-:๏:- iKiD's blog : Individual Knowledge, Interest and Delight -:๏:-
|
|||
Divergence ไดเวอรเจนส์ ไดเวอร์เจ๊ง? Divergence ไดเวอร์เจ๊ง? หลังจากที่ไม่ได้เขียนข้อสังเกตมาเดือนนึงเต็มๆ (เพราะไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไรดี) ผ่านมาเดือนนึงเรื่องที่เห็นชัดเจนมากที่สุดและอยากตั้งข้อสังเกตุที่สุดคือ Divergence คำว่า Divergence ตามพจนานุกรมแปลว่า ความแตกต่าง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหุ้น? ในทางเทคนิค(การส่องกราฟ)แล้ว Divergence คืออาการที่ เครื่องมือทางเทคนิค (หรือตัวชี้วัด หรือ Indicator) ชี้ ไปในทิศทางหรือแนวโน้มต่างกัน เช่น ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ขึ้นไปเรื่อยๆ แต่เครื่องมื้อกลับไม่ทำจุดสูงสุดตาม (หรือในทางกลับกัน) ผลของ Divergence คือ ราคา หรือเครื่องมือ ตัวใดนึงซึ่งมีนำหนักน้อยกว่าจะวิ่งหาแนวโน้มของตัวที่มีน้ำหนักมากกว่าด้วย ความเร่ง รูปกราฟตัวอย่างการเกิด Divergence ของราคาและเครื่องมือ (MACD) รูปนี้ค่อนข้างเห็นชัดเจน ราคาวิ่งเข้าหาแนวโน้ม MACD ด้วยความเร่งหลังจากเกิด Divergence ไประยะนึง ทีนี้ข้อสังเกตุกำลังจะพูดถึงไมได้มาจากเครื่องมือทางเทคนิคซะทีเดียว (ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องของพฤติกรรมเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว เลยจะพูดถึง ข่าวและความกลัวแทน) เลยมาลองตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเราเอาแนวคิดการเกิด Divergence มาใช้กับปัจจัยอื่นที่ไม่ใช่เทคนิคได้หรือไม่? เช่น ข่าวบวก ข่าวลบ ความโลภ ความกลัว? สำหรับตลาดบ้านเราคงเป็นเรื่องของยุโรปและน้ำท่วมค่อนข้างเห็นชัดเจน ข่าวยุโรป ข่าวร้ายข่าวดีมารายวัน แต่ที่แปลกก็คือข่าวร้ายมันก็ไม่ได้ทำท่าจะดีขึ้น (คือมันหนักเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ) แต่ราคากับเริ่มไม่ลงหนักเท่าเดิมแล้ว (ข่าวลบมีผลต่อราคาลดลง) เรื่องน้ำท่วมก็เช่นกัน (ตลอดเดือนตุลาคมสถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ แต่ราคาปรับขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามองในมุมนี้ระหว่างราคาตลาดและเครื่องมือ(ข่าว) เริ่มไปในทิศทางที่ต่างกัน (Divergence) จะมีการเคลื่อนที่ของแนวโน้มที่มีน้ำหนักน้อย วิ่งเข้าหาแนวโน้มที่น้ำหนักมากด้วยความเร่ง ในที่นี้คงต้องบอกว่า ราคาของดัชนีเป็นแนวโน้มที่มีน้ำหนักมากกว่าข่าว (สุดท้ายพอน้ำเริ่มลดข่าวดีๆก็เริ่มกลับมาสะท้อนราคาที่ปรับตัวขึ้น .. แต่ยุโรปยังไม่จบอาจจะต้องรอดูกันต่อไป) ดัชนีอื่นๆ เช่น ดาวโจนส์ ฮั่งเส็ง **เส้นแดงแทนด้วยแนวโน้มราคา เส้นฟ้าแทนด้วยแนวโน้มข่าว ดูๆไปแนวคิดนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันสำหรับ Divergence น่าจะใช้ปรับประยุกต์ใช้กับอะไรหลายๆอย่างได้ เช่น ความกลัวของรายย่อยในตลาดกับราคา เป็นต้น ส่วนจะใช้ได้ดี มีความแม่นยำแค่ไหนยังไง อาจจะต้องไปลองพัฒนาเป็นแนวทางของตัวเองดู Merry Christmas ขอบคุณมากครับ
โดย: M IP: 146.23.250.105 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:20:02:38 น.
|
KiD_sr
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] กลับมาเขียน Blog อีกครั้ง โดย Blog นี้จะเขียนพล่ามไปบนแนวคิดหลักๆ คือ iKiD (ไอ้คิด) "Individual, Knowledge, Interest and Delight." คำแปลแบบมั่วๆเป็นไทยก็คงประมาณว่า "ความรู้ ความสนใจ และความพอใจส่วนตัว" Enjoy. :) Group Blog All Blog
Friends Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |