Group Blog
 
All blogs
 

★☆★☆....นิทาน สอนชาย...น่านำไปประกอบการใช้งาน

บีได้รับเมลจากเพื่อน เลยเอามาให้อ่าน อิอิ
นิทานก่อนนอน สอนใจ

เศรษฐีคนหนึ่ง มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว
ครั้นถึงวัยสมควรแต่งงาน แกเป็นห่วงกลัวว่าจะได้เมียไม่ดีมาผลาญสมบัติของตระกูล
จึงประกาศหาคู่ให้ลูกชายผ่านทางคอลัมน์ มาลัยไทยรัฐ
ปรากฎว่ามีหญิงสาวจากทั่วทุกสารทิศสนใจมาสมัคร มากมาย
แต่ละคนแจ่ม แจ่ม ทั้งนั้น ทำเอาลูกชายตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใคร

ท่านเศรษฐีนำเอาสร้อยแหวน เพชรนิลจินดาราคาแพง และ หัวมัน หนึ่งหัว
มากองไว้ต่อหน้าบรรดาสาว สาว ทั้งหลาย แล้วสั่งให้เลือกหยิบคนละหนึ่งชิ้น
ปรากฏว่าทุกคนล้วนคว้าเอาแต่ข้าวของมีค่า มีเพียงสาวน้อยคนหนึ่งที่หยิบเอาหัวมัน
เศรษฐีเห็นดังนั้นก็พูดกับลูกชายว่า”ลูกเอ๋ย จงเลือกหญิงคนนั้นมาเป็นเมียของเจ้า” ลูกชายรู้สึกแปลกใจ ถามพ่อเพราะเหตุใด , เศรษฐีจึงสอนลูกชาย ว่า
" ผู้หญิงที่เลือกเอาแก้วแหวน แสดงว่าหลงใหลในทรัพย์สิน ไม่รู้จักทำมาหากิน"
" ส่วนผู้หญิงที่เลือกเอามันนั้น คือคนที่ขยัน ทำงานไม่เกี่ยง"
ลูกชายได้ฟัง ก็ไม่เถียง พ่อว่าไงก็ว่าตามนั้น

ผมฟังนิทานเรื่องนี้แล้ว รู้สึกซาบซึ้งในคำสอนของท่านเศรษฐี
ทุกวันนี้ผมจึงจำใส่ใจไว้ตลอดว่า ถ้าจะมีเมีย ต้องเลือกผู้หญิงที่
>>>>เอามัน ไว้ก่อน


ที่มา : forward mail




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2552    
Last Update : 15 ตุลาคม 2552 15:12:37 น.
Counter : 456 Pageviews.  

★☆ เพลงราตรีสวัสดิ์Good Night อยากให้ฟังแล้วคุณจะรักชาติ รักตำรวจ ทหารชายแดนใต้มากขึ้น


เพลงราตรีสวัสดิ์Good Night ฟักกลิ้งฮีโร่







เป็นเพลงที่ชอบมากกก จะอัพให้เพื่อนๆฟังหลายรอบแล้ว แต่ imeem มันเดี้ยงอ่ะ พยายามหาเวปอื่นแต่หาไม่ได้ เลยเอามิวสิคของพี่ๆเค้าทำมาให้ดูนะคะ ขอบคุณ คุณ xiaolika สำหรับ มิวสิคที่ทำให้เราน้ำตาซึมได้ ใครอยากได้เพลงนี้โหลดได้นะคะ ที่*492282 /font>




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2552    
Last Update : 27 สิงหาคม 2552 13:45:38 น.
Counter : 1390 Pageviews.  

★☆★....เชิญชวนสมาชิกส่งรูปเพื่อจัดแสดงผ่านจอ LCD ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ...ด่วนคร้า ★☆★

มีข่าวมาบอกคร้า พอดีบีได้รับอีเมลจากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยเลยรีบมาบอกเพื่อนๆชาวบล็อกคร้า

เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ภาพถ่าย

เรียน สมาชิก Web broad สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

เนื่องด้วยสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรม ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมีการจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่าย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 สิงหาคม – 11 ตุลาคม 2552 ด้วยการจัดกิจกรรมดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ภาพถ่ายสลับผลัดเปลี่ยน เพื่อแสดงสู่สายตาประชาชน


