images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

เด็กริมคลอง ผู้ว่ายน้ำไม่เป็น

กลับจากทริปค่รอบครัวแล้วนะคะ เที่ยวแบบตามใจคนอื่น
ไม่ได้ตามใจตัวเอง แต่ก็แลกกับรอยยิ้มของทุกคน เฮ่อ .. ยอมค่ะ

ฉันไม่ได้กลับบ้านมาเจ็ดเดือน ลงใต้คราวนี้ไปถึงภูเก็ต แล้วกลับ
บ้านที่สุราษฎร์

ฉันมีเวลาน้อยมากที่จะตระเวณถ่ายรูปแถวบ้าน แต่ไม่ลืมว่า
จะเอาแม่น้ำตาปีมาฝากคุณแอบ ( และเผื่อคุณทุกคนค่ะ )

ฉันโตมากับแม่น้ำ แต่เป็นเด็กที่ว่ายน้ำไม่ได้เรื่อง
ในบรรดาเด็กๆแถวบ้าน ทุกคนจะถูกจับโยนลงแม่น้ำตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ
ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ของเด็กที่โตริมคลอง

แต่แม่บอกว่า ฉันไม่เอาอ่าวที่สุดแล้ว 555
เพราะปอดแหก ขี้กลัว เป็นผลให้ฉันเป็นเด็กแถวบ้านคนเดียวในรุ่นนั้น
ที่ว่ายน้ำไม่ได้

และส่งผลให้จนถึงบัดนี้ ฉันยังงงๆว่าตัวเองว่ายน้ำเป็นหรือเปล่า
อาการปอดแหก กลัวน้ำ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะเล่นน้ำ ทั้งในสระ
หรือในทะเล แบบที่ว่า หากยืนไม่ถึง เท้าไม่ได้สัมผัสพื้น ฉันจะ
ไม่เอาเด็ดขาด

นั่นคือตอนเด็กๆเท่าที่นึกออกนะคะ

รูปน้ำตาปีที่ถ่ายมา ไม่สวยค่ะ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายแบบจริงๆจังๆ
เนื่องจากไม่มีเวลาเลย กลับจากภูเก็ตว้นอังคารกลางคืน ราวทุ่มกว่าๆ
แล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นก็ต้องจัดของ หาซื้อของ และอยู่กับครอบครัว
ทำให้รูปน้ำตาปี ลอดเลนส์มาได้แค่นี้

ไม่สวย แต่ก็คงพอมองออก ว่าชีวิตริมน้ำไม่ว่าที่ใด ต่างอุดมสมบูรณ์
และร่มรื่น แม่น้ำตาปีปรากฏชัดอยู่บนแผนที่ของเมืองสุราษฎร์ ในฐานะสายน้ำที่หล่อเลี้ยงเราให้เติบโต แลไหลเรื่อยไปถึงเมืองอื่นๆ ริมทะเลอ่าวไทย

เมื่อไหลเรื่อยไปบรรจบทะเล กระทั่งถึงปากน้ำตาปี ชาวประมงที่นี่
อาศัยน้ำตาปีหาเลี้ยงชีพ อาหารจากทะเลที่นี่มากมาย อุดมสมบูรณ์
ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เมืองนี้ไม่ขาดแคลนค่ะ

ฉันจะกลับไปถ่ายน้ำตาปีที่สวยกว่านี้มาฝากอีกครั้ง คราวหน้า
ซึ่งสัญญากับเจ้าตัวเล็ก วัยสิบขวบและเจ็ดขวบไว้แล้ว ขณะที่เขาถามว่า เมื่อไหร่อาจะกลับมาอีก

เด็กๆไม่เรียกหาของเล่นแล้ว พวกเขาโตขึ้น ไกลสายน้ำออกมาหน่อย
แต่เขาก็ยังใกล้น้ำมากกว่าฉัน

คนเมืองก็อย่างนี้ ไกลแม่น้ำ แล้วยังขาดแคลนน้ำอย่างอื่นอีก เฮ่อ เศร้านะคะ เราไม่มีแม่น้ำชโลมใจ แต่เราน่าจะมีน้ำอย่างอื่นที่ชื่นใจกว่า เช่นน้ำใจ

ทำไมมันหายากจังละคะคุณ !!




