ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

บัวลอยสามสี


บัวลอยสามสี เมนูของหวานไทยที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี บัวลอยที่จะทำในวันนี้จะเป็นบัวลอยสามสี ซึ่งสีทั้งหมดจะได้มากจากธรรมชาติ นั้นก็คือ สีเขียวจากใบเตย สีเทาจากเผือก และสีเหลืองจากฟักทอง รับรองว่าทำไม่ยาก ตามมาเข้าครัวกันเลยครับ

วัตถุดิบ


1.แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
2.น้ำใบเตยปั่น 1/2 ถ้วย
3.เผีอกนึ่งบด 1/2 ถ้วย
4.ฟักทองนึ่งบด 1/2 ถ้วย
5.กะทิ 400 มล.
6.น้้ำตาลทราย 120 กรัม
7.เกลือ 1 ชช.
8.ใบเตย 3 ใบ




ระยะเวลา 60 นาที

วิธีทำ

1.แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน เพื่อนวดแป้งบัวลอยให้ได้ 3 สี
2.นำแป้งไปผสมกับน้ำใบเตยปั่น ค่อยๆผสมให้เข้ากัน นวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นพักไว้ก่อน
3.นำแป้งไปผสมกับฟักทอง+น้ำเปล่า 1 ชต. ค่อยๆผสมให้เข้ากัน นวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นพักไว้ก่อน
4.นำแป้งไปผสมกับเผือก+น้ำเปล่า 1 ชต. ค่อยๆผสมให้เข้ากัน นวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นพักไว้ก่อน
5.เมื่อได้แป้งครบทั้งสามสีแล้ว โรยแป้งให้ทั่วถาดที่จะทำการปั้นแป้ง ปั้นแป้งเป้นก้อนกลม ขนาด 1 ซม.
6.กลิ้งแป้งให้ทั่วถาดที่โรยนวลไว้แล้ว แป้งบัวลอยจะได้ไม่ติดกัน เสร็จแล้วนำตะแกรงมาร่อนเศษแป้งออกด้วย
7.ต้มน้ำให้เดือด ในแป้งบัวลอยลงต้ม เมื่อสุกแล้วแป้งจะลอยขึ้นมาด้านบน
ตักขึ้นมาพักไว้ในน้ำเย็น
8.ตักแป้งบัวลอยเสริฟ์คู่กับน้ำกะทิ เป็นอันเสร็จ




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2558 20:02:16 น.   
Counter : 1622 Pageviews.  

เมนู ต้มแซบกระดูกอ่อน แซบครบเครื่อง

 สวัสดีค่ะวันนี้จะมานำเสนอ สูตรเด็ดเคล็ดลับ เมนูอาหารแบบแซบๆ บางดีกว่านะค่ะ วันนี้เสนอสูตร ต้มแซบกระดูกอ่อน กินกับข้าวสวยร้อนๆ อาหารที่ใครหลายคนชื่นชอบและสามารถทำกินเองได้ง่ายเลยค่ะ สามารถทำกินเองได้ที่บ้านประหยัดไปหลายมื้อเลยค่ะ



(เป็นเพียงภาพประกอบ)

ส่วนผสม (สำหรับ 2-3 ที่)

  • กระดูกอ่อนหมู  200 กรัม
  • มะเขือเทศสีดา  3-4  ลูก
  • หอมเล็กเผาแกะเปลือกบุบพอแตก 3 หัว
  • ข่าบุบหันแว่น 1  แง่ง
  • ตะไคร้บุบหั่นทอนยาว 1-2 นิ้ว  2  ต้น
  • ใบมะกรูดฉีก  5-6  ใบ
  • ผักชีเลื่อยหั่นทอน 0.5 นิ้ว  1  ต้น
  • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา  2-3  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1-2  ช้อนชา
  • น้ำมะขามเปียดคั้นข้น  3-4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 2-3 ถ้วย
  • พริกขี้หนูแห้งทอดกรอบสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

