|
เก้าอี้ไม้กับสวนลำดวน(รักนี้มีเพียงใจ) - บทที่ 4 กำลังจะเริ่มต้น
| บทที่ 4 กำลังจะเริ่มต้น
เวลาผ่านไปเกือบจะหมดเทอมแรกแล้ว ความสัมพันธ์ของภุมกับไม้หวายไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเหมือนอย่างที่คนสนิทกันควรจะเป็น หรือเป็นเพราะใกล้สอบ ทั้งสองคนจึงไม่ค่อยได้พบหน้ากันเหมือน ตอนต้นเทอม
วันนี้ภุมตั้งใจมาดักรอไม้หวาย เขาไม่รู้สาเหตุว่าทำไมไม้หวายถึงพยายามหลบหน้าเขาเพราะบางครั้งภุมเห็นว่าไม้หวายเดินอยู่ไกล ๆ ไม่ยอมเข้ามาหาเขาที่สวนลำดวนตามที่นัดกันไว้ แต่สำหรับเช้าวันนี้จวนใกล้จะเข้าแถวช่วงเช้าแล้ว ยังไม่เห็นไม้หวายมาโรงเรียน หรือเป็นเพราะเขาเองอาจจะทำตัวห่างเหินไป เขาได้แต่คิดคำนึงหาเหตุผลอยู่ภายในใจคนเดียวเงียบ ๆ จนกระทั่งเห็นไม้หวายวิ่งกระหืดกระหอบมา คราวนี้เธอคงไม่เห็นว่าเขายืนอยู่เบื้องหน้าของเธอ
ไม้หวาย ภุมตะโกนเรียกไม้หวาย ด้วยเสียงและสีหน้าที่มีความวิตกกังวลเจืออยู่บนดวงหน้า
หวาย หวาย ภุมเรียกเธอหลายครั้ง แต่เธอวิ่งผ่านเลยเขาไปเหมือนไม่สนใจมองตามต้นเสียงนั้น
หวาย หยุดก่อน รอพี่ก่อน ภุมเรียกเธอด้วยเสียงที่ดังขึ้นและวิ่งตามเธอไป
ไม้หวาย หยุดตามเสียงเรียก แต่ไม่หันกลับมามองตามเสียงนั้น ซึ่งท่าทางผิดแผกกว่าทุกครั้งที่เธอเป็น
หวาย เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมช่วงนี้มาสายบ่อยจัง ไม่ค่อยเจอกันในตอนเช้าเลย ภุมพูดเสียงเรียบเหมือนซ่อนความผิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ
เธอหันมามองหน้าเขาและหันกลับไป
เปล่า ขอตัวก่อนนะ จะเอาของไปเก็บ ใกล้จะเข้าแถวแล้ว ไม้หวายตอบคำถามเสร็จก็รีบเดินจากภุมไปโดยไม่หันกลับมามอง
ภุมสังเกตเห็นสาวน้อยมีนัยน์ตาเศร้ากว่าทุกวันที่เธอเป็น เดินอย่างรีบร้อนเหมือนกับว่ากำลังจะหลีกหนีอะไรบางอย่างจาก ณ ที่แห่งนั้น
นี่เราจะหนีอะไร ไม้หวายพูดเบา ๆ ด้วยความเศร้าใจ
ไม้หวายตัดสินใจหันหลังกลับไปเพื่อที่จะทำให้ตัวเองเป็นปกติกับภุมชายที่แสนดีของเธอเหมือนเช่นก่อนเก่า แต่แล้วก็ไม่พบเขาตามที่เธอหวังไว้ จนถึงเวลาเย็น วันนี้ก็มีคนมาเช่าสถานที่จัดงานเลี้ยงมงคลสมรส ภุมคิดว่าคงจะได้พบไม้หวายที่นั่น พอเลิกเรียนภุมรีบเดินปรี่ไปที่หอประชุมทันที เห็นนักเรียนชมรมดอกไม้กำลังง่วนอยู่กับการจัดซุ้มดอกไม้ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของไม้หวายเลย
ภุม มาทำอะไรจ๊ะ เสียงของปิ่นทักทายมาแต่ไกล
เปล่า มาเดินเล่นน่ะ ภุมยิ้มแก้เขิน พร้อมกับกวาดสายตาไปรอบบริเวณ
มองหาอะไร เหรอ มาแอบจีบสาวแถวนี้หรือไง คนไหนล่ะ ปิ่นเพื่อนสาวใช้น้ำเสียงเชิงหยอกล้อ
ภุมไม่ตอบ แต่กลับเดินไปเดินมา ชะเง้อสายทีขวาที
ได้ข่าวมาว่า ภุมกำลังปิ๊งปั๊งกับน้อง ๆ ในชมรมของเราเหรอ ปิ่นซักต่อ
เปล่านี่ ใครพูดล่ะ ภุมตอบแบบไม่เต็มเสียง
