All Blog
“ยออุน โดดเดี่ยวไร้เทียมทาน” (ฟิค Warrior Baek Dong Soo) ตอนที่14
“ยออุน โดดเดี่ยวไร้เทียมทาน” ตอนที่14


ซามูไรหนุ่มยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว แต่มือขวาถือดาบกระชับไว้ พร้อมจู่โจมได้เสมอ ขณะที่ในมือซ้ายก็มีอาวุธลับดาวกระจายพร้อมซัดใส่คู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา สองผู้เฒ่าเดินวนรอบซามูไรหนุ่มโดยไม่กล้าบุกจู่โจมก่อน ซาโมเปลี่ยนเป็นถือมีดแล่เนื้อสองข้างเป็นมีดติดปลายโซ่ที่แข็งแรงทนทานแต่น้ำหนักเบา จะได้เหวี่ยงทำระยะได้สะดวก อีกทั้งความยาวก็สามารถยืดขยายได้ตามใจ นวัตกรรมใหม่ของยางโชริบนั่นเอง

ฮวางจินกิที่มีรอยแผลบาดจากดาบซามูไร เป็นฝ่ายเริ่มบุกก่อน อดีตนักฆ่าชราหมุนตัวกลิ้งไปตามพูดเพื่อจะฟันช่วงล่าง แต่เซจิกระโดดหลบและหมุนตัวเตะจากกลางอากาศ เท้าแข็งแรงฟาดเข้าที่หน้าของผู้เฒ่าจนเป็นรอย จังหวะนั้นก็ถีบซ้ำไปอีกที่ยอดอก จนฮวางจินกิกระเด็นล้ม พร้อมกับกระอักเลือดออกมา ฝ่ายซาโมก็ไม่รอช้า เหวี่ยงโซ่ที่มีปลายเป็นมีดแล่เนื้อออกไปทันที หมายใจให้มีดนั้นสร้างบาดแผลแก่ศัตรู แต่เซจิก็รีบควงดาบหมุนอย่างรวดเร็ว รับมีดนั้นไว้ได้ โซ่เส้นนั้นพันอยู่กับดาบซามูไรของเซจิ หนึ่งผู้เฒ่า หนึ่งชายหนุ่ม ต่างใช้กำลังดึงโซ่ เพื่อดึงคู่ต่อสู้เข้ามาหาตน แต่กำลังของคนข่ยเนื้อชรา ย่อมไม่อาจเปรียบกับซามูไรหนุ่มจอมโหดได้ แค่ไม่นาน เซจิก็กระชากโซ่อย่างแรงจนซาโมลอยตัวกระเด็นเข้าหาซามูไรหนุ่ม ตั้งดาบรอพร้อมแทงคู่ต่อสู้ทันที

ฮวางจินกิ เกรงว่าซาโมจะถูกดาบเสียบพุงหลามตายซะก่อน จึงรีบขว้างปลอกดาบพุ่งใส่เซจิทันที ซามูไรหนุ่มเสียสมาธิชั่วคราวเพราะใช้ดาบของตนฟันปลอกดาบที่ถูกขว้างมาหา ซาโมที่ลอยตัวมาได้โอกาส ฟาดมีดของตนใส่ซามูไรหนุ่มทันที เซจิจึงแกะโซ่ออก แล้วเอามีดของซาโม มารับมีดอีกเล่มที่ซาโมถืออยู่ แล้วใช้แรงของตน ดันซาโมถอยกระเด็นออกไปอีกครั้ง พร้อมกับซัดดาวกระจายออกไป ตั้งใจให้เจาะคอหอยของคนขายเนื้อเฒ่า แต่โชคดีที่ซาโมลอยตัวอยู่ ดาวกระจายนั้น จึงมาปักอยู่ที่อกแทน

“ไม่เป็นไรใช่มั้ย” จินกิถามซาโม

“อา............โชคดีที่ข้าสวมเกราะที่โชริบทำให้ ถึงได้ไม่ทะลุอก ไม่งั้น ข้าอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่..............” ซาโมยังไม่ทันจะหัวเราะจบ มัตสึโมโต้ เซจิ ก็พุ่งตัวลอยมาหาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดดาบฟันลงที่แขนอันไร้เกราะของซาโมจนกลายเป็นทางยาวที่อาบด้วยเลือด โชคดีที่ซาโมมีปฏิกิริยาหลบอย่างว่องไว จึงมีแค่รอยแผลขนาดใหญ่ ไม่เช่นนั้น แขนของตนคงจะขาดไปแล้ว