  1. ล้างกระดูกหมูให้สะอาด นำไปลวกในน้ำเดือดเพื่อล้างกลิ่นคาว แล้วตักขึ้นพักไว้
  2. เทน้ำใส่หม้อแล้วนำไปต้ม ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน ใส่กระดูกหมูลงไป รอให้เดือดจึงใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมเล็ก จากนั้นหรี่ไฟอ่อน แล้วต้มต่อประมาณ 30 นาทีหรือจนกระดูกหมูเปื่อยนุ่ม
  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก และพริกป่น ชมรสตามชอบ ใส่มะเขือเทศลงไป แล้วต้มต่ออีก 10 นาที ใส่ผักชีใบเลื่อย แล้วปิดเตา
  4. ตัก ต้มแซบกระดูกอ่อน ใส่ชาม โรยพริกขี้หนูแห้งก่อนเสิร์ฟ

เคล็ดลับความอร่อย

ควรใช้กระดูกอ่อนและกระดูหมูธรรมดาปนกัน เพราะกระดูกหมูช่วยให้น้ำซุปมีรสชาติอร่อยกลมกล่อมหมูนิ่มอร่อยมากขึ้น

---------------------------




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2558 20:00:57 น.   
Counter : 982 Pageviews.  

สูตร น้ำพริกปลาร้า


เครื่องปรุง

ปลาร้าอย่างดี 200 กรัม
ปลาทูสดหรือปลาช่อน 500 กรัม
พริกชี้ฟ้า 100 กรัม
กระเทียมเป็นหัว 60 กรัม
พริกขี้หนูสวน 20 กรัม
น้ำมะนาว 5-6 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ดใบ 2-3 ต้น


วิธีปรุง

1. ทำความสะอาดปลาทูสดหรือปลาช่อน นำไปต้มสุกแล้วแกะเอาแต่เนื้อออก
2. นำเนื้อปลาในข้อ 1 ไปย่าง
3. ต้มปลาร้าจนสุก กรองเอาแต่น้ำ พักไว้
4. นำหอมกระเทียมมาเผาและคั่วพริกพอสุกโดยไม่ต้องใส่น้ำมัน
5. นำหอมเผา พริกขี้หนู กระเทียมโขลกเข้าด้วยกัน ใส่เนื้อปลาต้มและเติมน้ำปลาร้า
พอประมาณ กะให้ความข้นพอดีไม่ข้นหรือใสเกินไป ปรุงด้วยน้ำมะนาวให้รสกลมกล่อม
กับรสเค็มของปลาร้า โรยด้วยผักชีเด็ดใบรับประทานกับผักสด ผักต้ม ฯลฯ


เมนูอาหารอื่น ๆ https://www.facebook.com/groups/jarnprod/




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2558 20:00:15 น.   
Counter : 789 Pageviews.  

ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก สูตรแจกฟรี ๆ ทำขายตามสบาย



   อยากทำก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตกขายแต่ไม่อยากเสียเงินซื้อสูตร สนใจของฟรีไหม เรามีมาแจกพร้อมเคล็ดลับเด็ดเพียบ

          ใครที่กำลังมองหาสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตกไว้ทำขาย สร้างรายได้แบบจริงจัง แต่ไม่อยากเสียตังค์หลายบาทเข้าครอสสอนทำ หรือไปซื้อสูตรราคาแพงลิบลิ่ว วันนี้กระปุกดอทคอมมีสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตกมาแจกแบบฟรี ๆ จาก เฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา ที่ดูดีน่ากินมาก ๆ มาพร้อมเคล็ดลับเด็ดมากมาย จดสูตรแล้วทำขายได้เลยจ้า

แจกฟรี !!! "ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตกเนรัญชลา สูตร 1" สูตรเด็ด ไม่เสียเงิน จาก เฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา
          ก๋วยเตี๋ยวเรือนั้นมีหลายสูตร สูตรเด็ดของใครสูตรเด็ดของมัน และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสูตรของเนรัญชลา ที่ขอนำมาเสนอให้ได้ลองนำไปทำรับประทาน หรือทำขายกันนะคะ เพราะเห็นว่าหลายคนที่อยากประกอบอาชีพค้าขาย บางท่านหากอยากได้สูตรเด็ดสูตรดี ก็ต้องไปซื้อไปหาสูตรกันมาในราคาแพง ๆ วันนี้แอดมินเนรัญชลานำมาแจกฟรีค่ะ

