images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

เมื่อไหร่..จะใจกว้าง

เมื่อกลางวันได้อ่านสัมภาษณ์คู่รัก วินัส-สุนทรี ใน manager ค่ะ
ไม่ทราบว่าได้เห็น หรือ ได้อ่านกันบ้างไหม

สองคนนี้เค้าสวยทั้งคู่เลยนะคะ ที่สำคัญเธอทั้งคู่คบกันยืดยาว
นานถึง 12 ปีแล้ว นับเป็นคู่รักที่รักกันมาราธอนคู่หนึ่งเลย

บอกตรงๆว่าอ่านแล้ว ฮื้ออ คิดถึงว่าตัวเองจะสามารถมีความรักยาว
ขนาดนี้ได้ไหม ที่ผ่านมาก็อย่างที่บอกนะคะ ว่าทำไม่ถึง
ก็เป็นด้วยตัวเราเองนี่แหละ ที่ทำให้มันพังไป

หลายครั้งด้วยซ้ำที่ทำพังเองกับมือ เพราะความไม่รู้จักพอ
แต่ก็มีหลายครั้งที่ถูกทำแบบช็อกคาโทรศัพท์ ประเภทบอกเลิกทางโทรศัพท์ หรือแม้จะเห็นจะๆต่อหน้าต่อตา จนเกือบทรุด
เข่าอ่อนร่วงลงพื้น

สิบสองปีแบบนี้ เลยปรารถนาอยากมีบ้าง ไม่รู้ชาตินี้จะมีวาสนา
มีกับเขาหรือเปล่า

แต่ก็ยังหวังนะคะ

..

มีคนไม่น้อยที่มาเขียนคอมเมนท์แบบไม่ค่อยดีเลย
จะว่าไป ในฐานะที่เป็นคนกลุ่มน้อย เป็นแบบนี้เหมือนกัน
อ่านคอมเมนท์บางคอมเมนท์แล้วก็ เฮ้อ.. นะ

เขายังว่าเราวิปริตผิดธรรมชาติอยู่เลยอ่ะค่ะคุณ

นี่มันพ.ศ.ไหนแล้ว ผ่านมากี่ร้อยกี่พันปีแล้ว ที่ความรักในเพศเดียวกัน
ได้ถูกค้นพบและกำเนิดขึ้นมา หนำซ้ำยังมีอยู่จริง และไม่ได้ต่างอะไร
กับความรักของชายหญิงปกติเลย

เราก็อยากรักกัน และอยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนกันแหละค่ะ

อคติและความเข้าใจที่เป็นลบ คงไม่มีวันหายไปจากสังคมนี้ได้
หากยังใจแคบ มองไม่เห็นและไม่เข้าใจธรรมขาติของความรัก
ว่ามันไม่เลือกเพศ

คนจะเข้าใจความรักได้ลึกซึ้งกว่าแมวกว่าหมา แต่แม้ขนาดแมว
หรือหมา มันยังมีการแสดงออกซึ่งความรักต่อกันเลย ทั้งแสดงออกต่อ
พวกมันด้วยกันหรือกับคนผู้เป็นเจ้าของ

ความรักที่เกิดขึ้นในคนรักเพศเดียวกันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับความรักชนิดอื่นๆ มันก็สวยงามเหมือนๆกัน มันประกอบด้วยความต้องการ ความปรารถนา ความเข้าใจ ต้องการการเอาใจใส่ดูแลเหมือนๆกัน

ที่สำคัญเราก็เป็นคนเหมือนกันด้วย

แหม ไม่รู้เมื่อไหร่จะใจกว้างเสียที

..

ฉันรู้ค่ะว่าแฟนบล็อกของฉันส่วนใหญ่และส่วนมาก ก็เป็นแบบนี้กัน
ฉันคิดว่าเขียนอย่างนี้ไป คุณก็คงเข้าใจและเห็นแบบนั้นเหมือนกัน
แต่สำหรับคนที่ไม่เป็นและไม่ใช่ อย่างเราก็คงได้แต่หวังว่า อคติและ
ความไม่เข้าใจจะหมดไปจากสังคมได้ในสักวัน หรือหากไม่ได้จริงๆ
มันก็น่าจะเบาบางลงได้บ้าง

หากเรามองกันด้วยสายตาแห่งความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันบ้าง

มันก็น่าจะดีกว่านี้นะคะ

..

