บวชเรียนนานกว่า 13 พรรษา ชีวิตผ่านมาฝ่าเหน็บหนาว วันนี้ฝนฟ้าพรายพร่างพราว อีกกี่สิบหนาวแสนยาวไกล ลาสิกขามาหลายฝน มาเป็นคนไม่ค่อยเอาไหน หนึ่งชีวิตไม่มีอะไร เก็บงำสิ่งที่ได้ไว้เตือนตน...
Group Blog
 
All Blogs
 

กว่าจะเป็น....เณรน้อย (ภาคต่อ)



ด้วยอาณาจักรล้านนา เคยรุ่งเรืองมาแต่ในอดีต มีสิ่งบ่งชี้มากมายทั้งด้านโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัฒนธรรมแขนงต่างๆ นอกจากนี้ยังมีภาษาพูด และภาษาเขียนเป็นของตัวเองด้วย ที่เรียกว่า “อักขระพื้นเมือง หรือ ตัวเมือง”

หลักศิลาจารึก ตำราเรียน ตำรายาพื้นบ้าน คาถาอาคม รวมไปถึงคัมภีร์หลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาล้วนถูกจาร หรือ จารึกด้วยอักขระพื้นเมืองทั้งสิ้น เหตุนี้ การจะช่วยกันสืบทอด เรียนรู้อักขระดังกล่าว ก็คงต้องเป็นหน้าที่หลักของพระเณรโดยไม่ต้องสงสัย

วิชาหนึ่งที่เด็กวัดต้องพร่ำบ่น และเรียนรู้ก็คือ อักขระตัวเมือง เรียนท่องกันถึงขนาดที่ว่า ต้องให้ช่ำชอง อ่านออก เขียนได้ ทีเดียว จึงจะได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อให้เข้าพิธีบรรพชาได้

ด้วยในวันสำคัญที่ผ่านพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ท่องคำกล่าวรับพระรัตนตรัยเป็นสรณะ รับศีล 10 เป็นข้อปฏิบัติ ปลงผม นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์โดยเรียบร้อย สามเณรน้อยทุกรูปต้องแสดงธรรมอานิสงส์บวช (อ่านธรรมใบลาน ซึ่งจารเป็นอักขระตัวเมือง) ให้กับบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่ ญาติโยมทั้งหลายที่มาร่วมในงานบุญ

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องอ่านธรรมอานิสงส์บวชนี้ให้ได้ตั้งแต่เป็นเด็กวัดแล้ว เพื่อวันสำคัญวันนี้จักได้แสดงธรรมได้คล่องทำนอง ญาติโยมทั้งหลายจะได้ซาบซึ้ง ปิติยินดี และที่สำคัญหลวงพ่อที่นั่งเป็นประธานฝ่ายสงฆ์อยู่นั้นจะได้ยิ้มปลื้มในผลงานสร้างสรรค์ชิ้นน้อยๆ นี้ ที่สู้อุตส่าห์บ่มเพาะมาแรมปี

หากปีไหน ฤดูกาลงานปอยใด เกิดจับพลัดจับพลูมีสามเณรใหม่ ท่องอ่านธรรมใบลานอักขระตัวเมืองไม่ลื่นไหลไต่ทำนองได้คล่องปาก เมื่องานบุญนั้นผ่านพ้น แต่รอยย่นบนใบหน้าของหลวงพ่อกลับเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า

เหตุเป็นที่รู้กันว่า คงได้ปากเปียกปากแฉะ สอนสั่งสามเณรรูปนั้นไปอีกหลายพรรษาฝน...

เด็กวัดวัยประถมในชนบท จึงเป็นเด็กอีกกลุ่มที่วิถีนั้นแตกต่าง ระเบียบ ข้อบังคับ กฎเกณฑ์ ข้อห้าม และวัตรปฏิบัติถูกเกลาเกลี้ยงขัดสี โดยมีเมตตาธรรมของหลวงพ่อคอยประคับประคอง

เป็นเด็กวัดที่มีแรงจูงใจ คือการได้บวชเรียน การได้รับคำชื่นชมจากใครต่อใครถึงการเป็นลูกกตัญญู ที่มุ่งมั่นฝึกฝน ทนกว่าใครอื่นเพื่อจะได้บวชทดแทนค่าน้ำนมมารดานั้นประการหนึ่ง และสืบทอดอายุพระศาสนาโดยไม่รู้ตัวเป็นประการสอง

วันนั้น เด็กชายท่าทางลุกลี้ลุกลนที่โกนผมเกลี้ยงขี้กลากเกรอะ ในชุดขาวห่มเนื้อ ก้าวข้ามธรณีประตูโบสถ์ลับหาย ยินเสียงท่องขานรับต่อเนื่องเป็นภาษาบาลีผิวแผ่ว เวลาผ่านพ้นไปนานเนิ่น ปรากฏเป็นเด็กน้อยในชุดเหลืองสว่างใส ท่าทีสงบนิ่ง สองมือน้อยประสานไว้เบื้องหน้า แววตาหลบต่ำ กำลังก้าวข้ามธรณีประตูโบสถ์ออกมา

สาธุ "สามเณรน้อย" ...





