images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

มันจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม มันจะเศร้าก็ไม่เศร้า

บ่ายวันนี้แดดครึ้ม เหมือนว่าฝนจะตกลงมาอีกตอนเย็นๆ จากการคาดเดาเมื่อมองฟ้า แต่ผิดคาดค่ะ เย็นนี้ไม่มีฝน รถไม่ติดเท่าที่คาดว่า
มันจะติด

เห็นไหม เอาแน่อะไรไม่ได้เลย

เมื่อบ่ายขณะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปย่านอโศกที่เคยคุ้นเพราะทำงานย่านนี้มานาน

ลมร้อนวูบๆปะทะใบหน้าเป็นระยะ อบอ้าวมากๆ

ฉันคิดอะไรเรื่อยๆขณะซ้อนมอไซค์อยู่บนเส้นอโศก

ชวนให้หวนคิดไปว่า บางสถานที่ที่เราเคยใช้ชีวิตอยู่ หรือมีความหลังอะไรบางอย่างอยู่กับสถานที่เหล่านั้น ช่างเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกนะคะ เมื่อเราได้กลับไปอีกครั้ง

ฉันมีเรื่องหวานๆขมๆอยู่เรื่องหนึ่ง เกิดขึ้นที่ม.เกษตร แม้จะผ่านไปเกือบสิบปีแล้ว

แต่ฉันยังจำมันได้ดีเหลือเกิน ใช่ว่าฉันเป็นนิสิตเกษตรนะคะ จึงไปทำความหลังหล่นร่วงทิ้งไว้ที่นั่น บังเอิญมีเหตุว่า เธอที่ฉันเคยรู้สึกดีด้วยเรียนอยู่ที่นั่น

ฉันยังจำวันที่ไปรอรับเธอที่โรงอาหาร หรือที่ห้องสมุด แล้วเราไปนั่งทานข้าวอร่อยๆด้วยกันได้ดี ยังมีวันที่เรา sweet กันอย่างเหลือเกิน เหมือนความฝัน แต่ตื่นขึ้นมาก็พบว่า เฮ้ย นั่นมันเรื่องโกหก

มีจดหมาย มีโปสการ์ดมากมาย มีของกระจุ๊กกระจิ๊กที่เธอเคยให้ฉัน
รวมถึงหนังสือและประโยคบางประโยคที่ฉันจำมันได้ดีอีกนั่นแหละ
Eventhough not a lover but can be true companion ประโยคนี้ทิ่มใจฉันจริงๆนะคะ

มันเป็นไปได้ยากมาก เพราะฉันมีคนรักอยู่แล้ว
และมันก็เป็นไปได้ยากมากจริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่ประหลาดสุดๆ
เรื่องหนึ่งในชีวิตฉัน

เชื่อไหมคะว่าฉันไม่เคยเจอความสัมพันธ์ทับซ้อนครั้งไหนที่มัน
ประหลาด และทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง๊ โง่ เท่าครั้งนี้เลย
แต่ก็เป็นครั้งที่ฉันรู้สึกว่า มันน่าประทับใจที่สุดด้วย เฮ้อ.. อะไรก็ไม่รู้สิ

ไม่รู้อะไรๆระหว่างเรามันเกิดขึ้นได้ยังไง ( โปรดอย่าเข้าใจว่ามันลึกซึ้งไปถึงเรื่องทางกายนะคะ ไม่ขนาดนั้นค่ะ ) แต่เรื่องที่ ‘ครั้งหนึ่งเคยเกิด’ ระหว่างฉันกับเธอ มันเหมือนมิวสิควีดิโอจริงๆ

ฉันจำทุกภาพในหนังสั้นเรื่องนี้ได้ แต่ตอนจบมันแย่ไปหน่อย เพราะนอกจากฉันจะมีคนรักอยู่แล้ว และไม่คิดจะเลิกราจากคนรัก (ในเวลานั้น) ฉันยังกลายเป็นตัวตลกหรืออะไรก็ไม่รู้ของเธอไปอีกด้วย

