ซินเดอเรลลา
**PrOLoGuE**

“เฮเลน นอนได้แล้วมั้ง ดึกแล้วนะ”

เด็กหญิงตัวน้อยที่ขลุกอยู่ใต้กองผ้าห่มปลายเตียงเบี่ยงตัวหันหน้ามาหาคนเรียกนิดนึง ก่อนจะยิ้มกว้างจนตหยี แล้วหันกลับไปเล่นอะไรกุ๊กกิ๊กอยู่คนเดียวต่อ ผมสีบลอนด์ยาวสะท้อนแสงไฟที่หัวเตียงเป็นประกาย

“เฮเลน่า นอนได้แล้วลูก” ชายหนุ่มผมดำที่อ่านหนังสืออยู่ตรงหัวเตียงบอกย้ำอีกรอบ ดวงตาสีเขียวแบบเดียวกันมองแบบดุนิดๆ แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ผล

หนูน้อยเฮเลน่า พอตเตอร์ ยึดตุ๊กตา 2-3 ตัวไว้ในอ้อมแขนแน่น ก่อนจะพลิกตัวมานอนกอดเอวร่างสูงไว้อย่างประจบ “อีกเดี๋ยวนะ ป๊ะป๋า นะนะ” ร่างสูงเห็นท่าทางออดอ้อนแบบนั้นก็อดใจอ่อนไม่ได้ หันไปมองอีกคนที่อยู่ในห้องเหมือนจะขอความช่วยเหลือ

ร่างบางลุกจากเก้าอี้หน้ากระจก มือเรียวใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมสีบลอนด์จนเกือบแห้งสนิท ก่อนจะโยนผ้าไว้ตรงเก้าอี้ที่เพิ่งลุกมา ก้าวเข้ามานั่งบนเตียงด้านที่ว่าง

“ดึกแล้วนะ เฮเลน นอนได้แล้ว”พูดพลางอุ้มร่างเล็กมาวางลงบนหมอนกลางเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้เสร็จสรรพ พอละมือจากเจ้าตัวเล็กได้ ใบหน้าขาวเนียนก็หันไปมองคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่อีกฝั่ง “บอกแล้ว เรียกไปก็เท่านั้น อุ้มมาเลยดีกว่า”

“หม่าม๊า เฮเลนยังไม่ง่วง...”

......‘หม่าม๊า’อีกแล้ว!เพราะเจ้าดีลแท้ๆเลย!.....

ใบหน้าสวยยิ้มแต่ดวงตาออกจะดุนิดๆ “พรุ่งนี้เฮเลนจะไปซื้อของกับ‘คุณพ่อ’ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวตื่นไม่ไหวนะ นายด้วย แฮร์รี่ เลิกอ่านซะที เฮเลนจะได้นอน”ประโยคหลังหันไปบอกอีกฝ่ายที่ยังอ่านหนังสือไม่เลิก ความจริงเป็นการออกคำสั่งอย่างคนที่มีอำนาจสูงสุดในบ้ามากกว่า

“เดรโก~ เพิ่งจะสี่ทุ่มครึ่งเองนะ” แฮร์รี่ประท้วง ตายังไม่ละจากหนังสือเล่มใหม่

ร่างบางเงียบแต่เอื้อมมือไปยึดหนังสือมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วปิดไฟฉับ คราวนี้เรียกเสียงบ่นงึมงำจากสองพ่อลูก แต่เดรโกไม่ใส่ใจ ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้านขวาข้าง ๆ ลูกสาวคนเล็ก ทำให้แฮร์รี่ได้แต่มองหนังสืออย่างเสียดายก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้าง

แล้วทั้งสามคนก็หลับไปอย่างมีความสุข......จบ......

ฮิๆ อย่านึกว่าเราจะยอมเลิกราง่ายๆแค่นั้น.....

“ป๊ะป๋าขา~ หม่าม๊าขา~”

“หืม?...ว่าไงลูก”เจ้าของตำแหน่งหลังที่คงกำลังเคลิ้มๆใกล้จะหลับถาม แต่เปลือกตายังปิดสนิท

“ป๊ะป๋า ป๊ะป๋า”เมื่อเรียกแล้วไม่ได้รับความสนใจ เฮเลน่าเลยหันไปหาคนทางซ้ายแทน

“หืม? นอนไม่หลับเหรอ เฮเลน?”แฮร์รี่ไม่ค่อยแปลกใจ ทั้งเขาและเฮเลน่าหลับไปตั้งแต่บ่าย2 ระหว่างรอเดรโกลองทำอาหารเย็นเป็นครั้งที่ 238 (ซึ่งใช้เวลาไป 4 ชั่วโมง และสุดท้ายก็จบลงด้วยการออกไปกินข้าวนอกบ้านตามเคย) พอถึงเวลานอนจริงๆ เลยไม่มีใครหลับลง นอกจากพ่อครัวคนเก่งที่เสียพลังงานไปมากในการทำอาหารมื้อเดียว แถมไม่สำเร็จอีกต่างหาก

“ป๊ะป๋าเล่านิทานให้ฟังหน่อย~นะ นะ”

“เอาเรื่องอะไรล่ะ...เรื่อง A Legend of the Knights ดีมั้ย?”

“ไม่อาววว เบื่อแล้ว แถมเรื่องนั้นมันไม่ยอมจบอีกต่างหาก เล่าเรื่องซินเดอเรลล่าดีกว่านะจ๊ะ นิทานของมักเกิ้ลที่ป๊ะป๋าเคยบอกว่าจะเล่าให้ฟังไง”

คนเป็นพ่อยอมตามใจ “ก็ได้ ก็ได้ กาลครั้งหนึ่ง....ทำไมต้องเริ่มแบบนี้ประจำเลยนะ....กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....มีลูกสาวของเศรษฐีคนหนึ่ง ชื่อ.....”ดวงตาสีเขียวมองข้ามศีรษะเล็กๆไปหาคนที่หลับตานิ่งไปแล้ว แฮร์รี่ยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก

“...ชื่อเดรโก มัลฟอย”

เท่านั้นล่ะ คนที่แกล้งหลับหันขวับมาทันที!

“โอ้โห ชื่อเหมือนหม่าม๊าเลย”ใบหน้าน่ารัก ถอดแบบมาจากร่างบางที่นอนข้างๆ หันมาทำตาโต พยักหน้าหงึกหงักกับป๊ะป๋า

“ช่ายยย เดรโกอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงแล้วก็...”

“ทำไมฉันต้องเป็นซินเดอเรลล่าด้วย!”ตาสีซีดทิ้งแววสะลึมสะลือเสียสนิท รีบเอื้อมมือไปจับแก้มเล็กๆให้หันมาหา “ไม่ใช่หรอก เฮเลน ลูกสาวของเศรษฐีชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์ต่างหาก”

“เฮ้ ได้ไง เดรโก ฉันเป็นผู้ชายนะ”

“แล้วฉันเป็นผู้หญิงรึไง!”

“แค่นิทานน่า เอาเป็นว่านางเอกชื่อเดรโก”

“ชื่อแฮร์รี่!”

เด็กหญิงหันซ้ายหันขวามองป๊ะป๋ากับหม่าม๊าเถียงกันต่อไปอีกเกือบ 10 นาที ในหัวเล็กๆคิดว่า ...แล้วซินเดอเรลล่าหายไปไหน?.....

ครอบครัวสุขสันต์ ภาคนิทานก่อนนอน : ซินเดอเรลล่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ประเทศฮอกวอร์ต ดินแดนเล็กๆที่แสนสงบ ยังมีครอบครัวของเศรษฐีผู้มั่งคั่ง ตัวเศรษฐีผู้หล่อเหล่าเบาปัญญานั้น มีนามว่า กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต เขาเป็นที่รู้จักของคนทั้งเมืองตั้งแต่ได้ริเริ่มเทศกาลวาเลนไทน์ที่ทำให้ชาวบ้านทั้งหลายส่ายหน้าและร้องยี๊

เมื่อ 2 ปีก่อนเศรษฐีล็อกฮาร์ตรับเซเวอรัส สเนป ภรรยาคนที่สองผู้เคร่งขรึมและมีเสน่ห์เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์พร้อมด้วยลูกติดของภรรยาอีก 2 คน คือ เครปและกอยล์ ถึงจะไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่ทั้งสองก็เป็นที่เอ็นดูของล็อกฮาร์ตอย่างมาก เนื่องมาจากดีกรีความโง่ที่สูงยิ่งกว่าตัวเอง

นอกจากลูกสาวทั้งสองแล้ว เศรษฐีล็อกฮาร์ตก็ยังมีลูกสาวที่เกิดกับภรรยาคนแรก เธอมีชื่อว่าเดรโก มัลฟอย เด็กสาวน่ารักและแสนดี ผู้เป็นที่รักของทุกคน (มั้งนะ)

เรื่องราวชีวิตอันแสนลำเค็ญ(?)ของเดรโก เริ่มขึ้นหลังจากวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง...เมื่อบิดาของเธอกำลังจะจากไปด้วยโรคเนื้อเยื่อสมองเปื่อย....