โดยเคล็ดลับการทำอาหารให้อร่อยของเนรัญชลา ก็คือ การใช้สัญชาติญาณของแม่ครัวที่ใช้หัวใจในการทำอาหาร หากอยากทำอาหารให้ลูกค้าติดใจต้องใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด แม้จะเป็นอาหารธรรมดาแบบพื้น ๆ ก็ตาม
เคล็ดลับของก๋วยเตี๋ยวเรือ คือ น้ำซุปต้องหอม รสชาติต้องกลมกล่อมสมดุลกัน ตักราดลงบนเส้นแล้วต้องไม่จืดชืด ผักทุกชนิดที่ใช้ต้องสด เนื้อสัตว์ต้องใหม่ไม่มีกลิ่นตุ เพราะทุกองค์ประกอบล้วนส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติของอาหารทั้งหมดทั้งสิ้น...
ส่วนผสม น้ำซุปก๋วยเตี๋ยว

           น้ำเปล่า 10 ลิตร
           กระดูกเอียวเล้ง 1 ก.ก.
           เครื่องตุ๋นหมูน้ำข้น 2 ชุด
           กระเทียมดอง 5 หัว
           น้ำกระเทียมดอง 1/2 ถ้วยตวง
           ข่าแก่ (ยาว 2 นิ้ว) บุบพอแตก 1 ท่อน
           รากขึ้นฉ่าย 5 ราก
           ใบเตย 8 ใบ
           เกลือป่น 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
           น้ำตาลมะพร้าว 150-200 กรัม
           เต้าหู้ยี้ 10 ก้อน
           ซีอิ๊วดำ 7-8 ช้อนโต๊ะ
           ซีอิ๊วขาว (สูตร 1) 1/2 ถ้วยตวง
           ซอสปรุงรสฝาเขียว 1/2 ถ้วยตวง
           เลือดหมูสด 2 ถ้วยตวง
           ใบตะไคร้
           เหล้า 2 ช้อนโต๊ะ
           ลูกกระวานไทย 5 ลูก
           ใบกระวาน 3 ใบ

ส่วนผสม เนื้อหมูกหมัก

           เนื้อสะโพกหมู 1 ก.ก.
           ไข่แดง 2 ฟอง
           แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
           น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
           ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
           ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ

เครื่องก๋วยเตี๋ยวอื่น ๆ

           เส้นก๋วยเตี๋ยวตามชอบ
           ลูกชิ้นหมูอย่างดี
           ขึ้นฉ่ายซอย
           ถั่วงอก
           ใบโหระพา
           กากหมูเจียวกรอบ
           ผักชีฝรั่งซอย
           พริกไทยป่น
           ตับหมูหั่นบาง ๆ

วิธีทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว
สำหรับน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวสูตรนี้ จะใช้ส่วนผสมต่ออัตราส่วนของน้ำเปล่า 10 ลิตรนะคะ คือถ้าใช้น้ำในปริมาณที่มากขึ้น สัดส่วนของเครื่องปรุงและส่วนผสมต่าง ๆ ของการทำน้ำก๋วยเตี๋ยว ก็ต้องคูณเพิ่มไปด้วยเช่นกัน




           ใส่น้ำ 10 ลิตรลงในหม้อก๋วยเตี๋ยว นำขึ้นตั้งไฟแรง ใส่เครื่องตุ๋นหมูน้ำข้นลงไป 2 ห่อ ตามด้วยลูกกระวาน และใบกระวาน ตามด้วยเกลือป่น ปิดฝาต้มให้เดือด

