All Blog
บ่วงเงา / จุติศร

 

 

บ่วงเงา แต่งโดย จุติศร

 

'ตะวัน' นายตำรวจหนุ่มรูปงามกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับ 'สโรชา' แฟนสาวที่คบหากันมานาน แต่ยิ่งใกล้วันวิวาห์ตะวันกลับมีเรื่องให้ต้องกังวลใจ เพราะยามหลับตาครั้งใดเสียงฝีเท้าม้าจะต้องมารบกวนทุกราตรี ทำให้เขาพยายามค้นหาความจริงว่าเหตุใดเสียงนั้นจึงมีอิทธิพลต่อเขานัก จากการแนะนำของเพื่อนรักให้ได้รู้จักกับแพทย์ผู้มีชื่อเสียงซึ่งทำการรักษาด้วยการสะกดจิต ตะวันจึงได้รับรู้ถึงอดีตที่ผ่านมาของตนว่า เขาเคยเป็นทหารในองค์อุปราชแห่งเวียงจันทร์ มีความรักความผูกพันกับแม่หญิงลาวผู้เลอโฉมนามว่า 'คำสี'
     เงาอดีตทำให้ตะวันพยายามตามหาแม่หญิงคำสีในชาติภพปัจจุบัน แต่ตะวันก็มิอาจสมหวังเพราะไม่เคยมีผู้ใดในลาวพบเห็นหญิงสาวที่มีใบหน้าเหมือนนางเลย ยิ่งผิดหวังก็ยิ่งเหมือนติดอยู่ในบ่วงเงาแห่งอดีต เพราะตะวันไม่สามารถลืมคำสีนางอันเป็นที่รักยิ่งในอดีตได้ สโรชาจะมีส่วนช่วยให้ตะวันหลุดพ้นจากบ่วงเงาแห่งอดีตนั้นได้อย่างไร เขาจะกลับมาอยู่กับปัจจุบันได้หรือไม่คงต้องให้บทอวสานแห่ง "บ่วงเงา" เป็นผู้เฉลยคำตอบ

 


 

 

หยิบยกเรื่องนี้มาเอ่ยถึงสักหน่อยเพราะเป็นเล่มล่าสุดที่อ่านจบในเวลาไม่นาน เนื่องจากตัวเล่มกะทัดรัด พล้อตเรื่องกระชับ ตัวละครไม่เยอะ (ชอบเพราะไม่ต้องปวดหัวมาจำตัวละครยิบย่อย) การเดินเรื่องมีจังหวะพอดีไปจนถึงจบเรื่อง

 ถ้าจะให้สปอยล์เรื่องแบบคร่าวๆ ... “ตะวัน” เคยเกิดมาเป็น “บุญอิน” ทหารในอาณาจักรลาว (น่าจะเป็นช่วงเวลาพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งเป็นยุคทองของลาว) เขามีคนรักคือ คำสี แต่ด้วยหน้าที่ก็ต้องเข้าเวรรับใช้เจ้านายตามวาระ เขาได้พบเจ้านางบัวแก้วซึ่งเป็นศักดิ์เป็นหลานเจ้าแผ่นดิน เจ้านางหลงรักเขาแต่เขาก็ไม่อาจรับไมตรีได้เพราะมีเมียแล้ว ในระหว่างเดียวกันคำสีก็รอคอยจนสุดท้ายรอไม่ไหวจึงเข้าเวียงมาตามหาเขา แต่สุดท้าย...คำสีก็ไม่ได้พบกับเขา

 และจุดจบของคำสีในชาตินั่นเองเป็นสิ่งที่ตามหลอกหลอนในจิตใจของเขาเสมอมา

(แอบสปอยล์ คล้ายเรื่องราวที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับศาลหลักเมือง)  

 

อ่านจนแล้วก็รู้สึกว่า อืม...นานๆ จะได้อ่านนิยายที่เอาเค้าโครงมาจากประวัติศาสตร์เมืองลาว ภาษาถิ่นที่ใช้อยู่ในขั้นเข้าใจได้ง่าย (ก็บ้านเกิดเราอยู่ไม่ไกลจากเวียงจันทน์ด้วยล่ะ คนเขียนจะใช้ภาษาลาวมากกว่านี้ก็เข้าใจอยู่ดี หุๆ) โทนของเรื่องชัดเจนว่าเป็นแนวบุญกรรมภพชาติ