 

Create Date : 16 เมษายน 2552    
Last Update : 17 เมษายน 2552 5:50:05 น.
Counter : 571 Pageviews.  

ค่ำคืนแห่งการเดินทาง

ค่ำคืนแห่งการเดินทาง...

บนถนนแต่ละสาย คงระยิบด้วยแสงไฟ

ฉันยังจำ ถนนทุกสายที่นำฉันมุ่งหน้าไปสู่ บางสถานที่
บางแห่ง และบางคน..

ในบางช่วงขณะของชีวิต

การเดินทางของชีวิตว่าซับซ้อนแล้ว
การเดินทางของหัวใจ กลับยุ่งยากยิ่งกว่าเสมอ

...

ค่ำนี้..
ใจหลายดวงคงกำลังเดินทาง
ไปสู่อ้อมกอดอบอุ่นที่บ้าน ไปสู่ที่ที่เคยฝากวันเวลาไว้..ขณะเยาว์วัย

ค่ำคืนที่หลายคนเดินทางกลับบ้าน

ฉันขอให้ทุกเส้นทางของคุณเปี่ยมด้วยความสุข



ทุกเส้นทาง มีปลายทาง

ไม่สำคัญว่าปลายทางจะอยู่ที่ใด เพียงขอให้มีเส้นทางของตนเอง

และรู้ว่าจะไปอย่างไรเท่านั้นเอง

แล้วเจอกัน .. ที่ปลายทาง ( ของใจ ) นะคะคุณ !!




 

Create Date : 10 เมษายน 2552    
Last Update : 10 เมษายน 2552 23:36:47 น.
Counter : 416 Pageviews.  

เปลี่ยนเบอร์ใหม่ เปลี่ยนแฟนหรือยัง ?

วันก่อนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทสมัย ป ตรี ไม่ได้คุยกันนานมาก
นับนิ้วดูว่า ฉันจบ ป ตรีปี 35 กระมังคะ โอย นับไปนับมา นิ้วไม่พอ

ระหว่างเราต่างพลัดหลงไปเพราะวิถีทางของตัวเอง และการสื่อสารที่ไฮเทคเกินไปค่ะ

คนเราเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันบ่อยจังนะคะ บางครั้งเมื่อได้รับสายจากคนรู้จักที่จู่ๆก็โทรมาด้วยเบอร์ที่ไม่คุ้น ก็มักจะได้รับคำถามว่า ฉันยังใช้เบอร์เดิมอยู่อีกเหรอ

อือ ก็เบอร์เดิมสิ ไม่งั้นไอ้ที่เธอโทรมาหาฉัน เราก็คงไม่ได้คุยกันหรอกนะ และไม่รู้ว่าจะได้คุยกันอีกหรือเปล่า เพราะเมื่อเบอร์เปลี่ยน ทุกอย่างก็หายหมด เหมือนวงจรที่ถูกตัดขาดไป เพราะซิมอันเล็กๆ
อันเดียว ไม่น่าเชื่อนะคะ

ฉันมีเบอร์โทรศัพท์ล่าสุด ที่ใช้มาหลายปีดีดัก ยังไม่คิดจะเปลี่ยนไปไหน แม้จะเจอแรงโปรโมชั่น แต่รู้ทันนักการตลาดล่ะ 555
ไม่ยอมเปลี่ยนใจค่ะ

จะมีซิมรุ่นใด คงกระพันแค่ไหน หรือดีโคตรๆๆ ออกมาล่อ ก็ไม่อาจทำให้เราเปลี่ยนใจจากค่ายสีส้มและเบอร์ที่เราใช้อยู่ได้ เพราะเราชอบเบอร์นี้

