All Blog
[Review]รีวิวหนีน้ำภาคสุดท้าย 'Lips and Brush'ค่า

มาพบกับรีวิวสุดท้ายของซีรีย์หนีน้ำนะคะ


ภาค 'Lips and Brush' นะคะ


รู้สึกโหวงๆเหมือนกันนะ ว่านี้เป็นภาคต่ออันสุดท้าย ฮ่าๆ


แต่ไนซ์จะพยายามหาอะไรใหม่ๆมารีวิว อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ ><


ขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ที่ช่วยเป็นกำลังใจ


และขอบคุณทุกคนที่ชมบล็อคด้วยนะคะ^^



มาเริ่มกันด้วยสิ่งที่หลายๆคนรอคอย


'Lipstick' ค่า 


รวม




โชว์ตัว


เรียงตามตัวเลขเหมือนเคยค่ะ 




1. Dior Addict Lipstick สี 465 Singuliere


2. YSL Rouuge Volupte สี  3 Ultimate Beige


3. Mac Matte Lipstick สี Please Me


4. Bobbi Brown Rich Lip Color SPF12 สี Bare Pink


5. Revlon Super Lustrous Lipstick Matte สี 012 Sky Pink 


6. Revlon Super Lustrous Lipstick Matte สี 011 Stormy Pink


7. Revlon Super Lustrous Lipstick Matte สี 003 Mauve It Over


8. Revlon Super Lustrous Lipstick Matte สี 004 Pink About It



Swatchค่า




แยกแบบชัดๆนะคะ




1. Dior เป็นสีชมพูน่ารักๆ เนื้อลิปจะกึ่งกลอสนิดๆ ทำให้ทาได้ง่าย ไม่ตกร่อง


เป็นเนื้อ sheer เลยจะดูใสๆ เม็ดสีไม่แน่น ปิดสีปากได้ไม่หมดต้องย้ำหลายๆรอบ


แต่ทาแล้วจะดูกลอสซี่ แบบไม่ต้องทาลิปกลอสทับอีก


ขอบ่นหน่อย(ใครขี้เกียจอ่านข้ามไปตัวต่อไปเลยค่า) ตอนแรกไม่ได้จะเอาสีนี้ แต่อยากได้สีที่ Kate Mossทา


สิ่งที่ดึงดูดไนซ์ให้ไปลองลิปสติกของดิออร์ คือเรียวปากสีชมพูของKate Moss


ไนซ์ซื้อที่อเมริกานะคะ ครั้งแรกที่เข้าไปที่เคาน์เตอร์ มีคนมาดูแลอย่างดีเลยซื้อeye shadow


ที่รีวิวไปภาคก่อนๆ กับลิปสติกรุ่นเดียวกัน แต่คนละสี เพราะสีที่Kate Mossใช้หมด


ไนซ์ก็เออ ไม่เป็นไรใกล้ๆกับมาดูใหม่ พอไปอีกรอบไนซ์กับเพื่อนก็ตระเวณมันเกือบทุกเคาน์เตอร์


ไนซ์ก็เลยแวะดิออร์ซะหน่อย กะจะถามว่าสีที่Kate Moss ใช้สีอะไร ถ้ามีก็กะจะซื้อเลย


พอเดินไปที่เคาร์เตอร์ ก็มีคุณแม่คนนึงใช้บริการแต่งหน้ากับบีเออยู่ โดยที่มีคุณพ่อและลูกชายอีกสองยืนรออยู่ใกล้ๆ


ไนซ์ก็เดินเข้าไปคนเดียวก่อน ไปด้อมๆมองๆ บีเอไม่สนใจไนซ์เลย ตอนนั้นก็คิดว่าโอเคหาคนอื่นก็ได้


มองซ้าย ขวา ไม่มีใครอื่นเลย ไนซ์เลยเดินไปตามเพื่อนมา มองๆลิปติก เอาขึ้นมาปาดที่มือก็แล้ว


เจ๊บีเอก็ไม่สนใจ แต่คุณแม่ที่แต่งหน้าอยู่เหล่มามอง คือตอนนั้นไนซ์รีบด้วย แล้วจะแค่ถามว่า


สีนั้นคือสีอะไร มีรึเปล่า ไม่ทักทายเราซักคำ ไนซ์ก็เลยไม่สนใจหาเองเลยละกัน


หยิบสีโน้นสีนี้มาดู มาเทียบ ด้วยความที่อยากรู้ว่าสีที่เลือกใกล้เคียงกับที่Kate Mossทามั๊ย


