images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

ปิ๊งแรกของฉัน คนนั้นคือเธอ

ว๊าว เขียนหัวข้อบล็อกตอนนี้แล้วเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นเลยค่ะ

ฉันตั้งใจอยากเขียนถึงอดีต ที่ค้นพบตัวเองใหม่ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ ว่าฉันชอบผู้หญิงเหมือนกันได้ด้วยหรือ

หลายวันก่อนไปเปิดสมุดบันทึกเก่าๆ แล้วก็คิดถึงเธอคนนั้นค่ะ มีจดหมายที่ไม่ได้ส่งจำนวนมาก ที่ฉันเขียนถึงเธอ ผ่านมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ คิดดูสิคะ เวลาผ่านมาขนาดนี้ บันทึกยังเก็บรายละเอียดไว้ทั้งหมด แม้แต่ลายมือที่เขียนบันทึกในสมัยนั้น ยังไม่เหมือนสมัยนี้เลย

อ่านบันทึกผ่านๆแล้วก็คิดถึงค่ะ ตอนนี้เธอไปอยู่ต่างประเทศแล้วล่ะ ไกลถึงแถบสแกนดิเนเวียนโน่น แม้เราไม่ได้ติดต่อกันบ่อย นานๆครั้งจึงมีอีเมลตอบกลับมาถึงฉัน แต่สายสัมพันธ์ระหว่างเราก็ไม่ได้ขาดหาย

ฉันเองก็ไม่รู้ว่า มันเรียกว่าอะไร

เป็นความรู้สึกดีนะคะ ที่เรายังคงรักษาความเป็นเพื่อนระหว่างกันเอาไว้ มันมองไม่เห็นแต่ก็สัมผัสได้ ทั้งที่ฉันไม่คิดกับเธอแค่เพื่อน แต่ทุกอย่างระหว่างเรา ไม่รู้มันอยู่ได้ด้วยอะไร ฉันเองยังฉงนเลยค่ะ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2531 ฉันยังเป็นนักเรียนมัธยมอยู่เลย
เช้าวันหนึ่งที่ไปโรงเรียนตามปกติ แต่วันนั้น ฉันเห็นเธอค่ะ

พร้อมรอยยิ้มใสสว่าง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาที่ฉันสองที่ฉันกับเพื่อนยืนอยู่ เธอไม่ได้ยิ้มให้ฉันหรอกค่ะ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอในเช้าวันนั้น มันส่งผ่านมาถึงที่ที่ฉันยืน

ฉันไม่อาจกระพริบตา และรอยยิ้มนั้นยังตรึงฉันให้นิ่งสนิทอยู่กับที่อีกด้วย

นาทีนั้นฉันพบว่าตัวเองเหมือนตกอยู่ในอะไรสักอย่าง

เธอเดินผ่านไป พร้อมกับที่ฉันมีคำถามผุดขึ้นในใจว่า เธอชื่ออะไรหนอ





 

Create Date : 17 มกราคม 2549    
Last Update : 17 มกราคม 2549 22:16:05 น.
Counter : 350 Pageviews.  

คนใจร้อน กับปัญหาที่ต้องจัดการ

อาทิตย์แรกของปีผ่านไปแล้วสิ สามวันทำงานที่ผ่านมา ฉันเหมือนกระอักเลือดเหลือเกินค่ะ มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นชวนให้ฉันอยากหนีไปไหนไกลๆเสียจริงๆ

นึกอีกที บางทีการเอาปัญหามาทิ้งในบล็อก มันก็ไม่ดีนักหรอกนะคะ เหมือนเราไปรื้อ ไปทำให้แผลที่เกิดขึ้น ยิ่งเป็นแผลเรื้อรัง ไม่รู้จักหาย

หลายอย่างค่ะ จากที่ฉันพบเจอแล้วได้รู้สึก ว่าในการทำงานนั้น การจัดการกับงานไม่ยากเท่าจัดการกับคนเลย เมื่อเราไปทำงานแท้ๆ กลับต้องไปจัดการกับคน ซึ่งดีร้ายก็ส่งผลต่อการทำงานของเราด้วย

