วิวัฒนาการของคุณแม่มือใหม่จากเดือนแรกจนถึงปัจจุบัน
พัฒนาการคุณแม่มือใหม่ ที่ท้องไม่รู้ตัว เห้อเนื่องจากไม่แพ้ท้องเลยค่ะและหน้างี้ใสกิ๊กเลย (ได้ลูกชายค่ะ )
ประจำเดือนจริงๆมาวันที่ 6 ก.พ. 2553 ตอนนั้นไปเชียงใหม่กะเพื่อนมาค่ะ ไปงานแต่งด้วยไปปายด้วย แล้วก็มีไรกะแฟนราวๆวันที่ 9 ก.พ. อุ้ยละเอียดไปป่ะ
คุณหมอบอกว่าเด็กปฏิสนธิวันที่ 14 ก.พ. โอ๊วแม่เจ้า ละเอียดมาก 55 รู้สึกว่าช่วงนั้นไปสวีทกันที่เกาะช้างด้วย ดูท่าซะก่อน ไม่ได้คิดเลยว่าท้องแล้ว
ถ่ายตอนเล่นน้ำ หน้าท้องแบนราบอยู่เยย
สัปดาห์ที่ 3 ของการตั้งครรภ์ (ยังม่ะถึงเดือนจ๊ะ )แม่เจ้าไปเที่ยวเกาะเต่าเกาะนางยวนจ๊ะ ดำน้ำชมประการังแต่ลูกชายอิชั้นก็ยังติดไม่หลุดเก่งจังลูกแม่อิอิ และอีนังแม่ก็ยังไม่รู้ตัวอีกว่าท้อง
ถึงคราวไปดำน้ำก็ดำเอาเป็นเอาตาย แต่ก็คิดนะว่าไมเหนื่อยจังวะทุกทีไม่เคยเป็น
ตกเย็นดูๆนังแม่ก็กระโดดโลดเต้นที่หาดเกาะเต่า มันน่านักดีนะลูกไม่หลุด
และวันที่ 14 มีนาคม 2553 ได้ไปงานแต่งเพื่อนที่คลอง 8 แม่เจ้าไปมอไซด์ด้วย ตอนนี้ 5 สัปดาห์ค่ะ (1 เดือนกะอีก 1สัปดาห์)ก็ยังไม่รู้ตัวอีกว่าท้อง
และวันที่ 18 มีนาคม 2553 ได้ 5-6 สัปดาห์พอดี (เดือนกว่า)ก็ไปตะลุยป่าเขาคิชฒกุฏ ที่จ. จันทบุรีกันขึ้นรถโฟวิล เพื่อขึ้นเขาและต่อด้วยการเดินขึ้นเขาแบบทรมานมากๆตอนนั้นหนาวด้วยนะบรึ๋ยยยก็ยังไม่แท้ง และยังไม่รู้อีกว่าท้อง ป๊าดดดลูกช้านอึดอีกแล้ว
ขากลับอิชั้นก็แวะหาดคุ้งวิมาน ก็ไปหาอาหารทะเลกินและไปหามุมถ่ายรูป ก็เดินไปที่โขดหิน เดินก้นจ้ำบะมาหลายทีลูกชายช้านก็ยังอยู่อิอิ
ดูแต่ละท่าดิไม่น่าร่วงก้อนหินได้ไง 555
และวันที่ 21 มีนาคม 2553 ก็ไปทริปอัมพวากะเพื่อน นั่งรถเก๋งพี่ที่บริษัทเดินทางไป และนั่งเรือดูหิ่งห้อย และไปทำท่าประหลาดๆกันที่อัมพวา ตอนนั้นอายุครรภ์ ได้ 6 สัปดาห์แล้ว หรือว่า 1 เดือนกะสองอาทิตย์นั่นเอง
พอวันที่ 10 เมษายน 2553 ไปถ่ายเวดดิ้งสตูดิโองานแต่งค่ะ ตอนนี้ได้ 8 สัปดาห์หรือว่า(สองเดือนนั่นเอง)
และวันที่ 15 เมษายน 2553 ก็มีงานสงกรานต์ที่บริษัทค่ะ ยังหุ่นดีอยู่เลยอิอิ
เคราห์ซ้ำกรรมซัด มารู้ว่าตัวเองท้องก็เกือบจะ 4 เดือนได้ เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่มดลูก ขนาดใหญ่ 7 เซ็นติเมตรได้ มารู้ว่าตัวเองท้องก็ตอนนี้(ก็แม่งเลือดเมนส์มาทุกเดือนแต่จิงๆเป็นเลือดของเนื้องอกที่ไหลทุกเดือน(แม่งหลอกนี่หว่า )) คุณหมอเลือกชีวิตเราไว้ เพราะเนื้องอกจะแตกเนื่องจากเราปวดท้องรุนแรงจนต้องผ่าทันที และคุณหมอได้แจ้งแล้วว่า "เราต้องแท้ง" ตอนนั้นดีใจและเสียใจที่ได้ลูกและเสียใจที่รู้ว่าลูกเรากำลังจะจากไป