ไปไกลนิดนึง เรื่องของเรื่องก็เพื่อนโทรมาอัพเดทชีวิต หายกันไปนาน
เจอคำถามที่สะอึกไปหน่อยว่า แฟนแกล่ะ สบายดีเหรอ เออ แล้วล่าสุด
แฟนแกคือคนไหน จำไม่ได้แล้ว เปลี่ยนแฟนอีกหรือเปล่า

ขำไม่ออก เพื่อนเล่นถามว่า แล้วแฟนเราคือคนไหน เปลี่ยนแฟนอีกหรือเปล่า แหมมม นะ ทำราวกับว่าเรานี่ เจ้าชู้เสียจนไม่อาจจะมีรักเดียวได้ คงไม่รู้ว่า เราเองก็ถูกทิ้งมาเหมือนกัน

ฉันไม่มีนโยบายในข้อนี้หรอกค่ะ เพราะไม่เคยมีอยู่ในระบบชีวิตเลยว่าจะต้องเปลี่ยนแฟน อัพเดทตามเทรนด์ทุกๆกี่ปี

เพื่อนอาจจะแตะฉันได้แค่ผิวเผิน เพราะจริงๆแล้วเขาไม่รู้หรอกว่าสำหรับตัวฉันแล้ว ความรักลึกซึ้งกว่านั้นมาก ฉันอาจจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตรัก ลุ่มๆดอนๆมาหลายหน ไม่แน่นเหนียวยืดยาว เหมือนบางคู่ที่รักกันมาราธอน

ภาพความสำเร็จของชีวิตคู่ในหมู่เรามีให้เห็นไม่มากพอค่ะ อาจจะไม่มากนักที่จะพอทำให้คนทั่วไปฝังความเชื่อใหม่เข้าไปว่า ชีวิตคู่แบบหญิงรักหญิง หรือ ชายรักชาย ก็มีความมันคงไม่แพ้ชีวิตคู่ของหญิงชายเช่นกัน

( พี่พิมคะ บีคิดว่าพี่พิมจะต้องเถียงในประเด็นนี้ 55 )

คนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้ล่ะค่ะ ว่ามันมักจะไม่ยั่งยืนหรอก อาจเพราะไม่มีตัวอย่างให้เห็นมากนัก และมองอย่างไรมันก็ไม่เหมือนแพทเทิร์น
ของการสร้างครอบครัวอันเป็นสูตรปกติ ว่าต้องประกอบด้วยเพศหญิงและชาย แต่งงานแล้วก็มีลูก

แต่ที่คนทั่วไปเห็นและเชื่อ คือพวกเราไม่ได้มีรักที่จริงแท้ อยู่กันได้
ไม่ทันไรเดี๋ยวก็เลิก เปลี่ยนคู่บ่อยๆ ทั้งที่จริง ฉันเชื่อ ว่าดวงใจทุกดวง
ของผู้หญิงหรือผู้ชายสีรุ้งทุกคน ล้วนแล้วแต่ปรารถนาความรักที่เปี่ยม
ด้วยความสุข และ มั่นคง อันเป็นความต้องการพื้นฐานตามหลักจิตวิทยาที่เราเคยเรียนรู้กันมาแล้วนั่นแหละค่ะ

คือฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น และคิดว่าคุณทุกคน ก็คงต้องการอย่างนั้น

เราไม่อยากรักๆเลิกๆ หรอกค่ะ เพราะมันก็ไม่เห็นสนุกกับการเปลี่ยนคู่
การเรียนรู้กันใหม่บ่อยๆ มันเหนื่อยมาก กว่าจะรู้ใจกัน กว่าจะเห็นใจกัน กว่าจะเข้าใจกัน กับใครสักคนหนึ่งจนถึงขั้นรัก และปลงใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน มันก็ไมได้เกิดขึ้นในวันเดียว

