น้ำหวาน ลูกสาวแสนดี สดใส ร่าเริง
Group Blog
 
All blogs
 

พาเด็กๆไปเที่ยวซาฟารีเวิลด์

วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ได้ฤกษ์พาน้ำหวานไปเที่ยวซาฟารี เนื่องมาจากปีนี้บ้านเราไม่อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน คุณยายเลยชวนพวกเราให่ไปนอนกันที่บ้าน แล้วไปเที่ยวกันในกรุงเทพฯนี่แหละ ...งานนี้ถูกใจแม่จริงๆ ได้กลับไปนอนบ้านยาย สบายใจสบายกายนักแล

เราไม่ได้ออกจากบ้านกันเช้าอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เคยได้ยินมาว่าที่นั่นมีโชว์เยอะ ถ้าไปแต่เช้าจะได้ดูได้คุ้มดี ... กว่าจะเดินทางไปถึงได้ ไกลเหลือเกิน ไม่มีใครรู้จักทางกันเลย คลานเต่าตามกันไป ไปถึงก็ 10 โมงกว่าแล้ว

เราเริ่มต้นกันที่ซาฟารีปาร์ค ส่วนนี้เป็นสวนสัตว์เปิด จัดออกมาให้ได้อารมณ์เหมือนอยู่แถวแอฟริกา จริงๆแล้วมันมีหลายโซน เข้าไปโซนแรกๆก็เจอ... นก... นกกาบบัวเยอะจริงๆ เกาะตามต้นไม้ฝูงใหญ่มาก สังเกตให้ดี ในรังของมันมีลูกนกอีกหลายตัว แถมมีหลายรังอีกต่างหากที่มีลูกนก มันคงจะเยอะขึ้นเรื่อยๆนะเนี่ย ...เยอะจนขนลุกเลยเรา

นอกจากนั้นโซนนี้ก็มี ม้าลาย ยีราฟ แรด ก่อนไปอีกโซนที่มีแต่กวางพันธุ์ต่างๆ แล้วก็หมีควาย นกยูง กระทิง >>> เสือ สิงโต เราก็ได้อารมณ์กันพอสมควร จอดรถดูใกล้ๆได้เลย แต่วันที่ไปมันคนเยอะ จอดไม่ได้ ทำให้รถติดคิวยาว เกรงใจเขา

อยู่ในซาฟารีปาร์คชั่วโมงนึงได้ จากนั้นก็ไปมารีนปาร์ค ส่วนนี้เป็นส่วนที่จัดการแสดงโชว์ต่างๆ รวมไปถึงสัตว์ต่างๆที่อยู่ในกรงให้เราเดินดูเหมือนสวนสัตว์เขาดิน

เราเริ่มต้นดูโชว์ช้าง ... โชว์จบแล้วได้ถ่ายรูปกับช้างฟรี เป็นอย่างที่แอบคิดเอาไว้ ... น้ำหวานกลัวช้าง มันตัวใหญ่ จากนั้นเราก็ไปให้อาหารยีราฟกันก่อนจะกินข้าวกลางวัน ก่อนไปดูโชว์ไฮไลท์ของที่นี่คือโชว์ปลาโลมา ที่มีแค่วันละ 1 รอบเท่านั้น

ค่าอาหารเลี้ยงสัตว์ที่นี่จะคิดที่ราคาเกือบเท่ากันหมดทุกซุ้ม คือกระป๋องละ 40 บาท ซื้อกล้วยให้ยีราฟกิน เราก็ซื้อแค่ให้ได้อารมณ์ว่าให้อาหารยีราฟมาแล้วนะ เพราะนอกจากจะราคาแพงแล้ว คนยังเยอะอีกต่างหาก ... แต่ขอบอกว่า ยีราฟนี่ ดูใกล้ๆมันน่ารักมากเลย หน้ามันตลกดี ประทับใจน้ำหวานจริงๆ จนทุกวันนี้เธอยังเอาแต่พูดว่าเธอให้อาหารยีราฟมาแล้ว

โชว์ปลาโลมาคนเยอะมาก เบียดเสียดกันน่าดู ตอนเข้าไปนั่งนี่ไม่เท่าไหร่ ตอนเลิกนี่สิ เบียดกันจนอยากจะเป็นลม ทำให้อารมณ์เสียได้ หลังจากโชว์นี้เราก็เลยขี้เกียจดูโชว์แล้ว เพราะอึดอัดกับคนเยอะแยะ แต่ถ้าไปวันธรรมดาคงจะไม่ขนาดนี้มั้ง