หมายเหตุ : เครื่องตุ๋นหมูน้ำข้นสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายของชำในตลาด หรือร้านที่ขายวัตถุดิบสำหรับทำก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจากภาพดิฉันได้แยกส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในซองเครื่องตุ๋นออกจากกัน เพื่อให้เห็นว่า ด้านในประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และก่อนที่จะใส่เครื่องตุ๋นลงไปในหม้อ ทางที่ดีเราควรจะนำไปล้างน้ำเสียก่อน เพื่อชำระล้างเอาเชื้อรา ฝุ่น หรือเม็ดทราย ที่อาจมีปนเปื้อนอยู่ออกไป นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเทศอีกสองชนิดที่ต้องใส่ลงไปเพิ่มเพราะในชุดหมูตุ๋นนั้นไม่มี นั่นก็คือ ลูกกระวาน 5 ลูก และใบกระวานอีก 3 ใบ





           เมื่อน้ำเดือดพล่านแล้วจึงใส่กระดูกเอียวเล้งลงไป ปิดฝาหม้อต้มจนเดือด แล้วจึงหรี่ไฟให้เหลือไฟอ่อน ๆ




          ใส่กระเทียมดองและน้ำกระเทียมดองลงไป ตามด้วยรากขึ้นฉ่าย ข่าแก่ และใบเตย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลมะพร้าว และซีอิ๊วดำ แล้วปิดฝาหม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนต่อไปเรื่อย ๆ

หมายเหตุ : เครื่องปรุงแต่ละยี่ห้อจะให้รสและสีที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรใช้วิจารณญาณในการกะปริมาณเครื่องปรุงให้เหมาะสมด้วยตัวเอง แต่สำหรับสูตรนี้ดิฉันใช้ซีอิ๊วขาวสูตร 1 และซอสปรุงรสฝาเขียวค่ะ ส่วนน้ำตาลมะพร้าวก็ใช้น้ำตาลมะพร้าวแท้ที่มาจากจังหวัดสมุทรสงคราม เพราะให้กลิ่นหอมและช่วยให้รสน้ำซุปกลมกล่อมโดยที่ไม่ต้องใส่ผงชูรสเลย แต่ถ้าใครอยากจะใส่ผงชูรสก็สามารถใส่ได้ตามความชอบ

           น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่หวานหอม ควรใช้เวลาในการต้มอย่างน้อยๆ 1 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ความหวานตามธรรมชาติในกระดูกนั้นละลายออกมากับน้ำซุป ยิ่งต้มนานก็ยิ่งอร่อย




           เมื่อน้ำซุปเดือดได้ที่แล้ว โขลกเต้าหู้ยี้ให้ละเอียดละลายใส่ลงไป 

           นำเลือดหมูสดมาขยำกับใบตะไคร้ในภาชนะสักครู่ขยำเสร็จแล้วนำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ ๆ จากนั้นตักน้ำก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาสักกระบวย ใส่ลงไปในภาชนะที่ใส่เลือดหมู ใช้ช้อนคนเร็ว ๆ ให้เข้ากัน

           เร่งไฟแรง จากนั้นจึงละลายเลือดใส่ลงไปในหม้อน้ำซุป คนเล็กน้อยให้พอเข้ากัน แล้วหรี่ไฟอ่อนตามเดิม (ภาพการคั้นเลือดหมูไม่ได้ถ่ายเอาไวจึงไม่มีนะคะ คิดว่าน่าจะพอจินตนาการได้)


วิธีหมักหมูนุ่ม (ด้วยวิธีธรรมชาติ)




            ขั้นตอนต่อไปนี้จะบอกวิธีการหมักหมูให้เนื้อนุ่มด้วยวิธีธรรมชาติ คือ ให้ใช้เนื้อหมูส่วนสะโพก หั่นสไลซ์เป็นชิ้นบาง โดยมีอัตราส่วนในการหมักดังนี้...

