|
ด้วยได้ครูกวี ... ด้วยดีครูกะไหว้
01.24 น. (7 ธ.ค 49)
กระทู้หายไปเมื่อครั้ง........ปฏิรูป ฉันทลักษณ์ไม่ควรวูบ.......ว่างเว้น ยกมาใส่บล๊อกกรุ๊ป............บางส่วน อย่าโกรธอย่าขึ้งเค้น..........เคียดแค้นกันเลย
01.30 น. (7 ธ.ค 49)
..ฉันทลักษณ์
..
ฉันทลักษณ์ชักจะเรื้อ.....ลืมเลือน ขอฝากบทใหม่เตือน......อีกครั้ง ขาเก่าใหม่บอกเหมือน...กันหมด เมื่อรักแม้พลาดพลั้ง.......ย่อมพร้อมแก้ไข ฯ
เอกเจ็ดใส่ถูกต้อง...........ตามผัง โทสี่แต้มมนต์ขลัง...........ครบถ้วน คำสุภาพพึงระวัง.............ท้ายวรรค วางแต่งสี่แห่งล้วน..........ละไม้สมานเสียง ฯ
จัดเพียงสามสิบถ้อย........ความแถลง มีลหุก็อาจแปลง..............ปรับได้ เป็นลูกเก็บผ่อนแรง.......อ่านรวบ ฤาแยกเสียงพยางค์ให้....รับใช้เจตนา๚ะ๛
พุธสวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน
..อนุสนธิจากการสนทนานอกรอบของพวกเราเหล่าสมาชิกห้องกวีการเมือง เกี่ยวกับกระทู้ฉันทลักษณ์ที่ตกห้องไป จขกท. รับอาสาไว้ว่าจะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อเอาไว้เป็นที่อ้างอิง ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับที่มีผู้ท้วงติงมาพอดี
..ก็คงจะต้องขอความร่วมมือสมาชิกให้ช่วยกันประคับประคองกระทู้นี้ไว้ด้วย แบบว่ารักนิดหน่อยก็พอ แต่ขอให้รักนานๆ จขกท. เองก็คงต้องใช้เวลาบ้าง ในการขุดค้นจากกระทู้เดิมเอามาจัดเรียงให้ชวนแวะเข้ามาอ่านเอารู้
จากคุณ : อังศนา - [ 2 พ.ย. 48 20:10:31 ] -------------
------------- ความคิดเห็นที่ 18
หวัดดีค่ะ พี่อัง และชาวพาราทุก ๆ ท่านนะคะทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ค่ะ
ดีใจเห็นกระทู้.............วางเรียง ฉันทลักษณ์ขอเพียง.....ทุกครั้ง รูปเอกเจ็ดสลักเคียง....โทสี่ ตำแหน่งถูกจัดตั้ง.........เสนาะถ้อยวรรณศิลป์
จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 3 พ.ย. 48 06:55:12 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 19
เอกเจ็ดโทสี่นั้น.........หัวใจ ฉันทลักษณ์โยงใย.....ห่อนเว้น ยึดผังทุกคราไป.........หลักแน่น ท้ายสุดอักษราเน้น....ประจักษ์แจ้งเพลิดเพลิน
ก็คงยกประสบการณ์ของตัวเองสมัยเริ่มหัดโคลงสี่ใหม่ ๆ โดยการลอกผังโคลงสี่ใส่กระดาษกรอบเล็ก ๆ แปะติดไว้ มุมจอคอมพ์ตอนคิดหาคำก็เหลือบที่ผังเป็นระยะ ๆ ค่ะ เพราะใหม่ ๆ ยังจำรูปแบบผังว่า ตำแหน่งผัง เอกเจ็ด โทสี่ มันอยู่ตรงไหนบ้างไม่ได้ไงคะ พอเริ่มคุ้นก็ค่อยแกะ กระดาษผังออกค่ะ อย่าเพิ่งท้อกันนะคะ ให้กำลังใจทุก ๆ ท่านค่ะ
จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 3 พ.ย. 48 07:11:03 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 20
ฉันทลักษณ์ยากลับเรื้อ....เหลี่ยมหาย โทเอกปักหลักราย...........เหลื่อมล้ำ โคลงสี่สุภาพกลาย...........หลักปัจจุ- บันเลือน ขอขอบคุณผู้ค้ำ................หล่มล้อวรรณศิลป์ ฯ _________
สวัสดีครับพี่อังศนา และ ทุกท่าน ดีใจที่เห็นกระทู้ฉันทลักษณ์กลับมาประดับห้อง
บางทีเห็นของหลายๆคนแล้วอยากแนะบอกกันบ้าง แต่ด้วยคุณวุฒิที่ไม่เพียงพอ ทำให้จำต้องนิ่ง ประกอบกับตัวผมเองทุกวันนี้ก็ยังผิดๆถูกๆอยู่เลย
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 3 พ.ย. 48 12:15:54 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 21
ไหนไหนก็ไหนไหน
ฉันทลักษณ์ยากลับเรื้อ.....เหลี่ยมถลำ โทเอกปักหลักจำ-.............รัสร้อย โคลงสี่สุภาพคำ.................ครูขัด วันแต่งคืนเคลื่อนคล้อย....ขื่อคล้องวรรณกรรม ฯ ______
ผมขอเพิ่มเติมเรื่องเสียงสัมผัสสักน้อยแล้วกันครับ เพราะเผลอใช้บ่อย
เรื่องการ แย่งสัมผัสนอก
ในกรณีนี้สัมผัสนอกสามตำแหน่งหลักใช้สระอำแล้ว
- ถลำ , จำ , คำ
คำส่งบาทสุดท้ายวรรคสี่ หากเลี่ยงได้ไม่ควรใช้เสียงสระอำหรือเสียงสระเคียงกันซ้ำอีก
- กรรม
อ่านแล้วลดทอนทุกบทด้านบนพอตัวเชียวครับ
เสียดายอาจารย์หนึ่ง อาจารย์หมีไม่อยู่ คงช่วยเติมเต็มกระทู้ได้มากกว่านี้
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 3 พ.ย. 48 12:36:44 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 22
พฤหัสบดีสวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน
..อ้อ ที่แท้เป็นคุณ Scoreboard นี่เอง นึกว่าขาใหม่ฝีมือดีที่ไหน ดีใจที่กลับมาแวะได้บ่อยๆ เหมือนเคยนะคะ ..ยินดีที่ได้เห็นชื่อใหม่ๆ แต่เอกเจ็ดโทสี่ไม่มีพลาด อย่างคุณศรีธนนชัยค่ะ ..ยินดีต้อนรับอย่างยิ่งค่ะ คุณ Coquette เชิญได้ทุกเมื่อเลยค่ะ ..และขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจสนับสนุน (ฟังคล้ายๆ นักร้องเพลงลูกทุ่งเลย) จากขาเก่าคนกันเองอย่าง คุณบังสุกุล คุณ Augustman คุณลำน้ำ C คุณ Cookie Jar คุณดาราเดช คุณยี่หร่า และคุณจอมมารฯ
..แบบว่ามาทักทายไว้ก่อน กว่าจะได้เข้ากระทู้จริงจังก็คงจะเป็นตอนค่ำๆ ให้คุณจอมมารฯ ช่วยว่าราชการแทนต่อหน่อยเด้อค่ะ.. อิอิ
จากคุณ : อังศนา - [ 3 พ.ย. 48 13:49:25 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 23
ฉันทลักษณ์อย่าร้าง...ลืมหาย เอกเจ็ดโทสี่หมาย.....แม่นย้ำ คำสุภาพฟังสบาย......แสนเสนาะ ห้าแห่งไพเราะล้ำ.....เมื่อร้อยโคลงเขียน
ตอนหัดเขียนโคลงสี่สุภาพแรกๆ ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องเอกโทตรงไหน ยังไง พอเห็นผังที่นำมาแปะไว้ในกระทู้ รู้สึกหน้าแตกยับเยินเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็พยายามเขียนให้ถูกต้องตามผัง ที่สำคัญแอบเรียนรู้จากพี่ๆเพื่อนๆ จนมาถึงวันนี้
ตอนนี้เขียนโคลงสี่มากจนเขียนกลอนแทบจะไม่เป็นแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะพี่อังฯ จขกท และทุกท่าน
จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 3 พ.ย. 48 15:03:48 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 24
๏ เพียรเกาะกรอบกระทู้...พึงชม เรียนหลักพิมพ์นิยม.........รับไว้ ความรู้รักษ์สะสม..............ครูสั่ง จำหลักประกอบให้............จรดถ้วนทฤษฎี ๚ะ