ไนซ์เลยปาดลงไปที่ปากตรงๆเลยค่ะ เริ่มโมโหนิดๆแล้วตอนนั้น ฮ่าๆ


คุณพ่อและลูกชาย มองไนซ์ตาค้างเลยค่ะ ไนซ์ฏ็แบบปาด เช็ด ปาด เช็ด


ไม่กลัวปากพัง ฝรั่งมองเรางงเลย เพราะปกติถ้าจะลองบีเอจะเอาลิปไปจุ่มแอลกอฮอล์ แล้วปาดๆก่อนให้เราลอง


ถ้าแค่บีเอหันมาบอกเราว่า รอก่อน แค่นั้นไนซ์ก็จะได้ไปที่อื่นก่อน แต่ชีก็ไม่สนใจ


จนไนซ์ลองจนได้สองสีสุดท้ายที่ใกล้เคียงมา ก็หันไปหาเจ๊แล้วบอกว่า


'ขอโทษนะคะ'เจ๊เหลือบตามามอง พร้อมคุณแม่และครอบครัว


'สีที่Kate Moss ใช้ใช่สีนี้มั๊ยคะ'ชีก็บอกว่าไม่ใช่แล้วหันกลับไป


ไนซ์ก็เลยบอกว่า'งั้นเอาสีนี้'ยื่นออกไปแท่งนึง ควักเงินจ่ายเลย


ชีก็รับเงินไปแล้วไปขออนุญาติคุณแม่มาทำรายการให้เรา แถมยังไม่บอกขอโทษที่ทำให้รอหรืออะไรเราซักอย่าง


 สรุปไนซ์ก็ไม่รู้จนถึงทุกวันนี้ว่าสีที่Kate Mossใช้ในรูปคือสีอะไร -_-''


ไนซ์แบบหงุดหงิดเล็กๆ เพราะบีเอคนอื่นที่นู่นบริการดีมากๆ สุภาพกับเรา ถึงเห็นว่าเป็นเด็ก เฮ้อออ...



2. YSL พูดถึงยี่ห้อนี้แล้ว ต้องพูดถึงแพคเกจจิ้งก่อน หรูหรา อลังการตามราคา


มีช่วงหนึ่งที่สาวๆห้องแป้งรีวิวลิปยี่ห้อนี้ ไนซ์เลยฝากคุณพ่อซื้อ(อีกแล้ว)


พอได้มาตื่นเต้มมาก แทบไม่กล้าปาด แต่ด้วยความอยากสัมผัสว่าเนื้อลิปจะเป็นยังไง


เลยปาดปืดใหญ่ไปที่ปากโดยตรง เนื้อลิปนุ่มมากค่ะ แต่หนา แล้วไม่รู้ไนซ์เป็นคนเดียวรึเปล่า


แต่มันจะมีเม็ดๆที่เนื้อลิปจากแท่งเลยค่ะ ซึ่งทำให้ดูน่าเกลียดเลย


ช็อคมาก! ไหนคนนู้นคนนี้บอกว่าเนื้อเนียน คุณภาพสมราคา แต่สำหรับไนซ์เฉยๆค่ะ


สีสวยจริงแต่ไนซ์ว่าเกลี่ยยากอ่ะ ไม่ค่อยทนด้วย แล้วแอบไม่ชอบกลิ่นด้วย


อ่อ เป็บคราบกระจายเลยค่า แต่ก็ยังไปถอยมาอีกสองแท่ง


เพราะอยากลองว่าเป็นเม็ดๆรึเปล่า สรุปเป็นเหมือนกันค่ะ


ไว้สองแท่งนั้นจะมารีวิวให้ดูวันหลังนะคะ




3. Mac Please Me สีนี้เป็นอีกสียอดฮิตของแมคเลยก็ว่าได้


เป็นชมพูนมเย็นเลยค่ะ ยิ่งทากลอสทับยิ่งสวย รุ่นนี้จะเป็นเนื้อแมท


ซึ่งบางคนบอกว่าแห้งไป แต่ไนซ์ว่าไนซ์ชอบนะคะ บำรุงปากก่อนทาให้ดีหน่อย


ก็จะทาแล้วสวย ติดทนดีค่ะ ไนซ์ทาแล้วไม่เคยตกร่อง ลอก เป็นคราบนะคะ 


พอทาไปมหาลัยแล้ว เพื่อนชอบแซวว่า ไปกินนมเย็นมาเหรอ ฮ่าๆๆ


ลิปแมคนี่แนะนำให้ไปลองที่เคาน์เตอร์จริงๆ เพราะบนปากแต่ละคนสีจะออกมาไม่เหมือนกัน


แล้วแต่สีพื้นของปาก บางสีดูswatchไปอย่างสวย ลองปาดปุ๊บไม่เข้ากับหน้าอย่างแรง


ไนซ์โชคดีที่ได้ไปเล่นที่เคาน์เตอร์ที่อเมริกา ถ้าของไทยคงไม่กล้าเข้าไปลองขนาดนี้ค่ะ เหอๆ



