Catch dream in my Cheeks^o^จับฝันใส่กระพุ้งแก้ม Return to the beach BY NALINNOVEL
Group Blog
 
All blogs
 
เก้าอี้ไม้กับสวนลำดวน(รักนี้มีเพียงใจ) - บทที่ 2 เรียกว่าอะไร

บทที่ 2 เรียกว่าอะไร

“อืม เช้าอีกแล้ว วันนี้รีบตื่นดีกว่า” ภุมรีบจัดแจงตัวเองแต่ไม่เหมือนทุกวันเพราะว่าเขาตั้งใจจะเดินทางไปโรงเรียนและก็รีบไปนั่งรอใครบางคนที่ม้าหินใต้ต้นดอกลำดวน

“เงียบเหมือนทุกวันเลยแฮะ ทำไมผู้หญิงถึงชอบมาโรงเรียนแต่เช้าก็ไม่รู้” ภุมบ่นอุบกับตัวเอง แต่สายตาก็คอยชะเง้อมองหาสาวน้อยที่รอคอย

กร็อบ แกร็บ เสียงของใบไม้แห้งดังขึ้นเหมือนมีฝีเท้าของใครคนหนึ่งกำลังเดินมาทางภุม เขารีบหันกลับไปมองแต่แล้วก็ต้องผิดหวังเพราะเสียงที่เขาได้ยินเป็นพนักการภารโรงที่กำลังกวาดใบไม้อยู่ ภุมคิดทึกทักในใจว่าคงจะผิดหวังสำหรับวันนี้ ในขณะที่เขากำลังเปลี่ยนใจลุกจากม้าหินอ่อนสีขาวนั้นเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ภาพที่เห็นผู้หญิงในชุดนักเรียนม.ปลายกำลังวิ่งตรงดิ่งมาที่เขา ไม้หวายนั่นเอง เป็นสิ่งที่เขารำพึงในใจตามแรงปรารถนา

“นึกว่าไม่ทันซะแล้ว” ไม้หวายพูดกับตัวเองเบา ๆ เธอหายใจเร็วเป็นระยะ ดวงหน้าเธอเผยให้เห็นเลือดฝาดจากการเหนื่อยหอบแก้มของเธอแดงระเรื่อปนกับเหงื่อซึมเล็กน้อยตามไรผม

“น้องครับ” เสียงแผ่วเบาจากลำคอที่พยายามกลั่นเสียงออกมาตามหัวใจเรียกร้องของภุม

สิ่งที่ภุมได้รับคือรอยยิ้มน้อย ๆ ของไม้หวายที่ใครเห็นต้องรู้ว่าเธอขวยเขินขนาดไหน

“มาแล้วเหรอครับ” ภุมเสียงมีน้ำเสียงมั่นใจขึ้นนิดหน่อยจากคำทักทายประโยคแรก

“ค่ะ... มาเช้าเหมือนกันเลย” ไม้หวายตอบด้วยอาการของคนที่ประหม่า

“คือว่า…พี่ … พี่ … เออ... ไม่มีอะไรครับ ไปก่อนนะครับ” พูดจบ ภุมก็เดินจาก ณ ที่ตรงนั้น

ใบหน้าของชายหนุ่มไม่ต่างอะไรกับหญิงสาวเลย เหมือนมีสารสีแดงปนชมพูใส่เข็มฉีดยาของคุณหมอแล้วฉีดเข้าไปทั่วหน้า หลังจากที่ชายหนุ่มเดินจากเธอไปแล้ว

เธอก็ได้แต่ยืนยิ้มและมีความสุขอยู่ในหัวใจ “แค่นี้ก็พอแล้วหล่ะ”