“คะ...เครป...กะ..กอยล์....พ่อคงไม่รอดแล้ว....เจ้าสองคน....อย่าลืม...จัดการเศษเค้กที่ซ่อนไว้ใต้เตียงล่ะ....มดมัน...ขึ้นแล้ว....”ล็อกฮาร์ตพยายามสั่งเสียลูกรักทั้งสองด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น

“อั๊บ เอ๊ย! อ้ะ อ้านอ้อ”เสียงทุ้มน่าเกลียดสมเป็นตัวร้ายดังมาจากปากหนาๆของลูกสาวทั้งสองที่ยังเคี้ยวขนมเต็มปาก

ท่านเศรษฐีหันไปหาภรรยาที่ยืนหันหลังให้อยู่ตรงโต๊ะตัวใหญ่ มือบอบบางทั้งสองหยิบจับข้าวของบนโต๊ะง่วนอยู่ “เซ....เซเวอรัส....เธอทำอะไรอยู่?....มะ...มาทางนี้หน่อยสิ”

ร่างบางหันมามองด้วยดวงตาเย็นชา พร้อมกับหยิบเศษหนังซาลาแมนเดอร์ใส่ลงไปในขวดน้ำยาสีเขียว“ฉันงานยุ่งไม่เห็นเรอะ!” สเนปพูดอย่างหงุดหงิดแบบไม่ปิดบัง...เป็นธรรมดาของสามีภรรยาที่ต้องรับนิสัยลึกๆของอีกฝ่ายได้....เธอจึงแสดงธาตุแท้ออกมาแบบไม่ยั้ง... “มีอะไรก็รีบๆพูดมา”

“เดร...เดรโกอยู่ไหน?”

เสียงเปิดประตูดังลั่น พร้อมกับร่างบางเดินอาดๆท่าทางหยั่งกับนักเลง ตรงเข้ามานั่งบนเตียงข้างผู้เป็นพ่อ “เรียกทำไมแต่เช้า ห๊า!”เสื้อยืดบางๆและกางเกงขาสั้น รวมกับใบหน้าสวยที่มีร่องรอยของความหงุดหงิดบอกชัดว่าเจ้าตัวเพิ่งตื่นนอน

“เดร....เดรโก...พ่อ...คงจะไม่รอดแล้ว...”

“เออ ดี หมดเรื่องแล้วใช่มั้ย จะได้ไปนอนต่อ!”ร่างบางสะบัดหน้าเดินกลับห้องนอนอย่างหงุดหงิด

ล็อกฮาร์ตไอค่อกแค่กไม่หยุดจนตัวงอ ร้องเสียงแหบแห้ง “มะ...ไม่...ฉันไม่ยอมตายหรอก...ทำไม...ทำไม...เจ้าของรางวัลยิ้มเสน่ห์ 5 ปีซ้อนอย่างฉันถึงได้....บทน้อยอย่างนี้.....”

สเนปเดินถือขวดแก้วมาชิดเตียง บอกด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ปัญญาอ่อนรึไง! ถ้าแกจะตายจริงๆฉันคงไม่ต้องมานั่งทำยานี่หรอก ดื่มซะ!”มือเรียวที่ปกติไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงง้างปากอีกฝ่าย บังคับกรอกน้ำยาให้สามีดื่มจนหมด

“เฮ้ย!”

....................................

วันต่อมาเดรโกก็ยืนส่งบิดาที่ต้องออกเดินทางเพื่อตามหาความทรงจำของตัวเองด้วยความสบายใจ

....ก็บอกแล้วว่าบิดาจากไป ไม่ได้บอกว่าตายซะหน่อย...


หลังจากนั้นวันเวลาแห่งความเจ็บปวดของเดรโกก็มาถึงโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว

ความลำบากของเธอน่ะเหรอ? ก็อย่างเช่น.....

“เดรโก!เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปซักซิ!”เสียงกอยล์พี่สาวต่างมารดาสั่ง เมื่อเธอเดินผ่านห้องอาหาร อันเป็นที่สิงสถิตของเครปและกอยล์

“กอยล์! แกกล้าสั่งฉันเรอะ!!!” ดวงตาสีฟ้าขุ่นมัวตวัดมอง (กะ...ก็..ตามบท ฉะ...ฉันต้อง.... : กอยล์) (อ๋อ นี่ แกกลัวไอ้คนเล่าเรื่องมากกว่าฉันใช่มั้ย!? : เดรโก)

....ไม่รู้ทำไม...จู่ ๆ คุณพี่สาวนัมเบอร์วันที่แสนร้ายกาจก็เงียบกริบ ไม่มีปากเสียง แถมยังทำท่าหงอลงอย่างเห็นได้ชัด....

เครปที่เพิ่งเดินกลับมาจากห้องครัวที่อยู่ติดๆกันก็ได้บทร้องสั่งบ้าง “เดรโก!ไปจัดการ.....!!”

.....อีกแล้ว...ไม่รู้ทำไม ขนมในมือเครปร่วงลงไปกองกับพื้น เมื่อหันมาเจอสายตาคนรับคำสั่ง....

(พี่สาว 2 คนน่าสงสารจังนะคะหม่าม๊าขา ป๊ะป๋าขา : เฮเลน่า) ( ... : เดรโก)

“มีอะไรเหรอ...จ๊ะ......พี่”เดรโกผู้น่าสงสารพูดเสียงเหมือนกำลังกัดฟันเต็มที่ (แว่วเสียงกลั้นหัวเราะดังมาจากไหนไม่รู้)

เครปถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะกลับเข้าโหมดพี่เลี้ยงใจร้ายต่อ “ฉันบอกให้ไปทำอาหารมาเพิ่มไงล่ะ!”

“ว่า-อะ-ไร-นะ-!!!” ซินเดอเรลลาหลุดน้ำเสียงเน้นแปลกๆ ออกมาอีกแล้ว

“ปละ...เปล่าจ้ะ....เอ้อ....ช่วยกรุณาไปทำอาหารมาให้หน่อยได้มั้ยจ๊ะ แหะๆ”

เดรโกนิ่งไปเหมือนจะชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วยักไหล่ “ไม่เอาดีกว่า ฉันไม่ชอบแตะพวกของสด มันแหยะมือ”

(ความจริงแล้วนางเอกเป็นโรคภูมิแพ้การทำอาหารไง : เดรโก) (เหมือนหม่าม๊าจริงๆด้วย :เฮเลน่า)

หรือในอีกบางที เธอก็ต้องอดหลับอดนอน เมื่อแม่เลี้ยงของเธอเรียกให้ไปห้องปรุงยาที่สร้างขึ้นใหม่

“เดรโก ยาตัวใหม่เสร็จแล้วล่ะ ส่วนผสมของมันหายากมาเลยนะ เอ้า! ลองเอาไปเล่นดูแล้วกัน”แม่เลี้ยงที่เอาใจเธอซะเหลือเกิน ยอมไว้วางใจให้เดรโกใช้ลูกสาวอีก2คนเป็นหนูทดลองยาอยู่บ่อยๆ

“ครับ เซเวอรัส” --- (อ้าว ทำไมไม่ ‘ค่ะ’ล่ะ? :แฮร์รี่)----- (ไม่มีทาง!! : เดรโก)

นั่นเป็นแค่ตัวอย่างของชีวิตเดรโกในคฤหาสน์หลังใหญ่โดยปราศจากผู้เป็นพ่อ...ทุกอย่างดูจะราบรื่นแลสงบสุขดีจนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง...

ตึง!!!!!!

เสียงอย่างกับภูเขาถล่มดังมาจากหน้าบ้านทำให้ทุกคนสะดุ้ง วิ่งลงไปดูด้วยความตกใจ!!!