สมาคมฯ จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ภาพถ่ายของท่านมาจัดแสดงผ่านจอ LCD เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมฯ ให้เป็นไปด้วยความราบรื่น โดยภาพที่ต้องการมีขนาดดังนี้ ภาพแนวนอน 1920x1200 พิกเซล และ ภาพแนวตั้ง 1200x1920 พิกเซล ความละเอียด 105 dpi โดยขอให้ท่านส่งผลงานของท่าน ตามจำนวนที่ท่านสะดวก มาตามอีเมล์นี้ webmaster@rpst-digital.org พร้อมทั้งชื่อ - นามสกุล ในการนี้สมาคมฯ จะใส่ชื่อลงบนผลงาน เพื่อให้ผู้เข้าชมทราบว่าเป็นผลงานของท่าน โปรดส่งภาพภายในวันที่ 4 ส.ค.2552

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และขอขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้

*หมายเหตุ ทางสมาคมขอสงวนสิทธิ์ในการคัดรูปตามความเหมาะสม

รบกวนตั้งชื่อไฟล์เป็นชื่อ-นามสกุลภาษาอังกฤษ "ชื่อ-นามสกุล01.jpg" "ชื่อ-นามสกุล02.jpg" เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบค่ะ

จะพยายามแจ้งอีเมล์หรือชื่อของผู้ส่งนะค่ะ






ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ //www.rpst-digital.org/forum/showthread.php?t=29132





 

Create Date : 02 สิงหาคม 2552    
Last Update : 2 สิงหาคม 2552 12:52:07 น.
Counter : 685 Pageviews.  

✿*゚‘゚・✿.:*..วิธีรักษาสิว แบบง่ายมาก ไม่ต้องเสียตังซื้อยาแต้มสิว แพงๆเลย

เนื่องจากช่วงนี้เริ่มเป็นสิว เห่อมากขึ้น ไม่ได้เป็นหลายเดือนแล้ว เลยมาอัพบล็อกบอกสาวๆกันซะหน่อย วิธีนี้เคยดูรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง เค้าเป็นพี่เลี้ยงส่งนางงามประกวดทุกเวทีเลย ไม่ว่า มิสไทยแลนด์เวิร์ล นางสาวไทย จำชื่อไม่ได้ค่ะ รู้แต่ว่า มีนางงามในสังกัด เป็นสิบคน เวลาส่งแต่ละครั้ง ดังมากค่ะ เค้าบอกเคล็ดลับให้ฟัง ว่า เวลานางงามในสังกัดเค้า มีสิว ขึ้นก่อนการประกวด เค้าจะใช้ ยาสีฟันวิเศษนิยม ผสมน้ำ + น้ามะนาว แล้วพวกหน้านางงาม สัก 20 นาที พอแห้งแล้วก็ล้างออก
แต่ถ้าอยากหน้านุ่มด้วย ก็ใส่นมสด ลงไปด้วย หากคนไหน อยากให้สิวแห้งไว ก็แปะบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้ทั้งคืน จนเช้า รับรอง สิว แห้ง ไว แน่นอน ค่ะ เพราะบีลองทำแล้ว แห้งนะคะ ไม่แพงเลย งบประมาณไม่เกิน 50 บาทแน่นอน ใช้ได้ หลายเดือนเลย คร้า



มากันที่สูตรที่ 2 อันนี้ยังไม่เคยทำค่ะ แต่เค้าบอกมา อีกเช่นเคย


หอมแดง

หอมแดงก็เป็นสมุนไพรอีก 1 ตัวที่ ช่วยบรรเทาสิวได้

แต่ว่า มันจะทำให้ คนอื่น ๆ เหม็นขี้หน้า คุณได้ เพราะ เอามาแปะสิวที

หนังหน้าตรู เหม็นมาเชียว เอาล่ะ ต้องยอมทน


หั่น ๆ ปอก ๆ เปลือกออกให้หมด แล้วล้างให้สะอาด

แล้วหั่นเป็นแว่น ๆ เพื่อให้สะดวกในการแปะ หัวสิว

เสร็จแล้วนอนหงาย ให้ อีกคนนอนคว่ำ

เพื่อเอา หอมแดง มาแปะสิวให้คุณ ทิ้งไว้ ครึ่งชั่วโมง หรือจนคุณทนกลิ่นมันไม่ได้

แต่ถ้าทิ้งข้ามคืนจะดีมากก

ช่วยลดอาการบวมแดงจากสิวได้จริง ๆ


แหะๆ ฝากร้านบีด้วยเน้อ อิอิ แวะร้านบีเชิญทางนี้คร้า กดเล้ย






 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2552 16:36:32 น.
Counter : 19399 Pageviews.  

