images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

ผู้หญิงทรหด..

วันนี้ที่ออฟฟิศมีการตรวจสุขภาพกันค่ะ แต่สำหรับฉันจะต้องตรวจภายในด้วย ฟังดูน่าขยาดยิ่งนัก

จะบอกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องตรวจแบบเฉพาะ เมื่อสองปีที่แล้วเคยตรวจมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ขยาดไปเลย เพราะเจ้าหน้าที่ที่ตรวจคราวที่แล้วไม่เก่งหรือไม่ชำนาญหรืออะไรเนี่ยค่ะ ทำให้เจ็บมาก

คุณที่ไม่เคยตรวจภายในมาก่อน จะเป็นเพราะอาย หรือ กลัว ก็จะรู้สึกขยาดๆกับการตรวจทั้งนั้นแหละค่ะ อย่างฉันเคยตรวจแล้วพบประสบการณ์ที่ไม่ดีมา น้ำตาเล็ดน้ำตาร่วงมาแล้ว ปีนี้ทำให้ไม่อยากตรวจเอาเลย แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เขาให้เราตรวจไม่เสียสตางค์ด้วย เราก็ใจดีสู้เสือไปตรวจมันซะเถอะ

ปีนี้เจ้าหน้าที่ตรวจดี ไม่เจ็บค่ะ

ถามว่ารู้สึกอะไรไหม อายไหม ก็ไม่นะคะ เฉยๆ มากกว่า เพราะว่าเจ้าหน้าที่เขาก็เป็นผู้หญิง เขาก็มีเหมือนๆของเราทุกอย่าง เราคิดเพียงแต่ว่า เป็นการตรวจเพื่อทำให้เราปลอดภัยไปอีกชั้น อย่างน้อยก็เพื่อสุขภาพ

มีน้องที่เป็นทอม พวกนี้เขาจะเขินๆ ไม่อยากจะตรวจ อายคนตรวจ บางทีอายตัวเองด้วย แต่อยากบอกว่าอย่าไปคิดอะไรมากไปกว่า เราควรจะดูแลสุขภาพของเราเอง ความอายเอาไว้ทีหลังเถอะ ความสบายใจควรมาก่อน

แต่พูดก็พูดนะคะ อุปกรณ์การตรวจภายใน แบบขาหยั่งเนี่ย น่าขยาดพอๆกับเวลาที่เราไปนอนอ้าปากให้หมอทำฟันนั่นแหละค่ะ แล้วเจ้าปากเป็ดอะไรเนี่ย ก็ออกจะดูน่ากลัว สำหรับคนที่ตรวจครั้งแรก หรือแม้แต่ไม่ใช่ครั้งแรก สิ่งแรกที่มักจะต้องเอ่ยปากถาม ก็คือ มันจะเจ็บไหมน่ะ

ขำดี เจ้าหน้าที่ตรวจ เขาก็ตรวจของเขาไป ยังส่งเสียงบอกเราให้ไดยินอีกด้วยว่า สภาพมดลูกปกติ 555

เกิดเป็นผู้หญิงนั้นลำบากกว่าผู้ชายแน่ๆค่ะ ฉันคิดว่าอย่างนั้น อย่างน้อยการที่ต้องตรวจอะไรแบบนี้ ก็ไม่สนุกนักหรอก แถมยังต้องคอยวุ่นวายกับช่วงเวลามีประจำเดือน ปวดท้องจะเป็นจะตาย มีโรคให้คอยพะวงเพราะความเป็นผู้หญิงอีกสารพัดโรค

แต่ร่างกายผู้หญิงนั้นอัศจรรย์นัก มันรองรับทุกอย่างแม้แต่การเตรียมพร้อมที่จะให้มีอีกชีวิตมาอยู่ภายในตัวเรา แล้วไหนผู้หญิงจะมีหัวใจที่ทรหดอดทน และแข็งแกร่งอีกด้วย คุณว่าจริงไหมคะ แต่ฉันว่าจริง
ไม่ใช่เพราะฉันจะเยินยอผู้หญิงด้วยกันเอง แต่ฉันเห็นจากแม่ของฉัน

แม้ฉันจะเคยคิดว่าเป็นผู้ชายสนุกกว่าผู้หญิง แต่ก็เป็นความคิดประสาเด็กๆ แม้การเป็นผู้หญิงจะยุ่งยากนักแต่ในเมื่อเราได้มีโอกาสที่จะเกิดมาเป็นผู้หญิงแล้ว ก็อยู่กับร่างกายนี้ให้มีความสุขเถอะนะคะ
ดูแลเขาให้ดีในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่