“เกิดอะไรขึ้น!!!!”สเนป และลูกสาวทั้งสองร้องถามเมื่อมาถึงชั้นล่าง ก่อนจะนิ่งอึ้งเมื่อเห็น ‘ตัวต้นเหตุ’ที่ว่า

“ฮ้าว~ เกิดอะไรขึ้น”ขณะที่ทุกคนกำลังอึ้ง เดรโกที่เพิ่งชะโงกหน้าลงมาจากบันไดขั้นบนสุดก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

“ไง ทุกคน ฉันเป็นคนเดินสารของปราสาทฮอกวอร์ต ชื่อ แฮกริด”ชายร่างใหญ่อย่างกับยักษ์ทักทายคนทั้งบ้านหลังจากเปิดประตูบ้านไม่สำเร็จ เลยดันเบาๆ จนมันพังโครมลงมาอย่างที่เห็น “เย็นวันนี้จะมีงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าชายที่ประสาท ขอเชินหยิงสาว (และชายหนุ่ม) ทุกคนไปร่วมงาน....ฯลฯ”

แฮกริดยกบัตรเชิญขึ้นมาอ่านผิดๆถูกๆ ยังดีที่คนฟังก็พอจะจับใจความได้ เครปและกอยล์ตาลุก ถลาไปชิงบัตรมาอ่าน แต่ดันอ่านไม่ออก สเนปจึงแย่งมาซะเอง ก่อนจะเอ่ยปากไล่คนส่งสาร

“ส่งแล้วก็ไปซะสิ อ้อ! อย่าลืมจ่ายค่าซ่อมประตูให้ฉันด้วย!”

อีกฝ่ายหน้าเหวอ ลงท้ายก็ต้องจ่าย เพราะไม่งั้นอาจจะเจอยาพิษซักสองสามขนานได้

เย็นวันนั้น เครปและกอยล์พยายามแต่งตัวสุดฤทธิ์ ขณะที่แม่เลี้ยงเพิ่งออกมาจากห้องปรุงยา ไม่ใส่ใจจะแต่งตัวอะไรมาก

ส่วนเดรโก.............อ้าว...ไปไหนแล้วล่ะ?......

.......อ๋อ....นั่งเล่นหมากรุกเวทมนต์อยู่ในห้องโถงนั่นเอง...........

“เดรโก”เครปเรียกอย่างเกรงๆ

“อะไร!”ร่างบางตอบตาขุ่น (เสียสมาธิหมด! : เดรโก)

“ยะ...ยังไม่แต่งตัวอีกเหรอ?”

“ไม่ล่ะ ขี้เกียจไป งานงี่เง่าอะไรก็ไม่รู้ พวกนายไปกับอาจา...เอ๊ย! แม่เถอะ”

และแล้วคืนนั้นเดรโกก็นั่งอ่านแมกกาซีนเล่มโปรดอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่อย่างสงบสุข...จนกระทั่ง....

ปิ๊ง!

“เดรโกจ๋า~!!!!!”

“เฮ้ย!” ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ดีๆก็มีแขนของใครก็ไม่รู้ว่าโอบกอดจนต้องผลักออกไปด้วยสัญชาติญาณ

“ว๊าย!” เสียงอุทานอย่างตกใจดังมาจากร่างที่ถูกผลักลงไปกองกับพื้น

“ขโมย!!!!!!” ลูกสาว เจ้าของบ้านร้องลั่นพร้อมกับเตรียมจะวิ่งหนี แต่ถูกมือของผู้บุกรุกดึงไว้เสียก่อน

“เดี๋ยวๆ ไม่ใช่แล้ว! ใจเย็นๆ ก่อน ฉันมาดีนะ”

นั่นแหละเดรโกถึงยอมหันไปดู เด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งอยู่บนพื้น เธอใส่ชุดสีขาวล้วนพร้อมกับสวมหมวกใบโต ใบหน้าที่คล้ายกับหมาจูยิ้มหวานชวนสยองพิกล

“หวัดดีจ๊ะ เดรโก ฉันชื่อแพนซี่ เป็นนางฟ้าผู้พิทักษ์ของเธอ” (แพนซี่เนี่ยนะเป็นนางฟ้า? : เดรโก)

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ขโมย นางเอกของเราเลยหายตกใจ ใบหน้าขาวเรียวทักตอบห้วนๆ “หวัดดี เธอมาทำไมเนี่ย”

“เธอไม่อยากไปงานเต้นรำเหรอ เดรโก”

ร่างบางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะพร้อมกับเก็บม้าหมากรุกที่กระจัดกระจายเมื่อครู่ “ไม่อยากไป ขี้เกียจเตรียมชุด”

นางฟ้า(?)เลิกคิ้วพร้อมกับยื่นข้อเสนอ “จริงเหรอ? ฉันเสกให้เธอได้นะ”

“ไม่ล่ะ ฉันเบื่องานไร้สาระ” เด็กหนุ่มยังคงตอบแบบไยดี แต่นั่นกลับเรียกรอยยิ้มจากผู้พิทักษ์ได้ เจ้าหล่อนรีบเข้ามาใกล้แบบตีสนิท

“แหม จริงด้วยเนอะ งานมันออกจะน่าเบื่อ” มือวางบนไหล่ของร่างบางแล้วก็กระซิบ “เราออกไปเที่ยวหาอะไรสนุกๆ กันดีกว่ามั้ย”สายตาเจ้าเล่ห์ส่งรังสีแปล๊บปล๊าบแล่นไปทั่ว ทำเอาคนที่เป็นเป้าหมายรู้สึกเสียงสันหลังวาบ

“ขอบใจนะ แต่ไม่ดีกว่า”

ร่างบางทำท่าจะลุกหนี แต่อีกฝ่ายรู้แกว กดไหล่บางให้นั่งลงที่เก้าอี้เอนตัวใหญ่ข้างๆ ก่อนที่แพนซี่จะนั่งลงบนที่เท้าแขน

“จะทำอะไรของเธอน่ะ!”

เดรโกร้องอย่างตกใจ เมื่อใบหน้าสวยสยองยื่นเข้ามาใกล้!! ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลพยายามยันร่างของนางฟ้าออกห่าง แต่ไม่เป็นผล!!

ป๊อก!

“กรี๊ด! ใครเอาอะไรมาเคาะหัวฉัน!”แพนซี่กรี๊ดลั่น เมื่อมีมือดีมาเคาะศีรษะของเธอแบบไม่เบานัก ขณะที่เดรโกแทบจะขอบคุณคนมือดีที่ว่าซักร้อยครั้ง ที่ให้โอกาสเผ่นออกจากเก้าอี้ตัวโปรดได้

ร่างที่ยืนข้าง ๆ แพนซี่เป็นหญิงสาวผมน้ำตาลฟูฟ่อง มือหนึ่งหิ้วหนังสือเล่มหนาปึ้ก 2 เล่ม อีกข้างถือไม้กายสิทธิ์ที่เพิ่งใช้หยุดพฤติกรรมฉาวโฉ่ของนางฟ้านอกคอกไปหมาดๆ

“ทำบ้าอะไรของเธอ!”

“ฉันต้องถามเธอมากกว่านะ พาร์กินสัน” ผู้มาใหม่หรี่ตาเขม็งก่อนจะหันมาทางเดรโกที่ยังอึ้งอยู่พร้อมกับเอ่ยทักทายหน้าเฉย “สวัสดีมัลฟอย เอ๊ย เดรโก ฉันคือ เฮอร์ไมโอนี่ เป็นนางฟ้าผู้พิทักษ์ฝั่งขวาของเธอ”

“เห นางฟ้าผู้พิทักษ์นี่มีตั้ง 2 คนเชียวเหรอ” ร่างบางที่ผละหนีจากแพนซี่ได้แล้วถามพร้อมกับเลิกคิ้ว

“กรณีทั่วไปน่ะไม่หรอก” นางฟ้าคนที่สองวางหนังสือลงบนโต๊ะพลางเหลือบมองคนชุดขาวอีกคนที่เลี่ยงไปยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ ร่างบาง “แต่พอดีนางฟ้าคนแรกของเธอไม่ผ่านโปรเบชั่น ฉันเลยต้องมาเป็นนางฟ้าสมทบอีกที”

“อ้อ” หลังจากหายงงแล้วเดรโกก็พยักหน้ารับรู้ “งั้นก็ดี ไว้ว่างๆฉันจะเรียกใช้พวกเธอละกัน ตอนนี้...” ร่างบางลุกขึ้นยืน ใบหน้าสวยปิดปากหาว “ฉันง่วงแล้วล่ะ พวกเธอกลับไปได้” พูดแล้วก็โบกมือไล่เสียเลย

นางฟ้าเฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว “เธอไม่ไปงานเต้นรำหรือไง มัล...เดรโก”

คิ้วเรียวของคนถูกถามขมวดแบบไม่พอใจหน่อยๆ “ถามเหมือนกันเลยนะ ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบไปงานงี่เง่าแบบนั้น”

“แต่เธอต้องไปงานนั้นนะ” นางฟ้าคนที่สองค้านเสียงแข็ง

“ทำไมฉัน ‘ต้อง’ ไปด้วยไม่ทราบ” เดรโกเดินผ่านไปทางห้องโถง เตรียมขึ้นบันไดไปห้องนอนชั้น 2

“ใช่!ในเมื่อเดรโกไม่อยากไป เธอก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับนะ!”เสียงสนับสนุนจากข้างตัวทำให้เดรโกหันขวับไปมอง นางฟ้าพาร์คินสันตามติด พลางทำเสียงไล่นางฟ้าเฮอร์ไมโอนี่ ก่อนจะกอดแขนเดรโกทำท่าจะพาเจ้าของบ้านขึ้นห้องเสียเอง!