โชคไม่ดีของฉันอย่างหนึ่ง คือเข้าไปทำงานทั้งที่สถานการณ์ของแผนกนั้นเป็นไปอย่างอึมครึมมาก หัวหน้าที่ใหญ่กว่ากับลูกน้องที่รองลงมา ไม่ชอบหน้ากันและแสดงออกอย่างเปิดเผย

ฉัน ซึ่งเข้าไปใหม่ จึงไม่ได้รับความร่วมมือในการทำงานเท่าที่ควร และยังต้องพยายามทำงานภายใต้ภาวะกดดันของหัวหน้าที่ใหญ่กว่า ที่ใจร้อนมากๆ เสียอีก

เคยผ่านคนชนิดที่เรียกว่า "จะเอาอะไรต้องได้เดี๋ยวนั้น" มาแล้ว กลับยังต้องมาเจออีก ตลกไม่ออกจริงๆนะคะ

แล้วฉันก็หนีสถานการณ์เลวร้ายนั้นมาได้ เพราะโอกาสของคนที่หยิบยื่นให้ แต่กลับกลายเป็นว่าโอกาสนั้น ทำให้ฉันต้องมาเจอแบบเดิม และเดียวกันอย่างหลีกไม่พ้น

เฮ้อ.......

อย่างไรก็ตาม ฉันตั้งข้อสังเกตลึกๆในใจค่ะ ว่าทำไมบุคลิกอย่างฉันจึงดึงดูดคนประเภทนี้เหลือเกิน

คนรักก็ใจร้อน ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญไม่ใช่เล่น ยังมีหัวหน้าที่ใจร้อน ออกแนวๆเดียวกันอีกด้วย

เมื่อวานจึงเหมือนกับระเบิดลง

ระเบิดที่ทำให้ฉันเสียความมั่นใจไปมากโข แต่แล้วภายหลังจากการเคลียร์กัน ทุกอย่างสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใจฉันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย ฉันยังรู้สึกเสมอกับคำพูดที่เขาพูดถึงการทำงานของฉัน พาลให้ฉันระทดระท้อใจ หนักใจ จนถึงกับต้องพยายามตั้งสติหาทางออกให้ตัวเอง

พี่เขาขอให้เข้าใจและเห็นใจเขา

ฉันนั่งนิ่ง หัวจิตหัวใจด้านชาไปหมดแล้วในเวลานั้น
จะให้ทำอย่างไรได้หรือคะ ฉันเสียความมั่นใจไปแล้ว ไร้เรี่ยวแรงที่จะเรียกมันคืน ความช่างคิดของฉันทำให้ฉันตื่นนอนตั้งแต่ตีสาม กว่าจะหลับอีกทีก็เกือบสว่างแล้ว

ถึงเวลานี้ ฉันที่เคยตั้งใจว่าจะเรียนรู้ทุกอย่างให้ได้ ก็ยังนั่งตั้งสติ พยายามคิดที่จะจัดการกับชีวิตตนเอง ฉันจะทำอย่างไรกับวันที่ยังเหลืออยู่

ไม่ง่ายหรอกค่ะ คนรักบอกว่า อย่าไปคิดมาก ปล่อยมันไปเสีย เธอบอกว่าฉันไม่ควรจะไปพูดกับหัวหน้า แต่ฉันไม่เห็นด้วย เมื่อหัวหน้าเรียกไปฉันจึงเปิดอกพูด เท่าที่ฉันพูดได้ หัวหน้าของฉันจึงขอให้ฉันเข้าใจและเห็นใจเธอด้วย เธอต้องการให้ฉันมาช่วย แต่ความใจร้อนของเธอก็เป็นสิ่งที่ฉันรับไม่ได้ แถมยังหวั่นใจว่าจากนี้ ฉันต้องอดทนกับความใจร้อนของเธอได้ถึงระดับไหน

