Catch dream in my Cheeks^o^จับฝันใส่กระพุ้งแก้ม Return to the beach BY NALINNOVEL
Group Blog
 
All blogs
 
เก้าอี้ไม้กับสวนลำดวน(รักนี้มีเพียงใจ) - บทที่ 10 สมาชิกใหม่ของชมรม

บทที่ 10 สมาชิกใหม่ของชมรม

การแบ่งนักเรียนที่เข้าร่วมชมรมดอกไม้สด แบ่งออกเป็นสองห้องเรียน เนื่องจากมีนักเรียนสนใจเข้าร่วมชมรมเป็นจำนวนมากกว่าทุกปี จึงแบ่งเรียนห้องละ 18 คน อาจารย์รสสุคนธ์มอบหมายให้ไม้หวาย และ เอมอรสอนคนละห้อง สำหรับเจ้าเกล้าอยู่ห้องที่ไม้หวายและอาจารย์ที่ปรึกษาอีกหนึ่งท่านเป็นผู้สอน และ อาจารย์รสสุคนธ์และเอมอรช่วยกันดูแลสมาชิกใหม่อีกหนึ่งห้อง

ขณะที่ไม้หวายช่วยอาจารย์แจกอุปกรณ์การเรียนให้กับนักเรียนทุกคน เธอตกใจมากที่เห็นเจ้าเกล้านั่งอยู่ในห้องเรียนด้วย เธอยื่นอุปกรณ์สำหรับการห่อของขวัญและดอกเดซี่สีขาวให้กับเจ้าเกล้าด้วยความประหม่าจนกระทั่งดอกเดซี่ล่วงลงกับพื้น

“ไม่เป็นไรครับผมช่วยเก็บให้” คำพูดที่อ่อนหวานพร้อมด้วยเสียงทุ้มของเจ้าเกล้าทำให้ไม้หวายทำอะไรไม่ถูก

“ขอบคุณ” ไม้หวายยังทำหน้าที่ต่อไปสำหรับน้อง ๆ คนอื่น ๆ

อาจารย์แววจันทร์แนะนำตนเองให้นักเรียนทุกคนรู้จัก และ พร้อมด้วยเธอก็แนะนำผู้ช่วยสอนอย่างไม้หวาย โดยเรียกว่า หฤทัย แทน หลังจากนั้นอาจารย์แววจันทร์ให้นักเรียนทุกคนแนะนำตนเอง ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนชั้น ม.ต้น และ ม.4 ที่เข้าใหม่ ม.5และ ม.6 บ้างเล็กน้อยเนื่องจากนักเรียนชั้นม.6 บางคนย้ายชมรมก็มี สำหรับไม้หวายอยู่ในชมรมตั้งแต่ม.4 เช่นเดียวกับเอมอร จนมีความสามารถอาจารย์เลยให้มาเป็นผู้ช่วยสอน

นักเรียนทุกคนแนะนำตัวเรียงกันไป ในห้องจัดให้นักเรียนนั่งทำงานกันเป็นคู่เพื่อจะได้ช่วยกันทำ เจ้าเกล้านั่งอยู่แถวที่ 2 ของห้องเรียน และอยู่โต๊ะคู่กลางของแถวพอดี พอถึงคิวของเขาสำหรับการแนะนำตนเอง ไม้หวายรู้สึกตื่นเต้นจนบางครั้งก็ร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า เธอกำลังสับสนว่าเธอเป็นอะไรกันแน่

“ผมชื่อ กฤษณะ ชนินทร์ฤกษ์ ครับ เพิ่งจะเข้ามาเรียนที่นี่เป็นปีแรก แต่ว่าอยู่ชั้น ม.6 นะครับ” เขาพูดแค่เพียงประโยคธรรมดาแต่ก็ทำให้เป็นที่สนใจของพวกสาว ๆ เป็นอย่างมาก เขานั่งคู่กับนักเรียนชายรุ่นน้อง ม.4 คนหนึ่งที่สนใจเข้าร่วมชมรมเช่นกัน

