Blog เล็กๆแห่งหนึ่ง รวมเกร็ดข่าวสาระประจำวัน กับ เรื่องที่อาจจะไร้สาระ ของ ลูกผู้ชายคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในมหานครใหญ่แห่งหนึ่ง ในที่โลกที่กว้างใหญ่ใบนี้
Group Blog
 
All Blogs
 

BBL แบงก์กรุงเทพตั้งเป้าสินเชื่อปีหน้าโต 5%

ที่มา //www.bangkokbiznews.com



ชาติศิริ โสภณพนิช


แบงก์กรุงเทพ ตั้งเป้าสินเชื่อปีหน้าโต 5% หลังจากประเมินเศรษฐกิจโต 2-3% ระบุจะเน้นเอสเอ็มอีและธุรกิจขนาดใหญ่ ประเมินแนวโน้มเอ็นพีแอลส่อเพิ่ม พร้อมเปิดตัวโครงการร่วมมือพันธมิตรนวัตกรรมและการเรียนรู้ หวังช่วยเอสเอ็มอีทั้งปล่อยกู้-รวมทุน-ให้ทุนเรียนต่อ

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารคาดว่าสินเชื่อคงเติบโตในระดับ 8-9% ถือว่าสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 5-7% ในช่วงก่อนหน้านี้ ส่วนปี 2552 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 5% ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจขยายตัว 2-3% ซึ่งประมาณการดังกล่าวยังสามารถปรับขึ้นลงได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมตัวเลขต่าง ๆ




ทั้งนี้ธนาคารจะมุ่งเน้นสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ โดยจะพิจารณาตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ส่วนปัญหาเอ็นพีแอลในปีหน้า เชื่อว่ามีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้น ธนาคารจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



ด้าน นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่าในปี 2552 นี้ ธุรกิจเอสเอ็มอี จะต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ธนาคารจึงจัดให้มีโครงการใหม่ เพื่อสนับสนุน เอสเอ็มอีอย่างครบวงจร ทั้งด้านสินเชื่อ ความรู้ และร่วมลงทุนในชื่อ “โครงการความร่วมมือพันธมิตรนวัตกรรมและการเรียนรู้”



สำหรับความช่วยเหลือในด้านสินเชื่อนั้น ธนาคารได้กำหนดให้มีโครงการ "บัวหลวง เอส เอ็ม อี นวัตกรรม" โดยมีเป้าหมายสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ในลักษณะของเงินกู้ หรือเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตสินค้าหรือบริการที่มีนวัตกรรม วงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป



ส่วนการร่วมลงทุน กำหนดวงเงินไว้ 100 ล้านบาท พิจารณาร่วมทุนรายละไม่เกิน 10% ของทุนชำระแล้วหลังร่วมทุน และไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อราย ขณะที่ด้านความรู้ จะทำงานเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เพื่อยกระดับผลิตภาพและการใช้ความรู้เพื่อสร้างนวัตกรรมสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี





 

Create Date : 14 ธันวาคม 2551    
Last Update : 14 ธันวาคม 2551 8:09:02 น.
Counter : 423 Pageviews.  

โทรีเซนไทยฯเพิ่มทุน จ่ายหุ้นปันผล10ต่อ1

ที่มา //www.bangkokbiznews.com/



ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต:



โทรีเซนไทย เอเยนซีส์ ประกาศเพิ่มทุน 114 ล้านหุ้น เพื่อจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 10 ต่อ 1 และจ่ายเป็นเงินสดอีก 0.75 บาทต่อหุ้น ขณะที่หุ้นเพิ่มทุนที่เหลือ 50 ล้านหุ้น ขายแบบเฉพาะเจาะจง

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนซีส์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติที่จะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำรอบปีบัญชี 2551 ในอัตราหุ้นละ 2.25 บาท แต่เนื่องจากบริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 1.50 บาท


ดังนั้น บริษัทจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือในรูปเงินสดอีกหุ้นละ 0.75 บาท พร้อมทั้งเสนอจ่ายเงินปันผลในรูปของหุ้นปันผลในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือเท่ากับ 0.1 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้นเพื่อได้รับเงินปันผลและหุ้นปันผล วันที่ 6 ก.พ. 2552 และกำหนดปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 ก.พ. 2552

