images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

เราจะเจอกันใหม่เมื่อฝนพรำ

สี่วันที่ผ่านมานี้ต้องเรียกว่า 'อ่วม' เพราะป่วย ทั้งไข้ ทั้งไอ เจ็บคอ
มีน้ำมูก อาการหวัดเล่นงาน ทั้งที่เหมือนร่างกายจะแข็งแรงดี

กายป่วย ใจอาจจะไม่ป่วยเท่ากาย แต่ไม่พิรี้พิไรจะร่ำร้องเอาความ
เรื่องทั้งหลายทั้งปวงไม่มีประโยชน์ เรื่องทุกเรื่องผ่านมาได้ก็ผ่านไปได้
ไม่เป็นไร ....

ไม่จำเป็นต้องรบกวนใคร

ฉันอยู่ได้ สบายดี มีความสุขตามอัตภาพ แม้บางทีมีเศร้าบ้าง สุขบ้าง
แต่ชีวิตไม่ได้อิดออดกับฉันมาก ยังคงต้องดำเนินต่อไป บอกตัวเองว่า
แม้เสียดายบางเรื่อง แต่การสิ้นสุดของบางเรื่องก็ต้องมีเรื่องใหม่เข้ามา
ทดแทนเสมอสิ ก็ฉันเคยเชื่ออย่างนั้น และยิ่งต้องเชื่อในวันที่เสีย
ศรัทธา เสียศูนย์ กับความสัมพันธ์

เรื่องความสัมพันธ์เป็นเรื่องซับซ้อนและเข้าใจยาก

ไม่นานมานี้ คนอ่านที่เป็นขาประจำในบล็อกนี้มานานเนิ่น ถามฉันว่า
ไปเที่ยวคนเดียวดีไหม ฉันรีบบอกและสนับสนุนให้เธอไป โอกาสที่เราจะได้ทำอย่างนี้มีไม่มากหรอกค่ะ เพราะจะมีคนบอกและห้ามไม่ให้ทำเยอะมาก แล้วไหนจะเป็นความกลัวและไม่แน่ใจที่อยู่ในใจเราอีก

ไปคนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว แต่มีคนทำได้มาแล้ว และก่อให้เกิดความภูมิใจเล็กๆสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง จุดนั้นเหมือนจุดเปลี่ยนชีวิต

ทำให้รู้ว่าการไปไหนโดยไม่มีห่วง ( ทั้งที่จริงมีคนห่วงตามเป็นกระบุง แต่ทำใจให้ว่าง ทิ้งความห่วงไว้ข้างหลัง ) การมีอิสระเสรีมันดีขนาดไหน ไม่ต้องพะวงอะไรเลย ไม่ต้องหันหน้าไปถามใคร ว่าไปนั่นไหม ไปนี่ไหม แพลนของตัวเองที่คิดและใช้คนเดียว คือการใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดในการได้อยู่กับตัวเอง

ถ้าทำได้ ขอให้ทำสักครั้ง ถ้าลองได้ ขอให้ใจกล้าลองสักครั้ง

ขณะที่เจอประสบการณ์ขนหัวลุกทำให้ลืมเรื่องเน่าๆในใจไปได้สนิท ขณะหลงทางกลางเมืองใหญ่เมืองนั้น ทำให้ลืมเรื่องขมๆ ขณะจิบกาแฟรสชาติอร่อยเพียงลำพังได้ ในนาทีหนึ่งที่เราอยู่กับเรื่องๆหนึ่ง เรื่องบางเรื่องก็อยู่ลึกเพื่อรอเวลาทำใจให้ลืม

ฉันไปเที่ยวคนเดียวตอนอกหัก และไม่มีอ้อมกอดของใครเฝ้ารอคอย
ไม่มีใครรอการมาของฉัน ขณะที่ต้นทาง มีคนห่วงว่าฉันจะไปรอดไหม
ฉันหัวเราะ ทำใจกล้าบ้าบิ่น ขณะร้องไห้น้ำตาไหลเพียงลำพังบนเครื่องบิน
ที่พาฉันทะยานออกจากฟากฟ้าเมืองกรุง