น้องทอมบางคนเคยบอกฉันว่า ไม่อยากมีหน้าอก อยากตัดออกให้หมดๆไป บางคนก็รัดหน้าอกซะแบนราบ ไม่ปรารถนาจะมี แถมยังอยากตัดมดลูกทิ้ง เพราะมีไปก็ไม่ได้ใช้งานอยู่ดี

เฮ้อ... บังเอิญเราเลือกเพศที่จะมาเกิดไม่ได้ซะด้วยสิ

เป็นอะไรก็เป็นไปเถอะนะคะ แต่อย่าลืมว่า คุณก็เป็นผู้หญิงอยู่ดีนั่นล่ะ
หนี (ขาหยั่ง) ไม่พ้นแน่ๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

เชื่อเถ๊อะ !!!!!




 

Create Date : 21 กันยายน 2552    
Last Update : 21 กันยายน 2552 22:15:24 น.
Counter : 458 Pageviews.  

ถ้าไม่พอใจ ก็ไม่หายเหนื่อย..

เสาร์นี้อยู่บ้าน ตื่นเช้ามากวาดขยะ กวาดฝุ่นทำบ้าน เพราะในวันธรรมดาแทบไม่ได้ทำ

หน้าบ้านมีคนกวาดถนน ทำหน้าที่กวาดถนน ใบไม้ ฝุ่น ขยะอยู่บนถนนซอยหน้าบ้านเช่นเดียวกัน

เขาก็ทำเหมือนกับฉัน เพียงแต่เขาทำทุกวัน เพราะเป็นหน้าที่
สำนักงานโครงการจ้างเขามากวาดถนน ส่วนที่ฉันทำ ฉันทำเพราะอยากทำ และคงต้องทำ เนื่องจากนี่คือความรับผิดชอบในส่วนของเราเหมือนกัน

คนกวาดถนน กวาดถนนตามหน้าที่ที่รับผืดชอบเหมือนกัน

คงตัดสินไม่ได้หรอกนะคะ ว่าความรับผิดชอบของใครจะใหญ่กว่า
เพราะแม้ความรับผิดชอบฉันจะอยู่ในหลักล้าน ( บ้านยังผ่อนอยู่นี่คะ )
กับความรับผิดชอบของเขาที่เพียงแค่กวาดถนน แต่นั่นคืองานของเขา
งานที่ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อ

พี่ๆเขาเหงื่อไหลไคลย้อยกับการใช้แรงงาน
แล้วเรา ไม้จะไม่มีเหงื่อ เพราะใช้แรงงานให้ห้องแอร์ แต่ก็มีภาระแบกไว้บนบ่าเหมือนกัน

ฉันคิดว่าเราต่างมีภาระเหมือนกัน เพียงแต่ของใครจะหนักหนากว่ากัน
อยู่ที่เราคิด และเราให้ค่ากับมัน

ฉันนั่งอยู่ในบ้านราคาหลายล้าน แต่มันก็ยังคงไม่ใช่ของฉันโดยสมบูรณ์
ส่วนพี่เขาอาจจะอยู่ในบ้านหลักหมื่น หลักแสนนิดๆ แต่มันอาจจะเป็นของเขาโดยสมบูรณ์

ก็ไม่รู้ว่า ใครจะมีความสุขกว่ากันล่ะค่ะ

ในเมื่อเราต่างคนต่างแบกภาระ โดยรูปแบบต่างกัน แต่ว่าเราแต่ละคน
ก็มีสิ่งที่ต้องทำเหมือนกันในฐานะมนุษย์ นั่นคือทำงาน หาเงิน เลี้ยงตัวเอง และดูแลชีวิตประจำวันให้มีความสุข

เท่าที่เวลาอันน้อยนิดของเราจะพึงมี

...

ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ ฉันมีเรื่องสนุกๆให้ทำ คือการหาข้อมูลโทรศัพท์มือถือ เพราะฉันอยากจะปลดระวาง sony K750i ที่ใช้มาหลายปีจนปุ่มโทรออกหลุดหายไปไหนไม่รู้

ปกติ ฉันจะไม่ปรารถนาอยากได้โทรศัพท์แพงๆ หรูหรา เพราะนั่นไม่ใช่นิสัยของตัวเอง ที่สำคัญ ฉันไม่ได้เป็นเจ้าแม่เทคโนโลยี ไม่รู้จักหรอก
ไอโฟน บีบี หรือ ทัชสกรีนเดิ้นๆ อะไรเทือกนั้น

ฉันยังหน้าชื่นตาบานกับการใช้โทรศัพท์เยินๆ ขณะลูกน้องแต่ละคนใช้โทรศัพท์ราคาแพงกว่าหัวหน้าอย่างฉันอีก

เพราะไม่เคยให้ค่าของมันนี่แหละค่ะ ทำให้เมื่อถึงวันหนึ่งที่คิดๆขึ้นมาได้ว่า โทรศัพท์จะพังแล้วต้องหาเครื่องใหม่ แต่มีคนบอกว่า ให้ซื้ออันนั้นสิ ให้เล่นอันนี้สิ เราก็เลยมานั่งคิด ว่าแล้วจริงๆเราอยากได้แบบไหนกันแน่ จะต้องขนาดนั้นขนาดนี้ไหม

ฉันบอกตัวเองว่า ได้สิ ทำไมฉันจะซื้อโทรศัพท์ราคาสองหมื่นกว่าๆไม่ได้ก็ในเมื่อน้องเงินเดือนสองหมื่น มันยังใช้ไอโฟนเลย 555

แต่เมื่อควานหาข้อมูลมากๆเข้าก็มึน แล้วก็พบว่า สิ่งที่มีมากมายในโทรศัพท์นั้น มันถูกตัดออกทีละข้อๆ เมือทบทวนตัวเองว่า มันจำเป็นไหม

จำเป็นไหมที่เราจะต้องดูทีวีบนมือถือ (โอย ปวดตาตายชัก )
จำเป็นไหมที่เราจะต้องมีการรับส่งอีเมลตลอดเวลา ( แหม ไม่ใช่นักธุรกิจเสียหน่อย )
จำเป็นไหมที่จะต้องเล่น MSN ( แล้วฉันจะคุยกับใคร หรือใครจะอยากคุยกับฉันนักหนา )
จำเป็นไหมที่จะต้อง บลา บลา บลา

ยอมรับว่าการหาข้อมูลโทรศัพท์ครั้งนี้ทำให้รู้อะไรๆมากขึ้นจริงๆนะคะ
เช่นว่า เออ เทคโนโลยีมันไปไกลแล้ว และนักการตลาดเขาก็เก่งนะ กับการสร้าง need ให้คนไขว่คว้าอยากจะได้ นอกจากนั้นยังเก่งอีกที่ทำตัวเลือกให้คนเลือกจนสับสนวุ่นวายไปหมด แค่นั้นยังไม่พอ ยังทำให้คนทุกระดับสามารถเลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ให้เหมาะสมกับเงินในกระเป๋า เรียกว่าเอาทุกทาง ดูแคทตาล็อกมือถือสิคะ ราคาของมันมีตั้งแต่หลักพันนิดๆ ไปจนเป็นหลายหมื่น

ฉันรู้จากการอ่าน การค้น ข้อมูลเหล่านั้น แตกับอะไรที่เป็นความต้องการของฉัน ย่อมไม่มีใครตอบได้

แน่นอนค่ะว่าเราเอง จะต้องรู้ก่อนว่าเราอยากได้อะไร อยากได้อย่างนั้นจริงไหม หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องจริงใจกับตัวเองนิดหนึ่งแหละ เมื่อพูดคุยกับตัวเอง ถามตัวเองมากๆเข้า คำตอบที่ว่า อันนี้ดีกว่าอันนั้น อันนั้นสเปคสูงกว่าอันโน้น อันนี้คุ่มค่ากับราคามากกว่านะ จึงไม่ใช่เหตุผลที่คำนึงถึง แต่คำถามที่เราถามตัวเองต่อมาก็คือว่า

แล้วเราจะพอใจกับมันจริงไหม

เพราะฉันตั้งใจว่าฉันจะยอมลงทุนซื้อของแพง สิ่งที่ได้มาคือ อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมดเลย สวยก็สวย มีโปรแกรมนั่นนี่เต๊มมมม ไปหมด แต่เมื่อถามตัวเองว่าจะได้ใช้จริงๆไหม ก็เริ่มลังเล

เห็นไหมคะ ว่าจริงๆแล้ว ตัวเรานั่นแหละที่ต้องตอบตัวเองให้ได้จริงๆว่าเราต้องการอะไร อะไรคือความสุขของเรา อะไรคือความพอใจของเรากันแน่

..