"เราต้องการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นตามนโยบายการจ่ายเงินปันผล ไม่ต่ำกว่า 25% ของกำไรสุทธิของงบการเงินรวมหลังหักภาษีเงินได้ แต่ไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง การจ่ายเงินปันผลบางส่วนเป็นหุ้นสามัญที่ออกใหม่ จะช่วยให้ผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผลมีมูลค่าเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท"

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติลดทุนจดทะเบียนที่ยังมิได้ออกจำหน่ายจำนวน 50,000,000 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท อีกจำนวน 114,368,443 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 818,684,422 บาท โดยจัดสรรเป็นหุ้นสามัญ เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 50,000,000 หุ้น และส่วนหนึ่งสำรองไว้สำหรับเป็นหุ้นปันผลจำนวน 64,368,443 หุ้น

"การเพิ่มทุนจำนวน 114,368,443 บาท หรือ 114,368,443 หุ้น นั้น ที่จริงแล้ว ประกอบด้วย ส่วนที่ผู้ถือหุ้นได้เคยอนุมัติไว้เมื่อปี 2542 เพื่อรองรับการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด จำนวน 50,000,000 บาท และในปี 2550 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติยืนยันอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายก่อนการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล บริษัทต้องลดทุนจดทะเบียนสำหรับหุ้นที่ยังมิได้ออกจำหน่าย"

ม.ล.จันทรจุฑา กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่า การออกหุ้นสามัญเพิ่มเติม จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นในอนาคตมากนัก เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้มีการซื้อคืนพร้อมทั้งยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพบางส่วน คิดเป็นจำนวนเงินต้นรวมทั้งสิ้น 33.90 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 19.96% ของเงินต้นคงค้างภายใต้หุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมด บริษัทหวังว่า ผู้ถือหุ้นจะเห็นว่าหุ้นปันผลที่จะได้รับนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาว เนื่องจากผู้ถือหุ้นจะได้ลงทุนในบริษัทเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ราคาหุ้นของบริษัทยังต่ำอยู่

สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีผู้ถือหุ้นของบริษัทโทรีเซนไทย เอเยนซีส์ จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 30 ม.ค. 2552

ทางด้านบริษัทอาร์ซีแอล แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ อนุมัติให้บริษัท ริจิแนล คอนเทนเนอร์ ไลน์ส พีทีอี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยขายเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ปิยะภูมิ ขนาด 16,356 ตัน ให้แก่บริษัท ทริปเปิ้ล ฟอร์ด ชิปปิ้ง พีทีอี จำกัด ประเทศสิงคโปร์ ในราคา 5.9 ล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าทางบัญชีที่อยู่ที่ 1.7 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ทำสัญญาเช่าเรือดังกล่าวกลับมาใช้งาน 3 ปี




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2551    
Last Update : 13 ธันวาคม 2551 7:54:24 น.
Counter : 427 Pageviews.  

ทหารไทย-ธนชาตนำร่องปลดล็อก LTF

ที่มา //www.bangkokbiznews.com


โชติกา สวนานนท์



บลจ.ทหารไทย-บลจ.ธนชาต นำร่องปลดล็อกให้ผู้ลงทุนขายคืนกองทุน LTF ได้ทุกวัน ขายรับหลัง ก.ล.ต.ประกาศยกเลิกเงื่อนไขเดิมที่กำหนดให้ขายคืนได้ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ประกาศให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทฯ ที่ถือครองครบ 5 ปีปฏิทิน สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้แล้วทุกวันทำการตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป


ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อตอบสนองความต้องการผู้ถือหน่วยภายหลังจากการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ประกาศยกเลิกเงื่อนไขการกำหนดระยะเวลาสำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาวให้สามารถขายคืนได้ทุกวันจากเดิมที่กำหนดระยะเวลาให้ขายคืนได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง

“บริษัทมีกองทุนรวมหุ้นระยะยาวที่บริหารจัดการอยู่ 2 กองทุน คือ กองทุนเปิด Jumbo Plus ปันผลหุ้นระยะยาว และกองทุนเปิด Jumbo 25 ปันผล หุ้นระยะยาว โดยผู้ลงทุนที่ต้องการขายคืนหน่วยลงทุนจะต้องพิจารณาเงื่อนไขระยะเวลาการถือครอง เพราะหากขายในขณะที่ถือครองไม่ครบ 5 ปีปฏิทิน ก็อาจทำให้ผู้ถือหน่วยต้องชำระคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ และอาจทำให้บริษัทต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายของส่วนที่เป็นกำไร” นางโชติกากล่าว

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต กล่าวว่า บลจ.ธนชาต ได้ประกาศเพิ่มวันทำการขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุน LTF จากเดิมที่ขายคืนได้เพียงปีละ 2 ครั้งตามที่กฎหมายกำหนด คือ วันที่ 2-16 ของเดือนมกราคม และเดือนกรกฎาคมของทุกปี เพิ่มเป็นขายคืนได้ทุกวันทำการ ระหว่างเวลาเริ่มทำการถึงเวลา 15.00 น.โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มความสะดวกและคล่องตัวให้กับผู้ลงทุน

กองทุน LTF ของ บลจ.ธนชาต มี 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดธนชาติ Big Cap หุ้นระยะยาว (กองทุน BigCapLTF) เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีศักยภาพในการเจริญเติบโตดี และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูง ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล อีกกองทุนหนึ่ง คือ กองทุนเปิดธนชาติหุ้นระยะยาวปันผล (กองทุน LTFD) ซึ่งกองทุนนี้ก็เน้นหุ้นปัจจัยพื้นฐานเช่นกัน แต่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

นายบุญชัย กล่าวเสริมว่า ในเดือน มกราคม 2552 บลจ.ธนชาต จะเปิดให้ใช้ “สมุดบัญชีแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน” แทนหนังสือรับรองสิทธิฯ เดิม สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวม LTF และ RMF ภายใต้การจัดการทุกกองทุน โดยผู้ลงทุนสามารถขอรับสมุดบัญชีแสดงบัญชีแสดงสิทธิในหน่วยลงทุนได้ที่ บลจ.ธนชาต หรือธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือที่ผู้สนับสนุนการขายฯ ที่ท่านเปิดบัญชีกองทุนไว้




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2551    
Last Update : 12 ธันวาคม 2551 7:15:12 น.
Counter : 715 Pageviews.  

TISCO ทิสโก้สวนกระแส เงินฝากพิเศษดอกเบี้ย4%

ทีมา ://www.bangkokbiznews.com



:แบงก์ทิสโก้สวนกระแสแบงก์ลดดอกเบี้ยเงินฝาก ออกโปรโมชั่นเอาใจลูกค้า "เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ" ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 4% นาน 4 เดือน ตั้งแต่วันนี้-15 ม.ค. 52

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายธนกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าส่งสัญญาณไม่สู้ดี รวมทั้งธนาคารต่างๆ ได้ทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1% ไปเมื่อเร็วๆ นี้นั้น แต่เนื่องจากธนาคารทิสโก้ยังมีเป้าหมายที่ต้องการเร่งขยายจำนวนบัญชีลูกค้าเงินฝาก จึงตัดสินใจออกโปรโมชั่นเป็นของขวัญพิเศษในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย


โดยได้เปิดตัว "เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ 4%" ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 4% ต่อปี สำหรับระยะเวลาการฝาก 4 เดือนแรก โดยกำหนดวงเงินฝากตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 100,000 บาท ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือเป็นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่สูงที่สุดในตลาดขณะนี้ หลังจากนั้นผู้ฝากจะได้รับอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์พิเศษตามประกาศของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1% - 2.25% ตามระดับของวงเงินฝาก