เธอขอโทษฉัน และบอกว่า ที่ฉันบอกเธอไปนั้น เธอก็ยอมรับแต่จะให้เธอทำยังไงล่ะ

ฉันบอกตรงๆว่า ละเหี่ยใจมากๆล่ะค่ะ เมื่อกลับมาคิดว่า ก่อนหน้าที่ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันก็เคยเจอคนในทำนองเดียวกันนี้ และแน่นอนว่า อำนาจที่เขามีก็ทำให้ฉันต้องท่องคำว่า อดทน อดทน อยู่บ่อยๆ

เมื่อคุยกันแล้ว เธอสบายใจ บอกกับฉันว่า ถ้าไม่ไหวขอให้บอกเธอ และขอให้ช่วยเธอให้สุดความสามารถ เธอรู้ว่าฉันทำงานดี แต่บางทีมันก็ไม่ทันใจเธอ ( ฉันคิดว่าเธอมองฉัน ประเมินฉันด้วยแว่นในแบบของเธอนั่นเองค่ะ แว่นของคนใจร้อนที่งานทุกอย่างวัดกันที่เวลา ทั้งที่งานนั้นเป็นงานสร้างสรรค์ ซึ่งถ้าคิดไม่ออกเสียอย่าง ก็ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ในความเป็นจริง ไม่มีหรอกค่ะที่คิดไม่ออก หรือไม่ได้ มีแต่คิดได้แต่จะดีหรือไม่ดีเท่านั้น ) แถมยังบอกฉันว่า ฉันเป็นหัวหน้าของเด็กๆเหล่านั้น ควรจะต้องจัดการทุกอย่างแทนเธอได้หมด

ทั้งหมดนี้คือฉันเพิ่งเข้าไปทำงานที่นั่นไม่ถึงสองเดือนดีนะคะเนี่ย

อย่างไรก็ตาม เธอบอกฉันว่า ที่เธอเลือกฉัน เพราะความรู้สึกบางอย่าง เธอแอบเห็นฉันก่อนที่เธอจะรู้ว่า ฉันคือ candidate ในตำแหน่งนี้ และเธอว่า เธอรู้สึกถูกชะตากับฉันอย่างไรก็ไม่ทราบ

ฉันก็ไม่ทราบค่ะ รู้แต่อะไรอีกแล้วที่ดึงดูดให้ฉันมาเจอแต่คนใจร้อน ไม่ใช่ร้อนธรรมดา ร้อนมาก

ฉันเองก็ใจร้อนนะคะ แต่จะใจร้อนในเรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่เรื่องงานที่ฉันมักจะเอาอยู่น่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้ทำไม ฉันกลับต้องมาเจอคนที่ร้อนกว่าอยู่ร่ำไป

ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงคิดว่า ไม่ได้แล้ว ฉันเป็นอะไร ดึงดูดแต่คนแบบนี้ทั้งนั้น ฉันเองหาสาเหตุไม่ได้ แต่อยากแก้มันอย่างน้อย ฉันจะได้ไม่ต้องมารับอารมณ์คนและถูกมองว่าทำอะไรไม่ทันใจอีก ฉันเกลียดความรู้สึกนี้มาก

คนรักของฉัน เธอบอกว่า ให้ทำเท่าทีทำได้เท่านั้น เธอแนะนำว่า ฉันควรอยู่เฉยๆจะดีกว่า พูดน้อยๆ ทำมากๆ ก็ดีค่ะ ฉันอยากพูดน้อยๆเหมือนกัน เพราะฉันเองก็เบื่อ พูดมากไปก็ไม่เห็นมีอะไรดีเลย

และไม่ต้องเสียความมั่นใจ เพราะการประเมินด้วยเกณฑ์อะไรก็ไม่รู้เช่นนี้

ฉันจำได้ดีกว่า ช่วงที่ทำงานใหม่ๆ เคยถูกหัวหน้าคนที่สองที่สามในชีวิต เขวี้ยงงานใส่หน้าฉันเลยค่ะ พี่เขาบอกว่า เอ็งคิดได้แค่นี้หรือ เท่านั้น ฉันก็บ่อน้ำตาแตก แต่ความพยายามของฉันมีมากกว่านั้น ฉันจึงทำหนักขึ้น มากขึ้น จนวันหนึ่ง พี่เขาก็บอกฉันว่า ไม่ต้องเอางานมาให้เขาดูทุกอย่างหรอก เขาไว้ใจแล้ว