ก็คนใกล้ตัวเราน่ะแหล่ะ ถ้าถามหาน้องอะไรน้า ชื่อว่าอะไรน้า จำไม่ค่อยได้เลย ภุมจำได้ไหมบอกทีซิ ปิ่นแสร้งทำเป็นไม่รู้
ภุมยิ้มกว้างขึ้น พร้อมใบหน้าและหูที่เริ่มเปลี่ยนเป็นแดงเจือ ๆ เมื่อโดนไล่เรียงตรงจุด
เปล่านี่ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ใครเหรอ
เอ้า ถ้าไม่รู้ ก็ไปทำงานก่อนล่ะนะ ปิ่นพูดเสร็จแอบหัวเราะเบาๆ แล้วก็ปล่อยให้ภุมยืนอยู่ตามลำพัง เพราะถ้าถามอะไรมากกว่านี้ ภุมอาจเปลี่ยนเป็นอารมณ์เสียใส่ได้ เพราะสังเกตจากสีหน้าของภุมตอนนี้ดูกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก
ภุมมีสีหน้าสลดกว่าเดิมจนกระทั่งเขาเห็นพีทเพื่อนสนิทของเขากำลังเดินเข้ามาทางหอประชุมพอดี เขาจึงตะโกนเรียกและคิดได้ว่า ต้องให้พีทเป็นคนไขข้อข้องใจให้ แล้วก็ได้คำตอบจากพีทในครู่ต่อมาว่า ไม้หวายกลับไปแล้ว ขอลาอาจารย์กลับบ้านเมื่อตอนพักเที่ยง เพราะว่าไม่สบาย ทำให้ภุมรู้สึกวิตกกังวลและไม่สบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก
เมื่อพีทเห็นสีหน้าของเพื่อนที่เป็นทุกข์ร้อนขนาดนั้น พีทจึงขันอาสาที่จะช่วยเหลือเรื่องนี้เอง และในเย็นวันนั้นเอง ปิ่น พีท และภุมไปนั่งคุยกันที่ร้านไอศกรีมใกล้กับบริเวณโรงเรียน ทำให้ปิ่นเริ่มเข้าใจว่าภุมชอบไม้หวายจริง ๆ เพราะเธอเองแอบเห็นสองคนนี้เดินกลับบ้านด้วยกัน และเคยเห็นไม้หวายชอบแอบมองภุมหรือพยายามซักถามเรื่องเกี่ยวกับภุมอยู่บ่อย ๆ แต่เธอคิดว่าคงแค่อยากรู้จักเพื่อนของแฟนหนุ่มตามปกติเท่านั้น
การพูดคุยทำให้ภุมเริ่มสบายใจขึ้นว่าไม้หวายแค่เป็นไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น แต่เท่าที่ภุมสังเกตไม้หวายดูซึมเศร้าและดูเหงากว่าทุกครั้งที่พบกัน บ้านไม้หวายไม่มีโทรศัพท์ ทำให้ภุมติดต่อไม่ได้ยิ่งทำให้ภุมดูกระวนกระวาย จนปิ่นต้องบอกว่าวันอาทิตย์ให้มาที่โรงเรียนเพราะว่ามีงานเลี้ยงอีก ไม้หวายต้องมาอยู่แล้วจะได้เจอกัน ภุมจึงรู้สึกดีขึ้นและเฝ้ารอให้ทุกวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
บ่ายวันอาทิตย์ นักเรียนชมรมดอกไม้กำลังจัดแจงอยู่กับซุ้มดอกไม้หน้าประตู บนเวที รวมถึงมุมต่าง ๆ ของหอประชุม วันนี้ไม้หวายไม่ได้สวมชุดนักเรียน เธอจึงแต่งกายเรียบง่ายและน่ารัก
หวายหายดีแล้วเหรอ ปิ่นเข้ามานั่งข้าง ๆ และเอามือกอดไหล่ไม้หวายเฉกเช่นน้องสาวคนสนิท
หายดีแล้วค่ะ พี่ปิ่น มีอะไร แล้วยิ้มอะไรคะ ไม้หวายยังหยิบดอกกุหลาบขึ้นมาตัดหนามทีละดอก
พี่ถามอะไรหน่อยนะ ไม่มีใครรู้หรอก ปิ่นจ้องหน้าไม้หวายเหมือนต้องการคำตอบ
ถามอะไรคะ ไม้หวายเริ่มหลบสายตาของปิ่น
ก็... ถามจริง ๆ นะ ชอบภุมหรือเปล่า ปิ่นเงียบเพื่อรอคำตอบและอมยิ้มเป็นการแสดงให้ไม้หวายสบายใจ
ก็
ไม้หวายเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าว จนหนามของดอกกุหลาบตำนิ้ว