จินกิรีบเข้ามาดึงตัวซาโมที่กำลังเคลื่อนไหวช้าลงให้หลบเพลงดาบที่สองของเซจิ ที่ครั้งนี้ มีเป้าหมายที่ลำคอแทน แต่แม้จะดึงซาโมหลบพ้น ตนเองกลับถูกเตะที่กลางหลังอีกครั้งนึง และเพลงดาบที่สามของเซจิก็พุ่งเข้ามาทางด้านหลัง หมายใจจะแทงกลางหลังของจินกิ ให้ทะลุอกด้านหน้าออกไป อดีตนักฆ่าชราเตรียมใจแล้วว่า คราวนี้ตนคงไม่อาจรอดพ้นจากความตายไปได้อีก จึงได้แต่หลับตานึกถึงสิ่งที่ตนผูกพันมาตลอดชีวิต พลันใบหน้าของลูกสาวบุญธรรม ฮวางจินจู ก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิดของตนเอง

...

..

หวีซันเหย ตกอยู่ในวงล้อมของอาวุธลับ ในห้องกลไกนั้น ยูไลแปดกรแทบจะก้าวไปทางไหนไม่สะดวกเอาเสียเลย เพราะไม่ว่าตนจะขยับอย่างไร ก็มีอาวุธลับพุ่งเข้าหาตลอดเวลา แม้ตนเองจะชำนาญเรื่องการปล่อยและการหลบอาวุธ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ร่างกายของตนก็เริ่มอ่อนล้าและเชื่องช้าลงไป ไม่มีทีท่าว่าอาวุธลับและกลไกอาวุธนั้นจะหมดลงไปแต่อย่างใด ประเดี๋ยวก็มีธนูพุ่งออกมาจากผนังห้อง บัดเดี๋ยวก็มีหอกคมทิ่มขึ้นมาจากพื้น เดี๋ยวก็มีลูกตอกพุ่งลงมาจากช่องเพดาน

ร่างกายของยูไลแปดกรเต็มไปด้วยบาดแผล แม้จะไม่สาหัสอะไรนัก เพราะเป็นเพียงรอยเฉี่ยวบาดเล็กๆเท่านั้น แต่เพราะมีจำนวนหลายแผล จึงพอสร้างความเจ็บปวดให้หวีซันเหยอยู่บ้าง แต่กระนั้นอาวุธลับมากมาย ก็ไม่มีชิ้นไหนทำร้ายถูกอวัยวะสำคัญของหวีซันเหยได้เลย เจ้าแห่งอาวุธลับจากต้าชิง ฉายายูไลแปดกร เป็นฉายาที่ได้มาเพราะฝีมือจริงๆ

“เอายังไงดีโชริบ อาวุธลับหมดแล้ว ยังฆ่าเจ้าหวีอะไรนั่นไม่ได้เลย” ฮวางจินจูปรึกษากับฮงกุกยงในห้องควบคุมกลไกด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“อย่างที่อุนพูดไว้เลย ถ้าเรากักพวกนั้นไว้ได้สองคน อาวุธลับจะพอทำร้ายพี่เค้าได้บ้าง แต่ถ้าหวีซันเหยถูกกักอยู่คนเดียว เค้าจะสามารถรอดจากอาวุธลับได้ทั้งหมด สมกับที่เป็นนักฆ่าเจ้าแห่งอาวุธลับจริงๆ” ฮงกุกยงบอก

“อย่ามัวแต่เยินยอสรรเสริญศัตรูอยู่เลย แผนสำรองของอุนน่ะ ใช้ได้รึยัง”

“เจ้านั่นเริ่มอ่อนล้าแล้ว น่าจะควันพิษได้เลย คราวนี้ เจ้าหวีนั่น เสร็จเราแน่ๆ” พูดจบ ฮงกุกยงก็เปิดกลไกปล่อยควันพิษทันที ควันสีขาวพ่นออกมาจากรูที่ซ่อนไว้ภายในห้องกลไก แม้จะไม่มีกลิ่น แต่หวีซันเหยก็คาดไว้แล้วว่าต้องเป็นควันพิษ จึงรีบกลั้นหายใจ ไม่ยอมสูดควันนั้นเข้าไป

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ควันสีขาวสลายไปหมดแล้ว แต่หวีซันเหยยังยืนอยู่ได้เป็นปกติ ไม่แสดงทีท่าและอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด หรือว่า แผนการห้องอาวุธลับที่ยออุนวางแผนเอาไว้จะไม่ได้ผล ฮวางจินจูสีหน้าเคร่งเครียด แม้แต่ฮงกุกยงที่มั่นใจความคิดและแผนการของยออุน ก็เริ่มหวั่นไหว ความเชื่อมั่นในครั้งแรกถูกสั่นคลอน