สวัสดีค่ะคุณอังศนา เจ้าของกระทู้ และ สมาชิกห้องกวีการเมืองทุกท่าน
ขอเกาะขอบกระทู้ฉันทลักษณ์ด้วยคนนะคะ
จากคุณ : ๏๏ เดือนตะวัน ๏๏ - [ 3 พ.ย. 48 15:46:30 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 25
สวัสดีค่ะ ชารา และคุณเดือนตะวัน
เอกเจ็ดนั้นแนบไม้....เอกโชว์ โทสี่มีไม้โท.................ทัดไว้ กก กด กบ มากโข.......ตัวสะกด แทนเอกทุกแห่งได้.....อย่าให้สับสน
..คนเขียนโคลงใหม่ๆ มักจะเข้าใจว่าคำเอกโทนั้น คือ เสียงเอกเสียงโท เพราะเมื่ออ่านแล้วฟังกลมกลืน
แต่จริงๆ แล้วต้องเป็น รูปเอกโท นะคะท่านทั้งหลาย ..ต้องเป็นคำที่ทัดไม้เอก ไม้โท เท่านั้น และไม้เอกสามารถ ใช้คำตาย(สะกดด้วย แม่ กก กด กบ) ทดแทนได้ทุกตำแหน่ง
จากคุณ : อังศนา - [ 3 พ.ย. 48 19:35:44 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 26
๔) คำบังคับเอกโท
โคลงสี่สุภาพนั้นบังคับเอกโทด้วย รูป มิใช่เสียง
คำบังคับรูปเอก : คำที่มีไม้เอก และคำตายทั้งหมด นั่นคือคำที่สะกดด้วยแม่กก แม่กด แม่กบ และสระเสียงสั้นทั้งปวง ไม่ว่าจะมีเสียงเอก (เช่น ตบแผละ ตกเบ็ด) เสียงโท (เช่น โรควูบ ฮวบฮาบ) หรือเสียงตรี (เช่น นักรบ เฟอะฟะ)
คำบังคับรูปโท : คำที่มีไม้โททั้งหลาย แต่จะยกเว้นคำตาย เช่น จ้อกแจ้ก ปู้ดป้าด โอ้กอ้าก อ้วก แอ้ก
ตัวอย่าง : โคลงโลกนิติ
๏ นาคีมีพิษเพี้ยง....สุริโย เลื้อยบ่ทำเดโช........แช่มช้า พิษน้อยหยิ่งโยโส....แมลงป่อง ชูแต่หางเองอ้า........อวดอ้างฤทธี
จากคุณ : อังศนา - [ 3 พ.ย. 48 19:40:33 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 27
คำเป็น/คำตาย
คำเป็น คือคำที่สะกดด้วย น ง ม ย ว หรือผสมสระเสียงยาว อา อี อู โอ ออ เป็นต้น เช่น ธารา นารี พาชี ปีทอง ถ้ำมอง หมองหม่น หนทาง รางหญ้า หมาหมู่ เรียงราย วายวาง ค้างฟ้า
คำตาย คือคำที่สะกดด้วย ก ด บ หรือผสมสระเสียงสั้น อะ อิ อุ เอะ โอะ เป็นต้น เช่น พิศวาส อนาถจิต ตกตึก ตบแผละ เฉอะแฉะ ฉีกขาด ขวดแตก
เสียงสามัญ : คำที่มีเสียงเดียวกับ "กา" เช่น ไป มา ดู เธอ พอ ใจ ใบลาน นาที กีฬา
เสียงเอก : คำที่มีเสียงเดียวกับ "ก่า" เช่น เบื่อ ป่า สี่ สว่าง ก่นด่า อย่าอยู่ ข่าวเก่า ใหม่กว่า (คำตายเสียงเอก เช่น เก็บตก ปอดแหก อกหัก บาดเจ็บ)
เสียงโท : คำที่มีเสียงเดียวกับ "ก้า" เช่น ต้อง ถ้า ที่ ได้แก้ว เจ้าป้า ขี้เถ้า บ้าใบ้ หนี้เน่า ท่วมทุ่ง (คำตายเสียงโท เช่น พูดมาก โรควูบ โชกเลือด เชือดยาก)
เสียงตรี : คำที่มีเสียงเดียวกับ "ก๊า" เช่น น้ำ ฟ้า ทิ้ง ท้อง ร้อง รู้ งิ้ว ม้าใช้ ช้างยิ้ม (คำตายเสียงตรี เช่น นกยักษ์ รับรัก นักรบ พบพระ พัดยศ)
เสียงจัตวา : คำที่มีเสียงเดียวกับ "ก๋า" เช่น ไหม ผวา ถลำ หลายหลา หมีหมา สูสี ถูไถ หมายศาล หวานแหวว
จากคุณ : อังศนา - [ 3 พ.ย. 48 19:48:22 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 28
อักษรต่ำทั้งหมด.............ที่มี ยี่สิบสี่ตัวขอ...................กล่าวไว้ ทัดโทออกเสียงตรี..........ทั้งตับ อย่าจับผิดไม้ใช้..............ช่วยระวังฯ
เขียนโคลงอาจซับซ้อน....สารพัน มีกฎเกณฑ์มีผัง...............ผูกคล้อง แต่สามารถสร้างสรรค์......เพิ่มเสน่ห์ อยากเก่งกาจต้องพร้อม....พัฒนา๚ะ๛
*(โคลงดั้นบาทกุญชร)*
ไหนๆ ก็ ไหนๆ เช่นกันค่ะ เมื่อพูดถึงเสียงวรรณยุกต์ ก็ขอถือโอกาสพูดถึงการผันอักษรต่ำ (ที่เรามักจะเผลอไผลให้เห็นกันบ่อยหน) เสียด้วยเลย
อักษรต่ำ ๒๔ ตัว :- ค ฆ ฅ ง ช ซ ฌ ญ ท ธ น พ ฑ ฒ ณ ม ฟ ย ล ร ว ฮ ภ ฬ นี้ ..ผันได้ ๓ เสียงด้วยตัวมันเอง คือ คา (เสียงสามัญ) ค่า (เสียงโท) ค้า (เสียงตรี)
ถ้าจะให้ครบห้าเสียง ก็ต้องใช้อักษรสูงคู่เสียง หรือใช้ ห. ช่วย เช่น
นา / หน่า / น่า, หน้า / น้า / หนา
คา / ข่า / ค่า,ข้า / ค้า / ขา
เพราะฉะนั้นใครๆ ที่เคยเขียน โว๊ย โซ๊ย ไม๊ มั๊ย หรือ (แม้กระทั่ง) ไหม๊ ...ผิดหมดเลยนะคะ โปรดระวังกันจั๊กน่อยก็ดีค่ะ เพราะบทกวีที่ดีไม่เพียงแต่ต้องแม่นฉันทลักษณ์เท่านั้น อักขรวิธี วจีวิพากย์ และวากยสัมพันธ์ ก็ต้องแม่นไปพร้อมๆ กันด้วย
จากคุณ : อังศนา - [ 3 พ.ย. 48 20:07:34 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 29
นายกระซิบ สมาชิกเก่าแก่ท่านหนึ่ง (ซึ่ง จขกท. แอบยกไว้เป็นครูของตัวเอง) เคยอธิบายไว้ดังนี้...
การแต่งร้อยกรองให้ดีมี ๔ หลัก
๑. อักขรวิธี : เขียน (สะกดให้ถูก) และอ่านให้ถูกวิธี
๒. วจีวิภาค : คัดเลือกใช้ คำคม, คำหวาน, คำไพเราะ, คำกร้าว/เร้าใจ ให้เหมาะสม ตามกาลเทศะ/เนื้อเรื่อง[เช่นไม่ใช่คำว่า บรรจง กับฆาตกรโรคจิต(หั่นศพ) เป็นต้น]
๓. วากยสัมพันธ์ : ลีลาในการเชื่อมโยงเรื่องราวในประโยคต่างๆ ให้เป็นสำนวนโวหารที่น่าฟัง (อ่านแล้วจะให้รู้เรื่องก็ได้ หรือให้คิดไปสามวันจึงรู้ก็ได้)
๔ ฉันทลักษณ์ : ถูกกระสวน (Pattern) คือถูกรูปแบบ จำสูตรสำเร็จของร้อยกรองแต่ละแบบ ให้แม่นยำ ไม่แหกกฎ (โดยไม่จำเป็น ยกเว้นชื่อเฉพาะ ภาษิต ฯลฯ)
จากคุณ : อังศนา - [ 3 พ.ย. 48 20:21:39 ] ------------- ------------- ความคิดเห็นที่ 33
ีมีดคมกริบพุ่งพ้น........ผ่านใจ ดาบทุ่มเทออกไป........ยากรั้ง กระสุนปล่อยเร็วไว.....เร็วกว่า ใจเร่งหากพลาดพลั้ง....อย่าได้โกรธเคือง
ผิดแล้วผิดอีกแล้ว........เวียนวน กฎที่เหล่าผู้คน.............กล่าวอ้าง ขอบคุณท่านที่ทน..........เบื่อหน่าย หัวส่ายบ่ายอ้างว้าง........บ่วงเข้าเผาใจ
ขอบคุณ.....ที่ช่วยชี้แนะ แต่กวีใจ.....มักใช้เพียงใจ ขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้
จากคุณ : ลี้ถ้ำฮวย - [ 3 พ.ย. 48 23:38:26 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 34
คำทุกคำ ''เพชร'' ล้ำค่า ล้วนน่าคิด หากรู้ค้นลิขิตแล้วขีดเขียน แม้ความรู้จะดูไร้มิได้เรียน แต่ถ้าเพียรบำเพ็ญย่อมเป็นพร
เพียงเรียนรู้ฉันทลักษณ์เป็นหลักเริ่ม ชื่อเสียงเสริมสร้างศักดิ์ศรีอักษร ค่อยค่อยเกลาคำกรองก่อนร้อยกรอง ถ้อยสุนทรร้อยฤทัย....หาใครเทียม
(อ้างอิงจาก ''เพชรคำกรอง'' ของท่าน ประสิทธิ์ โรหิตเสถียร) ขอฝากกำลังใจให้ทุกท่านที่ อยากแต่งโคลงกลอน หมายรวมถึงตัวข้าพเจ้าด้วย.....
