My Softly, Not Lonely Birthday [DR/TF]
พวกคนรุ่นใหม่ผู้ไม่ยึดติดทั้งหลายมักจะพูดว่า “วันเกิดน่ะเหรอ โอ๊ย มันก็แค่วันธรรมดาๆ วันนึงเท่านั้นแหละน่า” แน่ล่ะ พวกเขาจะยักไหล่และย่นหน้าใส่เค้กวันเกิดจุดเทียนที่สมัยเด็กๆ เคยทำตาโตใส่ แล้วก็ออกไปเที่ยวสังสรรค์เหมือนเคย อย่างมากก็ชนแก้วฉลองกันสักครั้งสองครั้ง เรื่องของขวัญหรือการตามใจตัวเองน่ะเหรอ ลืมซะเถอะ

ผมไม่ได้จะพูดว่าพวกเขาเป็นพวกองุ่นเปรี้ยวที่ไม่มีใครสนใจหรอกนะครับ แต่สำหรับใครอีกหลายคนอุดมคติเก็ฏๆ พวกนั้นมันก็ต้องมีข้อยกเว้นกันบ้าง

ก็นะ...คนเราไม่ได้อายุครบ 17 กันทุกวันนี่ครับ

เอ๋? ถามว่าแล้วผมฉลองวันเกิดปีนี้อย่างไรน่ะเหรอ?

อืม...ไม่ได้จะอวดนะ แต่คนที่ได้รับบทเด็กชายที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอย่างผมนะ ได้รับการ์ดอวยพรกับของขวัญส่งตรงมาจากประเทศต่างๆ ตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว ไม่รวมพวกอีเมล์กับอีการ์ดในเวบไซต์ของบรรดาแฟนคลับ แล้วก็ของขวัญจากเพื่อนสนิทสมัยที่ผมยังไปโรงเรียน ของจากเพื่อนในกองถ่าย รวมไปถึงอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ที่พ่อกับแม่ผมชิงพาไปเลี้ยงฉลองให้ตั้งแต่เมื่อคืนก่อน

ทั้งที่ได้รับคำอวยพรมากมาย แต่ทำไมวันที่ 23 กรกฎานี้ ผมรู้สึกเหงาชะมัดเลยนะ

ผมพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนอนนี่มาได้เกือบชั่วโมงแล้ว แดดยามสายสาดเข้ามาจนต้องกลิ้งตัวหลบไปเรื่อยๆ อย่างขี้เกียจ ภายในบ้านเงียบเชียบ พ่อแม่ของผมคงจะออกเดินทางไปตรวจไซต์งานนอกเมืองอย่างที่บอกแล้วละมั้ง (พวกเขาถึงได้พาผมไปเลี้ยงฉลองเสียก่อน สงสัยกลัวลูกชายคนเดียวจะน้อยใจ)

“ไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ บ้างเหรอ แดนนี่ อุตส่าห์ได้หยุดพักกองทั้งที” พ่อผมถามขึ้นในโต๊ะอาหารเมื่อคืน ดูท่าพ่อจะเป็นห่วงผมหน่อยๆ แต่ผมก็ได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ

ถึงช่วงนี้จะเป็นช่วงปิดเทอม แต่เพื่อนเก่าๆ ของผมต่างก็ยังอยู่ในโปรแกรมเข้าค่ายฤดูร้อนกันหมด จะโทรไปชวนพวกรูฟ หมอนั่นก็ติดงานแถลงข่าวหนังเรื่อง Driving lesson ที่กำลังจะเข้าฉาย และแน่นอนว่าผมไม่มีทางชวนเอมม่า วัตสันมาคนเดียวได้ (ไม่งั้นอาจจะถูกฆ่าตายด้วยรังสีอมหิตส่งตรงจากเจ้าหนุ่มผมแดงเจ้าเก่ารายเดิมนั่นแหละ)

ผมพลิกตัวอย่างขี้เกียจอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาดู ไม่มีข้อความใหม่...เฮ่อ!

ผมตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าเตรียมตัวอาบน้ำพร้อมด้วยจิตใจที่เหี่ยวเฉา

ที่จริงอยู่คนเดียวก็อาจจะดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้ถึงชวนพวกรูฟกับเอมมา ผมก็คงไม่รู้สึกสดชื่นขึ้นเท่าไหร่หรอก ดีแต่จะทำให้เสียบรรยากาศด้วย

...ก็โทรศัพท์ที่อุตส่าห์เปิดรอไว้ทั้งคืนน่ะ ไม่มีข้อความจาก ‘คนคนนั้น’ เข้ามาร่วมสัปดาห์แล้ว

โอเค ก็เข้าใจนะว่าช่วงนี้อาจจะยุ่ง ไหนจะต้องปั่นรายงานช่วงปิดเทอมของวิทยาลัย ไหนจะต้องเตรียมตัวเดินทางไปเยี่ยมพี่ชายที่ออสเตรเลียกับพ่อแม่อีก แต่แค่เวลาสัก 2-3 นาที โทรมาหาสักนิด หรือแค่ส่งแมสเซสมาอวยพรกันหน่อยจะไม่ได้เลยเชียวหรือ

ผมแต่งตัวเสร็จเดินออกจากห้องน้ำมาทิ้งตัวนั่งปุ่บลงบนเตียงอีกครั้ง อยากจะเอนตัวนอนต่อเสียทั้งวันให้มันสะใจไปเลย แต่ติดที่ผมซึ่งเพิ่งจะสระมายังหมาดๆ อยู่ แถมกระเพาะก็เริ่มส่งสัญญาณขออาหารที่ควรจะกินตั้งแต่มื้อเช้าจนมาถึงมื้อกลางวันนี่แล้ว

เอาเหอะ หาอะไรใส่ท้องก่อนแล้วกัน วันนี้จะเอายังไงค่อยว่ากันอีกที ฉลองวันเกิดคนเดียว คงสนุกน่าดูเลยแฮะ เฮ้อ จะหดหู่ไปถึงไหนนะเรา

ผมเดินลงบันไดพร้อมกับผ้าขนหนูที่โปะไว้บนศีรษะ ยังเดินมาไม่ทันถึงครัว กลิ่นหอมๆ บางอย่างก็ลอยอวลเข้ามาผ่านจมูก เอ๊ะ? แม่เตรียมอาหารไว้ให้ผมด้วยเหรอเนี่ย? แต่เห็นพวกพ่อกับแม่บอกว่าจะออกไปตั้งแต่เช้าเลยนี่นา หรือว่าแม่ผมเกิดเปลี่ยนใจอยู่บ้านเป็นเพื่อนลูกชาย

แต่พอผมเปิดประตูห้องครัวเข้าไป ผมก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด

ร่างโปร่งของใครบางคนกำลังยืนอยู่หน้าเตา โดยมีผ้ากันเปื้อนสีเขียวใบไม้ของแม่ผมคาดอยู่ที่เอว ผมสีบลอนด์ทองนั้นยาวกว่าที่เห็นครั้งล่าสุด ผมยังเพ่งมองเหมือนจะไม่เชื่อสายตา จนกระทั่งคนที่อยู่ในห้องครัวรู้สึกหันกลับมา ใบหน้าที่แสนคุ้นเคยนั้นคลี่ยิ้ม

“ไง ตื่นสายจังนะ เจ้าของวันเกิด”

ผมยังคงอึ้งไม่หาย เหมือนกับตัวเองกำลังอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้นแหละ “นาย...นายมาได้ยังไง...?”