ประตูห้องลับเปิดขึ้นในที่สุด ฮงกุกยงและฮวางจินจู ต่างถือดาบประจำตัวมายืนเผชิญหน้ากับหวีซันเหย ยูไลแปดกรยังคงยืนนิ่ง แต่สีหน้าถมึงทึง จ้องมองทั้งสองคนอย่างกับจะเอาเลือดเอาเนื้อ

“อาวุธลับของพวกเจ้ามีแค่นี้เหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า คิดว่าของแค่นี้ จะเล่นงานยูไลแปดกรอย่างข้าได้อย่างนั้นเหรอ”

“แต่เจ้าก็ได้รับบาดเจ็บ มีแผลไม่น้อยนี่” ฮงกุกยงเริ่มท้าทายศัตรู

“แผลแค่นี้ ไม่คะละนาฝีมือของข้าหรอก เจ้ากระจอกเอ๋ย”

“แต่เจ้าก็ถูกควันพิษเข้าไปเหมือนกัน”

“แล้วยังไง ข้าไม่ได้สูดเอาควันนั่นเข้าไป พิษเล็กน้อย ทำอะไรยูไลแปดกรอย่างข้าไม่ได้หรอก”

“แล้วใครบอกท่านล่ะ ว่าพิษเล็กน้อย” ฮงกุกยงมีรอยยิ้มกระหยิ่ม เผยให้เห็น

“เจ้าหมายความว่ายังไง” หวีซันเหยเริ่มแปลกใจ

“นี่เป็นควันพิษที่ผสมโดยเพื่อนรักข้า .... ยออุน อดีตชอนจูของสำนักโคมดำ เริ่มหวั่นใจบ้างมั้ยล่ะ”

“แล้วไง เจ้านั่น ถึงจะร้ายกาจ แต่ไม่เคยใช้พิษฆ่าใครมาก่อน”

“แต่ก่อนหน้านี้ไม่นาน เจ้านั่น เพิ่งจะศึกษาบันทึกพิษของตระกูลถัง หนึ่งในนั้นคือควันกินเลือด พอจะคุ้นชื่อบ้างรึยัง” ฮงกุกยงมีสีหน้ากระหยิ่มยิ่งขึ้น หลังจากเห็นแววตาตกใจกลัวของอีกฝ่าย

“ควันกินเลือด หนึ่งในพิษร้ายตระกูลถัง ถึงจะเป็นควันพิษ แต่ไม่ได้แพร่พิษผ่านการหายใจ แต่แพร่พิษเข้าทาง.........”

“ทางบาดแผลที่มีเลือดไหล ................... ถูกแล้ว หวีซันเหย เจ้ากลั้นหายใจก็ไม่เป็นผลหรอก เพราะควันกินเลือด ซึมเข้าสู่ร่างกายของเจ้าทางบาดแผลที่เจ้าได้รับไปแล้วยังไงล่ะ เห็นความร้ายกาจของชอนจูคนนี้รึยัง เพื่อนข้าคนนี้ วางแผนสังหารเจ้าได้ โดยที่พวกข้าไม่ต้องเสียเหงื่อหรือลงแรงแต่อย่างใด”

“ฮ่าฮ่าฮ่า............. เจ้ายออุนนั่น เป็นชอนจูสำนักโคมดำที่ร้ายกาจที่สุดจริงๆ เพลงยุทธก็ไร้เทียมทาน ยังฉลาดจอมวางแผน แถมรู้เรื่องพิษและวิชาแพทย์อีกด้วย .................. ฮ่าฮ่าฮ่า .............. ข้า....ยูไลแปดกร หวีซันเหย หนึ่งในสามมัจจุราชแห่งซานตง ต้องมาตายด้วยน้ำมือของคนแบบนั้น....... ไม่เสียชาติเกิดจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า...........ฮ่าฮ่าฮ่า”

หวีซันเหยล้มลงไปกับพื้น บาดแผลที่ถูกอาวุธลับเริ่มกลายเป็นสีม่วง มีควันลอยกรุ่นขึ้นมา เนื้อบริเวณนั้นเริ่มหายไปราวกับถูกกัดกร่อนก็ไม่ปาน แต่ยุไลแปดกรสมเป็นยอดนักฆ่า แม้จะทรมานเจ็บปวดปานใด ก็ไม่ยอมส่งเสียงร้องออกมาให้ได้ยิน หลับตานอนลง แล้วค่อยๆสิ้นใจตายไปช้าๆ

“ข้าจะไปอารักขาฝ่าบาท และจะช่วยเจ้าสามคนนั่นสู้กับหลูเอ้อเหยก่อน เจ้าจะไปด้วยกันมั้ย” ฮงกุกยงพูดกับจินจูหลังจากมั่นใจว่าหวีซันเหยตายแล้ว

“ข้าเป็นห่วงพวกท่านพ่อ จะออกไปดูซะหน่อย แล้วยังมี คิมกงดูอีก ไปวาดรูปอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้”