ความพอใจของคนเราก็คงไม่เหมือนกันจริงๆนั่นแหละ

พี่คนกวาดถนนก็คงพอใจในสิ่งที่เขามี เขาก็อยู่ได้แล้ว ถ้าพี่เขาไม่พอใจ เขาก็ต้องเหนื่อยในการหานั่นหานี่มาประดับตัวเอง เหมือนกับที่คนหลายๆคนอยากจะพอใจ ถอยแบลคเบอรี่มาถือโก้ๆ ทั้งที่ฐานะจริงๆไม่ได้เอื้ออำนวย

ถ้าเราหยุดคำว่า พอใจ ไว้ตรงไหนแล้วเราสบายกันมันพอดี เราก็ไม่เหนือยเท่านั้นเอง

ถามตัวเองสิคะว่า ที่เราเหนื่อยทุกวันนี้ เราพอใจกับมันหรือยัง
หรือยังไม่พอใจ อยากเหนื่อยอีกเรื่อยๆ ก็ไม่มีใครว่าอะไรได้

ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้นค่ะ !!




 

Create Date : 19 กันยายน 2552    
Last Update : 19 กันยายน 2552 10:17:22 น.
Counter : 370 Pageviews.  

ชีวิตก็คงแบบนี้แหละ มีสาระเกินไปก็ไม่สนุก

อรุณสวัสดิ์ค่ะ

เช้านี้ท้องรวนแต่เช้า ระบายดีเกินไปหรือไร ทำให้นึกถึงตอนที่กินอะไรผิดสำแดงแล้วต้องไปนอนให้น้ำเกลือที่สมิติเวช นั่นหนักที่สุดแล้วค่ะ แค่ทานไส้กรอกในตู้เย็นที่ไม่ได้ลวกก่อนทาน อีกครั้งหนึ่งก็ ทานก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ทั้งที่ปกติไม่ค่อยจะชอบน้ำตกอยู่แล้วแต่ก็ตามน้ำไป

เพราะเราสั่งว่า ไม่ตกก็จริงนะคะ แต่บางร้านก็จะไม่สนที่ลูกค้าสั่งหรอกค่ะ มาเสิร์ฟเราตรงหน้า ก็เอ๊า ฉันสั่งไม่ตก เธอก็ยังตกมาให้ เราก็เอาน่ะ ไม่อยากเรื่องมาก แค่เตี๋ยวเรือขามเล็กๆชามเดียว ปรากฏว่าถ่ายไปสิบกว่าหน โชคดีว่าไม่ต้องไปนอนให้น้ำเกลือเหมือนคราวก่อนนั้นอีก

ทานอะไรก็ระวังนิดหนึ่งนะคะ

บังเอิญเมื่อคืนทานก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เออ น้ำจิ้มอร่อยดีถึงขั้นว่าเก็บทีเหลือเอาไว้เผื่อจะทำซีฟู้ดลวกจิ้ม แต่เช้านี้ระบายดี ก็น่าจะเพราะฤทธิ์ของน้ำจิ้มนั่นล่ะค่ะ

จริงๆ ฉันชอบทานเผ็ด อาจเพราะเราเป็นคนใต้ แต่นิสัยการทานเผ็ด
ก็เปลี่ยนไปแล้วค่ะ คิดว่ามันสัมพันธ์กับวัย

จำได้ว่า สมัยสิบกว่าปีก่อนนั้น ฉันทานเผ็ดได้เก่งกว่านี้มาก เรียกว่า
เผ็ดขนาดเคยสั่งส้มตำพริกเป็นกำมือเลยก็เคยมาแล้ว ทานไป ซี๊ดไป
แหม อร่อย เรียกว่าส้มตำหนึ่งคำ น้ำหนึ่งอึก อร่อยสะใจ แต่หารู้ไม่ว่าอะไรที่มันมากเกินไปมันก็ไม่ดี แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่า สิ่งที่เราทำมันเป็นการทำร้ายร่างกายของเราเองนะ

ช่วงที่ป่วยเป้นโรค IBS เหมือนที่เล่าในบล็อกเมื่อคืน คือรู้ตั้งแต่เจ็ดแปดปีก่อนแล้วค่ะว่าตัวเองเป็นโรคนี้ เพราะหมอหาสาเหตุในสิ่งที่ฉันเป็นไม่ได้ สรุปก็คือ โรค IBS ที่เป็นนี่ นอกจากไม่รู้ว่ามันมาจากอะไร แต่สันนิษฐานว่ามาจากความเครียดทำให้ระบบย่อยอาหารแปรปรวนแล้ว ยังเป็นโรคที่ต้องคอยดูแลตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกิน เพราะมันคือโรคของระบบย่อยอาหารโดยตรง

