All Blog
สะดุดรักคุณนักสืบ / ชาครียา
 

สะดุดรักคุณนักสืบ ชาครียา

 

แสงรวี เป็นชื่อต้องห้ามสำหรับคนในครอบครัวสกุลนนทวิทย์ จนกระทั่งครบรอบ 30 ปีการเสียชีวิตของหญิงสาว พลเอกทินกรและภรรยาจึงก่อตั้งมูลนิธิดำเนินงานห้องสมุดหนังสือหายากเพื่อรำลึกถึง แสงรวี นนทวิทย์ บุตรสาวที่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์และหนีเข้าป่าไปจนเสียชีวิต ภากรได้รับมอบหมายให้เป็นเลขาธิการมูลนิธิ เขาสงสัยตลอดมาว่าแสงรวีผู้เป็นน้า มีประวัติความเป็นมาอย่างไรทุกคนในครอบครัวไม่อยากพูดถึง โดยเฉพาะศศิวาร แม่ของเขาซึ่งเป็นพี่สาวแสงระวี ถึงกับโกรธแค้นที่มีการจัดตั้งมูลนิธินี้ขึ้น ปริศนาไม่ชอบมาพากลในครอบครัวทำให้ภากรตัดสินใจสืบเรื่องนี้ โดยตามรอยจดหมายน้อยที่ทิ้งไว้ในหนังสือเก่าเล่มต่างๆ ในห้องสมุด โดยมีนิกกี้ อาสาสมัครสาวแสนร้ายกาจลงมือเป็นผู้ช่วย ชายหนุ่มไม่คาดคิดว่า การค้นหาเรื่องราวของน้าสาว จะทำให้เขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเองในที่สุด

 

            ค่อนข้างคุ้นหูกับนามปากา ชาครียา เหมือนว่าเป็นนักเขียนที่มีผลงานออกมาค่อนข้างยาวนานในระดับนึง จำได้ว่าเคยอ่านงานเขียนเรื่อง “กลับบ้านเรานะ รักรออยู่” ของคุณชาครียาเหมือนกันและก็คิดว่าฝีมือเขาดีเสียด้วย จนวันนี้ที่มีนิยายในตลาดมากมายละลานตา การจะหยิบนิยายสักเล่มมาอ่านเลยต้องคิดสักหน่อย แต่สำหรับเรื่องนี้อ่านพล้อตคร่าวๆ แล้วก็คิดว่าน่าสนใจ เพราะหาได้ไม่มากที่จะมีนิยายที่ว่าด้วยหนุ่มสาวยุคแสวงหาจนต้องเข้าป่าไปร่วมขบวนการคอมมิวนิสต์ (เพื่อจะพบความจริงว่าคอมมิวนิสต์ก็ไม่ได้มีความสมบูรณ์เหมือนๆ กับประชาธิปไตยนั่นล่ะ)

 

            นิยายเรื่องนี้ช่วงครึ่งแรกของเรื่องก็เป็นดังเรื่องย่อที่เห็น พระเอก “ภากร” ออกจะครบสูตรคือชาติตระกูลดี ทำงานปั่นหุ้นปั่นเงินรวยระดับหมื่นล้าน เลยเห็นเงินเป็นทางแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง แต่...แต่เขาก็มิใช่พระเอกแนวแบดบอยตามกระแสตลาดทั่วไปเพราะเป็นพระเอกที่ออกจะไว้ตัวตามประสาลูกคนมีอันจะกิน และเป็นโรคภูมิแพ้ขั้นรุนแรงด้วย (ดังนั้นมิใช่พระเอกประเภทนักธุรกิจโคตรรวยแล้วตบจูบๆ ลากนางเอกไปทำเมีย สบายใจได้)

 

ส่วนนางเอกดูจะเป็นอะไรที่ตรงข้ามกันสิ้นเชิงเพราะเธอปรากฏตัวมาแบบไม่มีที่มาที่ไป ร่าเริงมองโลกแง่ดี การพูดจาก็บ่งบอกได้ว่าเธอมีสมองมิใช่เล่น เธอเป็นเหมือนทุกสิ่งที่แหวกกฎเกณฑ์ชีวิตของภากร สิ่งที่เราชอบคือการเปรียบเทียบของเธอที่ว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่ “ถูกจัดวาง” และคำอธิบายเกี่ยวกับเส้นโค้งแห่งความสุข ที่ว่าจำนวนเงินที่จะสร้างความสุขให้คนแต่ละระดับนั้นต่างกัน คนหิวโหยได้แค่สิบบาทก็พออิ่มแล้ว แต่ถ้าเศรษฐีก็ต้องการมากกว่านั้นจึงจะเรียกว่าสุข

 