“ไม่ห้องที่ทงซูสู้กับเฉาต้าเหย ก็คงเป็นที่ปะรำพิธีที่อุนสู้กับถังชุนนั่นแหละ เจ้าไปดูพ่อเจ้าก่อนเถอะ ถ้าเกิดเรื่องอะไร ก็รียส่งสัญญาณมา ข้าจะรีบไปช่วยทันที”

“ไม่รู้ว่าพวกองครักษ์ฟื้นรึยัง จะได้ตามมาเล่นงานพวกนั้นทั้งหมด”

“อย่าห่วงเลย กลุ่มของใต้เท้าซอยูแทจะตามมาช่วยได้ทันอย่างแน่นอน ตอนนี้ ท่านน่าจะพาพวกองครักษ์ไปล้อมจับพวกฮงซังบอมอยู่แน่ๆ”

“อา...... งั้นข้าไปก่อน” จากนั้น ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปยังจุดหมายของแต่ละคน

...

..

แม้จะเป็นการต่อสู้แบบสามรุมหนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าพวกของซังกักจะเล่นงานหลูเอ้อเหยได้ง่ายๆ ทวนคู่พิฆาตว่องไวยิ่งนัก แม้จะเริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว แต่นักฆ่าจากต้าชิงก็ร้ายกาจเหนือธรรมดา ฝีมือทัดเทียมกับคาอ๊ก อดีตจีจูของสำนักโคมดำ มารดาแท้ๆของฮวางจินจูเลยทีเดียว ทวนคู่เป็นอาวุธพิสดารที่พวกซังกักทั้งสามคนไม่เคยรับมือมาก่อน มือไม้จึงค่อนข้างปั่นป่วน แต่ก็ต่อสู้ได้อย่างรัดกุม ไม่ยอมเสียเปรียบง่ายๆ

โชคดี ที่ยออุนเคยประมือสู้กับหลูเอ้อเหยมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงพอจดจำกระบวนท่าและวิธีการจู่โจมของนักฆ่าผู้นี้ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับความรู้ด้านการต่อสู้เชิงอาวุธที่เพ็กทงซูเคยเรียนรู้มาจากคิมกวางเทคและศึกษาด้วยตนเองมาอย่างกว้างขวาง ดังนั้น ก่อนหน้านี้สามวัน หลังจากที่ยออุนวางแผนใช้ห้องอาวุธลับและควันพิษเล่นงานยูไลแปดกรแล้ว ยออุนและเพ็กทงซู สองนักสู้ที่เก่งที่สุดในโชซอน จึงร่วมกันคิดค้นกระบวนท่าและวิธีเอาชนะทวนคู่พิฆาต แล้วถ่ายทอดค่ายดาบสามประสานนั้นแก่เพื่อนๆทั้งสามคน

ซังกักและพวกเปลี่ยนท่าจู่โจมอีกครั้ง ด้วยท่าดาบที่เพ็กทงซูคิดค้นขึ้น ซังกักที่ยังเจ็บสีข้างอยู่ เป็นแนวหน้าบุกก่อน ตั้งดาบสูงรอจู่โจมด้วยท่าทางสง่างาม ฝ่ายยงกอลกับแทยงก็ยืนคู่เยื้องไปด้านหลังคล้ายรูปสามเหลี่ยม แต่แทยงตั้งดาบต่ำคอยจู่โจมช่วงล่างลำตัว ขณะที่ยงกอลเอง ก็ตั้งดาบระดับอก คอยเล่นงามลำตัวของหลูเอ้อเหยเช่นกัน

ยงกอลพุ่งตัวบุกเป็นคนแรกทางด้านขวามือของหลูเอ้อเหย เหวี่ยงดาบฟาดหมายใจจะฟันสีข้าง แต่นักฆ่าเฒ่าก็ตั้งทวนเป็นแนวตั้งรับไว้ได้ จังหวะเดียวกัน แทยงก็บุกเป็นคนที่สอง ฟันช่วงล่างทางด้านขาซ้าย หลูเอ้อเหยต้องชักทวนข้างซ้ายมือลงต่ำ เปิดช่วงด้านหน้าของลำตัวให้เป็นที่ว่าง ซังกักฉวยโอกาสแทงเข้าไปตรงๆกลางอกของหลูเอ้อเหยทันที