และการงดทานเผ็ด ก็คือหนึ่งในวิธีการดูแลระบบย่อยอาหารและเป็นข้อห้ามของโรคนี้ด้วยค่ะ

ฉันทานเผ็ดได้น้อยลงเรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้น จึงสันนิษฐานว่า วัยก็มีส่วนจริงๆในการทำให้นิสัยการทานอาหารเปลี่ยนไป แม้ว่าของเผ็ดๆหลายๆอย่างจะเป็นของชอบ ของโปรด แต่กลับกลายเป็นว่า เดี๋ยวนี้
ภูมิต้านทานเรื่องการกินเผ็ดจะน้อยลงเรื่อยๆ

วันก่อน น้องสาวคนหนึ่งกริ๊งกร๊างมาแต่เช้าเลย บอกว่าอยู่ที่ร้านอาหารคนใต้ พี่อยากทานอะไร เดี๋ยวจะหิ้วไปให้ ด้วยความเกรงใจเลยบอกว่าไม่เอา แต่เขาบอกว่าร้านนี้ คั่วกลิ้งอร่อยมาก ทำให้เราตาโตเลย

รู้จักคั่วกลิ้งไหมคะ มันก็คือหมูสับผัดเครื่องแกง โรยใบมะกรูด แต่จะเป็นการผัดแบบแห้งๆ เวลาทานก็คลุกข้าวสวยร้อนๆ ทานกับผักสารพัดชนิด ฉันน่ะชอบทานคั่วกลิ้งมาก แต่หาร้านที่ทำอร่อยๆ ไม่ค่อยได้
ขนาดว่าบางร้านคนใต้แท้ๆทำ ยังไม่จัดจ้านถึงใจเลย แล้วย่านที่ฉันอยู่ในปัจจุบันนี้ หาอาหารใต้ทานยากมาก หรือจะพูดง่ายๆคือ ไม่มีนั่นแหละ หรือแม้กระทั่งแถวสีลมที่ว่ามีของกินมากมายนานาสารพัดแล้ว
ก็ยังไม่มีอาหารใต้ให้ทาน

คือ หาส้มตำได้ง่ายกว่าอีกค่ะ

ดังนั้นเมื่อน้องเอ่ยคำว่า คั่วกลิ้ง ฉันก็ตะหงิดๆแล้วนะ ผลสุดท้ายก็เลยได้ทานคั่วกลิ้งฝีมือแม่ครัวใต้จริงๆ อร่อยมากด้วย เพราะเขาทำแบบแห้งสนิทใจเลยค่ะ นอกจากนั้นยังมีปลาทอดขมิ้น และขนมจีนน้ำยาใต้
อร่อยมาก

แม้จะทานเผ็ดไม่เก่งแล้วแต่ก็ขอนิดหนึ่ง มื้อนั้นกว่าจะผ่านมาได้ก็สาหัส พยายามไม่ทานน้ำคั่นระหว่างทานเพราะรู้ว่า จะยิ่งเพิ่มดีกรีความเผ็ดร้อนในปาก แต่มีความสุขจัง เพราะได้ทานของอร่อยที่เราถวิลหา

สุดท้าย เราก็หนีรากเหง้าของเราไปไม่พ้นหรอก เห็นไหมคะ
ลูกข้าวเหนียวก็ชอบทานข้าวเหนียว ลูกคนใต้อย่างฉันก็ยังรักอาหารใต้
สิ่งแวดล้อมกลืนเราไปไม่ได้ 100 % หรอก เพราะรากเหง้าของเรา
มาจากตรงไหน เราก็จะมีความรู้สึกฝังอยู่ตรงนั้น

แต่ในรอบอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันทานเผ็ดไปหลายครั้งอย่างไม่เกรงใจท้องเลยจริงๆ ก็เอาน่ะ บางทีการทานจืดๆทุกวัน ชีวิตมันก็เลี่ยน ชีวิตคงต้องมีขึ้นๆลงๆบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ มันคงไม่สนุกเอาเลยหากเราจะกินแต่อาหารสุขภาพทุกวัน

บางทีเราก็อยากกินมาม่าน่ะ ประมาณนั้นเลย

ชีวิตก็คงแบบนี้แหละ มีสาระเกินไปก็ไม่สนุก

ใช่ไหมคะคุณ !!??!!




 

Create Date : 19 กันยายน 2552    
Last Update : 19 กันยายน 2552 8:47:14 น.
Counter : 443 Pageviews.  