:::::::: ความเข้าใจหวัด2009ช่วยเผยแพร่นะจ๊ะ หมอวงในเขียนมา‏ :::::::


ถึงสื่อมวลชนทุกท่าน ผมจะบอกความจริงเรื่อง ไข้หวัด 2009 ให้ทราบ

พวกคุณงง และสับสนกับเจ้าหน้าที่และหมอหลายคนที่ให้ข่าว
ไม่ค่อยตรงกันใช่มั้ยครับ?
ผมจะบอกข้อมูลอะไรให้ฟัง ซื่งคุณสามารถตรวจสอบได้เอง
จากแพทย์ผู้เชื่ยวชาญด้าน ไวรัสวิทยา หรือ จุลชีววิทยา
ตามภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทย์มหาลัยใหญ่ๆนะครับ
(กรุณาเลิกสัมภาษณ์นักการเมืองได้แล้ว ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ควรสัมภาษณ์อาจารย์ที่เขารู้จริง ทำงานเรื่องนี้จริงๆดีกว่า)


ครับรู้ครับ ว่าผิดห้อง
แต่ไม่โพสในลุมพินีล่ะ เดี๋ยวโดนเกรียนลบ ขนาดหมอแมว
ความรู้วิชาการหลักฐานแน่นปึ้กยังต้องหนีตายมานี่กับหว้ากอ เลย
ไปดูเนื้อหาวิชาการแน่นๆได้ที่ //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7977288/A7977288.html
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7973976/X7973976.html

//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8049629/X8049629.html


หมอไก่ก็ไประบายในสินธร //www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8040314/I8040314.html

นับประสาอะไรกับหมอบ้านนอกอ้างตำราไม่ค่อยเป็นอย่างผม

เมื่อคืนนี้คืนเดียว รพ.ที่ผมอยู่เวร รับคนไข้ใหม่สงสัยหวัด 2009
เข้านอนรพ. 4 คน (เฉพาะเวรดึก)
อะไรกันจ๊ะ ไหนบอกไม่น่ากลัว ไหนบอกควบคุมได้
แล้วตัวเลขการแพร่ระบาดขนาดนี้มันอะไรกัน??
มาดูสรุปความจริงกันอีกที (อันไหนซ้ำกับหมอแมวขอโทษด้วยครับ)
(กรุณาทนอ่านให้ถึงข้อ 4.2)
( เครดิตรูปประกอบทั้งหมด จากคุณ อันปังแมน)

ภาพข้อมูลการระบาดจาก องค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2552
(เห็นความสยองมะคับ??)


แก้ไขเพิ่มเติม
ใครมีคนรู้จัก ทำงานสื่อมวลชน ได้โปรด copy ข้อความ หรือ link
ในกระทู้นี้ไปถึงเขาด้วยนะครับ ผมไม่ได้อยากดัง ไม่อยากเปิดเผยตัว
(ให้ภัยมาถึงตัว) แต่ทนไม่ไหวแล้ว ที่คนไทยอยู่ท่ามกลางหายนะ
แต่ไม่มีใครรู้ร้อนรู้หนาวแบบนี้

Mexico นำหน้าเราอยู่ประมาณ 1-2 เดือน ตอนนี้น่าจะกำลังปีนเขาลูกที่ 2 อยู่
ตอนนี้การระบาดในบ้านเราน่าจะอยู่แถวๆดอยของเขาลูกที่ 1 แล้ว
ที่เราว่าเป็นกันเยอะ ปิดโรงเรียนกันมากมาย ป่วยกันทั้งหมู่บ้าน
มันจะกลายเป็นเด็กๆไปเลย เมื่อของจริงมา อีกไม่นานเกินรอ
ถามตอบยอดฮิต เกี่ยวกับหวัด 2009


1. โรคนี้ไม่รุนแรง ไม่น่ากลัว อย่าสะดิ้งไปนะตะเอง????
Answer : มะเหงกแน่ะ ความจริงคือ

1. ไข้หวัด 2009 ดูเหมือนไม่รุนแรง อัตราตายต่ำ
แต่แพร่ระบาดง่ายและรวดเร็ว ( การแพร่กระจายสูง)
2. ความน่ากลัวของหวัด 2009 คือการกลายพันธุ์ต่างหาก
และการกลายพันธุ์จะเกิดง่ายที่สุด เมื่อคน 1 คน หรือสัตว์ 1 ตัว
ทะลึ่งติดหวัด 2 ชนิดพร้อมกัน (เช่นหวัด 2009 + หวัด ธรรมดา
พร้อมกัน หรือ หวัด 2009 + หวัดนก พร้อมกัน)

ขณะนี้"หวัดนกซึ่งรุนแรงและมีอัตราตายสูงมากกก ยังไม่ได้หายไป"
และแนวโน้มของหวัดนก จะ"ระบาดซ้ำอีก ทุกๆปลายปี"
แม้ว่าหวัด 2009 มันไม่รุนแรง แต่ถ้าปล่อยให้แพร่แบบนี้
"อีกไม่นานมันอาจผสมกัน"

.........เอาความสามารถในการแพร่กระจายของหวัด 2009
บวกกับความรุนแรงของหวัดนก เมื่อนั้นก็หายนะ !!!!!

และนั่นคือสาเหตุ ที่อยากให้คนไทยทุกคนดูแลสุขภาพให้ดี
อย่าให้เป็นหวัด อย่าให้โรคนี้แพร่กระจายไปกว่านี้

ถ้าเป็นหวัดแล้ว แยกตัวจากคนอื่นทันที อย่าแรดเดินตลาด
อย่าแรดไปห้างหรือที่ชุมชน และ ใส่หน้ากากทันทีอย่าให้แพร่เชื้อสู่คนและสัตว์รอบข้าง ถึงแม้จะอยู่บ้านที่มีสมาชิกแค่ 2 คนก็ตาม


2. ถ้าเป็นขึ้นมา ไปหาหมอเดี๋ยวก็หาย???
Answer : แม่เจ้า พศ.นี้ยังเข้าใจกันแบบนี้อีกเหรอนี่??

คุณรู้มั้ยว่า เวลาคุณไปหาหมอเพราะเป็นหวัด หมอจะจ่ายยาลดไข้
ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ให้คุณ แต่ไม่มียาฆ่าเชื้อหวัด!!!
นอกจากคุณติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม เช่น ทอนซิลอักเสบ คออักเสบ
หมอจึงจะจ่ายยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ติดซ้ำเติมให้ แต่ก็ยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสหวัดให้อยู่ดี!!
เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะยาฆ่าไวรัส มันแพงมาก
และไม่คุ้มที่จะแจกจ่ายพร่ำเพรื่อ เพราะจะทำให้ไวรัสยิ่งกลายพันธุ์ดื้อยาขึ้นไปอีก
99.99% ของคลินิก และ โรงพยาบาลขนาดเล็ก จึงไม่มียารักษาการติดเชื้อไวรัสหวัด ไว้ในสต็อกยาเลยครับ

สิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาไข้หวัด คือการกินยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก
ยาแก้ไอ ตามอาการ แล้วนอนพักผ่อนมากๆ
พยายามอย่าไปแพร่เชื้อใส่ใคร เดี๋ยวก็หายเพราะร่างกายรักษาตัวเองครับ

แต่กรณีไข้หวัดใหญ่ มีลุ้นหน่อย เพราะเชื้อรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา
บางคนหาย บางคนไม่รอด
ณ จุดนี้ยังนับว่าโชคดี ที่อัตราตายจากไข้หวัดใหญ่ 2009
ยังนับว่าต่ำอยู่.... แต่อย่างที่บอกข้อแรก มันจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปไหม?....