สามปีของการอยู่กับพี่คนนี้ คือสามปีที่ฉันเสียทั้งน้ำตาและเสียทั้งความมั่นใจค่ะ แต่แล้วก็กลับคิดได้ว่า ถ้าเขาไม่เคี่ยวฉันขนาดนี้ ฉันคงไม่มีวันได้เก่งกาจและได้ความภาคภูมิใจในตัวเองกลับมา

ชีวิตการทำงานที่จริงจึงไม่ได้อยู่แค่การทำงานเลย มันอยู่ที่สิ่งแวดล้อมค่อนข้างมากอีกด้วยค่ะ

วกกลับมาถึงปัจจุบันนี้ ฉันยังคงต้องทำงานต่อไป และยังต้องผจญกับสิ่งที่คาดไม่ถึงอยู่อีก ตำแหน่ง manager ของฉันที่ได้มาในวันนี้ ทำให้ฉันหวนนึกถึงเพลงยิ่งสูงยิ่งหนาวของพี่เต๋อมาก

ฉันอาจจะหนาว แต่เชื่อว่าเธอที่เป็นหัวหน้าของฉันในวันนี้หนาวยิ่งกว่าแน่

เธอบอกกับฉันว่า เมื่อได้ฉันมา เธอรู้สึกอุ่นใจ เหมือนว่าเธอมีฉันอยู่ข้างๆเธอแล้ว เธอเองก็กลัวฉันจะโกรธ ไม่พอใจแล้วก็พาลจะไป ไม่อยากทำ เธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะมันเสียทุกอย่าง เสียทั้งความรู้สึก และเหมือนจะตอกย้ำว่าเธอล้มเหลว

ฉันย้อนเธอกลับไปว่า ในการที่ใครสักคนจะอยู่ในที่ทำงานนั้นไม่ได้ บางทีไม่ใช่เพราะงาน จริงใช่ไหมคะ

ฉันมีเรื่องในใจมากค่ะ จนคิดว่าแม้จะมาระบายออกในนี้แล้วก็ใช่ว่ามันจะหายไปเสียหมด บางทีฉันแทบไม่อยากคิด ยิ่งคิดซ้ำๆ มันก็ไม่เจอทางหนีทีไล่เสียที ฉันคิดว่างานนี้คงหนีไม่ได้ หากหนีก็จะเจอแบบนี้อีกแน่ๆ จึงคิดว่าฉันจะไม่หนีมันไปไหน แต่จะสู้ให้ถึงที่สุด

ฉันคิดว่าเธอคงจะรู้สึกอะไรบางอย่างค่อนข้างมาก จะว่าไปแล้วเหมือนเธอเองก็โดดเดี่ยว จากสังคม สภาพแวดล้อม ในขณะที่ฉันเองเมื่อใกล้ชิดเธอมากๆเข้า เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานจึงเหมือนจะกลายเป็นเรื่องเดียวกัน

ซึ่งฉันคิดว่ามันไม่ดีเลย

บางครั้งเคยคิดว่า ฉันจะหนีห่างออกมาจากความสัมพันธ์ที่เป็นส่วนตัวบ้างจะดีกว่า ทิ้งระยะออกมาสักนิด ให้เหลือแค่การเป็นสายงานตามบังคับบัญชาเท่านั้น ฉันพยายามจะทำค่ะ แต่ไม่รู้จะได้ผลแค่ไหน

เธอบอกกับฉันว่า ระหว่างฉันกับเธอ แม้ระยะเวลาแค่นี้จะน้อยนัก แต่เธอรู้สึกเหมือนว่าฉันรู้ใจเธอที่สุด เหตุผลของเธอฉันไม่ปฏิเสธหรอกค่ะ มันคงจะจริง เพราะฉันก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เวลาสถานการณ์ใดเกิดขึ้น ฉันจึงไวต่อมันมาก

