All Blog
[Review]รีวิวหนีน้ำภาค 'Primer,eye shadow,eyeliner'มาต่อแล้วค่า พร้อมSwatchเหมือนเดิม แถมทดสอบความทนของeye line

มาถึงภาคสามกันแล้วนะคะ ภาคนี้จะพูดถึง Primer,eye shadow,eyeliner


ซึ่งจริงๆจะเอาPrimerไว้ภาคี่แล้ว แต่เน็ตเกเร เลยมารวมกับภาคนี้แทน^^



ไม่รอช้าเดี๋ยวเน็ตเดี้ยงอีก เริ่มกันเลยนะคะ


 เรียงตามหมายเลขเหมือนเดิมค่ะ



อันที่ 1-3 มาจากชุดPrimer ของToo face ขนาดทดลองที่มีขายใน Ultraนะคะ


    1. Too faced Shadow Insurance Anti-Crease Eye Shadow Primer


    2. Too faced Primed Poreless Skin Smoothing Face Primer


    3. Too faced Lip Insurance Smoothing Anti-Feathering Lip Primer


    4. Benefit The POREfessional


    5. Urban Decay Eyeshadow Primer Potion



ไนซ์จะเปรียบเทียบให้ดูทีละผลิตภัณฑ์นะคะ


เริ่มที่ Eye Primerที่หลายๆคนสงสัยว่าระหว่าง Too faced(1)กับ Urban Decay(5)ตัวไหนดีกว่ากัน


ไปดู textureก่อนเลยค่า




1.Too Faced ที่จริงไนซ์ซื้อหลอกใหญ่มาด้วย แต่ไว้บ้านพกอันเล็กเอา แพคเกจจิ้งเป็นหลอดบีบๆนะคะ


textureตัวนี้เวลาบีบออกมาจะคล้ายๆมูส แต่พอเกลี่ยแล้วเป็นเนื้อด้านๆหน่อย ดูใสๆบอกไม่ถูก


เวลาเกลี่ยจะแห้งเร็วกว่าUrban Decay ไนซ์ว่าตัวนี้ปิดพวกเส้นเลือด,รอยคล้ำบนเปลือกตาได้ดีกว่า



5. Urban Decay ตัวนี้เป็นจิ้มจุ่ม จัดหลอดใหญ่เลยเนื่องจากอยากลองมาก textureจะรู้สึกว่ามันๆหน่อย


แต่พอเกลี่ยแล้วจะไม่เหลือความมันไว้บนเปลือกตาเลยค่ะ



สรุป: สำหรับการติดทนไนซ์ว่าก็พอๆกันนะคะ  ทั้งคู่ทำให้อายชาโดว์ติดทนมากขึ้น ทำให้สีทนชัดไม่เป็นคราบหรือชั้นระหว่างวัน


สำหรับไนซ์มันลดอาการแพนด้าของอายไลเนอร์ด้วยค่ะ ใช้ปริมาณน้อยแต่ผลลัพธ์ดีเกินปริมาณ


ติดที่หาซื้อยาก ไม่มีขายในประเทศเรา เป็นอีกตัวที่ขาดไม่ได้ค่ะ



เกลี่ย





ทดสอบกับอายชาโดว์ค่ะ ขวาสุดคือไม่ได้ใช้Primer




มาต่อกันที่ Face Primerค่ะ จากที่เคยบอกว่าไนซืเป็นคนรูขุมขนกว้างและหน้ามัน


Face Primerจึงจำเป็นในการกลบและควบคุมความมันบริเวณจมูกและข้างแก้มของไนซ์


ที่หยิบหนีน้ำมาด้วยนั้นมีสองตัวเป็น Too Fcaed(2) กับBenefit(4) นะคะ




2. Too Faced เป็นหลอดบีบ สีจะอ่อนกว่าBenefit เป็นเนื้อมูสเนื่องจากผสมซิลิโคน


เพื่อให้ไปกลบรูขุมขนของเราได้ ใชี้ในปริมาณน้อยเช่นกันค่ะ ใช้แตะไปบริเวณที่เป็นปัญหา เช่น จมูกและข้างแก้ม



4. Benefit เป็นหลอดบีบเหมือนกันค่ะ textureเหมือนกันทุกอย่าง เว้นแต่Benefit สีจะเข้มกว่า ซึ่งก็ไม่ได้มีผลอะไร


เพราะเวลาเกลี่ยก็จะกลืนไปกับผิวเราเลยค่ะ



สรุป: ไม่มีความแตกต่างกันเลยค่ะ ส่วนตัวที่ซื้อBenefitหลอดใหญ่เพราะราคาถูกกว่า Too Facedค่ะ


และBenefitยังหาซื้อง่ายกว่า เพราะมีเคาน์เตอร์ในบ้านเรา



เกลี่ยให้ดูค่ะ




อาจจะมองไม่คอ่ยออกนะคะ แต่บริเวณที่เกลี่ยลงไป พวกริ้วรอยที่มือจะจางหายไปค่ะ


จะเห็นว่าทั้งสองตัวไม่ได้ปรับสีผิว หรือมีผลอะไรนอกจากกลบเกลื่อนริ้วรอยนะคะ



ลองลงแป้งผสมรองพื้นลงไปค่ะ




ผิวตรงที่ทาก็จะเนียนสวยขึ้นนะคะ


ถ้าวันที่ไม่เน้นอะไรมาก แต่งหน้าสบายๆไนซ์จะลงFace Primer+กันแดด+แป้งผสมรองพื้น แค่นี้ค่ะ


เพราะไนซ์ยังต้องการการปกปิดรูขุมขนอยู่ และทั้งสองตัวยังช่วยเรื่องคุมมัน จึงไม่จำเป็นต้องลงเบสคิสค่า