ขำก็ขำ หวานก็หวาน ขมก็ขม เหมือนหนังรักเศร้าเคล้าน้ำตา แล้วก็ผ่านไป ทิ้งไว้แต่ร่องรอยในความทรงจำ ฮื้อ.. นึกทีไร ก็รู้สึกแปลกๆทุกที

เรื่องของเรื่องที่ฉันเขียนเรื่องนี้ เพราะฉันฝันถึงเธอด้วย ตลกมาก ฉันฝันถึงเธอขณะที่ฉันไม่เคยเจอเธอเลย หลังจากที่เราจากกันไปแล้วไม่รู้กี่ปี อย่างน้อยก็ห้าหกปี

ในวงกลมรอบชีวิตฉันไม่มีเธอตั้งนานแล้ว เธอกับฉันจากกันไปไกลตั้งนานแล้ว แต่จู่ๆคืนนั้น ฉันกลับเห็นเธอในฝัน มันชัดเจนมากๆด้วย

ฉันคิดว่าการที่เราได้เจอกัน รู้สึกดีต่อกันในช่วงหนึ่งแล้วก็หมดเวลา มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆไม่ว่าใครคนนั้นจะเดินมาเจอกับเราด้วยเหตุอะไร ช่วงหนึ่งดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเรามันก็จะอยู่กับเราไม่ไปไหน
ถึงคนนั้นจะเดินจากไปแล้ว หรือเราจะเดินจากมาแล้ว

ถามว่า การเจอกันในฝันนั้น ทำให้รู้สึกอะไรหรือไม่ ฉันคิดว่าดีค่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ฉันลืมตาตื่นมาด้วยความรู้สึกแปลกๆไป มันจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม มันจะเศร้าก็ไม่เศร้า เหมือนว่า คนในความฝันนั้นจะมาย้ำเตือนให้หวนนึกถึงเรื่องที่ครั้งหนึ่งเคยเกิด แล้วก็พบว่าเออนะ เราไม่เคยลืมมันหรอก

ไม่ใช่เพราะคิดถึงหรอกค่ะ จึงเก็บไปฝัน ซึ่งมันก็ประหลาดดีนะคะ

ฉันอยากเจอเธออีก เพราะอยากรู้ว่า เวลาที่หายไปเจ็ดแปดปี เธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เธอยังจำบางเรื่องระหว่างเราได้ไหม ไม่ใช่เพื่อจะกลับมาทำให้อะไรเหมือนเดิม เพราะมันไม่เหมือนเดิมหรอก
สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราต่างเปลี่ยนไปแล้ว วันเวลาของเราก็เพื่อปัจจุบัน ไม่ใช่เพื่อวันวาน

แต่ฉันอยากรู้ว่านาทีที่คนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เราจะพูดอะไรกันนะ เราจะทักทายกันว่ายังไง หรือเราจะพูดอะไรออกไหม แล้วเราจะยิ้มหรือว่า อะไรดี

เพราะเราไม่ได้จากกันด้วยดีเลย

เป็นอารมณ์ที่แปลกดีนะคะ

คล้ายๆกับบางช็อตในหนังที่เราเคยผ่านตา เมื่อคนสองคนได้กลับมาเจอกันอีกที

อดคิดไม่ได้ว่ารอยยิ้มที่เหือดหายจะผุดพรายขึ้นอีกครั้ง
หรือว่าจะทั้งยิ้มไม่ออก รวมถึงพูดไม่ออกด้วย

เอ้อ.. อยากรู้จริงๆค่ะคุณ !!




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2552    
Last Update : 28 สิงหาคม 2552 22:11:22 น.
Counter : 525 Pageviews.  

รูปแต่งงาน

วันนี้ได้รับรูปก่อนแต่งงานจากน้องคนหนึ่ง ส่งมาให้ดู
สวยเชียวค่ะ

รูปก่อนแต่งงาน หรือจะเรียกว่า pre wedding กลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญสำหรับคู่รักสมัยนี้ไปแล้วนะคะ ที่จะต้องมีการถ่ายรูปทำนองนี้
บางคนบอกว่า เก็บเอาไว้เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ( ซึ่งสำหรับบางคนก็
เป็นครั้งหนึ่งจริงๆ ) แต่บางคน รูปเหล่านี้คือของโชว์ หรืออาจจะ
เป็นของประดับในงานแต่งงาน เอาไว้ทำเก๋ด้วย

