยชน์อะไรต่อชีวิตต่อความรู้สึกเคารพนับถือตัวเองของคุณหรอกครับ




อ่านต่อเลือกคลิ๊กกันเลยครับ
=> FAQ #1 FAQ #2 FAQ #3 FAQ #4 FAQ #5 FAQ #6 FAQ #7 FAQ #8 FAQ #9 FAQ #10 FAQ #11
FAQ #12

ห้องสมุดเล็กๆของผม <=== คลิ๊ก
รวบรวมตำราการขุดเจาะ คลิ๊ปการทำงานในบางตำแหน่ง แบบประเมินความเหมาะสมกับงานในสนามเบื้องต้น วิธีเขียน resume ที่ไม่โดนโยนทิ้งตะกร้า รายชื่อบริษัทฯในวงการ และ อื่นๆอีกมากมาย


มีคลิปการทำงานของบางตำแหน่งให้ดูเป็นน้ำจิ้ม มีตำราวิศวกรการขุดเจาะให้ดาว์โหลดเป็นบทๆ มีความหวังดีและเอื้ออาทรเสมอ ถ้ารู้สึกขอบคุณ ไม่ต้องตอบแทนอะไรผม แค่คุณจะแบ่งปันสิ่งที่คุณมีให้คนอื่นต่อไป ผมก็รู้สึกว่าคุณได้ตอบแทนผมแล้ว



Create Date : 01 ตุลาคม 2552
Last Update : 12 เมษายน 2556 15:57:25 น. 6 comments
Counter : 2213 Pageviews.

 
สุดยอดเลยค่ะ......... ชอบประโยคนี้จัง........ถ้าคุณไม่เห็นคุณค่าตัวเองแล้ว ต่อให้คนทั้งโลกเห็นคุณค่าของคุณ มันก็จะมีประโยชน์อะไร


โดย: prim@บ้านบางมด วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:18:05:29 น.  

 
มีเหตุผลดีค่ะ


โดย: อ้อ (sandseasun ) วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:21:28:09 น.  

 
เจ๋ง

เห็นด้วยกับคุณ prim@บ้านบางมด อย่างแรง


โดย: ลูกพระจอมจ้า^^ IP: 192.168.182.141, 125.25.171.41 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:20:07:59 น.  

 
ส่วนตัวเห็นด้วยครับ แต่พี่ครับภาษาไทยกรุณาอย่าเขียน
ให้ขาดๆเกินๆครับ ขอบคุณในมุมมองของพี่ ที่ให้ผมรู้
ขอบคุณครับ


โดย: คนผ่านมา IP: 110.49.77.123 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:10:01:00 น.  

 
ตอบคุณ คนผ่านมา - ขอบคุณมากๆครับ สำหรับคำแนะนำ ต่อไปจะระมัดระวังให้มากขึ้น


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:13:28:26 น.  

 
ถ้าคนเราคิดแบบนี้ อนาคตของคนรุ่นหลังจะเป็นยังไง


โดย: นู๋เบียร์ IP: 202.183.152.194 วันที่: 1 สิงหาคม 2554 เวลา:12:23:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.