แต่เราก็ไปดูการแสดงลิงอุรังอุตังการจนได้ เพราะยายอยากจะเอาให้คุ้ม คิดว่าจะมาแค่ครั้งเดียว ดูให้หมดเลยละกัน โชว์นี้ฮามาก เพราะแค่เห็นลิงอย่างเดียว ไม่ต้องโชว์อะไรก็ตลกแล้ว แต่เสียงดังมาก ครอบครัวที่พาเด็กเล็กมาพากันเดินออกเยอะเลย เพราะเด็กๆร้องไห้ซะก่อน

ก่อนกลับเราทยอยดูสัตว์ตามกรงต่าง รวมทั้งให้อาหารนกจากมือ อันนี้น้ำหวานก็ชอบเหมือนเดิม

งานนี้ทุกคนใช้พลังงานกันเต็มที่ บ้านเราต้องดูแลน้ำหวาน คุณยายกับอี๊ต้องดูแลยายทวด เข็นรถเข็นกัน 2 คันรอบซาฟารี เหนื่อยดี แต่ก็สนุก นับว่าเป็นประสปการณ์ที่ดี... กลับมาเล่าให้อาม่าฟัง แกว่าอยากไปบ้าง... เตรียมตัวเหนื่อยอีกรอบ

เหมือนเดิม น้ำหวานขึ้นรถก็หลับเป็นคนแรก




 

Create Date : 09 มกราคม 2553    
Last Update : 9 มกราคม 2553 14:22:00 น.
Counter : 289 Pageviews.  

งานหัวใจใกล้กัน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา เรา 3 คน แม่-น้ำหวาน-อี๊ปุ๊ก ได้ตบเท้าเข้าร่วมงาน "หัวใจใกล้กัน" ที่สวนรถไฟ ... จริงๆแล้วพวกเราแม่ๆที่ทำกิจกรรมตาราง 100 ช่องสอนลูกนัดกันเจอ เพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่แล้วเป็นประจำทุกเดือน แต่คราวนี้ทางรายการให้เราได้ร่วมงานด้วย เท่านั้นเอง

เสียดายที่ได้ไปที่งานช้ากว่าคนอื่นๆ เพราะน้ำหวานขอนอนกลางวันก่อน เราก็ต้องยอมให้เธอนอนก่อน เพราะรู้ว่าดีกว่าปล่อยให้เธอไปงานแบบงอแง


นอนสบายเชียว รอแล้วรออีกก็ไม่ยอมตื่น

กว่าจะตื่นแล้วหาอะไรกินกันก่อนก็ปาเข้าไป บ่าย 3 โมงกว่า และกว่าจะต้องฝ่ารถติดตรงทางเข้าอีก ไปถึงงานก็เย็นมากแล้ว ทุกคนก็เตรียมตัวจะกลับกันแล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่ยังได้เจอเพื่อนๆครบหน้า ...พี่เก่ง-บันบัน , พี่จอย , แต๋ง-ป๊า-ข้าวหอม , กบ-พ่อเกี๊ยว-อรุษ , พี่เอ๊ด-พ่อ-พี่เจ๋ง-จันทร์เจ้า

และที่สำคัญ วันนี้น้ำหวานได้เจอครูบัวด้วย เธอยังจำคุณครูได้อยู่ไม่ลืม กอดและหอมกันยกใหญ่ เห็นแล้วก็คิดถึงเหมือนกันนะ ไม่ได้ไปเรียนตั้งนานแล้ว ...ดูคุณครูแกยังสดชื่นเหมือนเดิม ที่ดีใจคือคุณครูยังจำน้ำหวานได้อยู่เลย


สังเกตดูฉากหลัง โล่งเชียว ทยอยกลับกันแล้ว

กำลังจะเริ่มเม้าท์กับแม่ๆ น้องๆทีมงานก็มาบอกว่าช่วยกันไปร้องเพลงหน้าเวทีหน่อยได้ไม๊คะ คือน้องจิกพี่มากเลย ก็เลยไปร้องเพลงหน้าเวนทีกันซักหน่อย ได้เห็นคุณหัทยา พิธีกรรายการนี้ ตัวจริงๆสวยจัง หน้าขาวและจมูกโด่งดี

เพลงที่ให้ร้องเป็นเพลงของทางรายการ ถ้าใครดูเป็นประจำก็คงเคยได้ยิน น้ำหวานฟังจนจับทำนองได้ ท่อนไหนเสียงสูงก็จะร้องตามเพราะเริ่มจำได้แล้ว ร้องเพลงเสร็จก็ปิดงาน ฮ่า ฮ่า ฮ่า