ชีวิตก็อย่างนี้แหละค่ะ มันสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก บางทีก็ขำไม่ออก แต่ก็ได้เรียนรู้

ฉันฟันธงแบบนั้นและบอกให้เธอไป เธอบอกฉันว่าอยากไปทุ่งดอกกระเจียว มันคงอยู่ในช่วงกำลังบาน ครั้งหนึ่งฉันเคยไปที่นั่น มีคนจูงมือดูดอกกระเจียวที่ใฝ่ฝัน อากาศหนาวเหลือใจเพราะฝนพรำ เป็นครั้งเดียว
ในชีวิตที่จะมีภาพแบบนั้น

ไปสิ .. ฉันบอกให้เธอไป เพราะมีที่พักแห่งหนึ่งที่ฉันเคยไปเห็นด้วยตามาแล้วว่ามันน่ารักนัก ชื่อสะเลเตชาเล่ต์ ฉันเคยคิดว่าจะได้กลับไปพัก
ตอนนั้นเขายังสร้างไม่เสร็จดีเลย แต่มีบ้านพักให้เห็นแล้ว มันน่ารักจริงๆนะ แล้วก็น่าจะปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่ไปเที่ยวคนเดียว
ถ้าที่พักไม่น่าห่วง อย่างอื่นก็ไม่ต้องห่วงแล้ว

อย่าให้มือที่คอยฉุดรั้งเรา แท้จริงคือใจของเราเอง บอกตัวเองอย่างขลาดกลัวว่าไม่ควร ไปไหนไม่ได้หรอก เราทำได้ เพราะนี่คือชีวิตที่เรามีสิทธิ์ใช้

ถ้าเธอไป ฉันจะฝากเธอโอบดอกกระเจียวแทนฉัน เราไม่ได้พบกันหลายปีแล้ว มือที่เคยจูงถูกปล่อยออก ฉันเคยแน่ใจว่าจะมีบางสิ่งหลงเหลือ แต่บัดนี้แน่ใจแล้วว่าไม่อยู่...

ไม่เป็นไร เพราะชีวิตก็คล้ายดอกไม้ในทุ่งนั้น มันมีวันเติบโตและผลิบาน ขณะมีวันร่วงโรยเพื่อพักกายพักใจ

เราจะเจอกันใหม่เมื่อฝนพรำนะ

ฝากเธอกระซิบเบาๆผ่านสายฝนแทนฉันที....




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2554    
Last Update : 19 มิถุนายน 2554 11:09:36 น.
Counter : 242 Pageviews.  

นกตัวนั้นไม่ได้บินเดี่ยวเพียงลำพัง...

สองเดือนที่ผ่านมามีเรื่องเกิดขึ้นเยอะ และฉันได้ทำความเข้าใจกับตัวเองเยอะเช่นกันค่ะ หนึ่งในนั้นคือเรื่องของคนใกล้ตัว

ที่ผ่านมา ฉันแทบไม่เคยเขียนอะไรในบล็อกที่บอกเล่าถึงเรื่องรักปัจจุบัน และเหตุผลที่ไม่มีใครเคยรู้เลยก็คือเพราะฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจคนที่ดีกับฉัน และรักฉันจากที่ไกลๆ เป็นความตั้งใจที่ฉันคิด ว่าในเมื่อ
ฉันเลือกเดินจากเขามา มันก็ทำร้ายจิตใจกันมากพอแล้ว มิใยตัวหนังสือที่เขารักหนักหนา รักจนเป็นหนึ่งเดียวกับตัวฉัน จะกลับไปฟาดฟันเขาให้เจ็บอีก ฉันจึงเลือกที่จะไม่ทำ

ฉันคิดว่าตัวเองทำดีแล้ว จึงเก็บเรื่องรักในปัจจุบันไว้ในชีวิตจริง

ส่วนตัวหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆรอบตัว ยังคงสวยงามเช่นเดิมตามที่มันควรจะเป็น

ฉันไม่ได้มีรักที่วิเศษเลิศเลอ มันมีทั้งทุกข์ ทั้งสุข ทั้งเรื่องที่พอใจ และไม่พอใจ แต่เรื่องที่ไม่พอใจต่างหากที่บั่นทอนฉัน ฉันจึงเหมือนรักไปสุขไป ทุกข์ไป ไม่เต็ม ไม่อิ่ม ทั้งที่มันควรจะอิ่ม เพราะคว้าได้ อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องตะกายไปไหนเพื่อให้ได้อิ่ม