อ่านบทสัมภาษณ์เสร็จ รู้สึกตาร้อนผ่าวๆ ด้วยความอิจฉา

ขอไปเอาน้ำสาดหน้าก่อนนะคะคุณ !!




 

Create Date : 09 กันยายน 2552    
Last Update : 9 กันยายน 2552 20:49:32 น.
Counter : 403 Pageviews.  

ราคาความรัก

ถ้าฉันต้องจ่ายราคาความรัก

เป็นความเจ็บปวด

ต้นทุกความรักที่มี ถูกหักลบด้วยความไว้ใจ

ฉันควรจะเหลือราคาให้ความรักเท่าไหร่

หากหักลบทุกอย่างแล้วยังเหลือกำไร ฉันควรเดินต่อ

แต่ถ้าหากหักลบทุกอย่างแล้วขาดทุน

คือความเจ็บปวด

ฉันควรจะเดินต่อหรือ




 

Create Date : 09 กันยายน 2552    
Last Update : 9 กันยายน 2552 7:05:20 น.
Counter : 580 Pageviews.  

เขาอยากรวมรุ่น แต่เราอยากจำศีล ( และกฏทองคำที่ไม่ควรละเมืด )

คืนนี้ฝนกระหน่ำค่ะ กลับถึงบ้านในสภาพเปียกปอนเลยล่ะ

แถวบ้านแม้จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรก็จริง
แต่ก็อยู่ชานเมืองและมีต้นไม้มาก แถมยังมีทุ่งที่คล้ายๆทุ่งนา
แต่ไม่ใช่ แล้วก็ยังมีบ่อเลี้ยงกบของชาวบ้านด้วย

เวลาฝนลง มักจะได้ยินเสียงอึ่งอ่างด้วยล่ะค่ะ
ซึ่งฟังแล้วก็ตลกดี

วันก่อนสิ ไปเสรีเซ็นเตอร์ ขับรถผ่านฝนซึ่งตกเป็นช่วงๆ
พอฟ้าหมาดฝนเท่านั้น ก็เกิดโค้งรุ้งสวยงาม พาดบนฟ้า
แต่พอละสายตาจากฟ้าเบื้องบน มองบนถนน
โอ้ รถติดเป็นแพ เราก็เป็นหนึ่งคันในนั้น

จะบอกว่า อยู่ชานเมือง ก็มีข้อดีอยู่อย่าง
ตรงที่ไม่รู้สึกอึดอัดกับความเป็นเมืองมากเกินไป
จะว่าเป็นเพราะเบื่อเมือง เพราะวันธรรมดาก็ทำงานในเมืองก็อาจจะใช่
แต่การอยู่ชานเมือง ก็มีข้อดีด้วย คือ ยังพอได้เห็นสีเขียวๆของต้นไม้

เพราะเลยไปหน่อยก็เข้าเขตชลบุรีแล้ว ก่อนถึงเมืองชลก็มีทุ่งโล่งๆ
มีภูเขาให้มอง มีฟ้าใสๆให้ได้วางส่ายตา

อยู่ชานเมือง ยังรู้สึกว่า สบายๆค่ะ

แล้วก็ค้นพบว่า ต้องขับรถไกลหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก
เพราะวันเสาร์อาทิตย์ เราแทบไม่เข้าเมืองเลย ใช้ชีวิตอยู่นอกๆ
ริมขอบกรุงเทพนี่ล่ะ

อยู่รอบนอก ก็ไม่อดอยากสักหน่อยค่ะ เพราะความเจริญของเมือง
ยังแตะถึง ย่านแถวบ้านจึงมีทุกอย่างไม่ว่าอยากได้อะไร
จะไปซื้อของที่ห้างไหนล่ะ มีครบทุกห้าง จะไปทานของอร่อยที่ไหนล่ะ
ไปได้ง่ายๆ อยากไปอัมพวาไหม ขับเลาะวงแหวนรอบนอกโดยไม่ต้องผ่านทางด่วนเลยยังได้ แป๊บเดียวได้ไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ริมน้ำแล้ว

อ้อ แถวบ้านฉันเขาเรียกว่า อำเภอบางพลี ค่ะ
ใครเคยมาเคยไป หรือเคยผ่านบ้าง

ว่างๆ แวะไปเที่ยวตลาดโบราณ 150 ปี ที่อยู่ตรงวัดบางพลีใหญ่ในสิคะ
เขาโบราณจริงนะ แล้วก็มีข้าวห่อใบบัวและขนมชั้นขึ้นชื่อด้วยล่ะ

วัดบางพลีใหญ่ในหรือวัดหลวงพ่อโต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและคนนิยม
มากราบไหว้กันมากค่ะ

...

