images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

แสงสว่างในใจเรา

รอยต่อของปลายปี เป็นช่วงของการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน

เมื่อเช้านี้ฉันสังเกตเห็นว่า ต้นไม้ใหญ่ในบ้าน ผลัดใบร่วงเกลื่อนผืนดิน
จากฤดูฝนที่ต้นไม้ได้น้ำ พวกมันพากันผลิใบอ่อน แล้วก็ผ่านคืนวันจนกระทั่งร่วงหล่นในปลายฝนต้นหนาว

ใบไม้ร่วงเยอะจนกวาดไม่ทันเชียวค่ะ

..

เมื่อวานในที่ทำงานมีการแจ้งข่าว การเปลี่ยน org chart
นี่คือการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ และเราไม่อาจปฏิเสธ ตราบใดที่เรายังอยู่ในระบบ เดินตามรอยทางของมดงาน

สะท้อนให้เห็นว่า อย่าเอาอะไรแน่นอนกับเส้นทางการทำงาน
แต่ไม่ได้หมายความว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น จะกลายเป็นเหตุให้เราไม่ตั้งใจทำงานในอนาคตนะคะ

การโยกย้าย ไม่ต่างอะไรกับไม้ที่ผลัดใบร่วงหล่นเพื่อรอวันเวลา
แตกยอดอ่อน ผลิใบใหม่ มันเป็นฤดูกาลในชีวิตมนุษย์เช่นเดียวกัน

น้องบางคนบอกว่า ไม่อยากย้ายไปอยู่กับหัวหน้าคนนั้น หรือบางคน
ตั้งใจทำงานดี แต่ทำไมไม่เข้าตาผู้ใหญ่ ไมได้เลื่อนตำแหน่งแล้วยัง
มีใครมานั่งบนหัวแทนที่จะเป็นเรา

เจอแบบนี้ เข้าใจดีว่า มันหวานอมขมกลืนยังไง

นึกเสียว่า วันนี้ไม่ใช่วันของเราดีไหม เห็นความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นแล้ว อย่าได้ไปยึดติดกับหัวโขนที่เขาตั้งให้เราเลย เพราะหัวโขน
เหล่านี้ก็คือความไม่แน่นอน มันอาจจะหลุดจากมือเราไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สิ่งที่แน่นอนว่านั้น คือหัวใจที่มั่นคงเข้มแข็ง การรู้จักมอง
โลกในแง่ดี รอวันฝนซาฟ้าเปิด เราจะได้มีวันของเรา

น้องบางคนบอกว่า หัวหน้างานคนใหม่ไม่น่าอยู่ด้วยเลย นิสัยไม่ดี
ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ลูกน้อง เจอแบบนี้ก็ไม่อยากอยู่ด้วย เออ นี่คือธรรมชาติของคนเราใช่ไหม ไม่มีใครเหมือนกัน แต่ละคนมีข้อดีและข้อเสีย ถ้าเรามองเห็นข้อเสียของเขา เราก็จะเห็นแต่ข้อเสีย แล้วถามว่าใจเราจะเป็นปกติสุขไหม ถ้าเรามัวแต่ไปจ้องอิฐที่อยู่บนกำแพงก้อนหนึ่ง อิฐก้อนนี้อาจไม่สวย ทำให้กำแพงมีช่องโหว่ แต่ถ้าเราไม่มัวแต่จะไปจับผิด เราจะเห็นว่ามันสวยกว่าไหม

หัวหน้าที่ไม่ดี ไม่เอื้อเฟื้อลูกน้อง นั่นเป็นนิสัยของเขา แล้วถามว่าหากเราต้องอยู่กับเขาวันนี้ เราจะอยู่อย่างไรล่ะ ถ้าเราต้องอยู่แต่อยู่อย่างทรมานใจ มีอคติปกคลุมใจตลอดเวลา เราคงไม่เป็นสุขนักหรอกใช่ไหม

ถ้าเคยฟังนิทานเรื่องกบเลือกนายมาบ้าง ก็คงทราบว่าจุดจบของการเป็นกบเลือกนายนั้นคืออะไร

เราเลือกคนที่อยู่ด้วย (ในบางสถานการณ์ ) ไม่ได้ แต่เราเลือกจะทุกข์หรือสุข หรือปรับใจให้สมดุลเพื่อให้เดินหน้าต่อได้ไม่ใช่หรือ

..