ไม้หวายเป็นอะไรหรือเปล่า ไหนดูซิ ปิ่นรีบใช้นิ้วกดเลือดที่เริ่มไหลออกมากขึ้น ทั้งที่น่าจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาของหนามกุหลาบที่คอยสร้างแผลเล็ก ๆ ให้ แต่วันนี้ไม้หวายกลับหน้าซีดเผือดกว่าทุกครั้ง หรือว่าอาการไข้เธอยังไม่หายดี
ประจวบเหมาะที่ภุมกำลังเดินเข้าไปในหอประชุมพอดี ปิ่นเรียกให้ภุมเข้ามาช่วยกดเลือดแทนและเธอก็รีบไปจัดแจงหาเครื่องปฐมพยาบาล ไม้หวายได้แต่มองสีหน้าและแววตาของภุมชายหนุ่มซึ่งเธอรักและรักมาตลอดเวลา นี่นับเป็นครั้งแรกที่ไม้หวายได้ใกล้ชิดกับภุมมากขนาดนี้ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ไม้หวายได้สัมผัสกับมืออันอบอุ่นของภุม ที่เธอฝันไว้ว่าสักวันเธอคงได้เดินจูงมือเคียงข้างเขาไป
พอไม้หวายเรียกสติได้เธอรีบดึงมือออกจากภุมแล้ววิ่งหนีไปจากหอประชุม ภุมและปิ่นเรียกเธอเท่าไหร่ เธอก็ไม่หันมา
หวายเป็นอะไรน่ะภุม ปิ่นหน้าเผือดลงเล็กน้อย
ไม่รู้เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าหวายเป็นอะไร บางทีหวายอาจจะโกรธเราก็ได้นะ
เราสองคนไม่ได้คุยกันเกือบสองเดือนแล้ว ภุมพูดเสร็จก็เดินคอตกออกมา
ภุม ภุม ปิ่นวิ่งตามมาติด ๆ
ปิ่นว่าภุมไปคุยกับหวายดีกว่านะ ถ้าไม่ได้เรื่องยังไงบอกเรานะ ปิ่นตบบ่าเพื่อนเบา ๆ
ในยามบ่ายแก่บรรยากาศเงียบเหงาตอนนี้ มีเพียงสายลม กลิ่นหอมของลำดวนส่งกลิ่นหอมเจือจาง ไม้หวายนั่งน้ำตาซึมอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนสีขาว ดวงหน้าซีดเผือด ดวงตาเศร้า เหงา กับหัวใจที่เหม่อลอย เธอนั่งก้มหน้ามองนิ้วน้อย ๆ ของเธอที่ตอนนี้มันแดงช้ำจากรอยหนามกุหลาบ
หวาย ภุมเดินเข้ามานั่งลงใกล้ ๆ ไม้หวายที่กำลังเบือนหน้าหนี
พี่คิดไว้แล้ว ว่าหวายต้องมาอยู่ที่นี่ ภุมเอื้อมมือไปจับมือของไม้หวายเพื่อดูนิ้วมือน้อย ๆ ที่ถูกหนามของดอกไม้แห่งความรักทิ่มแทง
เป็นยังไงบ้าง พูดกับพี่สักคำซิ ภุมบีบมือเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม
เธอเม้มปากแต่ไม่พูดอะไรออกมา มีเพียงแก้มที่เริ่มแดงฉานขึ้นเล็กน้อย
หวาย พี่ขอโทษ นี่พี่ไม่ได้คุยกับหวายเกือบสองเดือนแล้วใช่ไหม ภุมยังคงพูดต่อไปเรื่อย ๆ
พี่มีเหตุผล ภุมเสียงแผ่วเบาลงกว่าเดิม และละมือของเขาออกจากมือไม้หวาย เขาได้แต่ก้มหน้าและกุมมือของตัวเองไว้บนโต๊ะม้าหินอ่อนสีขาวเช่นกัน
ไร้ซึ่งเสียงของหนุ่มสาวที่นั่งเคียงกัน มีเพียงแต่แววตาที่ซึมเศร้า และสายลมที่แผ่วเบา จนกระทั่งเวลาผ่านเลยไปสักชั่วนาทีไม้หวายจึงเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
พี่ภุมคะ หวายขอตัวนะ เพราะว่าหวายต้องไปช่วยชมรมจัดดอกไม้เดี๋ยวจะเสร็จไม่ทันงานเย็นนี้ ไม้หวายลุกขึ้นและกำลังจะเดินจากเขาไปภุมรีบเอื้อมมือไปคว้าข้อมือน้อย ๆ ของเธอไว้เพื่อรั้งไม่ให้เธอไปพร้อมสีหน้าวิงวอนไม่อยากให้เธอต้องจากไป
