Group Blog
 
All blogs
 
จาก 'ดารา' ผันชีวิตสู่ 'เกมหุ้น' พนมกร ตังทัตสวัสดิ์


'ไกรภพ' เศรษฐีกำมะลอ รับบท 'ดาวร้าย' ใน 'ดวงใจอัคนี' ชีวิตจริง 'แซน' พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ เซียนหุ้นวัย 33 ปี แม้พอร์ตจะเล็กแต่ฝีมือจัดจ้าน

บทดาวร้ายในละคร "ดวงใจอัคนี" ไกรภพ (พนมกร ตังทัตสวัสดิ์) เศรษฐีกำมะลอจากกรุงเทพฯ ก็ร้ายได้ใจทำเอาคนเกลียดกันทั้งเมือง แต่ "แซน" พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ ในชีวิตจริงอีกภาคหนึ่งของชีวิตเขาเป็นนักเล่นหุ้นฝีมือจัดจ้าน เจ้าของพอร์ตหุ้น "หลักล้านบาท" แม้พอร์ตจะยังเล็กแต่ทุกการเคลื่อนไหวในเกมหุ้นมีกำไรติดไม้ติดมือมาทุก ครั้ง

ดาราหนุ่มรายนี้เป็นน้องชาย "แมน" ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ เข้าสู่วงการบันเทิงตามพี่ชาย เขาจบชั้นประถมและมัธยมจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล จบคณะบริหารโฆษณามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) และจบปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์สาขาสื่อสารมวลชนจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นอกจากอาชีพดาราหน้ากล้องแล้วปัจจุบันแซนนั่งบริหาร บริษัท เอสจีไซเบอร์ซิสเต็ม จำกัด มีทุนจดทะเบียน 7 ล้านบาท ให้บริการทางด้านเน็ตเวิร์คภายในโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ทั่วไป และงาน IT Service Delivery ภายใต้แบรนด์ Blue Dolphin

อีกทั้งยังเปิดเว็บไซต์ Doodee.net เกี่ยวกับความเคลื่อนไหววงการบันเทิง และประมูลสินค้าดารา และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท นายกล้วยหอมออนไลน์ จำกัด เพิ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ทำเว็บไซต์เกี่ยวกับหุ้นและการลงทุน ภายใต้ชื่อ hooninside.com มีรายงานข่าวระบุว่าหนึ่งในหุ้นส่วนของแซนในการทำเว็บไซต์หุ้นก็คือ "นิด" สง่า ตั้งจันสิริ เซียนหุ้นรุ่นใหม่อีกคน

"ตอนนี้ผมมาเปิดเว็บไซต์เกี่ยวกับเรื่องหุ้นและการลงทุนซึ่งเว็บไซต์ นี้จะเป็นศูนย์กลางของข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย พร้อมการอัพเดทของตลาดหุ้นตลอดเวลามาดูที่เว็บนี้เว็บเดียวก็จะได้ข้อมูลครบ ทุกอย่าง"

ฐานบัญชาการของแซนอยู่ที่ตึก 253 อโศก ชั้น 24 บรรยากาศภายในห้องทำงานเรียบง่ายมีเพียงพนักงานชายนั่งทำงานร่วมชั้น 2-3 คน จากทั้งหมด 11 คน

“ผมไม่ใช่เซียนหุ้น พอร์ตเล็กนิดเดียว” ดาราหนุ่มรีบออกตัวก่อน เพราะก่อนหน้านี้ "นิด" สง่า ตั้งจันสิริ หลานชาย ไกรสร จันศิริ ผู้ก่อตั้ง TUF ก็แหยงคำว่า "เซียนหุ้น" ไปแล้วคน

แซนกล่าวกับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า เพิ่งกลับมาเล่นหุ้นจริงจังเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี่เอง หลังเกิดวิกฤติซับไพร์มในสหรัฐอเมริกาและลุกลามไปทั่วโลกก็เลิกเล่นหุ้นไป พักใหญ่คิดว่าคงไม่ใช่ทางของตัวเอง แต่สุดท้ายก็หวนกลับมาอีกจนได้ (บรรยากาศมันยั่วยวน) แม้พอร์ตจะยังเล็กแต่ก็ได้กำไรทุกครั้ง รอบนี้ยังไม่มีพลาด