ลาแล้ว..ชาเย็น

ฉันชอบดื่มชาใส่นม แบบที่เขาเรียกกันว่าชาเย็นค่ะคุณ
ชาเย็นแบบโบราณจะต้องเป็นชาตรามือ ชงแบบใส่นม สีของมันจะออก
ส้มๆหน่อย

นอกจากนั้นแล้วฉันยังชอบชาเขียวใส่นม โดยเฉพาะยี่ห้อเขาทะลุ
ทั้งชาเย็นและชาเขียวนม เป็นเครื่องดื่มที่ชอบต้องดื่มทุกวัน
ช่วงหลังๆ นอกจากชาแล้ว ฉันยังถอยกาแฟมาดื่มด้วย
และที่ตามมาล่าสุด อร่อยเด็ดขาดก็ต้อง เนสทีนมสด

ผลก็คือ อ้วนสิคะ

แต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมา เจอโรคลำไส้แปรปรวนเล่นงาน
มันเกียวพันกับอาหารการกินโดยตรงเลยค่ะ อาการต่างๆที่เกิดขึ้น
ในเวลานั้น คือท้องอืด มีลมมากๆ อึดอัดเหมือนอาหารไม่ย่อย
ทำให้ฉันต้องหาวิธีเยียวยาตัวเอง เพราะมันทรมานมาก เหมือนจะ
เป็นโรคจิตกลายๆ คอยระแวดระวังการกิน และต้องพยายามลด
ความเครียด เพราะนี่คือหนึ้งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้

และหนึ่งในบรรดาอาหารการกินที่ว่ากันว่าเป็นสาเหตุหลักๆและจะต้อง
งดเลยก็คือ ชา และ กาแฟ

ฉันทำใจงดทั้งชาและกาแฟมาได้สองถึงสามเดือน ใจแข็งมาก
เดินผ่านร้านกาแฟนมสดน้องมิงค์ที่ฉันชอบกินมากๆ ก็ต้องเดินหน้าตั้ง
ห้ามปรามตัวเองไม่ให้อยากดื่ม เนสทีนมสด โอ้วววว ของชอบจริงๆ

การห้ามใจตัวเองเป็นไปด้วยดี
แต่ก็นั่นแหละค่ะ เดินผ่านทุกวัน ไม่ยอมใจอ่อน มันก็ต้องมีวัน
ที่หาเหตุผลมา support ตัวเองจนได้ เช่น ขอวันนี้สักวันน่า นานๆกินที
อ่ะ มาแล้วแก้วนึง แล้วก็มาวันนี้อีก เจอน้องที่รักใคร่สนิทสนมยืนอยู่
หน้าร้านน้องมิงค์เลย ปราดเข้าไปทัก ด้วยความรักน้องก็เลยควัก
สตางค์มาเลี้ยงกาแฟน้องเสียเลย สี่แก้ว

แล้วก็เลยห้ามความอยากไม่ไหว ขอของตัวเองด้วยแก้วนึงนะ

ก็ไม่เลวนักหรอกค่ะ ในสามเดือน หลุดมาได้แค่สองแก้ว

แต่เนสทีนมสดวันนี้ไม่อร่อยอย่างที่เคยอร่อยเสียแล้ว เพราะเมื่อลา
มาสามเดือน ไม่ได้กินน้ำตาลมากๆ นมมากๆ ทำให้รู้สึกได้เลยว่า
อาการอืดๆๆ ได้กลับมาหาอีก

เลยต้องคว้าขิงแคปซูลมาช่วยบรรเทาอาการอีกรอบหนึ่ง
เกือบแย่แน่ะค่ะ

ดื่มไปได้ 80 % นะ เกือบหมดแก้วแล้วตัดสินใจโยนทิ้งล่ะ ไม่เอาแล้วดีกว่า เพราะมันไม่คุ้มเลยกับอาการไม่สบายที่เกิดขึ้น ( และอาจตามมาอีก )
ลืมไปแล้วหรือว่ากว่าจะหายจากโรค IBS รอบที่แล้วฉันใช้เวลาอยู่กับมัน
ไปกี่เดือน ต้องหาข้อมูลมาอ่าน รักษาเยียวยาตัวเองด้วยวิธีนั้นวิธีนี้
ไม่รู้กี่วิธี กว่าจะบรรเทาได้