เช้านี้ได้รับโทรศัพท์จากอดีตแฟน ที่ตอนนี้ไปเอาดีกับการขายประกัน
เธอโทรมาบอกว่า วันที่ 10 นี้เขาจะมีรวมรุ่นกันนะ

หากว่างให้ไปด้วยล่ะ

แต่คิดล่วงหน้าแล้วค่ะว่าไม่ว่าง เพราะไม่อยากไป
จริงๆนะ ไม่อยากไปเจอใคร ไม่อยากไปสังสรรค์น่ะค่ะ มีอารมณ์แบบนี้กันบ้างไหมคะ

อารมณ์ที่อยากจำศีลน่ะ

รวมรุ่น ฟังดูน่าสนุกจะตาย และการกลับไปพบเจอเพื่อนๆในรุ่น
ก็น่าจะสนุกใช่ไหม

ที่ว่ารวมรุ่นก็ไม่ใช่รุ่นมหาวิทยาลัยนะคะเนี่ย แต่เป็นรุ่นทำงานรุ่นดึกดำบรรพ์สมัยที่ยังทำงานอยู่ที่แกรมมี่นั่นน่ะ

ที่แกรมมี่เหมือนโรงเรียนค่ะ พวกเราแต่ละคนที่ทำงานที่นั่นอยู่กันนานๆ
อายุงานของบางคนเกินสิบปีขึ้น และอย่างน้อยก็ต้องห้าปีอัพกันทั้งนั้น
การอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ ก็ย่อมสร้างความรักความผูกพันให้เกิดขึ้นได้

เมื่อรุ่นพวกเราที่ทำงานที่นั่นต้องแยกย้ายสลายตัวกันไป ด้วยเหตุหลายๆอย่างทั้งจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร และอะไรอื่นๆ
ทำให้พวกเราทยอยกันแยกย้ายออกมาเดินตามทางของตน

แต่ไม่มีใครลืมกันค่ะ ยังมีบางคนได้แวะเวียนกลับไป ยังมีการถามข่าว
และนัดเจอ เหมือนเพื่อน เหมือนพี่ เหมือนน้องในมหาวิทยาลัยจริงๆ

ความผูกพันของคนทำงาน ไม่น่าจะเหนียวแน่นเท่าไหร่ แต่รุ่นที่รวมกันได้นี่ ต้องปิดทองให้จริงๆค่ะ เพราะว่ายังต่อกันติด

ฉันไม่มีเวลาคิดมากในยามที่เธอโทรมาบอก เพราะในใจตั้งใจไว้แล้ว
ว่าฉันไม่อยากไปรวมรุ่นหรอกในยามนี้ เพราะไม่อยากไปเจอใคร
อยากอยู่เฉยๆ ค่ะ ประหลาดไหม..

จริงๆ หากเป็นก่อนหน้านี้สักสี่ห้าปีที่แล้ว ฉันคงคิดมากอยู่หรอกกับการที่จะไปรวมรุ่น เพราะต้องมีเหตุให้ลำบากใจแน่นอน ก็เพราะเธอที่โทรมา กับฉันนั้นเราเป็นคู่กรณีกัน เราเลิกกันไม่ค่อยดีนักค่ะ สมัยนั้น
ฉันและเธอต่างก็ทำงานอยู่ที่เดียวกันนั่นล่ะ ใครๆก็รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน
อยู่บ้านเดียวกัน มาทำงานพร้อมกัน เหมือนเงาตามตัวกันนานถึงเจ็ดปี

ดังนั้น ฉันคงหลีกเลี่ยงที่จะไปรวมรุ่นแน่ๆ หรืออย่างน้อยเธอก็คงต้อง
หลีกเลี่ยงไม่ไปงานนี้ เพราะการที่เราจะมาเจอกันในวันอย่างนี้ ท่าม
กลางผู้คนที่ต่างก็รู้อดีตของเราดี ก็คงเป็นเรื่องที่ปั้นหน้ากันลำบาก

