"จงยังความไม่ประมาทแก่ตน"
 
 

ซ้อมวิ่งก่อนและหลังฝนตก

เคยสังเกตตัวเองดูว่าชอบวิ่งออกกำลังกายในเวลาไหนของวัน ก็ลองวิ่งมาหมดทั้งเช้ามืด สาย บ่าย เย็น ดึก ก่อนนอน ผลมันมีทั้งเหมือนกันและต่างกัน ที่เกิดกับตัวเองนะ
เริ่มที่การวิ่งเช้ามืดเป็นช่วงแรก ๆและเป็นความเคยชินสมัยเด็ก ๆที่ออกวิ่งตามนักมวยรุ่นพี ๆ เค้า (ค่ายมวยแถวบ้าน) จำได้ว่าอยู่ในวัยประถม คว้ารองเท้าผ้าใบที่มีอยู่คู่เดียวกับที่ใส่ไปโรงเรียนนั่นเเหละ ตอนนั้นวิ่งนับเสารั้วรอบวงเวียนใหญ่ได้รอบสองรอบก็เก่งมากแล้ว พอฟ้าเริ่มสว่างแดดออกก็เดินกับบ้านกัน
รถตอนเช้าตอนนั้นนับรถได้เลย อากาศดีมาก สดชื่น เย็นสบาย ไม่มีมลพิษไอเสียรถยนต์อย่างตอนนี้ ด้วยวัยเด็กด้วยเลยไม่ค่อยประสีประสาว่าความเหน็ดเหนื่อย และระยะทางที่วิ่งได้ หรือ วิ่งกันกี่วันต่อสัปดาห์ ไม่มีการบันทึกจดจำแต่อย่างใด หลักคือวิ่งให้ได้ทุกวัน เอาลูกขยันเข้าว่าเป็นพอ
พอมาตอนนี้ มีการลองวิ่งในเวลาต่าง ๆ สังเกต และจดจำกันมากขึ้น เลยพอใจกับการวิ่งตอนเย็น ๆมากที่สุด เพราะว่าร่างกายมันตื่นตัวมากที่สุด ร่างกายสำรองอาหารได้พอดี อากาศเริ่มคลายร้อนจากแดดตอนบ่ายด้วย
แต่มีข้อที่ต้องผลัดมาซ้อมตอนเช้าด้วยนั้นก็ต้องเพียงความคุ้นเคยที่วันแข่งขันจะจัดตอนเช้ากัน ไม่มีที่ไหนจัดตอนเย็น ต้องให้ร่างกายปรับตัวได้กับการเจอแสงเเดดด้วย ไม่งั้น ร่วงแดดแน่ ๆ
แต่มาเจอเอาเรื่องวิ่งก่อนฝนตกหรือหลังฝนตก เลยต้องบอกว่าชอบหลังฝนตกมากกว่า เพราะอากาศหลังฝนตกนั้น สะอาดกว่า ที่สำคัญ เย็นกว่าตอนก่อนฝนตกแน่ แถมปริมาณโอโซนในอากาศสูง ลองหายใจดูแล้วมันโล่ง ๆอย่างบอกไม่ถูก




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2554   
Last Update : 27 พฤษภาคม 2554 16:05:02 น.   
Counter : 1908 Pageviews.  