ฉันเข้าใจความท้อแท้ ผิดหวัง และการถูกบั่นทอนโดยระบบการเมืองในที่ทำงานดี คนที่เขาเติบโตได้ ทั้งที่อาจไม่มีฝีมือ อาจเป็นบุญพาวาสนาส่ง อาจเป็นเรื่องของพวกมากลากไป หากเราคิดในข้อนี้ เราก็ไม่ควรท้อแท้จนลุกไม่ขึ้น

หากแต่ควรมองตัวเองอย่างยุติธรรมมากกว่า ว่าเราไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม้ตอกไม่มีความสามารถสักหน่อย เพียงแต่เราอาจไม่เหมาะกับวัฒนธรรมองค์กรแบบนั้น หรือคิดในแง่ดีว่า ที่นี่อาจไม่ใช่ที่ของเรา

เราต้องมีที่ของเรา

ที่สักที่ ที่จะทำให้เราอยู่ได้ด้วยความสุขและมีชีวิตที่ดีกว่าวันนี้

แสงไฟไม่อาจสาดส่องได้ทั่วถึง แต่เราฉายแสงไฟในใจเราให้สว่างขึ้นได้ แทนที่จะก้มหน้ายอมรับชะตากรรมที่ถูกยัดเยียด ทำไมไม่ลุกขึ้น ฉายแสดงไฟในใจตัวเองให้สว่าง มองหาโอกาสใหม่ๆ ใช้ชีวิตให้สมกับที่ได้เกิดมา

ต้องสู้สิคะ

ชะตากรรมเราอยู่ในมือเรา เรา control ได้เองส่วนหนึ่ง
อย่าได้ท้อแท้เพียงแค่ระบบที่เราอยู่ มันผลักไสให้เรากลายเป็นคนไร้ตัวตน

ทุกคนมีค่าในตัวเองนะคะ

จำไว้ค่ะ !!




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2552    
Last Update : 23 ธันวาคม 2552 7:10:01 น.
Counter : 467 Pageviews.  

มีความสุขตั้งแต่นาทีนี้ดีไหม ?

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของหลายสิ่ง

เรามักหวั่นไหว

ท่ามกลางความรู้สึกไม่มั่นคง

เรามักหวนคิดถึงวันคืนที่ผ่านๆมา

แต่เราห้ามอะไรให้เกิดไม่ได้

การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลกนี้มาเสมอ

ไม่ว่ามันจะเกิดจากสาเหตุอะไร

เรามีหน้าที่ 'รับมือ' กับความเปลี่ยนแปลงนั้น

การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงมันไม่ง่าย

แต่เราจะรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่านั้นอีก หากเรารู้จักมองในแง่ดี

ยอมรับเสียก่อน ว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆอาจเกิดขึ้นได้

และไม่ว่าด้วยเหตุอะไรก็ทำที่ทำให้มันเกิด ถามว่าเราห้ามได้ไหม

ไม่ได้ และมันเกิดขึ้นแล้วใช่ไหม

หน้าที่ของเราคืออะไร

ยอมรับ ใช่ไหม

หากเรายอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติ

เราจะรับมือกับมันได้งายกว่าไหม

ทุกสิ่งในโลกต้องเป็นไปตามธรรมชาติไม่ใช่หรือ เราฝืนธรรมชาติไม่ได้

ในเมื่อมัน out of control

และในเมื่อเราห้ามความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้ จะมีอะไรดีกว่า

