Catch dream in my Cheeks^o^จับฝันใส่กระพุ้งแก้ม Return to the beach BY NALINNOVEL
Group Blog
 
All blogs
 
เก้าอี้ไม้กับสวนลำดวน(รักนี้มีเพียงใจ) - บทที่ 5 ความจริง คือ ความจริง

บทที่ 5 ความจริงคือความจริง

ภุมเดินเล่นกับไม้หวายจากหน้าโรงเรียนไปจนถึงหน้าหมู่บ้านของเขา ต้นไม้ใหญ่ยังคงยืนยงลำต้นแข็งแรง แผ่กิ่งก้านใบเป็นซุ้มหลังคากรองแสงแดดไม่ให้ร้อนจัดจนเกินไปอยู่ด้านบน เก้าอี้ไม้สีน้ำตาลยังคงงามสง่าอยู่ตรงที่เดิม ทั้งสองคนลงนั่งอย่างผ่อนคลาย

“วันนี้เหนื่อยไหมหวาย” ภุมยิ้มน้อย ๆ

“ชอบจังเลยที่พี่ภุมถามแบบนี้” ไม้หวายรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ยินคำพูดแสนห่วงใยที่ส่งมาพร้อมแววตาที่หวานซึ้ง

“พี่ภุม มีอะไรจะคุยหรือเปล่า ถึงชวนมาที่นี่” ไม้หวายหลบสายตาของภุมที่กำลังจ้องมองเธอ

“พี่มีเรื่องอยากถาม” ภุมมองหน้าของไม้หวายอีกครั้ง

“หวายเป็นอะไร ถึงโกรธพี่เมื่อตอนกลางวัน”

แล้วคำถามนี้เองที่รู้สึกว่าเวลาทุกอย่างหยุดลงอีกครั้งหนึ่ง ไม้หวายไม่อยากให้เวลานี้มาถึงเลย แต่สุดท้ายแล้วความลับคงไม่มีในโลก ต้องยอมรับความจริง

“ไม่มีอะไรนี่คะ เย็นแล้ว หวายกลับก่อนแล้วกันนะ” ไม้หวายลุกจากเก้าอี้ตัวเดิม หันมาโบกมือแล้วเดินจากภุมไป

ไม้หวายเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ภายในใจ ยกเว้นแววตาที่มันกำลังเอ่อล้นออกมาโดยไม่รู้ตัว วันนี้เธอเลือกที่จะเดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงหน้าโรงเรียนอีกครั้ง และได้พบกับปิ่นเข้าพอดี

“พี่ปิ่น ทำไมยังไม่กลับอีกล่ะ” ไม้หวายต้องหยุดอารมณ์ของตัวเองไว้ชั่วขณะ

“รอพีท ไม่เห็นมาซะที โทรไปที่บ้าน พี่สาวพีทบอกว่าพีทออกมาแล้ว” ปิ่นทำหน้าเศร้าเล็กน้อย

“พี่ควรจะเป็นฝ่ายถามหวายมากกว่านะ ว่าทำไมยังไม่กลับบ้านอีก” ปิ่นมองแววตาของไม้หวายออก

“กำลังกลับน่ะแต่เปลี่ยนใจ นั่งรอเป็นเพื่อนพี่ปิ่นดีกว่า” ไม้หวายเดินตามปิ่นเข้าไปในโรงเรียนอีกครั้ง

ทั้งสองคนพากันเดินเข้าไปที่โรงอาหาร ภายในโรงเรียน สีหน้าสาวน้อยวิตกกังวลไม่ต่างกัน บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบ ถึงจะมีคนแปลกหน้าเดินทางเข้ามาร่วมงานภายในโรงเรียนไม่ขาดสาย

“พี่ปิ่นคะ” ไม้หวายเงียบสักพัก เธอนั่งก้มหน้ามองที่รองเท้าตัวเอง

“ถ้าเราคบกับใครในช่วงวัยเรียน มันจะยืนยาวไหม” ไม้หวายมีสีหน้าสับสนและเศร้าในเวลาเดียวกัน เมื่อยิงคำถามออกไปให้เพื่อนรุ่นพี่ได้ฟัง