จะว่าไป มันก็เพลินดีนะคะ แต่เห็นว่าเป็นของไม่สนุกเท่าไหร่สำหรับคนที่ถูกถ่าย เพราะเบื้องหลังความสวยงามก็คือความเหนื่อย

แต่ฉันเชื่อว่า รูปสวยๆเหล่านี้ เมื่อได้ดูแล้วก็ชื่นใจ

จำได้ว่า ฉันเคยเห็นรูปแต่งงานของพ่อกับแม่ เราซึ่งเป็นลูก ดูแล้วก็
เออนะ ถ้าเขาสองคนไม่มีงานวันนั้น ก็คงไม่มีเรา พ่อกับแม่ในวันแต่งงาน ดูสดชื่นดีจัง

แต่พ่อกับแม่ของฉันเป็นคนรุ่นก่อน ที่แต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่จัดให้
อย่างไรก็ตาม ท่านสองคนก็ยังอยู่กันดี รักหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า
ตอนที่แต่งงานกันนั้นคงไม่ได้เกิดจากความรัก หากแต่เมื่อร่วมทุกข์
ร่วมสุขกันมาจนมีลูกตั้งสามคนแล้วนั้น

ความผูกพันก็บังเกิด

วันไหนพ่อไม่บ่น แม่คงรู้สึกแปลกๆ เพราะได้ยินแบบนี้มาสามสี่สิบปี
อะไรทำนองนั้นค่ะ

รูปแต่งงานของพ่อกับแม่อาจจะไม่ได้เกิดจากความรักก็จริง
แต่ฉันคิดว่า เบื้องหลังรูปนั้น อาจเกิดจากฟ้าลิขิตด้วยก็ยังได้
หรือจะเป็นกรรมที่ทำกันมา (ตามความเชื่อ) ทำให้ได้มาอยู่ร่วมกัน

รูปที่เก่าแก่คร่ำคร่า บ่งบอกว่า เมื่อคนสองคนมาอยู่ด้วยกันแล้ว
สิ่งที่สำคัญกว่ารอยยิ้มในรูปนั้น คือการร่วมทุกข์ร่วมสุข ช่วยกันดูแล
ประคับประคองชีวิตคู่ สร้างครอบครัวด้วยกัน ด้วยความขยันหมั่นเพียรและอดทน ยิ่งไปกว่านั้น คือต้องอาศัยความเข้าใจอย่างสูง
ในการประคองชีวิตคู่ให้ยั่งยืน

พ่อกับแม่ทำได้ ยิ่งทำให้รูปแต่งงานรูปนั้น กลายเป็นรูปที่เป็นประจักษ์พยาน ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต คนสองคนได้ตั้งมั่นที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา

อืมม.. รูปก่อนแต่งงานที่ฉันเห็นวันนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับรูปแต่งงาน
( คนสมัยก่อนไม่มีรูปก่อนแต่งงานแบบสมัยนี้นะคะ ) ที่พ่อกับแม่ถ่าย พิธีแต่งงานที่จะก่อกำเนิดขึ้น ก็เพื่อรองรับคนสองคนว่านับแต่นี้จะ
เป็นชีวิตเดียวแล้วนะ

รูปแต่งงานไม่สำคัญเท่ากับ ชีวิตที่เหลืออยู่ของคนสองคน ที่จะเริ่มต้น
ด้วยกันหรอกนะคะ จะไปรอด หรือจะไม่รอด ต่างหากที่เป็นสิงที่หนักหนากว่า

เช่นเดียวกับ พิธี จะใหญ่โตแค่ไหนก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่า มันจะจบลง
ด้วยรอยยิ้มหรือน้ำตา

เพราะมันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

..

รูปก่อนแต่งงานของน้อง ทำให้ฉันยิ้มไปด้วยค่ะ เพราะเขาสองคน
น่าจะโชคดี น้องบอกกับฉันว่า คบกับชายหนุ่มในรูปคนนี้มาห้าปีแล้ว
มันคงถึงเวลา

ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น ว่าความสุขของเขา กับรอยยิ้มชื่นบานอย่างในรูป
จะคงอยู่ตลอดไป

แม้มันจะเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นก็ตาม !!!