การยอมรับและเข้าใจในธรรมชาติของทุกสิ่ง

อะไรก็เกิดขึ้นได้

ถ้าเรายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและทำความเข้าใจกับมันได้ เราจะมองหา

แง่งามของมันได้

และเราจะเป็นสุขกับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ไม่ยาก

ทุกอย่างอยู่ที่เราเลือกจะมอง

จะมองให้สุข หรือ จะมองให้ทุกข์ จะอยู่กับสุข หรือ จะอยู่กับทุกข์

เราเลือกได้ไม่ใช่หรือ

แล้วเราจะเลือกทุกข์กับการเปลี่ยนแปลง ขังตัวเองอยู่ในวังวน

จนทำให้เวลาความสุขของเราเหลือน้อย

หรือเราจะเลือกมีความสุข กับวันเวลาที่เหลือตั้งแต่นาทีนี้ดีล่ะ ?

คุณจะเลือกอะไร ??




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2552    
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 21:47:27 น.
Counter : 435 Pageviews.  

เก๋ไม่หยอกจริงๆนะเนี่ย..

วันนี้มีเรื่องบันทึกเก็บไว้สองเรื่องค่ะ

เรื่องแรก ในที่สุดฉันก็เป็นหวัด 2009 ส่งท้ายปี แฮ่.. เป็นหวัด
ในปี 2009 น่ะค่ะ ไม่น่าจะใช่ หวัดสายพันธ์ใหม่หรอกมั้ง

หายใจไม่ออก น้ำมูกไหลตลอดเวลา จามไปหลายครั้งหลายหน
ชัดๆเลย

เนี่ย หวัด ( ในปี ) 2009 ชัดๆ

คิดให้ขำไปงั้น แต่ไม่ขำนะคะ ฉันแค่อยากบอกว่า โรคหวัดแบบนี้
มันทรมานจะตายไป เพราะมันหายใจได้ข้างเดียวน่ะซีคะ

เคยมีความรู้มาบ้างว่าสามารถสังเกตอาการหวัดและการใช้ยาได้ง่ายๆ
คือถ้ามีน้ำมูกใสๆ โดยไม่ไอ แบบนี้ น่าจะเป็นหวัดจากเชื้อไวรัส แต่ถ้าหากไอ มีเสมหะ สีเขียวปนมาด้วย นั่นแปลว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ต้องทานยาฆ่าเชื้อที่เรียกว่า อะม็อกซีลิน

ฉันเคยไอๆๆๆๆ ไอไม่หยุดจนกระทั่งทนไม่ไหวเพราะไม่ได้นอน ทั้งไอ ทั้งอาเจียน ไอตลอดหัวค่ำยันเที่ยงคืน คืนนั้น ฉันเลยต้องไปนอน admit ที่สมิติเวช แล้วรุ่งเช่าก็มีสึนามิ และมันก็ตรงกับวันเกิดฉันพอดี

จำได้ประมาณนั้นแหละค่ะ

ที่พูดเรื่องหวัดนี้ ก็เพราะว่าฉันห่างไกลจากการเป็นหวัดมานานมากแล้ว หลายปีที่ไม่เคยเป็นหวัด หรือคอสักเสบ หรืออะไรทำนองนี้เลย
ยังนึกว่า เออ ปีนี้ยังไม่เป็นเลย ปรากฏว่า อย่าได้ทักเชียว ในที่สุดมันก็มาค่ะ

ระวังรักษาสุขภาพกันด้วย อย่าไม่สบายส่งท้ายปีแบบนี้เลย
ไม่สวยเลยค่ะ

..

