All Blog
เมื่อต้องบินเดี่ยวครั้งแรก....กับการได้พบเนื้อคู่เป็นของแถม (ตอนที่ 2)
หลังจากเรียนภาษาญี่ปุ่นจบ ก็มีเจ้าหน้าที่จากเมืองคิตะคิวชิวมารับก้อยและเพื่อนเกาหลีอีกคนที่จะไปอบรมในสาขาเดียวกัน เดินทางถึงคะตะคิวชิวก้อยพักอยู่ที่หอพักของ JICA (Japan International Cooperation Agency) ส่วนเพื่อนเกาหลีเค้าไปพักอยู่ในอพาทร์เม้นต์ข้างนอกคะ เพราะเค้าบอกโฮสต์ว่าสามีเค้าจะมาเยี่ยมจึงไม่สะดวกพักที่หอพัก ส่วนก้อยพักที่ไหนก็ได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้วคะ





ไปถึงที่ว่าการคิตะคิวชิวซึ่งเป็นที่อบรมและที่ทำงานของก้อย วันแรกเราก็ได้เข้าพบกับผู้ว่าการเมืองคิตะคิวชิว วันนั้นได้มีนักข่าวมาทำข่าวด้วยก็เลยได้ออกโทรทัศน์ท้องถิ่นด้วยคะ เสร็จแล้วก็ต้องมีการนำเสนอ Country Report ให้เจ้าหน้าที่ทางญี่ปุ่นฟัง





ชีวิตที่นี่ก็ดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน สะดวกสบายเป็นที่สุด ทางโฮสต์ได้พาก้อยไปเปิดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม เพราะเค้าจะให้เงินเดือนเหมือนเป็นข้าราชการในที่ว่าการเมืองทุกเดือน มีโทรศัพท์มือถือให้ใช้ฟรี มีแลปท็อปให้ใช้ทั้งที่หอพักและที่ทำงาน มีตั๋วเดินทางโดยรถไฟฟ้าให้ตลอด เพราะจากที่หอพักก้อยต้องใช้รถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปที่ทำงานทุกวัน ไปทำงานก็สายเกือบทุกวัน เอิ๊กๆ


ระบบการทำงานของที่นี่เหมือนอยู่ในโรงเรียนสมัยประถมเลยคะ พอถึงเวลาเริ่มทำการก็จะมีเสียงกริ่งดัง .....กรี๊งๆ......พอถึงเวลาพักเที่ยงก็จะดังอีก.....พอหมดเวลาพักเที่ยงก็จะร้องอีก........พอประมาณบ่าย 3 ก็จะร้องว่าถึงเวลาพักเบรกดื่มชา กาแฟ 15 นาที เสร็จแล้วก็ร้องอีก จากนั้นพอถึงเวลา 5 โมงเย็นก็ร้องอีกบอกว่าถึงเวลากลับบ้านแล้วจ้า......แต่ส่วนใหญ่คนที่นี่นั่งทำงานกันต่อคะ ถึงทุ่ม 2ทุ่ม เป็นอย่างน้อยถึงจะกลับบ้านกัน เอิ๊กๆ