หวายอย่าเพิ่งไปครับ พี่อยากคุยด้วย ภุมน้ำเสียงเครือ
ไม่มีอะไรนี่คะ หวายหายดีแล้ว แต่ตอนนี้ต้องไปทำงานก่อน ไม้หวายเสียงเครือเช่นกัน
งั้น พี่จะรอนะ เดี๋ยวพี่ไปช่วยทำงานด้วย เราจะได้กลับบ้านด้วยกัน ภุมพูดเสร็จก็จูงมือไม้หวายเดินไปที่หอประชุม
ไม้หวายได้แต่ก้มหน้ามองดูมือสองมือที่เกาะกุมอยู่ มือของภุมใหญ่กว่าเธอ หนาและอบอุ่น ส่วนมือของเธอ เล็กนิ้วเรียวถูกกุมไว้ด้วยมือของผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่เธอรอคอยเสมอ ความฝันของไม้หวายกำลังคืบหน้า เธอลอบมองแววตาและสีหน้าของภุม ทุกอย่างบนดวงหน้าของเขามันเจือไปด้วยความสุขเมื่อได้กุมมือกันไว้ จากจุดเดิมที่คิดว่าห่างไกล กำลังเข้าใกล้ทีละนิด ทีละนิด
ไม้หวายรู้สึกว่าความรู้สึกที่สูญเสียไปในช่วงระยะเวลาหนึ่งของการห่างเหินและจากคนที่ภุมเป็นเพียงชายคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จักและแอบมองเขามาตลอดตอนนี้กำลังเดินเคียงข้างกายกันอย่างกับความฝัน ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่ดีขึ้น บางทีเวลาที่ผ่านไปความห่างไกลที่กำลังเขยิบออกไป ตอนนี้กำลังหวนกลับเข้ามาอีกครั้งและคงจะมีก้าวต่อไปอย่างมั่นคงแน่นอน ไม้หวายอมยิ้มอยู่ในใจลึก ๆ ว่าเท่านี้ก็คงพอแล้ว
พอไปถึงหอประชุมไม้หวายรีบสะบัดมือภุมออกเพราะกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า คงจะดูไม่เหมาะนัก ภุมได้แต่อมยิ้ม เขารู้สึกมีความสุขมาก แค่ได้เดินจูงมือไม้หวายเท่านี้เขารู้แล้วว่าหวายคงหายโกรธเขาแล้ว ปิ่นได้แต่เดินมากระเซ้าเป็นระยะกับท่าทางที่ดูอิ่มเอมเป็นพิเศษ
อย่าแซวได้ไหมปิ่น ภุมเบือนหน้าไปทางอื่น
ก็ได้ แต่ต้องช่วยกันทำงานนะ
ปิ่นหอบกุหลาบหลายช่อมาให้ภุมรับอาสาตัดหนามแทน แถมยังแช่งให้ภุมโดนหนามตำมือเยอะ ๆ ด้วย เล่นเอาทุกคนรอลุ้นกันใหญ่ว่าเมื่อไหร่ที่ภุมร้องโอ้ย นั่นแสดงว่ากำลังโดนดีเข้าแล้ว
ไม้หวายได้แต่แอบอมยิ้มไปกับท่าทางไม่ถนัดของเขา แต่ก็ดูน่ารักในสายตาของเธอ
รอยยิ้มที่ระคนอยู่บนหน้าของภุมทำให้ไม้หวายหัวใจพองโตขึ้นมาอีกครั้ง และลืมเรื่องที่เธอเองซ่อนความรู้สึกไว้ภายในใจชั่วคราว เพื่อเก็บเกี่ยวเวลาที่ดีขณะนี้ให้นานที่สุด
ภุม ถามหน่อยซิ ปิ่นเรียบเคียงถามภุมด้วยความอยากรู้
ทำไมถามอะไรเหรอ ภุมทำหน้างง
ก็ถามว่า ชอบน้องหวายแบบจีบกันอยู่เหรอ ภุมเงียบไปชั่วขณะหลังจากฟังคำถามสั้น ๆ แต่ตอบยากเหลือเกิน
เปล่าหรอก เราแค่อยากมีน้องสาวเท่านั้น
กับคำตอบทำให้ปิ่นถึงกับเงียบอึ้งไป แล้วก็โวยวายออกมา ไม่ได้นะภุม ทำให้คนอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณรอบคนทั้งสองหันมามองเป็นตาเดียว รวมถึงไม้หวายด้วย
ไม่มีอะไร ปิ่นพูดเสร็จก็เดินออกมาจากภุม ด้วยสีหน้าเป็นวิตกกังวลกับคำตอบที่ได้รับ