 

Create Date : 22 ตุลาคม 2551    
Last Update : 8 มีนาคม 2552 13:38:54 น.
Counter : 1117 Pageviews.  

กว่าจะเป็น....เณรน้อย



เสียงท่องบ่น "เอสาหัง ภันเต สุจิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ......." ดังมาจากม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ เคล้ากับเสียงแหลมเล็กอีกเสียงดังมาจากภายในกุฏิ "เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ ตะโจ ทันตา นะขา โลมา เกสา" นั่นบ่งบอกฤดูกาลงานปอยใกล้เข้ามาแล้ว

ทุกๆ ปี เด็กชายชั้นประถม 6 กว่าครึ่งในโรงเรียนประจำหมู่บ้าน โดยเฉพาะรอบนอกของจังหวัดทางภาคเหนือ ล้วนเตรียมเนื้อตัว ใจกาย เข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณรอย่างไม่ต้องคลางแคลง เหตุธรรมเนียมประเพณี "บวชเรียน" ยังสืบทอดโยงสายเป็นมูลศรัทธาจรรโลงพุทธศาสนาแน่นแฟ้นมาแต่กาลก่อนเก่าเกื้อ

เด็กชายเหล่านี้ ฟูมฟักถักวินัยกันแต่ชั้นประถม 5 เพราะวัยนี้ หลวงพ่อจึงอนุญาตให้มาร่ำเรียนท่องบ่น อยู่กิน รับใช้พระ-เณร หอบมุ้งหมอนที่นอนเสื่อมาจากบ้าน วันที่พ่อแม่ฝากฝังให้อยู่ในอาณัติของหลวงพ่อแล้ว ก็เป็นอันเข้าใจได้ในที โดยไม่ต้องลงนามเอกสาร การเลี้ยงดู บ่มเพาะนับแต่นี้ เป็นความรับผิดชอบของหลวงพ่อแล้ว สุดแท้แต่หลวงพ่อจะฝากฝังกับพระ-เณรรูปใดเป็นพี่เลี้ยงต่อไป

2 ปีกับการฝึกฝนวินัย อบรมคุณธรรม บวกกับการไปโรงเรียนตามปกติ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฝืนธรรมชาติของเด็กวัยนี้นัก เว้นแต่ความรับผิดชอบใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยต้องทำเมื่อยามเป็นเด็กในปกครองของพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นล้างถ้วยชาม ล้างห้องน้ำ กวาดลานวัด เทกระโถน หิ้วปิ่นโตตามหลวงพ่อไปบิณฑบาต และที่หนักหนาสุดสำหรับพวกเขาก็เห็นจะเป็นการต้องตื่นนอนแต่ตี 5 ทุกเช้าที่ได้ยินเสียงระฆังก้องกังวานต่อเนื่อง รีบสลัดความง่วงซึม แล้วไปนั่งแถวต่อท้ายพี่เณรในโบสถ์เพื่อฝึกฟัง ฝึกท่องจำบททำวัตรเช้า

แรกๆ ที่พี่เณรทั้งเขกกบาล ทั้งถองด้วยเท้าให้ตื่น มันช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าจดจำ แต่ก็ต้องจำ บ้างก็เดินไปทั้งยังงัวเงีย บ้างก็วิ่งไปทั้งน้ำตาและเสียงสะอื้นอัก บททำวัตรเช้านั่นก็ช่างมีมนต์ขลังนัก ฟังไป เคลิ้มไป หลับๆ ตื่นๆ กระทั่งเสียงทำวัตรเช้าจบลง แต่เนิ่นนานเท่าใดไม่รู้ ยินแต่เสียงไม้กวาดทางมะพร้าวกระทบใบไม้แห้งแกรกๆ และเสียงนกกระจอกจอแจนอกชายคาโบสถ์ จึงลุแก่กรรมว่า ตายละวา เพื่อนนะเพื่อน แนะกันไว้แต่เมื่อเย็นวานว่าให้ปลุก ดันไม่ยอมปลุก...

บ่ายวันนั้น ห้องน้ำของวัดทั้ง 6 ห้องสะอาดเอี่ยม...!



งานปอย (ภาษาถิ่น) = งานบรรพชา-งานอุปสมบท
ปอยพระ = บวชเณร บรรพชาเป็นสามเณร
ปอยตุ๊ = บวชพระ อุปสมบทเป็นพระ




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2551    
Last Update : 8 มีนาคม 2552 13:46:10 น.
Counter : 416 Pageviews.  