ยากนะคะ กว่าจะทำให้คนทั่วไปเข้าใจและเชื่อ

ฉันคิดว่าตัวเราเอง ต้องมีสิ่งนั้นในใจก่อนค่ะ เราต้องเชื่อและตั้งมั่น
ในสิ่งที่เราคิดว่ามันใช่ และเป็นสิ่งที่เราต้องการ ในเมื่อเราอยากได้ความรักที่จริงแท้เหมือนกัน เราก็ต้องเริ่มจากตัวเราก่อน คือจริงใจกับตัวเอง แล้วก็ให้ความจริงใจกับคนอื่นต่อ

มันไม่มีสูตรอะไรที่จะจริงและใช่ มากไปกว่าการใช้ความจริงใจแลกกันอีกแล้วล่ะค่ะ

..

อืมม วันนั้น ฉันตอบเพื่อนไปว่าอย่างไรไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าได้บอกเขาไปว่า เออ อิจฉาแกจัง ที่เจอผู้ชายดีๆ คือสามีเขานี่รักเขามากๆด้วย แม้เขาจะทำอะไรไม่ดี แต่สามีก็ยังรัก เทิดทูน บูชา ผู้ชายอย่างสามีเพื่อนคนนี้หายากมาก ไอ้เพื่อนเรานี่ก็ไม่ใช่เล่นๆ เข้าทำนอง ผู้ชายนิ่ง ผู้หญิงซ่าน่ะค่ะ

มีแฟนก็เหมือนซื้อล็อตเตอรีจริงๆนั่นแหละค่ะคุณ ไม่มีใครรู้หรอกว่า
เราจะเลือกได้ดีหรือเปล่า จนกว่าเราจะเลือกแล้วซื้อมานั่นแหละ

ฉันเองก็ภาวนาให้ตัวเองถูกล็อตเตอรี่กับเขาบ้าง

ขี้เกียจตอบคำถามเพื่อนแล้วล่ะค่ะ 555 !!




 

Create Date : 09 เมษายน 2552    
Last Update : 9 เมษายน 2552 22:55:32 น.
Counter : 427 Pageviews.  

คู่เวรคู่กรรม คู่สร้างคู่สม หรือคู่แบบไหน...

จริงๆต่อจากบล็อกที่แล้วฉันตั้งใจจะแปะเพลงล่ะค่ะ
คือฉันชอบเพลงของ ETC อยู่เพลงหนึ่ง ชื่อเพลง หมดเวลา
วันก่อนได้ฟังเวอร์ชั่นที่ทาทา ยัง นำมาร้อง ก็เพราะไปอีกแบบ
แต่ชอบเวอร์ชั่นชายหนุ่มมากกว่า ตาน้องหนึ่ง นักร้องนำและเพื่อนๆวง
ETC ของเขา เล่นดนตรีกันเก่งๆ ฉันเคยทำงานกับเด็กๆวงนี้ตั้งแต่
เขาออกอัลบั้มแรก เด็กๆกลุ่มนี้เก่งค่ะ หากไม่เจ๋งจริง พี่อ้อม ชุมพล สุปัญโญ คงไม่ลากจากเชียงใหม่ลงมาอยู่ที่นี่แน่ๆ




นอกจากเพลงแล้ว ยังอยากคุยเรื่องที่ได้จากเมลคุณแอบอ่าน
ขออนุญาตแชร์ประเด็นจากคุณแอบอ่าน ที่บอกว่าเชื่อในเรื่องพรหมลืขิต ว่าหากเป็นคู่กันมา ยังไงก็ต้องได้เจอกัน แต่จะเป็นคู่สร้างคู่สม หรือคู่รักคู่แค้นก็คงขึ้นกับเวรกรรมที่ทำมาร่วมกัน

แหม ฉันอ่านประโยคข้างต้นแล้วก็คิดได้ว่า วันก่อนได้คุยกับ
คุณพันธกุมภาเรื่องรักๆ นี่แหละ แล้วคุณพันธกุมภาก็พูดเรื่องหนึ่งที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะมีคำตอบให้น่ะค่ะ