โล่งเชียว เหลือแต่เก้าอี้

ก่อนกลับพวกเราจับฉลากกันสนุกสนาน แล้วก็แจกของขวัญปีใหม่กัน ขอบอกว่าของขวัญเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ ถูกใจเด็กน้ำหวานมาก ได้ตุ๊กตากระดาษกับลูกบอลยางจากป้าดุษ , บัตรฝึกนับเลขจากน้าแต๋ง , กล่องพลาสติกสำหรับสอน pattern จากป้าจอย และจิ๊กซอว์จากป้าเอ๊ด ...ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่า ลืมอีกอย่างนึง น้ำหวานจับฉลากได้แป้งโดว์ 5 สีมีกากเพชร พอดีเลย เพราะของที่เล่นอยูทุกวันมันเริ่มจะมีกลิ่นไม่ดีแล้ว

จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนกลับโดนหนุ่มน้อยกอด 1 ที เขินกันยกใหญ่ พี่อรุษนั่นเอง เห็นเด็กๆกอดกันแล้วน่ารักดีเนอะ


อี๊ปุ๊กไปร่วมด้วยช่วยกัน

สิริรวมเวลาอยู่ในรถแล้ว นานกว่าอยู่ในงานอีก




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2552    
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 12:28:50 น.
Counter : 214 Pageviews.  

ไปเที่ยวเขาดิน

เมื่อวันพ่อที่ 5 ธันวาคม 2552 พ่อของพ่อ และพ่อน้ำหวานได้พาน้ำหวานและแม่น้ำหวานไปเที่ยวสวนสัตว์มา จริงๆตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกัน เพราะบริเวณนั้นใกล้กับส่วนที่ทางการเค้าปิดถนน เพื่อจัดงานเฉลิมฉลองให้ในหลวง กลัวว่าไปได้จะกลับบ้านไม่ได้

ก็เลยตัดสินใจว่าไม่ขับรถไป นั่งรถแท็คซี่ไปกัน 4 คน โชคดีเจอคนขับรถรู้ทางและนิสัยดี ตลอดทางชวนคนแก่อย่างอากงคุย ก่อนลงจากรถก็เลยติ๊บรางวัลให้ซักหน่อย

พอลงจากรถเพื่อซื้อตั๋วเข้าสวนสัตว์ เห็นคนมาเยอะมากมาก คิดถูกแล้วที่เราไม่ได้ขับรถมา ไม่อย่างงั้นไม่รู้จะได้ลงจากรถเมื่อไหร่ เพราะที่จอดรถเต็มถ้าอยากจอดที่นี่ก็ต้องรอ ถ้าอยากจอดเร็วก็ต้องเดินไกล

เรามีเวลาเดินอยู่จนถึงบ่าย 3 โมง ทางการเค้าจะเริ่มปิดถนน ซึ่งมันก็พอสำหรับพวกเราที่ต้องกระเตงเด็กที่ไม่ชอบนั่งรถเข็นแล้วอย่างน้ำหวาน แต่ถ้าเป็นเด็กโตคงต้องใช้เวลาอยู่ที่สวนสัตว์นี้นานหน่อย มันมีอะไรน่าสนใจให้ดูและลงรายละเอียดเยอะเลย

สวนสัตว์เขาดินปรับปรุงแล้วดีขึ้นเยอะเลย ก็สะอาดประมาณนึง พอรับได้เพราะเข้าใจว่ามันเป็นสวนสัตว์ มีป้ายบอกทางและบอกรายละเอียดของสัตว์แต่ละชนิดได้เข้าใจดี คาดว่าถ้ามาวันที่ไม่ใช่เทศกาลแบบนี้ น่าจะสนุกและได้เห็นสัตว์ได้ชัดกว่านี้



นี่คือสัตว์ตัวแรกที่น้ำหวานเห็นที่นี่ ...จำไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่มันไม่ใช่กวางอะ ทุกตัวจะต้องจ้องมาที่คนดู เพราะมันคงตื่นกลัวที่คนเยอะมากๆ รวมทั้งเสียงดังจากการที่ที่นี่จัดงานวันพ่อ