“เดี๋ยว!!!!”เดรโกร้องลั่น ด้วยความที่ตั้งตัวไม่ติด ทำให้โดนฉุดตัวปลิวไปตามแรง แต่ก่อนที่นางเอกของเราจะถูกนางฟ้าไม่ผ่านโปรพาไปปู้ยี่ปู้ยำ ไม้กายสิทธ์ในมือนางฟ้าฝั่งขวาสะบัดขึ้น

“พอเลยพาร์คินสัน!”

“กรี๊ด!!!!” นางฟ้านอกคอกร้องก่อนที่ร่างจะถูกเปลี่ยนเป็น...เอ่อ เป็นม้าตัวโตพันธ์ประหลาดที่ดันหน้าตาเหมือนหมาจูพร้อมกับเทียมรถม้าสีขาวด้านหลังเรียบร้อย แถมนางฟ้าเฮอร์ไมโอนี่จับบังเหียนไว้กันเจ้าม้าวิ่งหนีอีก

“เอาล่ะ เดรโก เธอไปงานเต้นรำได้แล้ว” เสียงสั่งจากนางฟ้าท่าทางคงแก่เรียน แต่คุณหนูซินเดอเรลลาที่หายตกใจกับสถานการณ์พลิกผันเมื่อครู่กลับปฏิเสธเสียงแข็ง

“ไม่ไป เรื่องอะไรฉันจะต้องไปงานงี่เง่านั้น..เฮ้ย!..”

‘เพอทริฟิคัส โททาลัส!’

ร่างบางที่เถียงแอดๆอยู่ตัวแข็งทื่อ!แขนขาขยับไม่ได้ด้วยพลังที่มองไม่เห็น แถมยังถูกลากไปยัดเข้าไปในรถม้าอย่างรวดเร็วเกินจะตั้งตัวทัน!!

“ยัยหัวฟู ทำอะไรของเธอ ห๊า ฉันบอกว่าไม่ไปไง...อื้อ...” เสียงประท้วงลั่นๆหายไปเมื่อนางฟ้าแม่เสือจัดการเอาผ้ามัดปากเหยื่อ เอ๊ย! คนในพิทักษ์แล้วขึ้นมานั่งกุมบังเหียนขับรถม้าออกไปทันที

(แฮร์รี่ นี่มันลักพาตัวชัดๆ นางฟ้าบ้านนายสิทำแบบนี้! : เดรโก)

/~/~/~ตัดฉากมาที่งานเต้นรำบ้างดีกว่า~/~/~/

บรรยากาศภายในงานเลี้ยงของปราสาทคืนนี้ออกจะคึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนแต่งตัวสวยงามเดินเฉิดฉายไปมา แถมด้วยอาหารเลิศรสนานาชนิดที่ตรึงคนหลายคนไว้ที่โต๊ะแบบไม่ยอมลุกไปไหน

อย่างเช่นคุณลูกสาวของบ้านเศรษฐีนี่ไง - - -

“งั่มๆๆๆๆ อันนี้อาอ่อยอังเอยอ่ะแอบ (อันนี้อร่อยจังเลยล่ะแครบ)” เสียงลูกสาวคนโตบอกน้องสาวทั้งมือทั้งปากแทบไม่มีที่ว่าง

“อิงอ้วย (จริงด้วย)” อีกคนก็มีสภาพไม่ต่างกัน เล่นเอาคนแถวนั้นมองเป็นตาเดียว ...ต๊าย ลูกบ้านไหนเนี่ย ท่าทางพ่อแม่จะไม่ค่อยได้ให้อาหาร…

อ๋อ คนเป็นแม่น่ะเหรอ โน่น เดินไปโน่นแล้ว พยายามทำเป็นว่าไม่ได้มาด้วยกันเฉยเลย (เข้าใจอ่ะนะว่ามันน่าอาย แหม)

ร่างบางในชุดเสื้อคลุมสีดำของเซเวอรัส สเนปเดินผ่านห้องสังสรรค์ไปหลบอยู่ในมุมมืดริมห้อง ที่จริงก็ไม่อยากมางานนี้เท่าไหร่หรอก แต่ได้ข่าวว่าที่ปราสาทมีตัวยาที่หายากเพิ่งส่งมาจากประเทศอื่น เลยกะจะมาเจรจาขอซื้อสักหน่อย ถ้ารีบๆเจรจากับกองคลังได้ก็ดี ไม่อยากเจอหน้า‘คนบางคน’

“งานน่าเบื่อมากหรือ” เสียงถามจากคนที่มายืนใกล้ๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ดวงตาสีดำปรายมองร่างสูงที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ ...พูดถึงก็โผล่มาทันทีเลยนะ น่าเบื่อจริงๆ!...

“หม่อมฉันไม่ชอบงานแบบนี้” สเนปตอบไปแบบราชาศัพท์เต็มขั้นแล้วรีบออกตัว “เจ้าของงานอย่างฝ่าบาทน่าจะไปต้อนรับแขกได้แล้วนะกระหม่อม” พูดสุภาพแต่สีหน้ากับน้ำเสียงเนี่ยเหมือนอยากจะบอกว่า แกรีบไปไกลๆเลยไป

พระราชาเจมส์ พอตเตอร์ที่ 3 ตีสีหน้าเบื่อหน่ายปนออดอ้อนที่ดูไม่เหมาะกับพระชนมายุเท่าไหร่

“งานของลูกชายฉันต่างหาก ไอ้หนูนั่นก็ไม่ยอมเลือกคู่เต้นรำเสียที” ว่าแล้วก็ทำเนียนขยับเข้ามาหาร่างบางที่ตีสีหน้าขรึมไม่เปลี่ยน “ไปหาอะไรทำแก้เบื่อกันไหม เซเวอรัส” ไม่พูดเปล่า มือเลื่อนมาจะโอบไหล่อีกแน่ะ

คุณแม่ครอบครัวเศรษฐีตีหน้าหงิกไม่สนกับเสียงหวานเอาใจนั่น “กระหม่อมว่าพระองค์ไปจัดการกับเงาดำข้างหลังให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะ” ดวงตาสีดำปรายไปด้านหลังทำเอาพระราชาจอมกะล่อนสะดุ้งโหยง

/~/~/~ไม่เอาแล้ว จะให้พระเอกออกมาเสียทีละ~/~/~/

ขณะที่หลายคนกำลังเพลิดเพลินกับงานเต้นรำ ชายหนุ่มผู้เป็นจุดเด่นของงานกลับหลบออกมายืนเท้าคางอยู่ที่ระเบียงพลางตีหน้าเซ็งสุดขีด “เฮ้อ งานเลือกคู่ น่าเบื่อชะมัด เสด็จพ่อก็ไม่ช่วยกันรับแขกเลย หายไปหลีสาวที่ไหนอีกเนี่ย ขนาดวิญญาณเสด็จแม่เกาะติดแบบนั้นแท้ๆนะ”

รำพึงยาวเหยียดเชียวนะองค์ชาย เอ้า ของที่จะแก้เบื่อได้มาแล้วจ้า เดลิเวอรี่โดยนางฟ้าเฮอร์ไมโอนี่เจ้าเก่า

ร่างสูงยืดตัวขึ้นเมื่อเห็นรถม้าสีขาวคันหนึ่งแล่นผ่านประตูปราสาทเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับพายุ ก่อนที่จะหยุดกึกแล้วสารถีคนขับก็ลงจากหลังม้าไปเปิดประตูให้คนในรถออกมา มองจากระยะไกลแบบนี้เห็นไม่ค่อยชัด แต่ดูเหมือนกำลังวุ่นวายกันน่าดู

สารถีผมฟูกำลังพยายามฉุดลากร่างบางในชุดกรุยกรายที่เกาะตัวรถไว้แน่น แถมเจ้าม้าเทียมรถก็พยายามเอี้ยวตัวไปคาบชายกระโปรงยาวของฝ่ายที่ถูกดึงออกมาเสียอีก

“ไม่ไป!บอกว่าไม่ไปไง!!!!” เดรโกหรือซินเดอเรลลาพยายามยึดประตูรถไว้ แต่สุดท้ายก็แพ้แรงนางฟ้าจอมเผด็จการจนได้ ร่างบางถูกลากมายืนที่หน้าบันได พร้อมกับสารถีนางฟ้าขยับบังเหียนพารถแล่นออกไปทันที!

