Group Blog
โรงเรียนประสาทวิทยาศาสตร์ School of Neuroscience
ประสาทวิทยาศาสตร์จะช่วยปฏิรูปการศึกษาได้อย่างไร
จากบ้านนามาเรียนต่างแดน
เที่ยวไปตามประสา Fantastic Tour
โรงเรียนวิทยาศาสตร์เซลล์ต้นกำเนิด School of Stem Cell Sciences
Neuropharmaceuticals
สมุดเยี่ยม
ร้อยเรื่องเมืองอีสาน
โรงเรียนเภสัชศาสตร์ School of Pharmacy
ศัพท์น่ารู้วันละคำ
ธรรมะสมดุล Dhammodynamics
ห้องข่าวงานวิจัยเด่น
ประสาทเทคโนโลยี Neurotechnology Era: 2010-2050
ประสาทเศรษฐศาสตร์ Neuroeconomics
Pharmacology of Neurogenesis and Neuroenhancement
ที่ว่างของวีระพงษ์
AFSC: เซลล์ต้นกำเนิดจากน้ำคร่ำ
หากินกับเซลล์ต้นกำเนิด
All Blogs
ทีวี: พิษภัยใกล้ตัวสำหรับเด็กเล็ก
โอกาสของนักเรียนบ้านนอก กับ นักเรียนในเมือง
เป้าหมายการศึกษา
ทีวี: พิษภัยใกล้ตัวสำหรับเด็กเล็ก
โทรทัศน์หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าทีวีนั้น เป็นเครื่องรับสัญญาณคลื่นความความรู้ ข่าวสาร และความบันเทิงมาทุกยุกทุกสมัย ภาพครอบครัวที่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาหน้าจอทีวีนั้นดูเหมือนเป็นสิ่งที่สังคมอาจมองว่าเป็นการสร้างความอบอุ่นและสัมพันธภาพที่ดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว บางครอบครัวมีเครื่องทีวีประจำในห้องนอนของลูกๆ พอเด็กๆ ตื่นนอนก็ต้องเปิดทีวีเป็นอันดับแรก หรือบางบ้านมีลูกน้อยกำลังหัดคลานหัดเดินก็ปล่อยไว้หน้าจอทีวีด้วยเชื่อว่าเด็กจะได้เห็นตัวการ์ตูนในทีวีเป็นเพื่อนไปพลางๆ ในขณะที่พ่อแม่ต้องทำภาระกิจอื่น
เนื่องจากช่วงเด็กแรกเกิดจนถึง 3 ปี จะเป็นช่วงที่เรียนรู้ภาษา, ทักษะทางสังคมและร่างกายมีพัฒนาการด้านต่างๆ อย่างเห็นได้ชัด โครงสร้างและการทำงานของสมองมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีปัจจัยหลายอย่างทั้งภายในตัวเด็กเองและสิ่งแวดล้อมที่เด็กเรียนรู้ล้วนมีผลต่อความยืดหยุ่นของสมอง (brain plasticity) ที่จะเป็นตัวเบ้าหลอมโครงสร้างและการทำงานของสมองในอนาคตเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การรับชมทีวีจึงมีผลต่อการเรียนรู้เด็กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Dr Aric Sigman ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Associate Fellow of the British Psychological Society ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาที่ศึกษาผลของทีวีต่อสุขภาพมาเป็นเวลานานได้แถลงต่อคณะสมาชิกวุฒิสภาของสหราชอาณาจักรในการประชุมที่จัดโดยองค์กรด้านสื่อสารมวลชน Mediawatch-UK
โดยผลเสียของการดูทีวีที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน ได้แก่ รูปแบบการนอนหลับที่ผิดปกติ (irregular sleep pattern) ลดอัตราเผาผลาญพลังงานในขณะพัก (resting metabolic rate) จนอาจทำให้เกิดโรคอ้วน เวลาที่เด็กพูดกับผู้ใหญ่ลดน้อยลง เด็กมีทักษะทางสังคมแย่ลง และที่สำคัญคือเด็กมีสมาธิ (concentration) และความจดจ่อ (attention) แย่ลง จนอาจทำให้เกิดโรคความจดจ่อเสื่อมหรือสมาธิสั้น (attention deficit hyperactivity disorder) และทีวีอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคออติซึมโดยเมื่อปลายปีที่แล้ว Cornell University, Indiana University และ Purdue University ได้ศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างการดูทีวีและการเกิดอาการออติซึมในเด็กอเมริกัน
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าภาพในจอทีวีที่เคลื่อนไหวค่อนข้างเร็วจะลดความสามารถของเด็กในการจดจ่อสนใจ ขาดสมาธิในการเรียนรู้ นอกจากนี้ทีวียังมีแสงสว่างจ้า สีสรรมากเกินไป เต็มไปด้วยตัวกระตุ้นเทียมที่ไม่มีจริงในชีวิตตามธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการพัฒนาสมองทั้งในด้านโครงสร้างและหน้าที่การทำงานซึ่งจะส่งผลในระยะยาวเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
ข้อเสนอของ Dr Aric Sigman
เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี ไม่ควรให้ดูทีวี
เด็กอายุ 3-7 ปี ควรให้ดูทีวีได้ไม่เกินวันละ 30-60 นาทีต่อวัน