เช้าวันนี้ไม้หวายเรียนหนังสืออย่างมีความสุขกว่าทุกวันจะเป็นเพราะอากาศเย็นสบายหรือว่า เหตุการณ์เมื่อเช้านี้ก็ตาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอคิดไว้ในใจคือการได้รู้จักกับรุ่นพี่คนนี้ หรือได้พูดคุยกันอีกสักครั้ง และวันนั้นทั้งวันไม้หวายก็ไม่ได้เจอรุ่นพี่ของเธออีกเลย จนกระทั่งเวลาบ่ายแก่ ๆ หลังเลิกเรียน ขณะที่เธอกำลังเก็บกระเป๋าเรียนเตรียมกลับบ้าน เธอเหลือบเห็นคนในฝันของเธอมานั่งรอหน้าห้อง จนทำให้สาว ๆ ในห้องเรียนแอบคุยซุบซิบกันใหญ่ และพูดคุยกันว่ารุ่นพี่คนนี้มานั่งทำอะไร หรือว่ามารอใคร ทุกคนคิดกันไปต่าง ๆ นานา แม้ไม้หวายเองก็แอบคิดไม่ได้ ถ้ามานั่งรอตัวเธอเองก็คงดี แต่ถ้ามารอคนอื่น ก็ไม่เป็นไร ถึงจะแอบเสียใจ ก็ตาม

“หวาย กลับเถอะ” เพื่อนร่วมห้องเรียกเบา ๆ แต่ก็ทำให้ไม้หวายรู้สึกเหมือนเสียงดังมากเธอถึงกลับสะดุ้งโหยง

“กลับก่อนเถอะ เดี๋ยวสักพักหวายค่อยกลับจ้ะ”

ไม้หวายเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเรียนของตัวเอง จนเพื่อนในห้องทยอยออกมากันจวนจะหมดห้องเรียนแล้ว เธอพยายามมองออกไปนอกห้อง ก็ไม่เห็นรุ่นพี่คนนั้นอีก เธอคิดว่ารุ่นพี่คงจะไปกับใครคนอื่น หรือ เพื่อน ๆ ข้างห้องแล้ว สีหน้าของไม้หวายสลดเศร้าเล็กน้อย แต่ก็ปลอบใจตัวเองเบา ๆ ว่า ‘ไม่เป็นไร’ แล้วก็ลุกเดินออกจากห้องเรียนเพื่อกลับบ้าน

ไม้หวายเดินมาตามทางเดินเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงทางแยกที่ต้องผ่านสวนนั่งเล่นใต้ต้นลำดวน เธอหยุดยืนสักพักเพราะรู้สึกเหมือนกับหัวใจหล่นหายไป อย่างไม่รู้ตัว บรรยากาศหลังเลิกเรียนแสนเงียบทุกอย่างรอบตัวชวนให้อารมณ์เหงาวิ่งล้อมตัวเธอ

เธอเดินต่อไปอีก ตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนไอร้อนของใครบางคนละผิวอยู่ด้านหลัง พร้อมกับกลิ่นโคโลญจ์ของผู้ชายจาง ๆ ทำให้ไม้หวายรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนเดินเข้ามาประชิดตัวเธอมากยิ่งขึ้น

“เอ๊ะ” ไม้หวายหันหลังไปมองและรู้สึกตกใจ ต้นเหตุแห่งความรู้สึกนั้น คือ คนที่ทำให้เธอเศร้าใจเมื่อไม่นานมานี้เอง

ภุมเดินเข้ามาเดินเคียงข้างเธอจนเหมือนกับคนทั้งสองเดินกลับบ้านด้วยกัน ภุมไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกับไม้หวายเลย จนทำให้ไม้หวายรู้สึกถึงอาการที่บอกความรู้สึกไม่ถูก เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ทั้งสองได้แต่เดินมองหน้ากันบ้างเป็นระยะ ๆ ไม่มีเสียงสนทนากัน จนกระทั่งถึงหน้าโรงเรียน

ภุมเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และเฝ้ารอดูจนไม้หวายขึ้นรถมินิบัสสีขาวกลับ เขาถึงขึ้นรถมินิบัสสีแดงกลับ และเหตุการณ์นี้ก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันจนเวลาผ่านไป 1 เดือน บางวันภุมก็เดินตามหลัง บางวันเขาก็เดินห่างออกไปเพียงแต่เมียงมอง ภุมปฏิบัติตนเช่นนี้กับไม้หวายเช่นเดิมทุกวัน จนกระทั่งเย็นวันหนึ่ง

“พี่คะ คือว่า” เธอเอ่ยเรียกเขาขณะที่กำลังเดินตามหลังเขาอยู่ไม่ห่าง
เขาหันมาตามเสียงเรียกนั้นและทำหน้าแปลกใจ

“หนูมีเรื่องจะถาม” ไม้หวายเริ่มต้นถามสิ่งที่สงสัย

“ครับ” ภุมเบือนหน้าหนีไม้หวาย

“หนูสงสัยว่า ทำไมพี่ถึงเดินมาส่งหวายทุกวันตอนเลิกเรียน แล้วก็...” เธอรู้สึกหน้าเสียเล็กน้อย เมื่อเขาทำทีท่าไม่ได้ใส่เธอขณะที่เธอถามเขาออกไป

“ไม่เป็นไรค่ะบางทีหวายอาจจะคิดไปเองก็ได้ ไม่ต้องตอบข้อสงสัยที่หวายถามออกไปก็ได้” ไม้หวายรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวกว่าทุกครั้ง แล้วก็นิ่งเงียบไป

ภุมหันมามองหน้าเธอ “คือว่า…คือ…” ภุมนิ่งเงียบ

“เออคือว่า พี่... พี่...ชอบน้อง ไปก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” ภุมพูดจบเขากำลังวิ่งจากไป แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะรู้สึกว่าแขนของเขามีมืออันอบอุ่นดึงรั้งเขาไว้

“อย่าเพิ่งไปค่ะ พี่ แล้วพี่ชื่ออะไร คือว่าหมายถึง เราคุยกันให้รู้เรื่องอย่าหนีหวายไปอีกเลยนะ ขอร้อง” น้ำตาเริ่มเคลือบแววตาของสาวน้อยด้วยใบหน้าแดงกล่ำ

แววตาของภุมที่มองมาแสนหวานซึ้งผสมความเขินอาย เขาหลบตาไม้หวาย แล้วก็ยิ้มเขิน เขาหาสาเหตุไม่เจอว่าเขาเองกำลังทำอะไรหรือคิดอะไรอยู่ ภุมยื่นมือของเขาจับมือของไม้หวายเอาไว้ยิ่งทำให้ไม้หวายรู้สึกเขินอายมากยิ่งขึ้น

เขาเริ่มมั่นใจในความรู้สึกตัวเองมากขึ้น

“เดินไปด้วยกันหรือว่าจะหาที่นั่งคุยดีครับ” ภุมมองหน้าไม้หวายแบบที่ไม่มีคำว่าเขินอาย แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

“อืม… ไปตรงถนนที่มีต้นไม้ขึ้นสองข้างทางเหมือนบ้านต้นไม้ไหมคะ อยู่บริเวณไม่ไกลจากโรงเรียนแถว ๆ หน้าหมู่บ้านใกล้ ๆ นี่แหละค่ะ หวายว่ามันสงบเงียบดี และก็สวยมากค่ะ” ไม้หวายพูดไปใบหน้าเปื้อนยิ้มไปทุกขณะ

ภุมยืนมองสาวน้อยคนหนึ่งซึ่งพูดมากขึ้นกว่าทุกครั้ง เขาได้เก็บทุกเส้นเสียงของเธอ และรอยยิ้มกับอารมณ์อ่อนหวานละไมของเธอในทุกขณะที่เธอเปร่งเสียงใส เสียงที่เปี่ยมปนด้วยความสุขจนมองเห็นชัดบนรอยยิ้มและดวงหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน และเขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าถนนต้นไม้ที่เธอบอกเขาว่าสวยงามก็คือสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้านของเขาเอง