ตัวสุดท้ายในเช็ตPrimer



3. Too faced Lip Insurance Smoothing Anti-Feathering Lip Primer


ถ้าไม่ได้อยู่ในเซ็ตของToo Faced ไนซืก็คงไม่ได้ลอง ฮ่าๆ ไม่เคยคิดจะใช้Lip Primerเลย


ไม่ใช้ว่าปากเรียบสวยอะไรนะคะ แต่ไม่เคยรู้มากกว่า ว่ามีผลิตภัณฑ์แบบนี้ด้วย ส่วนตัวเคยเห็นแต่พวกLip Concealer


ตัวนี้แพคเกจจิ้งเป็นจิ้มจุ่มแบบลิปกรอสทั่วไป ที่จริงเนื้อเป็นสีขาวขุ่น แต้ในรูปดันเป็นใสๆ


พอทาไปที่ปากแล้วรอให้แห้งสักพัก ปากจะตึงเลยค่ะ จะรู้สึกแห้ง ไนซ์ว่ามันแห้งไปที่จะทาลิปสติกลงไปอ่า


เหมือนจะทำให้ทายากขึ้น ไนซ์เลยทาลิปมันเบาๆก่อนแล้วทาลิปสติกทับ เรื่องช่วยในการติดทนมั๊ยนั้น


ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับลิปสติกที่ทาด้วยและกิจกรรมที่เราทำด้วยเนอะ


เลยขอยังไมาสรุปค่ะว่ามันช่วยอะไรมั๊ย



ต่อที่อายชาโดว์ ที่วันนั้นแอบเห่อหนึ่งในนี้ไปวันนี้มารีวิวละจ้า





เริ่มทีละตัวนะคะ



Lavshugar ไม่ทราบรุ่นอ่านไม่ออกอ่า สี RD-1


ตัวตลับเป็นพลาสติก มีแปรงมาให้หนึ่งอัน เป็นอายชาโดว์ตลับที่ใช้เยอะที่สุด ดูจากสภาพ ฮาา


สีที่ใช้บ่อยคือสี1 ส่วนใหญ่ไนซืใช้เป็นไฮไลท์ตรงหัวตา,โหนกคิ้วค่ะ สีไม่เวอร์ดี 


เป็นสีแบบ everyday look ค่ะ โทนสีใช้ง่าน ใช้ได้ทุกวัน เนื้อนุ่ม เม็ดสีแน่นนะคะ แต่เป็นฝุ่นๆง่ายไปนิด


ข้อเสียหน่อยละกัน แพคเกจจิ้งไม่มีกระจกมาให้ แล้วแอบก้องแก้งไปหน่อย แต่คุณภาพเยี่ยมค่า^^b 



swatchค่า



จะวิ้งๆเงาๆนะคะ แต่กลิตเตอร์ไม่เยอะ สีสวยค่ะ วิ้งสไตล์ญี่ปุ่นอย่างนั้นเลย ^^ 



ตัวต่อไป




 Dior 5 Couleurs สี 440 Sunset Cafe


ตลับดูคงทน หรูหราคุ้มราคา มีแปรงมาให้สองอัน(อีกอันล่วงหายไปไหนไม่รู้ ><)


แบบนี้เค้าเรียนเนื้อซาติน?รึเปล่า แบบไม่มีวิ้งหรือกลิตเตอร์ แต่เงาๆเล่นแสงไฟ สีเดียวที่มีกลิตเตอร์คือสีที่ 5ค่ะ 


ที่จริงสีแอบเพี้ยน สี1,2จะออกชมพูมากกว่านี้นะคะ เราจะใช้สี1กับ3 เยอะสุด ส่วน2นั้นมันเอาไปไฮไลท์ไม่ได้


วันแรกเผลอเอาไปไฮไลท์โหนกคิ้ว ปาดไปเต็มที่ โหนกคิ้วชมพูเลยค่ะ 



swatch




นี่ก็เพี้ยนค่า สีที่1จะอมชมพูกว่านี้เป็นชมพูเหลือบทองๆ ส่วนสีที่3จะน้ำตาลกว่านี้ค่ะ


เป็นอีกตลับที่ใช้ง่าย ต้องมีติดกระเป๋าไว้ค่ะ



ตัวถัดไป



Guerlain Ecrin 6 Couleurs Eye Shadow สีNo.10 Rue Des Francs Bourgeois


ตัวนี้แนะนำเลยค่ะ เม็ดสีแน่นมว๊ากกกก น่าแปลกใจที่ไม่ค่อยมีคนรีวิว


เนื้อจะออกด้านๆ มีสีที่6วิ้งอยู่สีเดียวค่ะ เป็นพาเลทที่ใช้บ่อยที่สุดในช่วงนี้ ใช้แทบทุกวันจริงๆ


ไนซ์ใช้สีที่1 มาไฮไลท์ใต้โหนกคิ้ว จะได้สีพอดีผิวเลยค่ะ สีที่5 เป็นอายไลเนอร์ค่ะ พาเลทนี้คุ้มมากๆ


สีก็แต่งง่าย เอิรท์โทน แต่งได้ทุกวันค่ะ 



swatch




swatchแล้วสีไม่ค่อยติดไม่รู้ทำไม แต่ถ้าปาดที่ตานี่ จิ้มเบาก็ชัดแล้วค่ะ


เอ่อะ! เพิ่งเห็นว่าลืมแปะตัวเลข แหะๆ เอาเป็นว่า1-4 เริ่มจากซ้าย ส่วนบนสุดคือ 6 ล่างมาคือ 5ค่ะ