เอาล่ะ ฉันขอลากมาแปะไว้ด้วยดังนี้นะคะ ลองอ่านดูค่ะ

มีเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังคือ การอาฆาต และ การให้คำมั่นสัญญา
เพราะมันจะติดกรรมของเราไปทุกๆ ชาติ หรือในอนาคต แรงเหวี่ยงมันจะเกิด

และเมื่อเกิดกรรมต่างๆ ก็เท่ากับว่า เมื่ออดีตชาติ เราอาจเคยทำอะไรมา ชาตินี้เราจึงมีทุกข์เรื่องรัก

ลองพิจารณาดูนะครับ

ในการกระทำนั้น หากมี กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม นี้

1. บางคู่ เคยทำบุญร่วมกันมาแค่ทาง กาย และ มโนกรรม แต่เมื่อมาคบกัน ก็จะไม่ค่อยเข้าใจกัน พูดไม่รู้เรื่อง แต่เลิกกันไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่ดีขนาดไหนเพราะ กาย และ มโนกรรม มันขึงไว้อยู่

2. บางคู่ อยู่ด้วยกันนานๆ ไม่ได้ ต้องเลิกกัน แต่พอคุยกันทางโทรศัพท์จะรู้สึกดี เพราะเขาไม่ได้ทำกายกรรม มาร่วมกัน แต่ทำเพียงมโนกรรม

ตัวอย่างนี้ บอกให้รู้ว่า ถ้าเราอ่อนตรงไหน เราก็หาโอกาส ทำบุญด้วยกัน ในเรื่องที่อ่อนๆ เช่น

กรณี
คู่ที่ 1 อาจหมั่นสวดมนต์ด้วยกัน
คู่ที่ 2 อาจหมั่นไปทำบุญด้วยกัน เป็นต้น

แต่สิ่งที่จะช่วยให้ดีที่สุดคือ พากันไปเจริญสติ วิปัสสนา.....


ฉันเคยสงสัยล่ะค่ะ ว่าแล้วที่ผ่านมาฉันเคยมีคู่แบบไหนมาเนี่ย แล้วจริงๆ ฉันมีคู่สร้างคู่สมกับเขาหรือไม่

ก็แปลกนะคะ เพราะกับคนเคยรักบางคน อยู่ใกล้กันแล้วทะเลาะกันจะแย่ แต่พอไมได้อยู่ด้วยกัน ก็คุยกันดี๊ ดี กลับกลายเป็นว่า ความรักที่มีในวันก่อนๆ มันจะต้องถูกกำหนดมาให้เป็นความรักแบบไม่ครอบครอง

บางครั้งก็เกิดความรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมไอ้ที่เรารักๆเลิกๆอยู่ได้เนี่ย มันเกิดจากอะไร

แล้วจริงๆ จะว่าไปไม่รู้โชคดีหรือโชคอะไร ที่ไม่เคยขาดความรักเลย
ว๊าว อะไรจะ hot ขนาดนี้เนี่ย (ฮา)

ขำๆค่ะ

แต่ฉันเชื่อในเรื่องทำอะไรได้อย่างนั้นนะคะคุณ เพราะสิ่งที่เราทำแม้จะรู้ตัวหรือไม่ หากทำให้ใครเดือดร้อนหรือไปกระทบอะไรใครเขา มันก็ย่อมส่งผลต่อเราเหมือนกัน

แม้ไม่เชื่อเรื่องคู่ว่ามีแท้ มีจริง หรือไม่เชื่อว่ามีคู่เวร คู่กรรม แต่อย่างน้อยน่าจะเชื่อผลของการคิดดี ทำดี เพราะเราจะสบายใจตั้งแต่เบื้องต้น
ที่เราคิดแล้วนะคะ

ดังนั้น จะเจ็บปวดจากใคร ก็อย่าได้เคืองหรือโกรธเลย เพราะมันก็อาจจะเกิดจากที่เราเคยทำอะไรให้เขาเจ็บปวดด้วยหรือเปล่า แล้วเราก็ยิ่งต้องระวัง อย่าไปทำให้ใครเจ็บปวดเพราะเรา จะดีที่สุด

ลองดูสิคะว่าจากรูปแบบของคู่ ที่คุณพันธกุมภา ได้บอกไว้นั่น คุณมีคู่แบบไหน หรือคิดว่าอยากได้คู่แบบไหน

ให้เป็นการบ้านของค่ำคืนนี้นะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ!!