“คงไม่หรอกมั้ง” ปิ่นนิ่งสักพัก

“แต่...มันก็อาจมีก็ได้นะสำหรับความรักที่ยืนยาวและมั่นคง เพราะว่าขนาดพี่สาวของพีทเองเขาก็คบกับแฟนตั้งแต่อยู่ ม.ปลายยังได้แต่งงานมีลูกน่ารัก ๆ ด้วยกันเลย” ปิ่นตอบด้วยสีหน้าแช่มชื่น

“พี่ก็เป็นเช่นนั้นใช่ไหมล่ะ” ไม้หวายยิ้มน้อย ๆ

“อยากให้เป็นน่ะซิ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นได้ยังไง อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนอยู่แล้วนี่นะ” ปิ่นเริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้น

“หวายพี่ถามอะไรหน่อยซิ... หวายกับภุม...เป็นแฟนกันหรือเปล่า” ปิ่นมีน้ำเสียงที่แสดงอาการห่วงใย

ไม้หวายก้มหน้าและกำลังคิดพิจารณาถึงเหตุผลที่จะตอบ เธอเริ่มสับสน แต่ความจริงไม่สามารถซุกซ่อนไว้ใต้ใบไม้หรือเก็บใส่กล่องใบย่อมได้ ไม้หวายจึงตอบด้วยเสียงที่ราบรื่นและยิ้มเพื่อซ่อนสีหน้าที่แท้จริงไว้

“เราคบแบบพี่น้องกัน พี่ภุมอยากมีน้องสาวก็เลยมาสนิทกับหวายค่ะ”

“แบบนั้นเหรอ แล้วหวายล่ะ พี่ว่าหวายคงไม่รู้สึกอย่างนั้น” ปิ่นพูดต่อ

“แต่เท่าที่พี่คุยกับภุม เขาคิดกับหวายมากกว่าน้องสาวนะ”

ไม้หวายหน้าแดงเรื่อขึ้นมา

“คงไม่อย่างงั้นมั้ง เพราะพี่ภุมพูดตลอดเวลาว่าเราเป็นพี่น้องกัน” ไม้หวายดูซึมเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรหรอกหวาย พี่รู้นะว่าหวายชอบภุม บางทีเขาอาจจะเขินหรือว่าไม่กล้าบอกตรง ๆ เพราะกลัวว่าหวายจะไม่ตอบรักเขาก็ได้นะ” ปิ่นปลอบโยนเบา ๆ

“คงไม่เป็นแบบนั้นหรอกค่ะ พี่ภุมจะชอบหวายแบบไหนก็ได้ หวายคงไม่กล้าเรียกร้องอะไร แต่ ทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ๆ พี่ภุม หวายรู้สึกดี เพราะพี่ภุมเขาก็ห่วงใยและเอาใจใส่หวายเหมือนกัน” เสียงของไม้หวายและแววตาดูเหงา เหมือนกับเธอกำลังยืนอยู่คนเดียวกลางลมหนาว

“อุ้ย ฝนตกแล้ว” ปิ่นร้องทัก

เป็นโอกาสเหมาะที่จะไม่อยากให้ไม้หวายต้องรู้สึกเศร้ามากไปกว่านี้ ปิ่นเลยเฉไปคุยเรื่องอื่นแทน

“หวายไม่ได้เอาร่มมาด้วยนะ หลบที่นี่สักพักรอฝนหยุดก่อนดีกว่า” ไม้หวาย
ยิ้มแช่มชื่นขึ้นต้อนรับสายฝน เธอยิ้มแก้มใสและพยายามลืมเรื่องที่กวนใจเธอเมื่อครู่