การบริจาคเลือดต้องยอมแลกกับความฟิต

.....เป็นความคิดที่ว่าการถ่ายเลือดทีนึงแล้วกันเพื่อจะได้มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น เราเข้าใจที่่ได้ยินมาจากคนอื่น ๆอีกทีนึงอย่างบ่อยครั้งตั้งแต่เด็ก เพื่อจะได้ไปบริจาคเลือดให้กับสภากาชาดไทย...
.....เป็นระยะเวลาเกือบ 5 ปี แล้วที่ผมได้หยุดบริจาคโลหิต เนื่องจากหันมาฝึกเล่นกีฬาแบบ (Endurance) คือไตรกีฬา ค้นคว้าหาความรู้เองมาเรื่อยๆ ยิ่งเล่นกีฬาชนิดนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่ายังมีสิ่งที่ต้องศึกษาหาความรู้อีกมากกับความรู้ ที่เรียกว่า วิทยาศาสตร์การกีฬา ...
.....ผมลองหยิบยกความรู้บางสิ่งบางอย่างที่ได้จากการอ่านหาความรู้ที่ทำให้เกิดหัวข้อนี้ขึ้นมาเขียนกันนะครับ...
.....ความฟิตกับเลือดของเรา เลือดใครว่าไม่สำคัญกับการกีฬา นักกีฬายุคล่าสุดมีการโด๊ปเลือดของตัวเองที่ได้เก็บไว้ ก่อนการแข่งขันกันด้วย (อย่าเชื่อผมนะครับบอกไว้ก่อน เป็นเรื่องเล่าเลยไม่ได้เอาหลักฐานทางวิชาการมาอ้างอิงอะไรกัน)...
.....เลือดเป็นปัจจัยที่ทำให้นักกีฬาเล่นกีฬาได้ดีอย่างไรก็เพราะกระบวนการในเลือดนี่เองที่ทำให้มันเป็นกลไกหลักในการให้พลังงานกับร่างกาย ทุกส่วน เป็นการนำออกซิเจน ไปช่วยในการเผ่าผลาญพลังงานในกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อต่างๆ ...
.....ในเลือดสีแดงๆนี่เอง ทำหน้าที่ในออกซิเจน ดังนั้นถ้าปริมาณเลือดแดงเราน้อย ประสิทธิภาพที่จะทำให้ร่างกายทำงานได้เต็มที่นั้นก็ลดลงไปด้วย ผมลองมากับตัวเองแล้ว แต่ไม่ไ้ด้อ้างอิงเป็นวิทยาศาสตร์หรือเป็นตัวเลขให้ดู จะบอกจากความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น...
.....ผลจากการไปบริจาคโลหิต มีผลต่อการซ้อมในระยะหนึ่งอาทิตย์แรก คืออ่อนเพลียง่าย แรงที่เคยเร่ง เคยออกไปนั้นมันหายไปเกือบครึ่ง ๆจากปกติ ยิ่งวันสองวันแรกนี่ นั่งๆอยู่ลุกขึ้นพรวดพราดถึงกับหวิว ๆเหมือนหน้าจะมืดเอาเเน่ะ...
.....ก็ต้องพิจารณากันเรื่องนี้ให้ดีก่อนวางแผน การแข่งขันกีฬาเอาไว้ด้วย ว่าควรจะไปบริจาคโลหิตกันตอนไหน โดยที่หมอก็แนะนำไว้ตามเกณฑ์ว่า 3 เดือน ถึงจะค่อยไปบริจาคโลหิตได้อีกครั้ง ผมก็เอามาตรฐานนี้มาใช้กับการวางแผนการแข่งขันซะเลย...
.....บริจาคโลหิต เลยไม่มีผลต่อผมแล้วในตอนนี้ นั่นคือผมกลับมาเริ่มบริจาคฯได้ใหม่อีกครั้ง หลังจากนี้ก็ฝึกซ้อมแล้วก็เพิ่มระดับความเข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ รอความฟิต รอระดับเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น ก็จะพอดีกับเกมส์การแข่งขันเริ่มครับ...
....ได้บุญ ได้ความมันส์ ได้สุขภาพแข่งแรงครับ..




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2554   
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 15:51:20 น.   
Counter : 1325 Pageviews.  