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2552    
Last Update : 27 สิงหาคม 2552 21:56:24 น.
Counter : 473 Pageviews.  

โถ... แพนด้า

เล่าควันหลงจากเชียงใหม่นิดนึงนะคะ
ยังไม่ได้มีเวลาทำรูป เพราะคืนนี้ก็ตาแดงอีกแล้ว โรยๆล้าๆ
แล้วก็เหนื่อยๆจากการเดินทาง

เล่าเรื่องหมีดีกว่าเนอะ

จะหมีที่ไหน ถ้าไม่ใช่หมีแพนด้า คือที่บ้านก็มีแพนด้า แต่เป็นแมวแพนด้าเพราะหนักมาก แมวแพนด้าชื่อไข่ดาว อ้วนมากๆ หนัก
ห้าโลกว่า

แพนด้าจริงๆ ก็เพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรกเนี่ยแหละ ดีนะคะ ไม่ต้องบินไปดูเค้าถึงเฉิงตู อยู่เชียงใหม่ก็มีแพนด้าให้ดู เด็กๆต้องรักแพนด้าแน่ๆ
ขนาดฉัน แก่งั่กจะเฉียดสี่สิบแล้ว ยังเผลออมยิ้มออกมาไม่ได้
เมื่อเห็นแพนด้า 'ช่วง ช่วง' เดินอุ้ยอ้ายออกมาโชว์ตัว ด้วยการกินไผ่
อย่างสบายอารมณ์

ไม่กินเปล่า เธอยังอึ๊ โชว์คนดูด้วย
นอกจากนั้นยังโชว์ลีลา นอนกินน้ำ หรือแม้กระทั่งท่าทางต่างๆที่แสดงออกมาตามธรรมชาติของมัน

แต่แพนด้าทำอะไรก็น่ารักไปหมด

ขนาดตาดำราวกับปัดมาสคาร่า หนาๆหนักๆ ยังน่ารักเลย (เอิ๊กกก )

แพนด้าเป็นสัตว์ที่น่ารักจริงๆค่ะ ความน่ารักของหมีแพนด้าเรียกรอยยิ้มของคนที่มารอดู

คุณูปการอีกอย่างของแพนด้า คือ เค้าทำให้คนไทยมีความสุข

จริงๆนะคะ

ฉันเห็นรอยยิ้มของผู้คนที่มายืนออต่อหน้า 'ช่วงช่วง' ที่นอนกินไผ่อย่างสบายอารมณ์ ทุกคนยิ้มสดใส มีความสุข เบิกบาน เป็นสีหน้าที่ยากจะลืมลง ในช่วงเวลาแบบนั้น

ทั้งแพนด้าก็ไม่ได้ทำอะไรสักนิด นอกจากอยู่แบบของมัน เป็นธรรมชาติของมัน

อะไรที่ไม่ต้องปรุงแต่ง เป็นไปตามธรรมชาติ จะมี 'ความงาม' ในแบบ
ของมันอยู่เสมอค่ะ

ตรงกันข้าม อะไรที่ปรุงแต่ง อะไรที่ประดิษฐ์ ไม่อาจเรียกความสดชื่น
หรือทำให้เรามีความสุขได้เท่าหรอก หรือถึงมี มันก็คงไม่ยั่งยืนหรืออยู่ได้นาน

เหมือนดอกไม้พลาสติค ก็สวย
แต่จะสู้ดอกไม้ตามธรรมชาติได้หรือ ก็ไม่

ทุกคนก็รู้กันทั้งนั้นนะคะ

ฉันมีความสุขอย่างไม่อาจปฏิเสธด้วยเหมือนกัน ขณะคว้ากล้องรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง ถ่ายไปยิ้มไป แพนด้าเอ๊ย จะรู้ตัวไหมเนี่ย ว่าเป็นดาราไปแล้ว

มาช่าก็มาช่าเถอะ

สู้ไม่ได้ก็แล้วกัน !!

ปล ไว้จะแปะรูปให้ดูวันหยุดนี้นะคะ




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2552    
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 22:42:45 น.
Counter : 452 Pageviews.  