เทศกาลช่วงฤดูร้อนคะ




อันนี้เป็นเทศกาลช่วงฤดูใบไม้ร่วง


ตอนกลางวันในที่ทำงานเป็นช่วงเวลาที่พะอืดพะอมมาก เพราะไม่รู้ว่าจะหม่ำอะไรดีในแต่ละวัน ตอนอยู่เมืองไทยก็ชอบมากกกกกอาหารญี่ปุ่น แต่พอให้มากินทุกวันก็ไม่ไหวเหมือนกัน รู้สึกว่ารสชาติมันเหมือนกันทุกอย่างเลย ในที่ทำงานมีอาหารให้เลือกอยู่ 2 แหล่งคือ 1 ตรงหน้าลิฟท์ จะมีแม่ค้าเอาอาหารกล่องมาขาย คนต่อแถวซื้อยาวเหยียด แต่อาหารสุดแสนจะไม่อร่อย ที่เค็มก็เค้มเค็ม ที่หวานก็หว้านหวาน แหล่งที่ 2 คือ โรงอาหารชั้นใต้ดิน คนก็ตรึมเหมือนกันคะ สั่งอาหารก็แสนลำบาก เพราะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น มีทั้งแบบตู้หยอดเหรียญ ใส่เหรียญเข้าไปแล้วกดว่าจะเอาเมนูไหน เสร็จแล้วก็จะได้คูปองมาเพื่อเอาไปให้แม่ครัว แล้วเค้าก็จะจัดอาหารมาให้ตามคูปอง อีกแบบคือไปสั่งกับเจ้าหน้าที่ว่าจะเอาอะไร แล้วเค้าก็จะให้คูปองมาเหมือนกัน ส่วนก้อยแล้ว ส่วนใหญ่จะใช้บริการตู้หยอดเหรียญคะ ก็อาศัยจำเอาว่าเมนูไหนต้องกดปุ่มไหน ก็พอได้กินอยู่


แต่ว่ากินกันแบบนั้นทุกวันก็ไม่ไหวคะ เบื่ออาหารสุดๆ ก้อยก็เลยออกหาที่หม่ำไปเรื่อย ส่วนใหญ่แล้วก็จะไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนคะ ได้พาสต้ากุ้งซอสมะเขือเทศ เป็นเมนูหลัก ถ้าพนักงานที่ร้านเห็นก้อยก็จะรู้แล้วว่ายายคนนี้จะสั่งอาราย อิอิอิ อื่นๆ ที่ได้ฝากท้องบ้างก็มีร้านอาหารไทย อาหารจีน ร้านซูชิ


ช่วงเวลาที่อยู่คิตะคิวชิวค่อนข้างนานก้อยก็เลยได้มีทริปหลายทริปไปโน่นนี่อยู่คะ ในปีนั้นที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo ก้อยก็ได้ไปกับเค้าอยู่เหมือนกัน ยิ่งใหญ่อลังการมากอยู่








แถมได้ไปเที่ยวฮิโรชิมาด้วย วันนั้นไปคนเดียวคะ เดินทางไปด้วยรถไฟชินกันเซ็น จากสถานี Kokura ถึง Hiroshima เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟไปที่ท่าเรือเพื่อไปเที่ยว Miyajima เกาะนี้ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน พอไปถึงเกาะก็มีน้องกวางมาเดินต้อนรับ น่ารักมาก และช่างไม่กลัวใครเอาซะเลย แถมมากินแผนที่ของก้อยอีกต่างหาก








จากที่ Miyajima ก็เดินทางกลับไปที่ Hiroshima เพื่อเอาข้าวของไปเก็บไว้ที่อพาทร์เม้นของเพื่อนแล้วไปเที่ยวต่อที่ Hiroshima Peace Memorial Museum ไปที่นี่แล้วก็รู้สึกเศร้าใจไปกับผู้คนที่โดนระเบิดปรมาณู วันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ 6 สิงหาคม 1945 เวลา 8.15 น. ในพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาของผู้ประสบภัยซึ่งหยุดอยู่ตรงเวลานั้นพอดี......