จากคุณ : Cookie Jar - [ 4 พ.ย. 48 02:06:07 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 35
กาลก่อนพี่ถึกท้อ.........ถ้อยแถลง แว่ววจีแจ่มจรัสแยง....ยัดให้ แม่กักตะแลงแกง........กรรมก่น ว่าผิดอย่าเทียวไร้........สติรู้แลเห็น ฯ _____
วันก่อนมีวจีกรรม แว่วมาเข้าหูผมว่า รู้รักจะเขียน รักจะเรียนรู้ กลับละเลยการผันเสียงสะกด สูงต่ำดำขาว ไม่ใส่ใจองค์ประกอบ และ ฯลฯ
ประมาณว่าอนุรักษ์แต่ปาก
เล่นเอาผมสะอึก ไม่มีทางออก
ไม้ตรี ไยไม่มี ไมตรี กับพี่เลย
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 4 พ.ย. 48 09:40:05 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 36
๐ ภาษาพาสื่อให้.............เรียงความ ฉันทลักษณ์สลักงาม........เด่นล้ำ ผังโคลงสี่นิยาม...............วางกรอบ อ่านผ่านถ้อยคำค้ำ..........ยั้งยืนนาน
๐ ภาษาวิบัติได้................เร็วไว ฉันทลักษณ์หลุดลื่นไหล...แหลกล้น ภาษาส่อหัวใจ..................ขาวสะอาด ผ่านผุดใจคิดค้น..............เที่ยงแท้ภาษา
จากคุณ : ๓s - [ 5 พ.ย. 48 11:07:18 A:203.113.36.13 X:203.151.140.119 TicketID:005068 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 37
เสาร์สวัสดิ์ค่ะ ท่านแปดณอฯ คุณลี้ถ้ำฮวย คุณ ๓s และกองหนุนทุกๆ ท่าน
ฉันทลักษณ์คือหลักรั้ว.....ร้อยกรอง เป็นกรอบตั้งประคอง.......ระบุเค้า หลงเสน่ห์มักสำนอง.........แนวถนัด เหมือนหยัดยืนหยั่งเท้า...ก่อนก้าวกระโดดไกล
เมื่อมีใจมอบแล้ว............ลางดี ปรับแต่งตามวิถี..............อย่าท้อ ใช้ลูกเล่นเลือกวจี...........ตรงจริต ยั่วเยาะฤๅหยอกล้อ.........ย่อมรู้ลีลา
เซี่ยวลี้ถ้ำฮวย.. ประเสริฐแล้วค่ะที่มีใจเป็นกวี เพราะหมายความว่ามีชัยไปกว่าครึ่งเลยนะนั่น (เอ.. คุ้นๆ ว่าใครก็พูดอะไรประมาณนี้ในอีกกระทู้นึงเหมียนกัน)
จากคุณ : อังศนา - [ 5 พ.ย. 48 16:38:00 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 38
อาทิตย์สวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน
เอกโทบาทแรกนั้น......นำเคียง แต่อาจจับวางเรียง.......สลับได้ แก้มแม่เมื่อแม่เอียง....เอื้อกลิ่น หอมเอย ยุงเหลือบริ้นย่อมไล้......ละลาบเนื้อนวลสนอง
~*~*~
๕) เอก-โท ในบาทแรกของโคลงสลับที่กันได้
..ตัวอย่าง..
๏ อันใดย้ำแก้มแม่ ......หมองหมาย ยุงเหลือบฤๅริ้นพราย ...ลอบย้ำ ผิวคนแต่จะกลาย .........ยังยาก ใครจักอาจให้ช้ำ ...........ชอกเนื้อเรียมสงวน ๚
สองบาทแรกพระราชนิพนธ์โดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สองบาทต่อมาประพันธ์โดยศรีปราชญ์บุตรพระโหราธิบดี (จากหนังสือ ประวัติและโคลงกำศรวลศรีปราชญ์ ของกรมศิลปากร)
จะเห็นว่าคำว่า แก้มแม่ สลับเอก-โท ได้เพราะอยู่ในวรรคแรกของบาทแรก (ตำแหน่งอื่นสลับที่ไม่ได้ครับ)
จากคุณ : นายกระซิบ - [ 20 ต.ค. 46 00:03:15 ]
~*~*~ อิอิ.. ขออำไพค่ะ ที่บทข้างบนนั้นเป็นประเภทโคลงพาไป แบบไปไหนมา ๓ วา ๒ ศอก
จากคุณ : อังศนา - [ 6 พ.ย. 48 19:00:31 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 39
พยางค์โคลงคำสุดท้าย....ทิ้งทวน ต้องสุภาพทั้งมวล............ปลอดไม้ คำตายยิ่งไม่ควร............เพราะขาด ศิลป์นอ เสียงจัตวาน่าใช้.............ช่วยให้หวานหู
~*~*~
๖) ห้ามใช้คำตายเป็นคำสุดท้ายของบท
คำสุภาพ คือคำที่ไม่มีวรรณยุกต์ ซึ่งเป็นได้ทั้งคำเป็นและคำตาย แต่ตำแหน่งท้ายสุดของบท อย่าใช้คำตายเป็นอันขาด เนื่องจาก ทำให้ขาดความไพเราะโดยสิ้นเชิง คำสุดท้ายจึงมีเพียง ๒ เสียงเท่านั้น คือ สามัญ หรือ จัตวา
ตัวอย่าง : โคลงโลกนิติ
๏ ดูข้าดูเมื่อใช้.......การหนัก ดูมิตรพงศารัก.......เมื่อไร้ ดูเมียเมื่อไข้จัก......จวนชีพ อาจจักรู้จิตไว้.........ว่าร้ายฤาดี
(คำสุภาพที่เป็นคำตายในบาท ๑, ๒ และ ๓ แต่ บาท ๔ คือคำเป็นเสียงสามัญ)
๏ อย่าเอื้อมเด็ดดอกฟ้า...มาถนอม สูงสุดมือมักตรอม............อกไข้ เด็ดแต่ดอกพยอม...........ยามยาก ชมนา สูงก็สอยด้วยไม้...............อาจเอื้อมเอาถึง
(บาท ๔ ลงท้ายด้วยคำเสียงจัตวา ที่ฟังเสนาะหูยิ่งขึ้น)
จากคุณ : อังศนา - [ 6 พ.ย. 48 19:43:49 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 40
ฉันทลักษณ์เป็นหลักค้ำ...โคลงการ ดาวแต่น้อยผ่อนนาน......ต่อได้ ผลิออกดอกเบี้ยบาน........ตามประสบ การณ์นา จนจรัสแสงส่องให้...........สุดฟ้าสว่างไสว
จากคุณ : KAVINT - [ 8 พ.ย. 48 08:18:04 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 41
ฉันทลักษณ์เป็นบ่อน้ำ...บาดาล ซึมซับสะสมนาน............สะอาดแท้ ดื่มกินต่อเติมงาน..........การแต่ง โคลงเอย เสพสุขมีข้อแม้...............อย่าสร้างน้ำเสีย
จากคุณ : KAVINT - [ 8 พ.ย. 48 08:24:27 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 42
ฉันทลักษณ์ฉันทะล้น....เหลือขอ ตาหลิ่วต้องหลิ่วพอ.........รับได้ บ้านมีกฏเกณฑ์รอ.........ระลึกสติ แตกหน่อแต่พอให้........ห่างเหี้ยนไม่ไหว ฯ
________
สวัสดียามค่ำครับพี่อังฯ พี่กวินท์ และ ทุกท่าน
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 8 พ.ย. 48 19:59:39 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 43
ขอร่วมอยู่ในกลิ่นอายฉันทลักษณ์ที่หอมกรุ่นนี้ด้วยคนครับ //vud.blogspot.com/2005/11/blog-post.html
เขียนชีวิตก่อนนี้............ช่วยจำ ภาพเมื่อครั้งเก่านำ.........กล่าวย้อน บันทึกแต่งแต้มทำ..........ตามแต่ เหตุการณ์ ทึกทักใจรุ่มร้อน.............ล่วงรู้ ความจริง
รำเพยรำพร่ำเพ้อ...........พรรณนา ลึกที่สุดเขียนมา..............เกริ่นไว้ ความหลังเมื่อผ่านตา......ย้อนอ่าน คุ้นชิน หลังเหตุการณ์ผ่านไซร้...อ่านแล้ว อิ่มอุ่น
จากคุณ : v74 - [ 8 พ.ย. 48 20:02:51 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 44
ฉันทลักษณ์ยึดหลักล้วน...ควรจำ "ฉันทะ"รักชอบนำ...........นึกน้อม "วิริยะ"เพียรทำ...............ทุกบ่อย "จิตตะ"มุ่งฝึกซ้อม............สำเร็จด้วย"วิมังสา"
สวัสดี ทุกท่าน ครับ ทุกอย่างจักสำเร็จได้ด้วย"อิทธิบาท 4"
จากคุณ : Augustman (Augustman) - [ 8 พ.ย. 48 22:15:16 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 45
พุธสวัสดิ์ค่ะ ท่านทั้งหลาย
คุณกวินท์ ไม่ได้เจอกันเสียนาน.. คิดถึงออก
คุณจอมมารฯ ยังอยู่ใน กท. ป่าวคะ
คุณ Augustman จขกท. ชอบอิทธิบาท ๔ บทข้างบนนี้มากค่ะ ..ขอบอก
