Group Blog
 
All blogs
 

ทริป - ไหว้พระ9 วัด กทม.2010

ทริปไหว้พระ9วัดค่ะและไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือค่ะ (แอบเป็นศาลหลักเมืองกับศาลเจ้าพ่อเสือมารวมกับวัดนี่เค้านับป่าวหว่า )


ดังนี้ 1.วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร


2.วัดโพธิ์


3.วัดพระแก้ว 


4.ศาลหลักเมือง


5.วัดสุทัศน์


6.วัดเจดีย์ภูเขาทอง


7.ศาลเจ้าพ่อเสือ


8.วัดระฆัง


9.วัดอรุณ


10.วัดชนะสงคราม


ทริปนี้เราตื่นแต่เช้าเลยค่ะ 07.00 แล้วก็ขับรถมอเตอร์ไซด์ออกจากรังสิตค่ะ ถ้าถามว่าทำไมนั่งรถมอเตอร์ไซด์ไปทำไมเราตอบได้แต่เพียงว่า มันประหยัดค่ะ เติมน้ำมัน 80 บาทวิ่งได้รอบเมืองกรุงเทพเลยค่ะ เราจอดรถที่เซเว่นก่อนค่ะ เพื่อซื้อธูป 5 บาทและเทียน 19 บาทค่ะ คือเราไม่ได้งกนะคะ เราหวังไปทำบุญกับวัดจริงๆและอยากซื้อเองมากกว่า เพราะว่าบางวัดจะเน้นให้ใส่เท่านั้นเท่านี้ เราอยากได้บุญด้วยใจศรัทธาและอยากให้ทริปนี้ประหยัดที่สุดค่ะ เราเริ่มตั้งต้นที่วัดไตรมิตรก่อนค่ะ เพราะว่าวัดนี้เพิ่งสร้างพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (ได้เมื่อเร็วนี้ๆค่ะ สำหรับที่เราเห็นนี้ รู้สึกชอบมากๆ เหมือนไปเล่งเน่ยยี่สองเลยค่ะ ไปไหว้พระพุทธรูปทองคำองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ



บรรยากาศภายในวัดค่ะ



สูงม๊ากมาก


 


ถ่ายงัดขึ้นมุมบน



ภาพสองมิติค่ะ สวยมากๆแกะสลักจากไม้ ป.ล. เราซูมนะคะ มุมนี้เค้าห้ามเดินเข้าไป


 



เจ้าแมวน้อยน่าสงสารมากๆ ร้องใหญ่เลย เราเลยวิ่งไปซื้อไก่ไม้ล่ะ 20 บาทให้ทานค่ะ



บรรยากาศภายในวัดค่ะ



เจออีกตัวแระอิอิ


 


สักพักมาจากไหนอ่ะ ให้ไม่พอเลยอ่า



ว๊าวสวย



เสร็จแล้วก็เดินข้ามไปศาลหลักเมืองต่อค่ะ เริ่มต้นที่นี่เลยค่ะ




แนะนำนะคะ อย่าไปซื้อดอกไม้ที่เดินเร่มาขายเรา เพราะว่าแพงมาก ชุดล่ะ 20 จริงสักพักบังคับให้ซื้อนั่นซื้อนี่หมดไปร้อยกันเลย แต่ไมได้แอ้มเราหรอก



นี่คือเทพที่รักษาเมืองค่ะ




แล้วเราก็วิ่งข้ามฝั่งไปฝั่งวัดพระแก้วค่ะ





มุมยอดฮิตค่ะ
















ที่นี่วัดสุทัศน์ค่ะ




วัดภูเขาทอง



ศาลเจ้าพ่อเสือค่ะ ชุดนี้ เราหมดไป  ไม่ถึง  30 บาทค่ะ ไม่ได้ซื้อพวกเนื้อหมูมาถวายค่ะเพราะว่ากะมาตอนวันเกิดทีเดียว



อันนี้เห็นว่าชุดล่ะ 50 บาท



แล้วก็ขับรถมอเตอร์ไซด์ไปฝั่งธนค่ะ เอาไปจอดวัดระฆังก่อนค่ะ





วัดสุดท้าย วัดชนะสงครามค่ะ



จบทริปเราก็ไปเดินถนนข้าวสารต่อคร่า หนุกเลยวันนี้






 

Create Date : 23 มกราคม 2553    
Last Update : 4 มีนาคม 2553 1:42:09 น.
Counter : 1479 Pageviews.  

