รีวิว iPega Gamepad Controller สำหรับ iOS
คนที่ชอบเล่นเกมบนมือถือหลายๆ คนน่าจะเคยคิดเหมือนกันว่าถ้า iPhone, iPod Touch ของเรามีปุ่มกดจริงๆ ก็น่าจะดี เพราะการกดบนหน้าจอมันขาดความแม่นยำ แม้จะพอเล่นได้แต่ก็ให้ความรู้สึกไม่เหมือนการกดปุ่มจริงๆ แน่นอน แต่จนแล้วจนรอด Apple ก็ไม่เคยคิดจะใส่ปุ่มมาเพิ่มให้ หรือไม่แม้แต่จะออกอุปกรณ์เสริมในลักษณะ joypad แต่อย่างใด
เพื่อตอบสนองความต้องการที่ว่าก็เลยมีผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับการเล่นเกมออกมาด้วยกันหลายเจ้า เช่น iControlPad และ iCade ซึ่งใช้หลักการ map keyboard ผ่านสัญญาณ bluetooth ทำให้สามารถใช้งานได้กับ iOS device ตั้งแต่ iPad, iPhone, iPod touch นับจากนั้นก็มีเกมบน App Store หลายๆ เกมที่ออกมาประกาศสนับสนุนอุปกรณ์ดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันก็ยังได้มีผู้ผลิตของเลียนแบบอุปกรณ์ที่ว่าตามมาอีกหลายเจ้าโดยอาศัยว่าสามารถทำงานใน mode ของอุปกรณ์ที่ออกมาก่อนหน้าได้
หน้าตาของ iCade Jr. ที่ออกมารองรับ iPhone โดยเฉพาะ
ในจำนวนเกมแพดที่ทำเลียนแบบ iCade หลายๆ ตัว iPega ถือเป็นเกมแพดที่น่าสนใจตัวหนึ่งเพราะมันสามารถทำงานใน mode ต่างๆ กันได้ 4 แบบ 1. iCade 2. Keyboard 3. JoyStick 4. Mouse ในจำนวน 4 mode ด้งกล่าว iCade จะใช้งานกับ iOS device ทำให้สามารถใช้กับเกมที่รองรับ iCade ได้ทุกเกม ส่วน mode ที่ 2-4 สำหรับใช้กับ android device
ที่สำคัญ iPega มีขายในไทยครับ ผมขอไม่บอกพิกัดเดี๋ยวจะกลายเป็นโฆษณาขายของไป ท่านที่สนใจลองไปเดินหาตามศูนย์ IT ใหญ่ๆ ดูครับ ถ้าสั่งจาก เมืองนอก รวมค่าส่งจะอยู่ที่ราวๆ 750 บาท แต่ผมซื้อจากห้างไอทีแห่งหนึ่ง 850บาท มีประกันหน้าร้าน 7วัน หลังจากนั้นส่งเคลมได้ภายใน 3 เดือนก็ลองพิจารณากันดู
แกะกล่อง iPega iPega บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใสสวยงามตามรูป
กล่องบรรจุ iPega (ด้านหน้า)
กล่องบรรจุ iPega (ด้านหลัง)
ในกล่องมีอุปกรณ์แค่ iPega กับสาย micro USB สำหรับเอาไว้ชาร์จไฟ และคู่มือเป็นกระดาษแผ่นเดียว ไม่มีแผ่น driver หรืออะไรอื่นอีกครับ
วัสดุของ iPega เป็นพลาสติกเกรดปานกลาง อย่าเอาไปเทียบกับ PSP ครับ คุณภาพแย่กว่ากันเห็นๆ ส่วนที่สวยที่สุดคงจะเป็นตรงปุ่มใสๆ ที่เขียนว่า Home กับ A B X Y แค่นั้น ส่วนที่น่าตำหนิมากๆ คือปุ่ม L R ที่งานพลาสติกหยาบมาก หยาบแค่ไหนลองนึกถึงหุ่นพลาสติกตัวละ 5 บาทที่แขวนขายตามร้านขนมแถวบ้านดูครับ
ด้านหน้าของ iPega ไล่จากซ้ายไปขวา มีปุ่ม D-Pad เป็นพลาสติกสีดำๆ อารมณ์ในการกดก็คงประมาณจอย Playstation ก๊อปละมัง ถัดไปเป็นปุ่ม Select / Start ที่ใช้งานจริงไม่ได้ (ลองหลายเกมแล้วไม่สามารถ map button ได้) ไฟแสดงสถานะ Search และ Charge ถัดไปเป็นปุ่ม A B X Y
ด้านหน้าของ iPega
ด้านล่างของ iPega มีเพียง micro USB port สำหรับเอาไว้ชาร์จไฟ ด้านล่างของ iPega
ด้านบนของ iPega มี grip สำหรับเอาไว้ยึดมือถือ วิธีการใช้งานโดยการดึงขึ้นให้สุดใส่มือถือเข้าไปตรงกลางแล้วปล่อย มันจะยึดมือถือเอาไว้ด้วยแรงสปริงครับ ด้านซ้ายและขวามีปุ่ม L R ด้านบนของ iPega
เมื่อนำ iPhone มาประกอบร่างกับ iPega แล้วจะได้หน้าตาตามรูป grip ยึดได้แน่นหนาดีมากครับ หมดสิทธิ์ร่วงแน่นอน แต่อาจจะลำบากเวลามีสายเข้า ถ้าจะยกโทรทั้งอย่างนี้คงทุลักทุเลพอดู :-p iPega ประกอบร่างกับ iPhone4