(ข้อแปลก เกี่ยวกับหวัด 2009 ที่ไม่เหมือนหวัดใหญ่สเปน คือ
หวัดสเปน คนตายมักเป็นคนร่างกายอ่อนแอชัดเจนเช่นคนแก่
และเด็กแต่หวัด2009 อัตราตายค่อนข้างมั่วซั่ว
คนหนุ่มสาวก็มีตาย มีบางทฤษฎี บอกว่า อาจเป็นเพราะไม่ได้ตายจากเชื้อ แต่ตายจากระบบภูมิคุ้มกันตัวเองที่พยายามฆ่าเชื้อโรค
แต่ร่างกายแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนเซลล์ติดเชื้อ อันไหนเซลล์ตัวเองที่ยังดีอยู่ เลยทำลายล้างบางหมด ร่างกายคนหนุ่มสาวภูมิต้านทานดี ระบบทำลายนี้เลยทำลายตัวเองได้ดีตามไปด้วย........อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้ ความเห็นนี้ยังเป็นแค่ทฤษฎี ....)

ส่วน Tamiflu น่ะ อย่าไปหวังอะไรกับมันมากเลยครับ เพราะ
- ตอนนี้ยาขาดตลาดสุดๆ รพ. หลายแห่ง หายานี้มา Stock ไว้ไม่ได้
- ยานี้จะออกฤทธิ์ได้ดี เมื่อคนไข้ถูกตรวจพบเจอก่อนเกิดอาการ
แล้วคนไข้คนไหนจะกระแดะเดินไปหาหมอตอนไม่มีอาการล่ะครับ ( ถึงกระแดะไปหา หมอก็ไม่กระแดตรวจ Swab ให้หรอก หรือ ถึงหมอกระแดะตรวจให้ คุณจะกระแดะจ่ายค่าตรวจราคา4000+ บาท(ไม่รู้อัพราคารึยัง?) โดยมีอาการแค่นิดๆมั้ยล่ะครับ?)
- ตอนนี้เริ่มมีรายงาน เชื้อดื้อยา Tamiflu แล้วครับ (บอกแล้ว ว่าไวรัสมันกลายพันธุ์ เร็วค่อดๆ)



3. ฉีดวัคซีนป้องกันได้???
Answer : วัคซีนที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้คือวัคซีน ป้องกัน ไข้หวัดใหญ่สเปนครับ
เป็น H1N1 เหมือนกัน แต่เป็นเชื้อคนละตัว ( เหมือนตระกูลงวงคำเหมา เหมือนกัน แต่ หม่ำกับ ตุ๊กกี้เป็นคนละคนกัน มีสิ่งที่ชอบที่กลัวไม่เหมือนกัน) พูดง่ายๆ คือ ในทางทฤษฎี วัคซีนนี้ ไม่น่าจะป้องกันหวัด 2009 ได้เลย แต่ให้ฉีดไว้ก่อนเพราะ

- ตอนแรกนักวิทย์คำนวณไว้อยู่แล้วว่า ปีนี้ ไข้หวัดสเปนต้องระบาด (ใครจะนึกว่ามันทะลึ่งกลายพันธุ์เป็น 2009 ) อย่างน้อยการฉีดนี้เป็นการตัดไข้หวัดสเปนออกไปก่อน พูดง่ายๆ คือ ถ้าใครเดินมา รพ. เราจะได้สงสัยไปเลยว่าเป็น หวัด 2009 ไม่ใช่หวัดสเปน จะได้ง่ายต่อการควบคุมรักษา

- ถ้าเกิดไข้หวัดสเปน เกิดบ้าจี้ ระบาดขึ้นมาพร้อมกันตอนนี้ อัตราตายมันสูงกว่า หวัด 2009 มากนะครับ

- แม้ทางทฤษฎี วัคซีนนี้จะกัน 2009 ไม่ได้เลย แต่ไหนๆมันก็เชื้อตระกูลเดียวกัน และเป็นเชื้อใหม่ด้วย ใครจะไปรู้ว่ามันอาจป้องกันหวัด 2009 ได้ซัก 1% ก็ได้ มีตังค์ก็ฉีดๆ ไปเหอะ Better Than Nothing แต่ต้องรู้นะ ว่า การฉีดวัคซีนนี้ ไม่ได้แปลว่า คุณไม่ต้องกลัวแล้ว ไม่ได้แปลว่าคุณมีภูมิคุ้มกันต่อหวัด 2009 แล้ว มันแค่ลดความเสี่ยงไปซักถึง 1% รึเปล่ายังไม่รู้เลย??