ทริป - วัดเจดีย์หอย จ.ปทุมธานี



มาอยู่ปทุมธานีได้ ตั้ง 10 กว่าปีแระ ได้ยินแต่ชื่อเรื่องที่นี่ ขึ้นชื่อเรื่องวัดเจดีย์หอย ต๊ายอยากเห็นมันเป็นยังไง หลังเลิกงาน แอบขี่แมงกะไซด์คู่ใจไปที่ลาดหลุมแก้ว


ซึ่งห่างจากที่ทำงานไม่เท่าไรเอง ช่วงเย็นวัดมืดเชียว ไม่เป็นไรขอไปดูหน่อย



ภาพอาจไม่สวยนะคะ มือใหม่หัดถ่ายจริงๆค่ะ แต่ก่อนอื่น นั่งดูลาดเลาก่อนขอเปิดดูเว็บก่อนนะ


//www.watchedihoi.com/ 


แล้วก็แอบเอาแผนที่มาฝากด้วยล่ะ แต่เปิดดูเองนะ


//watchedihoi.com/index.php?option=com_content&task=blogsection&id=11&Itemid=60


 การเดินทาง


การเดินทาง  กระทั่งถึงตัววัดเจดีย์หอย จะมีป้ายบอกทาง เป็นเครื่องสังเกต ไม่ต้องห่วงว่าท่านจะหลงทาง ขอให้ไปตามถนนสายลาดหลุมแก้วให้ถูกเท่านั้นเป็นพอ จากถนนใหญ่จะเลี้ยวเข้าไปตามถนนเลียบคลองอีกประมาณ ๙ กิโลเมตร  


ประวัติวัดนี้ค่ะ


ในขณะที่ท่านหลวงพ่อธุดงค์ไปยังประเทศพม่า เพื่อพบกับพระอาจารย์ศิลยันตะหนึ่งพรรษาและได้ศึกษาวิชาอาคมจนแตกฉานแล้ว จึงธุดงค์กลับถ้ำโอ่งจุก อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดทำให้ท่านเกิดนิมิตว่า ในสถาน ณ.ปัจจุบันนี้ เมื่อ 8 ล้านปี เป็นเมืองใหญ่ชื่อ เมืองรัตนวดี ซึ่งท่านเองเคยเป็นเจ้าเมืองที่นี่ ชื่อ  เจ้าชายโสวิน  มเหศรีชื่อ  นางปทุมวดี  ได้ให้ไปดูสถานที่ที่ท่านเห็นในนิมิตโดยมีข้อสังเกตุ สามข้อ คือ


            1. มีต้นกอไผ่หนึ่งกอ


            2. มีลำแปดลำ


            3. มีต้นมะยมสามต้นออกลูกดก ขอให้ไปดู


            ท่านจึงได้กราบหลวงพ่อในถ้ำโอ่งจุกแล้วเดินทางกลับ  จากตำบลนาสวนจนถึงทุ่งลาดหญ้า  ก็ได้พักอยู่ที่วัดหลวงพ่อลำใยจากนั้นก็เดินทางกลับ โดยเช่าเรือสองตอน โดยท่านหลวงพ่อบอกว่าให้พาไปที่สถานที่ที่เรียกกันว่า ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว หรือเรียกว่า คลองกระพัน ซึ่งท่านเองก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน หลังจากที่ดูไปเรื่อยๆก็มาเจอะกอไผ่ที่บริเวณหน้าวัด ท่านจึงได้สอบถามว่า สถานที่ตรงนี้เป็นที่ของใคร จนท่านได้เจอะกับ  โยมเฉลิม จึงได้นัดให้พาไปเจอกับเจ้าของที่คือที่บ้านของ  ยายเกลิ้น อายุ 81 ปี ซึ่งท่านได้ถามยายว่า ที่ของโยมยายที่อยู่ที่คลองกระพังทั้งหมดมีกี่ไร่ จากนั้นท่านจึงได้ทราบว่า มีทั้งหมด 113 ไร่ กับ 3 งาน แล้วท่านก็ถามยายต่ออีกว่า  ถ้าอาตมาจะซื้อสร้างวัดโยมยายจะขายหรือเปล่า ยายก็บอกว่าขาย ขาย ไร่ละ 11,000 บาท แต่ในนิมิตบอกว่าที่ตรงนี้เป็นที่เก่าของหลวงพ่อ ห้ามต่อเป็นเด็็้ขาด หลวงพ่อจึงได้ตกลงซื้อตามราคานั้น โดยได้เงินทั้งหมดมาจากโยมพ่อของท่านเอง ( นายเพิ่ม เป็นโยมพ่อของหลวงพ่อทองกลึง )


            หลังจากนั้นหลวงพ่อก็ได้ให้รถแมคโครมาขุดบ่อ เพราะหลวงพ่อมีความประสงค์ที่จะปลูกสมุนไพร  เพื่อใช้เก็บกักน้ำไว้รดน้ำสมุนไพร ประมาณ 20 ไร่ ขุดอยู่ประมาณ 18 วัน  รถแม็คโครก็ได้ตักติดเปลือกหอยขึ้นมา  ต่อมาหลังจากนั้นท่านก็ขอให้คณะกรรมการช่วยกันขุดเปลือกหอยขึ้นมาจนได้จำนวนมากมาย ตั้งแต่  วันที่ 12 พ.ศ. 2526 จนเลิกขุดเมื่อ พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นวันที่  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี  เสด็จมาเปิดอนามัยเฉลิมพระเกียจ    (ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดของอนามัยแห่งนี้ก็ได้รับบริจากจากหลวงพ่อทองกลึง สุนทโร) และได้เสด็จมาชมสมุนไพร ว่าน ยา ชมเจดีย์หอย   และชมการขุดหอย  จากนั้นหลวงพ่อก็สั่งให้ยกเลิกการขุดในครั้งนั้นเอง



บริเวณที่ขุดบ่อแล้วพบเปลือกหอยนางรมยักษ์เป็นจำนวนมาก (เครดิตของวัดเจดีย์หอยค่ะ ขออนุญาติเอามาลงนะคะ)



       

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จทอดพระเนตร



ประวัติวัดเจดีย์หอยประวัติวัดเจดีย์หอย


ประวัติของหอยที่ขุดพบ



      นักธรณีวิทยาได้มาทำการศึกษาค้นคว้า ต่างก็ลงความเห็นตรงกันว่า หอยนางลมยักษ์เหล่านี้ มีอายุอยู่ในราว 8 ล้านปีมาแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นว่าเพราะเหตุใดหอยนางลมยักษ์เหล่านี้จึงได้มีการตายกองสุมอยู่ในบริเวณใต้พื้นปัฐพีแห่งนี้เลยแม้แต่คนเดียว


 



ประวัติวัดเจดีย์หอยประวัติวัดเจดีย์หอย



      จนในวันที่ 7 เดือนเมษายน ปีพุทธศักราช 2538 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนิน มาทอดพระเนตรการขุดหอยด้วยพระองค์เอง หลวงพ่อจึงให้หยุดทำการขุด และทำความสะอาดบ่อเพื่อจัดพิธีรับเสด็จ


 



ประวัติวัดเจดีย์หอยประวัติวัดเจดีย์หอย


ประวัติวัดเจดีย์หอย


ประวัติวัดเจดีย์หอยประวัติวัดเจดีย์หอย


เมื่อเราขับแมงกะไซด์มาถึง



ก็ต้องโพสท่าบังคับก่อน และภาคบังคับคือ ถ่ายกะป้ายค่ะ อิอิ



อ่า เริ่มดึกแล้วรีบหน่อยดีกว่าเนอะ



เร่ง  ISO 1600 เลยดีกว่า



แอบก่อนๆ อิอิ



อายๆ



แอบสงสัยว่าด้านในมันหอยด้วยหรือป่าว หรือว่าเอาแค่หอยมาปะ



รีบสตาทส์น้องทองแท้ อิอิชื่อรถแมงกะไซด์หนูเอง(น้องเวฟ 125) ไปดูด้านในเพื่อให้หายสงสัย



เราว่าด้านในน่าสนใจมากเลยทีเดียวเสียดายมาตอนมืดเสียแล้ว เวลาสักราวๆ 18.30 กว่าๆได้ฟ้ามืดเชียว



ชมรมสมุนไพร



ศาลากะลังจะสร้างใหม่ รู้สึกเดือนหน้า กุมภาพันธ์ จะมีสวดภาณยักษ์นะคะ



แอบเจอแม่ชี ที่นี่มีแม่ชีเยอะเลยทีเดียว อยากมาบวชมั่งจัง



แล้วเราก็ได้เห็นกองหิน ที่กะลังจะเป็นเจดีย์อีกองค์


โห ยืนยันจริงๆค่ะว่าหอยจริงๆ



เห็นเค้าบอกว่า เอามาจากสระนี้ ไม่รู้จริงป่าวนะ



ไปให้อาหารเต่ากะปลาได้ค่ะ



เค้าเอาหอยมากองกันตรงนี้เลย คาดว่า อาจทำโบสถ์ไม่ก็เจดีย์ค่ะ



นี่ไงกะลังก่อสร้าง



แล้วเวลาก็เริ่มมืดว๊ายรีบกลับดีกว่า เด๋วเผลอไปฉุดผู้ชายค่ะ อิอิ


ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ สั้นๆแต่คงพอได้เห็นรูปร่างวัดนี้นะคะ หากมีโอกาสก็แวะไปดูกันนะคะ









 

Create Date : 20 มกราคม 2553    
Last Update : 20 มกราคม 2553 5:05:44 น.
Counter : 4999 Pageviews.  