วิธีการเข้าสู่ mode iCade โดยการกดปุ่ม Y+Home ที่เกมแพดค้างเอาไว้จนไฟแสดงสถานะ Search กระพริบถี่ๆ จากนั้นที่ iPhone เข้าเมนู Settings/Bluetooth แล้วเลือกหัวข้อ Bluetooth Gamepad ก็จะมีข้อความแสดงการเชื่อมต่อปรากฏขึ้นมา ที่เกมแพดไฟสถานะ Search จะหยุดกระพริบและสว่างค้างอยู่ จากนั้นก็เปิดเกมขึ้นมาเล่นได้เลย
หน้าจอ Setting / Bluetooth เมื่อทำการ pair อุปกรณ์เรียบร้อย
พอเล่นเกมบน App Store ได้แล้ว ต่อไปต้องลองเล่นพวก Game Emulator กัน ซึ่งการจะเล่นอีมูเลเตอร์ได้นั้นเครื่อง iPhone (iPad,iPod Touch) จำเป็นต้องทำการ jailbreak เสียก่อนครับ
เมื่อติดตั้ง Game Emulator เรียบร้อยแล้ว เปิดใช้งาน Gamepad แล้วเข้าไปที่เมนู Options / Input ตรงหัวข้อ Use iCade ตั้งให้เป็น On (หมายเลข 1) จากนั้นกดที่หัวข้อ iCade Key Config (หมายเลข 2) จากนั้นในหน้า iCade คุณสามารถกดรายชื่อปุ่มที่ต้องการ map แล้วกดปุ่มบน Gamepad เพื่อทำการจัดปุ่มใหม่ได้ตามต้องการ Support Emulator
Option / iCade KeyConfig
iCade Setting
เท่าที่ผมทดลองกับ Emulator หลายๆ ตัว ตระกูล .emu ทั้งหลายจะรองรับ iCade mode เช่น nes.emu, md.emu, gbc.emu ฯลฯ นอกจากนั้นก็มี Snes9x Ex ก็รองรับเช่นกัน ซึ่งอีมูเลเตอร์ทั้งหมดนี้มีหน้าจอคำสั่ง และการตั้งค่าเหมือนกันหมดทำให้ง่ายในการจดจำและตั้งค่าครับ
TIPS 1. iPega สามารถใช้กับ android ก็ได้ โดยใช้ mode keyboard (Home+A) ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบมาก
2. ผลข้างเคียงจากการใช้ Gamepad อาจจะทำให้ On Screen Keyboard ไม่ทำงาน แก้ไขโดยเข้าไปที่เมนู Setting / General / Keyboard แล้วไปเปลี่ยนการกำหนดค่า Keyboard ก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ
3. หลังจากการ pair ครั้งแรกไปแล้ว เมื่อต้องการเลิกใช้ iPega ให้กดปุ่ม Home ที่ iPega ค้างไว้จนไฟที่สถานะ Search ดับ เมื่อจะใช้งานต่อก็เพียงกดปุ่ม Home ที่ iPega ค้างเอาไว้จนไฟติดค้างก็สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องกดปุ่ม Y และไม่ต้องไปตั้งค่าที่ iPhone อีก
4. การนำมาใช้กับ iPhone ยังมีข้อจำกัดอยู่เนื่องจากปุ่ม Select / Start ไม่สามารถ map ได้ตามปกติ (ถ้าใช้กับ android สามารถ map ได้ครบทุกปุ่ม) ดังนั้นผมเลยใช้การแสดง On Screen Controls เฉพาะแค่ปุ่ม Select / Start เอา เพราะยังไงสองปุ่มนี้ก็ไม่ค่อยได้กดอยู่แล้ว หรือใครจะเปลี่ยนไป map กับ L+R ก็ได้ครับ วิธีการให้ OnScreen Controls แสดงผลแต่ Select / Start โดยการสั่งให้ Dpad + ABXY ไม่แสดงผล ซึ่งตั้งค่าได้ใน OnScreen Config ครับ
ตอนที่ผมไปซื้อ iPega พนักงานขายบอกว่าใช้กับ iPhone, iPad ไม่ได้ ใช้ได้กับ Samsung เท่านั้น ผมเลยเขียนบทความนี้เพื่อแนะแนวทางการใช้งานกับ iPhone เผื่อจะมีผู้สนใจนำไปใช้ครับ เพราะลอง google ดูก็ไม่พบว่ามีคนเขียนรีวิวถึงอุปกรณ์ทำนองนี้เลย แต่ทั้งนี้เครื่องของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะการทำ jailbreak เพื่อจะเล่นกับ Game Emulator มีความเสี่ยด้วย ถ้าหากนำไปใช้งานแล้วเกิดปัญหาก็ขอให้คิดว่า Use at your own RISK! ละกันนะครับ
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2556 |
| |
|
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2556 5:51:51 น. |
| |
Counter : 21309 Pageviews. |
| |
|
|