หลังจากที่เมือง Hiroshima ทั้งเมืองได้ถูกทำลายไปในตอนนั้น ทางการญี่ปุ่นก็ได้วางผังเมืองใหม่ จนกลายเป็นว่า Hiroshima เป็นเมืองที่มีผังเมืองที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น


นอกจากนี้ที่ทำงานก้อยก็พาไปดูงานที่เมืองมินามาตะด้วย เมืองนี้อยู่ทางตอนใต้ของเกาะคิวชิว เมืองนี้เป็นจุดเริ่มต้นของโรคมินามาตะ





โรคนี้มีอาการมือและใบหน้า เกิดอาการบวมและเจ็บปวดสายตามัว เกิดอาการเหน็บชา ร่างกายบางส่วนเป็นอัมพาต ความจำเสื่อม บางคนถึงกับเสียสติ และในที่สุดล้มตายลง เมื่อปี พ.ศ.2508 พบคนล้มตายจากโรคมินามาตะถึง 40 คน สาเหตุของโรคเกิดจากชาวบ้านรับประทานปลาที่มีสารปรอทสูง เมื่อสารปรอทสะสมในร่างกายมากๆ ในที่สุดก็ล้มป่วยลงด้วยพิษของปรอท ส่วนสาเหตุที่ปลาบริเวณริมอ่าวมีสารปรอทสูง เพราะบนริมอ่าวเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมผลิตพลาสติก PVC ซึ่งในกระบวนการผลิตใช้สารประกอบของปรอท ได้เกิดการรั่วไหลและการเทสารของปรอทลงในอ่าวเป็นประจำ ในอดีตช่วงที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ปะรเทศญุี่ปุ่นมีโรงงานอุตหสาหกรรมเป็นจำนวนมาก และมีการปล่อยสารพิษสู่อากาศและน้ำในปริมาณมาก ในช่วงเวลานั้นหากเมืองไหนท้องฟ้ามีหลากหลายสีจากควันพิษ ก็จะถูกมองว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวย เพราะมีโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วคะ ญี่ปุ่นกลับมามีฟ้าใสแล้ว





ที่มินามาตะนี้เราก็ได้ไปพักกันที่โรงแรมแบบสไตล์ญี่ปุ่นมากๆ นอนบนเสื้อตาตามิ และมีออนเซ็นด้วยคะ บรรยาการดีมาก ออนเซ็นแบบ open air ท้าทายสายตาชาวโลกสุดๆ อิอิอิ แต่เราก็ไปอาบกันนะคะ เพื่อนคนญี่ปุ่นเค้าบอกว่าเวลามาพักที่โรงแรมแบบนี้คนญี่ปุ่นจะต้องอาบน้ำแร่ให้คุ้มคะ เพราะมันช่างดีต่อผิวพรรณเหลือเกิน วิธีการอาบก็มีอยู่ว่า เมื่อมาถึงโรงแรมก็จัดการไปอาบน้ำแช่น้ำให้สมใจ เสร็จแล้วก็จะมีอาหารมารอเราอยู่ที่ห้อง เราก็หม่ำให้หนำใจเช่นกัน พอกินอิ่มแล้วก็ไปตามน้ำต่อก่อนนอน ตื่นนอนมาตอนเช้าก็วิ่งไปอาบน้ำอีก แ้ล้วพอกลับมาที่ห้องก็จะีมีอาหารเช้ามารอเราอยู่แล้วเช่นกัน สำราญจริงๆ......








อยู่มาถึงตรงนี้ก็เข้าไป 4 เดือน 5 เืดือนแล้ว ยังไม่เห็นมีวี่แววว่าจะเจอใคร แต่ช่วงนั้นก็มีหนุ่มชาวเชคมาเริ่มส่งตาหวาน ไปรู้จักเค้าเพราะก้อยลงเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่ม เพราะมาอยู่คิตะคิวชิวแล้วเค้าไม่ได้ส่งให้เรียนแล้วคะ ก็เลยขวนขวายหาที่เรียนเอาเอง ไปเรียนก็ได้นั่งกันข้างๆ กับหนุ่มเชค เอ.....จะยังไงต่อไปหนอ ไว้มารอลุ้นต่อตอนหน้าคะ


วันนี้ลาไปด้วยสาวงามคนนี้คะ





มีความสุขกันถ้วนหน้านะคะทุกคน รักษาสุขภาพค่า



Create Date : 04 มกราคม 2554
Last Update : 5 มกราคม 2554 1:10:46 น.
Counter : 1421 Pageviews.