เสียงที่บอกฉันว่า 'ในเมื่อฉันเลือกแล้ว ฉันก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ฉันเลือก' การรับผิดชอบนั้นจึงต้องหมายถึงการซื่อสัตย์ทั้งตัวและหัวใจหรือไม่ใช่.... มันควรต้องเป็นแบบนั้น ใครๆก็บอกแบบนั้น ฉันคิดว่าตัวเองก็ทำได้แบบนั้น แต่.. บางสิ่งที่บั่นทอนฉันไม่เคยได้รับการแก้ไขจริงๆ

เพราะฉันมองตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่เคยมองด้วยสายตาที่มีความเข้าใจเป็นตัวตั้ง

ฉันอยากให้เขาเป็นแบบนี้ บลา บลา บลา .. แบบที่ฉันอยากได้จากอีกคนหนึ่ง แต่มันไม่ได้ ฉันจึงทุกข์ เขาทำอะไรก็ขวางหูขวางตาฉันไปหมด ฉันหงุดหงิด ฉันรำคาญ จนฉันไม่มีความสุข พอทุกข์ทีไร
ฉันต้องมองหาหลักเกาะ เหมือนนกที่ต้องโผบินไปเกาะกิ่งไม้นั้นที กิ่งไม้นี้ที ฉันลืมไปว่าขอนไม้ไม่ได้อยู่เพื่อฉันตลอดเวลา ในเมื่อขอนไม้ ก็จำต้องเป็นที่พึ่งพาอาศัยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และยังต้องดูแลตัวเองอีก

เป็นเรื่องลำบาก สำหรับนกตัวหนึ่ง ในวันที่บินไปแล้วพบว่าตัวเองโดดเดี่ยว ไร้ขอนไม้ให้เกาะเพื่อวางตัวเองซุกอิงเพียงชั่วครู่ เพื่อให้ตัวเองแข็งแรงพอที่จะกลับไปต่อสู้ใหม่

นกที่ไม่มีขอนไม้ให้เกาะ ต้องเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับจิตใจตัวเอง วันหนึ่งได้หันกลับมามองดู ก็พบว่าจริงๆแล้วทุกครั้งที่เหนื่อยล้า เพราะตัวเองไม่เคยมองดีๆเลยสักครั้งว่า ความรักต้องการอะไร แต่นกตัวนั้นบอกตัวเองว่า ตัวเองต้องการอะไรจากความรักตลอดเวลา

รักที่มองแค่ตัวเอง ไม่ใช่รักที่แท้จริง ไม่ทำให้เป็นสุข

ฉันก็เหมือนนกหลงทางที่ไร้ขอนไม้ให้เกาะในวันก่อน แต่เมื่อไร้ที่พักพิงทางใจ ใจที่อ่อนปวกเปียกก็ต้องต่อสู้หลบลมฝนเอง โชคดียังมีเสียงจากความหวังดีคอยชี้แนะแนวทาง ให้หันกลับไปมองว่าตัวเองต้องทำอะไร
และต้องเดินไปอย่างไร

เมื่ออยู่กับชีวิตจริง ก็ต้องหัด 'ยอมรับความจริง' ทุกเรื่องทีเกิดขึ้นให้ได้ อย่าปฏิเสธมัน

เขาเตือนฉันเสมอว่าให้อยู่กับความเป็นจริง แต่คนอย่างฉัน ฝันได้เป็นตุเป็นตะ จึงเขียนหนังสือได้ ฉันมีรักในอุดมคติที่สวยงาม อยากให้ความรักสวยงามอย่างนั้นด้วย เมื่อไม่ได้ เมื่อถูกบั่นทอนด้วยบางสิ่งที่คิดว่าตัวเองไม่ชอบ ( และก็ต้องอยู่กับความไม่ชอบอย่างสันติ ) มันจึงออกอาการพยศ