ทริป - พรว.บางปะอิน อยุธยา

ทริปตลาดโก้งโค้ง+พระราชวังบางปะอิน




ทริปนี้เราแอบแอดเวนเจอร์อีกแล้วค่ะ ขับรถมอไซด์ไป เติมน้ำมัน 80 บาทเองค่ะ


รายละเอียดประจำทริป


ค่า น้ำมัน 80 บาท


ค่ากิน 80 บาท


ค่าของฝาก โรตีสายไหม ให้แม่กะพ่อ 100 บาท สามถุงใหญ่ๆ ค่ะ


ส่วนไหว้พระปีชง เราเสีย 20 บาท ค่าธูปเทียนค่ะ ไม่ได้เน้นไรมาก เน้นประหยัดและได้บุญจากใจค่ะ ไม่ต้องร่ำรวยอะไรก็ไปได้ทั้งนั้น ไทยช่วยไทย และไทยช่วยชาติค่ะ



พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากเกาะเมืองลงมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากเป็นที่ประสูติของพระองค์ ใช้เป็นสถานที่ที่ทรงใช้ประทับแรม ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยเป็นพระราชวังใกล้พระนครนั่นเอง



เมื่อครั้งเสียกรุงแก่พม่าครั้งที่สอง พระราชวังบางปะอินถูกปล่อยให้รกร้างมาระยะหนึ่ง พระราชวังบางปะอินกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งเมื่อสุนทรภู่ ซึ่งได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชไปนมัสการ พระพุทธบาทสระบุรี ได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท จนกระทั่ง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เริ่มการบูรณะพระราชวังขึ้น และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้บูรณะครั้งใหญ่ โดยสร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมากมายเพื่อใช้เป็นที่ประทับ รับรองพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ


ในปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ


ไปกันหนุกเลย เริ่มต้นออกเดินทางเวลา 10.00 น.ค่ะ แวะที่แรกคือพระราชวังบางปะอินกันก่อนค่ะ ที่จริงเคยมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ว่ารอบนี้พาน้องเบญจรงค์มาลองของซะหน่อยค่ะ กว่าจะวัดรูแสงหรือว่า iso ได้แทบตายเหมือนกันเพราะว่าเพิ่งหัดลองกล้องด้วยค่ะ แวะรับชมกันนะคะ



รถยนต์ หากมาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นถนนพหลโยธิน พอมาถึงประตูน้ำพระอินทร์แล้วให้ข้าม
สะพานวงแหวนรอบนอกจะมีทางแยกโดยให้เลี้ยวซ้ายประมาณบริเวณกิโลเมตรที่ 35 ไปพระราชวังบางปะ
อินเป็นระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร หรือจะผ่านเข้ามายังตัวเมืองอยุธยาพอมาถึงเจดีย์วัดสามปลื้ม
(เจดีย์กลางถนน) ให้เลี้ยวซ้ายโดยผ่านวัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิง ตัวอำเภอบางปะอินพอมาถึงสถานี
รถไฟบางปะอินแล้วให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางจนถึงพระราชวังบางปะอิน
รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารธรรมดากรุงเทพฯ-บางปะอิน ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต ถนน
กำแพงเพชร 2 ทุกวัน
รถไฟ สามารถขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพงมายังสถานีรถไฟอำเภอบางปะอิน จากนั้นต่อรถ
สองแถว รถสามล้อเครื่อง หรือรถมอเตอร์ไซค์ไปยังพระราชวังบางปะอิน
พระราชวังบางปะอินเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30
บาท เด็ก นักเรียน นิสิตนักศึกษา (ในเครื่องแบบ ต้องมีบัตรประจำตัวนักศึกษา) 20 บาท พระภิกษุ
สามเณร ไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างประเทศ 50 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ สำนัก
ก่อนเข้าต้องสำรวจตัวเองด้วยนะคะ ว่าแต่งตัวสุภาพหรือป่าวค่ะ