สำหรับโปรโมชั่นพิเศษนี้ นอกจากผู้ฝากจะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงแล้ว ยังจะได้รับฟรี "บัตรทิสโก้เพิร์ส" ซึ่งเป็นทั้งบัตรเอทีเอ็ม และบัตรสมาร์ทเพิร์สในใบเดียว ฟรีทั้งค่าธรรมเนียมในการออกบัตร และฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดอายุบัตร มูลค่า 500 บาท และสามารถใช้บัตรกดถอนเงินสดฟรีจากเอทีเอ็มทุกตู้ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ อีกทั้งยังสามารถเติมเงินลงบัตรเพื่อใช้จ่ายแทนเงินสด พร้อมรับส่วนลดและสะสมแต้มแลกของสมนาคุณมากมาย ณ ร้านค้าที่รับบัตร เช่น ร้าน 7-11 และอื่นๆ อีกกว่า 12,000 แห่ง ภายใต้ความร่วมมือกับไทยสมาร์ทคาร์ด

"ครั้งนี้ถือเป็นโปรโมชั่นแห่งปีของธนาคารทิสโก้เลยก็ว่าได้ เพราะธนาคารมอบสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าอย่างคุ้มค่าจริงๆ เป็นของขวัญปีใหม่ที่พิเศษสุด มีระยะเวลาตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 ม.ค. 52 นี้เท่านั้น โดยเรามองกลุ่มเป้าหมายพนักงานบริษัทที่ได้รับโบนัส หรือบุคคลทั่วไปที่มีเงินก้อนเข้ามาในช่วงปลายปี และกำลังมองหาแหล่งออมเงินที่ให้ผลตอบแทนจูงใจ ช่วยเพิ่มค่าให้เงินฝากงอกเงยได้มากที่สุด ซึ่งนอกจากจะมีจุดเด่นที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงแล้ว โปรดักท์ตัวนี้ยังเป็นออมทรัพย์ไม่ใช่ฝากประจำ เพราะฉะนั้นจึงสามารถฝาก-ถอนได้ตลอด และที่สำคัญ ผู้ฝากที่มาเปิดบัญชีกับเรายังได้รับผลตอบแทนเต็มๆ ไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยอีกด้วย"

"ต้องย้ำว่าที่เราสวนกระแสให้ดอกเบี้ยสูง ก็เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ของธนาคารที่จะขยายจำนวนบัญชีเงินฝากลูกค้ารายย่อย โปรโมชั่นนี้ออกมาตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาตลอดทั้งปี เราได้ทำกิจกรรมการตลาดเพื่อแนะนำบริการเงินฝากธนาคารทิสโก้แก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยมาโดยตลอด ปัจจุบันจำนวนผู้ฝากรายย่อยเข้าใกล้หนึ่งแสนบัญชีแล้ว เมื่อเทียบกับต้นปี 2551 เราสตาร์ทที่สองหมื่นกว่าบัญชีเท่านั้น เชื่อว่าโปรโมชั่นนี้จะช่วยให้ทะลุแสนบัญชีได้ไม่ยาก อย่างไรก็ดี ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภท และตั๋วแลกเงินลง 0.25% - 0.75% ก่อนหน้านี้ และกำลังพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้สอดคล้องกับภาวะตลาดต่อไป" นายศักดิ์ชัย กล่าว





 

Create Date : 11 ธันวาคม 2551    
Last Update : 11 ธันวาคม 2551 14:00:15 น.
Counter : 538 Pageviews.  

หุ้นผันผวนบ้าง รอดูนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ที่มา //www.bangkokbiznews.com/



คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ จะมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น จากการขายทำกำไรระยะสั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง และทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยดัชนีจะแกว่งตัวระหว่างกรอบแนวรับ 410-415 จุด กับแนวต้าน 430-435 จุด

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : สภาพตลาดวันวาน : ภาคเช้าความกังวลที่ลดลงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังนายโอบามาเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ผ่อนคลายลง ทำให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มหลักเข้ามาต่อเนื่องจากวันก่อน


