Group Blog
 
All blogs
 

when it was finally over


คืนแห่งความเงียบ
อากาศไม่หนาวมากไปกว่าที่ผ่านมา
คือ ยืนพื้นที่ 5 องศาเซลเซียส
พอไหว กับผ้าห่มไฟฟ้า และถุงเท้าหนา ๆ รองเท้านุ่ม ๆ

เป็นคืนที่รู้สึกดีกับข่าวที่อ่านเจอ

คือ นั่งตามข่าวเทอร์นาโดโจมตีหลาย ๆ รัฐทางตอนกลางประเทศ
เห็นภาพอันน่าสลดหดหู่หลังเทอร์นาโดพัดผ่าน
สงสารคนที่สูญเสียในวันคริสต์มาสอีฟ 2015 มาก ๆ

แต่ในลิ้งค์ใกล้ ๆ กัน มีข่าวสืบเนื่องมาจากเทอร์นาโด ที่ถล่มอิลลินอยส์
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ว่า หลังจากเทอร์นาโดถล่ม 4-5 เมือง
คุณตาชาวนาวัย 73 ซึ่งมีที่ดิน 80 เอเคอร์ ก็ต้องใช้รถบรรทุก 8 โหลด
มาเก็บกวาดขยะที่เทอร์นาโดหอบมาตกบนที่ดินของคุณตา

ซึ่งก็คือ บ้าน และสิ่งของของเหล่าชาวเมืองใกล้ ๆ
ที่พายุร้ายพัดผ่านแล้วพาหอบมาด้วยนั่นแหละ

คุณตาว่า ในกองขยะเหล่านั้น
มีชุดแต่งงานสวย ที่ยังคงติดอยู่ในไม้แขวนเสื้อ
คุณตาเลยหยิบมาให้ภรรยาดู
แล้วทั้งคู่ก็คิดกันว่า มันเป็นของที่มีความหมายนะ

แม้จะสกปรกเพราะปลิวลอยมาจมดินจนเลอะเทอะ
แต่ก็ควรจะ "ตามหา" เจ้าของชุดแต่งงาน

เลยโพสต์ลงเฟซบุ๊กของกลุ่มผู้รอดชีวิตจากพายุเทอร์นาโด
และก็พบค่ะ

ลูกชายของเจ้าของชุด บอกแม่ว่า นั่นคือชุดของแม่หรือเปล่า
แม่ก็ติดต่อไปที่คุณตาชาวนาเลย
ก็ตกลงว่าจะส่งคืนให้
แต่ก็ต้องใช้เวลา เพราะ ณ ขณะนี้ บ้านของเจ้าของชุดแต่งงาน
..ไม่เหลือแม้แต่ซากแล้ว

คุณตาเลยบอกว่า ได้ที่อยู่พร้อมแล้วก็บอกมานะ จะส่งคืนให้

ระหว่างนั้น คุณตาคิดว่า น่าจะต้องส่งซัก จะได้คืนกลับไปแบบสวย ๆ
ก็เลยเอาชุดไปร้านซักแห้งในเมืองที่คุณตาอยู่
เจ้าของร้านซักแห้งฟังเรื่องราวแล้วตรวจดูชุด
โคลนมันเลอะจมลงในเส้นใยผ้าเลย คลีนยากมาก

เจ้าของร้านบอกว่า ที่ร้านเขาทำไม่ได้หรอก แต่มีร้านที่เขามั่นใจว่าทำได้
ซึ่งคุณตาก็ยอมจ่าย.. 
นั่นคือ ส่งชุดไปที่ร้านซึ่งเป็นศูนย์รวมทุกอย่างเกี่ยวกับชุดแต่งงาน
ในนิวยอร์ก!!




และผลก็ตามที่เห็นในภาพ
เจ้าของชุด ได้รับชุดแต่งงานในสภาพเหมือนใหม่มาก

...อ่านข่าวแล้ว รู้สึกว่าชีวิตดี๊ดี

merry christmas ค่ะ

...
...