4. แล้วอะไร คือสิ่งที่ควรทำตอนนี้???
Answer :

4.1 ระดับส่วนตัวและครอบครัว

ในภาวะปกติ

ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ทุกแหล่งชุมชนคือจุดเสี่ยงในการแพร่ระบาด โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นห้องแอร์ระบบปิด เช่นในห้างสรรพสินค้า โรงหนัง บนรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ถ้าจะเดินเข้าแหล่งชุมชนเหล่านี้ ควรใส่หน้ากากป้องกันตัวเองได้แล้วครับ!!!!!


ถ้าคุณมีอาการของโรคหวัด แค่ ไอ จามเล็กๆน้อยๆ

ควรแยกตัวจากครอบครัวและสังคมเท่าที่ทำได้ เช่นแยกห้องนอนจากคนอื่น ถ้าต้องอยู่ร่วมกันก็ใส่หน้ากากตลอดเวลา (หาซื้อไม่ได้ ก็เอาผ้าเช็ดหน้ามาผูกไว้ก็ยังดีกว่าหายใจรดกันตรงๆ)

ปิดปากปิดจมูกเสมอ อย่าหายใจรดใคร อย่าไอจามใส่ที่สาธารณะ เลิกถ่มน้ำลายลงพื้นได้แล้ว

ล้างมือให้บ่อยที่สุด การเอามือไปป้ายโน่นป้ายนี่ เป็นช่องทางการแพร่เชื้อที่ดีเยี่ยม

ตอนเช้าตื่นนอน กรุณา เปิดหน้าต่างกว้างๆ เปิดพัดลมไล่อากาศออกซักนิด ก่อนจะให้ใครคนอื่นเดินเข้ามาในห้องเรา เสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน หมั่นซักบ่อยๆ ( ไม่รู้มีคราบเสมหะ ตอนเราไอจามติดอยู่รึเปล่า ) ล้างมือให้บ่อยที่สุด แต่ไม่ต้องถึงกับแยกห้องน้ำหรอกนะ แค่เอาแปรงสีฟันเราออกมาเก็บเอง อย่าใส่ถ้วยเดียวกะคนอื่นก็พอ

อาการอย่างไรจึงควรไปตรวจที่รพ.?

1. มีไข้ 38 ํC ขึ้นไปร่วมกับ
2. อาการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ, ไอ, หายใจผิด ปกติ (หอบ, ลำบาก), หรือแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดบวม ร่วมกับ มีผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในที่ทำงานป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนวันเริ่มป่วย

ถ้าอาการแค่เป็นหวัดเจ็บคอธรรมดา ไข้ไม่สูง ไม่นอนซม ไม่ต้องสะดิ้งวิ่งไปรับเชื้อที่รพ.นะครับ อย่าลืมว่าตอนนี้ รพ.นั่นแหละ เป็นแหล่งแพร่เชื้อที่ดีที่สุด.................




4.2 ระดับนโยบายของรัฐ และ สื่อมวลชน

มาดูกันนิดนึง ว่าทำไมประเทศเราถึงควบคุมการระบาดไม่ได้เลย ขณะที่ประเทศต้นตำรับการระบาดอย่าง Mexico ซึ่งไม่ได้เจริญกว่าบ้านเราเลย เขาถึงควบคุมการระบาดระลอกแรกได้....

จำข่าวได้มั้ยครับ ว่าตอนแรกที่ Mexico เขาระบาดเขาทำอะไรบ้าง ??
ปิดเลยครับ !!! เขากล้าพอที่จะปิด โรงเรียนทุกแห่ง โรงหนังทุกแห่ง ห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง ทั่วประเทศ พร้อมกัน 1 สัปดาห์ พร้อมทั้ง พ่นยาฆ่าเชื้อ ตามโรงหนัง ห้างสรรพสินค้า ใหญ่ๆด้วย
นั่นคือสาเหตุที่เขาควบคุมการระบาดระลอกแรกได้ทันทีในสัปดาห์ต่อมา....