รำพึงหน้าคอม .. อรุณสวัสดิ์จากเชียงใหม่

ยังไม่เจ็ดโมงเลยค่ะ
แต่แสงแดดรำไรทะลุลอดม่านหน้าต่าง ก็บอกให้รู้เป็นนัยว่า
เช้าแล้วนะ

เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานสม่ำเสมอ
แอร์เย็นจังเลย แต่ดีว่าที่นอนและผ้าห่มนุ่มและอุ่น ทำให้นอนหลับสบาย

รู้แล้ว ทำไมน้องเค้าจึงตั้งชื่อเกสต์เฮาส์นี้ว่า เพลินเพลิน
อูย นอนหลับเพลินนี่เอง

อยู่เชียงใหม่ค่ะ เช้านี้อากาศดี ยังไม่มีทีท่าว่าฝนจะตก
นอนที่เพลินเพลิน เกสต์เฮาส์เล็กๆที่มีแค่ห้าห้องเท่านั้น
น้องที่เป็นเจ้าของดูแลเอง แบบกันเองมากๆ ด้วย

เมื่อวาน ที่ลงจากรถทัวร์ปาย - เชียงใหม่ น้องเค้าก็มารับเอง

อูย ดอกที่หนึ่ง ไม่เคยเจอเจ้าของที่พักที่ไหนมารับลูกค้าเอง
ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นวีไอพี ประมาณญาติเจ้าของเกสต์เฮาส์เลย
ห้องนอนที่นอนเมื่อคืนนี้เล็กๆ น่ารัก เรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น

ในห้องนอน อะไรจะสำคัญกว่าเตียงนอน อูย ดอกที่สองแล้วนะ
เตียงนอนนุ่มมาก แถมหมอนใบใหญ่อีกสี่ใบ จะให้ใครนอนนักหนา
ราวกับจะรู้ว่า ต้องมีคนติดหมอนข้างมานอนหลับเพลินเพลิน

55

ไม่มีความสุขตอนนี้แล้วจะมีตอนไหนเนี่ย การงานไม่ต้องทำ
เดินเล่นไปมา กินอร่อย แล้วก็จะได้ไปดูหมีแพนด้า ไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ ที่เป็นสัญลักษณ์ว่า มาแล้วนะเจียงใหม่

เจียงใหม่ มาอีกแล้ว ไม่รู้ทำไม มาอยู่ได้ ครั้งที่ห้าแล้วเหมือนกันมั้ง

เดี๋ยวนี้คนมาเชียงใหม่ เขามาดูแพนด้ากันนะ

ทำไมเชียงใหม่กลายเป็นจุดหม่ายที่มาได้ทุกปี แต่ปีนี้ไม่อยาก
แย่งกินแย่งเที่ยวกับใคร เลยชิงมาเสียก่อน หน้าโลว์นี่ ดีมากจริงๆนะคะ เที่ยวสบาย ที่พักก็ราคาถูก ถูกมาก โดยเฉพาะที่ปาย

แต่ที่ปายนั่น ฉันพักที่ Yoma Hotel เป็นโรงแรมในเครือ The Quarter โรงแรมหรู โคตรแพง แต่พอหน้าโลว์ ราคาก็โลว์ ที่ Yoma
ได้ความสบายค่ะ ก็เขาสี่ดาว มีทุกอย่างที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก

ส่วนที่เพลินเพลินนี่ เป๋นเกสต์เฮาส์ ราคาเกสต์เฮาส์ย่อมไม่แพงเมือเทียบกับโรงแรม แต่เกสต์เฮาส์ที่นี่ ได้ความน่ารักเป็นของแถม
ส่วนปัจจัยหลักๆ ก็คือ นอนสบาย ห้องน้ำสะอาด เพลินสมชื่อ

กลับมาเจียงใหม่อีก จะนอนที่นี่แหละ เพลินเพลิน -- หวังว่าจะไม่เปลี่ยนไปเสียก่อน

...

โม้เรื่องเที่ยว โม้ได้เป็นคุ้งเป็นแควค่ะ อาจเพราะสบายใจ
ที่ได้หนีงาน หนีอวบ ทิ้งอวบไว้กับน้องสาว แต่คิดถึงอวบนะ
เจอแมวที่ไหนก็อดคิดไม่ได้ว่า ไม่ได้ครึ่งของอวบของเราเลย

คืนนี้เจอกัน ไอ้อวบ !