จบอายชาโดว์แล้วมาต่อที่ อายไลนเนอร์เลยค่า


อายไลน์เนอร์ไนซ์จะทดสอบความทนให้ดูด้วยนะคะ^^ 


1. Linequeen ของญี่ปุ่นซื้อในเจ้เล้งนานแล้วค่ะ


2. Smashbox Limitless Liquid Liner Pen สี Jet Black


3. Maybelline New York HyperSharp Liner


4.Etude Aloha Color Art Pen สี 1 Brown


5. Etude Proof10 Auto Pencil สี 1 Black


6. Rimmel Exaggerate Waterproof Eye Definer สี 261 Noir


7.  Majorica Majorca เป็นอายไลเนอร์รุ่นกลิตเตอร์ค่ะ



 ไนซ์จะแยกรุ่นลิดควิดกับดินสอนะคะ เริ่มที่ลิดควิดก่อน



1. Linequeen ตัวนี้เดินเจ้เล้งแล้วไปเจอ พี่คนขายบอกดีมาก เส้นเล็ก ไม่แพนด้าพี่ใช้อยู่เนี่ย ไนซ์ก็มองตาเขา


พี่เขากรีดตาสวยคมมาก ไนซ์เลยจับลงตระกร้าเลยค่ะ พอมาใช้ผิดหวังมาก แพนด้ากระจาย หัวเล็กจริงค่ะ แต่ประสิทธฺภาพไม่ไหว


ไม่กันน้ำกันเหงื่ออะไรทั้งสิ้น สีก็ไม่เข้มเลย ผิดหวังมาก อ่อ! ตัวนี้เป็นหัวพู่กันค่ะ เล็กมากจริงๆ



2. Smashbox Limitless Liquid Liner Pen สี Jet Black ตัวนี้ไม่ได้ตั้งใจซื้อค่ะ ไปได้มาที่อเมริกาเนื่องจากตัวที่เอาไปดันหมด -_-''


ไปไม่ถูกเลยค่ะ ไนซ์เคยใช้แต่ไลน์เนอร์แบรนด์ญี่ปุ่น อยู่อเมริกาจะหาแบรนด์ญี่ปุ่นได้ที่ไหน???! เลยไปเล่นๆใน Ultra ก็ได้ตัวนี้มา


อายไลน์เนอร์นี้เรื่องใหญ่ระดับชาติสำหรับไนซ์เลยค่ะ ขาดไม่ได้จริงไ ไม่กรีดตาไม่ได้ พอไม่กรีดเพื่อนบอกว่าไม่สบายเหรอ เอิ่บ!


แล้วไนซ์ยังเป็นคนเปลือกตามันขั้นเทพ ถ้าไม่ทนจริงแพนด้ามาเต็ม แต่ตัวนี้ผ่านเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะติดทนได้ขนาดนี้ และสีดำเข้มสะใจมาก


ติดที่หัวเป็วหัวเมจิก ใหญ่ไปหน่อย แต่ติดทนบนหนังตาไม่แพนด้าทั้งวันจริงๆ แอบล้างออกยากนิดนึงด้วย ฮ่าๆ




3. Maybelline New York HyperSharp Liner ตัวนี้เห็นออกใหม่ในวัตสันเลยลองสักหน่อยเพราะอยากได่ไลน์เนอร์ใหม่พอดี


แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ ติดทน เส้นเล็ก สีเข้ม โอ้ววว ไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่ชอบมาก!!!!


จะใช้ไปจนกว่าจะเลิกผลิตหรือหาไม่ได้ค่า ><  หัวตัวนี้เป็นพู่กันค่ะ หัวเล็ก ควบคุมง่าย คุ้มราคา แอร๊ยย!



4.Etude Aloha Color Art Pen สี 1 Brown ตัวนี้ได้มาตอนกลับจากอเมริกา แวะเกาหลี อยู่ในโหมดอยากแต่งหน้าให้ดูธรรมชาติ


เลยจัดไลน์เนอร์สีน้ำตาลมาค่ะ หัวเป็นหัวเมจิก แอบใหญ่ สีเขียนติดยากเพราะอ่อนมาก แต่ถ้าติดแล้วก็ทนค่ะ ถึงขั้นล้างไม่ออก ฮ่าๆ


แอบแพนด้านิดหน่อย ไม่เป็นปัญหา เพราะเป็นสีน้ำตาลอ่อนค่ะ เสียตรงที่ต้องเขียนซ้ำๆสีถึงจะออกเข้น เจ็บตาค่า



งั้นเรามาทดสอบกันดีกว่า ว่าใครจะติดทนที่สุดนะคะ


เริ่มจากถูๆด้วยนิ้วเปล่า ทุกตัวอยู่ดีค่ะ ไนซ์เลยเอานิ้วจุ่มน้ำเปล่าธรรมดาแล้วปาดหนึ่งครั้ง ไปดูผลกันค่ะ


1. Linequeen ไปแล้วค่ะ


2. Smashbox ยังติดทนดีอยู่

3. Maybelline ก็ยังอยู่ดี


4.Etude ละลายไปแล้วค่า



เอาRemover ชุบสำลีปาดเบาๆ5ครั้ง


1. Linequeen กลายเป็นทนต่อremover ฮ่าๆ



2. Smashbox สกิดนิดๆ


3. Maybelline ไม่เป็นอะไรเลย


4.Etude หายไปแล้วจ้า



ถูต่อประมาณ 15-20ครั้ง



1. Linequeen หายไปเกือบหมดละค่า


 


2. Smashbox เส้นเล็กจางไป แต่เส้นหนายังอยู่


3. Maybelline จางลงไปบ้างแล้วค่ะ


4.Etude อื้มม เกือบสะอาด



เอาสำลีแปะไว้แล้วเช็ดค่ะ




หสะอาดเกือบทุกตัว เหลือ 2.Smashbox กับ 3.Maybelline หลงเหลือนิดๆ



สรุป: SmashbowและMaybelline ชนะนะคะ ติดทนมาก เกือบล้างไม่ออก ฮ่าๆๆ


อ่อ แต่ถ้าจะล้างออกจากตา อย่าถูๆแบบนี้เน้อ อันนี้ไนซ์ทำเป็นตัวอย่างเฉยๆค่ะ ถ้าที่ตาให้แปะสำลีไว้ประมาณ 5นาที