 

Create Date : 07 เมษายน 2552    
Last Update : 7 เมษายน 2552 22:21:40 น.
Counter : 563 Pageviews.  

อยากอยู่ด้วยกันไหม ?

คุณคะ

บล็อกที่ 733 แล้ว

ฉันรู้สึกตัวว่า เดี๋ยวนี้ ช้าลง เขียนหนังสือได้ช้าลงค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร

รู้สึกได้ว่าไม่สดชื่นเท่าที่ควร บางทีฉันนั่งลงเพื่อที่จะเขียนอะไร ฉันรู้ว่าตัวเองอยากเขียนอยากเล่าอะไร

แต่พอนั่งลงหน้าจอ

555 ใบกิน

สันนิษฐานว่าเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้น จากการที่ความคิดไม่แล่น หรือ ไม่แน่ใจว่าขาดวัตถุดิบกันแน่ ฉันเคยคิดว่า หรือตัวเองจะต้องหยุดเขียนอะไรไปสักพัก

แต่จำได้ว่า ตอนที่ทำงานหนักๆเมื่อสองสามปีก่อน แล้วไมได้เขียนหนังสือเลย กลับรู้ตัวว่าตัวเองไม่มีความสุข

อย่างหนึ่งที่เรารู้ คือ เวลาที่เราเขียนหนังสือ เราจะสัมผัสได้ว่า มันมีความสุขจริงๆ ซึ่งฉันคิดว่า ทุกคนจะมีความรู้สึกแบบนี้เมื่อได้ทำในสิ่งที่เรารัก

และฉันคิดว่า ทุกคนคงจะมี ‘สิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข’ กันทุกคน
และจะดีอย่างยิ่งค่ะ หากเราจะรู้ว่า เรามีความสุขกับอะไร

เราอยู่ตรงไหนแล้วเรา happy

....

เล่าเรื่องรักอีกสักทีนะคะ เพิ่งจะได้คุยกับ ‘อดีตแฟน’ เรื่องความรักว่า ระหว่างการอยู่ด้วยกัน กับ ไม่อยู่ด้วยกัน แบบไหนจะดีกว่ากัน

เพราะเราต่างก็เคยมีประสบการณ์ด้วยกันมาแล้ว เราเคยใช้ชีวิตด้วยกันมาแล้ว เมี่อผ่านวันขม มาจนถึงวันที่ต่างก็เปิดปากถึงเรื่องเก่าๆโดยไม่โกรธเคืองได้ ก็เท่ากับว่า เราได้จบเรื่องที่ค้างคา ยุติกรรมที่ก่อกันไว้ด้วยดี

เธอบอกกับฉันว่า ถ้าจะให้ดีเราควรเข้าใจธรรมชาติของการอยู่ด้วยกัน และเข้าใจในระยะต่างๆระหว่างกัน ว่ามันสำคัญมากอย่างไร หากเราเข้าใจตรงนี้ เราจะรับมือกับธรรมชาติที่ผันผวนของความรักได้ไม่ยากนัก แน่นอนว่า ฉันกับเธอก็เคยผ่านมันมาด้วยกัน มันจึงเป็นบทเรียนของเราทั้งคู่

เราอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางการทะเลาะเบาะแว้ง เยอะมากค่ะ แต่หากย้อนฟิลม์หนังไปตอนที่เราเริ่มต้นใหม่ๆ นิยายเรื่องนี้ก็เริ่มต้นเหมือนเรื่องทั่วๆไป แต่จบลงแบบไม่ happy ending ก็เท่านั้น