เรื่องที่สอง

วันนี้ขณะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า ฉันได้ยินเขาเปิดเพลง 'สวัสดีปีใหม่' ของ
สุนทราภรณ์แล้วค่ะ เพลงปีใหม่ที่คลาสสิคที่สดุก็ว่าได้ ได้ยินมาตั้งแต่เด็กจนโต ยันครึ่งคนเข้าไปแล้ว เพลงนี้ก็ยังมีให้ได้ยินเรื่อยมา

แค่อยากบอกเท่านั้นค่ะว่า นอกจากเพลงปีใหม่ของสุนทราภรณ์แล้ว
ยังได้ยินอีกเพลงหนึ่งนั่นคือ jingle bell เพลงประจำเทศกาลคริสต์มาส
และปีใหม่ที่คุ้นหูชาวโลกกันดี

ปลายปีทีไร เมือ่ได้ยินเพลงนี้ จะรู้สึกยิ้มได้และมีความสุขทุกครั้งเลยค่ะ
รู้สึกอย่างนี้ไหมคะ

หากนับวันด้วยสองมือของเรา ซึ่งก็นับได้แล้ว เรายังมีเวลาอยู่กับปี 2009 อีกไม่ถึงสิบวันแล้วนะคะ ตะกร้าของขวัญทยอยเดินทางมา การ์ดอวยพรทยอยเดินทางออกไป เพือส่งความสุขและรอยยิ้มเป็นของขวัญรับปีใหม่

ฉันเคยบอกว่าฉันชอบช่วงเวลานี้ของปีมากที่สุด ก็เพราะเหตุนี้เอง

แต่เป็นหวัดส่งท้ายปีด้วยเสียแล้ว ก็ขอให้แคล้วคลาดในปีหน้าไปด้วยเสียเลยแล้วกัน ถือโอกาสอวยพรตัวเองเลย

แต่ถ้าเป็นสักห้าหกเดือนที่แล้วที่ใครๆก็กลัวหวัดชนิดนี้กัน ฉันก็คงยิ้มไม่ออกเหมือนกันแหละค่ะคุณ

แหม คิดไปคิดมา ฉันนี่ก็อินเทรนด์เหมือนกันนะ ได้เกาะกระแสเป็นหวัดในปี 2009 กับเขาด้วย

เก๋ไม่หยอกจริงๆนะเนี่ย

ว่างั้นไหมคะคุณ !!




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2552    
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 21:34:04 น.
Counter : 500 Pageviews.  

ฉันอวยพรเธอเงียบๆ .. ด้วยน้ำตา

วันคืนล่วงเลยผ่านพ้นปี ใครๆก็บอกว่าหนึ่งปีผ่านไปเร็ว
จริงๆมันไม่เร็วหรอกค่ะ ไม่เร็วหรอก.. สำหรับคนที่ต้องผ่านหนึ่งปี
อย่างร้าวราน

ใช่ ฉันเคยผ่านมาก่อน ฉันจึงรู้ว่าวันเวลาที่ผ่านไป แม้แค่เพียงหนึ่งวัน
มันยังช้า อย่างที่ไม่ควรจะช้าเลย

ถึงจะรู้ตัวเองว่าเป็นคน 'ความจำสั้น' เอามากๆ แต่กับบางเรื่องมันก็ไม่ได้สั้นอย่างนั้นด้วย คงมีสักเรื่องที่เรายังจำมันเอาไว้ ลั่นดาลปิดตายในสิ้นชักความทรงจำ

ไม่เคยลืม

..

แต่ที่แน่ๆ ปีนี้ ฉันลืมวันเกิดของคนที่ดีกับฉันคนหนึ่ง ฉันมานึกออกอีกทีว่าเลยผ่านวันเกิดเธอก็คล้อยหลังเอาเกือบเดือน

จนวันเกิดฉันจะเวียนผ่านเข้ามาอีกแล้ว

จริงๆวันเกิดเธอห่างจากฉันไม่นานมากหรอกค่ะ เธอเกิดต้นเดือน พ.ย.
ส่วนฉันเกิดปลายเดือน ธ.ค.

