Group Blog |
Part 2 Part II คืนนั้นเป็นคืนเดือนหงาย ไม่ต้องออกไปดูท้องฟ้าข้างนอกก็รู้ เพราะแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาภายในตัวปราสาทแทบจะทุกช่องที่จะเล็ดลอดเข้ามาได้ เด็กนักเรียนฮอกวอร์ตส่วนใหญ่นอนหลับสนิท จมลงไปในห้วงนิทราอันแสนสงบ จะมีก็แต่คนบางคนในหอนอนสลิธิริน ที่นอนกระสับกระส่ายพลิกไปพลิกมาหาทางหลับไม่ได้เสียที ฮื่อ.... เดรโก มัลฟอยงึมงำอย่างหงุดหงิด ความร้อนนี่มันอะไรกันนะ แผ่นหลังเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ที่นอนก็ระอุจนต้องกลิ้งตัวไปมาหาที่ที่เย็นที่สุด แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล เฮ้อ ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ยอมแพ้ เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียง แว่วได้ยินเสียงกรนดังอย่างกับโรงสีของแครบและกอยย์ที่นอนห่างออกไป เดรโกยกมือเช็ดหน้าผากที่ชื้นเหงื่อ ล้างหน้าแล้วหาน้ำกินคงจะช่วยให้เย็นขึ้น เขาทำท่าจะเดินเข้าห้องน้ำในหอแต่แล้วก็หยุดคิด เอ...หรือจะไปใช้ห้องน้ำของพรีเฟ็ค ไหนๆก็นอนไม่หลับแล้ว ไปว่ายน้ำเล่นมันเสียเลยดีกว่า คิดได้แล้วเด็กหนุ่มจึงคว้าเสื้อคลุมสวมทับชุดนอน ก้าวออกจากหอของตนเอง ตามระเบียงทางเดินยามดึกร้างไร้ผู้คน มีแต่พวกภูตผีที่บินร่อนไปมามากกว่าช่วงกลางวัน เดรโกชินกับพวกมันเสียแล้วเลยไม่รู้สึกอะไร เจ้าพีฟผีกวนประสาท ป่านนี้ก็คงไปวนเวียนอยู่แถวไหนห่างออกไปไกลจึงไม่ได้ยินเสียง โรงเรียนตอนกลางคืนก็สงบดี แถมสายลมอ่อนๆที่พัดเข้ามายังเย็นสบายกว่าอยู่ในหอนอน ออกจะหนาวเสียด้วยซ้ำ อากาศแบบนี้ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น แสงสว่างนวลๆที่ลอดผ่านกระจกใสบานใหญ่ตลอดทางเดินยาวเหยียดนี้ ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสวยงาม ดวงจันทร์กลมโตบนท้องฟ้ามืดสนิทด้านนอกดึงดูดสายตาจนเหมือนมีมนต์วิเศษที่จะทำให้ค่ำคืนนี้แตกต่างออกไป....... เด็กหนุ่มเดินเล่นเพลินจนลืมความหงุดหงิด เขามาสะดุดกึกเมื่อรู้สึกตัวว่าขาทั้งสองข้างพามาจนถึงทางขึ้นไปหอคอยตะวันตก แย่ละสิ เดรโกอุทานเมื่อพบว่าเบื้องหน้าของเขาแทนที่จะเป็นระเบียงทางเดินไปสู่ห้องน้ำพรีเฟ็คกลับกลายเป็นบันไดทางขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอคอยสูง ไม่มีทางกลับเสียด้วยเพราะบันไดที่เขาขี้นมาก็เปลี่ยนทิศไปเรียบร้อยแล้ว โอ๊ย!