...

อยู่ในที่ที่คนเขาใช้ชีวิตช้าๆกัน เวลาก็เหมือนเดินช้าไปด้วยนะคะคุณ
เจ็ดโมงเช้าแล้ว แต่คนที่นี่เขาก็ไม่เห็นจะเร่งรีบไปไหนกันเลย

ทั้งเวลาก็เท่ากัน

น่าอิจฉาคนต่างจังหวัด ที่มีเวลาเหลือมากกว่าคนเมืองอย่างเรา
คิดแล้วอยากลาออกจากความเป็นคนเมือง มาเป็นคนต่างจังหวัด
คิดแล้วล่ะ ต้องได้ทำแน่

ไม่รู้คิดได้ไงค่ะ สมัยที่ทำงานใหม่ๆ ว่านี่คือสิ่งที่เราฝันหาล่ะ
อิสระเสรี ทำอะไรก็ได้ แต่พอชีวิตล่วงเข้าสู่วัยที่ไม่ได้โหยหาอิสระ
อีกแล้ว กลับอยากใช้ชีวิตแบบช้าๆ สโลว์ สโลว์

และ โลว์ โลว์

สงสัยจะเป็นเพราะว่า เราอยู่กับมันมาจนพอแล้วกระมังคะ

มาอยู๋นี่แล้ว ไม่เห็นคิดถึงกรุงเทพเลย 555

แต่ยังไงก็คงต้องกลับไปก่อน เพราะที่นั่นคือบ้าน ที่ที่เราซุกหัวนอน
นี่นา ที่ไหนก็คงไม่เหมือนบ้าน

แอบดีใจ ที่มีหลายจุดหมายไว้ให้ไปในแต่ละช่วงของชีวิต ไม่อย่างนั้น
คงจะอกแตกตาย เพราะที่ชีพจรลงเท้าอยู่เรื่อยๆนี่แหละ ทำให้ชีวิต
มีสีสันขึ้นมาบ้าง และรู้สึกว่ามีความสุข ที่ได้เดินทางไปไหนต่อไหน
ไปรู้ไปเห็น ไปใช้ชีวิตให้ต่างจากทุกวันที่เราใช้

ชีวิต .. คงอยู่ที่เราจะใช้มันจริงๆค่ะ

Keep walking เพราะแพนด้ารออยู่ จะได้ดูสักตัวไหมเนี่ย

จะกลับมาเล่าให้ฟังนะคะ

อรุณสวัสดิ์จากเชียงใหม่ค่ะคุณ !!




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2552    
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 7:07:14 น.
Counter : 430 Pageviews.  

ปาย.. ห้าครั้งก็ยังรัก

สวัสดีจากเมืองปายค่ะคุณ

ฝนกำลังตกกระหน่ำ ไม่ได้ผิดคาดอะไรกับวันเวลาช้าๆที่นี่ พร้อมกับฝน
ที่ตกลงมา สองวันที่อยู่ที่นี่ สบายใจอย่างบอกไม่ถูกเชียวค่ะ ( แอบคิดถึงอวบ และแอบดีใจที่ไม่ต้องทำงานสองวันค่ะ ฮ่าๆ )

ฉันอยู่ที่ปาย ประเดี๋ยวฝนหยุด ฉันจะขึ้นรถทัวร์กลับไปเชียงใหม่

ยังไม่ได้แปะรูปในตอนนี้ค่ะ เพราะว่าไม่ได้ใช้คอมของตัวเอง
ระหว่างรอฝนซา มานั่งใช้คอมของโรงแรมก่อน

เมืองปายมีอะไรดีหรือ ฉันจึงมาซ้ำแล้วซ้ำอีก
ก่อนมา มีคนถามฉันว่า ปายมีอะไร

เมื่อก่อน ฉันจะตอบว่าปายมีความสงบเงียบ สวยงาม
มีบรรยากาศของความเป็นเมืองเล็กน่ารัก สิบปีที่แล้วฉันได้รู้จักเมืองปาย
จากรุ่นพี่ที่ทำงานที่ GMM ตอนนั้น ปายก็คือเมืองในฝันที่ควรได้มาเห็น
ได้มาสัมผัสสักครั้ง