ไปวิ่งขึ้นตึกใบหยกมา (84 ชั้น)

...วันอาทิตย์ท้องฟ้ายังไม่สว่างยามเช้าตรู่ ของวันที่ 27 มี.ค. 2554 รีบตื่นจากเสียงนาฬิกาปลุกดัง ของมือถือ ...
...ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ก็คว้าน้ำดื่มให้ชุ่มฉ่ำกาย พร้อมใส่พลังงานเพื่อเตรียมไปวิ่งขึ้นตึกเช้านี้ เพราะอยากวิ่งมานานแล้ว ขึ้นตึกเนี่ย เห็นหลาย ๆประเทศทั่วโลก ที่มีตึกสูงสูง มีจัดวิ่งกันทั้งนั้น ไฉนเราจะพลาดงานระดับโลกเช่นนี้...
... หยิบชามพร้อม เทคอนเฟลก ใส่นม ใส่กล้วยหอมหนึ่งลูก ขนมปังโฮลวีทหนึ่งแผ่นทาพีนัทบัตเตอร์ ก่อนให้มันได้ย่อยลงท้องทันเวลาแต่เนิ่น ๆ ไม่งั้นมีหวังออกมาหมดแน่เพราะย่อยไม่ทัน...
...งานนี้มีนักวิ่งต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทยเยอะ อีกทั้งบินมาวิ่งงานนี้โดยตรงก็ไม่น้อย ฟังจากเสียงพิธีกรในงานบรรยายสลับตลอดงาน...
...แต่เจ้าของสถิติสองครั้งก่อนเป็นของคนไทยนักวิ่งทีมชาติไทยเราเอง ด้วยเวลา 11นาทีนิด ๆ แต่ปีนี้มีนักวิ่งที่เป็นเจ้าของแชมป์วิ่งขึ้นตึกเอ็มไพร์ สเตรท ในนิวยอร์คด้วย ตัวสูงปรี๊ดเลย และก็มีนักวิ่งผิวสีจากเคนย่ามาอีก ยิ่งทำให้ปีนี้มันส์เพิ่มขึ้น...
...ลุ้นกันว่าไทยเราจะยังรักษาตำแหน่งแชมป์ได้หรือไม่...
...การวิ่งขึ้นตึกใบหยก จะมีชิฟติดนักแข่งให้ทุกคนครับ เพื่อความมีมาตรฐานเรื่องเวลาผมว่าดีทีเดียว ใครทำหายโดนแน่ะ อันละตั้ง 600 บาท ค่าทำชิฟหาย...
...ลักษณะการปล่อยตัวจะงงมากในตอนแรกที่ยังไม่ได้ร่วมวิ่ง ว่าจะทำยังไง แต่พอได้เข้าร่วมงานก็ร้องอ๋อ....
...จะปล่อยแถวละสิบคนขึ้นไปทิ้งช่วงแถวละสองนาที เพราะว่าจะได้มีไม่แย่งอากาศกันระหว่างทางหนีไฟ เพราะก็เข้าใจกันดีว่าบันไดหนีไฟมันอับแต่เจ้าภาพทำได้ดีคือมีเปิดประตูและมีพัดลมใหญ่เป่าเอาอากาศเข้ามาช่วยเป็นระยะ ๆตามเส้นทางวิ่ง มีจุดให้น้ำเป็นระยะเช่นกัน...
ดาราก็มาวิ่งกันเยอะ ตอนเปิดตัว สร้างสีสันดีไม่น้อย...
...ปีแรกและก็ไม่ได้ซ้อมมากเพราะไหปลาร้าหัก ก็ได้ซ้อมวิ่งนิด ๆหน่อย ๆเบา ๆ เรียกฐานแอโรบิคกลับมา ก็หวังสนุกกับมัน ไม่ให้บาดเจ็บและสร้างแรงกระตุ้นต่อไปในการซ้อมไตรกีฬา ก็ออกมาเป็นที่พอใจกับเวลา 19 นาทีกว่าๆครับปีหน้าคงได้ลดเวลาให้น้อยลงอีกนะ..




 

Create Date : 10 เมษายน 2554   
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 15:54:41 น.   
Counter : 986 Pageviews.  