4. Bobbi Brown Bare Pink อยากจะบอกว่าไนซ์ไม่ค่อยมีproductของ bobbi brownเลย


ลิปสีนี้อยากได้เพราะเป็นรีวิวของคุณ Christine ณ Temtalia ทาไว้สวยมาก


เลยเอารูปปากของชี+ชื่อสีไปยื่นที่เคาน์เตอร์ ตอนนั้นขาดสติ ไม่ลองเลย


อยากได้มาก ฮ่าๆ จ่ายเงินไปแบบไม่รู้ตัว ดีนะสีสวย ฮ่าๆๆ


เนื้อตัวนี้ทาง่ายค่ะ ไม่เหลวไม่แมทเกินไป สีออกนู้ดๆ ชมพูค่ะ


ทาแล้วไม่ป่วย เป็นสีที่ทาได้กับการแต่งหน้าทุกแบบ ใสๆก็ได้ smokyก็ดี


ติดทนในระดับนึงเลยนะคะ ไนซ์พกสีนี้ติดกระเป๋าทุกวัน เพราะรักมากค่ะ


ตอนนี้เลยอยากลองสีอื่นของ bobbi brown เพื่อนๆแนะนำได้นะคะ ^^



สีที่เหลือค่า



 เป็นของ Revlonทั้งหมดนะคะ ไนซ์เคยลองรุ่นอื่นแต่ก็ไม่ชอบเลย


แต่อยู่ๆ เมื่อไม่นานมานี้ก็อยากได้ลิปสีแดงแมทต์ๆ เลยไปเดินตามหาในแบบที่ราคาย่อมเยา


เลยไปได้รุ่นนี้มาค่ะ พอมาแท่งนึงแล้วมันก็มาเรื่อยๆ เพราะชอบในความแมทต์และติดทน


สีแรกที่ไนซ์ซื้อไม่ได่อยู่ในสี่ตัวนี้ค่ะ เป็นสีแดงเข้มซึ่งทาตั้งแต่เช้า เย็นปากยังแดงอยู่เลยค่ะ


ผ่านการทานอาหาร ทานน้ำสารพัด แต่ติดทนมาก เลยได้ไปถอยสีอื่นมาด้วยตามนี้เลยค่ะ



5. Revlon 012 Sky Pink เป็นสีชมพูอ่อน สีนี้ไม่ค่อยได้ทาค่ะ หาโอกาสทายาก


เพราะจะดูซีดไปค่ะ ถ้าแต่งsmoky แล้วอยากได้ลิปโทนชมพูสีนี้เหมาะมากค่า



6. Revlon 011 Stormy Pink สีนี้ซื้อเพราะอยากเป็นปรุงฉัตรกับเค้าอีกคน ฮ่าๆ


ช่วงนั้นสีอะไรแรงๆ เห็นแล้วหยิบใส่ตระกร้าเลยค่า แต่สีนี้ทาแล้วทาแอบดูคล้ำค่ะ


ทำให้ดูฟันเหลืองด้วย >< แต่สวยค่ะ ไนซ์ต้องแต่งหน้าแบบเพื่อที่จะทาสีนี้โดยเฉพาะเลยค่า ฮ่าๆ