แต่นักฆ่ามืออาชีพมีหรือจะดูไม่ออก เขาใช้แรงเหวี่ยงทวนด้านขวามือไปข้างหน้า ทำให้ยงกอลมาบังตนไว้ ซังกักไม่สามารถแทงได้ แต่ยงกอลกลับใช้จังหวะนี้ ย่อตัวลง ให้ซังกักเปลี่ยนท่าจู่โจมจากแทงตรงๆ เป็นเหยียบหลังของยงกอล กระโดดลอยตัวข้ามศีรษะของหลูเอ้อเหยไปด้านหลัง แล้วใช้ดาบฟันลงมาจากด้านบน หลูเอ้อเหยจึงต้องชักทวนขวาแล้วแทงขึ้นตรงๆแทน และถูกเข้าที่หน้าท้องของซังกักอย่างจัง

ยงกอลได้ช่อง แทงดาบไปตรงๆที่อกของทวนคู่พิฆาตอีกครั้ง หลูเอ้อเหยรั้งสภาวะทวนจากมือซ้าย ขึ้นมารับดาบของยงกอล แทยงจึงฉวยจังหวะฟันเข้าที่ขาซ้ายของหลูเอ้อเหยได้หนึ่งแผล ส่วนซังกักที่ถูกแทงนั้น ก็ดึงทวนออกมาจากมือของนักฆ่า แต่เพราะหลูเอ้อเหยจับไว้แน่น ซังกักจึงบิดด้ามดาบของตน กลายเป็นว่า ดาบของซังกักจากที่สั้นกว่าทวน กลับยาวขึ้น เพราะกลไกลับที่โชริบทำไว้ให้ ปลายดาบแทงเข้าที่หัวไหล่ข้างขวาของหลูเอ้อเหย ทำให้หมดแรงถือทวนแล้วทวนก็หลุดจากมือ แต่ตัวทวนยังคาอยู่กับท้องของซังกักอยู่

ขาซ้ายที่บาดจ็บ ไหล่ชวาก็บาดเจ็บ แถมเสียทวนไปหนึ่งเล่ม หลูเอ้อเหยเริ่มตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบบ้างแล้ว มือซ้ายข้างเดียวควงทวน ป้องกันการบุกจู่โจมของยงกอลและแทยง ขณะที่ซังกักก็ดึงทวนออกจากท้องของตน ปรากฏว่า ไม่มีรอยแผลแต่อย่างใด ทั้งนี้เป็นเพราะเสื้อเกราะที่โชริบทำไว้ให้นั่นเอง ซังกักถอดปลายทวนออกแล้วโยนทวนนั้นทิ้งไป ตอนนี้ ทวนคู่พิฆาตผู้โด่งดัง ก็เหลือเพียงทวนเล่มเดียวเท่านั้น

ยงกอลเปลี่ยนเป็นจู่โจมไหล่ขวาข้างที่บาดเจ็บของหลูเอ้อเหยแทน ส่วนแทยงก็จู่โจมขาซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บ และเพราะถือทวนด้วยมือซ้ายข้างเดียว หลูเอ้อเหยจึงต้องรับมืออย่างทุลักทุเล แต่กำลังและความไวก็มากโขอยู่ ถึงยงกอลกับแทยงจะร่วมมือกัน ก็ยังจัดการไม่ได้ ขณะเดียวกัน ซังกักก็เปลี่ยนไปเล่นงานจากทางด้านหลังแทน หลูเอ้อเหยรู้ทัน กระโดดลอยตัวตีลังกากลับหลัง แล้วใช้เท้าเตะซังกักกระเด็นไปทางด้านหน้าเข้าหาเพื่อนทั้งสองคน แต่ซังกักใช้จังหวะที่ตนกำลังเซถลาตีลีงกาม้วนหน้า แล้วใช้สองเท้าดันเท้าของแทยงที่กระโดดลงมา ถีบตัวแทยงให้กระโดดสูงขึ้น ตั้งใจฟันดาบใส่หลูเอ้อเหยจากด้านบน

นักฆ่าเฒ่าใช้แขนซ้ายควงทวนให้หมุนตามแนวยาวอย่างเร็ว แล้วพุ่งทวนนั้นเข้าใส่อกของแทยง หมายใจจะให้ทวนทะลุเสื้อเกราะแล้วฆ่าแทยงให้ตายไปกับตนให้ได้ แต่ยงกอลก็ขว้างดาบของตนไปตรงๆ กระแทกทวนได้สำเร็จ ดาบของยงกอลแรงไม่เท่าแรงหมุนของทวน จึงกระเด็นกลับไปทางเจ้าของ แต่ก็พอจะลดความแรงของการหมุนของทวนและทำให้ทวนเอียงเล็กน้อย จึงพลาดแทงไม่ถูกแทยงแต่อย่างใด แต่แทยงก็ฟันไม่ถูกหลูเอ้อเหย แถมถูกหมัดซ้ายซัดเข้าที่ลิ้นปี่ไปหนึ่งหมัดด้วย จนกระอักเลือดออกมา