แต่แล้วปาฏิหารก็เกิดเมื่อเราออกจากห้องมา (คิดว่าคงเอาเนื้องอกออกไปแล้ว)แต่คุณหมอมาแจ้งอีกวันว่าเด็กมีชีพจรเต้นเลยไม่กล้าผ่าออกและดูแล้วเนื้องอกไม่ได้อันตรายมาก เห้อโล่งแต่ว่าแผลช้านนี่จิ
ลูกเราพอเข้าวันที่ 2 คุณพยาบาลมาซาวด้วยเครื่องซาวเล็กกลับพบว่าเด็กชีพจรไม่เต้น หาไงก็ไม่เจอคืนนั้นเราร้องไม่ออก (เนื่องจากธรรมดาก็เป็นคนเก็บอารมณ์เก่งอยู่แล้ว)ได้แต่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิอย่างเดียวเพื่อให้เค้าลูกเรารอด คุณพยาบาลแจ้งแค่ให้เราทำใจและให้รอเลือดไหลออกจากช่องคลอดเอง (รอดจากผ่าตัดได้แต่กลับมาไม่มีชีพจรซะงั้น) เราต้องทนพิษบาดแผลโดยไมได้รับการฉีดยา ถึงสองวัน และไม่กินยาแก้อักเสบทนเก่งเหมือนกันแฮะเราเพื่อให้ลูกเรารอด (เผื่อเค้ารอดอ่ะนะ) แต่จนแล้วจนรอด หลังจากชีพจรไม่เต้น 2 วันเค้าก็กลับมามีอีกทีวันก่อนจะออกโรงพยาบาล วินาทีนั้นบอกได้คำเดียวว่า "น้ำตาซึมด้วยความดีใจ"มันเป็นงี้นี่เอง เก่งมากลูกแม่ มาดูแผลเน่าๆของเรากัน รับไม่ได้ปิดไปเลยนะ
หลังจากหายป่วยเราก็ได้แต่งงานเมือวันที่ 13 มิถุนายน 2553 อายุครรภ์ 4 เดือนพอดี ตอนนี้พุงเริ่มออกแล้ว
หลังจากแต่งก็ยังไม่เลิกเที่ยวนะ ไปฮันนีมูลกันที่เกาะล้าน แก้มเริ่มออกแล้วเนอะ
และวันที่ 4-5-6 ก.ค. 2553 เข้า สัปดาห์ที่ 22 หรือว่าอายุครรภ์ 5 เดือนกะ 1 อาทิตย์ ก็ไปเที่ยวสมุยค่ะนั่งเครื่องบินไปก็ไม่แท้งเหมือนกันค่ะ
และนี่พอออกรถแล้ววันที่ 4-5-6 สิงหาคม อายุ ครรภ์ 26 สัปดาห์หรือว่า 6 เดือนค่ะ ก็ไปบ้านสามีค่ะ หน้างี้ยังใสอยู่ค่ะอิอิแต่แก้มเริ่มออกแระ
และ วันที่ 9 สิงหาคม 2553 อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ 6 เดือนกะอีก 2 อาทิตย์ ไปไหว้หลวงพ่อโสธรมาค่ะ ให้ดูด้านหลังล่ะกัน พอดีได้ลูกชาย ถ้ามองด้านหลังดูไม่รู้เลยว่าท้องอิอิ คุณแม่แอบเปรี้ยวแต่สาวและยังท้องด้วยนะหวั่นๆเหมือนกันลูกในท้องจะเบี่ยงเบน
อัฟเดรตตอน 28 สัปดาห์ค่ะ 6 เดือน
ให้ดูหน้าด้วย ด้านขาวคือไม่ได้ปรับแสงไรเลยค่ะหน้ายังใส ส่วนรอยแดงที่จมูก โดนปั๊กไฟกระเด็นโดนค่ะ 55 ไม่ใช่สิวค่ะ
29 สัปดาห์ค่ะ 7 เดือน
อันนี้ถ่ายไว้ตอน 30 สัปดาห์ค่ะ
ตอน 31 w หรือว่า 7 เดือนกับอีก 1 สัปดาห์ค่ะ
ตอน 32 w หรือว่า 7 เดือนกับอีก 2 สัปดาห์ค่ะ
Create Date : 31 สิงหาคม 2553 | | |
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 11:20:05 น. |
Counter : 2103 Pageviews. |
| |
|
|
|