ถ้าฉันไป แล้วเจอเธอ เราจะพูดอะไรกัน หรือเราจะไม่พูดกัน
แล้วมันจะเป็นอย่างไร ไม่รู้นะคะ ฉันว่ามันคงแย่ล่ะ

มีคนเคยบอกฉันแล้ว ว่าอย่ามีแฟนในที่ทำงานเดียวกัน เขาเตือนแล้ว
แต่เราไม่คิดอะไร เพราะเราไม่เชื่อว่า มันจะไม่มีอะไรไม่ดีไงคะ
เป็นแฟนกัน เห็นกันทุกวันอย่างกับเซเว่นอีเลเว่น ออกจะดี

สมัยนั้นคิดอย่างนั้นแหละค่ะ แต่สมัยนี้ไม่คิดอย่างนั้นแล้ว
เชื่อโดยเต็มใจเลยว่าไม่ควร เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมา คนรอบข้าง
จะลำบากใจเพราะเรา และตัวเราเองนั่นแหละจะลำบากใจเสียเอง

ดูอย่างฉันสิ เห็นไหมคะ นึกอยากจะไปรวมรุ่น ยังต้องดูหน้าดูหลัง
ไม่รู้จะไปดีหรือเปล่าเลย

เป็นกฏทองคำของฉันเลยค่ะ นับจากกรณีนั้น ว่าจะไม่มีแฟนในที่ทำงานเดียวกันอีกแล้ว ไม่ต้องติดกัน เห็นกันยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนเซเว่นก็ได้ ปล่อยให้มีช่องว่างบ้างอย่างน้อยจะได้คิดถึงกันไง

ใครจะสวนว่า ไม่ดีหรอก ก็ลองมาเถียงกับฉันดู

ลองสักตั้งไหมคะคุณ ?!!?




 

Create Date : 08 กันยายน 2552    
Last Update : 8 กันยายน 2552 21:44:26 น.
Counter : 416 Pageviews.  

ขอบคุณบล็อกแก๊งค์ สี่ปีแล้วที่ฉันไม่รู้สึกอ้างว้างเลย.. เมื่อเปิดคอม

6 กันยายน 2552
วันเดียวกันนี้ของปี 2548 ฉันมีบล็อกของตัวเองครั้งแรก
บล็อกบีแว ถือกำเนิดจากวันนั้นค่ะ

สี่ปีมาแล้ว
จนกระทั่งถึงวันนี้ ฉันอยู่กับบล็อกนี้มาสี่ปีเต็มๆ
มีบล็อกทั้งยาวๆ และสั้นๆ แปดร้อยกว่าบล็อก

สี่ปีช่างเป้นเวลาอันยาวนาน
และสี่ปีนี้ก็มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับฉัน
ชีวิตขึ้นๆลงๆ เหมือนกราฟเลยนะคะ

ฉันบันทึกเรื่องราว ความรู้สึกนึกคิดไว้ที่นี่ถึงสี่ปีเต็มๆ
ไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ ทุกข์ โศก หรืออะไรก็ตาม
ฉันได้บอกเล่าชีวิตส่วนหนึ่งไว้ในนี้
พื้นที่นี้มีความหมายกับฉันมาก มากอย่างไร ฉันเชื่อว่า
หากอ่านบล็อกนี้มาเรื่อยๆ คุณคงจะทราบดี

หากย้อนนึกไปถึงวันที่ฉันเตาะแตะ ทำอะไรไม่เป็นเลย
สี่ปีนี้ก็เหมือนฉันจบการศึกษาแล้วพอดิบพอดี

ขอบคุณบล็อกแก๊งค์นะคะ
สำหรับพื้นที่ที่เอื้ออาทรให้เราได้เจอกัน
สำหรับพื้นที่ที่ฉันไม่เคยอ้างว้างเลย เมื่อเปิดคอม
ฉันรู้สึกเสมอว่าที่นี่คือบ้านค่ะ

ขอบคุณคนอ่านด้วยค่ะที่อยู่คอยรับฟังและคิดตามไปด้วยกัน
นับตั้งแต่บล็อกที่หนึ่งในวันที่ 6 กันยายน 48 จนถึงวันนี้

พรุ่งนี้มาต่อบล็อกที่ 812
และเริ่มต้นปีที่ห้าไปด้วยกันนะคะ

คืนนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณ !!

