Love is the key that will open even the hardest heart.
 
ลงใต้กับคุณนาย(ย้ง)ยี้

รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นที่เริ่มมีเพื่อนๆ พี่ๆ เข้ามาอ่าน ถึงแม้ว่าเรื่องมันจะไม่ได้อัพเดทมาก และไม่ค่อยมีรูปปลากรอบ แต่ส้มก็ยังอยากเก็บไว้ในนี้นะ กัวลืม



เมื่อออยเห็นการเรียนดีกว่าการทำงาน (ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว) ก็ทำให้มีอันต้องนำตัวตายตัวแทนของออยลงใต้ไปคราวนี้กับชาวคณะ นักแสดงหน้าใหม่ที่จะโผล่มาแสดงในทริปนี้ก็คือ ”ย้งยี้” เพื่อนสาวชื่อแปลกของฉัน ความจริงแล้วยี้ถูกเลี้ยงมาแบบเลดี้ๆ หน่อย ยี้ไม่เคยเลยที่จะมาท่องเที่ยวแบบนี้ แต่คนเราบางทีก็ต้องการบรรยากาศที่ดีๆ สำหรับบางสิ่งบางอย่างใช่ม้า....

รถตู้ล้อหมุนตั้งแต่ประมาณสองทุ่ม แต่ก็ดันมาเกิดเอ็กซิเดนท์แถวๆ สมุทรสงครามทำให้ต้องนั่งๆ นอนๆ รอช่างซ่อมให้เสร็จ ฉันและชาวคณะจึงได้ฤกษ์เดินทางต่อไปเพชรบุรีเพื่อรับพี่ยัพไปด้วยคน ฉันกับยี้คุยกันตลอดทางจนตื่นขึ้นมารับประทานข้าวต้มกันที่หัวหิน (แหม...เหมือนรายการประเภทตะลอนชิมเลยนะเนี่ย) พอกินเสร็จก็ขึ้นรถต่อ ผ่านจังหวัดอะไรบ้างก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าคืนนี้เราไม่ได้นอนโรงแรมที่จองไว้แน่ๆ

มารู้สึกตัวอีกทีก็ 7 โมงเช้า ถึงตัวเมืองพอดี ห้องที่เราสมควรจะได้นอนเมื่อคืนก็ใช้เพียงแค่อาบน้ำเท่านั้น พออาบน้ำเสร็จก็ได้กินข้าว หลังจากนั้นฉันกับยี้ก็ไปที่สนามอย่างง่ายดายเพราะว่าอยู่ใกล้กันกับโรงแรมมากๆ (100 เมตรเอง)

นอกเรื่องหน่อย....ลองนึกดูว่าการที่ต้องไปซื้อของในจังหวัดที่เราแค่เคยผ่านตอนเด็กๆ (10ขวบ) ไม่คุ้นเคยเนี่ยมันตื่นเต้นนะ ฉันต้องเผชิญโชคเดินไปซื้อถุงพลาสติกคนเดียว ก็ดุ่มๆ ไปเอง กลัวหลงก็กลัวแต่ก็บ่ยั่นอีกเช่นเคย (ปิดท้ายแบบชมตัวเองนิดๆ อีกละ)

ถ้าพูดถึง ”เกาะลำพู” แน่หล่ะ เด็กเต๊บฯอย่างฉันต้องคิดว่าต้องเป็นเกาะกลางทะเลแน่ๆ บรรยากาศต้องเป็นทะเลสุดๆ (โอ้วแม่เจ้า....ไอ้ออยเอ๋ย...เมิงต้องอิจฉากรูแน่ คืนนี้กรูได้ค้างที่ทะเลนะเฟ้ย เป็นไงกรูชวนแล้วดันไม่มา) ปึ่ย!...<- - - เสียงของความฝันที่ขาดผึงเกาะลำพูก็อยู่กลางแม่น้ำตาปี ใกล้ๆ กับโรงแรมนั่นแหล่ะ อย่างงี้เค้าเรียกว่าดับฝันเด็กเต๊บฯนะครับเนี่ยท่านผู้ชม แต่เกาะลำพูเนี่ยแหล่ะ ได้กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดสาวน้อยมหัศจรรย์คนนึง ด้วยลีลาอันเซ็กซี่ผิดมนุษย์มนา ที่ถอดแบบมาจากทาทายังผู้พี่ ทำให้ฉันกลายเป็น “โคโยตี้ออฟโรด” ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา นึกแล้วก็เสียดายที่ช่วงนั้นน้ำท่วมภาคใต้ ไม่อย่างนั้นฉันได้ฉายแววแด๊นซ์ซิ่งควีนไปไกลยันมาเลฯแหงมๆ