แต่มันก็คือดาบสองคมสำหรับฉันเช่นกัน

วันนี้จึงอยู่ที่ว่า ฉันจะจัดการอย่างไรเท่านั้น ไม่ให้ตัวเองถูกกระทบจนบาดเจ็บ ในขณะที่ต้องทำงานและต้องรักษา
relation นั้นอย่างมีระยะประมาณหนึ่ง

ความรู้สึกของฉันมันบอก ว่าหากฉันจัดการตัวเองไม่ได้ดีอีก ฉันต้องเจออะไรซ้ำๆ อีกเป็นแน่ และต่อให้มันจะเกิดขึ้นหนักเบาแค่ไหน นั่นคงเป็นอีกครั้งที่ฉันต้องหนี

แต่วันนี้ฉันจะสู้ก่อนนะคะ ฉันจะไม่หนีปัญหาอีกแน่นอน
















 

Create Date : 07 มกราคม 2549    
Last Update : 7 มกราคม 2549 15:53:48 น.
Counter : 520 Pageviews.  

ไม่สบาย ไม่ดีเลย

วันนี้ไม่ค่อยรู้สึกระทดระท้อใจเท่าไหร่ค่ะ
ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน

แต่ก็ไม่ดีเลยที่เมื่อคืนท้องเสีย แล้วยังต่อเนื่องมาถึง
เมื่อครู่นี้ จะนอนแล้วนะคะเนี่ย

ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าระบบขับถ่ายเป็นอะไรไปตั้งแต่ไป
ท้องเสียที่พัทยาเพราะกินเย็นตาโฟ แดง ดำ ไปสองชาม
จากนั้นมาก็ท้องเสียเลย

เมื่อกี้คาร์บอนติดคอด้วย โอว เกือบจะแย่ค่ะ

คืนนี้เขียนแค่นี้แล้วกันค่ะ ไปนอนดีกว่าเพราะว่า
เสียพลังงานแล้วก็ง่วงแล้วด้วย

ก่อนนอนคืนนี้นึกถึง ถนนสายพังงา ภูเก็ต ที่ฉันชอบ
ช่วงจาก ทับปุด ไปถึงภูเก็ตนั่นน่ะค่ะ จินตนาการไปว่า
กำลังขับรถไปภูเก็ตละกัน

เพราะทางนั้น เหมือนพาฉันกลับบ้านเลย แม้ว่าจะไม่ใช่
บ้าน แต่ความผูกพันก็เยอะเหลือเกิน

เอาละคะ หลับฝันดีนะคะ




 

Create Date : 05 มกราคม 2549    
Last Update : 5 มกราคม 2549 21:55:10 น.
Counter : 559 Pageviews.  

หลายเรื่องหลังปีใหม่

สวัสดีค่ะ

ขอพรปีใหม่ที่ใครๆอวยพรกันมากมาย ส่งถึงคนที่ผ่านมาอ่านเว็บบล็อกของฉันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นพรใด ขอให้คุณได้รับกันโดยทั่วหน้า ทุกอย่างที่ดีๆขอให้เกิดแก่คุณและฉันด้วยค่ะ อืมม ยังไม่วายนึกถึงตัวเอง

วันก่อนฉันเขียนบล็อกส่งท้ายปีด้วยค่ะ แต่คอมพิวเตอร์ที่ทำงานไม่เป็นใจ ส่งอย่างไรก็ไม่ไป ผลสุดท้ายก็เลยหายสาบสูญ ทั้งที่เป็นบล็อกที่ฉันตั้งใจบันทึกเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งดีและไม่ดี ที่ฉันได้เจอในปีที่ผ่านมา เพื่อไว้จดจำ ไว้นึกถึงแท้ๆ