แล้วพี่ไทยล่ะทำอะไรบ้าง ?? นอกจากออกข่าว ว่า ไม่มีอะไร้ ไม่น่ากลัว แต่คนติดเชื้อเพิ่มเป็นหลักร้อย หลักพันทุกวัน???
มัวแต่กลัวว่าเศรษฐกิจจะทรุด การท่องเที่ยวจะกระทบ ...
คิดกันบ้างมั้ยว่า ถ้าคนไทย ตัยหอง กันหมด จะมีเศรษฐกิจดีๆไว้ทำอารายจ๊ะ??
เศรษฐกิจ คือ สิ่งที่เราสร้างได้แน่นอน ถ้าคนไทยยังมีลมหายใจอยู่คับ (ว้อยยยยยย )

และคุณสื่อมวลชนครับ ... ผมว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องพูดความจริง.....
ถ้าจำไม่ได้ว่าผมพล่ามอะไร ให้ พูดดังนี้นะครับ
1. โรคนี้ อันตรายครับ .... และยังกลายพันธุ์ให้อันตรายกว่านี้ได้อีกในปลายปีนี้ครับ
2. โรคนี้ หวังพึ่งยารักษา ไม่ได้ครับ และตอนนี้เริ่มดื้อยาแล้วด้วยครับ
3. โรคนี้ต้องป้องกันอย่างเดียวครับ
4. จะควบคุมการระบาดได้ ต้องพร้อมใจกัน ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ พร้อมกันทั้งสังคมครับ
5. จะควบคุมการระบาดได้ ปิดโรงเรียน โรงหนัง ศูนย์การค้าใหญ่ๆ ได้แล้วครับ ขอแค่ 3 วันก็ยังดีครับ!!!!!

ของแถม (ส่วนนี้ถ้าอ่านไม่รู้เรื่อง ก็ช่างเถอะนะ)
ขออธิบายเรื่องการกลายพันธุ์ ของไวรัสล้วนๆ จะได้รู้ว่าทำไมผมถึงคิดว่าเราควรตื่นตัว

อธิบายความรู้พื้นฐานเพื่อให้เข้าใจก่อน

HOST = เหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( มนุษย์ หรือ หมู / นก สัตว์ต่างๆที่มันเข้าไปสิง)
HOST cell = เซลล์ ของเหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( เซลล์ มนุษย์ หรือ สัตว์)


+++ปฏิบัติการเมื่อไวรัสเข้าไปใน HOST Cell+++

ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ครบองค์ประกอบของการเป็นเซลล์ มันจึงไม่สามารถแพร่พันธุ์ด้วยตัวเองได้ แต่จะแพร่พันธุ์โดยการฝังตัวเข้าไปใน HOST cell

ดูรูปประกอบ พื้นที่ สีชมพูทั้งหมด คือ HOST cell
รูปหกเหลี่ยมสีเหลือง คือไวรัส
หมายเลข 1-2 คือ ไวรัส สัมผัสผิวเซลล์ แล้วจะละลายตัวเองเข้ากับผนังเซลล์ บุกเข้ามาภายใน Host Cell
หมายเลข 3 เมื่อเข้ามาแล้ว ไวรัสจะสลายเปลือกตัวเอง เหลือแต่ RNA คือเกลียวสีแดงในรูป
หมายเลข 4a RNA คือสารพันธุกรรมของไวรัส ที่จะหลอกล่อ RNA ของHost ( เกลียวสีน้ำเงิน) ให้มาประกบตัว เพื่อสร้างไวรัสตัวใหม่ออกมามากมาย ( ปกติ RNA ของมนุษย์ มีไว้สร้าง โปรตีน และสารจำเป็นอื่นๆต่อร่างกาย และแน่นอนมันเป็นสารที่มีรหัสพันธุกรรมมนุษย์อยู่ด้วย)
ในรูป
4b คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์ ให้สร้างเปลือกใหม่ ให้มันแทนอันที่มันสลายทิ้งไปตอนแรก
4c คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์ ให้สร้าง RNA ไวรัสใหม่ (ที่ปะปนกับ RNA มนุษย์ เรียบร้อยแล้ว จะกลายพันธ์ได้ช่วงที่หนึ่งก็ตอนนี้แหละ)

หมายเลข 5-6 ประกอบร่างกันใหม่อีกครั้ง ได้เป็นไวรัสลูก (ที่ขโมย RNA ของ Host มาผสมเรียบร้อย) จำนวนนับหมื่นนับแสน เข้าละลายผนังเซลล์ ของ Host แล้ว บุกออกจากตัว Host ออกสู่โลกภายนอกอีกครั้ง.......ระบาดดด นั่นเอง.....