จะซวยไปถึงไหน เด็กหนุ่มบ่นงึมงำ เสียงฝีเท้าเบาๆลอยมาจากบันไดขั้นบนๆของหอคอย พรีเฟ็คแห่งบ้านสลิธิรินสะดุ้งก่อนจะนิ่งฟังให้ชัด เสียงเดินเป็นจังหวะปนเปกับเสียงสะอื้นแผ่วๆ แม้จะไม่เห็นตัว แต่กลับให้ความรู้สึกเศร้าเสียจนน่าใจหาย ใครมาร้องไห้แถวนี้ตอนนี้นะ หรือจะเป็นพวกผี...? เดรโกค่อย ๆ เดินขึ้นบันไดตามเสียงนั้นไป ไม่คาดหวังว่าจะเจออะไรนอกจากปีศาจตัดอดีตไม่ขาดสักตัว..... ....แต่เมื่อเด็กหนุ่มเปิดประตูห้องชั้นบนสุดเข้าไปเขาก็รู้ว่าเขาคิดผิด แสงจันทร์กระจ่างจากหน้าต่างหอคอยที่เปิดอยู่สาดเข้ามาเกือบทั่วห้อง ม่านบางสีอ่อนพลิ้วไหวแผ่วเบา ก่อนที่จะปลิวสูงขึ้นตามแรงกระแสลม ในจังหวะเดียวกับที่สายตาของเดรโกเลื่อนลงสู่ร่างๆหนึ่งที่ทำให้เขานิ่งอึ้ง เผลอจ้องค้างไปชั่วอึดใจ ร่างบางในชุดนอนรุ่มร่ามยืนอยู่ริมหน้าต่าง ผมสลวยสีดำสนิทยาวเหยียดลงมาถึงกลางหลังยุ่งเหยิงนิด ๆ แต่ก็ดูนุ่มจนส่งให้ใบหน้าเนียนที่หันมามองเขาดูทั้งคมแล้วก็อ่อนหวานไร้เดียงสาราวกับลูกเสือดำ และที่สำคัญที่สุด ดวงตาสีเขียวจัดที่คลอด้วยหยาดน้ำตานั้นอ่อนเชื่อม ไม่ใช่ปีศาจแต่เป็นเด็กสาว... แถม...เป็นเด็กสาวที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นด้วย... เอ่อ... เด็กหนุ่มตะกุกตะกัก ขอ..โทษ..ฉันไม่รู้ว่ามีคน. ใบหน้านั้นยังคงนิ่ง ยัยนี่เป็นเด็กปีหนึ่งละสิ บ้านไหนเนี่ยออกมาดึก ๆ แบบนี้นะ เดรโกคิด ความเป็นพรีเฟ็คทำให้พูดดุออกไป อาจารย์ไม่ได้บอกตอนงานเลี้ยงหรือไงว่าห้ามออกมานอกหอตอนกลางคืน เขาลืมไปว่าตัวเองก็กำลังผิดกฎเช่นกัน ร่างนั้นยังคงมองนิ่งอย่างงงๆ ทำเอาคุณชายที่เอาแต่ใจเป็นนิจชักเริ่มหงุดหงิด เธอคงเป็นปีหนึ่งสินะ ฉันจะไม่บอกอาจารย์ก็แล้วกัน กลับไปหอนอนไปได้แล้ว เขาว่าแล้วหันหลังจะกลับ แต่มือเล็กก็เอื้อมมาดึงชายเสื้อคลุมไว้ เอ๊ะ เขาอุทาน เมื่อร่างบางยืนใกล้จนชิด ทำไม เด็กหนุ่มขมวดคิ้วกำลังจะตวาด แต่ใบหน้าเปียกชื้นด้วยหยาดน้ำตาทำให้ต้องกลืนคำร้าย ๆ ลงคอ มีอะไรอีกล่ะ เขาถามเสียงห้วน เด็กสาวส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอไม่รู้ทางกลับหอนอนหรือไง เด็กสาวพยักหน้า เด็กปีหนึ่งนี่น๊า เฮ้อ งั้นฉันจะพาไปส่ง เธออยู่บ้านไหนล่ะ เดรโกพูด เด็กสาวส่ายหน้าอีกครั้ง แล้วเธอไม่รู้หรือไงว่าตัวเองอยู่บ้านไหน ความอดทนของเขาใกล้จะหมดอีกแล้ว