นกตัวนั้นเคยหลงทาง แต่มันก็กลับบ้านได้ เหมือนฉัน... บางสิ่งสวยงามในฝันแต่เอามันมาไว้ในชีวิตจริงไม่ได้ นกตัวนั้นได้รู้แล้ว ฉันก็รู้แล้ว

อย่าปฏิเสธแรงลมปะทะ โอนอ่อนตามมันไปเสีย หลบฝนซะ ถ้ามันจะทำให้ไม่เปียกและบินต่อได้

ชีวิตที่อยู่กับความเป็นจริงสอนเรา ว่าไม่มีอะไรได้ดั่งใจตลอดเวลา สิ่งที่ไม่อยากได้ ทำให้เราทุกข์ สิ่งที่เราอยากได้แต่ไม่ได้ ก็ทำให้เราทุกข์

ความสุขอยู่ใกล้ ทำเป็นมองไม่เห็น หยิกตัวเองสักทีเพื่อให้รู้ว่า อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน เพลงนั้นสอนฉันเสมอ... สองเดือนก่อนก็ยังสอน นกน้อยไม่มีขอนไม้ให้เกาะแล้วจะได้รู้จักแข็งแรง หลบฝนได้เองเสียที อย่าเอาแต่ร่ำร้อง หาคนปลอบโยนอยู่ร่ำไป

ไม่มีคนลูบหัวลูบหลังเสียเมื่อไหร่ก็ยังมีตัวเอง

คนข้างๆเขาบอกว่า ฉันป่วยใจ ฉันก็ยอมรับว่าฉันป่วยใจ แต่ใช่ว่าจะไม่รู้จักหาย อย่างน้อย วันนี้ก็ได้รู้แล้ว ว่าการมองตัวเองและรู้จักเยียวยาตัวเองด้วยความจริงใจนั้น ทำให้ดีขึ้นแค่ไหน

ขอบคุณนะ.... ที่ทำให้ฉันยืนอยู่ได้ และอยู่กับฉันตลอดเวลาไม่เคยทอดทิ้งเลย แม้ในวันที่ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง

โลกนี้ไม่ได้แร้งไร้ และนกตัวนั้นก็ไม่ได้บินเดี่ยวเพียงลำพัง.... จริงๆ




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2554    
Last Update : 19 มิถุนายน 2554 3:29:30 น.
Counter : 398 Pageviews.  

ถ้าไม่มีเสียงที่เปี่ยมด้วยความหวังดีเหล่านั้น

สามชั่วโมงกว่าที่ตั้งใจว่าจะหลับ แต่แปลกที่ข่มตาลงอย่างไรก็ไม่หลับ
ในใจมีเรื่องคิดมากมาย หนึ่งในนั้น คงเป็นความคิดถึงทึ่วนเวียนอยู่กับพื้นที่เล็กๆ ที่ฉันไม่ได้ใช้มันเลยร่วมสองเดือน นับจากวันนั้น...

ฉันไม่ได้บอกเหตุผลอะไรมากมายแก่คนอ่าน ที่แวะมาเยี่ยมเยียนหรือถามถึง คงมีเพียงคำบอกเล่าสั้นๆว่าปิดบล็อกไม่มีกำหนด จริงๆจะต้องบอกว่า
ไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำไป เพราะมันไม่น่าจะใช้เป็นเหตุผลของการหยุดเขียนหนังสือ

หยุดทั้งที่เสียดาย หยุดเพราะเอาความเสียใจมาทำร้ายตัวเอง

ทั้งที่การเขียนหนังสือคือสิ่งที่ฉันรักที่สุด

เอาเถอะ เวลาสองเดือนที่ผ่านมาก็ไม่ได้สูญเปล่าเสียทีเดียว อย่างน้อย ก็เป็นสองเดิอนที่ได้เห็นอไร ได้อยู่กับอะไร และได้ทบทวนอะไร และเป็นสองเดือนที่ยาวนาน

ฉันเลือกกลับมานั่งหน้าจออีกครั้ง แบบเงียบๆ ในกรุ๊ปบล็อกที่ไม่ได้เป็น public มันคือที่เดิมที่ฉันเคยเขียน บอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละวัน ตั้งแต่ครั้งที่บาดเจ็บ จนกระทั่งลุกขึ้นได้