เป็นอะไรหรือเปล่าพี่ปิ่น ไม้หวายสังเกตสีหน้าของปิ่น
เปล่าหรอก ปิ่นนั่งนิ่ง ๆ สักพักเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี ขนาดเธอยังตกใจกับคำตอบของภุม แล้วไม้หวายล่ะ หรือว่าอาการเหงาของไม้หวายช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เพราะเธอรู้คำตอบที่ชวนรับไม่ได้จากภุมแล้วงั้นหรือไง ไม้หวายคงจะผิดหวังและเสียใจน่าดู เธอได้แต่มองสีหน้าไม้หวายที่ยังดูอิ่มเอมกับความสุขในช่วงบ่ายนี้ และไม่เข้าใจกับทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ภุมเดินเข้ามาหาคู่สนทนาทั้งสอง เขาไม่ได้แสดงสีหน้าวิตกกังวลใด ๆ กับคำตอบที่บอกไป แต่ปิ่นกลับแสดงอาการมากกว่าเพราะเธอรู้สึกไม่พอใจกับคำตอบนั้นเลย
พี่ไม่เดินตรวจงานกับอาจารย์ก่อนนะหวาย หวายกลับก่อนก็ได้ ปิ่นหันมาพูดแล้วก็เชิดหน้าใส่ภุมอย่างอารมณ์เสีย
กลับบ้านกันนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ภุมพูดจายิ้มแย้มกับไม้หวาย
คือ
ไม้หวายอ้ำอึ้ง
หวายกลับกับพี่หรือเปล่าล่ะ ปิ่นหันมาถามไม้หวาย
ก็คือ
ไม้หวายรู้สึกสับสน
หวายกลับกับเราไม่ต้องห่วง เราส่งขึ้นรถเอง ภุมรู้สึกถึงการต่อสู้แบบเล็ก ๆ ระหว่างเขาและปิ่น
ตามใจนะ ปิ่นพูดเสร็จก็ขอตัวกลับ
ปิ่นเดินตามหลังเพื่อนและน้องร่วมชมรมที่เธอรัก และอยากจะช่วยให้ทั้งสองคนเปิดใจให้กัน เพราะถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป สักวันถ้าเกิดเรื่องระหว่างหัวใจที่ผิดทางไปอาจจะทำให้คนใดคนหนึ่งต้องเสียใจได้ เพราะการไม่เปิดใจ ปิ่นได้แต่คิดว่า ในเมื่อคนเรารักกัน และประทับใจซึ่งกันและกัน น่าจะเปิดใจคุยกันเลยทุกอย่างคงลงเอยด้วยดี
เธอถอนหายใจออกมา และเฝ้ามองคนทั้งสองที่เดินเคียงข้างกันด้วยสีหน้าแห่งความสุข ความสุขที่ปิ่นไม่เข้าใจความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้
|
Create Date : 09 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2553 13:56:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 296 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
นลินโนเวล เป็นบล็อกที่รวบรวมผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย โดยมีนามปากกาว่า นลิน คือ รักหวาน - Sweet ฟุ้งรัก คือ รักสดใส - Pastel จุล คือ เรื่องสั้นและบทความ - A love aleart -Aom อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านผลงานของนลินแล้วรู้สึกว่ากำลังทำสปาอยู่เลยค่ะ เลยแยกผลงานไว้ให้เข้าใจและเลือกประเภทที่จะทำให้ทุกคนRelax ได้ตามอัธยาศัย และสักวันหนึ่งหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้พบกับผลงานของนลินตามแผงหนังสือนะคะ ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้นลินด้วยนะ ขอบคุณค่ะ
|
|
|
|
|
|
|