อายไลน์เนอร์จะหลุดออกมาหมดเลยค่า ไม่ทำดวงตาเหี่ยวด้วยนะ ^^



มาต่อที่แบบดินสอค่ะ


อันนี้รอจนแห้งดี



5. Etude ตัวนี้ติดทนดีมากๆๆๆ ไนซ์เห็นเพื่อนใช้แล้วเลยไปลองซ้อมา เพื่อนไนซ์เป็นคนตาชั้นเดียวหลบในสุดๆ


แต่มันกรีดทั้งวันก็ไม่เลอะ ตอนแรกก็คิดว่าหนังตามันคงไม่มัน แต่พอได้ลองเองก็ อึ้ง เป็นไลน์เนอร์แบบดินสอตัวแรกที่ไม่แพนด้าค่ะ


ปกติไนซ์เห็นใครว่าอะไรดี ติดทน ไม่แพนด้าก็จะไปหามาลอง แต่ก็ไม่เวิร์ค แต่ตัวนี้ดีจริงอะไรจริง ติดทนไม่ละลายไม่ต้องมากังวลว่าจะแพนด้าหรือเปล่า


ไนซ์เลยซื้อมันเกือบทุกสีของรุ่นนี้เลยค่ะ ฮ่าๆ  มาพูดถึงตัวแพคเกจกัน จะเป็นดินสอหมุนๆ ตรงก้นจะมีกบไว้ให้เหลาให้ปลายแหลม


เพื่อให้ง่ายต่อการเขียน แต่ไนซ์ไม่เหลาค่ะ เปลือง ฮ่าๆๆ



6. Rimmel Exaggerate Waterproof Eye Definer สี 261 Noir ตัวนี้ซื้อที่อเมริกาค่ะ เพื่อน(คนเดิม)ไปซื้อมาใช้


ไนซ์ก็ซื้อตาม แล้วก็ไม่ผิดหวังอีกตัวค่ะ เนื้อนิ่มเขียนง่ายไม่เจ็บตา เป็นหมุนๆเหมือนกันค่ะ


แต่ปลายตัวนี้จะมีทั้งกบและspongeไว้ให้เบลนเป็น smoky eyeด้วยนะเออ 



7.  Majorica ตัวนี้อยากลองล้วนๆเลยค่ะ อยากตาวิ้งๆเป็นประกายฮ่าๆ แล้วยังไงละวิ้งใหญ่เข้าตาเลยค่า


ไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ วิ้งอยู่แปปเดียวก็หายไปแล้วค่ะ แพคเกจเป็นแบบจิ้มจุ่มนะคะ 



 



 ถูๆๆด้วยมือเปล่านะคะ




ปาดด้วยน้ำเปล่าค่ะ



3. Majorica หายไปแล้วค่า 



เช็ดด้วยRemover หนึ่งรอบเบาๆ



 Etudeกับ Rimmel เริ่มเลือนนิดๆ



ปาดอีกรอบไม่เกิน 5ครั้ง



สะอาดแล้วจ้า เนื่องจากเป็นแบบดินสอ ติดทนเท่านี้ก็หายากแล้ว


ไนซ์ยืนยันค่ะว่าทนจริงๆ ยิ่งใช้ eye primerแล้วยิ่งทนเข้าไปอีก เพื่อนๆลองไปเลิอกเล่น เลือกใช้กันดูนะคะ ^^



เร็วๆนี้จะกลับมาต่อให้จบกับซี่รี่ย์หนีน้ำค่า


วันนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์ ^__^ 


 










Free TextEditor



Create Date : 29 ตุลาคม 2554
Last Update : 29 ตุลาคม 2554 4:41:30 น.
Counter : 10680 Pageviews.

2 comment
[Review]รีวิวหนีน้ำภาค 'รองพิ้นและคอนซีลเลอร์' พร้อมSwatchค่า

 มาต่อแล้วนะคะ กับรีวิวหนีน้ำภาค 'รองพิ้นและคอนซีลเลอร์'


 ขอบอกไว้เป็นข้อมูลนะคะว่าไนซ์เป็นคนผิวมันมากกกกกก


รูขุมขนกว้างมาก จนแมวตกไปตายได้ แล้วมีรอยสิวประปรายตามข้างแก้ม


ไนซ์จึงเน้นการแต่งหน้าที่สามารถปกปิดรูขุมขนได้ ส่วนรอยสิวนั้นเหลือให้เห็นบ้าง เพื่อความเป็นธรรมชาติ


 อ่อ แล้วรอบเปลือกตาไนซ์มันมากค่ะ มันจนไม่สามารถเขียนอินเนอร์ได้เลย เพราะจะแพนด้าแบบไม่ต้องสงสัย


เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ที่ไนซ์ใช้ส่วนใหญ่ เกือบทุกตัวจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวมันนะคะ


 งั้นไปเริ่มกันที่รูปแรก



เรียงตามหมายเลขเลยนะคะ



1. Minus Facial Ultra Sun Protection SPF60 PA+++ สี Ivory


2. Biore Uv Tint Milk SPF30 PA++ สี Natural


3. Kiss Mat Chiffon UV Whitening Base N SPF26 PA++ สี 02


4. Laura Mercier tinted moisturizer SPF20 oil free สี Nude


5. GIORGIO ARMANI face fabric SPF12 สี 3 



มาดู textuerกันค่ะ




1. Minus เป็นกันแดดเนื้อมูสนะคะ เพราะมีซิลิโคนเป็นส่วนผสมเลยทำให้สามารถปกปิดรูขุมขนของไนซ์ได้ในระดับหนึ่ง


ตัวนี้ไว้ลงในวันธรรมดา สบายๆ แบบไม่อยากลงรองพื้น เพราะแอบมันค่ะ เวลาลงเสร็จต้องใช้ทิชชู่ซับหนึ่งรอบ เพื่อลดความมันค่ะ