สายฝนสัญลักษณ์ที่ทำให้รู้ว่าการเตรียมตัวสอบเทอมต้นได้เริ่มแล้ว และหลังจากปิดเทอม ระยะเวลาสั้น ๆ อีกเพียงไม่กี่เดือน ผู้ชายที่ชื่อภุมก็คงต้องจางหายจากเธอไป แต่เธอยังคงต้องอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ทุกอย่างคงเหลือแค่เพียงความทรงจำ

“เอ้าพีทมาพอดีแล้ว” พีทวิ่งกระหืดกระหอบพร้อมกับถือร่มมาด้วยในมือ

“เอ้าหวาย ติดฝนกลับบ้านไม่ได้ล่ะซิ” พีทร้องทักอารมณ์ดีและมีรอยยิ้มตลอดเวลา

ไม้หวายคิดในใจเล่น ๆ ถ้าภุมเป็นคนยิ้มแย้มแบบนี้คงจะน่ารักมากขึ้นกว่านี้ เพราะน้อยครั้งมากที่จะเห็นรอยยิ้มของภุมสักครั้ง

“ทำไมมาช้าจังเลยล่ะ” ปิ่นแสร้งงอนใส่พีท

“ก็ติดฝนนี่ ปิ่นน่าจะชมพีทมากกว่ามางอนใส่นะ เพราะว่าพีทรอบคอบพกร่มมาเผื่อปิ่นด้วย อย่างนี้ต้องให้รางวัลนะ” พีทยื่นร่มอีกคันให้แฟนสาว

“จ้ะ” ปิ่นหันมายิ้มและบีบแก้มพีทเบา ๆ

“ให้ไม้หวายดีกว่านะ หวายไม่มีร่ม” ปิ่นยิ้นเขิน ๆ ที่เห็นไม้หวายกำลังมองเธอกับพีทหยอกล้อกัน

“ขอบคุณค่ะพี่” ไม้หวายรับร่มไปด้วยความปิติสำหรับน้ำใจของคนทั้งสอง แล้วก็ขอตัวกลับเพราะไม่อยากเป็นก้างชิ้นโตสำหรับรุ่นพี่ทั้งสองคน


ความเย็น ความสดชื่น และความเหงา นี่คงจะเป็นสัญญาณที่เริ่มฤดูฝนอย่างจริงจังแล้วซินะ บางวันฝนก็ตกบางวันก็ไม่ตก แต่สำหรับวันนี้ น้ำเย็น ๆ ของสายฝนที่กระเซ็นละอองมาเปียกตัวของไม้หวายทำไมช่างหนาวเยือกเย็นเสียกระไร หนาวเข้าไปจนลึกสุดหัวใจ และโดดเดี่ยว ไม้หวายอยากจะวอนฟ้าให้หยุดร้องไห้ซะเดี๋ยวนี้ เพราะตอนนี้น้ำฝนของไม้หวายกำลังจะไหลตามออกมาแล้ว

ไม้หวายขึ้นนั่งบนรถมินิบัสสีขาวด้วยความรู้สึกที่ล้นไปด้วยความว้าเหว่ เธอเฝ้าแต่คิดว่าทำไมภุมชายหนุ่มที่เธอหลงปลื้มถึงคิดกับเธอเพียงแค่น้องสาวทั้งที่หลายอย่างที่เขาแสดงออกมา รอยยิ้ม สัมผัสมือ ประกายตาในทุกครั้งที่ใกล้กัน มักทำให้ไม้หวายรู้สึกไหวหวั่น และอบอุ่น ประโยคสั้น ๆ ที่ภุมมักถามเสมอว่า ‘เหนื่อยไหม’ ทุกอย่างคือความรู้สึกของพี่ชายมอบให้น้องสาวเท่านั้น หรือว่าเป็นความรักของหนุ่มสาวที่มอบให้แก่กันและกัน