เราไม่ได้เลือกที่นั่งรถของที่นี่เค้ามีไว้บริการ แต่จริงๆเราควรจะนั่ง เพราะมันสะดวกกว่าเยอะเลย ซื้อตั๋วครั้งเดียว ขั้นลงได้ตลอดทั้งวัน ลงดูสัตว์แล้วก็ขึ้นรถไปดูต่อ มันไม่ต้องเดินเยอะดี



ฮิปโปคือสัตว์ที่น้ำหวานอยากดูที่สุด เพราะมันเป็นตุ๊กตาบนที่นอนเธอ แต่มันเอาแต่นอนอยู่ใต้น้ำอะ นอนอืดมาก ตัวจริงมันเหมือนขาหมูพะโล้มากเลย ...มีคนที่เคยไปเขาเขียว เค้าบอกว่าถ้าเป็นที่เขาเขียวจะเห็นได้ชัดกว่านี้ เพราะมันไม่ได้นอนอย่างเดียวแบบนี้ สัตว์ที่นั่นเป็นอิสระจากการเลี้ยงปล่อย ทำให้มันเดินไปมาไม่ค่อยได้นอนอย่างเดียว

วันนี้คนเยอะมากเลยไม่ได้ถ่ายรูป ถ่ายไปก็มีแต่หัวคนมาบัง หรือไม่ก็หาสัตว์ไม่เจอ มันนอนอยู่ อีกอย่างที่พลาดก็คือสิงโต มันไปนอนอยู่ไกลมาก กล้องกระป๋องอย่างเราซูมไม่ถึง ก็เลยอดถ่ายรูปมาเก็บไว้

เคยอ่านเจอคุณยายชาวญี่ปุ่นคนนึงว่า พาลูกไปสวนสัตว์ให้ลูกได้เห็นตัวจริง แล้วถ่ายรูปกลับมาดูต่อที่บ้าน จะทำให้ลูกเข้าใจและจำได้ดีกว่าให้ดูรูปอย่างเดียว










วันนั้นน้ำหวานไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่จนไม่อยากกินอาหาร ... นี่เป็นครั้งแรกที่พาเธอมาสวนสัตว์เลย เคยคุยกับเพื่อน เค้าเล่าให้ฟังมาว่าพาลูกมาดูตอนเด็กกว่านี้เด็กยังไม่เข้าใจ ทางที่ดีควรพาไปเรื่อยๆแล้วจะเห็นพัฒนาการของเค้า ก็เลยตั้งใจว่าจะพาเธอมาอีกถ้าว่าง ครั้งหน้าจะไม่มาวันเทศกาลอีกแล้วหล่ะ คนเยอะเหลือเกิน






เราถ่ายรูปกับยีราฟกันก่อนกลับบ้าน เพราะจะบ่าย 3 โมงแล้ว กลัวจะกลับบ้านไม่ได้ จริงๆยังมีอีกหลายส่วนที่ไม่ได้เดินไปดู อยากพาน้ำหวานไปตรงสัตว์เด็ก กับส่วนที่เปิดให้เด็กๆเข้าไปให้อาหารได้เหมือนกัน แต่เวลาไม่อำนวย

พอน้ำหวานขึ้นรถแท๊คซี่ปุ๊บ ขอกินนมแล้วก็หลับปุ๋ยเลย ถึงบ้านนานแล้วก็ยังไม่ตื่น ก็แหงหล่ะ เธอเล่นอยากเดินเองตลอดเลย




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2552    
Last Update : 18 ธันวาคม 2552 14:21:50 น.
Counter : 222 Pageviews.  

สงกรานต์ไปเที่ยวเกาะช้าง 2552 (ตอนที่ 2)

วันที่ 2 ทุกคนก็ทิ้งเรา 2 แม่ลูกอยู่กันลำพัง เพราะมีกิจกรรมกลางแจ้งกันทั้งนั้น เด็กขนาดนี้ทำดไอย่างมากก็แค่ เล่นทรายไม่เกิน 30 นาทีก็ขึ้นละ พวกผู้ใหญ่ไปดำน้ำกันหมด เหลือเราแม่ลูกอ่อนนอนเฝ้าห้องกัน แถมยังไม่มีอะไรดูอีกต่างหาก มีแต่ข่าวการเมืองของเสื้อแดง

แต่บรรยากาศที่นี่ดี พอลูกสาวตื่นก็พากันไปชมนกชมไม้กันตามประสา จนเย็นแล้วก็ยังไม่มีใครกลับมาเลย นี่มันเหมือนอยู่บ้านเลยนะเนี่ย แต่ดีหน่อยที่บ้านเราติดทะเล