ไปลุยกันเล้ยยย


แผนที่ของพระราชวังบางปะอินค่ะ ดูไว้จะได้ไม่หลงค่ะ



แอบเห็นเป้าหมาย อิอิทหารหล่อจัง ปกติเคยเห็นแต่ดำๆ นี่มาขาวจั๊ว แหม คัดหน้าตามาป่ะเนี่ย



ไปไหนดูป้ายเอานะคะ



จุดแรกที่เจอคือตรงมุมนี้คะ วิวดีมากๆ



ซื้อหมวกจากโรงเกลือเพื่องานนี้เลยอิอิ สวยจัง 60 บาทเอง



สวยจังเลยเย้ๆ



บอกแต่ภาพล่ะกันนะคะ














และเราก็ไปต่อกันที่ตลาดโก้งโค้งกันนะคะ ตลาดนี้เพิ่งสร้างใหม่ค่ะ



"ตลาดโก้งโค้ง" ตั้งอยู่ที่ บ้านแสงโสม หมู่ 5 ถนนบางปะอิน - วัดพนัญเชิง (ติดวัดบ้านเลน) ตำบลขนอนหลวง หรืออยู่ห่างจากตัวอำเภอพระนครศรีอยุธยา 11 กิโลเมตร เป็นตลาดโบราณย้อนยุคที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ "ตลาดโก้งโค้ง" นั้น มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "บ้านแสงโสม" ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านเรือนไทยหมู่ใหญ่ ที่คงความเป็นสถาปัตยกรรมไทยโบราณไว้อย่างเด่นชัด เพื่อนๆ สามารถสัมผัสกับบรรยากาศเก่าๆ แบบสมัยกรุงศรีอยุธยา และพบกับวิถีชีวิตของไทยในอดีตที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทยเอาไว้ อย่างไรก็ตาม บริเวณบ้านแสงโสมในอดีตเป็นด่านขนอน (ด่านเก็บภาษีในอดีต) และเป็นสถานที่ที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้านานาชนิด ทั้งที่เป็นสินค้าชุมชนและสินค้าที่มาจากต่างเมือง  


ภาพประกอบจากเว็บอื่น



        ส่วนคำว่า "ตลาดโก้งโค้ง" เป็นคำที่ใช้เรียกตลาดในสมัยโบราณ อยู่คู่กับกรุงศรีอยุธยามาเป็นเวลานาน โดยคนขายสินค้าจะนั่งขายสินค้าอยู่บนพื้นดิน ดังนั้น คนที่มาซี้อสินค้าจะต้อง "โก้งโค้ง" เพื่อเลือกดูสินค้าที่ตนสนใจ ซึ่งการโก้งโค้งของคนไทยนั้น ทำได้สุภาพ นุ่มนวล เป็นกิริยาที่แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน โดยภาพการซื้อขายจะเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และเต็มไปด้วยอัธยาศัยไมตรีเป็นมิตร ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย

        สำหรับสินค้าที่มีวางขายในตลาดนั้นก็มีมากมาย ทั้งของสด - แห้ง อาหารคาว - หวาน ผัก ผลไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ขนมสายบัว ขนมแป้งจี่ ขนมครกรสโบราณ ขนมถั่วแปบ ขนมหม้อแกงถั่ว ทองหยิบ ทองหยอด ขนมถ้วย ขนมตาล กล้วย ส้มโอ ก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณ ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ส้มตำ ไก่ย่าง หมูสะเต๊ะ ห่อหมก ข้าวปั้นสูตรโบราณ ชมสาธิตการเป่าแก้ว สนุกสนานกับการเดินชมร้านขายของที่ระลึก พร้อมการแสดงจากชุมชนที่มีให้ชมกันเกือบตลอดทั้งวัน 

        อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของตลาดแห่งนี้ คือ การรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีวิถีชาวบ้าน มีอาหารและสินค้าพื้นเมืองที่หาชมได้ยาก โดยแม่ค้าทั้งหลายจะแต่งชุดไทยแบบชาวบ้านจริงๆ เพื่อรักษาวิถีชีวิตแบบอยุธยาเอาไว้ ทั้งนี้ เจ้าของสถานที่เขาบอกไว้ว่า ตลาดแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ผู่เฒ่าผู้แก่ในชุมชน (จะได้มีรายได้) ซึ่งตลาดจะไม่มีการเก็บค่าที่ใดๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงแค่แต่งชุดไทยๆ ก็เพียงพอแล้ว... (ชักอยากไปกันแล้วใช่ไหมล่า)

        ทั้งนี้ ตลาดโก้งโค้ง เปิดบริการทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น