สำหรับไม้หวายความเป็นผู้หญิงบางครั้งก็ยิ่งทำให้อึดอัดกับคำว่ากรอบประเพณี และ อะไรอีกหลายอย่าง ที่กิริยาบางอย่างผู้หญิงไม่ควรจะทำหรือแสดงออกไป แม้แต่คำพูดหรือความคิด ในใจแล้ววันนี้เธออยากจะเอ่ยปากความรู้สึกออกไป แต่ก็ไม่กล้า

ฝนยังคงพรำไม่ขาดสายจนกระทั่งถึงค่ำคืนนี้ของการรับประทานอาหาร ไม้หวายดูพูดน้อยกว่าทุกวัน จนคนในบ้านเริ่มสงสัย ไม้ร่ำน้องคนสุดท้องพูดเชิงหยอกล้อว่าไม้หวายทำท่าอย่างกับคนอกหัก ยิ่งทำให้ไม้หวายรู้สึกไม่พอใจ จนเธอต้องปลีกตัวขึ้นไปบนห้องนอน ไม้หอมน้องสาวคนรองรู้สึกห่วงใยกับความรู้สึกของพี่สาว ความรู้สึกของผู้หญิงที่เข้าใจกันง่ายโดยไม่ต้องอธิบายใด ๆ เธอปลอบพี่สาวของตนเองอยู่ข้าง ๆ ว่า


“อย่าคิดมากนะหวาย ถ้ามีอะไรก็บอกเราได้ เราเป็นพี่น้องกันนะ” ไม้หอมมองดูพี่สาวตัวเองที่นอนหันหลังให้บนเตียง และได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ ตลอดคืนนั้น

ไม้หวายไม่ได้เล่าอะไรจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
สิ่งที่ไม้หอมทำได้คือเพียงนอนกอดพี่สาวไว้เท่านั้นเอง



คืนนั้น ภุมนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนของเขา กำลังบอกเล่าความรู้สึกที่มีลงในสมุดไดอารี่ของเขา เขานั่งนึกถึงภาพของไม้หวาย ที่จู่ ๆ ก็ลุกหนีเขาไป เขารู้ดีว่าสาเหตุที่ทำให้ไม้หวายรู้สึกเสียใจคือเรื่องอะไร แต่... ภุมเพียงต้องการคำพูดจากปากของไม้หวายเท่านั้นเอง ว่าเธอรู้สึกยังไงบ้าง ตลอดเวลาไม้หวายมีแต่รอยยิ้มและความนิ่งเงียบไม่เคยแสดงทีท่าว่าชอบหรือไม่ชอบให้เขาได้เข้า ไม้หวายไม้เคยแสดงออกให้เขาได้รับรู้ความรู้สึกของเธอเลย เขาคิดว่าเธออาจจะไม่สนใจเขาเลยก็เป็นได้ทำให้ภุมรู้สึกทดท้อที่จะบอกเล่าถึงความรู้สึกของเขาให้เธอได้ฟัง ภุมเริ่มบันทึกตัวอักษรของความรู้สึกในใจลงในไดอารี่ต่อ

“ผมเข้าใจดีว่าไม้หวายเสียใจกับความห่างเหินของผม ช่วงนี้ผมเองไม่มีเวลาใส่ใจเธอเลยครับ เพราะว่าผมกำลังยุ่งเรื่องเรียนอยู่รวมถึงการสอบเพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าผมเองไม่ได้ตั้งจุดมุ่งหมายของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลแต่ผมก็ต้องทำตามขั้นตอนทุกอย่างเพื่อวัดพื้นฐานความรู้ของตัวเอง ผมเพียงคิดว่าพอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้างจากความเป็นลูกครึ่งในตัวผม ผมพูดคุยภาษาอังกฤษกับแม่ของผมอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนเรื่องเรียนพิเศษตอนนี้ผมได้น้องผู้หญิงคนใหม่ที่อยู่ห่างจากบ้านของผมเพียงไม่กี่หลัง เป็นคนแนะนำสถานที่แห่งหนึ่งที่เธอเรียนอยู่ให้กับผม เธอน่ารัก และมั่นใจในตัวเอง ไม่เก็บซ่อนความรู้สึกเหมือนกับไม้หวายซึ่งบางครั้งผมเดาใจเธอไม่ออก แต่ผมก็ชอบไม้หวายมากนะเธอคนแรกในหัวใจของผม เธอต่างกันโดยสิ้นเชิงกับน้องริน