ตกกลางคืนมีปาร์ตี้ของทางรีสอร์ทจัดให้ เนื่องจากเป็นเทศกาล ทำให้บุฟเฟต์ที่จัดเอาไว้ไม่พอ ทุกคนต้องโกยกันกิน (แม้แต่เรา ไม่งั้นอด) มันไม่ได้อรรถรสเท่าไหร่ แต่อาหารอร่อยใช้ได้ก็พอถัวกันไป กินได้แป๊บก็รีบกลับที่พัก เพราะลูกสาวต้องเข้านอนแล้ว ไปจัดที่จัดทางให้ดี ไม่อยากให้แกตากแอร์เกินไปแบบเมื่อคืน

คืนนี้ผ่านฉลุย ลูกสาวนอนที่นอนของตัวเองได้ ตื่น 1 รอบโดยดี อากาศเย็นแบบพอรับได้ ทำให้แม่นอนได้เต็มตาเพื่อวันพรุ่งนี้ ที่จะต้องเก็บของกลับซะแล้ว

มื้อกลางวันของวันที่ 3 ไปกินอาหารทะเลร้านเจ๊อิ๋วชื่อดัง แบบที่ใครๆก็ต้องมารับประทานกันที่นี่ และเนื่องจากเป็นเทศกาลทำให้คนแน่นร้านมากๆ พนักงานก็เหนื่อยจนหน้าตาบึ้งตึง ลูกค้าก็ต้องรีบกิน-รีบลุกเพื่อให้คนอื่นเข้ามาใช้บริการบ้าง แต่ที่นี่อาหารอร่อยนะ ถึงแม้ว่าคนจะเยอะแต่ได้อาหารเร็วกว่าที่คิดไว้ แสดงว่าเค้ามืออาชีพ

ออกจากร้านเจ๊อิ๋วตอนบ่ายโมง กลับถึงบ้าน 3 ทุ่ม เพราะรอคิวลงเรือเฟอรี่นานมากจริงๆ ผู้ใหญ่ไม่เท่าไหร่แต่น้ำหวานนี่สิ ดูเหนื่อยๆเพลียๆ โชคดีมีคุณตา-ยายชวนเล่นตลอดทาง

ประมาณหัวค่ำเปลี่ยนผ้าอ้อมให้น้ำหวาน แบบธรรมดาหมดแล้วก็เลยใช้แบบว่ายน้ำแทน พอกลับถึงบ้านอุ้มลูกสาวออกมาจากที่นั่งของเธอ ถึงรู้ว่ามันไม่ได้กันน้ำออกเลย ที่นั่งเปียกไปด้วยฉี่ของเธอ ไม่รู้เธอนั่งหลับแบบเปียกๆมาได้ไง 2-3 ชม. T_T

พอกลับถึงบ้านรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ได้กลับมานอนที่นอนของเรา ลูกก็ได้กลับมาอยู่ในที่ที่ไม่ต้องไปทรหดอดทน วันรุ่งขึ้นตื่นสายกันทั้ง 3 คนพ่อแม่ลูก โดยมิได้นัดหมาย โชคดีที่อากงอาม่ายังไม่กลับมาจากเมืองจีน ไม่งั้นโดนเรียกมากินข้าวเช้าแน่ๆ




 

Create Date : 27 เมษายน 2552    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 22:42:55 น.
Counter : 195 Pageviews.  

สงกรานต์ 2552 ไปเที่ยวเกาะช้าง (ตอน 1)

กลับจากเกาะช้างมานานแล้ว คุณแม่เพิ่งจะมาโอกาสได้มาเขียน blog เรื่องนี้ เอาเวลาที่เหลือจากเลี้ยงลูกไปทำอย่างอื่นหมด อ่านชาญเรือนบ้าง อ่าน blog อื่นๆบ้าง ไปเรื่อยเปื่อยเฉื่อยแฉะ...เข้าเรื่องเลยแล้วกัน

พวกเราเดินทางออกจากกทม. ตอน 6.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 12/4/2552 แม่อย่างเราต้องลุกขึ้นมาก่อนเพื่อเตรียมของที่เหลือให้เสร็จ แล้วก็อุ้มน้ำหวานขึ้นรถไปทั้งชุดนอนนั้นเลยค่ะ ไปเปลี่ยนชุดเอาตอนระหว่างทาง