ใครที่อยากอ่านข่าวเต็ม ๆ คลิกที่นี่เลยค่ะ





 

Create Date : 25 ธันวาคม 2558    
Last Update : 25 ธันวาคม 2558 11:26:02 น.
Counter : 632 Pageviews.  

a little bit more delicious


เที่ยงถึงเย็นวันพุธ ปกติ คือช่วงที่จะไม่นั่งหน้าจอ
ไม่ online
ไม่เสพข่าว

วันนี้เลยไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ 
กับ อ่านหนังสือที่ค้างอยู่ 1 เล่ม จนจบ

ก่อนจะแวะไปร้าน sushi plus 
และแวะซื้อผลไม้ กับรับยา 4 ชนิดที่ถึงเวลา refill พอดี

ตอนขับรถกลับบ้าน
เพื่อนโทรมาถามว่า จะต้มกาแฟรับแขกที่บ้าน ยังไงถึงจะอร่อย

เพื่อนถามถึงเมล็ดกาแฟที่ฉันใช้
ตอบไปว่า นิยมความหอม เลยชอบใช้ hazelnut
บอกเพื่อนว่า บดแล้วต้มเลย จะดีที่สุดนะ

และมีกฎ 3 ข้อ ... รับรองว่า อร่อย

คือ 1 ใช้น้ำเย็นจากก๊อก ห้ามใช้น้ำร้อน

กับ 2 ต้องต้มให้เข้มพอ อย่าขี้เหนียวกาแฟ
(ที่ข้างถุงกาแฟบางยี่ห้อ จะบอกว่า ถ้า drip หรือ brew ต้องใช้กาแฟกี่ช้อนต่อน้ำกี่ออนซ์)
(อ่านแล้วก็จำ ๆ ไว้ แล้วลองดูจนกว่าจะได้รสที่พอดีกับใจ)

และสุดท้าย 3 - ถ้าไม่ชอบกินกาแฟดำ แบบอเมริกาโน่
ก็ต้องหยิบแก้วมา ลวกน้ำร้อนหน่อยนึง
แล้วใส่น้ำตาล กับเทนมลงไป หรือถ้าใช้คอฟฟี่เมท ก็ควรเป็นแบบน้ำ
ใส่ลงไปก่อน แล้วถึงจะเทกาแฟตามลงไป

และ "ห้ามคน"

แค่นั้นแหละ อร่อย! 
ลองดูสิ

ทริคนี้ อ่านเจอจากหนังสือกาแฟของฝรั่งคนนึงมั้ง
ไม่แน่ใจ จำชื่อหนังสือไม่ได้
แต่ลองทำตามมา 7-8 ปีแล้ว และได้ผลดีมาก




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2558    
Last Update : 24 ธันวาคม 2558 12:38:30 น.
Counter : 688 Pageviews.  

santa is coming to town


ข่าวน่ารัก ๆ ที่มาพร้อมสายฝนพรำทั้งวัน

ตำรวจเมืองเวนิซ ลงไปทางใต้ ไม่ไกลจากเมืองที่อยู่นัก
ได้รับแจ้งจากผู้หญิงคนหนึ่งว่า
เพื่อนบ้านของเธอ อายุ 94 ปี หายเงียบอยู่ในบ้านมา 2-3 วันแล้ว
อยากให้ตำรวจมาตรวจดูหน่อย
เพราะเธอเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงขานรับ

ตำรวจ นายที่ลาดตระเวนอยู่แถวนั้นก็ไปตรวจดูตามแจ้ง
โดยมีผู้จัดการอพาร์ตเม้นท์มาเปิดประตูให้

..และพบว่า คุณตาวัย 94 ปี “สบายดี”

แต่เพราะมีปัญหาเรื่องหูเลยไม่ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านเรียก
บวกกับคุณตาเพิ่งหกล้มครั้งล่าสุด
ทำให้ไม่ค่อยได้เดินออกมานอกห้องพักเท่าไหร่แล้ว

ที่จริง เรื่องน่าจะจบแค่ตรงนั้น

ถ้าหากตำรวจ นายนั้นจะไม่ได้คุยกับคุณตาต่อเนื่องไป
จนทราบว่า คุณตาวัย
94 เป็นทหารผ่านศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
และอาศัยอยู่ในห้องนั้นเพียงลำพังมานานแล้ว

(ญาติที่มีอยู่รายเดียวก็อาศัยอยู่ฝั่งตะวันออกของประเทศโน่นแน่ะ)

ตำรวจ 2 นายเอ่ยร่ำลาคุณตาด้วยความรู้สึก “บางอย่าง” ที่ตกค้างอยู่ในใจ!