และ.. ยินดีต้อนรับ คุณ v74 ค่ะ ดูแล้วพื้นฐานการเขียนโคลงดีทีเดียวค่ะ ขออนุญาตแนะจุดที่ควรปรับแก้นิดนึงนะคะ ๑) สร้อยคำ ในบาท ๓ ไม่ควรมีเจตนัง (อาจเปลี่ยนเป็น เหตุนา สำหรับบทแรก ส่วนบทที่ ๒ ตัดคำว่า คุ้นชิน ทิ้งไปหมดก็ยังได้ เพราะไม่เสียความ)
๒) วรรคหลังบาท ๔ ต้องเขียนติดกัน และคำสุดท้ายของบท อย่าใช้คำ ที่มีวรรณยุกต์ค่ะ (เช่น อาจเปลี่ยนไปใช้ อ่านแล้วอิ่มเอม เป็นต้น)
จากคุณ : อังศนา - [ 9 พ.ย. 48 19:24:33 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 46
แม้คำครบเจ็ดแล้ว.......ความขาด บาทแรกบาทสี่อาจ........พิ่มถ้อย เสริมอีกหนึ่งพจน์วาด...ว่างเจต- นังนอ วางต่อไว้เป็นสร้อย.......ส่งให้สมบูรณ์
~*~*~
๗) สร้อยโคลง สร้อยโคลงในบาท ๑ หรือ ๓ นั้น มักใส่แล้วแต่ความเหมาะสม และความจำเป็น เช่นยังไม่สุดใจความในวรรค ซึ่งมักจะเสริมด้วยคำที่ไม่มีเจตนัง หรือคำที่ไม่มีความหมาย
ตัวอย่าง : โคลงโลกนิติ
๏ จระเข้คับน่านน้ำ.....ไฉนหา ภักษ์เฮย รถใหญ่กว่ารัถยา........ยากแท้ เสือใหญ่กว่าวนา.........ไฉนอยู่ ได้แฮ เรือเขื่องคับชเลแล้......แล่นโล้ไปไฉน
~*~*~
> สร้อยโคลง ควรรู้...copy มาจากไกลบ้าน >
สำหรับคำสร้อย ในบาทที่ ๑ ๓ และ ๔ มีหลักการณ์เขียนดังนี้ค่ะ
คำสร้อยที่นิยมใช้กันมาแต่โบราณนั้น มีทั้งหมด ๑๘ คำ ดังนี้
๑. 'พ่อ' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล เช่น ฤทธิ์พ่อ, นี้พ่อ, นาพ่อ ฯลฯ
..ศัตรูหมู่พาลา .......พาลพ่าย ฤทธิ์พ่อ
๒. 'แม่' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล หรือเป็นคำร้องเรียก เช่น แม่แม่, มาแม่ ฯลฯ
..แสนศึกแสนศาสตร์ซ้อง .....แสนพัน มาแม่
๓. 'พี่' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล อาจทำหน้าที่เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑ หรือบุรุษที่ ๒ ก็ได้เช่น เรือพี่, ฤๅพี่ ฯลฯ
..สองเขือพี่หลับไหล .....ลืมตื่น ฤๅพี่
๔. 'เลย' ใช้ในความหมายเชิงปฏิเสธ เช่น เรียมเลย, ถึงเลย ฯลฯ
..ประมาณกึ่งเกศา .....ฤๅห่าง เรียมเลย
๕. 'เทอญ' มีความหมายในเชิงขอให้มี หรือขอให้เป็น เช่น ตนเทอญ ฯลฯ
..สารพัดเขตจักรพาล ......ฟังด่ำ บลเทอญ
๖. 'นา' ดังนั้น เช่นนั้น
..จำบำราศบุญเรือง ......รองบาท พระนา
๗. 'นอ' มีความหมายเช่นเดียวกับคำอุทานว่า 'หนอ' หรือ 'นั่นเอง'
..ยอกไหล่ยอกตะโพกปาน ..... ปืนปัก อยู่นอ
๘. 'บารนี' สร้อยคำนี้ นิยมใช้มากในลิลิตพระลอ มีความหมายว่า 'ดังนี้' 'เช่นนี้'
..กินบัวอร่อยโอ้ .......เอาใจ บารนี
๙. 'รา' มีความหมายละเอียดว่า 'เถอะ' 'เถิด'
..วานจวนชำระใจ ...... ความทุกข์ พี่รา
๑๐. 'ฤๅ' มีความหมายเชิงถาม เหมือนกับคำว่า หรือ
..มกุฏพิมานมณ .......ฑิรทิพย์ เทียมฤๅ
๑๑. 'เนอ' มีความหมายว่า ดังนั้น 'เช่นนั้น'
..วันรุ่งแม่กองทวิ .....ทศพวก นายเนอ
๑๒. 'ฮา' มีความหมายเช่นเดียวกับ คำสร้อย นา
..กวัดเท้าท่ามวยเตะ ....ตึงเมื่อย หายฮา
๑๓. 'แล' มีความหมายว่า อย่างนั้น เป็นเช่นนั้น
..กัลยาเคยเชื่อไว้ ....วางใจ มาแล
๑๔. 'ก็ดี' มีความหมายทำนองเดียวกับ ฉันใดก็ฉันนั้น
..นิทานนิเทศท้าว ....องค์ใด ก็ดี
๑๕. 'แฮ' มีความหมายว่า เป็นอย่างนั้นนั่นเอง ทำนองเดียวกับคำสร้อย แล
..อัชฌาสัยแห่งสามัญ .....บุญแต่ง มาแฮ
๑๖. 'อา' สร้อยคำนี้ไม่มีความหมายแน่ชัด แต่จะวางไว้หลังคำร้องเรียกให้ครบพยางค์ เช่น พ่ออา แม่อา พี่อา หรือเป็นคำออกเสียงพูด ในเชิง รำพึง แสดงความวิตกกังวล
..เป็นไฉนจึงด่วนทิ้ง .... น้องไป พี่อา
๑๗. 'เอย' ใช้เมื่ออยู่หลังคำร้องเรียก เหมือนคำว่า เอ๋ย หรือวางไว้ให้คำครบตามบังคับ
..จำปาจำเปรียบเนื้อ .....นางสวรรค์ kuเอย
๑๘. 'เฮย' ใช้ในลักษณะที่ต้องการเน้น ให้มีความเห็นคล้อยตามข้อความที่กล่าวมาข้างหน้า สร้อยคำนี้มาจากคำเขมรว่า "เหย" แปลว่า "แล้ว" ดังนั้นเมื่อใช้ในคำสร้อย จึงน่าจะมี ความหมายว่าเป็นเช่นนั้นแล้ว ได้เช่นกัน
..ขึ้นดั่งชัยพฤกษ์พร้อม .... มุรธา ภิเษกเฮย
คำสร้อยทั้ง ๑๘ คำที่กล่าวมานี้ เป็นคำสร้อยแบบแผน ที่ใช้กันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้แล้วยังมีคำสร้อยอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า "สร้อยเจตนัง" เป็นคำสร้อยที่กวี ต้องการให้เป็นไปตามใจของตน หรือใช้คำสร้อยนั้นโดยจงใจ ผู้ที่เริ่มฝึกหัดการประพันธ์ ควรใช้แต่สร้อยที่เป็นแบบแผน หลีกเลี่ยงการใช้สร้อยเจตนัง ในงานกวีนิพนธ์ที่เป็นพิธีการ ก็ไม่ควรใช้เช่นกัน สร้อยแบบนี้ไม่พบบ่อยนัก ในวรรณกรรมเก่า จึงหาตัวอย่างได้ยาก เช่น
..หายเห็นประเหลนุช ......นอนเงื่อง งงง่วง ..พวกไทยไล่ตามเพลิง ....เผาจุด ฉางฮือ ..ลัทธิท่านเคร่งเขมง ........เมืองท่าน อือฮือ
การใช้คำสร้อยของกวีในอดีต แต่ละท่านมีความนิยมแตกต่างกัน ในงานประพันธ์บางชิ้น ที่ไม่ทราบว่าท่านใดเป็นผู้ประพันธ์ อาจใช้รูปแบบความนิยมในการใช้คำสร้อย เป็นสิ่งช่วยวินิจฉัยว่าผลงานนั้นเป็นของกวีท่านใดได้
*(ที่มา : กระทู้โคลงในห้องสมุด)*
จากคุณ : อังศนา - [ 9 พ.ย. 48 20:01:19 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 47
ขอบคุณครับ คุณอังศนา ผมขอถือโอกาสแก้เป็น
เขียนชีวิตก่อนนี้..........ช่วยจำ ภาพเมื่อครั้งเก่านำ.......กล่าวย้อน บันทึกแต่งแต้มทำ........ตามแต่ เหตุนา ทึกทักใจรุ่มร้อน............ล่วงรู้ความจริง
รำเพยรำพร่ำเพ้อ..........พรรณนา ลึกที่สุดเขียนมา.............เกริ่นไว้ ความหลังเมื่อผ่านตา......ย้อนอ่าน หลังเหตุการณ์ผ่านไซร้...อ่านแล้วสุขใจ
จากคุณ : v74 - [ 10 พ.ย. 48 14:07:29 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 48
๐โคลงสี่สุภาพพ้อง..........ความงาม คำแต่งฉันทลักษณ์ตาม...ระเบียบไว้ กลถ้อยเกิดนิยาม..........สามสิบ พจน์แฮ ราวเรื่องบ่งนัยให้...........คิดคล้อยตามเขียน ฯ
สวัสดีค่ะ พี่อังศ์
ช่วงนี้แป่กค่ะ เอาของเก่ามาแปะไปพลาง ๆ ก่อน แหะ แหะ
จากคุณ : malijauna - [ 11 พ.ย. 48 02:58:45 ] ------------- ------------- ความคิดเห็นที่ 55
จักจับจิตจดจ้อง.... จับจด จับจิตจักจับจรด.... จากเจ้า จึ่งจำจ่อจิตจด........ ใจจ่อ จะจ่อจรดจากเจ้า... จึ่งจำ
สวัสดีท่านทั้งหลาย ท่านอัง ท่านซิบ ท่านลี้ ท่านออ และทุกคนครับ ตามมาให้ จดจ้อง จวบจ้วง ถึงที่ครับ อุตส่าห์ไปซุ่มค่อนวันเลยครับ ขอความคิดเห็นครับ ผิดพลาดประการไดช่วยติฉิน นินทาได้ครับ