การสอนเริ่มขึ้น ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นอยู่กับการหัดห่อของขวัญ ซึ่งขั้นตอนแรกก็คือการห่อของขวัญธรรมดาทุกคนสามารถทำกันได้เป็นส่วนใหญ่ แต่พอตอนจัดช่อดอกไม้เล็ก ๆ และใช้เชือกป่านสีสดใสผูกซึ่งดูแล้วยากมากสำหรับผู้ฝึกหัด อาจารย์ให้ไม้หวายช่วยสอนสมาชิกในชมรมที่ไม่เข้าใจ เจ้าเกล้าเห็นอย่างนั้น จึงแกล้งทำเป็นทำไม่ได้ แต่ที่จริงเขาสามารถทำได้อยู่แล้ว คุณยายของเขาสอนเขาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่อาจารย์รสสุคนธ์ไม่ทราบเพราะว่าอาจารย์ไม่ได้ช่วยเลี้ยงดูตอนเจ้าเกล้าเด็ก ๆ

พอไม้หวายเดินเข้ามาใกล้ ๆ เขาก็เรียกไม้หวายให้มาช่วยอธิบายทำให้ไม้หวายรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าขึ้นมาอีก เธอพยายามไม่เคลิบเคลิ้มไปกับความอ่อนโยนของเขา เธอพยายามนึกถึงภุมพยายามดึงภาพเก่า ๆ เหล่านั้นที่ภุมเคยดีกับเธอมาไว้ในใจตลอดเวลาที่เธอเข้าใกล้กับเจ้าเกล้า

“คุณไม้หวาย ช่วยสอนผมหน่อยซิครับ ผมทำไม่ได้” เจ้าเกล้ามองเธออย่างไม่ละสายตา แต่ไม้หวายก็พยายามทำหน้าที่ของเธอ และปฏิบัติตนเช่นเดียวกับสมาชิกคนอื่น ๆ

“ขอบคุณครับคุณไม้หวาย” ยิ่งเจ้าเกล้าเรียกชื่อเล่นของเธอมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ไม้หวายไม่อยากเข้าใกล้เขามากเท่านั้น เธอเดินออกห่างจากเขาและยืนมองเขาอยู่ไกล ๆ เธอสังเกตว่าพอเขาทำดอกไม้ช่อที่ 2 เขาสามารถทำได้คล่องแคล่วเช่นเดียวกับคนที่ชำนาญงานมากอยู่แล้ว

หลังจากเลิกเรียนทุกวันศุกร์นักเรียนทุกคนต้องเข้าชมรม ถ้าชมรมไหนเลิกเรียนเร็วนักเรียนก็สามารถกลับบ้านได้เลย ชมรมดอกไม้สดก็เช่นเดียวกันที่เลิกเร็ว แต่เจ้าเกล้าไม่ได้กลับบ้านเลย เขานั่งรออาจารย์รสสุคนธ์ ที่สวนลำดวน โดยไม่ทราบว่าคนที่เป็นขาประจำมาที่นี่บ่อย ๆ ก็คือไม้หวาย

วันนี้หลังเลิกชมรมไม้หวายยังไม่ได้กลับบ้านเพราะเธอมีนัดกับปิ่น เพื่อนรุ่นพี่คนสนิทของเธอ เธอเดินมาที่สวนลำดวนกำลังจะนั่งลง พอเหลือบไปเห็นเจ้าเกล้านั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนสีขาวถัดไปสองโต๊ะเธอกำลังจะเปลี่ยนใจลุกออกไป แต่คงไม่ทันแล้วเจ้าเกล้าไม่รอช้า เขารีบรุดมานั่งร่วมโต๊ะกับไม้หวายทันที

“หวัดดีครับคุณไม้หวาย มานั่งรอใครหรือครับ” เจ้าเกล้ารีบทักทายทันที แต่เหมือนทุกครั้งเขาไม่ได้รับคำตอบใด ๆ กลับมา แต่เขาไม่ละความพยายาม

“หวัดดีคุณไม้หวาย คุณพูดไม่เป็นหรือครับ” เจ้าเกล้าหัวเราะเสียงใสออกมา คงเป็นครั้งแรกที่เขาหัวเราะออกมา

“คุณนี่แปลกนะผมถามคุณก็ไม่ยอมตอบผมสักคำ แต่วันนี้ คุณพูดกับผมตั้งหนึ่งคำว่า’ขอบคุณ’ ดีใจจังที่อย่างน้อยก็ได้ยินเสียงของคุณด้วย” เจ้าเกล้านั่งมองเธออย่างไม่ละสายตาเหมือนทุกครั้งจนไม้หวายรู้สึกอึดอัด