2. Biore Uv Tint Milk เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมเหลวๆไม่หนักหน้าแล้วยังผสมรองพื้นมาด้วยค่ะ เลยปกปิดได้ดีเลย


แต่ถ้าผิวแห้งไม่แนะนำค่ะ มันตกร่องรูขุมขนเป็นรู! ย้ำว่าเป็นรู!!เลยค่ะ ขนาดไนซ์หน้ามันบางครั้งช่วงข้างแก้มหลังเช็ด


โทนเนอร์แล้วบำรุงไม่ดี ก็จะแห้งเป็นรูทำไงก็แก้ไม่ได้ -_-''



3. Kiss หรือเบสคิสที่โด่งดังสำหรับสาวหน้ามัน ตัวนี้ขาดไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะหน้าไนซ์มันมาก บางวันแต่งหน้าปกติ


แต่ไม่ได้ใช้เบสคิสเพื่อนทักว่าเปลี่ยนรองพื้นเหรอ ห้นามันจัง โอ้วว! พอมาเช็ค อื้ม!!เยิ้มเลยค่ะ


ยิ่งช่วงข้างแก้ม ทีโซน กระดาษซับมันสองแผ่นก็เอาไม่อยู่ textureเกลี่ยง่าย ไม่ทำให้หน้าวอกหรือลอย คุมมันได้ดี


แต่เวลาใช้ต้องล้างหน้าให้ดี เดี๋ยวสิวอุดตันจะมาเยือนค่า 



4. Laura Mercier tinted moisturizer รองพื้นป้าลอร่าตัวนี้ซื้อมาต้งแต่เริ่มแต่งหน้าแรกๆ ตามสาวๆห้องแป้งเลยค่ะ


ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบเพราะมันไม่ค่อยปกปิดสิ่งชั่วร้ายบนหน้าเราอ่ะ แต่ช่วงนี้กลับมาพึ่งป้าลอไว้ใช้กลับกันแดดMinusค่ะ


ใช้Minusลงก่อน แล้วเอาเบสคิสผสมกับป้า 1:1 โอ้วว!! หน้าเนียนเลยค่า อ่อ! textureของป้าค่อนข้างเกลี่ยยากนิดนึงฝืดๆหน่อย


ต้องรีบเกลี่ย หรือว่าของเราเก่าแล้วของไม่แน่ใจ ฮ่าๆๆ



5. GIORGIO ARMANI face fabric เป็นรองพิ้นเนื้อมูส ชอบมากก ชอบtexture


เวลาทาเป็นเนื้อมูสที่ไม่หนักหน้าเหมือนMinus เกลี่ยแล้วเนื้อเหมือนจะกลายเป็นแป้งๆ ในรูปเห็นสีค่อนข้างเข้ม


แต่พอเกลี่ยแล้วก็กลืนกับผิวหน้าไนซ์ค่ะ ที่จริงรุ่นนี้ไม่ค่อยปกปิด แต่อยากลอง ฮ่าๆ ไปเล่นที่เคาน์เตอร์บีเอไม่แนะนำ


บอกว่าใช้รุ่นลิดควิดดีกว่า เอิ่บ! หน้าเราแย่มากเลยใช่มั๊ย! เขามาเองเทสที่ข้างแก้มให้เลยดีมาก แต่ไนซ์ก็ยืนยันว่าจะเอารุ่นนี้


ก็มันอยากลองง่า ตอนลองก็พอดีผิวพอกลับมาเหมือนขาวขึ้น เพราะไปWATมาเลยดำขึ้นค่ะ


เวลาลงเลยผสมกลับเบสคิส 2:1ค่ะจะได้พอดีผิว อ่อถ้าวันไหนจะลงตัวนี้จะไม่ใช้Minus เพราะจะพากันเยิ้มหยดย้อยเลยค่า




 มาปาดดูกันดีกว่าค่ะ



สังเกตได้ว่า 2.Biore เหลวมากค่า




 เกลี่ยๆ




ทุกตัวกลืนไปกับผิวได้ดี ไม่เป็นคราบ





ต่อกันที่ Concealer ทั้งหลายค่า




1. Garnier Light BB Instant Fairness BB Eye Roll on


2. Bobbi Brown Face Touch Up Stick สี 4 Natural


3. Maybelline New York conceler สี 25 Medium


4. Revlon PhotoReady Conceler/Antucernes Corrector para Rostro SPF20 สี 003 Light Meduim 



จุดๆ ไว้ทดสอบการปกปิด



 ส่วนตัวไนซ์เป็นคนไม่ชอบใช้คอนซีลเลอร์ อย่าเพิ่งสงสัยว่าไม่ชอบแล้วมีทำไมเยอะแยะ


 ถึงไม่ชอบแต่ถ้าวันไหนต้องการการปกปิดจริงๆก็ต้องใช้ค่า ยิ่งช่วงสอบทั้งแพนด้า ทั้งสิว ไม่อยากแต่งหน้าหนาก็พึ่งเจ้าพวกนี้ล่ะค่า



 ปาดมันลงไปค่าาา




1. Garnier หัวเป็นโรลออนกลิ้งๆ สะดวกแต่ควบคุมปริมาณยากค่ะ ตัวนี้เป็นคอนซีลเลอร์ใต้ตา การปกปิดถือว่าดี


ใช้แล้วใต้ตาสว่างขึ้นมาเลยค่ะ เนื้อค่อนข้างเหลง เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบระหว่างวัน



2. Bobbi Brown เป็นแท่งเพื่อความสะดวกเวลาใช้ ปกปิดได้ดีมากค่ะ เนื้อหนักนิดนึงแต่ชุ่มชื่่น


ทำให้สามารถใช้ได้ทุกส่วนบนใบหน้า ใช้ใต้ตาก็ได้ค่ะไม่เป็นคราบ แต่ต้องเกลี่ยดีๆหน่อย ตัวนี้จะสีเข้มกว่าผิวไนซ์เฉดนึง