ดาราหนุ่มวัย 33 ปี ยอมรับตรงๆ ว่า สไตล์การเล่นหุ้นของตัวเองชอบ "เก็งกำไร" ชอบความรวดเร็วทันใจ ตลาดขาขึ้นรอบนี้กำไรงามกับหุ้นพื้นฐานดีแล้วหลายตัว

"ปกติผมจะลงทุนหุ้นเก็งกำไรหนักหน่อย 70-80% เพราะได้กำไรรวดเร็วทันใจ ส่วนใหญ่คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 20% ส่วนพอร์ตอีก 20% ที่เหลือจะลงทุนในหุ้นพื้นฐาน"

หุ้นพื้นฐานที่แซนทำกำไรงามในรอบนี้เขายกตัวอย่างหุ้นไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) และ อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) หุ้นลักษณะนี้ถือยาวไปเลย 3 เดือน ไม่ต้องตามไม่ต้องดูราคาตั้งใจว่าจะเก็บเพิ่มเติมอีกรอให้ราคาย่อตัวลงมา หน่อยอย่างหุ้น TUF เล็งไว้แถว 50 บาท หุ้น STA รอ 31 บาท ส่วนหุ้น AMATA รอลงมา 11 บาทค่อยเข้าไปรับเล่นรอบ

ปีที่แล้วเล่นเก็งกำไร 70-80% เพราะ SET เป็นขาขึ้นขาเดียว แต่ปีนี้คาดว่าหุ้นจะผันผวนทำให้ "ไกรภพ" ตัวโกงในละครดวงใจอัคนีต้องวางแผนกลยุทธ์ใหม่เพราะในตลาดหุ้นเขาต้องการเป็น "พระเอก" ที่มีบทจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ไม่ใช่ "โจร" ที่ "ติดคุก" (ติดหุ้น) เหมือนในละคร

"ผมตั้งใจจะปรับพอร์ตลงทุนใหม่เปลี่ยนเป็น "หุ้นเก็งกำไร" 50% และ "หุ้นบลูชิพ" 50% และจะปรับระยะเวลาการถือหุ้นบลูชิพนานขึ้นเป็น 3-6 เดือน เชื่อว่าลงทุนในลักษณะนี้จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 20% ได้เท่านี้ผมก็แฮปปี้แล้ว"

ไกรภพในละครเป็นคน "โลภมาก" อยากได้ทั้งไร่และลูกสาวเจ้าของไร่แต่แซนในชีวิตจริงเขาเป็น "นักเก็ง" ที่แสวงหา "กำไร" แบบพอควร "โลภน้อย" แต่ "โลภบ่อย"

บทสัมภาษณ์ ชิ้นนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2553 ช่วงที่หุ้นเนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (NINE) กำลัง "ร้อนแรง" แซนกล่าวว่า ช่วงนี้เล็งจะซื้อหุ้น NINE เป็นอันดับหนึ่ง ลองคิดดูตอนเข้าตลาด mai วันแรกๆ ราคาหุ้นชนซิลลิ่งแทบทุกวัน (ในตำรานักเก็งกำไร) นั่นก็แปลว่าจำนวนหุ้นมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน

"ผมเชื่อว่าอนาคตของ NINE ไม่ธรรมดาได้ยินว่าจะแตกไลน์ไปทำนิวมีเดีย ซึ่ง (นิวมีเดีย) กำลังอินเทรนด์อยู่ในเวลานี้ ตอนนี้ผมบอกมาร์เก็ตติ้งไปแล้วว่าถ้าราคาลงมาอยู่ 5 บาท ให้รีบช้อนเข้าพอร์ตเลย" เขาเล่า

หุ้นเก็งกำไรอีกตัวที่แซนเอ่ยถึงเพราะมีสตอรี่ให้เล่นหลังจากนี้คือหุ้น มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) ของ สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ซึ่งเป็น "เพื่อนกัน" เขาว่าไม่ได้ชอบเพราะเป็นบริษัทเพื่อน แต่การที่ MILL ทำโครงการ Green Mill ผลิตเหล็กคุณภาพสูงพิเศษด้วยเศษเหล็กพร้อมติดตั้งโรงงานบำบัดไอเสียรุ่นใหม่ ล่าสุดจะช่วยทำให้ฐานะการเงินดีวันดีคืน

"เมื่อ 2 ปีก่อนผมเคยถือหุ้น MILL เพราะเชื่อว่าผู้บริหารยุคใหม่จะสร้างผลงานได้โดดเด่น แต่สุดท้ายก็ขายออกไปเพราะรู้สึกมันถึงเวลาต้องขายออกแล้ว อีกอย่างตอนที่ซื้อเอาเงินเก็บมาลงทุนด้วยไม่อยากเอาไปจมกับอะไรนานๆ” เขาให้เหตุผล