“คุณครับ คุณพูดกับผมสักคำซิ” ความที่เบื้องลึกนิสัยของเจ้าเกล้าเป็นคนขี้เล่น เขาจึงแสดงออกมาต่อหน้าไม้หวาย เขาไม่รู้ว่าอาจารย์รสสุคนธ์มายืนแอบดูอยู่ แต่อาจารย์รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่อย่างน้อย หฤทัย ลูกศิษย์ของเธอกำลังจะทำให้หลานชายของเขากำลังได้รับการบำบัดทางจิตใจ

เธอมองออกว่าหลานชายของเธอคงชื่นชอบหฤทัยเข้าแล้วเธอจึงเดินกลับไปที่ชมรมและพบกับปิ่นเข้าพอดีจึงชวนกันนั่งคุยเพื่อเปิดโอกาสให้กับเจ้าเกล้าและไม้หวายได้ใกล้ชิดกัน เพื่อหลานชายของเขาจะได้สบายใจมากขึ้นและลืมปัญหาที่เป็นปมในใจของเขาต่อไป

“นี่คุณเป็นอะไร ตั้งคำถามได้ตลอดเวลา” ไม้หวายเริ่มพูดคุยกับเจ้าเกล้าบ้าง

“คุณชื่อไม้หวาย น่ารักดีนะ ผมชื่อเจ้าเกล้า เรียกผมว่าเกล้าก็พอนะ คุณเป็นคนพิเศษนะที่ผมยอมให้เรียกชื่อเล่น” เจ้าเกล้ายิ้มกว้างให้ไม้หวายที่นั่งหน้าปราศจากรอยยิ้ม

“คุณกฤษณะ” ไม้หวายเรียกชื่อจริงของเขา

“เกล้าก็พอครับ ต้องเรียกนะครับ ถ้าคุณเรียกกฤษณะ ผมจะไม่หันมาคุยกับคุณ งั้นผมขออนุญาตกลับไปนั่งที่เดิมของผมนะคุณไม้หวาย” เจ้าเกล้าพูดจาเชิงหยอกล้อให้ไม้หวายยิ้มออกมา

“เชิญ” ไม้หวายพูดห้วน ๆ ก้มมองนาฬิกาข้อมือถี่ขึ้น และหันมองซ้ายมองขวาหาปิ่นเพื่อนรุ่นพี่ที่นัดกันไว้

เจ้าเกล้านั่งวางแขนทั้งสองข้างบนโต๊ะและพับข้อศอกเข้าเอาคางเชยไว้บนแขนของเขา และใช้สายตาของเขามัดไม้หวายไว้ไม่ให้เคลื่อนหายไปไหน และนั่งยิ้มแบบยั่วโมโหไม้หวาย ให้หันมาพูดจาต่อว่าเขา

“อ้าวเจ้าเกล้า กลับได้แล้ว” อาจารย์รสสุคนธ์ เข้ามาทักทาย

“อ้าวพี่ปิ่นเจอกับอาจารย์แล้วเหรอคะ” ไม้หวายยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้เจ้าเกล้ายืนอมยิ้ม เป็นครั้งแรกที่ไม้หวายดูสดใสและเป็นธรรมชาติ

“อืม พอดีคุยกับอาจารย์น่ะ ไปกันเถอะ อาจารย์คะขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” ไม้หวายและปิ่นยกมือไหว้อาจารย์และกำลังหันหลังกลับเธอทั้งสองคนก็ได้ยินเสียงเรียกจนต้องหันหลังกลับมาทางต้นเสียงอีกครั้ง

“คุณไม้หวาย เวลายิ้มน่ารักดีนะ” พูดเสร็จเขาหันกลับไปช่วยน้าสาวของเขาถือของในมือและเดินกลับบ้านไป ทำให้ปิ่นรู้สึกฉงนกับคำพูดประโยคเมื่อครู่ และหันไปยิ้มให้หวายปนด้วยสีหน้าที่ตั้งคำถามเพื่อต้องการคำตอบ

“แฟนเหรอ” ปิ่นพูดตรงประเด็นทำให้ไม้หวายอาย

“บ้าเหรอพี่ เขาเป็นหลานอาจารย์ ยังไม่สนิทกันหรอก เพิ่งจะเคยคุยกันเป็นครั้งที่สองเอง น่ารำคาญจะตายไป” ไม้หวายเดินก้มหน้าเหมือนคนที่เขินอาย