ส่งท้ายปีเก่าด้วยประสบการณ์บนอานจักรยาน(ที่ไม่ลืมเลย)

จากประสบเหตุจักรยานล้มจากการซ้อมปั่น เป็นการล้มครั้งแรกของการปั่นจักยานเสือหมอบเลย ความเร็วตอนนั้นจำไม่ได้แค่จำได้ว่าไม่ต่ำกว่า 30 กม./ชม.
สาเหตุเพียงก้มลงการดื่มน้ำเสร็จแล้วย่อตัวจับขวดน้ำยัดเข้าที่เก็บ วูบเดียว มือเดียวด้วย ล้อหน้าก็ลงหลุมอย่างรวดเร็ว รู้แล้วว่าจะต้องทำยังไง คือต้องปล่อยขวดน้ำแล้ววินาทีนั่น แต่เพียงได้แค่ความคิดเท่านั้นที่ทำได้
ล้อหน้าอัดขึ้นเนินให้ได้อย่างแรง ตาเห็นแฮนด์แล้วนะ แต่มือคว้ามันไม่ทันซะแล้ว มือขวาจับไม่ทันพร้อมกันนั้น เนินก็ยกขึ้น ทำให้ตัวหลุดจากอาน หัวไหล่ขวาลงปักเข้าพื้นถนนตามด้วยเสียหมวกกันน๊อคกระแทกกับพื้นถนนร้อน ๆยามบายสองโมง ของวันเสาร์โดยประมาณ
ตอนนั้นสติยังครบแต่ร่างกายไม่ตอบสนองเราเลย คือนอนเฉย ๆ ปล่อยให้รถจักรยานเราทับซะอย่างนั้น มาตั้งสติเอาได้ก็เวลาผ่านไป ได้ยินเสียงคนเรียกที่เข้ามาช่วยยกรถออกจากตัว เข็นเข้าข้างทาง จะลุกขึ้นทันทีทันใดเพราะว่าเรานอนอยู่กลางถนนนี่หวา...
แต่ลุกเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น จุก ๆหน้าอกเหมือนจะเป็นลม รู้เลยว่าอาการอย่างนี้สีหน้าเราขาวเป็นเผือกต้มแน่ ดีที่รถน้อยมากวันนั้น รู้สึกหนักแขนขวา ได้แต่เอามือซ้ายประคองแขนขวาราวกับจะติดกาวตราช้างเลย คือจับอย่างขยับเขยื้อนไม่ได้เลย ปวดมาก ต้องค่อย ๆลุกโดยไม่ใช้มือค้ำช่วยนี่ลำบากมาก ๆ แถมจะเป็นลมให้ได้เลย
ตกลงไถล่ก้นตัวเองเข้าข้างทางแทนเพราะมีผู้หญิงปั่นจักรยานแม่บ้าน คนย่านนั้นมาช่วยแค่นั้น เค้าก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เพราะเห็นหน้าเราแล้วเราบอกได้คำเดียวคือ อย่ายกผม อย่ายกผม เพราะผมต้องขยับด้วยตัวเองให้ได้ก่อน ตอนนี้ เจ็บตรงไหนเรารู้อยู่คนเดียว ก็เช็คอาการแล้ว จริง ๆคือหัวไหล่ แต่คิดว่าไหล่หลุดมั๊ง