“ไปเถอะพี่รู้จัก” ภุมยิ้มน้อย ๆ แบบที่เขาชอบยิ้มเวลาเขินอาย



“สวยไหมคะพี่” สาวน้อยเอ่ยปาก แล้วก็เดินไปนั่งตรงม้านั่งยาวสีน้ำตาลใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีใบเรียวเล็กหลาย ๆ ใบ เรียงกันบนก้านใบเป็นริ้วเหมือนขนนกสีเขียวเหลืองปนกัน

ภุมยิ้มที่มุมปากแล้วเดินมานั่งลงข้าง ๆ ไม้หวาย “ต้องสวยซิ เดินเข้าไปก็เป็นบ้านพี่นั่นไง”

สายตาที่จ้องมองไม้หวายบวกกับคำตอบที่ได้รับทำให้ไม้หวายรู้สึกวางตัวไม่ถูก ได้แต่ยิ้มแล้วก็หัวเราะออกมา

“หัวเราะทำไมเหรอ ไม่เห็นมีอะไรตลกเลย” ภุมทำหน้างง แต่แววตาก็ไม่ละจากใบหน้าของเด็กน้อยที่นั่งข้างกาย

“ก็ อายนี่ หวายชอบที่นี่มากนะ แต่มันกลายเป็นหน้าหมู่บ้านของพี่เฉยเลย พี่คงเห็นจนเบื่อแล้วมั้งคะ” ไม้หวายถามต่อ

“ไม่หรอกครับ บ้านพี่อยู่ที่นี่ก็ต้องชอบเหมือนที่ไม้หวายชอบเช่นกัน เคยคิดอยากมานั่งเล่นตรงนี้เหมือนกัน แต่ว่าไม่มีจุดประสงค์อะไร แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมานั่งทำไมตรงนี้” ภุมทำหน้าตาเคร่งขรึมขณะที่ตอบคำถาม

“ไม่เห็นต้องมีจุดประสงค์เลย ก็ทำตามที่ใจเราต้องการซิคะ ที่นี่สวยและร่มเย็นทำให้มีสมาธิ” ไม้หวายเสียงกังวาลใส

“สวยจริงด้วย” เขาพูดไปพร้อมกับส่งสายตาไปที่เธอ

“ไหนบอกว่าเราต้องคุยกันไง” ภุมรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะรู้สึกว่ายิ่งมองไม้หวายมากเท่าไหร่เขาก็รู้สึกประหม่าและเขินมากเท่านั้น

“ได้ค่ะ” เธอหันมายิ้มบาง ๆ

“คือ... หวายอยากรู้ว่าพี่ชื่ออะไร เท่านั่นเอง แล้วทำไมถึงต้องมาคอยเดินกลับบ้านด้วยทุกวัน” ไม้หวายมองแววตาของภุมแต่ก็ต้องหลบบ้างเป็นระยะ ในขณะที่ภุมไม่เคยละสายตาจากเธอเลย

“ชื่อภุม ภุมรินทร์ ศศิธารา” ภุมตอบกลับ

“หวายชื่อ ไม้หวาย หฤทัย จิตรมานะ” ไม้หวายเอามือลูบผมขณะที่ตอบคำถาม

“เราสองคนรู้จักกันแล้วนะ” ภุมพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

ใบไม้เริ่มล่วงหล่นตามกระแสลมที่กำลังพัดโชยอ่อน ๆ

“แล้วพี่ยังไม่ตอบเลยว่า ทำไม..” ไม่ทันสิ้นเสียงของไม้หวาย

ภุมยื่นมือมาหยิบใบไม้ที่ปลิวมาติดที่ศีรษะของไม้หวาย ก่อนที่จะตอบคำถามด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความสุข

“ชอบ แบบ น้องสาว”