คนที่ผมเฝ้ารอข้อความมาตลอดคืนยิ้มกว้างขึ้นเหมือนจะขำท่าทางของผม เขาปิดเตาแล้วตักแฮมเบอร์เกอร์หอมน่ากินใส่จาน “ก็ขับรถมาน่ะสิ ออกมาตั้งแต่เช้ามืดโน่นแน่ะ กะว่าจะมาเซอร์ไพรส์นายตอนมื้อเช้าเสียหน่อย รอนานจนกลายเป็นมื้อกลางวันไปเลยแฮะ” เขาแกล้งแซว แต่ผมยังไงไม่หาย

“ไหนนายว่าจะบินไปออสเตรเลียกับพ่อแม่ไง”

สาเหตุที่ผมไม่ได้โทรไปคุยเหมือนทุกที ก็เพราะไม่อยากเวลาครอบครัวเขานี่แหละ

ทอมยักไหล่ พลางปลดผ้ากันเปื้อนออกจากตัว “แอชเลย์โทรมาแคนเซิลน่ะสิ เห็นบอกว่าอากาศที่โน่นช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีพายุเข้าอะไรนี่แหละ เขาเลยว่าจะพาแฟนมาเยี่ยมพ่อแม่แทนช่วงคริสมาสต์น่ะ”

ผมพยักหน้ารับรู้ ค่อยไล่เลียงความคิดตัวเองได้แล้วตอนนี้ “นายไม่เห็นโทรมาบอกฉันสักคำ” ผมอดบ่นนิดๆ ไม่ได้ ก็เล่นปล่อยให้ผมทรมานตัวเองไม่ยอมโทรหาเขามาตลอดทั้งสัปดาห์ ใครจะไปทนไหวล่ะครับ

พอเห็นท่าทางตัดพ้อของผมเข้า ทอมก็เลยรีบอธิบาย “พี่ฉันเพิ่งโทรมาบอกเมื่อวันก่อนนี้เอง แล้วฉันก็กะว่าจะมาเซอร์ไพรส์นายด้วยเลยเงียบไว้ไง” ใบหน้าเรียวขาวยืนเข้ามาใกล้ผมพร้อมกับทำเสียงออดๆ “เอาน่า ฉันอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามืด ขับรถมาทำกับข้าวให้นายกินแต่เช้าแบบนี้ พอจะลบล้างความผิดได้ไหม?”

พอเห็นเจ้าของดวงตาสีฟ้าขี้เล่นนั่นมาทำท่าขอความเห็นใจอยู่ในระยะประชิดแบบนี้ ผมก็อดใจอ่อนไม่ได้ ที่จริงไอ้ความน้อยใจกับความเหงาเมื่อกี้ยกขบวนกันหายวับไปหมดตั้งแต่เห็นหน้าเขาแล้วล่ะ

“ก็ได้” ผมพยักหน้าในที่สุด ทอมคลี่ยิ้มแล้วลงมือเสิร์ฟอาหารเที่ยง (รวมมื้อเช้า) ให้

“เอ้ากินก่อนนะ แล้ววันนี้นายจะไปเที่ยวไหน ฉันจะไปเป็นเพื่อนทั้งวันเลย อาสาเป็นสารถีขับรถให้ด้วยนะเอ้า” ประโยคหลังมีเค้าหยอกเล็ก จนผมต้องย่นหน้า

“พูดไปก่อนเถอะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าฉันก็จะไปสอบใบขับขี่แล้วน่า”

ทอมรู้ว่าผมมีจุดอ่อนเรื่องอายุน้อยกว่า เลยไม่ได้มีรถเป็นของตัวเองเสียทีนี่แหละ เวลาไปเที่ยวไหนด้วยกัน เราเลยมักจะใช้บริการรถไฟใต้ดิน หรือไม่ก็รถเมล์ ผมยอมเสี่ยงกับการโดนแฟนๆ รุมมากกว่าที่จะนั่งรถที่คนที่ตัวเองชอบเป็นคนขับ

ทอมยกมือยอมแพ้ “เอ้าๆ ไม่ล้อก็ได้ งั้นนายอยากไปไหนล่ะ”

ผมลงมือกินอาหารพร้อมกับครุ่นคิดอยู่อึดใจ สายตาก็มองเลยไปยังร่างโปร่งที่หันหลังไปเก็บหม้อกะทะใส่อ่างไปด้วย