ความผิพลาดมักจะแอบซ่อนทำให้เราต้องเสียอะไรไปโดยไม่คาดคิดเสมอหรือไรนะคะ

ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ในปีนี้ ฉันได้รับข้อความทางโทรศัพท์ประมาณ 20 ข้อความ ซึ่งก็ไม่ได้น้อยเลยเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ฉันรู้จัก พวกเขาเหล่านั้นมีแก่ใจนึกถึงฉันจึงส่งคำอวยพร

แต่ฉันไม่ได้ส่งข้อความกลับไปหาพวกเขาได้ทุกคนเพราะเทคโนโลยีไม่เป็นใจ เลยเขียนการ์ดส่งถึง ใช้วิธีเดิมๆ และอาจจะเชย แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยหรอกค่ะ ที่ใช้การส่งสคส มาให้แทนข้อความดิจิตอล

มันก็ดีไปคนละแบบนะคะ แต่ฉันก็ยังชอบวิธีการคลาสสิค ด้วยเหตุนี้เลยไปซื้อการ์ดของมูลนิธิเพื่อนช้าง มาตุนไว้แล้วก็เขียน ส่งถึงคนที่ฉันอยากอวยพร

ในจำนวนเบอร์โทรที่มีมาถึง ฉันไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ใครก็มีหลายเบอร์นะคะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ขอโมเมว่าส่งถึงเรา เพียงแต่อาจเป็นใครไม่รู้ที่เปลี่ยนเบอร์โทร

และเทคโนโลยีอีกแล้วค่ะ ที่ทำให้เราหลุดความสามารถในการจำเลขเจ็ดหลักที่เราเองเคยจำด้วยการใช้มันซ้ำๆจนจำขึ้นใจ

เรื่องปีใหม่ที่ผ่านมาก็เห็นจะมีเพียงแต่เท่านี้ค่ะ

อ้อ ยังมีเรื่องที่ฉันไปพัทยามา แล้วก็มีโอกาสได้ไปดูอัลคาซาร์ เป็นครั้งที่สอง การแสดงเปลี่ยนใหม่เยอะนะคะและเช่นเคยที่สาวๆเหล่านั้นก็ยังเล่น ร้อง เต้น ในแบบที่พวกเธอทำได้ดี เมื่อจบการแสดง เธอๆทั้งหลายก็จะออกมาเรียกแขกเพื่อถ่ายรูป

ตอนนี้เอง ที่พวกเธอเหมือนเป็นดาวเด่นบนฟ้าจริงๆค่ะ มีคนมุงดูพวกเธอเยอะแยะ แหม ฉันเองก็ไปยืนดู พบว่าแต่ละนางสวยยิ่งกว่าผู้หญิงธรรมดา แถมพ่วงด้วยผู้หญิงอย่างฉันอีกด้วยนี่แหละ

สรุปว่ายังตรึงตาตรึงใจเช่นเคยค่ะ

ส่วนวันนี้ ในที่ทำงานของฉันก็มีเรื่องเครียดๆ ฉันเองก็อยากจะบันทึกเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ยังไม่อยากไปกวนอะไรในใจ

บางทีฉันอาจต้องรอให้ความขุ่นข้องหมองใจทั้งหลาย สลายตัวของมันเองไปก่อนนะคะ แล้วฉันจะกลับมาบันทึกใหม่

ปล วันนี้เพื่อนคนดีของฉันส่งหนังสือเรื่อง ความสำเร็จที่มาจากพระพุทธเจ้ามาให้ ด้วยความขอบคุณ ฉันกรี๊ดแตกทุกทีที่ได้รับหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไรก็ตาม
วันก่อนน้องที่ทำงานเอา ไบเบิ้ลไดอารี่มาให้ เล่มเบ้อเร่อ ฉันยังกรี๊ดแตกมาแล้วรอบหนึ่ง

ขอบคุณด้วยนะ ที่โลกนี้มีคนใจดีกับฉันอีกหลายคนเลย




 

Create Date : 04 มกราคม 2549    
Last Update : 4 มกราคม 2549 21:51:40 น.
Counter : 329 Pageviews.  