ถามว่าใครเจ็บปวดกว่ากัน ก็ต้องเป็นเธอ เพราะคนที่เดินจากมาคือฉัน
แต่ถามต่อว่าแล้วฉันไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ ไม่ใช่ค่ะ ในฐานะที่เดินจากมา ฉันยืนยันได้ว่าคนที่เป็นฝ่ายถอนตัวออกมานั้นเจ็บปวดไม่แพ้คนที่ยืนอยู่กับที่ เพียงแต่มันอาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวของคนที่ต้องพูดว่า
เราเลิกกันเถอะ คนที่พูดก่อนย่อมจะต้องแบกกรับความรู้สึกนี้เอาไว้
มากกว่า ก็รับโทษไปค่ะ

เธอเองไม่มีใครสองปีกว่าๆ ก่อนจะมีรักใหม่ที่แสนดี ส่วนฉันน่ะหรือ มีแล้วก็พัง 555 อ้าว นี่เรื่องจริงนะคะ ไม่ได้ล้อเล่น

ก่อนอื่นต้องบอกว่า แม้ฉันจะเสียศรัทธาในความรักไปบ้างแต่ฉันก็ยังเชี่อว่า ความรักนั้นสวยงามด้วยตัวของมันเอง นอกจากนั้นยังได้เรียนรู้มุมมองใหม่ที่ได้จากการปรับเอาธรรมะเข้ามาในจิตใจ ขอให้เชื่อว่า ความรักก็เหมือนสิ่งอื่นในชีวิตเรา มีได้ ก็หมดได้

คุณคงเคยได้ยินคำว่า ‘ช่วงโปรโมชั่น’ นะคะ
มันเป็นคำหยิกแกมหยอก แต่มันก็จริงนั่นแหละ

ฉันผ่านประสบการณ์ของการอยู่ด้วยกันมาหลายหน ผ่านช่วงโปรโมชั่นมาหลายครั้ง มันหอมหวาน กระชากใจจริงๆแหละค่ะ

ผ่านช่วงนั้นแล้วก็มาเจอช่วงขวัญผวา ไม่ว่าจะอยู่กันมากี่ปี เมื่อจบลงก็เศร้าทุกครั้ง อยู่ด้วยกัน มีความสุข คือเหรียญด้านหนึ่ง ที่เราไม่ได้พลิกมันขึ้นมา ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น คุณก็คงรู้อยู่แก่ใจดี

เวลาที่ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน หรือแม้แต่ใกล้กันมากเกินไป แทบไม่มีที่หายใจเลย ก็ทำให้ยิ่งกระทบกระทั่ง

ธรรมชาติของคนเราเวลาอยู่ด้วยกัน มันต้องใช้หลายๆอย่างค่ะ ถามว่าข้อดีมีไหม ก็มีสิ แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วมันก็มีข้ออื่นๆที่ต้องรับ
นะคะ อย่างหนึ่งคือคนเรามีความเป็นตัวเองกันทุกคน โตมาก็ต่างกัน ย่อมมีโอกาสเกิดความขัดแย้งได้อยู่แล้ว

เราอยู่กับตัวเอง เราตามใจตัวเองได้ แต่เมื่อเราอยู่กับคนรัก เราทำอย่างนั้นตลอดเวลาไม่ได้ ความต้องการที่ไม่เหมือนกันก็เป็นปัญหาค่ะ เขาถึงมีคำเปรียบว่าการใช้ชีวิตคู่นั้น เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง คนโบราณเขาบอกว่า หนักเบาต้องรู้จักอภัยให้กันไงคะ

คนที่อยู่ด้วยกันหากไม่เกรงใจกันก็พังแหละค่ะ

ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไม คู่รักบางคู่ที่รักกันเหลือเกิน จึงต้องหย่าร้างหรือเลิกรา แต่เคยสงสัยไหมคะว่า แล้วความรักมันหายไปไหนหมด