จากถนนสายเอเซีย (ทางหมายเลข 32) เลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอบางปะอิน ตรงไปถึงสี่แยกไฟแดง แล้วเลี้ยวขวา (บางปะอินสายใน) ผ่านสถานีรถไฟบางปะอินตรงไปประมาณ 8 กิโลเมตร


ภาพจากเว็บอื่น




ต้องโก้งโค้งถ่ายตามชื่ออิอิ



ภาพประกอบช่วย








แล้วก็ขับเรือยเปื่อยผ่านหมู่บ้านญี่ปุ่นแต่ไมได้เข้าไปค่ะ เพราะว่าราคา 50 บาทเด๋วเกินงบอิอิ



มุ่งหน้าไปสู่ทางไปวัดพนัญเชิงค่ะ เพราะว่าบางปะอินห่างอยุธยา 20 กิโลค่ะ ขับมอไซด์แค่นี้ชิวๆมาก



ถึงแล้ววัดพนัญเชิง ขับรถมาแค่ 15 นาทีถึงแระค่ะ



โชว์ตัว เด็กสก๊อยส์ก่อน



วัดนี้มีแก้ปีชง


แดดวันนี้แรงค่ะ แต่ถ่ายแดดมาได้แค่นี้หล่ะ



วัด



มาดูกันใครเกิดปีไร แล้วปีไรชงส่วนเราเกิดปีกุนค่ะ เกิดปีชงพอดีเลย



ไหว้เสร็จเอาธูปมาปักตรงนี้ก็ได้ค่ะ



เทพเจ้าแก้ปีชงประจำปีชวด



ส่วนนี้คือเทพ ฮกลกซิ่วของปีกุนค่ะ



แล้วก็แวะเข้าไปไหว้พระนางสร้อยดอกหมากค่ะ



จุดธูปกัน



แอบเจอน้องแมว ตั้งท้องโย้เลย รักแมวอยู่แล้วเลยขอเล่นหน่อยน่ารักดีอิอิเชื่องด้วย



เดินไหวไหมลูกเอ๊ยยยย



แล้วก็แวะไปกินก๋วยเตี๋ยวชามล่ะ 15 บาทค่ะ เป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกค่ะ



อันนี้ ปอเปี๊ยสดค่ะ จานล่ะ 25 บาทเอง



ทานเสร็จ ก็ไปเที่ยวต่อ



แล้วก็ไปวัดมเหยงค์คะ  เสียค่าเข้าชม 10 บาทค่ะ มีเจ๊กลุ่มๆนึงบอกว่า "ไรอ่ะเสียด้วยเหรอ ตะก่อนไม่เห็นเสีย " แต่เราบอกว่า พี่คะต้องเสียค่าเข้าชมด้วยนะคะ มีโกรธเราด้วย แต่เราคิดว่าเค้าเก็บก็ดีนะคะ จะได้เอาเงินไปทำนุบำรุงวัดต่อไปค่ะ คนเข้าออกทุกวันเดินถ่ายรูปกันทุกวันบางทีเผลอไปแตะต้องของหรือวัสดุอาจชำรุดได้ค่ะ เราคิดว่า 10 บาทไม่ได้ลำบากยากเย็นอะไรเลย ไทยช่วยไทยไงอิอิ



เราเน้นวัดที่เราไม่ค่อยได้ไปค่ะ เพราะว่าวัดใหญ่เราไปบ่อยมาก อยากไปวัดสวยๆ ที่น่าสนใจแต่คนไม่ค่อยไปดีกว่าค่ะ มาดูบรรดารถของแก๊งเด็กแวนซ์ค่ะ



วัดเหล่านี้ไม่น่าถูกเผาเลยเนอะ เสียดายจัง สวยด้วย




เห็นเค้าว่ากันว่าตรงนี้เป็นวัดหลวงเลยค่ะ วัดใหญ่มากจริงๆสำหรับวัดมเหยงค์ค่ะ










หลังจากเดินเล่นได้สักพักเราก็แวะเข้าไปในวัดกันค่ะ วัดมเหยงค์ วัดนี้เราไปบวชมาแล้วค่ะ ว่าจะเข้าไปข้างในแต่กลัวว่าเสียงกล้องจะดังเกินเลยซูมเอาล่ะกันค่ะ