ไวรัสกลายพันธ์อย่างไร
1. Mutation =การผ่าเหล่าของพันธุกรรม : วิธีนี้ช้า ในมนุษย์ ใช้เวลาหลายร้อยชั่วคน แต่ในไวรัส ไม่กี่รุ่นก็ทำได้ (จำคำอธิบายข้างต้นว่า เพียงพ่อเดียว( host ที่ไวรัสไปฝังตัว--> ไวรัสก็ออกลูกได้เป็นหมื่น จึงไม่ต้องรอหลายรุ่นอย่างมนุษย์) และแน่นอน ไม่ต้องรอนับพันปีอย่างมนุษย์ ไวรัสใช้เวลาเป็นวัน หรือ ชั่วโมงเท่านั้น
2. Genetic Recombination เป็นวิธีที่เร็วอย่างน่ากลัวเข้าไปอีก อธิบายดังนี้.....

โปรดดูรูปประกอบอีกครั้ง เกลียวสีแดงๆนั้นแทน RNA ซึ่งล่องลอยไปมาในเซล
คราวนี้ลองนึกภาพว่า ถ้ามีไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้นไปบุกเข้าไปในเซล์Host พร้อมกัน ไวรัสนั้นจะสลายเกราะ ปล่อย RNA ของมันออกมาล่องลอยในเซลล์ ก่อนจะประกอบร่างตัวเองขึ้นมาใหม่เป็นไวรัสลูกหลานออกนอกเซลล์ ไอ้ตอนนี้แหละท่านผู้ชม... มันก็ลากเอา RNA อะไรก็ได้มาประกอบร่าง ( ทั้งของไวรัสอีกตัวนึง กับของ Host ) ผสมกันออกจากเซลล์ กลายเป็น ไวรัสพันธุ์ใหม่เสร็จสรรพ.....


นี่คือที่มาว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 ธรรมด๊าธรรมดา กลายมาเป็นไข้หวัดหมู เม็กซิโก 2009 ได้ยังไง
สรุปง่ายๆคือ Host ( คนหรือสัตว์) เกิดแจ็คพ็อตติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้นไปในคราวเดียวกัน ไวรัสก็จะไปผสมพันธุ์กันในร่างเหยื่อคนนั้น ก่อให้เกิดไวรัสพันธ์ใหม่ พร้อมกันทีเดียวหลายพันหลายหมื่นเผ่าพันธ์ แต่แน่นอน การผสมมั่วซั่วเหล่านี้ ไวรัสพันธ์ใหม่ที่ได้ส่วนใหญ่ จะอยู่ไม่รอดในธรรมชาติ แต่มันหลุดมาเป็นหมื่นชนิดมีหรือจะไม่มีชนิดนึงเล็ดรอด ใช่แล้ว และตัวที่รอดออกมาก็คือ “ ไข้หวัดใหญ่ เม็กซิโก 2009 SWINE FLU ”

ดูแล้วพอจินตนาการได้มั้ยครับ ว่า ถ้ามันจะกลายพันธุ์ต่อก็ใช้วิธีเดียวกันได้ไม่ยากเลย!!!!!!



The bad news: the flu vaccine will not protect you.
ข่าวร้าย วัคซีนไข้หวัดแบบปัจจุบันยังป้องกันอะไรไม่ได้

The good news: antiviral drugs (Tamiflu and Relenza) will work.
ข่าวดี : เค้าว่า ยา Tamiflu ช่วยได้

The bad news: antiviral drugs are not very effective after symptoms start, which is why they are not commonly used in medical practice.
ข่าวร้าย : ยาพวกนั้น จะใช้ไม่ค่อยได้ผล เมื่อเริ่มมีอาการแล้วววว นั่นคือสาเหตุที่หมอเองยังไม่ค่อยมีโอกาสสั่งยาพวกนี้เลย ( ใครมันจะไปหาหมอกินยาก่อนมีอาการฟะ????)








ที่มา : forword mail




 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 18 กรกฎาคม 2552 19:35:36 น.
Counter : 382 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

no filling
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add no filling's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.