 

เนื่องด้วยนิยายเรื่องนี้อิงประวัติศาสตร์และเน้นด้านภพชาติบุญกรรม หาใช่มุ่งเพื่อให้ตัวละครมีความสุขจากความรัก สิ่งหนึ่งที่รู้สึกคือว่า...ความรักตัวละครอาจไม่ชัดเจนนักเพราะดูจะไม่ใช่สิ่งที่ผู้เขียนมุ่งหวัง จะว่าไปโศกนาฏกรรมในเรื่องก็มีเหตุมาจากความรัก ดังนั้นความรักตัวละครของเรื่องนี้จึงเริ่มต้นแบบหมองๆ และก็จบในโทนเดิมเพราะความสัมพันธ์ก็ยังคงดูอึมครึมจนจบเรื่อง ถ้าไม่ใช่คอนิยายแนวสุขนิยมก็อ่านได้แบบเรียกว่าผ่านด้วยดี

 

ปล. ตัวเราเองกับคุณจุติศรนั้นเหมือนจะเคยรู้จักกันผ่านเวบบอร์ดมาบ้างเมื่อนานมาแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งทราบว่าพี่สาวคนนี้หันมาเป็นนักเขียนนิยาย ก็เลยได้ติดตามอ่านคร่าวๆ หวังว่าจะได้เห็นผลงานของพี่จุติศรอีกเรื่อยๆ  

   

 

 




Create Date : 07 ตุลาคม 2556
Last Update : 7 ตุลาคม 2556 20:16:14 น.
Counter : 2385 Pageviews.

8 comments
  
ภาพปกสวยจังค่ะ
เรื่องน่าสนใจ ถ้ามีโอกาสจะหามาอ่านบ้างค่ะ
โดย: polyj วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:8:19:05 น.
  
พล็อตน่าสนใจดีจังค่ะ
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:16:51:07 น.
  
ปกสวยค่ะ เรื่องน่าสนใจจัง
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:21:29:33 น.
  
อ่านคร่าวๆ แล้วดูเศร้าจัง สโรชา สงสารนาง...
โดย: ~*Sing Praise*~ วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:23:17:57 น.
  
น่าสนใจมากค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
โดย: Sab Zab' วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:23:19:11 น.
  
polyj >> คิดเหมือนกันค่ะว่า ปกสวยคลาสสิคดี

หวานเย็นผสมโซดา>> พล้อตกระชับค่ะ ไม่ซับซ้อน ไม่งงดี ชอบตรงนี้ (แต่ถ้าเป็นคนชอบเรื่องยาวๆ พล้อตลึกๆ ก็อาจไม่ใช่แนว)

~:พุดน้ำบุศย์:~ >> ค่ะ สนพ นี้เค้าเน้นแนวย้อนยุคค่ะ แต่ว่าเสียดายปิดตัวไปแล้ว (เง้อออ)

~*Sing Praise*~ >> ใช่ค่ะโทนเรื่องอมหม่นอมเศร้า ตอนอ่านนี่เห็นใจสโรชาเหมือนกัน จะแต่งกันอยู่แล้วแต่ตะวันเพ้อหาแต่คำสี อ่านจนจบก็ไม่เคลียร์เล็กน้อยว่าสรุปสโรชาจะรอตะวันต่อไปหรือเธอจะลงเอยกับใคร (หรือเราอ่านไม่เคลียร์เองก็ไม่แน่ใจ)

Sab Zab' >> ยินดีค่ะ
โดย: ณ พิชา วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:19:52:21 น.
  
น่าสนใจเชียวค่ะ
โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 10 ตุลาคม 2556 เวลา:23:49:23 น.
  
ขอบคุณมากนะคะ ^_^
โดย: จุติศร IP: 1.46.195.68 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:1:14:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ณ พิชา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



I think, therefore, I am