            เรียกได้ว่าเขาอยู่แต่ในโลกที่เป็นระเบียบและปิดตัว แต่นางเอกก้าวเข้ามาพาเขาไปสู่โลกใบใหม่ (เสมือนเขาอยู่ในโลกทุนนิยมสุดโต่ง แต่เธอมาจากโลกของอุดมการณ์เพื่อมวลชน) พระเอกจึงชักเขวด้วยความน่ารักและมองโลกแง่ดีของนางเอก เป็นใครเราว่าก็ต้องหลงรักนางเอกประเภทนี้ล่ะ เพราะเธอไม่งี่เง่า

 

            เรียกได้ว่าการเดินเรื่องในช่วงครึ่งแรกค่อนข้างน่าสนใจสำหรับเรา เพราะมีการเอ่ยถึงหนังสือแนวปลุกใจนักปฏิวัติหลายเล่ม และแน่นอนว่ามีการเอ่ยถึง เช เกวาร่า เจ้าพ่อนักปฏิวัติที่ไม่เคยตาย (แต่เป็นอมตะอยู่ท้ายรถสิบล้อ) ตามประสาเรื่องราวของคนยุคหนึ่งซึ่งมีพลังในการขับเคลื่อนสังคมให้เป็นไปตามที่พวกเขาหวัง ตัวละครคือนางเอกและเพื่อนชายของเธอชื่อนาธานพยายามพาตัวภากรไปพบ “น้าทอแสง” ซึ่งเป็นคนที่ค่อยๆ ทำให้ตัวพระเอกได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตที่มากกว่าการอยู่ในกรอบเหล่านั้น

 

            ส่วนตัวแล้วคิดว่าตัวพล้อต การเดินเรื่อง ทำได้กระชับ ฉับไว น่าสนใจตรงที่การไขหาความลับของครอบครัวพระเอกที่ตอนแรกเกี่ยวข้องกับอุดมการณ์ของคุณน้าผู้หายสาบสูญ แต่ก็เคลือบไปด้วยเรื่องชิงรักหักสวาทในครอบครัวที่ขมวดปมไปเฉลยพรวดเดียวในช่วงท้าย (ไม่สามารถสปอยล์ได้เพราะเกรงจะเสียอรรถรส และอีกอย่างคนเขียนเขาทำไว้หักมุมไปมาแบบให้สาใจกันข้างนึงไปเลย)

 

            แต่ส่วนตัวแล้วสิ่งที่ไม่ชินเลยคือตัวร้ายที่ใส่มาในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นศศิวาร ที่ ”รับบท” แม่ของพระเอก กับ “ว่าที่คู่แต่งงาน” ของพระเอกที่แว้ดเหมือนนางร้ายช่องเจ็ดพอกัน สงสัยเป็นเพราะพักหลังเราไม่ค่อยดูทีวีเท่าไหร่ พอมาอ่านนิยายที่มีตัวละครอาละวาดเหมือนคนโรคจิตก็เลยงงๆ ว่า... เว่อร์ไปรึเปล่าคะคู้ณกับกิริยาอาการขนาดนั้น

 

            อีกอย่างหนึ่งการคลี่คลายปมตอนท้าย... ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นการเปิดเผย sub-plot ที่เยอะไปสักหน่อย คือมันก็เหนือคาดหมายก็จริงแต่ก็อดคิดอีกทีไม่ได้ว่า...อะไรจะทำให้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนั้นคะพี่น้อง... ซึ่งก็ทำให้การแสดงอารมณ์ตัวละครในช่วงท้ายค่อนข้างแกว่งไปมา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แม้เรื่องจะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ก็เล่นเอาคนอ่านเหนื่อยตามไปเหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าสนุกมั้ย คุ้มมั้ย ก็บอกได้ว่าคุ้ม เพราะคงหาไม่ได้ง่ายๆ นิยายที่คนเขียนจะหยิบยกเรื่องราวยุคหนุ่มสาววัยแสวงหาและเอามาเล่นกับหนุ่มสาวในยุคโลกาภิวัตน์นี้ได้อย่างเหมาะเจาะและน่าสนใจ

 

            ประเด็นนิดเดียวที่ค้างในใจเราคือ อุดมการณ์เพื่อมวลชนนั้นมันก็ฟังดูสวยงามจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นคำว่า จิตอาสา ก็เป็นสิ่งที่บอกได้ยากว่าจำเป็นหรือไม่จะต้องไปออกค่ายอาสาให้ได้จึงจะมีจิตอาสา เพราะส่วนตัวแล้วสมัยเรียนก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการไปออกค่ายอาสาเท่าไหร่ แต่อยากบอกว่าคนไม่เคยไปออกค่ายอาสาไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีจิตอาสา เพราะจิตอาสาสำหรับเรานั้น “มันอยู่ที่ใจ” และแสดงออกได้หลายทาง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




Create Date : 27 กรกฎาคม 2556
Last Update : 27 กรกฎาคม 2556 15:21:12 น.
Counter : 2724 Pageviews.