หนำซ้ำต้องกลับไปหาหมอ ต้องให้หมอตรวจสารพัด ไม่สนุกสักหน่อย
ลืมไปแล้วเหรอ ( ต้องถามตัวเองดังๆ ) แล้วก็ได้คำตอบว่า ไม่ได้ลืม
แต่เหตุผลที่เราอยากปรนเปรอตัวเองนิดๆหน่อยๆนั่นแหละตัวดี เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันก็เกิดขึ้นอีกได้

ฉันตั้งใจจะลาขาดจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและนมมากๆแบบนี้เป็นการถาวรแล้วล่ะค่ะ แม้จะชอบชาเย็นชาเขียวชาเนสทีนมสดนั่นปานใด มันก็ไม่คุ้ม
กับค่าหมอที่จะต้องไปหาถึงบำรุงราษฎร์ ค่าหมอถูกเสียเมื่อไหร่ล่ะ
คุณหมอที่รักษาฉันแกก็ไปประจำที่นี่ที่เดียว มหาโหดเลย ลืมไปแล้วเหรอ
ค่าหมออย่างเดียว 5-6 ร้อยบาทต่อครั้งเลยนะ ไม่รวมค่ายามหาโหดเช่นเดียวกัน

ที่สำคัญ โรค IBS มันไม่หายขาด มันอาจมาเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นๆหายๆอยู่อย่างนี้ ในเมื่อมันไม่มา ก็อย่าให้มันมาจะดีกว่า

ลาแล้วชาเย็น

เข็ดแล้วจ้า !!!




 

Create Date : 18 กันยายน 2552    
Last Update : 18 กันยายน 2552 23:16:04 น.
Counter : 533 Pageviews.  

ความรักของเราไม่ต่างกัน ...

วันนี้พาน้อง(นอกออฟฟิศ) ไปเลี้ยงมื้อกลางวันที่บาร์บีคิวพลาซ่าค่ะ
นานๆกินที เออ อร่อยเหมือนกันแฮะ ต้องบอกว่าปกติจะไม่ค่อยทานร้านนี้เพราะรู้สึกว่าค่อนข้างแพง

ปกติแล้วกลางวัน ฉันกับน้องๆจะไปทานอาหารริมทางหรือในเต็นท์
ที่มีตลาดนัดด้วย แบบที่ในย่านออฟฟิศส่วนใหญ่จะมีกันนั่นแหละค่ะ
แต่ที่สีลมนี่ ของกินไม่ขาดแคลนหรอกนะคะ เยอะมาก มีให้เลือก
สารพัด ทั้งติดตินสุดๆ ประเภทแอบอยู่ริมรั้ว กับแบบหรูสุดฤทธิ์
ขึ้นห้างชามละหลายๆร้อย

ภัตตาคารเชียงกรีลาคิชเช่นขายบะหมี่จอมพลชามละ 900 มั้งคะ
ราคาเริ่ดที่สุดที่เคยเจอ แต่เฮ้อ.. กินไม่ลงค่ะ

พาน้องไปทาน BBQ ตอนกลางวัน โหย ไม่อยากกินจะไม่ยอมลงทุน
เลยนะคะเนี่ย เพราะหัวเหอจะเหม็นไปหมด เหมือนเราออกจากร้านสุกี้
เอ็มเคประมาณนั้น แต่ BBQ นี่ยิ่งกว่า

ไม่ได้จะเล่าเรื่องนี้เป็นเมนหรอกค่ะ แต่จะเล่าเรื่องอื่นๆด้วย
เป็นคำถามที่น้องถาม และฉันก็คิดตามอยู่เหมือนกัน เรื่องของเรื่อง
คือน้องถามฉันว่า

ถามจริง.. พี่เป็นอะไร ( ก็เป็นเพศไหน ) นั่นแหละค่ะ

ได้ยินคำถามแล้วถึงกับฮาก๊าก เลยบอกน้องว่า จะเพศไหนเล่า
ก็เพศหญิง(รักหญิง) นะซีโว้ย ( ออกฮาๆหน่อยนะคะ ) น้องกุมขมับแล้วก็ถอนใจ พลางบ่นว่า 'ทำไมมันเยอะจัง'

อะไรเยอะ ฉันถาม

ก็พวก 'แบบนี้' ไงพี่ น้องบอก

อ๋อ พวกแบบนี้ก็พวกแบบเรานี่แหละค่ะ เป็นคำถามที่ทำให้ฉันหัวเราะคิกคักเลยล่ะ ทำไมเดี๋ยวนี้ประชากรแบบเราเยอะจัง ??