“เดี๋ยวจะมารับตอนเที่ยงคืน อย่าให้ฉันรู้นะว่านายแอบหนีออกมาก่อน ไม่งั้นเจอดี!!!!”

มีการบอกคาดโทษทิ้งท้ายเสียงเหี้ยมอีก หนูซินของเราเลยได้แต่ยืนกัดฟันกรอดขยับปากงุบงิบอยู่คนเดียว

“โธ่โว้ย! ยัยนางฟ้าบ้า คอยดูนะ จะไปฟ้อง...ฟ้อง...ฟ้องใครดีล่ะ..ฮึ่ย!”

ก่อนที่คนหน้าสวยจะงุ่นง่านไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงเรียกจากทางด้านหลัง “เอ่อ...”

“อะไร!” เดรโกหันขวับตาขวางจนคนเรียกยิ้มเจื่อน ๆ

“ก็....เธอจะเข้าไปข้างในไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ได้จะเข้าไปสักหน่อย!” เสียงหวานตวัดห้วนอย่างหงุดหงิด แต่คนฟังกลับคิดว่า ใบหน้าเรียวที่กำลังบึ้งตึงแบบนี้ก็ดูน่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน ต่างจากพวกสาวๆที่คอยยิ้มหวานมาประจ๋อประแจ๋พระองค์กันทั้งงาน เจ้าชายแฮร์รี่เผลอยิ้มออกมาแบบเอ็นดู

(อืม ตอนทำหน้าแก้มป่องน่ารักจริงๆด้วยแหละ : แฮร์รี่ / พูดอะไรของนาย รีบๆเล่าต่อไปเลย: เดรโก///)

“ยิ้มอะไร!”

ผู้มาเยือนขึงตาใส่เจ้าของบ้าน จนเจ้าชายต้องรีบตอบ

“เปล่าๆ ว่าแต่เธอจะไม่เข้าไปข้างในเหรอ”

“ไม่ล่ะ ไม่ชอบ” ร่างบางทรุดนั่งลงกับบันไดขั้นแรกสุดทั้งที่ยังใส่ชุดกรุยกราย โดยไม่กลัวว่าชุดจะขาดหรือเปรอะเปื้อน ก็แน่ล่ะ มันไม่ใช่ชุดของเขานี่นา ร่างบางสะดุ้งเมื่อร่างสูงของคนที่ยืนอยู่เมื่อครู่ทรุดนั่งข้างๆ

“นาย จะมานั่งทำไม! ไม่กลับเข้าไปในงานล่ะ!”

ชายหนุ่มหันกลับมาตอบยิ้มๆ “ก็เหมือนเธอนั่นแหละ งานมันน่าเบื่อออก”

เดรโกค่อยมองผู้ที่คุยด้วยมาตั้งนานอย่างพิจารณา ร่างสูงในชุดรอยัล แพทเทิร์นคอตั้งเรียบกริบสีขาวสะอาดตัดกับเส้นผมสีดำที่ติดจะยุ่งนิดๆ ก็ดูมีชาติตระกูลดีอยู่ น่าจะไม่ใช่พวกองครักษ์นะ

มัวแต่มองเพลิน ดวงตาสีฟ้าเลยสบเข้ากับตาสีเขียววิบวับของอีกฝ่าย ทำเอาคนที่แอบมองต้องพูดเสียงห้วนแก้เขิน “งั้นนายจะมานั่งแถวนี้ทำไมไปหาที่อื่นสิ!”

“ก็ตรงนี้ ‘วิว’ สวยดีนี่นา” ร่างสูงไม่ยอมขยับ คนตัวเล็กกว่าเลยต้องปล่อยเลยตามเลย อยากนั่งก็นั่งไปสิ จะว่าอะไรได้ล่ะ ไม่ใช่บ้านฉันนิ่ ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองดูนาฬิกาบนหอนาฬิกาแล้วบ่นอย่างหงุดหงิด

“โธ่เว้ย อีกตั้งสองชั่วโมงแน่ะ”

เสียงเพลงจากห้องโถงดังแว่วมา ความจริงในงานก็คงจะครึกครื้นกันดีนะ ร่างบางคิดแล้วรีบส่ายหน้า ไม่เอาๆ ใครจะอยากไปงานงี่เง่าแบบนั้น แหวะ ต้องไปถวายบังคมเจ้าชายอะไรนั่นอีก เฮอะ นั่งตากลมอยู่กับเจ้าซื่อบื้อข้างๆ นี่ยังดีเสียกว่า (หึหึ นั่นสิเนอะ : แฮร์รี่ / ตกลงจะเล่าต่อหรือเปล่า ง่วงแล้วนะ : เดรโก)

“นี่...” เสียงเรียกจากชายหนุ่มข้างๆ

“มีอะไร” ร่างบางที่กำลังเซ็งได้ที่หันไปขมวดคิ้วถาม

“เธออยากเต้นรำไหม?”

“ไม่มีทาง!” ใบหน้าสวยแยกเขี้ยวใส่ “ถ้านายอยากเต้นก็เชิญกลับเข้าไปข้างในโน่นไป” มือเรียวชี้นิ้วไปทางห้องโถงใหญ่ แต่คนชวนรีบปฏิเสธ “ไม่ใช่ ฉันเห็นเธอเบื่อน่ะ อือ งั้นอยากกลับบ้านแล้วเหรอ”

เดรโกพยักหน้า “อยากกลับสิ แต่นางฟ้า เอ๊ย ยัยสารถีของฉันน่ะ จะมารับตอนเที่ยงคืน เลยต้องนั่งเงกรออยู่นี่ไง”

“อือ ความจริงจะให้รถม้าของปราสาทไปส่งเธอที่บ้านก็ได้นะ” เจ้าชายแฮร์รี่ยื่นข้อเสนอ

“จริงเหรอ?” อีกฝ่ายรีบแถมแบบดีใจ

เจ้าชายทำท่าครุ่นคิด “ก็ไปส่งได้อยู่หรอกนะ แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร!” เสียงห้วนอีกแล้ว จะไปส่งหรือไม่ไป ลีลาอยู่ได้

“แต่ว่าเธอต้องเต้นรำกับฉันก่อน”

“ทำไมฉันต้องเต้นรำกับนายด้วย!” คราวนี้ร่างเล็กตวาดเสียงดังเชียว

“อือ ไม่เต้นก็ไม่เป็นไรนะ” เจ้าชายผู้เป็นต่อแล้วลุกขึ้นยืน “งั้น ฉันไปก่อนล่ะ” ทำท่าเหมือนจะเดินจากไปจนเดรโกต้องร้องเรียก “เดี๋ยวๆ แค่เต้นรำกับนาย แล้วนายจะให้รถม้าไปส่งฉันที่บ้านจริงๆนะ”

“จริงสิ” เจ้าชายแฮร์รี่พยักหน้า เดรโกนิ่งคิดอยู่นานเลยไม่ทันสังเกตใบหน้าของชายหนุ่มข้างๆ ที่ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมานิดๆ

“ก็ได้”

ตกหลุมเสียแล้วน้องซินเอ๊ย

เจ้าชายแฮร์รี่โค้งให้ร่างบางที่กำลังลุกขึ้นอย่างขัดๆเขินๆ “ให้เกียรติเต้นรำกับผมนะครับ”

“อือ” คนในชุดกรุยกรายยืนนิ่งก่อนจะแตะมือเรียวลงบนมือใหญ่ของอีกฝ่ายเป็นการตอบรับ

(ไม่ถอนสายบัวหรอกเหรอ ผิดธรรมเนียมนะเนี่ย : แฮร์รี่ / ป๊ะป๋าอย่าขัดซี กำลังเข้าฉากซึ้งน๊า : เฮเลน)

ดูเหมือนว่าวงดนตรีที่เล่นอยู่ในห้องโถงใหญ่ก็ออกจะเป็นใจ เมื่อเจ้าชายเอื้อมมือไปโอบเอวบาง เพลงที่เล่นก็เปลี่ยนเป็นจังหวะวอลท์หวานซึ้ง ร่างสูงดึงให้คนตัวเล็กกว่าก้าวไปตามจังหวะเพลงได้อย่างเหมาะเจาะ แม้แต่คนที่ไม่ค่อยเต้นรำอย่างเดรโกยังดูออกเลยว่า อีตาผมยุ่งเนี่ยเต้นรำเก่งชะมัด เขาอดที่จะพลิ้วไปตามการนำของคู่เต้นแปลกหน้าไม่ได้ ความหงุดหงิดเมื่อครู่ดูจะหายไปหมด

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เมื่อทั้งผู้เป็นเจ้าบ้านและแขกหยุดชั่วครู่ที่กลางอุทยาน ใกล้กับบ่อน้ำพุกลางสวน แสงไฟจากโคมที่ประดับตามที่ต่างๆส่องให้เห็นหน้าเรียวสวยที่ยิ้มนิดๆ

“สนุกดีนะ ฉันไม่ได้เต้นรำนานๆแบบนี้มาตั้งนานแล้ว” เผลอพูดออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว ท่าทางแบบเด็กดีใจที่ได้เล่นสนุกทำเอาร่างสูงของคนที่ยังประคองอยู่ยิ้มตอบ

“ถ้าเธออยากเต้นบ่อยๆ ฉันยินดีเป็นคู่เต้นนะ.... เธอชื่ออะไรเหรอ?”