ฉันยินดีที่ตัวเองมีสติพอ ที่จะตื่นขึ้นพบความจริง ว่าโลกนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายเกินรับไหว อย่างน้อยโจทย์ใหม่คราวนี้ก็ทำให้เรียนรู้บทเรียนที่ไม่ซ้ำ และเป็นดั่งคำพระพุทธเจ้าสอน ว่าไม่มีอะไรแน่นอนทุกอย่างในโลกนี้เป็นอนิจจัง

ฉันบอกตัวเองว่าจะไม่ทรุดนาน เพราะเชื่อในบางสิ่งทดแทน เมื่อเสียอะไรไป เราต้องได้อะไรคืนกลับมาเสมอ ต่อให้เป็นการเสียอย่างไม่เต็มใจจะเสีย แต่ในเมื่อเราควบคุมทุกอย่างในโลกไม่ได้ ฉะนั้น การเปลี่ยนแปลงก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

แค่มีสติรับมันก็พอแล้ว แต่ฉันเรียกสติคืนได้ช้าไปนิด และอาจจะช้ากว่าคนอื่นหน่อยเท่านั้น

สามชั่วโมงที่นอนไม่หลับ ฉันหอบหนังสือและโน๊ตบุ๊คลงมาชั้นล่างของบ้าน แมวหลับหมดแล้ว อาจจะงงๆเล็กน้อยว่าทำไมคนไม่หลับไม่นอน ขนาดแมวยังรู้ว่านี่คือเวลานอน

เขียนหนังสือดีกว่า ใจนึกอย่างนั้น ที่จริง นึกมาหลายวันแล้วด้วยซ้ำค่ะ นึกว่าจะเขียนอีกครั้ง นึกไปถึงคำพูดและถ้อยคำที่หลายๆคนบอก หลายคนถาม ว่าทำไมต้องหยุดเขียน เหตุผลเหมือนไม่ใช่เหตุผล ทำไมต้องให้คนบางคนมามีอิทธิพลเหนือเรา ให้เราเลือกที่จะหยุดทำในสิ่งที่รัก จำเป็นหรือต้องทำให้ทุกอย่างไม่ปกติ

ณ ตอนนั้นอาจจะจำเป็นมากสำหรับฉัน เพราะเรี่ยวแรงไม่มี

เรื่องบางเรื่องช็อกความรู้สึก เหนือความคาดหมายและเกินกำลังไปมาก ฉันรู้สึกว่าตัวเองถูกน็อก เหมือนหมดสติคาที่ไปเลย ในนาทีที่ถูกกระทบ คงไม่ต้องขยายความว่าเรื่องนั้นคือเรื่องอะไร แต่มันเป็น
เรื่องที่ถูกส่งมาทดสอบ ในวันที่เหมือนไม่มีอะไรเลย

เหมือนท้องฟ้าใสอยู่ดีๆ แล้วก็กลับกลายเป็นมีเมฆฝนเคลื่อนที่มาอยู่ตรงหน้า อีกสักเดี๋ยวฟ้าก็รั่ว มรสุมระลอกนั้นรุนแรงและถาโถม

สองเดือนที่ฉันใช้เวลาในการทำความเข้าใจและเยียวยาจิตใจตัวเอง แต่เป็นสองเดือนที่มีค่ามากเหลือเกิน เพราะฉันได้เรียนรู้แล้วว่าตัวเองทำอะไรพลาด และตลอดมาฉันมองโลกด้วยสายตาที่ 'แคบ' เพราะเอาตัวเอง
เป็นศูนย์กลางโดยไม่รู้ตัว

ถ้าเรียกมันอย่างให้เกียรติ คงต้องบอกว่านี่คือวิกฤติอีกครั้งในชีวิต ที่ถูกส่งมาทดสอบเอาในวัยเฉียดสี่สิบ ไม่ว่าจะถูกส่งมาเพื่อเย้ยหยันว่า ความไว้วางใจนั้นถูกทำลายได้ อย่าได้ไว้ใจใครง่ายนัก หรือถูกส่งมาเพื่อให้รู้ว่า ไม่มีอะไรจีรังยั่งยันจริงๆก็ตามที เวลานี้มันก็ผ่านพ้นไปแล้ว

โชคดีนักที่มีคนเตือนสติมา ถ้าไม่มีเสียงที่เปี่ยมด้วยความหวังดีเหล่านั้น ฉันก็คงคืนใจตัวเองให้เป็นปกติจากเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องนี้ได้ยาก นี่อาจเป็นบุญที่ฉันควรต้องรับและส่งต่อ ทั้งตั้งใจจะเผื่อแผ่และทำสิ่งดีๆให้มากที่สุดในขณะยังมีลมหายใจ

ฉันตั้งใจอย่างนั้น...