ปล คุณคนอ่านยังไม่แปะดวงดาวดอกไม้ตอนที่ 34 ใน leslady เลย
ไมรู้หนีไปเที่ยวที่ไหน

ใจเย็นเด้อค่า...




 

Create Date : 06 กันยายน 2552    
Last Update : 6 กันยายน 2552 0:09:21 น.
Counter : 468 Pageviews.  

อโศก สีลม บางกะปิ ฯลฯ ย่านนี้มีความหลัง

เมื่อวานอาศัยเวลาหลังเลิกงานไปเดินที่ศูนย์สิริกิติ์
เลยเจอคลื่นมหาชนในงานอีเวนท์สองงานเข้าอย่างจัง
โดยเฉพาะงานไทยเที่ยวไทย จะเยอะมาก มากกว่างาน
health&cuisine ซะอีก

โดยบูธที่มีคนไปออแน่นขนัดคือ บูธทัวร์ปาย แม่ฮ่องสอน

เอาแล้ว งานจะเข้าเมืองสามหมอกแล้วค่ะ อีกเดือนกว่าๆก็จะเข้า
หน้า high ทีนี้ล่ะ เราจะได้เห็นปรากฏการณ์ 'ปายแตก' อีกหรือไม่
หรือว่า ปรากฏการณ์รถติดบนปางอุ๋ง หรือปรากฏการณ์คลื่นมหาชน
ถล่มแม่ฮ่องสอนกับอีกคำรบหนึ่ง

แต่ก็ดีนะคะ งานนี้ทำให้เห็นชัดๆว่า เศรษฐกิจในกระเป๋ายังเดิน
คล่องอยู่ แม้ข่าวหนังสือพิมพ์หรือในทีวีจะประโคมเอาๆๆๆ ว่า
เศรษฐกิจไม่ดี เศรษฐกิจทรุด

แต่งานอีเวนท์ทุกงานดูดคนให้ไปใช้เงิน ทำให้เงินสะพัดได้อย่างหน้าตาเฉย

ฉันยังจำปราฏการณ์ที่คนแห่กันขึ้นเหนือเมื่อหน้าหนาวปีที่แล้วได้ดีเลย
เผลอแป๊บเดียว หน้าหนาวจะมาอีกแล้ว ทัวร์ขึ้นปาย แม่ฮ่องสอน
จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกแล้ว

หน้าฝนคงไม่ยาวนานจนเกินไปนัก อย่างน้อยคงปรานีให้คนไม่ชอบฝน
ไม่ต้องทนทรมานกับหน้าฝนนานไปกว่านี้

ฮือ คิดถึงหมอกยามเช้าที่บ้านรักไทยจัง แต่ให้กลับไปอีกในยามที่
ใครๆเขาไปกันก็ไม่เอาแล้ว

บอกได้คำเดียวว่า 'เข็ด' เจ้าค่ะ

.....

จากเหนือเรากลับมาที่กรุงเทพดีกว่านะคะ

วานนี้กับวันนี้ฉันออกไปทำงานข้างนอก ก็ให้น้องขับรถของที่ทำงานไป
ออกไปท่าพระกับบางแค

น้องถามว่าฉันรู้ทางไหม ฉันไม่รู้ค่ะ เพราะถึงแม้จะอยู่กรุงเทพมาสิบกว่าปี ทำงานมานานขนาดนั้น ฉันยังไปกรุงเทพไม่ทั่วเลย

ฉันถามน้องว่า กรุงเทพกว้างไหม ใหญ่ไหมในความรู้สึกของเขา
น้องบอกว่า ไม่นะ ไม่รู้สึกว่ามันกว้าง เพียงแต่ตรอกซอกซอยมันมาก
ถนนก็เยอะ ตัดตรงนี้ออกไปตรงนั้น ประกอบกับคนอยู่กันเยอะด้วย
ทำให้กรุงเทพเหมือนว่าใหญ่โต

น่าคิดนะคะ

ฉันเองไม่รู้จักกรุงเทพดีทุกซอกทุกมุมหรอกค่ะ ก็อย่างที่บอกว่า
แม้จะอยู่มานานแต่ฉันก็ไม่เคยทะลุทุกตรอกซอกซอย หรือไปได้ทุกย่านในเขตกรุงเทพ ตรงกันช้าม บางย่าน บางถนน ฉันไม่รู้จักเลย
ด้วยซ้ำไป ให้ขับรถไปก็คงไปไม่ถูก