10 comments
  
เรื่องนี้เคยอ่านแล้วค่ะ พล็อตแปลก น่าสนใจ แม้ว่าตอนอ่านจะงงๆอยู่บ้าง แต่ถือว่าสนุกในระดับนึงเลยค่ะ

ตอนที่ซื้อมาดูจากชื่อเรื่อง เข้าใจว่าเป็นแนวกุ๊กกิ๊กคอมเมดี้...แต่...เนื้อเรื่องไปคนละทางกะชื่อเรื่องเลยค่ะ
โดย: Aneem วันที่: 27 กรกฎาคม 2556 เวลา:18:50:51 น.
  
เรื่องนี้ยังอยู่ในกองดองอยู่เลยครับ
โดย: อุ้มสม วันที่: 27 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:16:41 น.
  
ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
โดย: lovereason วันที่: 27 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:58:23 น.
  
หยิบขึ้นมาแล้วทีแล้ว อ่านรีวิวจบ คาดว่าจะเช่ามาอ่านได้ซะที
เป็นพล๊อตที่น่าสนใจ ชวนติดตามดีค่ะ
โดย: นัทธ์ วันที่: 28 กรกฎาคม 2556 เวลา:8:44:45 น.
  
น่าสนใจมาก ๆ ไว้จะหามาอ่านค่ะ เพราะเป็นแนวที่หายาก ดูแค่ชื่อเรื่องก็ไม่คิดว่าจะมาแนวนี้ เลยไม่ได้สนใจมาก่อน
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 28 กรกฎาคม 2556 เวลา:11:02:28 น.
  
Aneem>> ค่ะ โทนเรื่องนี้เราว่ามันก็ยังคงมีความกุ๊กกิ๊กนะคะ แต่ว่าเปิดเรื่องด้วยประเด็นการหายตัวไปของน้าพระเอกที่หนีเข้าป่าไปร่วมคอมมิวนิสต์เท่านั้น นอกนั้นก็แนวรักๆ ที่มีปมตั้งแต่รุ่นแม่มายันรุ่นลูก แต่เราชอบการเขียนเค้าน่ะค่ะ อ่านง่ายดี

คุณอุ้มสม>> ลองอ่านแล้วจะรู้สึกว่าแหวกแนวดีค่ะ (แต่ว่าคุณอุ้มสมเก่งมากเลยเคยแวะเข้าบล้อกคุณแล้วพบว่าคุณรีวิวนิยายเยอะมากๆ)

Lovereason>> ว่างๆ หาอ่านก็ดีค่ะ โทนเรื่องแปลกดี

นัทธ>> เห็นด้วยค่ะว่าตัวพล้อตน่าสนใจ ก็เลยทำให้คนที่เลือกนิยายได้ยากอย่างเรายอมซื้อมาอ่าน

พุดน้ำบุศย์>> เป็นพล้อตที่หายากจริงด้วยค่ะเพราะไม่ค่อยมีใครเอาพล้อตคนสมัยยุคตุลาฯ มาทำเป็นนิยายรักร่วมสมัยอย่างนี้
โดย: ณ พิชา วันที่: 28 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:10:09 น.
  
ดองงานของนักเขียนคนนี้ไว้เยอะมากเลยค่ะ
ยังไม่ได้อ่านเลย
โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 28 กรกฎาคม 2556 เวลา:17:42:09 น.
  
เพิ่งจะอ่านจบไปค่ะ เนื้อเรื่องกับชื่อเรื่องไปคนละทางเลย ส่วนตัวคิดว่าสนุกกว่าเรื่องก่อนๆของนักเขียนท่านนี้
โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:12:10:43 น.
  
คุณเหมือนพระจันทร์>> แสดงว่านักเขียนท่านนี้มี brand loyalty สูงทีเดียว เห็นหลายท่านแล้วที่บอกว่าซื้อเก็บไว้แต่ยังไม่อ่าน

คุณกล้ายางสีขาว>> ชื่อเรื่องกับตัวเรื่องคนละทางเหรอคะ (เหอๆ เราไม่ได้รู้สึกถึงจุดนั้นค่ะ อาจเป็นการตลาดของ สนพ เองก็ได้ที่อยากดึงประเด็นเรื่องให้เหมือนเป็นรักกุ๊กกิ๊กเลยเปลี่ยนชื่อเรื่อง) ส่วนงานเขียนคุณชาครียานั้นเราเคยอ่านบ้างแต่ไม่ทุกเรื่องค่ะ ว่างๆ อาจจะตามหาอ่านเรื่องอื่นดูเพราะรู้สึกว่าคนเขียนมีกึ๋นพอตัว
โดย: ณ พิชา วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:27:07 น.
  
อ้าว ที่เรามองข้ามเพราะชื่อเรื่องเลยนะคะเนี่ย...เนื้อในเป็นคนละทางซะงั้น

ความหน้าถ้าเจอ จะพลิกดูใหม่ค่ะ
โดย: Serverlus วันที่: 30 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:47:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ณ พิชา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



I think, therefore, I am