ถ้าถามว่าผมชอบผู้หญิงแบบไหนตอนนี้ผมก็สับสนเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่ผมพูดคุยกับไม้หวายผมรู้สึกถึงความผ่อนคลาย และเธอรับฟังผมได้ทุกเรื่อง แต่สำหรับน้องริน เวลาผมอยู่ใกล้ ๆ เธอ ผมรู้สึกเลือดความหนุ่มในตัวผมแตกพล่าน ด้วยความช่างพูดของเธอ เธอพูดเร็วบางครั้งผมจับความไม่ทัน เธอคิดยังไงก็พูดออกมาอย่างนั้น

ผมรู้จักกับเธอเพราะเธอขี่จักรยานผ่านบ้านผมและเธอยิ้มให้ผมและเข้ามาพูดคุยกับผม ทำให้ผมรู้ว่าเธออายุรุ่นราวคราวเดียวกับไม้หวาย แต่รินน่าสงสาร เธออยู่กับน้าลำพังสองคนเพราะพ่อแม่แยกทางกัน เธอเล่าความเป็นไปของเธอให้ผมฟัง และช่วยเหลือผมในหลายเรื่อง

สองเดือนที่ผ่านมาผมเลยไม่มีเวลาพูดคุยกับไม้หวาย เพราะตอนเช้าผมก็ไปส่งรินขึ้นรถและตอนเย็นผมก็รีบกลับไปรอรินที่บ้านของผม จนความสนิทของเรามากขึ้นและรินก็บอกว่าเธอชอบผมมาก ขอคบผมแบบแฟน ตอนนั้นผมตกใจมาก จนตั้งตัวไม่ถูก

สิ่งแรกที่ผมนึกถึง คือไม้หวายผมอยากเก็บความรู้สึกดี ๆ ของผมที่เรียกว่า แฟน ไว้ให้ไม้หวายคนเดียวเท่านั้น แต่เธอไม่ย่นย่อความพยายามเธอบอกผมว่ายังไม่รักไม่เป็นไรจะพยายามให้ได้ และทุกเสาร์-อาทิตย์ เธอมาหาผมที่บ้าน วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน ผมอยู่ตามลำพังกับเธอสองคน เธอใช้ริมฝีปากของเธอสัมผัสเบา ๆ ที่ริมฝีปากของผม เธอทำให้ผมช็อคอีกแล้วครับ แต่ผมไม่ได้ขัดขืนอะไรปล่อยทุกอย่างให้ผ่านไป

ผมรู้สึกทำผิดกับไม้หวายมาก ผมเลยไม่กล้าสู้น่าเธอจนเช้าวันนั้นที่ผมเจอไม้หวาย ผมมองแววตาของไม้หวายรู้ว่าเธอกำลังโดดเดี่ยวอย่างแน่นอน จนวันนี้ผมก็รู้ว่าแย่มากที่ทำไมผมไม่บอกเธอว่าผมรักเธอ ผมอยากเป็นแฟนของเธอแต่มันพูดไม่ออกเลยครับ

ผมได้แต่พูดประโยคเดิมว่าเธอคือน้องสาว ผมว่าไม้หวายก็คงรู้สึกผิดหวังกับผมแน่นอน จะให้ผมทำยังไงดีล่ะ น้องรินที่เกาะติดผมไม่เว้นแต่ละวัน และไม้หวายผู้เก็บงำความรู้สึกตลอดเวลา ผมคิดไม่ออกจริง ๆ อ้อเกือบลืมไปวันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้จับมือของไม้หวายนิ้วของเธอเรียวเล็กและสวยจังเลย แต่ผมรู้สึกว่ามือของเธอเย็นมาก เธอคงประหม่าที่ผมจับมือเธอเอาไว้ ผมดีใจจังเลยครับ สำหรับวันนี้”