ซังกักพุ่งตัวไปข้างหน้าแล้วฟันดาบใส่ขาขวาของหลูเอ้อเหยได้สำเร็จในจังหวะที่หลูเอ้อเหยกำลังซัดหมัดใส่แทยงอยู่นั่นเอง ทำให้ขาของตนบาดเจ็บทั้งสองข้างล้มลงกับพื้น ยงกอลไม่รอช้า รีบซ้ำไปที่แขนซ้ายของหลูเอ้อเหยทันที ทำให้นักฆ่าเฒ่าต้องบาดเจ็บทั้งแขนและขาอย่างสาหัส สู้ไม่ได้อีก

“ฮ่าฮ่าฮ่า............ ข้า หลูเอ้อเหย ไม่ได้แพ้เพราะฝีมือสู้ไม่ได้ แต่แพ้เพราะแผนการที่แยบยลและร้ายกาจต่างหาก พวกเจ้าใส่ทั้งเสื้อเกราะ ทั้งทำอาวุธให้ยางขึ้นได้ แถมเลือกใช้กระบวนท่าที่ทำให้ทวนคู่ของข้าเสียเปรียบโดยเฉพาะ ไม่เลว............. พวกเจ้าลงมือเถอะ ข้ากลายเป็นคนพิการแล้ว พวกเจ้าเลือกฟันถูกเส้นเอ็นของข้าได้อย่างแม่นยำ ข้าสู้กับใครไม่ได้อีก พวกเจ้าก็ ฆ่าข้าเถอะ”

“ถ้าเป็นสามวันก่อน พวกข้าสามคนคงจะแพ้ท่านแน่ๆ แต่เพราะกระบวนท่าและวิธีการที่ทงซูกับอุนสอน รวมกับอาวุธที่โชริบทำให้ พวกเราถึงได้เอาชนะท่านได้ในที่สุด” ซังกักบอก

“เพ็กทงซู ยออุน สองคนนี้อีกแล้วหรอ นี่พวกมัน ยังไม่ตาย และไม่ได้เป็นบ้าอย่างนั้นหรอกหรอเนี่ย”

“พวกนั้นยังปกติดีอยู่ พี่ใหญ่เจ้าเข้าไปเจอกับทงซู คิดว่าจะเอาชนะเค้าได้หรอ แผนการของพวกเจ้าล้มเหลวตั้งแต่แรกแล้ว พวกเรารู้ทันทั้งหมด และเตรียมรับมือเป็นอย่างดี คืนนี้ ฮงซังบอมไม่มีทางรอดพ้นความผิดไปได้แน่ๆ” ยงกอลบอกบ้าง แต่หลูเอ้อเหยก็เอาแต่หัวเราะ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ดี ข้า..........หลู เอ้อ เหย ไม่เคยคิด ว่าจะต้องมาตายที่นี่ ฮ่าฮ่าฮ่า......” สิ้นเสียงหัวเราะ ทวนคู่พิฆาต พี่รองแห่งสามมัจจุราชซานตงก็ล้มลงนอนสิ้นใจตาย ที่แท้ เขาก็กัดลิ้นของตนเองนั่นเอง แทยงเข้าไปสำรวจศพ เมื่อมั่นใจว่าตายแล้ว ก็รีบตามไปอารักขาพระเจ้าจองโจพร้อมกับเพื่อนๆ

...

..

“เพ็กทงซู ข้าจะได้สู้กับเจ้าซะที คราวนี้ ข้าจะไม่รั้งรออีกแล้ว ได้ข่าวว่าเจ้า เคยเอาชนะอดีตชอนจูมาได้ และเจ้า ก็ยังเป็นศิษย์เอกของดาบเทพยดาคิมกวางเทคอีกด้วย ข้าปรารถนาจะประลองกับอาจารย์ของเจ้ามานานแล้ว ดีล่ะ เรามาพิสูจน์กันในดาบเดียวเลย ว่ากระบี่ปลิดวิญญาณของข้า กับเพลงดาบเทพยดาของเจ้า ใครจะไวกว่ากัน”

“เฉาต้าเหย .............งั้นเจ้า....ก็เตรียมตัวตายได้ ข้า.... เพ็กทงซู กลัวอยู่แค่สองอย่าง หนึ่ง คือกลัวไม่ได้ฆ่าเจ้า และสอง ก็คือกลัวไม่ได้ฆ่าเจ้าอีกเช่นกัน วันนี้ จะเป็นวันตายของเจ้า ใจดาบที่มีเมตตาของข้า ไม่ได้มีไว้สำหรับนักฆ่าผู้ชั่วช้าอำมหิตเช่นเจ้า................ลงมือ”