หุ้นน้ำมันพืชไทย (TVO) เขาก็เล็งที่จะซื้อเพราะมองราคาหุ้นยังเป็นขาขึ้นแม้จะเคยขึ้นจากราคา 9 บาท มายืน 31-32 บาทแล้วก็ตาม แซนให้เหตุผลว่าขึ้นชื่อเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารคนยังไงก็ต้องกิน ต้องใช้ แถมส่งออกไปขายทั่วโลกอีกและบริษัทนี้ยังจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอด้วย

ส่วนการลงทุนสินทรัพย์อย่างอื่นแทบไม่ได้ลงทุน ทั้งๆ ที่น้องชายคุณปู่ (จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี) เป็นนายกสมาคมค้าทองคำและเจ้าของห้างขายทองจินฮั้วเฮง เซียนหุ้นรายนี้บอกว่าก็เคยคิดนะว่าทำไมไม่ลงทุนทองคำ ทั้งๆ ที่ให้ผลตอบแทนดีมากแถมเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วกว่าลงทุนในตลาดหุ้นด้วยซ้ำ

"ผมมองว่ามันไม่เสี่ยง ไม่เข้า Concept คนชอบเสี่ยงอย่างผม (หัวเราะ)"

สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แซนเล่าว่า มีซื้อเพื่อปล่อยเช่าไว้บ้าง ล่าสุดคิดจะขายคอนโดมิเนียมที่หาดวงศ์อมาตย์ พัทยา พื้นที่ 78 ตารางเมตร ประกาศขาย 6.9 ล้านบาท ซื้อมาเมื่อ 2 ปีก่อนกะไว้ไปพักผ่อนสุดท้ายแทบไม่ได้ไปอยู่เลย

กลับมาที่ตลาดหุ้นถามว่ามองหุ้นปีนี้อย่างไร ดาราหนุ่มมองว่า SET Index ปี 2554 คงมีโอกาสได้เห็น 1,200 จุด แต่ปัจจัยที่อาจจะทำให้ตลาดหุ้นอ่อนไหวต้องจับตาปัญหาการเมืองอย่างใกล้ชิด และวิกฤตการณ์การเงินในต่างประเทศที่อาจมีข่าวลบออกมาอีก แต่เนื่องจากเม็ดเงินอาจไหลเข้ามาในแถบเอเชียมากขึ้นตลาดหุ้นก็น่าจะยังดี อยู่

เซียนหุ้นรายนี้ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลาดหุ้นสร้าง "นิสัยเสีย" ให้แก่นักลงทุนอยู่ข้อหนึ่งคือ "เงินได้มาง่ายมาก" ช่วงตลาดหุ้นดีๆ เล่นหุ้นเดี๋ยวเดียวก็ได้กำไรแล้ว สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยทำงานมาก่อนถ้ามาเล่นหุ้นแล้วได้กำไร ไม่เคยผ่านความยากลำบาก เขาคนนั้นก็จะไปทำงานอย่างอื่นไม่ได้ (แล้ว) นอกจากเล่นหุ้น

๐ คติเก็งกำไร 'เสี่ยงได้แต่อย่าโลภ' (ไซด์บาร์)

เหตุผลที่สนใจตลาดหุ้น "แซน" พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ กล่าวว่า ตอนเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ทางมหาวิทยาลัยมีจัดกิจกรรมให้ลงทุนตลาดหุ้นจำลองความสนใจก็เกิดขึ้น พอทำงานเก็บเงินมาถึงจุดหนึ่งก็สนใจอยากลงทุนจริงๆ บ้าง ยิ่งมีเพื่อนมาแนะนำก็สนใจตอนนี้ก็รู้จักกลุ่มก๊วนในวงการหุ้นมากพอสมควร

เขาเล่าว่าเริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้นครั้งแรกช่วงก่อนเกิดแฮมเบอร์เกอร์ไค รซิสด้วยเงินก้อนแรก 500,000 บาท โชคดีที่ตอนนั้นไม่โดนพิษวิกฤติเล่นงานเพราะออกของ (ขายหุ้น) ทันพอดี ทำให้กำไรที่ได้มาก็ขาดทุนกลับไปเสมอตัวไม่ได้ไม่เสีย ในช่วงนั้นยอม "ถอย" หลังจากดูแนวโน้มแล้วท่าทาง SET จะไปไม่รอด จึงตัดสินใจ Cut Loss ทิ้งทันที ตอนนั้นชอบเล่นหุ้นบลูชิพ และหุ้นเก็งกำไรแบ่งกันอย่างละ 50%