และแล้วหลังจากเสร็จสิ้นภาระหน้าที่ในดึกคืนนั้น
ตำรวจ
2 นายก็ตรงไปยังลานกว้างที่จุดขายต้นคริสต์มาส
เอ่ยขอซื้อต้นคริสต์มาสหลังจากคนขายปิดร้านแล้ว

คนขายบอกว่า ขายให้ไม่ได้หรอก ร้านปิดแล้ว!

แต่พอคุยไปคุยมา และรู้ความตั้งใจ

คราวนี้ คนขายก็ให้ต้นคริสต์มาส ‘ฟรี’พร้อมแถมของตกแต่งมาครบครัน
ตำรวจ
2 นายขนต้นคริสต์มาสกลับไปยังบ้านของคุณตาวัย 94

จัดการตกแต่งให้เรียบร้อยก่อนจะเขียนโน๊ตฝากไว้ว่า

“พวกผมจะกลับมาทำความสะอาดห้องให้นะครับ”

...

ในข่าวทีวี คุณตาบอกว่า
ตื่นมาอย่างประหลาดใจมาก และซาบซึ้งกับสิ่งที่ได้รับ
เป็นความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่เคยสัมผัสมานานแล้ว
ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป (อารมณ์งงกับชีวิตแน่เลยนะคุณตานะ)

ส่วนฉันน่ะน้ำตาไหลพรากไปแล้วค่ะ

ในข่าวต่อมา
ตำรวจ
2 นายและเพื่อน ๆ ตำรวจรวมทั้งเพื่อนบ้านรายนั้นของคุณตา
เคลื่อนขบวนไปช่วยทำความสะอาดห้องให้คุณตาจริง ๆ

พร้อมทั้งนำของขวัญจากที่ตำรวจรายอื่น ๆฝากไปให้คุณตาด้วยค่ะ

ทุกคนทำ “ให้” เพราะรู้สึกว่า ที่เราสุขสบายกันทุกวันนี้
ก็เพราะเหล่าทหารผ่านศึกในอดีต
ที่ได้ต่อสู้รักษาประเทศนี้ให้อยู่รอดมาถึงทุกวันนี้

ดังนั้นตำรวจ 2 นาย จึงอยาก“ตอบแทน” เล็ก ๆ น้อย ๆ
ให้กับผู้เสียสละที่หาญกล้า ‘บ้าง’

...

ไม่เขียนต่อแล้วค่ะ .. แบบว่าซาบซึ้งมาก

แค่อยากบอกว่า ไม่ใช่แค่ทหารผ่านศึกหรอกนะ
ที่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่
แต่คนแก่ทุกคนในโลกนี้ ล้วนต้องการความรัก ความใส่ใจเช่นกัน

อย่าลืมดูแล “คนแก่รอบตัวเรา” ทุกคนด้วย
อย่าลืมดูแล ‘กันและกัน’ นะ
.. เพราะคนเราทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย
ล้วนต้องการความรัก ความสนใจเหมือน ๆ กันหมด




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2558    
Last Update : 23 ธันวาคม 2558 13:20:18 น.
Counter : 630 Pageviews.  

pluviophile = a rain-lover




เริ่มรู้สึกแย่กับข่าวที่อ่านช่วงนี้
เหมือนว่า หลังจากข่าวกราดยิงที่ซานเบิร์น
ไม่ว่าอะไรจากนั้นจะเกิดขึ้น
ผู้คนในแอลเอก็คล้ายจะเหมารวม แบบโยงไปยังจุดนั้นทั้งหมด

ขนาดเกิดเหตุสัญญาณไฟไหม้ดังขึ้นในโรงหนังหรูกลางกรุง
ผู้คนที่วิ่งแตกตื่นออกมา ก็ให้สัมภาษณ์ว่า พวกนั้นบุกยิง

ดังนั้น ช่วงนี้ขอปิดเบรคข่าวแนวร้าย ๆ ดีกว่า
ไม่อยากจิตตกส่งท้ายปี

มาตามข่าวดี ๆ ที่ยังไม่มี (ฮา) ด้วยการตามข่าวอากาศไปพลาง ๆ ก่อนก็ดีนะ

ข่าวที่ว่า นับจากพรุ่งนี้ คือ วันอังคารไปจนถึงวันศุกร์
เราอาจจะได้เห็น white christmas กันในปีนี้
เพราะอากาศเย็น + ฝนตก มักจะทำให้หิมะตก

...