รอรถแท็กซี่ไม่มีใครจอดเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ดีที่มีพี่ที่พักอยู่แถวนั้นเค้าอาสาขับรถไปส่งเอง ที่โรงพยาบาล ส่วนรถจักรยานเป็นห่วงก็เป็นห่วง มีพี่อีกคนเค้าอาสาฝากรถให้ไว้ก่อน ปวดมากจนต้องอะไรก็ได้ตอนนี้ ไปหาหมอก่อน ครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ไปไหนเลยเรา
รถขับไปส่ง รพ.นี่ปวดมาก สนทนาอะไรกันผมไม่รู้เรื่องเลย ขับเร็วก็ไม่ได้ ขนาดรถขึ้นเนินนิดหน่อย เสียววาบไปทั่งตัว เห็นสภาพตัวเองแล้วนึกขึ้นได้ว่ากูมาทำอะไรที่รพ.อีกแล้ววะเนี่ย ผลเอ็กซเรย์ หมอบอกว่ากระดูกไหปลาร้า(Clavicle)ขวาหัก จับฉีดยาแก้บาดทะยักจากรอยถลอกทั่วตัวกับแก้ปวดด้วย หนึ่งเข็มใหญ่ ต้องบอกว่าใหญ่มาก ๆ เข็มฉีดยา ... ไม่ต้องผ่าตัด ให้ผ้าขาวสามเหลี่ยมคล้องประคองแขนขวาไม่ให้ขยับ รอร่างกายรักษาตัวมันเอง พร้อมกับยาขนานใหญ่ทั้งแก้ปวด แก้ปวด แล้วก็แ้ก้ปวด กลับบ้าน อ้อ หมอแถมยานอนหลับมาให้อีกแผงใหญ่ด้วยเพราะต้องให้หลับล่ะ เพราะว่ากระดิกตัวนิดนึงก็ตื่นเพราะปวดแล้ว ต้องใช้ตัวช่วยอย่างนี้ด้วย ถึงได้พักผ่อนจริง ๆ
จากวันนั้นถึงวันนี้ 8 สัปดาห์พอดี ถ่ายรูปเก็บไว้ตลอด อาการดีขึ้นเป็นลำดับ เดี๋ยวเอามาลงภาพประกอบเพื่อเป็นแนวทางการรักษาหรือว่ามีท่านใดที่เกิดประสบการณ์เดียวกันนี้ เพราะกระดูกไหปลาร้าหัก (Broken collar bone หรือ Clavicle) จากจักรยานนี้ มีให้เป็นกันประจำหรือว่า เป็นของคู่กันกับกีฬาจักรยานเลยไม่ว่าจะเป็นเสือหมอบ หรือเสีอภูเขา ถ้าลืมสะกดคำว่าสติไว้ตลอดเวลาที่เราอยู่บนอานรถ.....
วันแรก...