ที่ต้องเดินทางกันแต่เช้าก็เพราะต้องไปต่อคิวขึ้นลงเฟอรี่ ซึ่งใครๆที่ไปเกาะช้างก็ต้องมาทางนี้ ถ้าไปสายจะรอลงเรือนานมาก อีกอย่างก็คือเราไปกับญาติผู้ใหญ่ เค้าว่ามาไงก็ตามกัน

ตอนลงเรือเฟอรี่ น้ำหวานได้เห็นทะเลจากทางหน้าต่าง ดูตื่นตาตื่นใจน่าดู เรียกปลาได้ตลอดทาง (แสดงว่ารู้ว่าทะเลคือน้ำ และในน้ำก็มีปลา) มีแต่คนมองเธอเพราะเธอใส่ชูลีพอยู่คนเดียว คุณยายบังคับให้ใส่เพื่อความปลอดภัย

ใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีเราก็ขึ้นเกาะกันได้ จะต้องขับรถขึ้นเขาเพื่อไปหาดคลองพร้าว ทางขึ้นเขาที่นี่ไม่ธรรมดาเพราะหักศอกเลยทีเดียว ไม่ใช่ศอกตั้งฉากแต่มันเหมือนขับรถยูเทิร์น

ที่พักเป็นรีสอร์ทได้บรรยากาศกลางป่าดี ได้ออกซิเจนกันชุ่มฉ่ำ แต่ตกเย็นห้ามเปิดประตูทิ้งเอาไว้เพราะแมลงเยอะมาก...รวมทั้งยุงตัวดี ตอนกลางวันร้อนมาก ส่วนกลางคืนเย็นสบาย ทะเลก็ใช้ได้

แอร์ที่นี่เย็นมาก ไม่สามารถทำให้มันพอดีได้ มีแต่เย็น-เย็นมาก-เย็นมากที่สุด ตอนกลางก็กำลังดี แต่กลางคืนนี่เด็กๆอาจไมสบายได้เลย ตอนคืนแรกเราไม่คิดว่ามันจะเย็นขนาดนี้ ประมาณตี 2 ลุกขึ้นมาดูลูก ซึ่งปกติน้ำหวานจะตื่นมาเวลานี้ เห็นลูกหลับสนิทเราก็กลับไปนอนต่อ แต่พอจับมือจับเท้า...ตกใจมาก เย็นเหมือนกระป๋องโค้กที่เอาไปแช่ตู้เย็น เลยต้องอุ้มมานอนบนเตียงกับพ่อแม่ >>>> ตื่นมาแกก็สบายดีนะคะ ไม่แสดงอาการจะไม่สบาย

มื้อเช้ากินอาหารกับทางโรงแรม กินได้ดีแบบที่แม่พอใจ ให้คุณยาย-ตาป้อนให้ แล้วก็ไปเล่นทรายกัน ตอนแรกนี่ไม่ยอมเหยียบทรายและน้ำทะเล ใช้เวลาอยู่ 15 นาที (เร็วไปไม๊) ก็ลงไปแช่น้ำทะเลซะแล้ว พาขึ้นก็ไม่ยอม

แต่น้ำหวานไม่ยอมลงสระว่ายน้ำนะ ...ไม่รู้ทำไม เราเคยคิดมั่นใจมาตลอดว่าลูกสาวเราไม่กลัวน้ำ เพราะเวลาแกอาบน้ำเห็นแกสนุกสนาน และตั้งแต่เกิดก็ไม่เคยร้องไห้เวลาอาบน้ำเลย พออุ้มลงสระเท่านนั้นแหละ เกิดอาการขัดขืนขึ้นมาทันที ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยหาเวลาพาไปว่ายใหม่ที่กทม. ที่เสียดายก็คือชุดว่ายน้ำและเหล่าเครื่องเคียงต่างๆ ขุ้นจากน้ำก็ตากเอาไว้อย่างนั้น ไม่ได้เอามาใช้อีกเลย...เสียดาย




อ่านต่อตอน 2 ค่ะ




 

Create Date : 26 เมษายน 2552    
Last Update : 26 เมษายน 2552 22:19:24 น.
Counter : 187 Pageviews.  

1  2  

แม่น้ำหวาน
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บล็อคนี้เป็นของเด็กหญิงน้ำหวาน รวมเรื่องราวต่างๆที่แม่พอจะเก็บมันขึ้นมาเขียนได้ ตกหล่นไปบ้างตามแต่โอกาส เผื่อกลับมาดูทีหลัง จะได้ยิ้มไม่หุบ

+++ "สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน
นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใด
ในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้
รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อค" +++
Friends' blogs
[Add แม่น้ำหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.