เพราะจะเอามากลบรอยสิวๆค่า ใช้ได้ดีกับแปรงนะคะ ใช้นิ้วมันละลายไปกับน้ำมันที่นิ้วไปหมดค่ะ



3. Maybelline ตัวนี้ซื้อที่อเมริกา ไม่แน่ใจว่าที่ไทยมีรึเปล่า ตอนนั้นไม่ได้เอาคอนซีลเลอร์ไปเหมือนแพ้น้ำที่นู่น สิวบุก


เลยได้เจ้าตัวนี้มา แพคเกจจิ้งคล้ายลิปกลอสจิ้มจุ่มค่ะ ไนซ์จิ้มมาป้ายที่หลังมือก่อนแล้วใช้แปรงแต้มไปที่จุดที่ต้องการปกปิดค่ะ


ถ้าป้ายโดยตรงมันจะเยอะไปค่ะ ตัวนี้ก็สามารถใช้ได้ทั้งหน้า ไม่แห้งแตกเป็นคราบ ชุ่มชื่นพอตัวเพราะเป็นเนื้อลิดควิด



4. Revlon เป็นแบบแท่งอีกอันค่ะ เนื้อตัวนี้ค่อนข้างแห้ง ใช้ได้แค่ปิดสิวข้างแก้ม หน้าผาก ถ้าเอาไปใช้บริเวณใต้ตา หรือทีโซน


จะเป็นคราบเล็กๆ เพราะเนื้อแห้งมาก พอลงแป้งทับแล้วดูแต่งหน้าหนา เหมือนเอาปูนมาโบก -''-


แต่โดยรวมใช้ง่ายค่ะ สามารถย้ำๆในจุดที่ต้องการปกปิดมากๆ ถ้าใช้กับสิวข้างแก้มถืออว่าดีเลยค่ะ 



เนื่องจากลองเกลี่ยให้ดูแล้ว แต่เหมือนจุดที่ไนซ์ทำไว้นั้นยังแห้งไม่สนิท เลยดำเละไปหมดเลยค่า แหะๆ


งั้นเอาใหม่แบบไม่มีจุดนะคะ 





เกลี่ยๆ




อย่าตกใจกับ 3.Maybellineนะ เป็นเพราะไนซ์ย่นข้อมือให้ถ่ายรูปถนัดเลยขึ้นเป็นรอยๆ ไม่ใช่มันแตกเน้อ 




ขอจบเท่านี้ก่อนค่า เน็ตไนซ์เดี้ยงไปแล้ว เดี๋ยวจะมาต่อภาค3 คริคริ




Free TextEditor



Create Date : 27 ตุลาคม 2554
Last Update : 27 ตุลาคม 2554 2:05:10 น.
Counter : 5098 Pageviews.

1 comment
[Review]รีวิวหนีน้ำ!!! ภาค1



เนื่องจากตอนนี้ประเทศไทยของเรากำลังประสบอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา





ส่งผลให้บ้านไนซ์ที่อยู่มากว่าสิบปี น้ำท่วมค่ะ!! กรีดร้องงง!!! >[]


ท่วมเป็นปีแรกเลย ทั้งๆที่บ้านไนซ์อยู่อยุธยานะ บ้านไนซ์ท่วมเป็นแถบแรกๆเลย



เอาเป็นว่าท่วมก่อนนิคมโรจนะเกือบสองอาทิตย์ -_-''



ตัวไนซ์มีสอบจึงหอบของหนีมาอยู่หอ ทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง แหะๆ



แต่ไม่ถึงอาทิตย์ คุณพ่อโทรศัพท์มาบอกว่า"ไม่ไหวแล้วแม่หนีขึ้นเขาไปแล้วลูก



ส่วนพ่อต้องเลื่อนไฟท์กลับไปทำงานให้เร็วขึ้นเลยมาอยู่ในกรุงเทพ"



ขอบอกว่า ช็อค!! ไม่ได้เตรียมตัวเลย! กะว่าถ้าหนักก็ยังได้กลับบ้านไปเอาของอีกนิดหน่อย



อีกไม่กี่วันให้หลัง เนื่องจากมีสอบตอนบ่ายเลยตื่นสาย แต่เพื่อนที่น่ารักของไนซ์โทรมาปลุกกันแต่เช้าว่า

"ตื่นได้แล้วนะ มาดูน้ำท่วมมหาลัยหมดแล้ว เค้าเลื่อนสอบไปแล้ว" เอ่อะ เมาขี้ตากว่าจะรู้ตัว เปิดเฟสบุคคณะ

ทางมหาลัยได้ประกาศเลื่อนสอบในการสอบวันสุดท้ายของไนซ์ไป ช็อครอบสอง!! อีกตัวเดียวให้หนูสอบเถอะ plsss



ไนซ์เลยบึ่งรถขึ้นเขาตามคุณแม่ไป โดยเอาแต่ของที่จำเป็นมา



จึงเป็นที่มาของรีวิวนี้ค่ะ รีวิวหนีน้ำ!!! ฮ่าๆๆ



มาดูกันเลยนะคะว่าคว้าอะไรมาได้บ้าง



.



.



.



.



.



.