ใช่ ฉันอยู่กรุงเทพจนกลายเป็นเหมือนคนกรุงเทพไปแล้ว ฉันยัง
รู้จักกรุงเทพไม่หมดด้วยซ้ำ

บางทีนั่งรถผ่าน ยังงงๆว่าที่นี่คือที่ไหนในแผนที่กันน่ะ คิดดูสิคะ ว่า
ฉันสมควรเป็นคนกรุงเทพหรือเปล่านี่

ในความรู้สึกของฉันกรุงเทพจึงเป็น 'เมืองใหญ่มาก' ทั้งๆที่ในแผนที่
ประเทศไทยแล้ว กรุงเทพมีเนื้อที่แค่ 1568.73 ตารางกิโลเมตร
ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่ได้ใหญ่สักเท่าไหร่เลย แต่ด้วยความหนาแน่นของประขากรที่เข้ามาอยู่อาศัยต่างหากที่ทำให้กรุงเทพแน่นขนัด
เต็มไปด้วยคน คนและคน

ทั้งที่เข้ามาอยู่ถาวรและชั่วคราว ( และตอนแรกคิดว่าจะชั่วคราวแต่อยู่เลยเถิดจนกลายเป็นถาวรแบบฉัน )

ขณะนั่งรถผ่านย่านที่ไม่คุ้นเลย ฉันจึงรู้สึกตลกตัวเอง ที่เคยคิดว่า
เราอยู่มานานจนตัวเองกลายเป็น 'คนเมือง' แต่ความเป็นคนเมืองที่เคยคิดว่าใช่นั้น จริงๆมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะฉันเป็นคนเมืองผู้ไม่ประสีประสาอยู่ดี ที่จนถึงบัดนี้ ฉันก็ไม่อาจจะทำความรู้จักกับเมืองที่ตัวเองอยู่ไปได้มากกว่านี้ หรือพูดอีกที ก็คือรู้จักน้อยมาก

ทั้งที่กรุงเทพคงไม่ได้มีดีอยู่แค่ ศูนย์การค้าและตึกสูง วัดวาอาราม หรือแม่น้ำ มหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ แต่กรุงเทพก็มีอย่างอื่นๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันน่าตื่นตาตื่นใจ และยังมีทั้งด้านที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย เช่นในวันที่ฝนตก ( และรถติดนรกเลยก็ตาม )

ฉันปวารณาตัวและใจเอาไว้แล้วว่า วันหนึ่งฉันจะลาออกจากการเป็น 'คนเมือง' แม้ฉันจะยังไม่รู้จักกรุงเทพให้ได้มากอย่างที่ควรรู้จักก็เถอะ และเพราะฉันไม่มีอะไรให้ต้องเสียดาย กับการเป็นคนเมืองหลวงมากว่าสิบปี แม้ไม่รู้จักเมืองดีพอ แต่ความเป็นเมืองก็สอนให้ฉันรู้จักตัวเองขึ้นเรื่อยๆ

บางทีเมืองก็ควรอยู่ในแบบของมัน และเรา ก็ควรอยู่ในแบบของเรา
แบบที่เราเลือกแล้วว่ามันจะใช่หรือไม่ใช่ เป็นวิถีชีวิตที่เราต้องการแล้วหรือยัง

แม้ฉันจะไม่รักกรุงเทพสักเท่าไหร่ แต่ฉันก็คิดว่าประสบการณ์ชีวิตอันน่าตื่นตาตื่นใจหลายๆอย่างที่เราได้จากเมืองหลวงแห่งนี้ก็น่าจะจารจดเอาไว้เช่นเดียวกัน

อีกสักหลายๆปี เมือ่มารำลึกความหลัง เราจะได้จดจำได้ว่าเราเคยฝากรอยเท้าเอาไว้ที่ย่านใดบ้าง

อโศก สีลม บางกะปิ ฯลฯ ย่านนี้มีความหลัง

แหม ช่างเข้ากั๊น เข้ากันกับวันฝนตกที่รถติดกระหน่ำอยู่บนทางด่วน
เมื่อครู่นี้จริง จริ๊ง

นี่แหละค่ะ กรุงเทพของแท้ล่ะ !!




 

Create Date : 04 กันยายน 2552    
Last Update : 4 กันยายน 2552 22:40:36 น.
Counter : 495 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.