บทต้นเรื่อง ณ เณรต้องนิมนต์

ณ เณร ต้องนิมนต์



คำนำ
หากถามว่า ปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจกับพุทธศาสนามากขึ้นหรือไม่?
แน่ล่ะ คงตอบได้ไม่แน่นใจนักว่า สนใจ
ทั้งที่ปากบอกว่า เป็นพุทธศาสนิกชนเต็มคำ แต่สักครั้งหนึ่งไหมในชีวิต ที่ได้หมอบกราบแสดงตนเป็นพุทธมามกะ อันเป็นวิถีทางแห่งการยอมรับว่า พระรัตนตรัย คือที่พึ่งพิง
แม้ไม่ได้หมายว่า จะศึกษา เรียนรู้ ให้ลุถึงแก่นธรรม แต่ก็เพียงให้รู้ว่า หากมีกิจอันใดข้องเกี่ยวกับพุทธศาสนาแล้วไซร้ ก็หาได้ปฏิเสธจะข้องแวะไม่...

แล้วหนึ่งหน่อพุทธางกูร ที่ผู้อ่านมักคุ้น ยลยิน ชินตาล่ะ แท้จริงแล้วคุณรู้จักพวกเขามากแค่ไหน?

เด็กกลุ่มหนึ่งที่เลือกทางเดินชีวิตแปลกแยก เลือกที่จะไม่ข้องแวะสิ่งเร้ารอบข้าง
ไม่แยแส แต่ยังเหมือนไยดีกับอารมณ์คึกคัก ครื้นเครง
หากเพียงเครื่องนุ่งห่มไม่เอื้อให้ระเริง กิจกรรมไม่อำนวยให้สนุก
บทบัญญัติแห่งศีล 10 คอยกำกับไม่ให้สำรอก แต่เคี่ยวให้สำรวม...

ซึ่งได้ผล..เด็กในวัยคะนองมือ คะนองเท้า ระรื่นเล่น
ที่ควรจะสนุกเพลินกับสิ่งใหม่รอบข้าง และเรียนรู้ประสบการณ์หลากหลาย
กลับต้องข่มเคลื่อนกายเฉยช้า แว่วๆ เพลงฮิตติดขอบจอ ยังอยากขยับริมฝีปากคลอแผ่ว
แต่จำต้องท่องมนต์ ท่องคำพรพระ สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสันตุฯ ให้ขึ้นใจเสียก่อน...

วิถีที่ไม่ได้มุ่งหมาย แต่หากหลายเหตุผลให้จำต้องยอมรับ
แทนพระคุณแม่นั้นหนึ่งล่ะ อยากเรียนต่อก็อีกหนึ่ง
เพราะดันเกิดมาบนข้าวยากหมากแพง พี่น้องคลานตามกันมาเป็นขบวน
บวชเถอะลูก! พี่ๆ ก็เป็นผู้หญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน แบ่งเบาแรงหาบน้ำ หุงข้าว ต้มแกง พอไหว
ส่วนลูกเป็นผู้ชาย เถอะนะ.. ให้แม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์นะลูก...

คำว่า สามเณรน้อย เณรน้อย น้องเณร ลูกเณร จึงก่อเกิด
และก็ด้วยยังเป็นเด็กเล็ก เสียงท่องมนต์กังวานแว่ว ชวนหัวมากกว่าจะชวนอิ่มบุญ
หัวที่โล้นโล่ง เลี่ยนเตียน มันวาว สะอาดขาว จึงดูน่าขันมากกว่าจะขลัง
ทั้งผ้าเหลืองห่มนุ่งแพรพรรณตัดกับผิวขาวเนียนใส ไร้กระฝ้า จึงดูน่าหยิกมากกว่าจะชวนให้ก้มกราบ...

แล้วคุณผู้อ่านล่ะ พร้อมจะเรียนรู้ ค้นหา เพลิน และสนุกไปกับโลกของเหล่ากอของสมณะ ที่ชื่อว่า สามเณร
ซึ่งใครก็ตามที่ได้พบ ได้เห็น ได้เล่น ได้คุย แม้จะไม่ใช่ ด เด็ก ก็ยังต้องนิมนต์กันแล้วหรือยัง...

เรวัฒน์ เพียรพจนนารถ




 

Create Date : 03 เมษายน 2551    
Last Update : 8 มีนาคม 2552 13:14:01 น.
Counter : 463 Pageviews.  

1  2  

proctorray
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Verb to be classic, not born to be!

ถ้าคอเดียวกัน นี่เลย http://classicbikelover.hi5.com
Friends' blogs
[Add proctorray's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.