พูดถึงฝนตก เพื่อนหลายคนเริ่มเตรียมตัวสำหรับ el niño กันแล้ว
(เพื่อนที่พูดสแปนิช บอก แปลว่า the christ child เพิ่งรู้นะเนี่ย)

แล้วก็เลยคิดถึงคำศัพท์บนหัวบันทึกวันนี้

คิดถึงในฐานะที่ไม่ค่อยรัก "สายฝน"
บวกกับอากาศออกแนว rainy mood ที่คนในรัฐเหนือ ๆ ขึ้นไปคุ้นเคยนั้น
คนทางใต้ ๆ อย่างแคลิฟอร์เนียส่วนใหญ่ คิดว่ามันคือฝันร้าย
เพราะมักตามมาด้วย ดินถล่ม .. กับอุบัติเหตุบนท้องถนน

เนื่องจากคนในแคลิฟอร์เนียใต้ เหมือนว่าจะขับรถกลางสายฝนไม่เป็น
ฝนตกทีไร ชนกันระนาววววววว แบบเบรคไม่เป็น หยุดไม่อยู่

แต่จะว่าไป ฝนตกช่วงนี้ก็ดีนะ
เพราะต้นไม้ที่ elysian park ซึ่งออกข่าวว่า กำลังจะล้มตาย
จะได้ฟื้นคืนต้น

..

ว่าแล้วก็ควรจะไปผูกโบว์แมวกวักดีกว่า

ปีนี้ ตัดสินใจแจกแมวกวัก เพราะปกติ เวลาซื้อแมวไปวางที่โต๊ะ
มักหาย
หายหลังคำขอ หายหลังคำชม และบางทีก็หายไปเฉย ๆ แบบหยิบให้เห็นกันเลย
(แต่ก็เพื่อนกันทั้งนั้นแหละ)

เป็นแมวกวักที่ตระเวนหาซื้อจาก 4 ร้าน

ตอนแรกจะซื้อจากร้านเดียว 120 ตัว แบบตกลงจำนวน และราคากันแล้ว
แต่พอจะไปรับของ และจ่ายเงิน
คนไปรับของให้ ก็โทรมาบอกว่า ราคาขึ้น 50 เซนต์
จากที่เคยขายในร้าน ตัวละ 1 เหรียญ 50 เซนต์ ขึ้นเป็น 2 เหรียญ
บ้าหรือเปล่า
ขายปลีก 1.50 พอซื้อปริมาณเยอะ กลายเป็นขึ้นราคา จะขาย 2.0

เลยบอกผู้ช่วยไปว่า ไม่เอา ถ้าเกาหลีทำการค้าแบบไม่ซื่อสัตย์อย่างนี้
ไม่ขอสนับสนุน
เพราะเราต้องซื้อเหมือนกันทั้ง 120 ตัว แบบเลือกคละแบบไม่ได้ ยังไม่ว่า
แถมเป็นสินค้า made in china ยกกล่อง ก็ยังไม่บ่น
หนอยแน่ะ .. ยังคิดจะขึ้นราคาแบบมัดมือชก เมินซะเหอะ

ไป ๆ มา ๆ เลยหยุดงาน 1 วัน ขับรถตระเวนแวะเฉพาะร้าน daiso japan
และได้มาทั้งหมด 9 แบบ คละกันไป
สินค้าแปะป้าย made in japan ทุกตัว
และราคาตัวละ 1 เหรียญ 50 เซนต์ + ภาษี 9%

เลยปิดจ๊อบของขวัญคริสต์มาสสำหรับ "กลุ่ม" ได้
เหลือแค่เพื่อนฝูงรายคนที่สนิท ๆ ค่อยหาวันสุดท้าย

แต่การตระเวนหาแมวกวักหนนี้ 
ทำให้รู้ว่า แมวกวักแต่ละตัวมีความหมายต่างกันนะ
ถ้ายกมือซ้าย แปลว่า เรียกคนเข้าร้าน เรียกคนมาหา
ถ้ายกมือขวา แปลว่า นำโชค นำเงิน
ถ้าสีขาวแปลว่าอย่างนี้ สีดำแปลว่าอย่างนั้น
สีทอง สีแดง .. ก็ล้วนมีความหมาย

พอความหมายแตกต่างกันอย่างนี้ 
เลยต้องมาคิดว่า ใครคนไหน ในแผนกไหน จะให้แบบไหน

ทำรายชื่อแล้ว เขียนการ์ดแบบปริ้นท์มาแปะแล้ว
ก็ต้องไปซื้อถุงผ้าแก้วบาง ๆ มาใส่ก่อน
รวมถึงริบบิ้นผูกสวย ๆ ...