เด็กสาวส่ายหน้าเบา ๆ เธอเป็นนักเรียนฮอกวอร์ดรึเปล่าห๊ะ เดรโกเผลอตวาด ส่งผลให้ร่างบางสะดุ้ง น้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตาสีเขียวอีกครั้ง เฮ้ย ขอโทษๆ เดรโกตะกุกตะกัก อะไรกันวะเนี่ย เด็กหนุ่มไม่ใช่พวกแพ้น้ำตาผู้หญิงก็จริง แต่ลูกกะตาสีเขียวจัดที่มองจ้องอยู่นี่มันทำเอาใจอ่อนโดยไม่รู้ตัว จะพาออกไปก็ถามอาจารย์ตอนนี้ก็ไม่ได้ ดีไม่ดีโดนไล่เลียงเรื่องที่ออกมานอกหอนอนตอนกลางดึกอีกจะแย่ เดรโกมองมือเล็กที่กำชายเสื้อคลุมของเขาไว้แน่นราวกับเด็กน้อยกลัวหลงทางแล้วก็ถอนใจเฮือก คงต้องรอจนถึงตอนเช้าก่อน โอเค ๆ เขาบ่นงึมงำลากอีกฝ่ายที่เกาะไว้ให้ทรุดนั่งบนกองผ้าม่านเก่า ๆ ริมหน้าต่าง แล้วนั่งลงข้าง ๆ นั่งก่อน เผื่อเธอจะรู้สึกดีขึ้น เขาคิดว่าเด็กสาวคงจะโฮมซิคแบบเด็กปีหนึ่งทั่วไป อาจจะเดินละเมอออกจากหอนอนมาถึงนี่ จะยังไงก็เหอะ เดี๋ยวพอจำอะไรได้แล้วก็บอกฉันนะ จะได้พาไปส่ง เขาพูด ใบหน้าหวานยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก โห ยิ้มแล้วน่ารักชะมัด เดรโกอดคิดไม่ได้ ศีรษะเล็ก ๆ เอนมาพิงไหล่เขาหลับไปอย่างวางใจและไร้เดียงสา คงจะเหนื่อยเพราะร้องไห้เป็นเผาเต่ามาแน่ ๆ เด็กหนุ่มคิด กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนผมที่พิงอยู่ทำให้เขาผ่อนคลายและง่วงงุนโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน อย่าหลับนะเดรโก นายต้องพายัยนี่ไปส่งอาจารย์แต่ก่อนที่พวกนักเรียนคนอื่นจะออกมา....อย่าหลับ ๆ แต่แล้วเขาไม่อาจบังคับเปลือกตาที่ค่อย ๆ หนักขึ้น ๆ ทุกทีได้ ศีรษะที่มีผมสีทองของเด็กหนุ่มก็เลยซบกับศีรษะเล็กที่พิงอยู่ก่อนแล้ว ภายนอกหน้าต่าง แสงจันทร์เพ็ญกระจ่างตาจนสว่างไสวไปทั่ว .................................................................................................................................... แสงแดดสาดเข้ามาจนเดรโก มัลฟอยซึ่งกำลังลืมตาตื่นขึ้นต้องยกมือขึ้นบังหน้า โอ๊ย ใครเปิดม่านวะ แครบ กอยย์ แกไปปิดม่านทีซิ เขาร้องเรียกสมุนได้ความเคยชินพลางพลิกตัวทำท่าจะนอนต่อ แต่พื้นแข็งๆที่เขาเอนหลังอยู่นั้นไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย ทำไมที่นอนที่โรงเรียนมันถึงแข็งนักนะ นอนที่นอนนิ่มๆที่บ้านจนชินแน่ๆ เดรโกคิดแบบง่วงๆ ที่นอน เอ๊ะ !