เช็ตแรกเป็นพวกรองพื้น+กันแดด+คอนซีลเลอร์




เซ็ตต่อไปเกี่ยวกับดวงตานะคะ


ทั้งคอนซีลเลอร์ตา+อายไพรม์เมอร์+อายชาโดว์+มาสคาร่า




ต่อด้วยไลน์เนอร์ และเขียนคิ้วทั้งหลาย




บลัชออน




ลิปทั้งหลาย






สุดท้ายแปรงค่า(อันที่อยู่ข้างนอกคืออันที่ใช้บ่อย เลยเก็บแยกกันค่า)




 อ๊ะๆ... ทั้งหมดที่ลงมาเป็นรีวิว แต่ไนซ์ยังไม่ได้รีวิวจริงๆซักตัวเลย ฮ่าๆ


เพราะฉะนั้น เจอกันภาคต่อแยกตามพื้นที่ที่ใช้ค่า


(ถ้ารวมกันยาวมากแน่จ้า รีวิวทั้งหมด 51รูป(ไม่รวมในหน้านี้) ไม่ได้สปอยน้า แต่อยากให้ติดตามกัน อิอิ) 


ครั้งนี้จะลงให้เร็วที่สุดเท่าที่เน็ต EDGEของทรูจะเอื้อเน้อ...


ไนซ์อยู่บนเขาใหญ่ บ้านนี้ไม่มีเน็ตเลยใช้ไอโฟนเสียบเล่น แต่ก็จะพยายามเท่าที่จะทำได้ค่า ^^











Free TextEditor



Create Date : 25 ตุลาคม 2554
Last Update : 25 ตุลาคม 2554 23:35:59 น.
Counter : 686 Pageviews.

0 comment
[Review]รีวิวของที่ได้มาจากUSA ภาค1

ขอเกริ่นก่อนว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาไนซ์ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการWork and Travel ที่USA


เลยเป็นโอกาสที่ดีในการช้อปปิ้ง.. เอ้ย! หาประสบการณ์ชีวิตในต่างแดนเน้อ


ที่ต้องมีหลายภาคไม่ใช่เพราะเยอะ แต่เพราะที่ตัวตอนนี้มีแต่รูปของช่วงแรกที่ซื้อเท่านั้น


เดี๋ยวชุดหลังจะตามมาค่ะ อุอิ งุงื ครุคริ


รัฐที่ไนซ์ไปไม่มีSephoraค่ะ ทั้งๆที่ใฝ่ฝันเลยว่าจะต้องไปให้ได้ TT^TT


แต่เราก็ได้ของมามิใช่น้อย ฮี่ๆ



 มาดูรูปแรกกันนะคะ



เป็นช่วงแรกที่ไปแล้วยังไม่ได้งาน เลยซื้อแต่ของที่อยากได้จริงๆเท่านั้น



รูปที่สองเป็น Victoria's secretค่ะ




น้ำหอมตัวซ้ายกับmistเป็นกลิ่นเดียวกันนะคะ ชอบกลิ่นนี้มากหอมสุดๆจนต้องถอยเป็น Eau de perfumeมาเลยค่า



ต่อที่ Bath and Body work



ตอนนั้นเป็นโปรโมชั่นซื้อ 3 แถม 3 เลยกวาดมาซะ


อ่อ! ถุงเท้าซื้อหนึ่งแถมหนึ่งเลยจัดมาด้วย นุ่มนิ่มมากเลยค่า ไว้ใส่นอน



ต่อไปสามตา หรือเจ้าเอเลี่ยนจากเรื่อง Toy storyค่า



นี่ก็ลดราคา ฮ่าๆๆ เหลือตัวละ $5 บีบแล้วมีเสียง เหมาะกับอายุสมองของไนซ์ที่กำลังพัฒนา.. เอิ่บ!



อันต่อไป ถ้ามาถึงอเมริกาแล้วไม่ได้ของแบรนด์นี้กลับไป แสดงว่ามาไม่ถึง ฮ่าๆ เว่อร์เนอะ



แง้มกล่อง...



แทแด.....



 น้องCoachใบใหญ่นี้กับกระเป๋าใส่เหรียญสีดำซื้อคู่กันให้คุณแม่เป็นของขวัญ อิอิ


ส่วนของเราใบเล็กสีน้ำตาลตรงนั้นก็พอ เพราะยังไม่เจอแบบถูกใจ ฮา...



กล่องของใบเล็กก็มีนะเอ้อ 



 ทั้งหมดนี่เราซื้อในDillardเป็นห้างนะคะไม่ได้ซื้อในเอ้าเล็ท เลยขอกล่องเขามาเต็มที่ แต่เสียใจถุงดันหมด เห้อ..


ในห้างเขาก็ลดนะคะ ถึงไม่เยอะเท่าในเอ้าเล็ทแต่เกรดดีกว่าเน้อ ฟังเค้ามาอีกที


อย่างใบของเราสีน้ำตาล เหลือไม่ถึง$20 จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ไม่เกินนี้แน่นอนค่ะ



มาถึงอันสุดท้าย แต่อร่อยสุด >___<



ที่จริงมีเยอะกว่านี้ แต่อันนี้ถ่ายไว้เป็นตัวอย่างที่เพื่อนฝากซื้อ(มันมีงานทำ แต่เราว่างงานนี่นา ฮ่าๆ)


เป็นช็อคโกแลตแบบต่างๆ หลายยี่ฮ่อมาลดราคา(อีกแล้ว)


พูดง่ายๆคือเค้าเอามาโล๊ะหลังเทศการอีสเตอร์นั่นเอง ลดครึ่งๆ ก็เสร็จเราอีกนั่นแหละ ฮ่าๆ



วันนี้รูปที่ถ่ายไว้ก็หมดเพียงเท่านี้ แต่...


ของเรายังไม่หมด ฮี่ๆ  ไว้น้ำลดแล้วจะกลับไปถ่ายมารีวิวภาคต่อนะคะ


ฝันดี ตื่นมาน้ำลด เพี้ยง!!!








Free TextEditor



Create Date : 25 ตุลาคม 2554
Last Update : 25 ตุลาคม 2554 1:42:21 น.
Counter : 1150 Pageviews.