7. Revlon 003 Mauve It Over เป็นสีนู้ดที่สวยมว๊ากอีกสี และติดกระเป๋าไนซ์ตลอด


คู่กับBobbi brownเลยค่ะ เพราะbobbi brownจะอมชมพู แต่ตัวนี้เป็นอมส้มค่ะ


จะทาได้ง่ายกว่า และติดทนกว่าค่ะ เพราะส่วนใหญ่ไนซ์แต่งหน้าโทนน้ำตาล


สีนี้จะขึ้นมากค่ะ นู้ดแต่ไม่ป่วย สวยไปอีกแบบค่า



8. Revlon 004 Pink About It นี่ก็อยากปรุงฉัตรอีกสีค่ะ


แต่ช่วงนี้ใช้แทบทุกวัน เพราะสีสวยมากค่ะ เป็นชมพูแดงที่ยังชมพูอยู่


ใครชอบสีสดๆ แนะนำเลยค่ะ ทาแล้วหน้าสว่าง ดูแรงแบบผู้ดีค่ะ ฮ่าๆ


 ทาครั้งนึงแล้วจะติดใจ >3<



ต่อไปเป็น Lip gloss กับ Lip Liner




1. No7 Line&Define Lip Pencil สี 05 Plum


2. Lifeford Paris Hi-Style Lip Liner สี LL 210


3. Lifeford Paris Hi-Style Lip Liner สี LL 280


4. Maybelline New York Colorsensational Lip stain สี 95 Touch of Toffee


5. Etude Apricot Stick สี 7


6. Mac Cremsheen Glass สี Right Image


7. Nars Lip Glass สี Deep Throat



swatch




1. No7 Plum ตัวนี้ซื้อเพราะไปซื้อสีที่พี่โมเมใช้ไม่ทัน แล้วอยากได้สีม่วงพลัมขึ้นมา ฮ่าๆ


สีชัดเจนค่ะ พลัมสวย ติดทนเพราะเป็นลิปไลเนอร์ ค่อนข้างแห้ง


แต่ไนซ์ชอบแบบแมทต์ๆอยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาค่ะ



2. Lifeford LL 210 หลายคนอาจจะไม่เคยใช้ลิปไลเนอร์ของยี่ห้อนี้


แต่ไนซืชอบไปด้อมๆมองๆ รออายไลน์เนอร์ของเขา เลยได้ตัวนี้มาลองค่ะ


ราคาไม่แพง คุณภาพดีเลยค่ะ เนื้อจะชุ่มชื่นกว่า No7 แห้งแล้วก็ติดทนพอๆกันค่า



3. Lifefordr สี LL 280 ตัวนี้ไนซ์ซื้อเพราะจะเอามาลงก่อนทาปากแดง


ให้ติดทนยิ่งขึ้น แบบทาเช้ายันดึก ฮ่าๆๆ



4. Maybelline New York Touch of Toffee เป็นลิปสเตนนะคะ


หัวเป็นแบบเมจิก เขียนแรกๆจะติดชัด แต่สีอ่อนค่ะ ต้องย้ำๆ พอแห้งแล้วสีจะเข้มกว่า


เลยแดงเกินจำเป็นทุกที่ -''- พอแห้งแล้วจะแห้งมาก ปากจะแห้ง แบบเป็นร่องเลยค่ะ


ถ้าไว้ทาเป็นทิ้นต์ก็จะเวิร์คกว่าค่ะ สวยเลย มีหลายสีให้เลือกนะคะ


เป็นอีกตัวที่ไม่มีขายในไทยค่า



5. Etude Apricot Stick สี 7 เป็นลิปแท่งแบบหมุนๆ เนื้อเหมือนลิปมันค่ะ


ทาเดี่ยวๆก็สวย แต่ไม่ติดทน ตอนทาจะชุ่มชื่นดี แต่ซักพักจะทำให้ปากแห้งค่ะ


มีให้เลือกหลายเฉด ไว้ทาในวันแต่งหน้าเบาๆ สวยค่า



6. Mac Right Image ไนซ์ไปได้ตัวนี้มาจากoutletเลยถูกกว่าปกติ


สีสวยมาก ทาคู่กับ please me ยิ่งสวยค่ะ


กลบสีปากได้มิด และติดทน เนื้อเหนียวๆค่ะ แต่รับได้


ทาแล้วปากน่าจุ๊บมาก



7. Nars Deep Throat เป็นสีชมพูมีกลิตเตอร์ทองวิ้งๆ สวยค่ะ


ทาเดี่ยวก็สวย ทาทับก็ยิ่งสวย ติดที่เนื้อเหนียวไปหน่อย หนึบๆ


ไนซ์เลยลงเฉพาะกึ่งกลางปากทั้งบนล่างแล้วเม้มให้ทั่วๆเอาค่ะ


ทาทั้งปากไม่ไหวค่ะหนึบไป 



ต่อกันที่ Brushนะคะ



เป็นของSigmaส่วนใหญ่ค่ะ set 12 Brush Kit - Make Me Crazy - Black ไปถึงอเมริกาพลาดได้ไงกัน อิอิ