อืมมมมมมมมมม ... สิ่งที่ต้องทำ เยอะนะ 
งั้นควรจะไปก่อนที่ฝนจะตกดีกว่าไหม
เพราะสารภาพเลยว่า ไม่ชอบสายฝนเดี๋ยวนี้
ที่ฝนตกในแอลเอช่วง 4-5 ปีหลัง ชอบมาพร้อมเสียงฟ้าร้อง ฟ้าลั่น ฟ้าผ่า

สยองมาก!




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2558    
Last Update : 22 ธันวาคม 2558 6:00:24 น.
Counter : 1840 Pageviews.  

both the man & the officers

เพิ่งไปเยี่ยมรุ่นน้องที่ผ่าตัดปอด 'ที่นี่' เมื่อปลายวีคก่อน



ตอนดูข่าวตำรวจยิงชายคนหนึ่งใน ER ของ UCLA นึกว่าที่นี่
ยังแปลกใจมาก
แต่พอรู้ว่าเป็นสาขาที่ Harbor ก็โล่งใจ

เรื่องของเรื่องคือ ชาวบ้านเห็นชายคนหนึ่งโยนขวดใส่อพาร์ตเม้นท์
แบบรัวไม่หยุด ห้ามปรามยังไงก็ไม่ฟัง
ชาวบ้านเลยโทร 911

พอตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ก็มีการต่อสู้กันเพื่อจับกุมตัว
ชายคนนั้นก็คงบาดเจ็บจากการชกต่อยกับตำรวจ
ตำรวจก็พาส่งโรงพยาบาล Harbor-UCLA 

แต่ขณะอยู่ในห้อง ER 
ชายคนดังกล่าวทุ่มเครื่องมือแพทย์ และพยายามตรงเข้าแย่งปืนตำรวจ
ผลคือ ถูกตำรวจยิงตายคาห้อง ER

รายนี้ไม่ต้องคิดมาก เพราะชายคนนั้นทำผิดเอง

ปกติ ถ้าเดินพุ่งตรงหาตำรวจขณะที่ตำรวจสั่งให้หยุดอยู่กับที่
ก็โดนยิงทุกราย
เพราะถ้าปล่อยให้ถึงตัวตำรวจแล้ว "อาจจะ" แย่งปืนไปได้ก็จะเสี่ยงเกิน

ขนาดเวลาขับรถเร็ว ๆ แล้วโดนตำรวจเรียก
(ฉันโดนเรียกมา 4 ครั้งแล้ว) 555+
ทุกครั้ง ตำรวจก็จะพูดผ่านโทรโข่งที่ติดรถ

เริ่มจาก เอามือทั้งสองข้างวางบนพวงมาลัยรถ
แล้วนั่งนิ่ง ๆ ห้ามขยับ

เคยแอบดูผ่านกระจกหลังและกระจกข้าง
ตำรวจเอามือกุมปืนไว้ คนหนึ่งเดินมาที่รถเรา อีกคนยืนอยู่ข้างรถตำรวจ
เพื่อเฝ้าระวัง

ถ้าตำรวจมาคนเดียว ตำรวจคนที่เรียกเราหยุด ก็จะไม่เข้ามาทันที
เขาจะจนกว่าจะมีรถตำรวจอื่นมา back up จอดรอ

แต่ถ้าเป็นกลางวัน และเราดูท่าทางซื่อ ๆ ตำรวจก็ไม่ค่อยเรียก back up
แต่ตำรวจจะเอามือกุมปืนไว้ตลอด
ดูจนกว่าแน่ใจว่า เราไม่มีทีท่าจะทำร้ายเขา