เธอคือคนที่ฉันเคยเดินจากมานั่นแหละค่ะ คนที่ฉันเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยนานที่สุด นั่นคืออดีตเจ็ดปีที่ฉันยังจำมันได้อยู่เสมอ

รอยเท้าที่เคยย่ำห่างออกมา แม้เลือนลางจางไป แต่ความทรงจำที่ดีๆก็ยังคงมีให้ระลึกถึง พอๆกับที่ครั้งหนึ่งฉันเคยทำร้ายเธอ แล้วก็ได้ชดใช้สิ้งที่กระทำกับเธอ ในอีกห้าปีไห้หลัง ที่ฉันถูกทำร้ายไม่ต่างกัน

ที่สุดแล้วอดึตไม่หวนกลับคืน และเราก็คงทำได้เพียงแค่นึกถึงมัน

แฮปปี้เบิรด์เดย์นะ ..

ฉันรู้สึกละอายใจจังเลยที่ปล่อยให้เวลาล่วงผ่านมาจนบัดนี้แล้วเพิ่งนึกได้ แต่มันคงไม่เป็นไรใช่ไหม เพราะฉันไม่ได้อยากอวยพรเธอแค่เพียงวันนี้

ที่จริงแล้ว ฉันอวยพรให้เธอทุกวัน นับตั้งแต่ทราบข่าว ว่าเธอมีใครสักคนที่รักและดูแลเธอได้ดีกว่าฉัน ในวันที่เราต่างเลิกราจากกันไปแล้ว
นั่นต่างหาก

ฉันอวยพรเธอ ให้เธอมีความสุขที่สุด ยิ่งกว่าตอนที่เธออยู่กับฉัน ฉันอวยพรเธอเงียบๆ ด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ ซึ่งเธอคงไม่รู้ ว่าคนที่ทำร้ายเธอนั้นรู้สึกเสียใจแค่ไหน เธออาจไม่รู้ ว่าฉันคิดถึงภาพที่ฉันทำร้ายเธออยู่ตลอดเวลา เฝ้าถามตัวเองว่า ฉันทำร้ายเธออย่างนั้นได้อย่างไร

และในวันที่ฉันถูกทำร้ายบ้าง น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างเจ็บปวดของฉัน ยิ่งทำให้ฉันเข้าใจชัดเจน ว่าความเจ็บปวดของเราไม่ต่างกัน

...

ผ่านเวลามาตั้งหลายปีแล้วสินะ จากวันนั้น

ปีนี้ฉันแย่จัง หวังว่าเธอจะไม่ว่าอะไร ที่ฉัน 'ความจำสั้น' ทั้งที่ฉันเคยจำวันนี้ได้ตลอดมา

แต่ไม่ว่าจะปีหน้า ปีนี้ หรือปีไหน ฉันขอให้ความสุขเป็นของเธอ ฉันบอกเธอตรงนี้นะ..

หวังว่าเธอจะได้ยิน




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2552    
Last Update : 21 ธันวาคม 2552 23:55:01 น.
Counter : 391 Pageviews.  

อยากให้บ้านนี้มีรัก..

สวัสดียามดึกค่ะ

ใครที่อ่านบล็อกฉันติดๆ คงสังเกตว่า พักนี้ฉันมีเรื่องไม่สบายใจมาบ่นในบล็อกอยู่บ่อยๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนั้นฉันก็รู้สาเหตุของมันดีว่ามาจากไหน

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันบังเอิญเปิดดูละครเรื่องบ้านนี้มีรัก ทางช่อง 9
พอดี แม้จะไม่รู้ว่าตัวละครในเรื่องคือชายหนุ่มคนหนึ่งเขามีปัญหาอะไร
แต่ฉันเห็น กัปตัน ในบทพี่ชายของหนุ่มคนนี้ ดูแลน้องชายเขา ทั้งรับฟังความรู้สึก และคอยปลอบใจ ให้กำลังใจ

ฉันรู้สึกว่าบ้านในละครอบอุ่นจังเลย จริงๆบ้านในชีวิตจริงของฉันก็อบอุ่นอย่างนั้นเหมือนกันนะคะ ฉันเคยรู้สึกอย่างนั้นมา