จากคุณ : เซ่อ.... xers - [ 23 พ.ย. 48 17:39:11 A:58.10.129.226 X: TicketID:111674 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 56
ขอเรียนวิชาด้วยนะครับ ได้อะไรไปมากมายเลยครับ
จากคุณ : xers - [ 23 พ.ย. 48 17:40:35 A:58.10.129.226 X: TicketID:111674 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 57
กวีใจฝากให้..........พึงตรอง ถูกผิดแค่ได้ลอง.....ประเสริฐแท้ ผิดถูกไม่ลำพอง......อวดเก่ง ข้าแน่ไม่มีแพ้.........ย่อมไร้ใจกวี
------------- ตามมาให้กำลังใจ
จากคุณ : ลี้ถ้ำฮวย - [ 23 พ.ย. 48 20:58:13 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 58
๏ ทอดกายหมายชื่นเช้า... เย้ายวน กายกลับกอดขอดม้วน... ยากเยื้อง หมายซึมซับนับหวน... อื่นล้ำ ชื่นรุกกล้ำจากเฟื้อง... หล่มนี้เหน็บหนาว๚
ตื่นเช้าแต่ส่งงานมาเที่ยงเลย กว่าจะร้อยได้ ล้ามากๆ สวัสดีตอนเที่ยงก็ไม่เข้ากะกลอน เอาเป็นว่าแต่งเช้าเสร็จเที่ยงครับ
ขอแปะสองกระทู้เพราะยังไม่เจนจบกระบวนความ ที่สวนหอมลงท้ายผิดที่นี่อาจเปลี่ยนไปนิดครับ
ขอบคุณท่าน ลี้น้อย ที่เป็นเป้าให้ลับคม
จากคุณ : xers - [ 24 พ.ย. 48 13:29:54 A:58.10.129.139 X: TicketID:111674 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 59
สวัสดีค่ะ คุณเซอร์ และ คุณลี้ฯ
คุณเซอร์ขยันดีค่ะ ..ในคูหาที่ ๕๕ นั่นทำให้นึกถึงโคลงดั้น ซึ่งเป็นโคลงที่ จขกท. ชอบมากๆ เอาไว้ว่างๆ จะนำผัง มาแปะให้ไว้ด้วย
..ส่วนในคูหาที่ ๕๘ นี่ คำสุดท้ายในวรรคแรกบาท ๒ ยังเป็นคำมีวรรณยุกต์อยู่ ลองพยายามเลี่ยงดูนะคะ จขกท. เองตอนแต่งใหม่ๆ ก็ใส่ระเกะระกะไปหมดเหมียนกัน อ้อ.. วรรคหลังบาท ๓ ตกเอกอีกแห่งค่ะ
ปล. คำว่าคูหา ที่ใช้แทน คห. นี่หยิบยืมมาจากห้องย่อย ในเฉลิมไทยค่ะ ฟังน่ารักดี เลยขอเขาเอามาใช้มั่ง (ต้องให้เครดิตความสร้างสรรค์หน่อย)
จากคุณ : อังศนา - [ 24 พ.ย. 48 19:30:10 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 60
๏ ขอบเขตโคลงปมล้ำ.........คมจิต คุณประสิทธิ์ประดิษฐ์วิทฯ...คิดรู้ ทุกบทคู่บาทผลิต...............ปราชญ์กู่ ท่านสู่ข้ารับสู้.....................ปลดเปลื้อง โศกคลาย ๚
สวัสดีครับ ขอบคุณ คุณอังศนา และท่านลี้ ที่ให้กำลังใจ มีมาให้วิจารณ์อีกบทครับ
ขออนุญาติแปะกระทู้ 2 ห้องถ้าเก่งกว่านี้จะคิดให้เหมาะกับห้องครับ
จากคุณ : xers - [ 25 พ.ย. 48 14:08:30 A:58.10.129.95 X: TicketID:111674 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 61
๏ ขอบ..เขตโคลงลึกล้ำ...........คมจิต คุณ......ประสิทธิ์ประดิษฐ์วิทย์..คิดรู้ ทุก.......บทคู่บาทผลิต.............ปราชญ์กู่ ท่าน.....สู่ข้ารับสู้....................ปลดเปลื้องโศกสลาย ๚
สบายดีรึเปล่าครับทุกท่าน มาแก้โคลงที่โคลงเครงจากกระทู้ก่อนครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทั้งหลาย
จากคุณ : xers - [ 29 พ.ย. 48 01:42:24 A:58.10.129.9 X: TicketID:111674 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 62
อังคารสวัสดิ์ค่ะ
"ห้องสมุด"สถานที่คล้าย...สถาบัน พหูสูตรเขาอยู่กัน.............มากหน้า อยากรู้เรื่องสารพัน..........คงพบ คำตอบถ้าหากกล้า............แปะกระทู้ไถ่ถาม
นาม "การเมือง" ยี่ห้อ.......ห้าวหาญ เขียนกวิก็มิชาญ...............เฉกนั้น รู้น้อยต่ำต้อยปาน.............หางอื่ง ขอถ่อมไม่ถึงขั้น................เทียบชั้นครูเขา
..สังเกตได้ว่าคุณเซอร์คงได้ครูดีจากอีกกระทู้แล้ว ที่นี่มีแต่ประเภทครูพักลักจำค่ะ.. อิอิ ..บทนี้เคยแต่งแปะไว้ในกระทู้ฉันทลักษณ์เดิมที่หล่นหายไปแล้ว เอามาแปะไว้อีกทีเป็นการยืนยันฟามเชี่ยวชาญระดับอารามบอย
จากคุณ : อังศนา - [ 29 พ.ย. 48 14:12:43 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 63
๏ มองมือแม่ก่อเกื้อ...กานท์กถา ชิดแนบในฉันทา......ลักษณ์ร้อย ร่วมอนุรักษ์ภาษา......ศิลปะ ประณตใจจรดถ้อย....ถ่องแท้วรรณกรรม ๚ะ
สวัสดีค่ะคุณอังศนา ขอมาร่วมขบวนเรียนรู้ฉันทลักษณ์ด้วยคนนะคะ
จากคุณ : ๏ เพลงพระจันทร์ ๚ะ - [ 29 พ.ย. 48 19:11:28 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 64
๐ รู้มากรู้น้อยมิสู้.....รู้ทาน รู้แล้วแบ่งใส่พาน...เฉกเจ้า รู้ก่อนเท่าครูขาน....คำนับ รู้จักปรับก่อนเข้า....สู่เบ้าละลายหลอม ฯ
ขอบคุณท่านอังศนาที่คอยดัดโคลงอันโค้งคด ยังไงพื้นฐานที่ได้รับก็ได้จากกระทู้นี้ ตามรอยลิ้งค์ขอรับ อ่านแล้วยังไงๆ ก็ต้องมาอ่านย้อน ทบทวนแบบอย่างบ่อยๆ
พึ่งจะมาเข้าใจคำครูที่ว่า พื้นฐานสำคัญที่สุดเมื่อก่อนทำไมไม่ยอมเสียสมองไปคิด ไม่เข้าใจตัวเอง ขอรับ
สวัสดี คุณเพลงพระจันทร์ และทุกท่าน
จากคุณ : xers - [ 30 พ.ย. 48 02:05:20 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 65
พุธสวัสดิ์ค่ะ คุณเพลงพระจันทร์และคุณเซอร์
เพลงพระจันทร์เจิดฟ้า...เฟือนดาว วางวัจน์วิลาสราว...........วาดรุ้ง ดนตรีแห่งหนหาว..........ประโลมหัทย์ ร่ายเวทละเวงวุ้ง.............สะกดเวิ้งวรรณศรี
..ยินดีค่ะคุณเพลงพระจันทร์ ที่มาเข้าขบวนร่วมรักษ์ฉันทลักษณ์
..เห็นคุณเซอร์ถามเรื่องคำเอก/คำตาย ในกระทู้คุณออกัสแมน ถ้าผ่านมา ขอเชิญแวะคูหาที่ ๒๖ และ ๒๗ ข้างบนนะคะ เผื่อจะช่วย ให้เข้าใจมากขึ้น (แย่งตอบข้ามกระทู้เสียอย่างนั้น.. อิอิ)
จากคุณ : อังศนา - [ 30 พ.ย. 48 08:50:28 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 66
อ่าอ่านแล้ว ในตอนแรก งง ครับ ตอนนี้เข้าใจแล้ว ขอรับ
จากคุณ : xers - [ 30 พ.ย. 48 14:49:19 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 67
๏ ละเมอยันต์ยอกย้อน....ยุคสมัย ใจมิมีแก่นใน.................แน่วรั้น ชี้ช่องตื่นหลับใหล............ลงปลัก กลับมุ่งอัตตากั้น..............ก่นสิ้นศิลป์จรุง ๚ะ
สวัสดีค่ะคุณอังศนา สวัสดีคุณ xers เบื่อกับพวกดื้อแพ่งอวดอัปลักษณ์ ขอระบายนิดนะคะ เข้ามาในพื้นที่วรรณศิลป์ไม่เคารพฉันทลักษณ์ อ้างนู่นอ้างนี่ เหนื่อยใจค่ะ
จากคุณ : ๏ เพลงพระจันทร์ ๚ะ - [ 30 พ.ย. 48 16:00:16 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 68
๏ สัจจธรรมจุ่งซ่อนเบื้อง....บวงสรวง จริงเท็จทุกข์โทษทวง.........ทาสร้อน อนุสัยมนุษย์กลวง.............เกียรติศักดิ์ วรรณศิลป์โศกซ้อน..........โศกซ้ำเสื่อมเสริม ๚ะ
ยังไงกล่าวขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ โคลงออกจะผิดวัตถุประสงค์ผู้ตั้งกระทู้