ช่วงเวลาผ่านเลยมาจนถึงวันสอบเทอมต้น ภุมให้เวลาที่เหลืออยู่สองอาทิตย์ก่อนสอบกับไม้หวายติวหนังสือให้เธอ ให้ความรู้สึกดี ๆ กับไม้หวาย ทุกวันที่อยู่ในโรงเรียนเช้า กลางวัน และเย็น ภุมและไม้หวายไม่เคยห่างกันเลย จนไม้หวายเริ่มทำใจได้กับความรู้สึกที่เรียกว่าพี่ชายและน้องสาว

การสอบผ่านไปด้วยดี ไม้หวายกับภุมนัดมาดูผลสอบด้วยกัน และก็เป็นครั้งแรกที่ไม้หวายกับภุมได้ไปเที่ยวด้วยกัน ภุมกับไม้หวายนั่งรถไปที่จังหวัดใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร ทั้งสองคนเดินทางไปทะเลทางตะวันออกที่ไม่ไกลมากนัก เป็นช่วงเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด

“หวายขอบคุณพี่ภุมนะ ที่ติวหนังสือให้ และยังพามานั่งมองทะเลด้วยกันอีก หวายมีความสุขมาก” เธอนั่งอิงไหล่แสนอบอุ่นของเขา

“พี่ดีใจที่หวายมีความสุข ทุกสิ่งที่พี่ทำให้หวาย มันคือ...” เขานิ่งเงียบ
เธอหันมานั่งตัวตรงและมองไปที่เรียวปากสวยที่กำลังเม้มไปมา

“เพราะอะไรคะ” เธอถามต่อ

“คือว่า”

“ก็เราเป็นพี่น้องกันไงคะพี่ภุม แค่นี้ก็ตอบไม่ได้” เธอหัวเราะเสียงใส

ภุมรู้ว่ารอยยิ้มสดใสของเธอตอนนี้ กับดวงตาที่ซ่อนความเจ็บปวดไว้ มันขัดแย้งกันมากมายเหลือเกิน เขาได้แต่กล่าวขอโทษเบา ๆ ในใจ ที่เผลอนอกใจไม้หวายให้กับใครคนหนึ่งอยู่ ขอให้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ยังคงเป็นที่จดจำอยู่ในหัวใจของไม้หวายตลอดไว้ เขาภาวนาแบบนั้น เพราะนับจากนี้ไป ถ้าเรื่องของริน ถูกเปิดเผย ไม้หวายจะเจ็บปวดมากกว่านี้หรือเปล่า เขาไม่อยากทำร้ายจิตใจดวงน้อยของสาวน้อยตากลมคนนี้เลย



Create Date : 17 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2553 13:10:51 น. 1 comments
Counter : 361 Pageviews.

 
เศร้าน่ะ


โดย: jewelmoda วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:53:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nalinnovel
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นลินโนเวล เป็นบล็อกที่รวบรวมผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย โดยมีนามปากกาว่า
นลิน คือ รักหวาน - Sweet
ฟุ้งรัก คือ รักสดใส - Pastel
จุล คือ เรื่องสั้นและบทความ - A love aleart -Aom
อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านผลงานของนลินแล้วรู้สึกว่ากำลังทำสปาอยู่เลยค่ะ เลยแยกผลงานไว้ให้เข้าใจและเลือกประเภทที่จะทำให้ทุกคนRelax ได้ตามอัธยาศัย
และสักวันหนึ่งหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้พบกับผลงานของนลินตามแผงหนังสือนะคะ ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้นลินด้วยนะ ขอบคุณค่ะ

ตัวอักษรทุกตัวของบล็อกนลินโนเวล สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิดโดยนำข้อความทั้งหมด หรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดใน Blogไปเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของBlogเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด!!
Friends' blogs
[Add nalinnovel's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.