17 comments
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่ก้อย ขอให้มีความสุขสมหวังในชีวิตมากๆนะคะ
แต่อยากไปอยู่ญี่ปุ่นมั่งจังเลยอ่ะค่ะ
โดย: Pupae Bonita วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:1:43:54 น.
  
ดีจังเลยที่ได้อ่านเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจากบล๊อกนี้ เพราะปรกติแล้วก็เป็นคนสนใจและก็อยากไปเที่ยวที่นี่มากๆ เลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะพูดภาษาไม่ได้ก็ตาม ฮี่ๆ แต่ก็คงฝันไปก่อนล่ะกัน เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนจริง ๆ ซักที

เจ้าของบล๊อกเป็นคนสวย คมขำมากๆ เลย อย่างนี้ต้องมีหนุ่มๆ เหล่อยู่แล้วล่ะ ขนาดฝนยังชอบเลยอ่ะค่ะ ฮี่ๆ

มีความสุขมากๆ น๊าาา สวัสดีปีใหม่ค่ะ
โดย: น้ำฝน ❤ (CeciLia_MaLee ) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:2:13:26 น.
  
กุมโมโน น่ารักมากเลยนะคะ
โดย: ป้าลี (Dr.sab ) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:3:18:17 น.
  
เอาใหม่...

กิมโมโน.. จะพิมพ์ กิม...ดั๊นนนน ไปเขียนกุม ซะงั้น...จ๊ากกก
โดย: ป้าลี (Dr.sab ) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:3:19:15 น.
  
ย่องมาอ่านบลอคพี่ก้อยค่ะ อิ๊บเคยเรียนญี่ปุ่นนะคะ ตอนม.ปลายสามปี แต่พอเข้ามหาลัยก็เลิก อิ๊บว่ามันยากกกกกกกกกกกกก นับถือพี่ก้อยจริงๆค่ะ
โดย: army_wifey วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:5:13:35 น.
  
น่ารักจังค่ะ ติดใจเรื่องเล่าไว้ต้องมาบ่อยๆซะแล้ววว
โดย: ฑีรฒ วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:5:56:58 น.
  
หหื งอนแล้วนะ
ตามอ่านมา 2 ตอนแล้วนะ ยังเจอเนื้อคู่สักที
แต่...มาเห็นสาวงามแล้วหายงอนและ

ชอบเรื่องของคุรก้อยจังสนุก ได้สาระ คนบ้าน ๆ อย่างกาญจน์ไม่มีวี่แววจะได้ไปต่างประเทสเพราะเรียนก็ไม่เก่ง บ้านก้ไม่รวย อิอิ

สาว ๆ ในห้องงานฝีมือไฝ่ฝันมากที่อยากจะไปญี่ปุ่นเพราะว่าอยากไปช็อปของทำงานฝีมือ มีมีมากมายหลายหลาย น่าใช้ ๆ ๆ ทั้งนั้น
โดย: หมูหวานน้อย วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:9:53:38 น.
  
เคยไปเที่ยว1ทีค่า.....ชอบๆๆๆๆๆๆ
โดย: โปแป้ง (popang ) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:10:33:54 น.
  
สวัสดีค่ะหนูก้อย
ป้าแอ๊ดกลับไปอ่านชีวิตของหนูก้อยตั้งแต่เรียนที่ยะลาแล้วละค่ะ
หนูก้อยเป็นคนเรียนเก่ง เรียนดีมาตลอด จบปริญญาก็ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 น่ายินดีจริงๆ
และก็ได้มาดูงานที่ญี่ปุ่นเป็นการใช้ชีวิตที่ค้มค่ามากที่สุด

ป้าแอ๊ดจะติดตามอ่านจนกว่าหนูก้อยจะได้พบกับเนื้อคู่จนได้ไปอยู่ชิลีนะคะ

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ลูกชายป้าแอ๊ดคนเล็ก ก็จบปริญญาตรีและโทจากเภสัชฯ ที่มหิดลค่ะ
ปัจจุบันกำลังเรียนปริญญาเอกที่คณะเภสัชฯ มหิดลอยู่เช่นกันค่ะ

โดย: addsiripun วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:11:36:21 น.
  