จากคุณ : ๏ เพลงพระจันทร์ ๚ะ - [ 30 พ.ย. 48 16:07:10 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 69
สวัสดีอีกรอบค่ะ คุณเพลงพระจันทร์
ผู้ใดตามติดเฝ้า........ใฝ่หา ถามไถ่ขอวิชา...........เฉกนั้น หากชี้แนะเมตตา......บอกต่อ สืบศาสตร์มิให้สั้น......หมดสิ้นมือสาน
งานศิลป์มักซับซ้อน...ซ่อนกล ดั่งทดสอบใจคน........ใคร่รู้ ใครคิดทุ่มฝึกฝน.......ฟันฝ่า ผิดถูกยังฮึดสู้.............ยิ่งต้องส่งเสริม
..ในห้องกวีการเมือง มักจะผู้แวะเข้ามาแสดงความทึ่งกับอรรถรสของโคลง ที่วิจารณ์การเมืองอย่างเผ็ดร้อนอยู่เสมอ บ้างก็เข้ามาลองแต่งแบบผิดๆ ถูกๆ โดยมีพื้นความรู้ทางโคลงกลอนมากบ้าง น้อยบ้าง หรือไม่มีเลยก็เยอะ
..ผู้ที่นึกสนุกชั่วครู่ชั่วยามจะอยู่ไม่นาน แต่พวกที่หลงเสน่ห์ถอนตัวไม่ขึ้นจะวนเวียน มาแต่ง มาศึกษาฉันทลักษณ์อย่างเอาจริงเอาจัง อย่างที่ยังเห็นๆ หน้ากันทุกวันนี้
..พวกเราในห้องนี้จึงมักจะช่วยชี้แนะกันเท่าที่ทำได้ หากเห็นว่ามีใครสนใจ เพราะเชื่อว่ายิ่งมีคนแต่งโคลง ชอบโคลงกันมากๆ มันก็ยิ่งอยู่ยงคงกระพัน
..แต่ก็มีเหมือนกันค่ะ คนที่ไม่ใส่ใจกับฉันทลักษณ์เลย กรณีนี้ก็คงต้องปล่อยไป ตามยถากรรม เพราะรู้ว่าไม่นานเขาก็คงเบื่อไปเอง
จากคุณ : อังศนา - [ 30 พ.ย. 48 17:29:47 ] ------------- ความคิดเห็นที่ 70
๏ กรองกานท์นับจากนี้....จึ่งควร คิดนา แจงเหตุแห่งสมัยทวน......ทบซ้ำ ฉันทลักษณ์เคลื่อนสวน....ครูเสื่อม ชอบฤๅ เรารักษ์แลรู้ช้ำ................ช่างร้าวแรงถวิล ๚ะ
สวัสดีค่ะคุณอังศนา เข้าใจตามที่แจงมาค่ะ มาเปรยๆเชิงปรึกษามากกว่า มิได้คิดไปไกลถึงเดียดฉันท์ผู้ใดอย่างจริงจัง เพียงออกจะไม่เข้าใจการเลี่ยงคัมภีร์ของบางผู้บางคนเท่านั้นเอง อ่านอย่างไรก็เข้าใจได้ว่าไม่ได้ใส่ใจฉันทลักษณ์วรรณศิลป์เลยค่ะ พาลปวดสติสะตังไปเหมือนกัน คนใส่ใจจะเก่งหรือไม่เก่งผู้เขียนเคารพยกย่องตลอดมาค่ะ
จากคุณ : ๏ เพลงพระจันทร์ ๚ะ - [ 1 ธ.ค. 48 10:35:35 ] -------------
Create Date : 07 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 7 ธันวาคม 2549 1:37:00 น. |
|
27 comments
|
Counter : 2214 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:1:39:09 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:1:40:54 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:1:44:22 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:1:45:41 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:6:29:58 น. |
|
|
|
โดย: fonrin วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:7:30:34 น. |
|
|
|
โดย: บ้านโคกโจด (my_oom ) วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:8:18:17 น. |
|
|
|
โดย: คนผ่านทางมาเจอ (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:9:27:47 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:9:33:14 น. |
|
|
|
โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:11:31:24 น. |
|
|
|
โดย: deawa (deawa ) วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:16:26:46 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:16:48:59 น. |
|
|
|
โดย: โทโมกะ วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:19:56:53 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:21:46:42 น. |
|
|
|
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:22:06:21 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:10:30:58 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:22:14:40 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:7:00:11 น. |
|
|
|
โดย: Dflatt วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:15:32:21 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:20:58:08 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:10:04:29 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:17:33:00 น. |
|
|
|
โดย: นกโก๊ก วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:17:40:21 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
จันทบุรี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
เด็กเดือนอ้าย สองขวัญ "พันธุ์เจ้าโลก" นกโก๊ก ปีระกาไก่ "ใจหมาบ้ามหากาฬ" แหกปากลั่น วันตกฟาก "ว้าก! ตกฝัน" กินทุกวัน ปณิธาน "ฝันหาทางอยู่รอด"
|
|
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่ 62
อังคารสวัสดิ์ค่ะ
"ห้องสมุด"สถานที่คล้าย...สถาบัน
พหูสูตรเขาอยู่กัน.............มากหน้า
อยากรู้เรื่องสารพัน...........คงพบ
คำตอบถ้าหากกล้า.............แปะกระทู้ไถ่ถาม
นาม "การเมือง" ยี่ห้อ.......ห้าวหาญ
เขียนกวิก็มิชาญ...............เฉกนั้น
รู้น้อยต่ำต้อยปาน..............หางอื่ง
ขอถ่อมไม่ถึงขั้น..................เทียบชั้นครูเขา
..สังเกตได้ว่าคุณเซอร์คงได้ครูดีจากอีกกระทู้แล้ว
ที่นี่มีแต่ประเภทครูพักลักจำค่ะ.. อิอิ
..บทนี้เคยแต่งแปะไว้ในกระทู้ฉันทลักษณ์เดิมที่หล่นหายไปแล้ว
เอามาแปะไว้อีกทีเป็นการยืนยันฟามเชี่ยวชาญระดับอารามบอย
จากคุณ : อังศนา
-------------
...อมนุษย์อุตริล้อม.....อาเส วนา
พหูสูตรปุจฉา.............วัจน์แสร้ง
ยมทูตวิสัชชนา...........หายนะ
อริยะเจ้าแจ้ง..............ภูติล้วนหัวหาย
แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 48 18:33:35
จากคุณ : นกโก๊ก
นกโก๊ก :
สัมผัสรับท้ายวรรคของทุกบาท ไม่สามารถสัมผัสรับกับสร้อยนะ
ในกรณีนี้ ต้องลงรูปเสียงสระเอ รับ อาเส ไม่ใช่ วนา
ส่วนบาทสอง พ + หู น่าจะไม่ลงร่องเสียงเอก สู + ตร ก็ไม่ลงร่องเสียงเอก
ลองศึกษาดูตามผังดูนะ
จากคุณ : ๏ เพลงพระจันทร์ ๚ะ
-------------
...เข้าใจ ใครเจ้าที่..............เจ้าทาง
บาทที่สองเราวาง.................ต่างคล้าย
ท่านเพลงพระจันทร์คราง....แครงจิต
ตีแต่นกอคติร้าย.................แต่ไหม้ตีอังศนา
-------------
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 2 ธ.ค. 48 08:53:26 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 72
สวัสดีค่ะ คุณนกโก๊ก
..ขอใช้สิทธิพาดพิง อรรถาธิบายนิดนะคะ
ในบาทที่ ๒ ของคุณนกโก๊ก ถ้านับ ๕ พยางค์ก็ตกเอกค่ะ
แต่ถ้าไม่ให้ตกเอกก็มีแค่ ๔ พยางค์ ผิดฉันทลักษณ์อยู่ดี
จะวางเทียบให้ดูดังนี้ค่ะ..
