ชีวิตนี้ แค่ได้ท่องเที่ยวไปในสถานที่แปลกใหม่ ก็มีความสุขแล้ว
Group Blog
 
All blogs
 
เชียงราย+ชายแดนพม่า

เชียงราย+ชายแดนพม่า

แวะไปเยือนมาเมื่อ 9/12/49 อากาศเย็นกำลังดีเลย

ถึงเชียงรายตอนเช้ามืดประมาณ 6 โมงเช้าแวะทานอาหารเช้าที่บริเวณวัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
(เช้าเกินไปรูปที่ได้เลยเป็นเช่นนี้ แบบว่าไม่โทษฝีมือตัวเองเด็ดขาด)



คนเข้าไปชมเยอะมาก ในตัวอุโบสถ (เรียกถูกป่าวไม่รู้) มีทั้งป้ายและคนเฝ้าบอกห้ามถ่ายรูป ก็ยังมีคนไร้มารยาทถ่ายรูปกันเพียบ ช่างเถอะมาดูรูปสวยๆกันต่อดีกว่า



และนี่ก็คือสุขาอันสวยงามของวัดร่องขุ่น มิใช่โบสถ์แต่อย่างใด เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปสำรวจ อันเนื่องมาจากคนเยอะมากขี้เกียจเข้าคิว




ออกจากวัดร่องขุ่นแล้วเราก็ไปสามเหลี่ยมทองคำกัน แบบว่าไปที่ไหนต้องถ่ายป้ายเป็นการยืนยัน แต่ปรากฎว่าป้ายเดิมๆที่เคยเห็นชาวบ้านเขาถ่ายกันไม่อยู่แล้ว ทำเป็นซุ้มอันอลังการแทน


ในบริเวณนั้นมีพระพุทธองค์ใหญ่ มีช้างจำลองให้คนไปลอดท้องช้างด้วย


ออกจากสามเหลี่ยมทองคำก็ไปเข้าโรงแรมที่แม่สายเลย เก็บกระเป๋ากันเรียบร้อยก็ออกเดินทางไปต่างประเทศกัน อิอิ เรียกซะหรู ไปคราวนี้ทัวร์ปล่อยอิสระใครอยากไปไหนก็ไป โดยจ่ายตังค์เพิ่มเอง ส่วนใหญ่ไปดอยตุงกับดอยแม่สะลองกัน แต่เรากับเพื่อนเคยไปแล้วเมื่อตอนขึ้นปีใหม่ปี 2000 ( 7 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก) เลยไปเที่ยวต่างประเทศกันแทน กรุ๊ปเราประมาณ 7 คนรวมกับกรุ๊ปอื่นในทัวร์เดียวกันทั้งหมด 21 คนเลยไปลุยพม่ากัน
ขั้นตอนแรก ต้องเดินผ่านด่านเข้าเมืองก่อน ไปแป๊บเดียวไม่ต้องใช้ Passport แค่ Border Pass ก็พอแย้ว



ไปชมเจดีย์ชเวดากองจำลองกัน ไปถึงตอนเที่ยงพอดีเลย แต่ลานเจดีย์ไม่ร้อนเท้าเลย เดินได้แบบสบายๆ (ต้องถอดรองเท้า)
เจดีย์สวยงามมาก ถึงแม้ว่าเป็นฉบับจำลอง เห็นไกด์บอกว่ามีทองจริงอยู่ด้วย


แอบโชว์โฉมหน้าชาวคณะ


พระพุทธรูปในโบสถ์บริเวณเจดีย์ชเวดากองจำลอง สวยงามไปอีกแบบ


วิวเมืองชายแดนพม่า ถ่ายจากบริเวณเจดีย์จำลอง


ไปเยียมชมวัดพระหยก (ไม่แน่เรื่องชื่อวัด อายจัง ตอนฟังไกด์ไม่ได้จดชื่อวัดเอาไว้)


พระประธานในโบสถ์


และนี่เป็นพระพุทธรูปแบบ 3 มิติ ของจริงมีขนาดเล็กและเว้า แต่เวลามองไปที่องค์พระ จะเห็นท่านเหลียวมองตามเราตลอดเวลาที่เราเปลี่ยนมุม เคล็ดลับคือให้เรามองตรงบริเวณจมูกขององค์พระ


แลอีกวัดนึง แบบว่าจำชื่อไม่ได้เหมือนกัน แย่จัง เป๋นพระพุทธที่แปลกมาก คือเป็นการใช้ไม้ไผ่มาสานเป็นโครงพระพุทธรูปแล้วใช้ปูนโบกด้านนอก เรียกว่าพระเจ้าอินสาน


ด้านหลังของพระเจ้อินสานมีรูกลวงให้ดูเข้าไปภายในพระพุทธได้


จากนั้นไปแวะหมู่บ้านกะเหรี่ยง ชมน้องๆ ร่ายรำให้ดู


แวะอุดหนุนสินค้าของชาวกะเหรี่ยงกัน


แล้วก็มาเดินช็อปกันที่ตลาดท่าขี้เหล็ก ไม่ได้อะไรสักอย่งเลย แค่ชมสินค้าเฉยๆ MP3 ที่ฮิตกันก็ไม่ซื้อ เพราะเราชอบฟังเพลงจากเครื่องเล่นซีดีมากกว่าฟังจากคอมพ์ แบบว่าพยายามทำตัวเป็นคนดีด้วยการซื้อแต่ของแท้ (ของก๊อปก็เคยซื้อบ้าง นานมาแล้ว)

ตอนเย็นๆ ฝั่งแม่สายมีของขายเต็มทั้ง 2 ฝั่งของถนน คนเดินกันเต็มเลย ของที่ขายก็เหมือนกับฝั่งท่าขี้เหล็ก ราคาต่างกันนิดหน่อย วันนั้นนักท่องเที่ยวเยอะมาก ดูได้จากภาพ


ตอนกลางคืนแม่สายก็ยังคึกคัก


ไปคราวนี้เสียดายมากที่ไม่ทราบว่ามีจุดชมวิวอยู่ที่วัดพระธาตุดอยเวา สามารถขึ้นบันไดไปประมาณ 207 (ถ้าจำไม่ผิด) หรือจะนั่งมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปก็ได้ เพื่อชมบรรยากาศมุมสูงของเมืองพม่าและแม่สาย
ทราบตอนประมาณ 6 โมงเย็นแล้ว มืด ไม่สามารถมองวิวได้เลย ขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยเวาอย่างเดียว บรรยากาศของพระธาติตอนค่ำก็สวยดี


ถ้ามีเวลาและโอกาสได้ไปเชียงราย และแวะไปเยี่ยมแม่สายอีก จะไม่พลาดโอกาสขึ้นไปจุดชมวิวที่พระธาติดอยเวาในชางกลางวันอีก



Create Date : 20 ธันวาคม 2549
Last Update : 21 ธันวาคม 2549 23:17:02 น. 0 comments
Counter : 2130 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

noboy
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รักสงบ รักการท่องเที่ยว และรักการอ่านเป็นที่ซู๊ดดด
Friends' blogs
[Add noboy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.