2 comment
[Review+Haul]มารีวิว+เห่อ ก่อนสอบกับของที่ฝากคุณพ่อซื้อใน duty fee ค่า

สวัสดีค่า~~  วันนี้ไนซ์ขอมารีวิว+เห่อของก่อบสอบไฟนอล อิอิ


ตอนแรกว่าจะไว้รอสอบเสร็จก่อน แต่รอไม่ไหวจริงๆSmiley



ไปดูกันเลยค่า



Smiley


Smiley


Smiley


Smiley


Smiley



แท๊แดดดดด........ (ตื่นเต้นกันหน่อย)





Chanel นั้นเองค่า เราก็จำไม่ได้หรอกว่าอะไรมาจากคอลเลคชั่นไหน(อ้าว!!) ฮ่าๆๆ


แต่ที่ทำให้เราตัดสินใจฝากคุณพ่อซื้อเพราะตัวนี้เลยค่ะ 




 Chanel ILLUSION D'OMBRE - LONG WEAR LUMINOUS EYESHADOW


 เราเห็นครั้งแรกอยากได้เลยค่ะ ก็บอกตัวเองนะว่า 'มีสติ มีสติ'


แต่เราก็หาเหตุผลล้านแปด จนได้มันมา ฮา... 



หยุดพล่ามมาดูรูปกันดีกว่าค่ะ.... แกะออกมา มีแปรงให้ด้วยค่ะSmiley




ที่เลือกมาคือสี 82 EMERVELLE ค่ะ




 ข้างใน....




จื้มเบาๆ




ปาดปื๊ด!!!!



 สีอาจจะไม่ค่อยชัดนะคะ แต่จริงๆแล้วสีสวยมว๊ากกก!!!


เรากะจะเอามาเป็น eye shadow base ในวันที่แต่งตาใสๆ หรือทาเดี่ยวก็สวยค่ะ



เกลี่ย...




ความเห็นส่วนตัว: ไม่แน่ใจว่าสีจะติดทน และเป็นคราบรึเปล่า เราคงต้องพึ่ง eye primerก่อน


เพราะเราเปลือกตามันมาก ส่วนตัวคิดว่าแพงไปนะคะ จากปริมาณ แต่แพคเกจจิ้งชนะเลิศ!!


รอดูประสิทธิภาพก่อนละกัน ถ้าดีสี ILLUSOIRE เราเจอกันแน่ Smiley



อ้อ! ที่ชอบอีกอย่างนะคะ ตอนเปิดมาเจอนี่ด้วย



วิธีใช้ค่ะ น่ารักดี อิอิ



เราเอาswatch ของคนอื่นมาให้ดูกันค่ะ สีสวยเน้อ...Smiley





ตัวถัดไป Chanel Blush JOUES CONTRASTE สี 67 Rose Tourbillon




 ตัวนี้เราเข้าบล็อคของคนนึง เค้าswatch ไว้หลายสี


แต่เราปลื้มสีนี้มากก ชอบอ่ะ



ด้านหลัง 




ดูในรูปเหมือนชมพูนมเย็น






ลองปาดขึ้นมา กรี๊ดดดด เม็ดสีแน่นมากค่ะ (นิ้วอวบจังจ้า)




ปาดที่แขนอับสมบูรณ์ของเรา



 สีน่ารักมากกกกกกกก Smiley เลิฟ



ความเห็นส่วนตัว: เราชอบบลัชของชาแนลอยู่แล้วอ่ะ


เม็ดสีแน่น ติดทนกว่านาร์สอีก สำหรับสาวหน้ามันอย่างเรา


ตลับนี้คงใช้ได้อีกนานนนนน พกพาก็สะดวก มีแปรงให้ในตัว สรุป เลิฟเลยค่ะ!




ตัวสุดท้าย Last but not least นะคะ 


Chanel LES 4 OMBRES QUADRA EYE SHADOW สี 33 PRELUDE ค่ะ (ชอบชื่อจังไม่รู้ทำไม ฮ่าๆ)


จากเห่อที่แล้วเราบอกไปว่าเป็น eye shadow แบรนด์ที่เราอยากลองมากที่สุด


ในที่สุดก็ได้ตลับจริงมาครอบครอง อิอิ 



มาพร้อมฝาปิด(ตามสไตล์ของชาแนล) และ applicator(มันเรียกว่าอะไรอ่า) ค่ะ 




ด้านหลัง



 ซูมมมมม




ปาดโล้ดค่าา (ลืมเขียนลำดับสี -_-'') เอาเป็นว่าขวาสุดคือสีแรก แล้วไล่ไปเลยค่ะ




 ความเห็นส่วนตัว: เราคิดว่าสีมันไม่ค่อยติดอ่า ผิดหวังอ่า


แต่คิดว่าถ้าลง eye primerสีอาจจะชัดขึ้น ได้ลุดใสๆ(ปลอบใจตัวเอง) 


จากที่ได้ลองมาสองพาเลท เราว่าเราไม่ค่อบชอบอ่า เม็ดสีไม่แน่น


สู้เกอร์แลงค์ไม่ได้เลยค่า อันนั้นเม็ดสีแน่น จัดเต็มเลยค่ะ วันหลังจะมาswatch ให้ดู(ติดไว้อีกแล้ว แหะๆ) 




ครบสามตัวแล้ว Niceiez ก็ขอลากันไปตรงนี้


แต่ว่า....... มีของมาโชว์ก่อนจากกันค่ะ



รูปแรก กรุลิปสติกที่หอค่ะ ย้ำว่าแค่ที่หอ(ที่บ้านมีอีก อิอิ) 




น้องBlush on ทั้งหลาย  แน่นอนว่าที่บ้านมีอีก แหะๆ





ขอลาทุกคนเพียงเท่านี้เจ้าค่ะSmiley







Free TextEditor



Create Date : 02 ตุลาคม 2554
Last Update : 2 ตุลาคม 2554 0:27:27 น.
Counter : 2216 Pageviews.

6 comment
1  2  3  

Niceiez
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



follow me on twitter : twitter.com/niceiez
or
Instragram : niceiez