สิ้นบทสนทนา ทั้งเพ็กทงซูและเฉาต้าเหย ก็กระชับอาวุธคู่กายคู่ใจ แล้วพุ่งเข้าหากันอย่างรวดเร็วจนมองตามแทบจะไม่ทัน ผ่านไปสักพัก ต่างฝ่ายต่างขยับมาอยู่ในตำแหน่งที่อีกฝ่ายเคยยืนอยู่ กระบี่ของเฉาต้าเหย จ่ออยู่ใกล้คอของพระเจ้าจองโจ ที่เมื่อครู่นี้ ทรงยืนอยู่ด้านหลังเพ็กทงซู พระราชาหนุ่มตัวสั่นด้วยความตกใจที่มีกระบี่ของนักฆ่ามาจ่ออยู่ใกล้ๆคอเช่นนี้ เหงื่อตก และทรงหันไปมองจอมดาบอันดับหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

เพ็กทงซูยืนนิ่ง ไม่ขยับ ดาบหลุดจากมือตกลงไปที่พื้น เลือดไหลออกมาจากแขนด้านขวาเป็นทาง ก่อนที่จะหยดลงพื้นเช่นกัน จอมดาบหนุ่มเข่าทรุดลงไปนั่งกับพื้น พระเจ้าจองโจที่ทรงมองเห็นอาการของเพ็กทงซูอยู่นั้นตกใจมาก แต่ก็ทรงรวบรวมความกล้า เงยหน้ามองไปยังกระบี่ปลิดวิญญาณเฉาต้าเหยบ้าง

บริเวณลำคอของเฉาต้าเหยมีรอยกรีดบางๆ เลือดซึมออกมาไม่มาก เพราะการกรีดนั้น ทำอย่างรวดเร็วด้วยอาวุธที่คมกริบ นักฆ่าเฒ่ายืนนิ่งไม่ไหวติง พระราชาค่อยๆใช้มือผลักเบาๆ ร่างชายชรานั้นล้มลงไป พี่ใหญ่แห่งสามมัจจุราชซานตง เฉาต้าเหย ฉายากระบี่ปลิดวิญญาณ สิ้นใจตายแล้ว ด้วยดาบของจอมดาบอันดับหนึ่งแห่งโชซอน เพ็กทงซู

...

..

เข็มเงินเล่มนั้นพุ่งไปด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่าเข็มจากปืนยิงเข็มอันเก่าของถังขุนเสียอีก หมอหนุ่มกระโดดหลบไม่ทัน จึงคลี่กางพัดจีบในมือออกเพื่อบังเข็มเงินเล่มนั้น แต่เพราะความแรงของการยิงเข็ม เข็มเงินของถังชุนจึงทะลุพัดจีบที่คลี่ออก ปักทะลุอกข้างซ้ายของยออุนจนกระเด็นไปด้านหลัง ล้มลงและกระอักเลือดออกมา

“อ่า.......” ยออุนครางเพราะความเจ็บปวด ฉีกเสื้อบริเวณที่ถูกเข็มแทงอกซ้าย แล้วใช้ดาบสั้นกรีดเปิดรอยเข็มให้กว้างแล้วดึงเอาเข้มออกมา หมอหนุ่มสกัดจุดของตัวเอง แล้วรีบกินยาสกัดพิษทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่า..... ฮ่าฮ่าฮ่า......... ในที่สุด ข้าก็ยิงเข็มถูกเจ้าสำเร็จ ถึงจะไม่ใช่เข็มพิรุณโปรยก็เถอะ ฮ่าฮ่าฮ่า แต่เข็มเงินของข้า ก็บรรจุพิษที่รุนแรงไม่แพ้กัน เข็มของข้า ปักถึงหัวใจของเจ้าแล้ว.......อุน.............ถึงเจ้าจะเอาเข็มออกมาได้ ก็ไม่ทันการแล้ว เจ้า จะต้องตายด้วยเข็มของข้าแน่ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า.........”

“หึ...... ผิดแล้ว........ ชุน........... หัวใจของข้า ไม่ได้อยู่ที่อกซ้าย แต่อยู่ข้างขวาต่างหาก เข็มของเจ้า ไม่ถูกหัวใจของข้า ...................... อีกอย่างนะ เพราะว่าข้าเคยถูกพิษจันทราอาดูรของเจ้า บวกกับการรักษาและทดลองพิษที่ข้าฝึกฝนมาแต่วัยเยาว์ ตอนนี้ ร่างกายของข้า มีภูมิต้านทานพิษและสามารถต้านพิษเย็นได้ทุกชนิดแล้ว............ พิษของเจ้า ทำอะไรข้าไม่ได้อีกต่อไป................. เสียใจด้วยนะชุน............... ที่ข้า ชนะเจ้าอีกครั้งนึงแล้ว”