คนถูกถามย่นหน้า “ไร้มารยาทจริง! จะถามชื่อคนอื่นก็บอกชื่อตัวเองมาก่อนสิ”

“ฉันชื่อแฮร์รี่”

“แฮร์รี่? ชื่อโหลนะ ชื่อเหมือนเจ้าชายที่เป็นเจ้าของงานเต้นรำนี่เลย” ร่างบางพูดหน้าตาเฉย ก่อนจะรู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายจ้องหน้าตนเองอยู่ตั้งนานแล้ว แถมเจ้าลูกกะตาสีเขียวนั่นก็วิบวับจนต้องรีบหลบตาลงแล้วเบือนหน้าไปอีกทาง

(ซินเดอเรลลาเขินแล้วล่ะ: เฮเลน/ จริงด้วย โอ๊ย! มาตีฉันทำไมล่ะเดรโก : แฮร์รี่)

ร่างสูงก้มลงกระซิบที่ข้างหู “เธอยังไม่ได้ตอบเลยว่า เธอชื่ออะไร”

“ฉันชื่อ...” ใบหน้าสวยกระซิบเบาๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงระฆังตีบอกเวลาดังลั่น “เที่ยงคืนแล้ว!” นี่มันถึงเวลาแล้วเหรอเนี่ย มันแต่เต้นรำเพลินจนลืมไปเลย

เสียงรถม้าแล่นผ่านประตูเร็วเหมือนขาที่มาส่ง “มารับแล้วจ้า!” นางฟ้าเฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกลั่นจนได้ยินมาถึงตรงนี้ ร่างบางรีบผละจากเจ้าชาย “ฉันต้องไปแล้วล่ะ”

“เดี๋ยว ฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอชื่ออะไร”

“ช่างเหอะน่า ลาก่อนนะ” เดรโกออกวิ่งพร้อมกับตะโกนไล่หลัง แต่ร่างสูงที่วิ่งตามมาดูเหมือนจะไวกว่า

“เดี๋ยวสิ รอก่อน”

คนที่อยากรีบกลับบ้านไม่ฟังเสียง แต่ก็วิ่งหนีไม่ได้สะดวกนัก ก็สวมชุดกรุยกรายแถมใส่รองเท้าแก้วส้นสูงแบบนี้นี่นา “โอ๊ย! เกะกะจริงเฟ้ย!”

สุดท้ายคนหน้าสวยเลยถอดรองเท้าแล้วเขวี้ยงทิ้งไปข้างหนึ่ง รองเท้าลอยหวือเฉียดศีรษะคนที่วิ่งตามมาอย่างหวุดหวิด! ด้วยความที่เป็นนักกีฬาโปโลมือฉมัง เจ้าชายรีบรับวัตถุไม่ปรากฏลักษณะนั้นไว้ด้วยสัญชาติญาณ

ร่างบางทำท่าจะเขวี้ยงอีกข้างตามไป แต่ถูกสกัดด้วยเสียงแหลมของนางฟ้าผู้พิทักษ์เสียก่อน

“หยุดน๊า! อย่าทิ้งนะยะ ไม่รู้จักคุณค่าของเงินเลย รองเท้านั่นคู่เท่าไหร่รู้มั้ย!”

“มันเหลือข้างเดียวแล้ว อย่างกได้มั้ย” เดรโกที่วิ่งเข้ามาใกล้ตะโกนตอบพร้อมกับหอบฮั่กๆ

“ข้างเดียวก็เก็บกลับมาย่ะ เร็วๆ!”

สารถีเปิดประตูรถ ยัดร่างน้องซินที่เหลือรองเท้าข้างเดียวเข้าไปแล้วกระตุ้นเจ้าม้าให้ออกวิ่งออกไปราวกับลูกธนู

กว่าเจ้าชายจะมาถึง รถม้าก็ผ่านประตูปราสาทไปเสียแล้ว ทิ้งไว้แต่รองเท้าแก้วที่สาว (หนุ่ม) น้อยปริศนาทิ้งไว้เท่านั้น...

~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~/~

เช้าวันรุ่งขึ้น แสงสว่างจ้าที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอนทำให้ร่างของลูกสาวคนเล็กของตระกูลเศรษฐีนิ่วหน้าอย่างหงุดหงิด แต่ก่อนที่เธอจะได้ยกหมอนขึ้นปิดหน้าบังแสงแดดเพื่อนอนต่อเหมือนอย่างเคย ความสงบสุขยามเช้า(สำหรับเธอ) ก็ถูกรบกวนด้วยเสียงเคาะประตูแบบเกรงๆ

“เดรโก...เอ่อ...ตื่น...ลงไปข้างล่างหน่อย...”

“ไม่!ไปให้พ้นนะแครบ!” เจ้าของห้องตวาดด้วยความหงุดหงิดที่ถูกรบกวน ....เรื่องอะไรแต่เช้าฟะ!...

คนมาเคาะประตูได้แต่เกาหัว ก่อนจะยอมถอยไปหาแม่และน้องสาวที่อยู่ชั้นล่าง

“เป็นไง?” สเนปถามเมื่อเห็นลูกคนโตเดินลงบันไดมา

“เดรโกไม่ยอมตื่นฮะ”

สเนปยักไหล่แบบไม่คิดอะไรมาก แต่พอหันไปบอกชายร่างยักษ์เจ้าเก่าก็ทำสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันที (เจ้านี่มันทำประตูพังอีกแล้ว!)

“งั้นให้พวกเธอสองคนลองรองเท้าก่อนเลยก็ได้”

ทั้งสองสาวเข้าไปนั่งที่เก้าอี้อย่างไม่เต็มใจ ระหว่างที่แฮกริดก็เตรียมหยิบรองเท้าแก้วออกมา

แครบ ในฐานะพี่คนโต เข้าไปลองรองเท้าแก้วขนาดเล็กที่แค่เทียบกับเท้าระดับเธอแล้ว....คนละไซส์สุดๆ... แค่นิ้วเท้าก็ยังทำท่าจะยัดลงไปไม่ไหว เจ้าตัวคนลองพอเห็นอย่างนั้นก็ดีใจจนออกนอกหน้า

“ใส่ไม่ได้จริงๆด้วย~”

กอยล์แอบสะดุ้งนิดๆเมื่อพี่คนโตโยนรองเท้าส่งต่อมาให้แทบจะทันทีที่พูดจบ “เหวอออ!”

“ลองเร็วๆเข้าสิ พวกนี้จะได้ไปกันซักที!” สเนปเร่ง ท่าทางจะอยากกลับเข้าห้องเต็มที ไม่รู้ทำไม

“อะไรกัน อะไรกัน เซเวอรัส~ เมื่อคืนก็ไม่ได้เต้นรำด้วยกัน วันนี้อุตส่าห์มาหาที่บ้าน ยังจะไล่อีกเหรอ” ....อ้อ เพราะงี้เอง.... พระราชาเจมส์ พอตเตอร์ ผู้ที่พอรู้ว่าเจ้าพนักงานจะมาให้ลูกสาวบ้านนี้ลองรองเท้าก็รีบติดมาด้วยทันที ร่างสูงลุกมาจากเก้าอี้ของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนนี้มายืนเท้าแขนอยู่บนพนักเก้าอี้ของเจ้าของบ้านหน้าตาเฉย

“นาย ~! ลุกมาทำไม กลับไปนั่งที่โน่นเลย”

“เห็นเหล่มองฉันอยู่เรื่อย ฉันก็นึกว่าอยากให้มานั่งใกล้ๆกันน่ะสิ”

“ประสาท!”