2 สัปดาห์...


4 สัปดาห์...


7 สัปดาห์...




 

Create Date : 01 มกราคม 2554   
Last Update : 1 มกราคม 2554 18:17:11 น.   
Counter : 2854 Pageviews.  


กลับมาตั้งใจซ้อมไตรฯใหม่หลังจากบอลโลกพาไป...

พอจบบอลโลก ก็ค่อย ๆหารองเท้ามาวิ่งเบา ๆ หรือเข้าสระว่ายน้ำสบาย ๆ และพาเสือหมอบออกปั่นเบา ตรวจสภาพร่างกายที่ได้ตรากตรำ อดตาหลับขับตานอน เพื่อบอลโลก ไปร่วม ๆเดือนเลยเรา
ผลออกมาว่าต้องปัดฝุ่นใหม่หมด เคาะสนิมออกแล้วค่อยลงสีใหม่ว่างั้นเถอะ ระดับความฟิตของร่างกายนี่มันเสื่อมไป โดยที่เราไม่รู้สัญญาณเตือนเลยว่ามีถดถอยอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีการดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วยนี่ไปไวอย่างมาก...
ออกไปซ้อมวิ่งดีกว่าว่าจะวิ่งเอาระยะให้ได้ซัก 5-6 กม. หรือไม่ก็ต่อด้วยเวทเทรนนิ่งอีกหน่อยถ้ายังมีแรงเหลือนะ เพราะว่าวันนี้กิน คาร์โบฯ มากไปหน่อย ว่าจะเบิร์นเอาพลังงานออกหน่อยนึง...
วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา...ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ชาวบ้านไปทำบุญกันแต่เราห่างวัดจังเลย มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาซ้อมกีฬา ไม่รู้จะลงแดงรึเปล่า ถ้าอดซ้อมนาน ๆ ทั้ง ๆที่ไม่ได้หวังจะเอาไปแข่งประชันกับใครเค้า...บ่นกับตัวเองนิดหน่อย....
สองวันแล้วซ้อมวิ่งวันละ 8 กม. เบา ๆ บ้าง เร่งบ้างกำลังเริ่มมาแล้วแต่ก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้ใจกล้าหาญมาก รวบรัดตัดตอน มีกำลังเท่าไหร่ใส่หมดทีเดียวเลย คงต้องหยุดพักผ่อนบ้าง ฟักฟื้นซะให้มีแรงต่อในวันหน้า..
เช้าวันนี้ตื่นมาแต่หัวรุ่งเพราะนอนไม่ค่อยหลับ สงสัยเป็นเพราะออกกำลังกายหนักไปหน่อย ร่างกายมันเหมือนอยากจะพักผ่อนแต่พอนอนเข้าจริง ๆ ดัันหลับไปได้สามสี่ชั่วโมงเอง แต่ก็ไม่ได้มีอาการง่วงนอนหรืออดหลับอดนอนแต่อย่างใด...
เลยคว้าจักรยานมาเช็คลมยางเตรียมขวดน้ำให้เรียบร้อยแต่ว่าจะออกไปดูวิ่งมินิมาราธอนของบางกอกโพสต์ที่ราชประสงค์ แต่พอดูได้แป๊บนึงก็ออกปั่นไปข้าวสาร ไปถนนพระอาทิตย์ บรรยากาศดีมาก...
เย็นสบายรถบนท้องถนนยังน้อยอยู่ในเช้าวันอาทิตย์ พระยังเดินบิณฑบาตรอยู่เลย ว่าจะไปลานพระรูปฯ ไปเจอพี่ ๆที่ ทีซีซี นัดรวมพลกันปั่น จะไปลงนามถวายพระพรกันที่ รพ.ศิริราช....
มีรถพับ รถเหล็ก รถโบราณ เสือภูเขา เสือหมอบ ไปกันหลายสิบคัน แต่ผมก็ได้ทักทายพูดคุยกันนิดหน่อย ก็ต้องออกปั่นต่อเพราะว่าวันนี้อยากจะปั่นแล้วก็มาว่ายน้ำต่ออีก....ซ้อมเยอะหน่อยเนื่องจากอากาศเป็นใจมาก เมฆบังแดด ลมเย็นสบายดีมากวันนี้ เสียดายที่ขี้เกียจลงวิ่งงานนี้ เลยได้สองอย่าง...เป็นการซ้อมที่พอใจอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือ บนอานซักประมาณ สองชั่วโมง และ ว่ายน้ำอีกหนึ่งชั่วโมง ...




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2553   
Last Update : 1 มกราคม 2554 16:40:16 น.   
Counter : 487 Pageviews.  


1  2  

ชะโดทะเล
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยังอยากทำอะไรอีกหลายอย่างที่โอกาสจะเข้ามา ว่างเป็นปั่นจักรยาน มีแรงก็ออกไปวิ่งให้เหนื่อยซะงั้น หรือร้อน ๆก็หาสระว่ายน้ำลงเล่นให้หายร้อน
หาทรงผมอื่นไม่ได้แล้วนอกจากสกินเฮด สบายหัวที่สุด
อยากขีดๆ เขียนๆ แม้ความคิดจะไม่ปะติดปะต่อ
ทำสมาธิก่อนนอนจนหลับบ่อยจนชินแล้วแต่ไม่เข้มเท่าไหร่
เล่นไตรกีฬาอย่างมือสมัครเล่นตามใจอยากไปเรื่อย ๆ
อยากทำสวนทำไร่แต่ยังไม่มีที่ดินสักผื่น
อยากมีรีสอร์ทและร้านอาหารสักร้านเล็ก ๆ แต่ยังไม่ได้ทำ (อีกแระ...)
อยากสกรีนเสื้อลายสวย ๆไม่เหมือนใครใส่เล่นเองก็ได้ทำบ้างตอนนี้
เก็บเกี่ยวความรู้ไปเรื่อยสักวันจะเป็นวันของข้าบ้าง...นะ https://www.bloggang.com/data/close2heaven/picture/1127994166.gif
[Add ชะโดทะเล's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com