“งั้นหรอ............... ฮ่าฮ่าฮ่า.... จริงสินะ พิษเย็นของข้า ทำอะไรเจ้าไม่ได้อีกแล้ว อย่างที่ข้าแอบนึกกลัวไว้จริงๆด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า.......อะ............อ่ะ.............. อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก.............” ถังชุนล้มลง กระอักเลือดออกมาคำโต

“ชุน.................... เจ้าเป็นอะไร...........ชุน” ยออุน รีบเข้าไปดูอาการของถังชุนโดยไม่รอช้า หมอหนุ่มจับชีพจรซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับจับจุดตามร่างกายของเจ้าแห่งพิษน้อย สีหน้าตกใจปรากฏบนใบหน้าของยออุน หมอหนุ่มใช้พลังดรรชนีสกัดจุดตามร่างกายของถังชุนรวมแปดจุด แล้วรีบถอดเสื้อของถังชุนออกในทันที

...

..

ขณะที่เพลงดาบที่สามของซามูไรหนุ่มที่พุ่งเข้ามาทางด้านหลังของฮวางจินกิ หมายใจจะแทงกลางหลังของอดีตนักฆ่าเฒ่า ให้ทะลุอกด้านหน้าออกไปอยู่นั้นเอง พลันเสียงร้องของถังชุนก็ดังขึ้น ลั่นไปทั่วเขตวัง มัตสิโมโต้ เซจิ ที่จำเสียงได้แม่นยำรีบรั้งดาบกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

“ชุน................” เซจิอุทานชื่อของชายคนรักออกมา แล้วรีบวิ่งกลับไปทางปะรำพิธีทันที เพราะห่วงถังชุน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สวนกับฮวางจินจูที่วิ่งมาดูพ่อบุญธรรมของตน พร้อมกับกลุ่มองครักษ์ของใต้เท้าซอยูแทที่ตามมาทันเวลา ไล่ล่าจับกุมกลุ่มกองกำลังของต้าชิงและญี่ปุ่น

“ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้น ทำไม เซจิถึง.....”

“ข้าไม่รู้.......... ซาโม เจ้าอยู่ช่วยใต้เท้าซอนะ ข้าจะตามไปดูทางโน้นหน่อย” พูดจบก็ดึงเอาจินจูตามไปด้วยกัน




ไม่เพียงแต่ซามูไรหนุ่มที่ได้ยินเสียงร้องของถังชุน พวกเพ็กทงซูเอง ก็ได้ยินเช่นกัน ตอนนี้ ข้างกายพระเจ้าจองโจมีฮงกุกยงและสามองครักษ์อยู่ด้วยแล้ว จอมดาบหนุ่มจึงขอตัวรีบออกไปดูสถานการณ์ที่ปะรำพิธี บริเวณที่ยออุนต่อสู้กับถังชุนโดยไม่รอช้า

“อุน.................... เกิดอะไรขึ้นกันนะ..........” เพ็กทงซูอุทานเบาๆอย่างห่วงใย

...

..



Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2556 20:13:19 น.
Counter : 1175 Pageviews.

5 comments
  
ดีใจที่หนูอุนไม่เป็นไรมาก ว่าแต่เจ้าถังชุนเป็นอะไรไปละนั่น แพ้พิษตัวเองรึไง
โดย: bee boa วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:43:19 น.
  
ตอนหน้า รู้แน่นอนครับ.......

มีเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันบ้างล่ะ อิอิ
โดย: นิรมิตร IP: 180.183.96.177 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:45:37 น.
  
เชียร์ให้ตบให้คว่ำ หมั่นไส้หลงตัวเองดีนัก ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: bee boa วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:48:58 น.
  
นั่งลุ้นด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่ต้นเรื่อง ในที่สุดอุนก็หาทางแก้ได้อีกครั้ง แล้วก็ต้องมารอลุ้นกันต่อไปว่าอุนเป็นอะไรกันแน่
ปล.เซจิถึงจะดูนิสัยไม่ดีแต่ก็ดูห่วงชุนมากนี่นา กลับเนื้อกลับตัวไปอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขเถอะ แค้นกันไปก็เท่านั้น ถ้ายังรู้จักรักคนอื่นได้ก็น่าจะไม่ถึงขั้นไร้ทางเยียวยานะ
พบกันตอนหน้าค่ะ
โดย: Silver Sky IP: 171.98.74.35 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:03:53 น.
  
อุนสวย เก่ง ฉลาดฝุดๆ ปลื้มปริ่มแทนทงซู หุหุ
โดย: ณ ฟ้า IP: 49.230.86.232 วันที่: 29 มกราคม 2558 เวลา:13:34:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Niramitr
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



สาวก"รักแห่งสยาม"

New Comments