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2554    
Last Update : 19 มิถุนายน 2554 3:17:10 น.
Counter : 253 Pageviews.  

อย่าเชื่อฉันจนกว่าคุณจะคิดเอง !!

ฉันเขียนบล็อกมาตั้งสี่ปี วนเวียนอยู่ในพันทิป แม้ไม่มากมายอะไร
แต่ทุกครั้งที่นึกอยากจะหาอะไร หรือรู้อะไร ฉันชอบใช้บริการ
smart search ซึ่งมีประโยชน์มากนะคะ ในการค้นหาข้อมูลจากกระทู้
ต่างๆ

ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหน อย่างไร บางทีมีคำถามคาใจ ฉันก็ชอบใช้พันทิป
แต่ก่อนจะตั้งกระทู้ถาม ฉันจะ search กระทู้เก่าๆดูก่อน หากหาคำตอบไม่ได้จึงจะไปตั้งกระทู้

กำลังจะเล่าว่า ทุกเรื่องที่อยากจะค้นหา ไม่ว่าเวลานั้นคาใจเรื่องอะไร
หรือตั้งใจจะทำอะไร ก็หาจาก smart search นี่แหละ

เช่น สนใจจะซื้อรถใหม่ ก็มาค้นว่า รุ่นไหน ดียังไง เป็นอย่างไร
จะไปเชียงใหม่ จะไปปาย จะไปอีสาน จะไป ฯลฯ ข้อมูลในนี้ข่วยได้มากค่ะ อย่างล่าสุดที่ฉันไปเชียงใหม่ ก็หาเจอเกสต์เฮาส์น่ารักจาก
กระทู้ในห้อง BP

ดังนั้นสังคมในเน็ตสำหรับฉันแล้ว จึงเห็นว่าเป็นสังคมที่มีน้ำใจค่ะ
ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นสังคมจอมปลอม หลอกลวง หรือว่าสังคมโหดร้ายอย่าได้เข้าใกล้เหมือนที่กลายเป้นข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ

ฉันว่าของอย่างนี้อยู่ที่เราใช้ และเรามอง ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไรมากกว่า ที่สำคัญเราต้องใช้ให้เป็น อย่างมีสติและอย่างเข้าใจธรรมชาติของมันด้วยนะคะ

นี่ฉันก็กำลังใช้ประโยชน์จากข้อมูลในอินเตอร์เน็ต สำหรับหามือถือ
สักเครื่องทดแทนตัวเก่าที่ใช้มาตั้งหลายปี เพราะเจ้า K750i ถึงเวลาของมันแล้วแน่ๆเลย

อ่านกระทู้ review ต่างๆที่มีเยอะแยะมากมายจนอ่านไม่หมด
และอย่างที่บอก ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของการใช้อินเตอร์เน็ตในการหาข้อมูล เพราะข้อมูลในโลก //www.นั้นเยอะมาก และไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วว่า ถูกหรือใช่ เราจึงควรใช้จารณญาณของตัวเอง
ในการเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อด้วย

ไม่ใช่เชื่อไปหมดและตัดสินจากตัวหนังสือที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง
อย่างที่พระพุทธเจ้าสอนว่า อย่าเชื่อเพียงเพราะเขาเป็นครูของเรา อะไรทำนองนี้แหละค่ะ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราคิดและไตร่ตรอง อย่าได้เชื่ออะไรทุกอย่างเพราะเขาบอกให้เชื่อ