เด็กอายุ 7-12 ปี ควรให้ดูทีวีได้ไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง
เด็กอายุ 12-15 ปี ควรให้ดูทีวีได้ไม่เกินวันละ 1.5 ชั่วโมง
เด็กอายุ 16 ปีขึ้นไป ควรให้ดูทีวีได้ไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง
ทีวีเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเกือบจะทุกบ้าน ให้สาระและความบันเทิงและเป็นเพื่อนคนไทยมาเป็นเวลาช้านาน รายการทีวีในเมืองไทยมีส่วนช่วยพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยมากน้อยเพียงใด ผู้ปกครองสนใจอิทธิพลของทีวีที่มีต่อลูกหลานตัวเองหรือไม่ อย่าปล่อยให้เด็กเล็กอยู่หน้าจอทีวีตลอดเลยครับ พาพวกเขาไปเรียนรู้ธรรมชาตินอกบ้าน สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น ถึงแม้เรายังไม่สามารถสรุปแน่ชัดว่าทีวีเป็นตัวการทำลายสุขภาพเด็ก แต่การจำกัดช่วงเวลาการดูทีวีและส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายก็จะช่วยให้สมองของลูกรักได้มีการเรียนรู้อย่างสมดุลและป้องกันปัญหาที่ตัวเราคาดไม่ถึงได้
เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือพิมพิ์ guardian ฉบับวันที่ 24 เมษายน 2550
//www.guardian.co.uk/medicine/story/0,,2064185,00.html
2. Michael Waldman และคณะ, DOES TELEVISION CAUSE AUTISM?
//www.johnson.cornell.edu/faculty/profiles/Waldman/AUTISM-WALDMAN-NICHOLSON-ADILOV.pdf
เว็บไซต์แนะนำ
1. การเรียนรู้ของเด็กเล็ก
//www.teachers.tv/video/19829
Create Date : 01 พฤษภาคม 2550
Last Update : 1 พฤษภาคม 2550 13:51:57 น.
3 comments
Counter : 437 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาหาทีไร
ได้อะไรกลับไปทู้กที
ขอบคุณนะคร้าบบบบบบ
โดย:
Kurt Narris
วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:32:46 น.
แต่ก่อนติดทีวี เดี๋ยวนี้ติดคอมพิวเตอร์คับ
โดย:
frank3119
วันที่: 4 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:19:26 น.
มารับความรู้ครับ อ่านแล้วนึกถึงตาแบนดูร่า ที่เป็นคนบุกเบิกการศึกษาเกี่ยวกับทีวี และเด็ก คุณน้องพงษ์น่าจะเอาเรื่องนี้มาเขียนเชื่อมโยงเป็นตัวเปิดเรื่องก็ดีไม่น้อย ส่วนเฮียแกยอดมากจนผมเอาหลักการเกี่ยวกับการรู้คิดของเฮียมาใช้กับชีวิต
โดย:
นายวุ้นกะทิ
วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:35:48 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
weerapong_rx
Location :
London United Kingdom
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
?
]
อยู่เมืองกรุงไกลนาเพื่อตามล่าฝัน
Friends' blogs
Due_n
นายวุ้นกะทิ
GottaBeMary
smo
สิงห์นครพิงค์
ฝันยามเช้า
พลทหารไรอัน
k.j
ทาสบอย
POL_US
Epinephrine
Marquez
vecchio
Dr.Manta
จันทร์สวย
ปิ่นเดือน ครูดอย
yyswim
komi_to
ศิลาทราย
ป้อจาย
อิสราศัย
redistuO
มดน้อยในไร่ส้ม จิ๊บๆ
little-joe
Gisele
fonrin
fluffyboy101
i_am_np
นายกาเมศ
weerapong_rx
once_day
notake
samrotri
KungGuenter
Kurt Narris
นิรมาณ
พิจักษณา
frank3119
nhum_nop
TimeS-To-Enjoy
KEITH
apotheker
Hokey
amatuer translator
SweetPolarBear
Centertainment
Mnemosyne
Webmaster - BlogGang
[Add weerapong_rx's blog to your web]
Links
ประสาทวิทยาศาสตร์
เซลล์ต้นกำเนิด
โลกการเรียนรู้ออนไลน์
พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ สสวท
วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี
ศัพท์บัญญัติชารบัณฑิตยสถาน
ทุนเชิงกลยุทธ์ฯ
Asian Food Information Center
MedlinePlus: Vitamins
MedlinePlus: Drugs, Supplements, and Herbal Information
MedlinePlus: Health Topics
Stem Cell Information
Neuroscience for Kids
Neuroscience on the Internet
Wikipedia: the free encyclopedia
เว็บไซต์ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)
ชีวิตสดใสด้วยธรรมะ
84000 พระธรรมขันธ์
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ได้อะไรกลับไปทู้กที
ขอบคุณนะคร้าบบบบบบ