ความผิดพลาดในชีวิต

ก่อนจะถึงปีใหม่ เมื่อผ่านพ้นไปถึงเวลาแห่งหารเฉลิมฉลอง มักจะมีคำพูดที่ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่ดีๆ สำหรับตัวเองแต่จะมีสักกี่คน ที่ไม่มองไปข้างหน้า และกลับย้อนมองไปข้างหลังที่ผ่านมาเพื่อที่จะพบว่า เราทำอะไรผิดพลาดไปบ้างในปีนี้

ฉันเชื่อค่ะ ว่าการเฉลิมฉลอง สีสันใหม่ๆ ตัวเลขใหม่ๆ ในช่วงรอยต่อแห่งปีนั้น หอมหวานจนทำให้หลายคนมักจะลืมเรื่องร้ายๆในปีที่ผ่านไป

เพราะบ่อยครั้งที่เราเชื่อกันว่า ให้ลืมหรือทิ้งมันไปซะ ในสิ่งไม่ดีหรือสิ่งที่เราพลาดไป

เพลงโปรดของฉันเวลานี้คือเพลงหนึ่งของ มาช่า ค่ะ ชื่อเพลง ฉันเคยผิดหลาดมา ทำให้ฉันนึกมองไปถึงความรู้สึกของตัวเอง และแน่นอนว่า เมื่อฟังไปเรื่อยๆแล้ว ความรู้สึกที่ว่าตัวเองเคยทำผิดพลาดมา ความจริงมันก็ไม่ได้โหดร้ายอะไรถึงขั้นที่ต้องไปลืม หรือทำเป็นลืม ด้วยการแสร้งไม่จำมัน

ฉันคิดว่าคนทุกคนนั้น แทบจะไม่อยากจำว่าตัวเองเคยทำอะไรผิดด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นจะมีคำพูดที่พร่ำบอกกันเสมอหรือว่า อะไรที่ไม่ดีก็อย่าไปจำ หรือทำอะไรพลาดไปก็ช่างมัน

สำหรับคนที่มองโลกในแง่ดีและไม่เคยทุกข์เลยนั้น แน่นอนว่า ความผิดพลาดอาจจะเป็นแค่สายลมที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่สำหรับคนที่ฝังใจกับความทุกข์หรือความผิดพลาดมากๆ แผลเป็นที่เกิดขึ้นอาจเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตไปเลยก็ได้

ฉันเองก็ไม่ต่างจากคุณหรือใคร ที่เคยทำพลาดมา และมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรอกนะคะ บางวันฉันพบว่าตัวเองทำอะไรพลาดตั้งหลายอย่าง ซึ่งหากวันนั้นฉันบอกตัวเองว่า ช่างมันเถอะ เก็บความผิดพลาดนั้นไว้เป็นบทเรียน ฉันจะทุกข์น้อยลงมากกว่า วันไหนที่ฉันผิดพลาดแล้วบอกกับตัวเองว่า เรานี่แย่จริงๆ ทำอะไรอย่างนี้ได้อย่างไร วันนั้นโลกของฉันจะหม่นโศกไปเยอะเลย

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะจัดการได้หรอกนะคะ แค่ให้มันเกิดขึ้นบ้างเพื่อสอนเรา และคอยดูแลไม่ให้มันบั่นทอนเราไปมากๆจนทำอะไรไม่ได้ ก็น่าจะดีที่สุดสำหรับเราแล้ว

คนนี่คะ ไม่ใช่อิฐ ใช่หิน มันก็ต้องล้ม ต้องซวนเซกันได้บ้าง และที่สำคัญมันก็อาจทำผิดอะไรไปได้บ้าง

คิดแค่นี้ ความผิดพลาดก็กลายเป็นเพียงก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น กำมันไว้ไม่ต้องแน่น แต่เขวี้ยงมันออกไปเมื่อไหร่ก็ได้

คิดแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ




 

Create Date : 28 ธันวาคม 2548    
Last Update : 28 ธันวาคม 2548 23:31:03 น.
Counter : 576 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.