เมื่อได้มาครั้งแรก ฉันก็รู้สึกว่า ใช่ มันเป็นทั้งเมืองในฝันและเป็นทั้ง
สวรรค์ของคนขี้เกียจด้วย แค่มานอนขี้เกียจๆ อยู่เฉยๆสองสามวัน
ริมน้ำปาย ก็คือสวรรค์ดีๆนี่แหละ

แต่เมื่อผ่านไป้ป็นสิบปี ปายเปลี่ยนไปมาก มีคนบอกว่า ปายไม่ใช่เมือง
ในฝันของคนอีกหลายๆคนแล้ว ความเปลี่ยนแปลงของปาย
จะเกิดจากอะไรล่ะคะ ถ้าไม่ใช่คน

เพราะแม่น้ำปายก็ยังคงไหลเรื่อยตามธรรมชาติ ภูเขาก็ยังนิ่งสงบ
ทุ่งนาก็ยังคงเขียวขจี เป็นไปตามฤดูกาล

ปายไม่ได้เปลี่ยนตัวเองหรอก แต่คนนั่นแหละที่เปลี่ยนปาย

คนไม่ใช่หรือที่ทำให้เมืองสงบๆนี้เปลี่ยนไป

เมื่อความเจริญมาเยือนปาย กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเต็มตัว
อะไรๆก็เปลี่ยนตาม คงไม่ต้องบอกนะคะว่าเมืองท่องเที่ยวจะต้องมี
อะไรบ้าง

คำถามของน้องที่ถามว่า พี่ไปปายทำไม ไปตั้งสี่ห้าครั้งแล้ว น้องทำหน้า
แปลกๆ ไม่เข้าใจ แล้วก็บอกว่า ไปหน้าฝนเนี่ยนะ จะเที่ยวสนุกเหรอ
ฉันได้แต่ยิ้ม แล้วบอกว่า ก็จะไปหน้าฝนนี่แหละ

ย้ำ เพราะฉันอยากรู้จักปายหน้าฝน จากที่ฉันไม่เคยรู้จักเลย

นี่เป็นครั้งที่ห้าแล้วที่ฉันกลับมาที่นี่

ปายหน้าฝนสวยค่ะ แต่ความเป็นเมืองก็เพิ่มขึ้น

อย่าได้กล่าวโทษใดๆเลยกับความเปลี่ยนแปลงของเมืองปาย เพราะ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดของแม่น้ำ ของภูเขา ของอะไรใดๆ
หากเพราะคนที่ทำให้ปายเปลี่ยน คนก็ควรจะมีส่วนรับผิดชอบกับความ
เปลี่ยนแปลงนั้นด้วย

บางคนบอกว่าปายไม่น่ารัก ไม่มีเสน่ห์แล้ว แต่ฉันก็ว่าไม่ใช่หรอก
เมืองเล็กๆนี้ยังอยู่ดี ยังสวยงาม สมกับที่ต้องนั่งรถ 700 กว่าโค้ง
ยังคุ้มค่ากับการมาอ้วก + หลับ = ปาย อย่างที่เขาว่ากัน

ในเมื่อไม่อยากรักปายในหน้าอื่นๆ ที่ผู้คนพากัน
หลั่งไหลมา เราก็มาเยี่ยมปายในหน้าฝนได้ ไม่ลองหรือจะรู้

ทั้งหมดแค่อยากบอกว่า

แม้จะห้าครั้งก็ยังรักปาย

เพราะฉันเชื่อว่า ปายไม่ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะฉันเชื่อว่าเสน่ห์
ของปายยังมีอีกมาก มันไม่ได้หมดไป เพียงแค่มีเซเว่น 2 ร้าน
ผุดขึ้นมาแทนโชว์ห่วยของชาวบ้าน

เพราะสำหรับฉัน...

แค่มานอนฟังเสียงน้ำไหล ก็สุขใจแล้ว !!




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2552    
Last Update : 24 สิงหาคม 2552 11:42:33 น.
Counter : 432 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.