ไนซ์สั่งตอนที่มีโปรเกิน $100 จะfree shipping เลยเสียแค่ค่า taxเพิ่มนิดหน่อย


แหะๆ มาแบบไม่ได้ล้างกันเลย ปกติไนซ์ล้างอาทิตย์ละสองครั้ง


แต่ไม่ทันได้ล้างก็ต้องอพยพซะก่อน เลยรวบมาทั้งกระบอกเลยค่ะ ฮ่าๆ 



ไนซ์แยกรีวิวเป็นแป้งสำหรับหน้าก่อนนะคะ



จากบน


Sigma Large Powder - F30


แปรงพุ่มใหญ่สุด ไนซ์ไว้ใช้ปัดแป้งฝุ่นค่ะ ไนซ์ว่าขนแปรงเขายังกระด้างไป


แอบบาดหน้านิดหน่อยค่ะ พออาบน้ำแล้วแห้งช้า เพราะขนแปรงหนา แอบมีกลิ่นสาบนิดหน่อย


เป็นตัวที่สีตกเยอะที่สุดค่ะ ตกทุกครั้งที่ล้างเลย



Sigma Duo Fibre - F50


แปรงสารพัดประโยชน์ค่ะ ไว้ลงรองพื้นก็ได้ ปัดแก้มก็ดี ไฮไลท์ก็ได้


ไนซ์เอาไว้ปัดแก้มค่ะ เพราะจิกบลัชได้ดี แต่สู้แมคไม่ได้ค่ะ



Mac 187


คุณสมบัติเหมือน Sigma F50 แต่คุณภาพดีกว่าค่ะ ขนแปรงนุ่มกว่า


จิกบลัชดีกว่า พุ่มเล็กกว่าทำให้ควบคุมได้ง่ายว่า


 ไนซ์ชื้อแมคมาก่อนเป็นปี ล้างไม่บ่อยเท่าซิกม่า แต่ขนแปรงแมคยังขาวสวยอยู่


แต่ซิกมาเพิ่งได้มาไม่นาน เริ่มล้างสีบลัชไม่ค่อยออกละค่ะ แต่ในภาพไม่ได้ล้างนะคะ แหะๆ 


ไนซ์เอาซิกม่ามาใช้เพราะราคาถูกกว่า และอยากถนอมแมคด้วย


ไนซ์ซื้อราคาเต็มที่เคาน์เตอร์พาราก้อนเลยค่ะ บีเอจะดุจะจิกไนซ์ไม่สน


เดินเข้าไปบอกเลยว่า จะเอา187ค่ะ เขาก็ไปหยิบ จ่ายเงิน จบ ฮ่าๆๆ



เปรียบเทียบขนาดให้ดูค่ะ




หน้าตัด



ของแมคจะเล็กกว่านะคะ และสังเกตได้ว่าขนแปรงจะแน่นกว่าด้วย ^^



Sigma Medium Angled Shading - E70


เป็นแปรงหัวเฉียง รับกับรูปหน้า ขนแปรงสีขาวเลยค่ะ


ไว้เฉดดิ้งหน้าให้ดูเรียวค่า



Sigma Foundation - F60


แปรงแบนใหญ่ ไว้ลงรองพื้นค่ะ ขนแปรงแน่น สปริงตัวได้ดี


ทำไงลงรองพื้นง่าย รวดเร็ว ไม่เปื้อนมือ แต่ไนซ์ก็ยังชอบใช้นิ้วลงรองพื้นมากกว่าอยู่ดีค่า^^