แม้ว่าในช่วงเปิดซื้อขาย ดัชนีจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นบ้าง ทำให้ดัชนีผันผวนในกรอบแคบระหว่าง 410 - 415 จุด โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมีเข้ามาค่อนข้างหนาแน่น หลังจากค่าการกลั่นเริ่มกระเตื้องขึ้นและข่าวมีแรงซื้อเม็ดพลาสติกกลับเข้ามาก่อนช่วงปีใหม่ หนุนให้ดัชนีปิดภาคเช้าที่บริเวณ 414 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 3.48 จุด โดยมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ภาคบ่าย : สถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น หลังการออกมาแถลงร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ของกลุ่มเพื่อนเนวินและพรรคประชาธิปัตย์ยื่นขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ภายในสัปดาห์หน้า ประกอบกับหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน ทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยมีจุดสูงสุดที่ 425.57 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 423.79 จุด เพิ่มขึ้น 13.21 จุด (+3.22%) และมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้น 2.1 หมื่นล้านบาท มากที่สุดตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. เป็นต้นมา ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิเช่นเดิม

แนวโน้มตลาด : ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ ต่อไปนี้

1. ปัจจัยการเมือง ปัจจัยการเมืองในประเทศยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อตลาด ในขณะที่ตลาดยังคงรอดูผลการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ร่วมกับ ส.ส. จากอดีตพรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา อดีตพรรคมัชฌิมาธิปไตยและกลุ่มเพื่อนเนวิน

โดยสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากทางพรรคเพื่อไทยก็ประกาศจะจัดตั้งรัฐบาลเช่นกัน โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ายื่นเรื่องต่อประธานสภาฯ เพื่อเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ คาดว่าจะเปิดได้ในวันที่ 15-26 ธ.ค. นี้

2. ทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ ในช่วงสั้นตลาดได้ตอบรับกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของนายโอบามาและการให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทรถยนต์ในสหรัฐ ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ และความหวังว่าราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างมากจะช่วยกระตุ้นการบริโภคได้

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจะยังคงกดดันตลาด หลังสหรัฐเผยตัวเลขตำแหน่งงานลดลงมากที่สุดในรอบ 34 ปี และคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงย่ำแย่และจะถึงจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2/52 และจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 52 ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ส่วนใหญ่ยังคงมีแนวโน้มลดลงจากเดือนที่ผ่านมาเช่นเดิม โดยเฉพาะยอดค้าปลีกที่จะยังคงลดลงต่อเนื่อง

3. ราคาน้ำมันดิบ ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าในตลาด NYMEX มีแนวโน้มผันผวนบ้างหลังจากกระเตื้องขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 41 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยยังมีความกังวลเรื่องอุปสงค์ที่ลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจ ในขณะที่การปรับลดการผลิตจริงของประเทศในกลุ่มโอเปกยังทำได้ไม่เต็มที่ตามการปรับลดเป้าหมายการผลิตครั้งล่าสุดที่มีผลตั้งแต่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ในขณะที่กลุ่มโอเปกจะมีการประชุมเพื่อลดกำลังการผลิตอีกครั้งในวันที่ 17 ธ.ค. นี้

จากปัจจัยข้างต้น คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ จะมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น จากการขายทำกำไรระยะสั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง และทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยดัชนีจะแกว่งตัวระหว่างกรอบแนวรับ 410-415 จุด กับแนวต้าน 430-435 จุด

นักลงทุนระยะสั้น - ขายทำกำไรบ้างที่บริเวณแนวรับ รอซื้อคืนเมื่อราคาอ่อนตัว

นักลงทุนระยะยาว - ถือต่อ และทยอยซื้อลงทุนหุ้นกลุ่มหลักที่บริเวณแนวรับ

โดย โกสินทร์ ศรีไพบูลย์




 

Create Date : 11 ธันวาคม 2551    
Last Update : 11 ธันวาคม 2551 8:48:27 น.
Counter : 400 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  

Rushing Dandy
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีทุกๆท่านครับ ขอต้อนรับเข้าสู่ Bloggang ผมนะครับ
อยาก Comment อะไรเชิญได้เต็มที่ครับ
แล้วก็ยังไง ช่วยกรุณาสนับสนุน Sponsor link ด้านล่างนี้ ด้วยนะครับ




มีผู้เข้าชม Blog แห่งนี้นับตั้งแต่ 14 ธ.ค 51 แล้ว free counters
free counter

Friends' blogs
[Add Rushing Dandy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.