“จริงเหรอ แต่เขาน่ารักดีนะ ดูเป็นสุภาพบุรุษมากเลยนะ” ปิ่นพูดส่งเสริมต่อ

“ช่างเขาเถอะ หวายมีพี่ภุมอยู่ในใจเสมอนะคะ พี่ปิ่น” ไม้หวายดวงตาหม่นเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงภุม รอยยิ้มของเธอดูเหงาลงทันตา

“ไปเถอะ ไปกินไอศครีมกันวันนี้พี่เลี้ยงเอง มีเรื่องจะเม้าท์เยอะมาก ๆ” ปิ่นแสร้งเปลี่ยนเรื่องทันที


คืนนั้นไม้หวายกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ เธอหยิบรูปของภุมและข้อความในจดหมายทั้งสองฉบับขึ้นมาอ่านทบทวนหลายรอบ เธอกำลังสับสนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ทุกอย่างที่ภุมปฏิบัติต่อเธอ และเพียงไม่กี่ครั้งที่เธอได้ใกล้ชิดกับเจ้าเกล้า เธอชั่งน้ำหนักระหว่างความรักของเธอที่มีต่อภุม และความไหวหวั่นที่เธอมีต่อเจ้าเกล้า จนไม้หอมเริ่มสงสัย

“พี่หวายเป็นไรเหรอ ง่วงแล้วนะนอนเฉย ๆ ซิ” ไม้หอมงัวเงียขึ้นมานั่งมองพี่สาวของตนเอง

“ขอโทษจ้ะ นอนเดี๋ยวนี้แหละ” ไม้หวายล้มตัวลงนอน เธอนึกได้ว่าข้อความในจดหมาย ภุมให้เบอร์โทรศัพท์ อีเมลล์และที่อยู่ติดต่อกลับ แต่เธอกล้า ๆ กลัว ๆ ถ้าโทรศัพท์ไปแล้วภุมลืมเธอแล้ว ไม่อยากคุยด้วย เธอก็ต้องนั่งเสียใจมากกว่าเดิมอีก และอีกอย่างเธอไม่อยากให้ภุมและรินคนรักของภุมต้องมีปัญหากันเพราะเธอเป็นต้นเหตุ เธอกระวนกระวายใจจนผล็อยหลับไป


“พี่หวายตื่นหรือยัง แม่บอกให้ไปช่วยที่ร้านนะ” ไม้หอมดึงแขนไม้หวายให้ลุกจากที่นอน

“อืม ตื่นแล้วลุกเดี๋ยวนี้แหละ” ไม้หวายซุกตัวลงไปที่หมอนเหมือนเดิม
จนสายเธอถึงตื่นขึ้นมาและจัดแจงตัวเองลงไปช่วยงานแม่ เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับ วันนี้เลยเหมือนไม่รู้สึกสดชื่นเท่าไหร่นัก


“อ้าวนั่งหาวหวอดเลยหวาย เดี๋ยวลูกค้ามาอายเขาตาย” แม่ร้องทักไม้หวายที่ทำท่าเหมือนง่วงนอน ขณะที่มือก็นั่งกอดหนังสืออยู่ สายตาไม่ได้อ่านหนังสือในมือนั้นเลย

“หวายขอไปทำตัวให้สดชื่นก่อนนะคะแม่” ไม้หวายวางหนังสือทิ้งไว้ที่เก้าอี้หน้าร้าน ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำที่หลังบ้าน


“ภุม ดูกระเช้านี่ซิ น่ารักดีนะ เอาอันนี้แหละไปจัดของเยี่ยมยายกัน” รินส่งเสียงแจ๋ว

“ภุม ภุมได้ยินหรือเปล่าที่รินพูดน่ะ” รินเขย่าแขนของภุมแรงขึ้น ๆ

“อ๋อ อะไรเหรอ” ภุมทำหน้าสงสัย เพราะเมื่อกี้เขาไม่ได้ยินสิ่งที่รินถาม เขากำลังนึกอยู่ว่าร้านไผ่ละมุนร้านนี้จะเป็นร้านของไม้หวายหรือเปล่าที่เธอเคยเล่าให้ฟังว่าพ่อของเธอมีร้านขายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้หวายจักรสาน ร้านนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากอู่รถมินิบัสสีขาวด้วย