ตอนฉันโดนเรียกครั้งแรก ตกใจเหมือนกัน
แต่อ้างไปว่า ไม่รู้จักทาง เลยขับรถแบบไม่รู้อัตราความเร็ว
ตอนนั้นขับในเมือง hollywood เลย
ตำรวจก็ OK sweetheart, ต่อไปก็ขับระวัง ๆ นะ
ฉันก็โอเคค่ะ thank you รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์

มาครั้งที่ 2 ขับเร็วกว่า 80 ไมล์ต่อชั่วโมงบนฟรีเวย์ 210
คราวนี้ไม่รอด รู้ว่าผิด เลยไม่เถียง
แค่แอบถามตำรวจว่า ทำไมคันอื่นไม่โดนล่ะ ขับเร็วกว่าฉันอีก

ตำรวจบอก เพราะผมไม่เห็น และเขาไม่โชคดีเท่าคุณ
แป่วววววว
จำได้ว่า ผ่านมาอีกไม่กี่วัน ศาลส่งจดหมายมาเรียกค่าปรับ $650 เหรียญ
และไม่สามารถไปโรงเรียนจราจรได้ เพราะความเร็วเกิน 81 ไมล์
ซวยไป

พอถึงครั้งที่ 3 ขับในเมืองแหละ
แต่ไม่เห็นว่าเป็นย่านโรงเรียน
ตอนนั้นขับแค่ 30 ไมล์ต่อชั่วโมงเองนะ
แต่มีป้ายเขียนว่า ช่วงโรงเรียนเปิดสอน อัตราความเร็วแค่ 15 ไมล์ต่อชั่วโมง
สรุปจ่ายศาลไป 100 กว่าเหรียญ แต่หนนี้ได้ไปโรงเรียนจราจร
เลยไม่เสียแต้ม

ครั้งสุดท้าย ตรงสี่แยก ที่ก็เลี้ยวขวาผ่านตลอดอยู่แล้ว
แต่วันนั้น เป็นเมืองที่ไม่คุ้น
และก็เห็นแหละว่า มีป้ายห้ามเลี้ยวขวาตอนที่มีไฟแดง
แต่ความที่คิดว่า ตี 5 ไม่มีรถจากทุกทางเลยสักคัน
เลยเลี้ยวขวับ กะว่าไปขับรถหาตลาดจีนที่เปิดเช้า ๆ เพื่อซื้ออาหารไปถวายพระ 

ตำรวจหนุ่มชาวจีนโผล่มาจากไหนไม่รู้ 
โดนเรียกฉลองตรุษจีนเลย
ตำรวจบอก มีทั้งหมด 6 ป้ายเตือนว่าสี่แยกนี้ห้ามเลี้ยวขวาตอนไฟแดง
ทำไมเลี้ยว
ฉันก็เงียบ ขอโทษ รับผิดแต่โดยดี รับใบสั่งมา
ผลคือ จ่ายค่าปรับ คูณตามจำนวนป้ายที่มีห้าม
เคสนี้ โดนเข้าไป 900 กว่าเหรียญ
เฮ้ออออออออออออออออ ... 

ตั้งแต่นั้น แทบจะเอาแว่นขยายมาส่องหาป้ายเวลาจะเลี้ยวขวา
..ดูซะจนเพื่อนหลายคนที่เคยนั่งรถฉันถึงกับออกปาก
เฮ้ยยย เลี้ยวขวาผ่านตลอดนะเฟร้ยยยย จะดูอะไรนักหนา

สาบานว่า ฝังใจ ขอให้แน่ใจก่อนละกันว่า ไม่มีป้ายปักไว้น่ะ
บอกตรง ๆ ไม่อยากมีเรื่องกะตำรวจเมืองฝรั่ง
ถึงจะหล่อระเบิดระเบ้อเป็นส่วนใหญ่ แต่ค่าปรับโหดเกิ๊น!




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2558    
Last Update : 21 ธันวาคม 2558 9:48:10 น.
Counter : 833 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

พุดดิ้งรสกาแฟ
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




สิ่งต่าง ๆ เคยสำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง
อาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน
อาจไร้สาระสำหรับใครอีกบางคน


ถ้ามันไร้สาระ
โปรดทิ้งมันไปเฉย ๆ อย่างง่าย ๆ
หากมันมีประโยชน์ ฉันก็ดีใจ


..
..
..
Friends' blogs
[Add พุดดิ้งรสกาแฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.