ทริปนั้นเป็นทริปแรกที่สายันต์ไปด้วย เพราะทุกครั้งสายันต์ต้องอยู่ที่สนามแข่ง สายันต์เซอร์วิสเลยเปิดบริษัทสายันต์พร็อพเพอร์ตี้ รับกางเต๊นท์ทั่วราชอาณาจักร โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกทำเล ยันต์การกางเต๊นท์ให้ด้วย อย่างนี้ซิถึงเรียกว่ารักกันจริง (อิอิ สบายไป)
วันรุ่งขึ้น พวกเราเริ่มเดินทางกัน โดยที่รถของเราจะคัดผู้ร่วมเดินทางที่หน้าตาดีๆ และที่สำคัญคือเรามีการคัดอายุ เรียกว่าถ้าเกิดจับได้ว่าใครแก่ จะเขี่ยลงจากรถทันที กินกันไปคุยกันไปตามประสา ระหว่างทางเราจะสังเกตุเห็นว่าที่นั่นไม่มีแดด มีแต่ฝนปรอยๆ แบบหยุมหยิมๆ ถึงไม่ได้ตกหนักแต่ก็เล่นเอาทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ตากผ้าก็ไม่ได้ มีช็อตเด็ดหน่อยนึงตรงที่ว่ายี้ได้ใช้ห้องน้ำแบบโอเพ่นแอร์ด้วยหล่ะ เป็นแบบว่ามีสังกะสีกั้นไว้แค่ตรงข้างหน้าอย่างเดียว ดังนั้นอีกสามด้านที่เหลือก็จะสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มรูปแบบอย่างเนียนๆ แต่เพื่อความรอบคอบพวกเราก็เอาเสื้อเอาร่มที่พกไปด้วยกั้นเพื่อกันรถดับเพลิงอาละวาดในป่ากันสุดฤทธิ์ เหตุการณ์ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่สิ่งที่ฉันคิดเพียงอย่างเดียววันนั้นก็คือไม่น่าเชื่อว่ายี้จะลุยได้แบบนี้เหมือนกันนะเนี่ย นอกจากยี้จะเป็นจุดสนใจของทุกคนที่นั่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นที่สนามหรือทุกๆ ที่ที่เราผ่าน ยี้ยังมีความอึดได้ในระดับหนึ่ง ต่างกับฉันที่อยู่ที่สุราษฎร์กับอากาศแบบนั้น ทำให้ต้องยืมเสื้อของพี่แบงค์มาใส่เพราะว่าอากาศเย็นมากๆ (อ๊ะ..ก็ฉันมันรักสายลมแอ่นด์แสงแดดที่แผดเผานี่หน่า) ซึ่งเสื้อและใออุ่นของพี่แบงค์ก็ช่วยได้พอสมควร (เว่อร์แล้วย่ะ)

แต่ด้วยอาการหนาวเย็นกลับหดหายไปเมื่อเราได้ถึงที่พักและได้เหลือบไปเห็นน้ำตก น้ำตกที่นี่เย็นมาก กว้างเหมือนคลองเลย น้ำใสและไม่ลื่นเพราะว่าพื้นของน้ำตกเป็นทรายไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ทุกคนเมื่อเก็บของเสร็จแล้วก็ตัวใครตัวมัน ลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ตอนแรกฉันกับยี้ก็ไม่คิดว่าจะเล่นหรอกเพราะกลัวไม่มีเสื้อผ้าใส่ แต่ด้วยแรงยุและคนที่เล่นอยู่แล้วมาทำให้เราเปียก เราก็เลยได้เล่นน้ำตกแบบเลยตามเลย (ฟอร์มเยอะไปนิด แต่ความจริงหน่ะชอบมาก)

ชะตากรรมของผู้ที่ดวงกุดได้นอนเต๊นท์เดียวกันกับฉัน มีอยู่สองอย่างก็คือจะต้องโดนเบียดหรือไม่ก็โดนแย่งผ้าห่ม ซึ่งออยก็เคยโดนมาแล้ว นับประสาอะไรกับย้งยี้สาวสวยที่รายนี้โดนเบียดพร้อมกับแย่งผ้าห่มอีกต่างหาก (หุหุ แอบเลว) โดนฉันทำอย่างนี้แล้วยังไม่กล้าแย่งผ้าห่มคืนอีกต่างหาก โถ...อย่างนี้เค้าเรียกว่านางฟ้าจริงๆ นะเนี่ย

ตอนเช้าก่อนกลับ พี่เหน่งต้องรีบกลับไปทำธุระก่อน พวกเรา(อันหมายถึงคณะละอ่อนน้อย) มีพี่เหน่ง พี่แบงค์ บาส ส้ม ยี้ และพี่ต้นผู้แมนที่สุดยอมไปนั่งกระบะหลังจนหน้าชา รีบบึ่งจากน้ำตกมาที่สนามบินก่อนใครเพื่อน ตอนแรกคิดว่าสนามบินร้าง เพราะคนน้อยมากๆ พอส่งพี่เหน่งเสร็จเราก็เดินทางเข้าเมืองเพื่อหาอะไรประทังชีวิต กว่าจะได้กินก็มีการถามไถ่เจ้าถิ่นด้วยว่าร้านไหนเด็ดสุด (ตะลอนชิมอีกแล้ว) จนมาลงตัวที่ร้านส้มตำข้างโลตัส สุราษฎร์ รสเด็ดสมกับคำแนะนำจริงจริ๊ง
จะมีอะไรสุขไปกว่าการกินอิ่ม นอนหลับ และได้ใช้ชีวิตมันส์ๆ แบบนี้อีกมั้ยเนี่ย...



Create Date : 18 ตุลาคม 2549
Last Update : 18 ตุลาคม 2549 17:43:33 น. 0 comments
Counter : 353 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

nanawalee
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add nanawalee's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com