“รับอะไรดีคะคุณ” แม่ของไม้หวายเข้ามาต้อนรับลูกค้า

“จะมาดูกระเช้าสำหรับใส่ผลไม้ค่ะ” รินยิ้มรับกับเจ้าของร้าน

“งั้นเชิญทางนี้ค่ะ ทางนี้เหมาะกว่าค่ะ มีหลายขนาดนะคะ” แม่ของไม้หวายทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าเป็นอย่างดี

“ภุมไม่เข้ามาดูเหรอ” รินชักสีหน้าใส่ภุม

“อืม ขอดูของแถวนี้ก่อนนะ” ภุมเดินสำรวจมองไปทั่วร้านที่ถูกปลูกสร้างด้วยบ้านไม้สองชั้นสีขาวขนาดไม่ใหญ่มากนัก ชั้นบนมีไว้สำหรับอาศัยหลับพักผ่อน และชั้นล่างมีห้องรับแขกและห้องครัวทางด้านหลัง บริเวณนี้ถ้าเป็นบ้านคนอื่นคงจะเป็นสวนหน้าบ้านแต่สำหรับที่นี่เป็นร้านขายของที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีลูกค้าแวะมาไม่ขาดสาย ด้านข้างของร้านเป็นโรงจอดรถซึ่งตอนนี้ว่างเปล่าไม่มีรถจอดอยู่สักคัน

“คุณน้าครับ ที่นี่รับจัดดอกไม้ด้วยหรือเปล่าครับ” ภุมแสร้งตั้งคำถามเผื่อว่าจะได้ข้อมูล

“เปล่าหรอกค่ะ แต่ถ้าคุณอยากให้จัดให้คงต้องแจ้งล่วงหน้าค่ะ ทางร้านจะได้เตรียมของไว้ทัน” แม่ของไม้หวายยิ้มรับ

“คุณน้าจัดเองเหรอครับ” ภุมซักต่อ

“เปล่าหรอกค่ะ ให้ลูกสาวจัดให้ค่ะคุณ” แม่ของไม้หวายพูดไปพลางช่วยรินเลือกตะกร้าหวายใบย่อมไปพลาง ๆ

“ต้องใช่แน่ ๆ เลย” ภุมพูดเบา ๆ

“แล้ววันนี้คุณน้าอยู่คนเดียวเหรอครับ” ภุมยังเจรจาต่อ

“นี่ภุม ถามอะไรก็ไม่รู้ เซ้าซี้เดี๋ยวน้าเค้าก็รำคาญหรอก คุณน้าค่ะเอาอันนี้แล้วกันน่ารักดีค่ะ” รินยื่นตะกร้าหวายที่เลือกได้พร้อมด้วยธนบัตรสำหรับค่าสินค้า

“ไปเถอะภุม วันนี้รีบด้วย ไปเถอะด้วยน้ารินรอแย่เลย” รินชักชวนให้ภุมกลับ แต่ภุมยังคงยืนมองอยู่หน้าร้านไม่ยอมเคลื่อนย้ายไปไหน

“มองหาอะไรเหรอคะคุณ” แม่ของไม้หวายเริ่มสงสัย

“เปล่าครับ ไปล่ะครับ” ภุมลาแม่ของไม้หวาย แต่ขณะที่เขากลับไปติดเครื่องเวสป้าสีฟ้าของเขา สายตาของเขาชำเลืองดูโดยรอบเพื่อให้แน่ใจและเขาอาจจะพบไม้หวาย


“อ้าวแม่ เมื่อกี้มีคนมาซื้อของเหรอ” ไม้หวายเดินออกมาจากข้างในบ้าน

“จ้ะ ลูกค้าเขามาซื้อตะกร้าหวายแล้วก็ถามถึงเรื่องว่ารับจัดดอกไม้” แม่ยิ้มพลางจัดของไปด้วย

“หวายว่านะ เราต้องเพิ่มกิจการแล้วล่ะจ้ะ รับจัดดอกไม้ด้วยดีไหมแม่” ไม้หวายได้ใจ

“คงยาก เราจะเอาเงินที่ไหนมาลงทุนล่ะ แม่ไม่รู้หรอกนะว่าบ้านเช่าหลังนี้เราต้องย้ายออกไปเมื่อไหร่” แม่พูดด้วยน้ำตาคลอ