“ชอบ แบบ น้องสาว” ไม้หวายย้ำประโยคเดิม

“ชอบแบบน้อง ก็ไม่ต้องดูแลแบบนี้ก็ได้นี่ ดีจังนะหวายไม่มีพี่ชาย อยากมีเหมือนกัน หวายมีน้องสาว 1 คนและน้องชาย 1 คน ชื่อไม้หอมและไม้ร่ำ” หญิงสาวจำนรรจาทั้งที่ในหัวใจรู้สึกผิดหวังกับคำตอบที่ได้รับในวันี้

“พี่ภุมไม่มีน้องเลยพี่มีแต่พี่ชาย ชื่อภูมิ เอาเป็นว่าเราเป็นพี่น้องกันนะ กลับบ้านเถอะเดี๋ยวพี่ส่งขึ้นรถ หวายขึ้นหน้าหมู่บ้านพี่ได้เลย“ ภุมลุกจากเก้าอี้ยืนบิดขี้เกียจไปมา

“ค่ะ แล้วหวายจะได้มานั่งเล่นที่นี่อีกไหม แล้วแฟนพี่ไม่ว่าเหรอ” ไม้หวายพูดด้วยสีหน้าที่แฝงความรู้สึกเศร้า

“มาได้ซิ แต่เรื่องแฟนตอนนี้ยังไม่มีหรอกหัวใจยังว่างเปล่าอยู่” ภุมยื่นมือหยิบกระเป๋าหนังสือของไม้หวายมาถือไว้

“ไม่เป็นไรหรอก หวายถือเองได้” ไม้หวายยื้อกระเป๋าไว้แต่ก็ต้องยอมละให้กับความตั้งใจของภุม

แล้วภุมก็เดินไปส่งไม้หวายขึ้นรถกลับบ้าน ภุมครุ่นคิดถึงคำตอบที่ตอบออกไปว่าถูกหรือไม่ถูกต้อง

ไม้หวายรู้สึกผิดหวังกับคำตอบที่ได้รับ แต่ต้องซ่อนความรู้สึกไว้และปลอบใจตัวเองเบา ๆ เช่นเคย “ไม่เป็นไร แค่นี้ก็พอแล้ว”




Create Date : 16 ตุลาคม 2553
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2553 12:15:04 น. 2 comments
Counter : 323 Pageviews.

 
โธ่ ๆๆๆ น่าสงสาร ไม้หวาย ทำไมพี่ภุมถึงบอกไปอย่างนั้นล่ะ


โดย: PooMkaDi IP: 203.155.182.103 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:15:35:57 น.  

 
ตอนต่อไปใกล้มาแล้วหล่ะ ขอบใจนะที่ตามติดตลอด
ว่าง ๆ แวะไปได้อีกที่นะจ้ะ

//writer.dek-d/funglove
ถูกเวปเปล่าไม่รู้อ่ะ


โดย: นลิน IP: 203.144.233.115 วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:11:23:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nalinnovel
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นลินโนเวล เป็นบล็อกที่รวบรวมผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย โดยมีนามปากกาว่า
นลิน คือ รักหวาน - Sweet
ฟุ้งรัก คือ รักสดใส - Pastel
จุล คือ เรื่องสั้นและบทความ - A love aleart -Aom
อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านผลงานของนลินแล้วรู้สึกว่ากำลังทำสปาอยู่เลยค่ะ เลยแยกผลงานไว้ให้เข้าใจและเลือกประเภทที่จะทำให้ทุกคนRelax ได้ตามอัธยาศัย
และสักวันหนึ่งหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้พบกับผลงานของนลินตามแผงหนังสือนะคะ ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้นลินด้วยนะ ขอบคุณค่ะ

ตัวอักษรทุกตัวของบล็อกนลินโนเวล สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิดโดยนำข้อความทั้งหมด หรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดใน Blogไปเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของBlogเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด!!
Friends' blogs
[Add nalinnovel's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.