Sigma Concealer - F70


แปรงแบนขนาดเล็ก ใช้ลงคอนซีลเลอร์ในจุดเล็กได้ทั่วถึง


ทำความสะอาดง่ายค่ะ ใช้แล้วทาคอนซีลเลอร์ได้เนียนกว่าใช้นิ้วมือค่ะ




ตานะคะ




Sigma Tapered Blending - E40


แปรงทรงพุ่ม ไว้คัดเบ้าตา และเกลี่ยๆให้เข้ากันค่ะ



Large Shader - E60


แปรงทาตาขนาดใหญสุด ไว้ลงอาาโดว์ในพื้นที่กว้างเช่นเปลือกตา


ตัวนี้ไนซ์ไม่เคยใช้เลย ฮ่าๆ เดี๋ยวจะบอกทีหลังว่าใช้ตัวไหนค่า



Eye Shading - E55


แปรงทาตาตัวเฉียง ไว้คัดเบ้าก็สวยค่ะ ใช้ง่ายแต่ขนาดใหญ่ไปสำหรับสาวเอเชียอย่างเรา


ทำให้ได้เบ้าตาใหญ่ไปนิด ฮ่าๆ



Medium Angled Shading - E70


แปรงทาตาขนาดกลางค่ะ ขนแน่นที่สุด


ไนซ์ไว้ใช้แพคอายชาโดว์ในขั้นตอนแรกหลังจากลง eye primer เพื่อความติดทนด้วยค่ะ



Sivana เบอร์ 4


ตัวนี้ซื้อมานานจนจำไม่ได้ แต่ใช้มาตลอดตั้งแต่ยังแต่งตาไม่เป็นค่ะ


ซื้อมาในราคาถูกมากกกก ขนแปรงสปริงดี แน่นมาก


ล้างมาหลายรอบไม่มีร่วงค่ะ ถือว่าเป็นแปรงที่ทนมาก 



 และทุกวันนี้ก็ยังใช้ตัวนี้อยู่ค่ะ ช่วงที่ไม่มีsigma ก็ใช้ตัวนี้คัดเบ้าได้


สารพัดประโยชน์มาก รักมากๆค่ะ ใช้ทุกวัน ทุกครั้งจนตัวหนังสือเลือน



Sigma Small Angle - E65


แปรงตัวตัด แบนๆ เหมาะสำหรับใช้วาดอายไลนเนอร์ แต่ไนซ์ไม่ใช้อายไลน์เนอร์แบบครีม


เลยเอาอายชาโดว์ผสมน้ำแล้วใช้ตัวนี้วาดเป็นไลน์เนอร์แทนค่ะ


วาดได้เส้นเล็ก เรียว ขนนุ่มค่ะ


ตอนแรกจะเอาไปทำแปรงปัดคิ้ว แต่ขนนุ่มไป ปัดคิ้ดไม่ติดค่ะ



 Sigma Pencil - E30


แปรงทรงพุ่มเล็ก หรือแปรงปลายดินสอ ขนแปรงจะเป็นสีขาวล้วนค่ะ


ใช้คัดเบ้าก็ได้ เขียนอายชาโดว์ตรงlower lashก็สวย


ไนซ์จะใช้ในสองที่ที่กล่างมาค่ะ แต่ส่วนใหญ่ใช้แตะอายชาโดว์มาเขียนตรงlower lashค่ะ



Sigma Eyeliner - E05


 เป็นแปรงสำหรับอายไลนเนอร์ เป็นอีกตัวที่ไม่เคยใช้ค่ะ


เลยไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้



Sigma  Blending - E25


แปรงสำหรับเบลนอีกตัว ตัวนี้ได้แถมมาค่ะ ไนซืชอบตัวนี้มากว่าตัว E40 ในเซตเค้าอีกค่ะ


ตัวนี้ที่จริงขนแปรงเป็นสีขาวล้วนนะคะ แต่ไนซ์ไม่ได้ล้าง ฮ่าๆ


ตัวนี้ใช้คัดเบ้าค่ะ พุ่มเขาจะเล็กกว่าตัวE40 จะเข้ากับสาวเอเชียที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีเบ้าตาชัดอย่างฝรั่งค่ะ


 แปรงตัวนี้เข้ากับเบ้าตาไนซ์เป๊ะ ทำให้การคัดเบ้าเป็นเรื่องง่ายและทำได้อย่างรวดเร็วค่า



เทียบให้ดูค่า



ไนซ์จะใช้ตัวสีขาวคัดเบ้า แล้วใช้ตัวสีดำใหญ่เบลนๆให้เข้ากันให้ทั่วค่า^^



 โฉมหน้าแปรงที่ใช้บ่อยนะคะ ใช้คู่กันทุกวัน><







ในที่สุดก็หมดแล้วค่า


ขอจบรีวิวซีรีย์หนีน้ำไว้เท่านี้ค่า








Free TextEditor



Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 20:33:58 น.
Counter : 5551 Pageviews.

3 comments
  
สีสวยทุกสีเลยค่ะ
โดย: puy_naka63 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:07:13 น.
  
ละลานตามากเลยคะ
ขอบคุณที่มารีวิวให้ชมอิอิ
ชอบสกายพิ้งค์มากเลยคะ สดใสดี
โดย: yureasho วันที่: 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:13:09 น.
  
แอบมาดูแปรงค่ะ
โดย: shitamaza วันที่: 6 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:18:55 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Niceiez
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



follow me on twitter : twitter.com/niceiez
or
Instragram : niceiez