...ทั้งแขกทั้งเจ้าของบ้านเถียงกันไปเถียงกันมาไม่เลิก ลืมสนใจคนรอบข้างเขาเฉยเลย สุดท้ายเจ้าพนักงานแฮกริกทนไม่ไหวเลยต้องท้วงขึ้นมา

“เอ่อ ฝ่าบาท...กับคุณเจ้าของบ้าน”

“อะไร!” สเนปหันมาทำตาเขียวปั๊ดใส่จนแฮกกริกสะดุ้งโหยง โวยเจ้านายไม่รู้สึก ด่าลูกน้องแทนก็ได้ฟะ

“อ่า...เด็กสาวสองคนนี้ลองรองเท้าเสร็จแล้ว”

อ้าวเหรอ...เสร็จไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย หันไปดูปรากฏว่าแครบกับกอยย์ไปนั่งกินอาหารเช้ารอบที่ 3 อยู่ในครัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระราชาหันมาถามท่าทางเป็นงานเป็นการขึ้น “เซเวอรัส บ้านเจ้ายังมีลูกอีกคนไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่เรียกมาลองล่ะ”

“เรียกแล้ว แต่เดรโกยังไม่ตื่น ไม่อยากปลุก”

“ตามใจลูกจัง เดี๋ยวจะเสียเด็กเหมือนไอ้ลูกชายตัวดีของฉันนะ ดูซิ ให้เลือกลูกสะใภ้ในงาน ดันไปถูกใจสาวที่ไหนแล้วไม่ถามชื่อเค้าไว้อีก บื้อไม่สมกับเป็นลูกเราเล๊ย”

“เหอะ ดีแล้วที่ไม่ได้เป็นอย่างพระองค์น่ะ!” คนฟังว่า แต่ก่อนที่จะเกิดสงครามน้ำลายขึ้นอีกครั้งก็มีเสียงดังมาจากชั้นบนเสียก่อน

“ปล่อยน๊า! ไม่ไป~!!!!” ลูกคนเล็กของบ้านตะโกนลั่นๆดังก้องมาจากบันได

“ไม่ต้องมาโยกโย้เลย มานี่ ไปเอารองเท้าคืนมาเสียดีๆ” อีกเสียงดังแทรกมา เป็นเสียงของสาวน้อยที่ฟังดูก็รู้ว่าเจ้าของเสียงคงโหดเอาการ “ของตั้งแพง ชั้นต้องเอาไปคืนเค้านะยะ”

“ก็ไปเอาคืนเองเซ่!” เดรโกว่าพลางยึกหัวบันไดไว้แน่น แต่ก็ไม่วายถูกลากลงมาจนถึงห้องโถงจนได้

“เธอเป็นใครเนี่ย?” สเนปขมวดคิ้วมองเด็กสาวผมฟูฟองที่ยืมยิ้มกริ่มอยู่ข้างร่างบาง นางฟ้าเฮอร์ไมโอนี่ในชุดชาวบ้านปกติยิ้มตอบแบบไม่กลัว “หนูเป็นเพื่อนของเดรโกค่ะ ช่วยปลุกเขามาลองรองเท้า”

คนถูกอ้างเป็นเพื่อนขยับจะค้าน แต่ปลายไม้กายสิทธิ์กดไว้ที่หลังเสียก่อน “ไม่ต้องพูดมาก รีบๆไปลองแล้วเอารองเท้าคืนมาเร็ว” นางฟ้าผู้พิทักษ์กระซิบขู่ทั้งที่หน้าตายังยิ้มอยู่เลย เดรโกต้องยอมจำนนได้แต่กัดฟันงึมงำ

“โอ้ ดีเลย มานั่งตรงนี้สิแม่หนู” แฮรกริกขยับให้เดรโกนั่งที่เก้าอี้แล้วหยิบรองเท้าแก้วมาสวมให้กับเท้าเล็กๆ ซึ่งใส่รองเท้าได้อย่างเหมาะเจาะพอดิบพอดี

“พอดีเลย!”

พระราชาอุทานรีบหันไปบอกแม่เลี้ยง “เซเวอรัส ยกลูกเจ้าให้ลูกชายฉันเถอะนะ” ยิ้มดีใจอย่างออกนอกหน้าเชียว ก็แน่ล่ะ ถ้าลูกแต่งงานกัน พ่อฝ่ายนี้กับแม่ฝ่ายนั้นก็ถือเป็นญาติ ไปมาหาสู่กันได้บ่อยๆ หึหึ

“ไม่เอา!” คนประท้วงกลับเป็นร่างบางผู้ผุดลุกจากที่นั่งทั้งที่ยังใส่รองเท้าแก้วอยู่ “เรื่องอะไรผมต้องไปแต่งงานกับเจ้าชายงี่เง่านั่น เซเวอรัสครับ ผมไม่ยอมนะครับ” หันไปหาคนเป็นแม่ซึ่งรีบช่วยเหลือทันควัน

“ใช่ ถ้าเดรโกไม่ยอม กระหม่อมก็คงยกให้ไม่ได้” เรื่องอะไรจะให้เข้าทางเจ้าพระราชาขี้หลี นึกว่าฉันไม่รู้เรอะว่าคิดอะไรอยู่

“เซเวอรัส แต่ฉันประกาศไปแล้วนะ ว่าคนที่สวมรองเท้านี่ได้พอดีจะได้แต่งงานกับเจ้าชาย”

“ก็ช่างพระองค์!” สเนปตอกกลับแบบไม่กลัว ขณะที่นางฟ้าเฮอร์ไมโอนี่ที่เข้าไปรับรองเท้าแก้วคืนจากร่างบางแล้วเลยหันกลับมาพยายามช่วยทางฝ่ายสู่ขอ


“เอ แต่หนูว่าก็ดีนะคะ ถ้าเดรโกแต่งงานกับองค์ชาย เวลาอาจารย์ เอ๊ย คุณสเนปอยากได้วัตถุดิบปรุงยาอะไรก็สามารถใช้ของคลังได้ ไม่ต้องเสียเวลาหาเอง แถมฟรีอีกต่างหาก”

นางฟ้าผู้พิทักษ์พยายามหาของมาล่อ ดูท่าทางคุณแม่เจ้าของบ้านก็เริ่มสนใจ “อือ..ก็ดีนะ”

“ใช่ม๊า” พระราชาทำเนียนเดินเข้าโอบบ่าอีกแล้ว

“ถอยไปเลย!” สเนปทำเสียงดุลืมใช้ราชาศัพท์ไปสนิท “ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะยกลูกให้ลูกชายนายสักหน่อย”

“น่า.... นะ~”

“ยกให้ไปเถอะค่ะ อาจารย์”

แฮกริกมองคนโน้นทีคนนี้ทีก่อนจะอุทานออกมา “อ้าว แล้วแม่หนูคนที่ใส่รองเท้าได้เมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ”

เดรโกเหรอ? ตอนนี้กำลังปีนหน้าต่างห้องนั่งเล่นหลังบ้านหนีออกมาน่ะสิ!

...หนีเลยดีกว่า! เรื่องอะไร กะอีแค่ลองรองเท้าได้จะให้ไปแต่งงานกับเจ้าชายอะไรก็ไม่รู้ไม่เคยเห็นหน้า ไม่มีทางเสียล่ะ แต่เซเวอรัสชักจะใจอ่อนแล้ว แถมยัยนางฟ้าตัวดียังมาช่วยยุเสียอีก จำไว้เลยนะ!

ใบหน้าสวยคิดอย่างหงุดหงิด ร่างบางพยายามเกาะขอบหน้าต่างไว้ ข้างล่างก็ดูไม่สูงเท่าไหร่ แต่มันก็น่ากลัวนี่นา ยังไม่ทันไรมือที่จับอยู่ก็ลื่นพรื่ดส่งให้ร่างของเดรโกร่วงผลุบลงไป!!!!

“เฮ้ย!!!”

ตุบ!

“อ๊ะ!” โชคยังดีที่ไม่ได้ร่วงลงมากระแทกพื้น ดูเหมือนจะมีใครที่ยืนอยู่ข้างล่างรับไว้ได้พอดิบพอดีเลย

“เอ๊ะ? นาย!” ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง เมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มร่างสูงที่มีผมสีดำยุ่งเหยิง นี่มันเจ้าคนเมื่อคืนนี่นา

“สวัสดี เจอกันอีกแล้วนะ” เจ้าชายแฮร์รี่ทักยิ้มๆ รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจถูกออกมาเดินเล่นฆ่าเวลา ก็อยู่ดีๆ คนที่ตามหามาทั้งวันก็หล่นมาใส่อย่างนี้นี่ “เธอหนีอะไรมาเหรอ?” ถามเพราะเห็นคนในอ้อมแขนทำท่ามองระแวดระวัง

“ชี่! อย่าเสียงดังสิ” เดรโกรีบจุ๊ปากทำท่าห้าม “ฉันกำลังหาทางหนีอยู่ นายมีรถม้ามามั้ย”

คนถูกถามพยักหน้า “มีสิ จอดรออยู่ข้างๆ บ้านเธอเนี่ยแหละ”

เดรโกยิ้มออกมาด้วยท่าทางกระตือรือร้นมากขึ้น “ดีเลย! งั้นยืมหน่อยสิ ฉันต้องหาที่หลบ”

“ไปหลบที่บ้านฉันก่อนไหม” อีกฝ่ายเสนอหน้าซื่อ ร่างบางคิดอยู่อึดใจ ตานี่ก็ท่าทางบื้อๆ คงไว้ใจได้ ก็ดีเหมือนกันแฮะ ยังไงก็หลบไปก่อน จะได้ไม่ต้องแต่งงานกับอีตาเจ้าชายนั่น

“โอเค ก็ได้” เดรโพยักหน้ารับ ร่างสูงที่ประคองอยู่เลยคว้าคนตัวเล็กกว่าอุ้มเดินไปอย่างง่ายดาย “เฮ้ นาย!” คนในอ้อมแขนทำท่าจะประท้วง แต่เสียงทุ้มๆ ชิงตัดหน้าอธิบายเสียก่อน

“แบบนี้ไวกว่าน่า เอ้า!” ยังไม่ทันจบประโยคเจ้าชายแฮร์รี่ก็วางร่างบางลงในรถม้าส่วนพระองค์ ปิดประตูแล้วหันไปออกคำสั่งกับสารถี “กลับบ้าน!”