พหู-สูตร-เขา-อยู่-กัน (ของ จขกท. ครบ ๕ พยางค์ ~ ไม่ตกเอก)
พ-หู-สูตร-ปุจ-ฉา ~ ของคุณนกโก๊ก ครบ ๕ พยางค์ จึงตกเอก
พหู-สูตร-ปุจ-ฉา ~ ไม่ตกเอก แต่พยางค์ขาด
จากคุณ : อังศนา - [ 2 ธ.ค. 48 09:25:05 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 73
อ้อ.. ขออนุญาคแนะอีกนิดนะคะ
ตีแต่นกอคติร้าย...........แต่ไหม้ตีอังศนา
..วรรคหลังบาทสุดท้ายของโคลงคุณนกโก๊กบทใหม่นี้
มีพยางค์เกินค่ะ วรรคนี้ควรมีเพียง ๔ พยางค์เท่านั้น
(โคลง ๑ บท จะมีเพียง ๓๐ พยางค์โคลง ไม่นับสร้อย)
..อาจอ่านเพิ่มเติมได้ที่คูหาที่ ๔ ด้านบนของกระทู้นี้ค่ะ
จากคุณ : อังศนา - [ 2 ธ.ค. 48 09:32:18 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 74
๐ โบราณสานถักถ้อย...ก่อกวี
สมสั่งแก้วมณี...............จรัสจ้า
ผ่านขัดเกลาวจี.............จรุงจิต
ซ่อนคิดเจตนาท้า..........ร่ายร้อยสืบสาน ฯ
______
๐ โบราณสานถักถ้อย....ก่อกวี
สมสั่งแก้วมณี...............จรัสจ้า
ผ่านใจขัดวจี.................จรุงจิต
ซ่อนคิดเจตนาท้า..........ร่ายร้อยสืบสาน ฯ
_______
[ แก้ไขตามคำแนะท่านจอมมาร ขอรับ ]
สวัสดี ท่านอังศนา ขอรับ
สวัสดี ท่านนกโก๊กนักเลงโคลง ขอรับ
ขอคำแนะนำเรื่องตำแหน่งคำสุภาพในโคลง 2 สุภาพ
ท่องไปทั่วเว็บเจอแต่ผังแบบที่ไม่ได้แต้มตำแหน่ง คำสุภาพไว้เลยขอรับ
จากคุณ : xers - [ 2 ธ.ค. 48 13:05:18 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 75
บุราณสานถักถ้อย.........ถลุงกวี
เอกอึกทึกฟรี................โหวตร้อง
บาทสามตกตึกวจี..........เกลาสะกิด
เพราะภาพนั่นน่ะฟ้อง....ปิดฟ้าก็เห็น ฯ
_______
สวัสดีครับพี่อังศนา เจ้าของกระทู้ฉันทลักษณ์
ท่าน xers คุณเพลงพระจันทร์ ท่านนกโก๊ก ฯลฯ
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 2 ธ.ค. 48 14:53:18 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 76
๐ โบราณสานถักถ้อย...ก่อกวี
สมสั่งแก้วมณี...............จรัสจ้า
ผ่านขัดเกลาวจี.............จรุงจิต
ซ่อนคิดเจตนาท้า..........ร่ายร้อยสืบสาน ฯ
จากคุณ : xers [ 2 ธ.ค. 48 13:05:18 ]
_______
ในฐานะถือหุ้นกระทู้นี้อยู่ ๑๕ % ผมขออนุญาตแจงท่าน xers
เท่าที่พองตัวได้นะขอรับ
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 2 ธ.ค. 48 14:57:13 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 77
หมายหกตกหล่นหิ้ง.....หากเฉย
ขอทักแม้มิเคย............มักคุ้น
อภิสิทธิ์อภิรักษ์เปรย....ปรายผ่าน
ตามประสาผู้ถือหุ้น.......ห่อนให้หุนหัน ฯ
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 2 ธ.ค. 48 14:58:21 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 78
๑. โคลงสองสุภาพบังคับเอกสามตำแหน่ง บังคับโทสามตำแหน่ง
๒. ตำแหน่งโทท้ายบาท แรก โทท้ายบาทสอง บังคับใช้รูปสระเดียวกัน พ้องเสียงกัน
๓. คำบังคับเอก ใช้คำตาย หรือ สระเสียงสั้น แทนได้ดังทั่วไป
๔. คำในวงเล็บ ( คำสร้อย) มีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีคำสร้อยไม่ควรมีความหมาย
๕. การร้อยโคลง คำสุดท้ายของบท ต้องส่งไปสัมผัสพ้องเสียงกับ สามคำแรกของบทต่อไป
ผมลักไก่อธิบายก่อนอาจารย์อังศนาจะมาอรรถาธิบายอีกรอบนะครับ
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 2 ธ.ค. 48 15:00:21 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 79
สองสุภาพเพียบพร้อม....ฉันทลักษณ์รอบล้อม
หลักล้วนลงผัง
ดังตัวอย่างนี่นี้................ผมมิได้เซ้าซี้
แค่ชี้เล็งเห็น
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 2 ธ.ค. 48 15:01:53 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 80
ขอบคุณขอรับ ท่านจอมมาร
คือที่ถาม คือตำแหน่งคำสุภาพ ครับ
อย่างโคลงสี่ มี 4 ตำแหน่งคำสุภาพ
และโคลงสอง ก็ต้องมี 2 ตำแหน่งใช่ไหมครับ
ลองหาเว็บไปทั่วก็ไม่มี ผังที่ท่านให้มาก็เคยได้ดูแล้ว เขาไม่ได้บอกตำแหน่ง ขอรับ
แต่ผมเดาไว้แค่ตำแหน่งเดียว ขอรับ คือคำท้ายวรรค 3
แล้วอีกตำแหน่งนี่อยู่ตรงไหนครับ
ขอบคุณที่ชี้แนะโคลงข้างบน ขอรับ
พลาดอย่างแรง
พึ่งหัดแต่งยังไม่ถ้วนถี่ ไม่ดีพอขอรับ
จากคุณ : xers - [ 2 ธ.ค. 48 15:57:04 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 81
อีกอันที่เดาไว้คือ ท้ายวรรค 2 แต่เพื่อความแน่ใจจึงมาถามใถ่
เพื่อจะได้ไม่ผิด ฉัทลักษณ์
เพราะกลัวว่าอีกตำแหน่งอาจเป็นคำขึ้นต้น ขอรับ
-------------
เนิ่นนานมาแล้วเพราะไม่เข้าใจ หมายถึง จำนวนบาทนี่เอง ถึงเรียกว่า สองสุภาพ
จากคุณ : xers - [ 2 ธ.ค. 48 16:19:24 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 82
คำสุภาพที่แท้.............ซ่อนอยู่ไหนกันแน้
อยากรู้ความเฉลย
เปรยบอกอาจมิใกล้....รอท่านอังศนาได้
บอกให้ระทึกพลัน
______
นั่นสินะครับท่าน xers
ตอนแรกผมคิดว่าคำสุภาพน่าจะคู่สุดท้ายของบาท
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 2 ธ.ค. 48 16:55:35 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 100
....สบายใจแล้วที่ได้ขอขมาลาโทษ....
....เห็นมีกระทู้ความเห็นเพิ่มอีกหลายกระทู้....
...จะตัดใจไม่อ่านมัน...
...ตัดใจจากห้องราชแล้ว...
...ลิขิตฟ้า อาญาสวรรค์ ไม่อาจฝืนได้
...............ชั่งหัวมัน - ชันหัวมั่ง............