เดี๋ยวสิ เขาไม่ได้อยู่ในหอนอนนี่นา ต้องพายัยเด็กนั่นไปส่งด้วย!! เด็กหนุ่มลุกพรวดขึ้นนั่งพลางกวาดตามองไปรอบ ๆ ไม่มีวี่แววของเด็กสาวขี้แยคนเมื่อคืน หรือเขาจะฝันไป ?แต่ผ้าม่านเก่าๆที่พวกเขาใช้รองนอนเมื่อคืนก็ยังมีรอยอุ่นอยู่ ยัยนั่นอาจจะตื่นขึ้นมาแล้วเกิดอายเลยหลบออกไปเงียบๆ ก็ดี ไม่ยุ่งยาก เดรโกคิดขณะที่ลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาไล่อาการเมื่อยขบ ใบหน้าอ่อนใสกับดวงตาสีเขียวที่เปื้อนหยาดน้ำตาลอยมาในความคิด จะว่าไปยัยนั่นก็น่ารักดีนะ ถึงจะขี้แยไปหน่อยแต่ท่าทางไม่เรื่องมาก เด็กปีหนึ่งบ้านไหนกัน หนุ่มฮอตของบ้านสลิธิรินอดสนใจไม่ได้ ตลอดวันทั้งวันนั้นเดรโกพยายามมองหาเด็กสาวคนที่เขาหมายตาตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ห้องโถงไปจนถึงห้องสมุด เด็กหนุ่มเพ่งมองทุกครั้งที่เห็นเด็กสาวผมยาวสีดำสนิท แต่ก็ไม่พบคนที่เขาต้องการ เดรโก วันนี้เธอเป็นอะไรไปน่ะ มองคนนั้นคนนี้อยู่ได้ แพนซี่ถามหน้าบึ้งๆเมื่อเดรโกมองกวาดไปตามโต๊ะของบ้านต่าง ๆ ช่วงอาหารเย็น หยั่งกับมองหาใครอยู่งั้นแหละ เด็กสาวกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจ ช่างฉันเถอะน่า ไม่มีอะไรหรอก คนถูกถามตอบห้วน ๆ หงุดหงิด ยัยนั่นหายไปไหนนะ ทำไมไม่มากินข้าวเลยซักมื้อ บ้าชะมัด เขาลงมือกินอาหารอย่างเสียไม่ได้ ทำไมเราต้องสนใจตามหาด้วย คนอย่างเดรโก มัลฟอยน่ะ ไม่ต้องเอ่ยปากก็มีสาว ๆ มาเข้าคิวรอเป็นหางแล้ว เด็กหนุ่มคิดพลางยกแก้วน้ำฟักทองขึ้นดื่ม ไกลออกไปที่โต๊ะของกริฟฟินดอร์ ภาพไอ้เซ่อวีเซิลวิสลีย์กับยัยเลือดสีโคลนแกรนเจอร์กำลังพยายามเอาอกเอาใจไอ้พอตเตอร์หน้าซึมนั่นอยู่ยิ่งทำให้หงุดหงิด กะอีแค่พ่อทูนหัวถูกฆ่าตายถึงกับหมดอาลัยตายอยากรอให้คนโน้นคนนี้มาปลอบ น่าสมเพชชะมัด เดรโกเบะปากพลางรวบช้อน อิ่มแล้ว ฉันไปก่อนนะ เขาพูดโดยไม่รอฟังคำทักท้วงจากลูกสมุนทั้งสองหรือแพนซี่ที่กระฟัดกระเฟียดไม่หาย ร่างสูงเดินผ่านโต๊ะของกริฟฟินดอร์จังหวะเดียวกับที่แฮร์รี่ พอตเตอร์เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเขาจึงปะทะกับดวงตาสีเขียวทอประกายเศร้าของอีกฝ่าย โอ๊ย!น่ารำคาญจริงโว๊ย! เขาเอามือล้วงกระเป๋าเดินเชิดหน้าออกมาจากห้องโถงเพียงลำพัง ครุ่นคิดถึงดวงตาสีเขียวอีกคู่หนึ่ง เราคงไม่เจอยัยนั่นแล้วละมั้ง โดย: jj IP: 221.128.94.160 วันที่: 18 สิงหาคม 2548 เวลา:17:42:22 น.
|