“เอ่อ... แล้วพระบิดาล่ะพระเจ้าค่ะ...” เจ้าพนักงานท้วงแต่เจ้าชายยักไหล่ “ช่างเสด็จพ่อเถอะน่า ออกรถเร็ว”

“พะย่ะค่ะ”

น่าเสียดายที่ลูกสาวเศรษฐีอยู่ในรถเลยไม่ได้ยินอะไรชัดนัก พอร่างสูงก้าวเข้ามานั่งข้างๆ เลยถามสีหน้ากังวลนิดหน่อย “ว่าแต่..บ้านนายอยู่ไกลไหมเนี่ย เดี๋ยวเกิดพระราชารู้ว่าฉันหลบอยู่บ้านนาย นายจะเดือดร้อนนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก” คนตอบพูดพลางเอื้อมมือมาโอบไหล่ด้วยท่าทางสบายๆ “สบายใจได้เลย”

แล้วรถม้าก็แล่นออกไป ซินเดอเรลลาและเจ้าชายก็มีความสุขด้วยกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หึหึ...

**************** HaPpy EnDinG ****************


**EpiLoGuE**

“แล้วซินเดอเรลลากับเจ้าชายก็อยู่ด้วยกัน....อย่างมีความสุข อือ........”

“มีความสุขบ้าอะไร! นี่มันล่อลวงกันชัดๆ!เปลี่ยนเรื่องใหม่เดี๋ยวนี้นะ!ได้ยินรึเปล่า แฮร์รี่!”

“.........”

“แฮร์รี่!” เดรโกเอื้อมมือไปเขย่าแขนคนที่นอนอยู่อีกฝั่งที่นอนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ส่วนลูกสาวตัวเล็กที่ร่ำร้องจะฟังนิทานน่ะ หลับไปตั้งแต่ครึ่งเรื่องแล้วล่ะมั้ง

คนที่ถูกทิ้งให้ตาค้างนอนไม่หลับอยู่คนเดียวเลยได้แต่งึมงำหน้ามุ่ย “ดูซิ หลับกันหมดเลย...” ดวงตาสีฟ้ามองดูพ่อลูกที่นอนหลับอิงกันอยู่แล้วก็ค่อยคลี่ยิ้มออกมาได้ มือเรียวเอื้อมไปดึงผ้าห่มมาห่มให้เฮเลนน่าที่นอนอยู่ตรงกลาง แล้วก้มลงหอมแก้มใสของเด็กหญิง “ราตรีสวัสดิ์ เฮเลน”

“ฮื่อ...” เสียงงึมงำประท้วงจากร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆ ทำเอาเดรโกอดหัวเราะคิกไม่ได้ “รู้แล้วน่า ไม่ลืมหรอก” ร่างบางโน้มตัวไปหอมแก้มของอีกฝ่ายไม่ให้เสียเปรียบก่อนจะกระซิบเบาๆ

“ราตรีสวัสดิ์ แฮร์รี่”

**Good Night, Sweet Dream**

**Acacha**

แหะๆ มาอีกแล้ว จะมีใครคิดมั้ยเนี่ยว่าไอ้พี่น้องคู่นี้มันว่างจิงๆ เรื่องยาวไม่ลงก็ขยันโผล่หน้ามาลงเรื่องสั้นอยู่เรื่อย (ที่จิงเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะ(เป็นซีรีย์ไง)แต่ไม่รู้ทำไมอีกแล้ว เขียนแล้วไม่ยอมจบซักที 555+) เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นจากส่วนที่เป็น prologue นั่นแหละ เห็นมีใครบอกโอคุง(รึเปล่า?) ว่ามีเจ้าดีลแล้วก็น่าจะมีลูกสาวด้วย ก็เลย.... เขียนซะหน่อย ส่วนตัวเรื่องหลัก (จิงๆ)ที่เป็นนิทาน.... ก็ชาเห็นหลายคนเขียนฟิคนิทานกันเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นตอนพิเศษ แต่อคาชา+นะโอจาเอานิทานหลายๆเรื่องมารวมเป็นซีรีย์ซะเลย 5555+ ว่างจัดอ่ะ อ่านจบแล้วชอบนู๋เฮเลนกันมั้ย ^_^

เกือบลืม(ต้องรีบละ โอคุงกำลังบ่นว่าคุยเยอะ) ใครอยากฟังนิทานเรื่องไรก็เสนอมาได้นะคะ ไปดีกว่า บาย

**Na-O**
ยาว ยาวเกินไปแล้ว! ไหนตอนแรกกะว่าจะเป็นเรื่องสั้นๆ ไงฟะ ไอ้พี่น้องคู่นี้ขี้โม้จริงๆ (กัดตัวเอง)

คนอ่านทุกท่าน! สมใจกันม๊ายยยยยยยยย อยากได้ลูกสาว พวกข้าพเจ้าก็เนรมิตลูกสาวมาให้ท่าน เหอ เหอ โปรดอย่าถามว่ามีลูกกันยังไงนะ จนปัญญาตอบจ้า แต่ถ้าใครสงสัยเรื่อง A legend of the knights ที่แฮร์รี่จะเล่าตอนแรกแล้วหนูเฮเลนไม่เอาอ่ะ อันนั้นเป็นมุขเฉพาะครอบครัวของอคาชา+นะโอเอง ที่จริงคือ นิยายแฟนตาซีที่นะโอแต่งไม่จบนั่นแหละ คนอื่นเค้าไม่รู้เรื่องก็ยังแซวกันเอง (-_-!)

ปล. ไอ้ชาที่นั่งอยู่ข้างๆ ฝากถามว่า มีใครอยากฟังเรื่องเจ้าดีลไหม แบบว่าชอบเจ้าหนูนี่จริงๆ อยากเขียนเรื่องยาวให้อ่ะ หุหุ (พวกแกว่างนักเรอะ!)




Create Date : 08 เมษายน 2548
Last Update : 8 เมษายน 2548 10:25:08 น.
Counter : 1232 Pageviews.

6 comments
  
น่าร๊ากกกกกกกก ><
ชอบจังเลยค่ะ ฟิคที่ อคาชากะนะโอแต่ง
รวมเป็นซีรีย์ก็ดีนะคะ ท่าทางน่าสนุก
แล้วก็ เรื่องเจ้าดีล อยากฟังมากๆ เลยค่า
หนุกหนาน~ หนุกหนาน~
โดย: m potter IP: 61.91.67.132 วันที่: 8 เมษายน 2548 เวลา:18:12:57 น.
  
อยากอ่านunder the moon light กะ[IF -1] Harry Potter, The Marauder Of Hogwarts
ให้จบก่อนง่ะ เมื่อไหร่จะจบซักทีT_T
โดย: phyro IP: 202.28.25.162 วันที่: 13 เมษายน 2548 เวลา:1:11:52 น.
  
ชะ...ช็อคไปเรียบร้อยแล้วครับท่านพี่
โดย: nu-pam IP: 61.90.112.110 วันที่: 2 กันยายน 2548 เวลา:22:11:02 น.
  
โดย: แตงโม IP: 203.172.184.22 วันที่: 18 ธันวาคม 2549 เวลา:16:12:09 น.
  
ขอเรื่องยาวของ โคนันหน่อยค่ะ ชอบมาก (ถ้าลงก้อขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ)
โดย: นู๋ป่าน IP: 118.175.247.139 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:19:15:47 น.
  
5555 เรื่องในนิทานรั่วมาก

ตอนจบแฮร์รี่น่ารัก มีการอ้อนให้หอมแก้มด้วย แอร๊ยยย
โดย: ZeNeRia29 IP: 101.109.184.174 วันที่: 29 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:12:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]