น่าสนุกจังเลยค่ะ อ่านแล้วอยากไปเที่ยวทันที จะมาอ่านตอน 3 อีกนะคะ
โดย: ชมชล วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:14:28:00 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณก้อย

อ่านบทความแล้ว อยากไปบ้างจัง
ชอบกินอาหารญี่ปุ่นค่ะ อิอิ

ตกลงเรื่องเนื้อคู่..ใช่เลยป่าวค่ะ..อ่านไปลุ้นไป
โดย: angelina_jerry วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:17:35:57 น.
  
เคยไปฮิโรชิมา มิยาจิมา มาเหมือนกันค่ะ คิดถึงอยากไปอีก
โดย: pim(พิม) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:19:29:41 น.
  
พี่ก้อยได้ไปหลายที่จัง ดีจังเลยค่ะ โยเกริ์ตน่าทานมากเลย อิ๊บนะชอบโยเกริ์ตมากๆ อยู่เกาหลีกินทุกวันเลย แต่ตอนนี้คิดว่าโยเกร์ตบ้านเราอร่อยสุด เพราะมีสตรอเบอรรี่เป็นลูกๆ แต่ที่นี่มาเป้นเศษๆ ฮี่ๆๆ

ลูบหัวแคโกกิให้แล้วนะคะ
โดย: army_wifey วันที่: 25 มกราคม 2554 เวลา:12:57:31 น.
  
เข้ามาอ่าน เหมือนได้ไปเที่ยวเลยง่า ฮ่าๆๆ เจ้าของบล็อคมีความสุขจัง ดูรูปแล้วยิ้มตามไปด้วย

ปล.อาหารน่าทานมาก หิวตอนดึกเลยง่ะ
ขอบคุณนะคะ ที่ไปเยี่ยมกันที่บล็อก
โดย: miss.juon วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:3:34:20 น.
  
สวัสดียามดึก ๆ ค่ะ

มาขอตามไปเที่ยวอีกแล้ว คุณก้อยเล่าได้สนุกมาก ๆ

สบายดีนะคะ

โดย: แจ๊ก แม่น้องปลาวาฬ (Lilla bubben ) วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:3:52:41 น.
  
พี่ก้อย ป่านนี้ทำอะไรอยู่น้า
โดย: javee วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:07:51 น.
  
โดย: javee วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:39:51 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Adorable Corazon
Location :
Santiago  Chile

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



สวัสดีคะ ชื่อก้อยนะคะ เกิดปี พ.ศ.2520 คะ จะเรียกพี่เรียกน้องหรือป้าก็ได้นะคะ เพื่อความสนิทสนม อิอิ

ตอนนี้อยู่ที่ชิลีคะ เป็นประเทศที่ไกลจากเมืองไทยที่สุดก็ว่าได้ แต่ด้วยความรักที่คุณสามีมีให้เลยทำให้ตัดสินใจย้ายมาอยู่ซะไกลขนาดนี้

ยินดีที่รู้จักทุกคนในบล๊อกแกงค์นะคะ เวปนี้มีประโยชน์มากจริงๆ ก้อยได้เรียนรู้หลายอย่างจากเพื่อนๆ ในนี้ ทั้งการทำอาหาร การเย็บผ้า รวมถึงเรื่องน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย รักบล๊อกแกงค์และทุกคนในนี้มากคะ

ขอบคุณจริงๆสำหรับมิตรภาพที่ทำให้อุ่นใจแม้จะอยู่ห่างกันไกลแสนไกล ^_^