            คลุกเคล้าเนื้อหมูกับไข่แดง แป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส ให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เราก็จะได้เนื้อหมูที่นุ่มและไม่เหนียวค่ะ

ขั้นตอนการเตรียมเครื่องก๋วยเตี๋ยวอื่น ๆ




           วัตถุดิบอื่น ๆ นั้นก็สำคัญมิใช่น้อย ผักต้องสดและล้างให้สะอาดไม่มีคราบดินติด

กากหมูเจียว ต้องสดใหม่หรือถ้าไม่มีกากหมูก็สามารถใช้แคบหมูแทนได้

กระเทียมเจียว ควรใช้กระเทียมไทยกลีบเล็ก โขลกแล้วเจียวเองจะหอมอร่อยมากกว่า

 ลูกชิ้นหมู ก็ควรใช้ลูกชิ้นอย่างดี ลูกค้าจึงจะชื่นชอบ อย่าประหยัดงบด้วยการใช้ลูกชิ้นเกรดต่ำราคาถูกที่มีไว้สำหรับย่างขายนำเอามาทำก๋วยเตี๋ยวอย่างเด็ดขาด !!!

แม้แต่พริกป่น ก็ควรคั่วเอง โขลกเองจึงจะหอมหวลชวนรับประทานมากกว่าพริกป่นเก่าๆที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปค่ะ


ขั้นตอนประกอบร่างก๋วยเตี๋ยวเรือ




           ลวกถั่วงอก และลวกเส้นในน้ำเดือด ๆ ใส่ไว้ในชาม (การที่จะลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวให้อร่อย ได้เส้นไม่ดิบไม่แฉะนั้นจะต้องลวกในน้ำที่ร้อนจัด ๆ นะคะ และลวกเร็ว ๆ) ก่อนใส่ลงชามก็สะบัดตะกร้อสักหน่อยเพื่อให้สะเด็ดน้ำ ตักน้ำมันกระเทียมเจียวสักเล็กน้อยนำลงไปคลุกเคล้ากับเส้น

           โรยพริกไทยป่น ตามด้วยขึ้นฉ่ายและผักชีฝรั่งซอยอย่างละเล็กอย่างละน้อย

           ลวกหมูที่เราหมักเอาไว้ ตามด้วยตับหมูกับลูกชิ้นลงใส่ (แต่สูตรนี้ดิฉันไม่ได้ใส่ตับหรอกค่ะ เนื่องจากสมาชิกที่บ้านค่อยไม่ชอบตับกัน)
จากนั้นก็ตักน้ำซุปลงราด

           ตบท้ายด้วยการโรยหน้าด้วยเนื้อกระเทียมเจียวหอม ๆ กับกากหมูกรอบ ๆ สักหน่อย เสิร์ฟพร้อมถั่วงอกดิบและใบโหระพาค่ะ

          เอาล่ะ ใครที่กำลังหาสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือเด็ด ๆ ไว้ทำกินก็ได้ หรือหาไว้ทำขายก็ดี ขอแนะนำสูตรนี้เลยค่ะ เพราะดูน่ากินมาก ๆ เลยทีเดียว





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา

เมนูอาหารอื่น ๆ https://www.facebook.com/groups/jarnprod/




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2558 19:59:08 น.   
Counter : 1740 Pageviews.  

3 สูตรน้ำพริกอ่อง อร่อยไม่รู้เบื่อ

น้ำพริกอ่อง หรือ Nam Prik Aong (Northern Thai Meat and Tomato Spicy Dip) น้ำพริกรสอร่อยของชาวเหนือ ผสมรสหวานของเนื้อหมู เสน่ห์รสเปรี้ยวอมหวานของมะเขือเทศ ทำให้น้ำพริกถ้วยนี้มีรสชาติอร่อยอย่างไม่รู้เบื่อ ลองถ้าได้นำน้ำพริกอ่องมารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ แนมด้วยผัก ระวังจะทานเพลินจนข้าวหมดไม่รู้ตัว แม้แต่คนที่ไม่ชอบทานมะเขือเทศ ลองหาน้ำพริกอ่องมาทำทานดูวิธีทำนั้นไม่ยาก แล้วคุณอาจจะหลงรักมะเขือเทศขึ้นมาก็ได้ เมื่อได้ทานแล้วก็อยากทานอีก อร่อยและได้คุณค่าเช่นนี้ เราก็อยากให้ลองมาทำทานกัน สูตรวิธีทำน้ำพริกอ่องก็ง่ายๆตามนี้เลยครับ