“คิดดูแล้ว...เราอยู่บ้านกันเฉยๆ ก็พอแล้วล่ะ” ออกไปข้างนอกก็ดีแต่เจอคนทัก แถมยังไม่เป็นส่วนตัวอีก

ใบหน้าเรียวขาวหันกลับมาเลิกคิ้ว “เห? จะเอาอย่างนั้นเหรอ” แต่ด้วยความที่เป็นวันเกิดผมเขาก็เลยตามใจ “ถ้านายจะเอาอย่างนั้นก็ได้” ทอมว่าพลางทรุดนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามผม “งั้นมาซ้อมบทของหนังภาค 6 กันก่อนไหม ฉันมีจุดสงสัยเรื่องฉากในห้องน้ำล่ะ”

“ได้สิ”ผมคลี่ยิ้มให้กับท่าทางกระตือรือร้นเรื่องงานของเขา แต่ดูเหมือนทอมจะไม่ทันได้รู้สึกตัว

“อ๊ะ แต่นายกินข้าวก่อนเถอะ ฉันทำสุดฝีมือเลยนะ” คนตรงหน้ายื่นตักสลัดในชามมาใส่ให้

“อืม” ผมพยักหน้ารับ ร่างโปร่งที่นั่งอยู่ตรงข้ามเตรียมจะลงมือทานอาหาร ก่อนจะทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ คนตาหน้าสวยคนนั้นยิ้มจนตาหยี

“เออ เกือบลืมเลย...สุขสันต์วันเกิดนะ แดน”

ผมยิ้มรับรอยยิ้มน่ารักนั้น “ขอบใจมาก ทอม”

เอาเป็นว่า วันเกิดปีนี้ผมก็ได้แต่ฉลองอยู่ที่บ้านเงียบๆ กับคนพิเศษแค่ ‘สองต่อสอง’ อย่างสงบ

...ส่วนที่เหลือของวันจะเป็นยังไง ขออุบเอาไว้เป็นความลับนะครับ ลองเก็บไปเดาเอาเองแล้วกัน

...ก็วันเกิดทั้งที คนเราก็ต้องตามใจตัวเองได้บ้างล่ะน่า

Talk~

สั้นๆ รับวันเกิดพ่อหนุ่มกรามใหญ่ (ซึ่งตอนนี้เหมือนหน้าจะเรียวลงเล็กน้อย) สุขสันต์วันเกิดนะ แดน

ข้อมูลไม่มีเหมือนเคย พยายามหาข่าวทอมช่วงนี้แล้วไม่รู้ว่าไปอยู่ส่วนไหนของอังกฤษ แดนนี่ยังพอมีออกข่าวบ้าง แต่พ่อหนุ่มผมบลอนด์ตาฟ้าคนนั้นหายวับเข้ากลีบเมฆไปเลย (หนีไปตกปลาอยู่แถวไหนน๊อ ทอมจ๋า)

เรื่องนี้แดนมันดูหงุดหงิด ขี้ใจน้อยเนอะ ก็แหม วันเกิดทั้งทีนี่นา วันเกิดเป็นวันนึงที่เราถือว่า คนเรามีความสุขมากๆ แล้วก็ตามใจตัวเองเยอะๆ (เพราะงั้นวันเกิดทีไรก็เลยจนทุกที)

เขียนช่วงระหว่างทำงานอีกแล้ว (ตอนนี้กำลังเขียนคอลัมน์ฟิตเนส ยืดหดลดช่วงล่างอยู่) ดังนั้นคงจบเอาสั้นๆ ง่ายๆ แค่ช่วงเช้านี่ล่ะ ส่วนที่เหลือของวันเป็นยังไง ไปจิ้นกันต่อเองนะคะ ฮุฮุฮุ



Create Date : 24 กรกฎาคม 2549
Last Update : 24 กรกฎาคม 2549 17:24:36 น.
Counter : 1172 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]