แต่ตัวเรานั่นแหละที่จะต้องมีวิจารณญาณในการคิดเป็น

ข้อมูลข่าวสารในยุคนี้มีเยอะมาก อย่าว่าแต่ใน //www.เลย แม้แต่
คน ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ก็คือตัวกระจ่ายข่าวสารชั้นดี และ
คนนี่แหละที่ทำให้ข้อมูลข่าวสารบิดเบือนได้มากที่สุด จากอะไรละคะ
ถ้าไม่ใช่เพราะ 'อคติ' ส่วนหนึ่งที่คนๆนั้นมี

ไม่ต้องดูอะไรหรอก ในออฟฟิศมีแหล่งข่าวจากตรงนั้นตรงนี้ ข่าวว่าคนนั้นอย่างนั้นอย่างนี้ นี่ก็คือข้อมูลข่าวสารที่กรอกหูเราได้ทุกวัน จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า เออ ก็รับมาไว้ก่อนแหละ แล้วจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการกลั่นกรอง ไตร่ตรอง หรืออคติส่วนตนของตนเอง

อยู่ในโลกปัจจุบันน่ะไม่ง่ายหรอกค่ะ เพราะโลกทุกวันนี้ล้วนเต็มไปด้วย
สารพัดสิ่งที่ทั้งทำขึ้น เพื่อหลอกลวง เพื่อผลประโยชน์ เพื่อบิดเบือน
เพื่อโจมตี เพื่อหาพวก เพื่อฯลฯ หากเราเชือ่ข่าวสารไปหมดทุกอย่าง
เราก็อาจจะถูกจูงจมุกง่ายๆ ไม่ต่างอะไรกับวัวควาย ที่ถูกจูงจมูกไปมา
แบบนั้นทั่งที่เราคิดเองได้ และเราฉลาดกว่าสัตว์อื่นๆอีกมาก แต่เราก็มักจะทำตัวโง่ เพราะไม่อยากคิดอะไรเลย มันง่ายดี

คนสมัยนี้ยิ่งง่ายๆเข้าว่าอยู่แล้วด้วย เฮ้อ..

เศร้าใจเหมือนกันนะคะเนี่ย !!




 

Create Date : 17 กันยายน 2552    
Last Update : 17 กันยายน 2552 22:42:43 น.
Counter : 326 Pageviews.  

เหมือนในเพลง....

ฉันอยากรู้

เธอเป็นอย่างไรแล้วจากวันเก่า
นับจากที่เราไม่ได้พบกันเนิ่นนาน
เธอสบายดีไหม ฉันอยากรู้

บางที
ฉันก็คิดว่า ในคำถามที่ไม่มีคำตอบ
มันช่างชวนให้คิดไปนานา
และมันก็ชวนให้คิดต่อไปอีกว่า
เธอจะอยากถามฉันไหม
ด้วยคำถามเดียวกัน

เธอจะอยากรู้บ้างไหม
ว่าฉันเป็นอย่างไร

มีเพลงๆหนึ่งซึ่งฉันเคยไม่ชอบมากๆ
ทั้งที่มันเพราะ เพราะว่าฟังแล้วอยากร้องไห้
ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย
มันเคยยากมาก ที่ฉันจะต้องยอมรับ
วันนี้ฉันทำได้แค่ส่งความคิดถึง
ถึงเธอเท่านั้น

ในความคิดถึงที่แสนบริสุทธิ์
เมื่อเราปลดภาระแห่งความเป็น 'คนรัก' ออก
ปล่อยให้ความทรงจำทั้งดีและร้ายเป็นเพียงแค่อดีต
เหลือแต่ปัจจุบันที่แยกเราไกลห่าง

ในวันที่รู้ว่าเธอป่วยไข้ ไม่สบาย
ฉันทำได้เพียงภาวนา
แว่บหนึ่งเพลงนี้ได้ปลอบใจฉัน ให้ทุเลาจากความรู้สึกทุกข์ทน

ไม่เป็นไรหรอก เธอคงสบายดี
ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเธอคงหายดี

ฉันส่งความคิดถึงมาเยี่ยมเธอ
คงทำได้เพียงจากตรงนี้
และหวังว่าเธอคงสุขดี

เหมือนในเพลง...





 

Create Date : 01 สิงหาคม 2552    
Last Update : 1 สิงหาคม 2552 14:57:15 น.
Counter : 270 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.