สูตรที่ 1 น้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิม ชาวเหนือ

น้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิมจะไม่ใส่น้ำตาล เพราะรสเปรี้ยวและหวานจะได้จากผลของมะเขือเทศ ที่ผสมรสหวานของเนื้อหมูอีกด้วย
ส่วนผสมของน้ำพริกอ่อง
เนื้อหมูบด 400 กรัม
มะเขือเทศลูกเล็ก 20 ลูก
ผักชีและต้นหอมซอย (เพื่อโรยหน้า) อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

เครื่องแกงน้ำพริกอ่อง
พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
กระเทียมไทย (กลีบเล็ก หรือกลีบใหญ่ก็ได้) 10 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ ½ ช้อนชา


วิธีทำ

1. โขลกพริก หอมแดง กระเทียม รวมกันให้ละเอียด
2. ใส่กะปิและเกลือ โขลกให้เข้ากัน
3. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมัน จนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูบด ลงผัดให้สุก เติมน้ำเล็กน้อย
4. พอเดือด ใส่มะเขือเทศ ลงผัดให้เข้ากัน ตั้งไฟต่อจนมะเขือเทศสุก ปิดไฟ


สูตรที่ 2 น้ำพริกอ่องสูตรนี้ทำง่าย อร่อยเวอร์

สำหรับสูตรนี้จะไม่เหมือนสูตรของทางเชียงใหม่ สูตรนี้จะออกหวานนิดๆและมีรสชาติกลมกล่อม สามารถรับประทานได้ไม่รู้เบื่อ

(รูปภาพจาก:Tukata001 )

ส่วนผสมน้ำพริกอ่อง
หมูสับ ใช้หมูติดมันจะอร่อย เพราะนิ่ม
มะเขือเทศ 15-20 ลูก
พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด (ชอบเผ็ด)
กระเทียม 5 กลีบ (กระเทียมฝรั่ง)
หอมแดง 3 หัว (หอมแดงฝรั่ง)
กะปิ 1/2 ชช

เกลือ 1/2 ชช
น้ำปลาดี 3-4 ชต (ชิมรสเอานะคะ)
น้ำตาลปี๊บ 2 ชต
น้ำมะขามเปียก 3 ชต
ผักตามชอบ วันนี้ มีผักชี และแตงกวา


วิธีทำ
1. นำพริกแช่น้ำให้เปื่อย นำพริก กระเทียม หัวหอม กะปิ รากผักชี นำไปใส่ครกโขลกรวมกันหรือใส่ในเครื่องปั่นบดให้เข้ากัน พร้อมมะเขือเทศให้ละเอียด
2. นำเครื่องแกงที่ได้ (จากข้อ 1) ลงผัดในน้ำมันให้หอม
3. นำเนื้อหมูสับใส่ลงผัดต่อให้สุก
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก ให้ได้ออกสามรส คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม
5. แค่นี้ก็เสร็จ ตักใส่ถ้วยได้ทานกับผักสดตามชอบแล้ว

สูตรที่ 3 น้ำพริกอ่อง สูตรอร่อยต้องลอง

เป็นสูตรน้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิมต้นตำรับที่วิชัย ทาเปรียว ข่าวสดเชียงใหม่นำมาบอกกล่าวกัน มีเครื่องปรุงและวิธีทำอย่างไรบ้าง…ไปดูกัน


เครื่องปรุง
หมูสับ 250 กรัม
มะเขือเทศลูกใหญ่ 3-4 ลูก
พริกแห้งบางช้างหั่นเป็นท่อน
(เอาเมล็ดออกแช่น้ำ 3 เม็ด)

ข่า 2 แว่น
กะปิปิ้งไฟ หรือถั่วเน่า 1 ช้อนชา
หอมแดง 2 หัว
กระเทียมกลีบเล็ก 4 กลีบ
รากผักชี 2 ราก
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา พอประมาณ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
รสดีรสหมู 1 ช้อนชา
ต้นหอมซอย พอประมาณ
ผักชีซอย พอประมาณ