เจอน้องหมาด้วยค่ะ ตัวนี้ท่าจะบ้ากล้องนะคะ เดินหากล้องเองเลย เลยจัดให้ซะหลายภาพ






รูปเยอะจัดเอาลงไม่หมดแระแล้วเราก็ไปวัดหน้าพระเมรุกันค่ะ วัดที่พม่ามาตั้งค่ายไว้เลยไมได้เผาวัดนี้ เลยเป็นวัดเดียวในอยุธยาที่ว่ากันว่าสมบูรณ์ที่สุดค่ะ





ส่วนตรงนี้วัด ธรรมิกราชค่ะ มีองค์เศียรพระ อยู่ในกอบัวค่ะ สวยมาก





แล้วก็มาต่อด้วยวัดมหาธาตุค่ะ  จิงๆไปหลายวัดมากค่ะ แต่ว่ารูปเยอะเกินเอาลงแต่ภาพสวยๆล่ะกันค่ะ



วัดนี้ดังเรื่องเศียรพระอยู่ในต้นไม้ค่ะ



วัดนี้ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ  



แล้วก็เย็นก็กลับค่ะ ขากลับเรากลับเส้นเอเชียกันค่ะ กลับมาหลับเป็นตายเลยไม่รู้เหนื่อยมาจากไหนค่ะ



และนี่คือแผนที่อยุธยาค่ะ




 

Create Date : 07 มกราคม 2553    
Last Update : 2 มีนาคม 2553 19:42:48 น.
Counter : 4511 Pageviews.  

ทริป - ชะอำ จ.เพชรบุรี

ทริป ชะอำ จ.เพชรบุรี





ทริปนี้เราเดินทางไปหัวหินก่อนค่ะ แล้วก็ไปชะอำกัน





เราไปห้องพักที่เราไปบ่อยค่ะ ก็จะเป็นที่ แสงทองคอนโดมิเนียม ก็เรทอยู่ราคา 600-800 บาทค่ะ หน้าไฮซซั่น


ถึงแม้ว่าจะเก่าแต่มันกว้างแล้วก็สะอาดดีค่ะ มีทุกอย่างให้เลือกสรรค่ะ


มีอะไรบ้างเหรอคะก็


1.ห้องกว้างนอนได้ 10-20 คน เลยทีเดียว


2.เตียงนอนนุ่มมากๆ 6 ฟุต มีหัวเตียงด้วยไว้วางของแอบมีกระจกเล็กน้อย ที่หัวเตียง


3.แอร์เย็นฉ่ำค่ะ


4.เครื่องทำน้ำอุ่น


5.มุมตากผ้าสูบบุหรี่


6.มีประตูเปิดไปนั่งเล่นที่ระเบียงได้


7.มีโต๊ะกินข้าวสำหรับ 2 คน


8. มีตู้เย็น ทีวี และ โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้ใส่เสื้อผ้า


9.มีสระว่ายน้ำ มีชุดว่ายน้ำให้เช่า


10.มีเซเว่นและที่เช่าจักรยานและรถมอเตอร์ไซด์ ร้านอาหารหน้าตึกเลย


ส่วนข้อเสียน่าจะเป็น ห้องอาจเก่าเพราะว่าเปิดบริการมานานแล้วแค่นั้นเอง



นี่ไงคะ สระว่ายน้ำ ติดถนนเลยค่ะ ข้ามไปก็เป็นชายหาดค่ะ



มีโซฟาให้นอนเล่นด้วยนะคะ



ทริปนี้ที่เรามาชะอำเพราะว่าหัวหินอาหารทะเลแอบแพงค่ะ เลยมาซื้ออาหารทะเลถูกๆที่นี่ดีกว่าค่ะ ก็ไล่ตามหาดกันเลย แต่แอบถ่ายรูปมาตลอดอิอิ



ได้ไรมามาดูกันค่ะ


ส้มตำปูม้า 40 บาทค่ะ แซ๊ปมากๆ



ปูนึ่งค่ะ 3 ตัว 70 บาทค่ะ



ข้าวผัดปู 40 บาทค่ะ
















 ยุคของแพงเอาไรมากกะห้องพัก ได้เท่านี้ก็ดีแล้วเนอะ เน้นถูกๆเข้าไว้ค่ะ

ลืมบอกว่า เรานั่งรถมาจากหัวหินคนล่ะ 21 บาทได้ค่ะ นั่ง 20 นาทีก็ถึงชะอำแล้วค่ะ แล้วก็เดินเข้าไปหาห้องพักประมาณ 2 กิโล อิอิเน้นถูกคร่า

หมดไปกับชะอำ แค่ 1000 บาทเอง สำหรับ 2 วัน 1 คืนค่ากินค่าห้องค่ะ





 

Create Date : 07 มกราคม 2553    
Last Update : 8 มกราคม 2553 12:25:09 น.
Counter : 1542 Pageviews.  