"สไตล์การลงทุนของผมถ้าเป็นหุ้นบลูชิพจะถือยาว 3 เดือน ส่วนหุ้นเก็งกำไรจะถือไม่เกิน 1 สัปดาห์ก็ขายออก"
ดารา หนุ่มกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ซื้อขายหุ้นผ่าน บล.เอเซีย พลัส เพราะมีเพื่อนทำงานเป็นมาร์เก็ตติ้งอยู่ แต่สุดท้ายต้องย้ายมาเทรดที่บล.ฟินันเซีย ไซรัส ตามเพื่อนคนนั้นที่ย้ายมาทำงานที่ใหม่ ปัจจุบันซื้อขายหุ้นผ่าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส และบล.โกลเบล็ก มูลค่าพอร์ตลงทุนยังเล็ก "หลักล้านบาท" เท่านั้น

"ผมไม่ได้มีเทคนิคอะไรพิเศษ ส่วนใหญ่จะดูวอลุ่มถ้าผิดปกติแปลว่าต้องมีอะไรแน่นอน ต้นแบบในการเล่นหุ้นผมไม่มีใครเป็นแบบอย่างอยู่ในตลาดหุ้นต้องเรียนรู้เอง ผมจะถือคติว่า "เสี่ยงได้แต่อย่าโลภ" ได้กำไร 10-20% สำหรับ (นักเก็งกำไร) อย่างผมก็โอเคแล้ว"

ปัจจุบันกลุ่มเพื่อนที่เล่นหุ้นด้วยกันส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ บางคนก็มีชื่อเสียงอยู่ในแวดวงตลาดหุ้นและธุรกิจเอ่ยชื่อคนก็รู้จักแต่ไม่ บอกนะว่าใคร (หัวเราะ) ถามว่าเล่นหุ้นกลุ่มเดียวกับ “หมู” สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ หรือเปล่า! เขาบอก "ไม่" ส่วนใหญ่จะคุยกันแต่เรื่องไร้สาระ

"ผมเป็นคนยอมรับความเสี่ยงได้สูงหากมีเหตุให้ต้องขาดทุนหุ้นก็ไม่ซีเรียส เพียงแต่อย่าให้มันขาดทุนมากจนเกินไปก็พอ"

ถามถึงธุรกิจส่วนตัว แซน กล่าวว่า ทำแบรนด์ Blue Dolphin มานาน 7 ปีกำไรดีขึ้นทุกปี อย่างปี 2553 เติบโตขึ้น 100% จากปี 2552 ที่มีกำไร 1 ล้านบาท ส่วนปี 2554 คงดีขึ้นมากเพราะอาจได้งานจากรัฐบาลจีนต่อเนื่อง ซึ่งเขาป้อนงานอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนภาษาจีน (จอ LCD) ตั้งเป้าว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จะพยายามสร้างผลประกอบการให้ขยายตัวปีละ 20% แต่คงไม่หวังไกลถึงขนาดนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นมันยิ่งใหญ่เกินไป

"ผมทำบริษัทนี้เพราะสนุก และอยากสร้างอาชีพให้คนอื่นๆ ไม่ได้ต้องการสร้างให้อาณาจักรใหญ่โต ตอนนี้ก็กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำเว็บไซต์เกี่ยวกับอาหารจะแนะนำร้านอาหารเด็ดๆ คาดว่าจะตั้งบริษัทใหม่และอาจเปิดตัวได้ในเร็วๆ นี้”
ส่วนเว็บไซต์ hooninside.com หวังว่าจะคุ้มทุนภายใน 1 ปี ที่สนใจมาทำเว็บไซต์เกี่ยวกับหุ้นเพราะมีคนที่อยากทำเขาเข้ามาปรึกษาซึ่ง เห็นว่าไอเดียดี และอยากรู้เรื่องหุ้นอยู่แล้วด้วย จึงตัดสินใจลงทุนครึ่งหนึ่งประมาณ 2 ล้านบาท

แหล่งที่มา กรุงเทพธุรกิจ


อยากให้อ่านเรื่องนี้ด้วยครับ



ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

girdpol
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




Friends' blogs
[Add girdpol's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.