ไม่เยอะเปล่านะคะ ดูไม่ออกด้วย หากว่าคนๆนั้นไม่แสดงตัวชัดเจนว่า
เป็นทอม เดี๋ยวนี้น่ะนอกจากทอมแล้วก็ยังมี 'เลส' อีกนะ แล้วสาวๆที่เป็นเลสน่ะ ดูไม่ออกนะคะ เผลอๆ ไอ้ที่เดินจูงมือกันเหมือนเพื่อนกัน
ผมยาวเหมือนกัน ออกท่าทางสาวๆเหมือนกัน นั่นน่ะ แฟนกันนะคะ

สำหรับฉัน จะคิดอะไรได้ นอกจากมองว่าดี แต่สำหรับน้องที่อีกไม่กี่เดือนจะแต่งงาน แต่ในที่ทำงานแวดล้อมด้วยคนจำพวกนี้ ( ทอม คุ๊ด ดี้ เลส ) กลับมองว่าเป็นเรื่องประหลาดที่สังคมสมัยนี้ มีคนรักเพศเดียวกันปะปนอยู่มาก

มันเกิดอะไรขึ้น เพราะโลกปัจจุบันเปิดกว้าง เพราะสังคมไทยยอมรับได้มากขึ้น หรือเพราะจริงๆแล้วประชากรแบบเรามันเยอะขึ้นจริงๆ
เลยทำให้ประชากรรักเพศเดียวกัน เปลี่ยนจากคนส่วนน้อยของสังคม มาเป็นคนส่วนหนึ่งของสังคมอย่าสง่าผ่าเผยมากขึ้น

น้องบอกว่า ไม่อยากเชื่อเลย

แต่อยากบอกน้องว่า จงเชื่อเถอะ เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ความรักแบบนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับความรักแบบปกติที่คุณๆมีกัน เพียงแต่มันการันตีด้วยกระดาษไม่ได้ (ในประเทศนี้) มันไม่มีพิธีการมารองรับ มันอาจจะดูง่ายๆ รักง่ายๆ ก็เลิกง่ายๆด้วย ก็เพราะมันไม่ต้องคำนึงถึงหน้าตาของใครไงละคะ ( หน้าตาของครอบครัวของคนทั้งสองคนไงคะ )

ฉันบอกน้องไปว่า ฉันไม่เคยปิดบังเลยหากใครถาม ว่าฉันเป็นอะไร
ฉันจะห้อยท้ายว่า หญิง ( รักหญิง ) แบบนี้แหละ เพราะฉันไม่ได้รู้สึกว่านี่คือปมด้อย ตรงกันข้าม เราเปิดเผย เราชัดเจน เรามีจุดยืนและเราเชื่อ
ว่าเราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร และที่มากกว่านั้น คือเราเป็นคนดี ( ของสังคมนี้เสมอ ) แล้วจะเอาอะไรอีก ที่เหลือ ฉันก็ขอมีความสุข
ของฉัน ไมได้สุขบนความเดือดร้อนของใครด้วย เพราะเราไม่ได้ไป
แย่งของๆใครมา เราไม่ได้ทำผิดอะไร เราก็มีเลือดเนื้อมีหัวใจเหมือนกับคนอื่นๆ

ฉันคิดว่าเราควรภูมิใจค่ะ อย่างน้อย เราก็ดูแลเลี้ยงดูตัวเองได้ดี
และอาจจะเผื่อไปถึงครอบครัวของเรา โดยที่ความเป็นคนรักเพศเดียวกันของเรา ไมได้มีผลต่อสิ่งที่เราทำเลยแม้แต่นิดเดียว

อาหารมื้อนั้นจบลงด้วยรอยยิ้ม น้องบอกว่า ฟังพี่พูดแล้วไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะ ไม่รู้สึกว่า พวกนี้น่ากลัว ไม่รู้สึกว่าประหลาดอีกแล้ว อาจเพราะสิ่งที่เขาสัมผัสได้จากเราคือ ความมีน้ำใจ และความเข้าใจโลก
ในแบบของเรา

ฉันออกจะอิจฉาน้องที่เขาจะได้แต่งงาน เพราะฉันแต่งไม่ได้
นี่แหละ หากฉันจะริษยาคนทั่วไป ก็คงริษยาได้ในประเด็นนี้ เพราะเรา
ไม่สามารถทำได้แบบเขา

แต่ความรักของเราหาได้ต่างกันไม่ !!

เข้าใจแล้วใช่ไหมจ๊ะน้องสาว... !!!




 

Create Date : 17 กันยายน 2552    
Last Update : 17 กันยายน 2552 23:17:54 น.
Counter : 392 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.