มันก็จะย้อนกลับไปสู่สัจธรรมที่ว่า ความรักนั้นมีได้ก็หมดได้ อันเป็นธรรมชาติของทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้

แต่อยากจะย้ำจริงๆนะคะ ว่าเมื่อความรักมันถึงเวลาหมด อย่าไปถูลู่ถูกังลากเขา หรือยื้อเขากลับมา จำไว้นะคะว่า แม้คุณกับคนรักจะทะเลาะกันจะเป็นจะตาย แต่หากความรักมันยังมีอยู่ คุณสองคนก็จะไม่หายจากกันไปไหนหรอก เพราะความรักจะยึดคุณเอาไว้

แต่ถ้ามันหมดแล้ว ยิ่งทะเลาะกัน ยิ่งไม่มีทางประสานกันได้ค่ะ
ฉันลองมาแล้วสิคะ มันไม่มีทางได้จริงๆนั่นแหละ

ไม่อาจจะสอนใครนะคะ อย่าได้คิดว่านี่คือประสบการณ์จากกูรูผู้รู้เรื่องรักดีพอ เพราะคนอย่างฉันก็คงไม่ต่างจากคุณ ฉันเคยพลาด และความผิดพลาดของฉันก็ทำให้ฉันได้เรียนรู้แง่มุมอื่นๆ คงไม่ได้ต่างจากทุกคนที่เคยอกหักแล้วก็เริ่มต้นใหม่ ( ครั้งที่เท่าไหร่ โปรดอย่าถามค่ะ )

เพียงแต่ถามว่าเข็ดไหม ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะเข็ด แต่หากให้เทียบน้ำหนักของการอยู่ด้วยกัน กับไม่อยู่ด้วยกันแล้ว ฉันก็ยังชอบการได้อยู่ใกล้ๆคนรัก เพราะการอยู่ด้วยกันสำหรับฉันคือการ ‘เติมเต็ม’ แต่หากเลือกไม่ได้หรือไม่มีโอกาสจะเป็นแบบนั้น อย่างน้อยๆ ก็ยังตั้งความหวังที่อยากจะมีความรักที่ดีและมีคุณภาพ เหนื่อยใจให้น้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม การอยู่ด้วยกันไมได้แปลว่าเราจะไปเป็นเจ้าของชีวิตใครได้นะคะ เรากับเขา เหมือนเสาคนละต้นที่คอยค้ำ “บ้านแห่งใจ” ของเราไว้ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องตัวติดกัน เพราะคนเราต้องการพื้นที่หายใจทุกคน

คาลิล ยิบราน เคยกล่าวถ้อยคำทำนองนี้ไว้ จำได้ลางๆ หากใครจำได้
ขอเชิญมาแปะให้อ่านสักหน่อยก็ดีค่ะ

แค่ได้มองเห็นกันว่าเธออยู่ตรงนั้น ฉันอยู่ตรงนี้ เว้นระยะให้แก่กันบ้าง
น่าจะทำให้ความรักของเราอบอุ่น ไม่ขาดแคลนแม้จะหมดช่วงโปรโมชั่นไปแล้ว

...

เพราะบางทีการอยู่ด้วยกันก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความรักหรอกค่ะ แต่อยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้เรามีความสุข กับช่วงเวลานั้นให้นานที่สุดมากกว่า

แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่รักกันมาก ก็ยังดีกว่าอยู่ด้วยกัน ทะเลาะกันทุกวันจนหาความสุขไม่เจอ

ไม่รู้รักกันหรือเปล่าน่ะ แล้วสุดท้าย ก็ต้องมาถามตัวเอง ว่ามาอยู่ด้วยกันทำไมเนี่ย

เฮ่อ.. จบข่าว !!!!




 

Create Date : 07 เมษายน 2552    
Last Update : 7 เมษายน 2552 21:57:23 น.
Counter : 457 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.