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 2 ธ.ค. 48 23:58:39 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 101
สื่อสารผิดพลาดพ้อง.....เพรียกขวัญ
อื่นอื่นอีกมากอัน..........เอ่ยอ้าง
ระบบระบอบมัน...........มักตะกุก ตะกักนา
ลองทบทวนก่อนสร้าง...เรื่องร้ายรุมหัว ฯ
______
อื่นๆอีกมากมายครับกรณีแบบนี้
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 3 ธ.ค. 48 07:36:42 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 102
ระวังระแวดไว้.................วางจิต
วิตกรกรุมจริต..................เร่าร้อน
เหตุการณ์เปลี่ยนวิกฤต....โอกาส
พฤติกรรมซ้ำซ้อน.............ซ่อนเร้นลวงหลง ฯ
______
ลองคิดแบบธรรมดาๆดูบ้าง
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 3 ธ.ค. 48 07:44:32 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 103
ถึงนกผู้ผกผินบินผ่านฟ้า
จิตคิดท้าท่านดื่มให้เมามาย
หากคิดหลบท่านลี้ผู้เดียวดาย
ข้าสหายสาบแช่งท่านมิหวั่นไคร
......นกผกผิน นินทาเพื่อน เยือนถึงเจ้า เฮย
จากคุณ : xers - [ 3 ธ.ค. 48 22:06:50 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 104
๐ สังเกตุคนจึ่งใช้....ใจดู
พี่นกรู้อดสู...............คิดแก้
มีวิวัฒนาฯชู.............ลองไตร่
เพียงทิฐิไม่ยอมแม้...แค่น้อยหน้าใคร ฯ
ลองตัดกลอนของพี่นก ที่รกๆๆๆๆลูกตา เหลือแต่ กลอนที่ ถูกสอนดัด ตัดแต่งมาอวดอ้าง
แม้จะขัดเขินบ้างแต่ เส้นทางเริ่มถูกต้อง บางโคลงผมก็มียอกพี่นกบ้าง แต่หวังดีด้วยจริงใจ ลองอ่านดู ขอรับ
และขออภัยที่ต้องเรียกนักเลงโคลง ขอรับ...เพิ่มเติม
ขออภัยที่มากวนใจทุกท่านขอรับ ท่านอังศนา ท่านจอมมารฯ และท่านอื่น ขอรับ
จากคุณ : xers - [ 4 ธ.ค. 48 00:50:20 ]
-------------
-------------
ความคิดเห็นที่ 106
สวัสดีครับคุณอังศนา ผมขอร่วมสนุกด้วยครับ
รักเสียงท่านแท้...ขอน้อมคารวะทุกท่านครับ
เสียงโคลงเสียงส่งให้....สุขฉัน มากแฮ
เสียงศัพท์นับอนันต์.....สิ่งรู้
ไป่เสียงไป่ผูกพันธ์......ใจจ่อ
กลืนกลั่นเสียงเก็บรู้....กล่อมเกล้าเกลาฉันท์
น้อมรับความรู้มากมายครับ...กรุณาชี้แนะหากผิดพลาดสิ่งใดขออภัยทุกท่านล่วงหน้าครับ
จากคุณ : จันทร์แห้ง (จันทร์แห้ง) - [ 6 ธ.ค. 48 00:10:31 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 107
ขุนเขาไม่สะท้าน......แรงลม
บัณฑิตซ่อนมีดคม....ดาบเขี้ยว
พายุกระหน่ำถม.......โหมถั่ง
ไม่คลั่งหลงตัวเอี้ยว...ตอบโต้เผลอไผล
สวัสดี ครับ
จากคุณ : ขุนเขา ไม่สะท้านแรงลม - [ 6 ธ.ค. 48 01:03:38 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 108
ท่านกระฃิบหนีหน้าหายไปไหน
ท่านจอมมารฯเป็นเช่นใดจึงหายหน้า
อยากให้ท่านทั้งสองร่ายมนตรา
อักษราไพเราะเพราะพริ้งเพรา
ด้วยคิดถึงจึ่งถามเพราะความรัก
มาชวนถักทอถ้อยคอยประสม
ขาดสีสันเฝ้าอยู่ชื่นชอบชม
ข้าฯฝากลมกระฃิบผ่านวานบอกที
อาจารย์ อังฯยังอยู่ดูเป็นหลัก
ยังคงหนักแน่นอยู่ดั่งภูผา
คอยชี้แนะทางสว่างไม่ร้างรา
คอยรักษาสอดส่องห้องกวีฯ
แค่อยากถามด้วยความคิดถึงค่ะ...
จากคุณ : Cookie Jar - [ 6 ธ.ค. 48 02:58:10 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 109
ขอสอบถามคุณ ๏ เพลงพระจันทร์ ๚ะ หรือผู้รู้ท่านอื่นๆเรื่องสร้อยโคลงหน่อยครับ
เห็นคุณ๏ เพลงพระจันทร์ ๚ะ ใช้คำว่า เนือง แน ไม่ทราบมีที่มาจากไหนและจริงๆเราควรเลือกคำไหนมาใช้ดีครับ (รวมถึง นอ เนอฯลฯด้วย)
ถ้าเราสามารถแต่งคำสร้อยนี้ใช้เองได้ จะแต่งเป็นคำไหนดี มีหลักการอย่างไรครับ
จากคุณ : KAVINT - [ 6 ธ.ค. 48 10:19:35 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 110
...เสียใจที่ 83 ถึง 99 เขาลบทิ้ง
น้ำใสจากใจจริง สิ่งไร้ค่า
ความจริงถือ คือสัจกิริยา
คำขอขมา วาจาสัตย์ สัตว์เสียใจ
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 7 ธ.ค. 48 07:59:01 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 111
ฉันทลักษณ์ชักจะเรื้อ......ลอยหาย
เอกหกตกหล่นกระจาย...ล่อนจ้อน
รีบพรวดผิดพลาดหลาย...กระทงหลาก
สาเหตุเพราะเร่งร้อน.......ร่วมร้อยความเห็น ฯ
จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 7 ธ.ค. 48 10:26:20 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 112
...ขอบพระคุณที่ท่านจอมมารฯ เตือนสติ...
...นกโก๊กเป็นคนต้องห้าม...ขอบคุณที่ช่วยห้ามนกโก๊ก...
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 7 ธ.ค. 48 13:10:48 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 113
๐อ่อนซ้อมเลยซักซ้อม....เนืองเนือง
ฉันทะอันมิเปลือง...........เปล่าไร้
ร่วมรักษ์ค่าความเรือง....รุ่งวัจจ์ สยามแฮ
เผื่ออวดต่างชาติได้.........ข่มด้วยอารยธรรม ฯ
สวัสดีค่ะ ทุกท่าน
มาทบทวนฉันทลักษณ์ด้วยคนเจ้าค่ะ
จากคุณ : malijauna - [ 8 ธ.ค. 48 02:04:35 ]
-------------
-------------
ความคิดเห็นที่ 116
อ่อนซ้อมเลยอ่วมซ้ำ.......เนืองเนือง
ร้องร่ำน้ำตาเปลือง.........เปล่าปลี้
รวมรักษ์ร่วมประเทือง....ดีกว่า
หาเรื่องชักชวนชี้............ถักถ้อยร้อยโคลง
ขออนุญาตทบทวนด้วยอีกคนค่ะ
จากคุณ : ทะวาย - [ 8 ธ.ค. 48 17:22:37 A:203.188.7.147 X: TicketID:112640 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 118
พฤหัสบดีสวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน
โดยเฉพาะผู้มาใหม่อย่าง คุณจันทร์แห้ง คุณขุนเขาฯ
และคุณทะวายนะคะ (นอกนั้นเหมาว่าเป็นคนกันเองหมด)
หมดยกเรื่องว้าวุ่น..........นานวัน
หมดมุกปล่อยอาคัน-.......ตุกะเก้อ
หมดห่วงเหตุอาถรรพ์.....เทคนิค
หมดทุกข์หมดโศกเด้อ....จักได้สนุกสนาน
..ยินดีต้อนรับสู่ห้องกวีการเมืองค่ะ
แต่งไป แก้ไขขัดเกลากันไป ตามประสาคนกลางสมรภูมิ.. อิอิ
จากคุณ : อังศนา - [ 8 ธ.ค. 48 19:29:22 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 119
หมดทุกข์หมดโศกเด้อ...มวลกวี
ปีใหม่ใกล้ทุกที..............เคลื่อนคล้อย
มาสนุกสุขขี...................ดีกว่า
เรื่องเล็กเล้กน้อยน้อย...ปล่อยไว้เปลืองสมอง
สวัสดี ครับ
จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 8 ธ.ค. 48 20:42:46 ]
-------------
-------------
ความคิดเห็นที่ 140
๐ ฉันทลักษณ์ หลักล้วน.....เรืองนาม
ฉันทลักษณ์ ไม่เลวทราม....ต่ำช้า
ฉันถ้ารัก ต้องงาม..............พร้อมเพียบ
ฉันทลักษ์ณ์ รู้รักษ์หน้า......ต่างนี้ควรถนอม
...จะตามเต้า เฝ้ากระทู้ ฉันทลักษณ์
แม้ว่าศักดิ์ ต้อยต่ำ ทำสวนป่า
ฉันจะรัก รสถ้อย รอยปากกา
ปากปักษา การันตี มี...ฉันทลักษณ์...
...ศิษย์สุนทร กลอนพ่อภู่ อยู่เมืองแกลง
...วิญญาณกลอน ซ่อนแฝง แจ้งประจักษ์
...มาทำสวน ผันผวนจันทร์ ฉันทลักษณ์
...จะปกปัก รักษ์กลอนครู อยู่กลางใจ
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 25 ม.ค. 49 13:59:35 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 141
๐ ภาษาสวนล้วนศัพท์....ธรรมดา
สวนสับภาพลวงตา..........ต่างสิ้น
ภาษาสัตย์ สัตว์นานา......ล้วนซื่อ สัตย์เฮย
สัตว์สื่อภาษา ดิ้น............เมื่อไร้สัจธรรม
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 26 ม.ค. 49 10:56:17 ]