แต่ในยามนี้บ้านหลังนี้ของฉัน มีแต่รอยร้าว และหาความสุขไม่เจอ

ใครหนอพูดกับฉัน ว่าครอบครัวของเรานั่นแหละสำคัญที่สุด จงรักษาเอาไว้เถอะ ครอบครัว คนรัก คือสิ่งที่ได้มาแล้วหากสูญสลายไปคุณเรียกกลับคืนมาไม่ได้นะ

เพราะอะไร เพราะไม่มีใครทดแทน พ่อเรา แม่เรา พี่เรา น้องเรา ลุกเรา ได้หรอก

ในขณะที่งาน หรือ แม้แต่เงิน เรามีสิทธิ์และมีกำลังที่จะหาใหม่มาทดแทนได้ง่ายกว่า

ครอบครัวคือจุดแรกที่จะสร้างให้เราแข็งแรง ออกไปเผชิญโลก และเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด ในยามที่เราออกไปเผชิญโลกภายนอก แล้วต้องกลับมาอย่างนกปีกหัก

ไม่มีอะไรทดแทนได้จริงๆนะคะ

ในยามที่เราหลงคิดว่า คนอื่นที่เราหลงใหลได้ปลื้ม รักเท่าฟ้า รักล้นทรวง คือความรักที่แท้จริงนั้น เราลืมไปหรือเปล่าว่ามีความรักชนิดหนึ่ง ที่จะไม่มีวันเอาเปรียบเราเลย นั่นคือความรักของคนในครอบครัว
ที่อาจจะประกอบด้วย คนเพียงหนึ่งคน สองคน หรือแม้แต่สี่ขาสักตัว
ครอบครัวของเราอาจไม่สวยงาม เพียบพร้อม อาจไม่สามารถบันดาลให้เราเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายได้ แต่ครอบครัวของเรา ก็สร้างให้เราเป็นเรา เติบโตมาเพื่อแบ่งปันความรักให้คนอื่นอยู่นี่ไงเล่า

ในวันที่หลายคนมีความรัก มีสังคมใหม่ๆ มีสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ มีใครต่อใครให้สนใจ หลายๆคนอาจจะลืม ครอบครัวของเราไปแล้ว

อย่าลืมว่า คนรักในวันนี้ของเรา เขาอาจกลายเป็นคนอื่น แต่ครอบครัวของเรา อันประกอบด้วยพ่อแม่พี่น้องของเรา ไม่ใช่คนอื่น และไม่มีวันเป็นอื่น

ในวันที่หลายๆคนหลงลืมไปว่า มีใครรักเราอย่างเหลือเกิน หวังดีกับเราอย่างที่สุด แต่เรามักไม่เสียน้ำตาให้กับเขา เรากลับไปเสียน้ำตาให้คนอื่นที่เราคิดว่า เขารัก แต่เขากลับเดินจากเราไป หลายคนหลงลืมคนในครอบครัว เพราะความรักบังตา

ไม่น่าเลยจริงๆ

..

เชื่อไหมคะว่าฉันเคยฟังเพลง พี่ช่ายที่แสนดี แล้วฉันน้ำตาร่วง

แม้ในยามที่ฉันได้ทำหน้าที่ของพี่ ฉันก็ทำอย่างดีที่สุดแล้วเช่นเดียวกัน

หวังว่าเขาจะเข้าใจฉันบ้าง

หรืออย่างน้อยในวันที่เขาเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้นมากกว่านี้ เขาจะรู้สึกเสียดาย เหมือนกับที่ฉันเสียดายความสุขที่มันเคยอบอวลอยู่ในบ้านหลังนี้

ฉันคิดถึงรอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะที่มันเคยเวียนวนอยู่ที่บ้านนี้จังเลย

เมื่อไหร่นะ

มันจะคืนกลับมา...




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2552    
Last Update : 21 ธันวาคม 2552 23:19:42 น.
Counter : 754 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.