“ไม่เป็นไรหรอกนะ เดี๋ยวหวายเรียนจบทำงาน หวายจะหาบ้านใหม่ให้แม่นะ” สองแม่ลูกนั่งมองหน้ากันอยู่สักพัก ก็ทำเป็นลุกเดินไปคนละทาง ช่วยกันจัดข้าวของให้ดูเรียบร้อย เพื่อกลบเกลื่อนความเศร้าที่อยู่ภายในใจ


ยามบ่ายแก่ แม่นึกครึ้มอารมณ์ดี เปิดเพลงจนเสียงดังแว่วจากในบ้าน ดังมาถึงที่หน้าร้าน

“ก็มีสักครั้งในชีวิตหนึ่ง จะทราบซึ้งกับหัวใจ อ่านบทกลอนแล้วร้องไห้ ฟังเพลงได้ตลอดคืน

ลม ลม หายใจ ความคิดถึง …..” บทเพลงของวงชาตรีดั่งคลอไปเรื่อย ๆ

“เพลงนี้เศร้าจังเลยนะ” ไม้หวายพูดกับตัวเองเบา ๆ น้ำตาของเธอซึมออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอลงนั่งลงที่โต๊ะรับแขก หยิบรูปของภุมที่อยู่ในหนังสือที่อ่านค้างไว้เมื่อครู่ขึ้นมาดูแล้วยิ้ม

“พี่ภุมอยู่ไหน สบายดีไหม หวายคิดถึงพี่มากนะ ขอได้ไหม ขอสักครั้งที่เราจะได้เจอกัน ขอได้ไหมพี่ภุม” เธอรำพึงกับตัวเองเบา ๆ แล้วก็หยิบรูปขึ้นไปแนบแก้มไว้

“เป็นอะไรหวาย” แม่เดินเข้ามาถาม เธอรีบเก็บรูปซ่อนไว้ในหนังสือตามเดิม

“แม่เปิดเพลงเหรอ เพราะจังเลย” ไม้หวายยิ้มแก้เขิน

“ใช่ เพลงเก่าฟังรู้เรื่องด้วยเหรอ” แม่ยิ้ม เมื่อมองหน้าของลูกสาวที่แดงกล่ำ แต่แม่แกล้งเปลี่ยนเรื่องคุย

“ชอบจังเลย คืนนี้ขอยืมฟังนะแม่” ไม้หวายเดินเข้าไปนั่งในบ้านเพื่อหลบหน้าแม่ กลัวว่าแม่จะเห็นคราบน้ำตาแห่งความคิดถึงของเธอ

เธอนั่งฟังเพลงเก่าเพลงนี้ เปิดวนไปวนมา แล้วก็ยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก แต่หัวใจของเธอกำลังสำลักน้ำตา อยู่อย่างลำพังคนเดียว





Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2554 13:05:38 น. 2 comments
Counter : 349 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะคุณนลิน แวะมาทักทาย ขอบคุณที่แอดนะคะ
ขอแอดกลับนะคะ

บทที่10 แล้ว ต้องตามอ่านยาวเลยนะคะนี่


โดย: พรายทราย วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:47:19 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ
มีความสุขทุกวันค่ะ


โดย: phunsud วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:42:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nalinnovel
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นลินโนเวล เป็นบล็อกที่รวบรวมผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย โดยมีนามปากกาว่า
นลิน คือ รักหวาน - Sweet
ฟุ้งรัก คือ รักสดใส - Pastel
จุล คือ เรื่องสั้นและบทความ - A love aleart -Aom
อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านผลงานของนลินแล้วรู้สึกว่ากำลังทำสปาอยู่เลยค่ะ เลยแยกผลงานไว้ให้เข้าใจและเลือกประเภทที่จะทำให้ทุกคนRelax ได้ตามอัธยาศัย
และสักวันหนึ่งหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้พบกับผลงานของนลินตามแผงหนังสือนะคะ ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้นลินด้วยนะ ขอบคุณค่ะ

ตัวอักษรทุกตัวของบล็อกนลินโนเวล สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิดโดยนำข้อความทั้งหมด หรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดใน Blogไปเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของBlogเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด!!
Friends' blogs
[Add nalinnovel's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.