ทริป - หัวหิน+ เพลินวาน จ.ประจวบ

ทริป หัวหิน - เพลินวาน จ.ประจวบคีรีขันธ์




ทริปนี้เราเลือกไปหัวหินเพราะว่าจะลองไปแบบถูกๆค่ะ โดยไปทางรถไฟฟรีค่ะ


เราเริ่มตั้งหลักจากรังสิตค่ะ 




แล้วก็มาลงที่สถานีบางซื่อค่ะ เพื่อต่อรถไฟค่ะ มีแอบเลทเวลาด้วยนะเชอะ





บนรถไฟสะอาดมากๆและเบาะก็เอี่ยมใหม่สุดๆ นั่งไปคนน้อยๆแบบนี้ 4 ช.ม.ไปหัวหินฟรีๆ ก็ดีแล้วค่ะ



หน้าบ๊าน บาน ..5555



นั่งไปนั่งมา ยังไมได้ทันได้หลับก็ถึง หัวหินแล้วค่ะ ก็ต้องถ่ายเป็นหลักฐานไว้ค่ะ



เย้มาถึงหัวหินแล้วกอดหน่อยๆ หน้าตาฮามากแบบว่าเพิ่งตื่นเลย 555



แล้วเราก็ได้ห้องพักค่ะ ตามรอยคนในห้องบลูอิอิ ห้องพักราคา 600 บาทเองค่ะ ใกล้ในเมืองเลย และใกล้ลีลาวดีด้วยค่ะ



ข้อมูลในพันทิพย์


ส่วนใครหาห้องพักไม่ได้แนะนำ ตามนี้ค่ะ ลีลาวดี 800 บาท ใกล้ที่นี่เหมือนกันอีก 1 ทางเลือกค่ะ


//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/12/E7348334/E7348334.html


เครดิตคุณ devnow




บ้านพักผึ้ง (หัวหิน) จะอยู่ติดถนนเพชรเกษมอยู่หลังธนาคารกรุงศรี
 เว็บไซด์ค่ะ


//www.phuengguesthouse.com/index.htm  



ก็คงแนะนำฟูเลเกสต์เฮ้าส์ มีทั้งแอร์หรือพัดลม ติดทะเลจริงแต่ไม่มีหาดต้องเดินมาลงทางโซฟิเทลจะใกล้สุด ใกล้ชุมชนเลยใกล้สะพานปลา ใกล้ตลาด


เว็บไซด์ค่ะ
//www.fulay-huahin.com

 Hua Hin White Villa ราคาอยู่ที่ 800 - 1,000 บาท แต่พักได้ห้องละ 2 ท่านเท่านั้น



 bird guesthoust  ติดกับฮิลตันหัวหิน  คืนละ 500  



 feel@home 


//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/06/E7935811/E7935811.html


เว็บไซด์ค่ะ


  www.feelathomehuahin.com


เครดดิตคุณ Raintree




มาเก็บต่ออิอิ



มาดูกันค่ะ กับถนนคนเดินตอนกลางคืน ห่างจากที่พักแค่ 100-150 เมตรเองคะ เดินเองได้



มีของแนวๆเยอะเลยค่ะ



แล้วก็แวะร้านมะม่วงน้ำปลาหวานร้านดัง ถุงล่ะ 50 บาทค่ะ รวมน้ำจิ้มแล้วค่ะ



มาหัวหินแต่ใส่เสื้อ "เสื้อตัวนี้ซื้อมาจากกรุงเทพ" อิอิแนวจริงๆ คนหัวหินมองกันซ๊า ...



แล้วก็มากินไอติมร้านดังอีกค่ะ แหมตามเก็บข้อมูลในห้องบลูเยอะ



วันนี้ตื่นแต่เช้ามาทำบุญค่ะ ชุดล่ะ 30 บาทอิ่มบุญจัง



ข้างๆร้านที่ขายชุดทำบุญเจออาหารน่ากินจังวุ้ย



เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นสะพานปลากันคะ ย้ำค่ะ เดินจิงๆค่ะ ก็ผ่านโรงแรมฮิลตันค่ะ มุมจากสะพานปลาเลย




แล้วก็นั่งรถสองแถวไปเพลินวานกันคะ คนล่ะ 20 บาทเองค่ะ



























 

Create Date : 07 มกราคม 2553    
Last Update : 2 มีนาคม 2553 19:51:37 น.
Counter : 3465 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

Nenejung N Nuy
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add Nenejung N Nuy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.