วิธีทำ
1. นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เท่าที่จะเล็กได้ ต้นหอมผักชีซอยเตรียมไว้
2. ลงมือเตรียมเครื่องน้ำพริกเอาไว้ เริ่มจากนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ข่า รากผักชี กะปิหรือถั่วเน่าใส่ครกแล้วโขลกให้ละเอียดเข้ากัน นำหมูสับลงไปย้ำกับครกให้เข้ากับเครื่องแกงน้ำพริกที่โขลกไว้ นำมะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครกแล้วย้ำให้เข้ากัน แต่อย่าให้ละเอียด
3. นำกระทะตั้งไฟ (ใช้ไฟอ่อนๆถึงปานกลาง) ใส่น้ำมันลงไป พอร้อนใส่กระเทียมสับที่เหลือลงไป ผัดให้หอม
4. นำเครื่องที่โขลกกับหมูไว้ลงผัดให้ทั่ว ใส่รสดีรสหมูลงไปผัดด้วยไฟอ่อน (คั่วน้ำพริกแกงอย่าให้ไหม้ เพราะจะทำให้มีรสขมได้)
5. ปรุงรสด้วยน้ำปลา แล้วเคี่ยวจนกระทั่งมะเขือเทศเปื่อย
6. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชี ต้นหอม เสิร์ฟพร้อมกับผักสด และแคบหมู

เครื่องเคียงรับประทานกับน้ำพริกอ่อง
แคปหมู, ข้าวเหนียว หรือข้าวสวย
ผักต้มหรือนึ่งตามชอบ เช่น ฟักทอง, กะหล่ำปลี, ฟักเขียว, บวบ, ดอกแค, หัวปลี
ผักสด เช่น ยอดกระถิน, ถั่วพู, แตงกวา, มะเขือเปราะ, ถั่วฝักยาว, ผักไผ่, ผักชีฝรั่ง, สะระแหน่, ผักกาดขาว

แนะนำเพิ่มเติม
  • มะเขือเทศควรจะใช้มะเขือเทศผลเล็กชนิดเป็นพวง คือมะเขือส้ม ตามที่คนภาคเหนือเรียก เพราะจะมีรสเปรี้ยวกว่ามะเขือเทศผลใหญ่ 
  • ส่วนเนื้อหมูควรจะเป็นหมูติดมันเล็กน้อย (จะนิ่มและอร่อย) และสับให้ขาดไม่ติดเป็นพวง หรือเลือกใช้ส่วนสะโพกหมู หรือหมูเนื้อแดง หรือหมูส่วนสันนอกจะอร่อยกว่าแบบซื้อหมูบดสำเร็จครับ… (ซื้อที่ตลาดให้เค้าบดมาเลยก็ได้ครับ)
  • ถ้าจะให้ดีกับสุขภาพควรทานคู่กับผัก จะได้ช่วยในระบบขับถ่ายได้ดี และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรทานกับผักสด (เพราะผักต้มจะสูญเสียวิตามินซีไปกับการต้ม) นอกจากนี้ สามารถเลือกรับประทานคู่กับผักที่มีในท้องถิ่นของเราเอง ถ้าหากอยากจะได้รับสารอาหารหลากหลายจากผัก ก็ควรรับประทานกับผักหลากสีหลากชนิดนะครับ
  • ในมะเขือเทศอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่มากมาย ทั้งวิตามินซีสูงช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยชุ่มชื่น มีสารไลโคพีน มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอย มีวิตามินเอบำรุงสายตา มีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ช่วยระบบการย่อย ช่วยการขับถ่ายอุจจาระ และประโยชน์อีกมากมาย
  • ควรระวังปริมาณไขมัน ดังนั้นน้ำมันพืชที่ใช้ผัด...ควรใส่ให้น้อย




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2558   
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2558 22:05:56 น.   
Counter : 1501 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  

thainewcar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add thainewcar's blog to your web]