เรียนรู้อดีต เพื่อสอนปัจจุบัน ให้ใช้อนาคตอย่างเหมาะสม
 
กลยุทธ์1: กลฤทธี

กลอันหนึ่ง..........................ชื่อว่าฤทธีนั้น

ชั้นทะนงองอาจ....................ผกผาดกล่าวเริงแรง

สำแดงแก่ข้าแกล้วหาญ..........ชวนทำการสอนศาสตร์

อาจเอาบ้านเอาเมือง..............ชำนาญเนืองณรงค์

ยงใจผู้ใจคน.......................อาสาเจ้าตนทุกค่ำเช้า

จงหมั่นเฝ้าอย่าครา...............พักตราชื่นเทียมจันทร์

ทำโดยธรรมจงภักดิ์..............บันเทิงศักดิ์จงสูง

จูงพระยศยิ่งหล้า.................กลอันศึกนี้ว่า

กลชื่อฤทธี



กลยุทธ์นี้สรุปความว่า ให้ฝึกซ้อมให้เชี่ยวชาญการศึก ให้พร้อมที่จะรบได้ตลอด เมื่อมีโอกาสจะได้อาสาเจ้านายทำศึก การจะชนะศึกได้ต้องเตรียมพร้อมให้ดี ฝึกฝนฝีมือสม่ำเสมอไม่ประมาท มีวินัย นับเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ ทุกกองทัพต้องมี ถ้าทัพใดหย่อนยานการฝึกและขาดวินัย ก็เตรียมใจพ่ายแพ้ได้เลย และการที่กองทัพจะแสดง “ฤทธิ์” ได้นั้นต้องมีแม่ทัพที่ดี ที่เอาใจใส่ร่วมเป็นร่วมตายกับลูกน้อง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจึงจะสามารถฝ่าฟัน พิฆาตไพรีเอาชนะศึกได้

ในนิยายสามก๊ก หลังการศึกกับซุนกวน โจโฉถอยทัพกลับ ให้เตียวเลี้ยว, งักจิ้น, และลิเตียน คุมทหารเจ็ดพันรักษาเมืองหับป๋า เมืองหน้าด่าน ต่อมาซุนกวนถือโอกาสที่โจโฉยกทัพไปปราบเตียวฬ่อ ยกทัพหนึ่งแสนนายเข้ามาล้อมเมือง เหล่าแม่ทัพเปิดจดหมายที่ โจโฉให้ไว้ ว่าเมื่อเกิดภัย จึงให้เปิดจดหมาย ความว่า “หากซุนกวนยกทัพมา ให้เตียวเลี้ยวและลิเตียนออกรบ ให้งักจิ้นรักษาเมือง ส่วนซิแท่อย่าให้เข้าร่วมรบ” เหล่าขุนศึกต่างไม่แน่ใจว่าจะรบดีหรือตั้งมั่นรักษาดี เตียวเลี้ยวกับลิเตียนเห็นว่า หากจะตั้งมั่นรอคอยโจโฉมาช่วย เกรงว่ากว่าโจโฉจะยกทัพกลับมา เมืองคงเสียแก่ซุนกวนไปแล้ว จึงตัดสินใจรบก่อนที่ฝ่ายซุนกวนจะล้อมเมืองสำเร็จ โดยคืนนั้นเตียวเลี้ยว คัดเลือกทหารกล้าตาย แปดร้อยนายหลังจากเลี้ยงจนอิ่มหนำสำราญ

รุ่งเช้าเตียวเลี้ยวจึงนำทัพบุกตะลุยฝ่าเข้าไปในทัพซุนกวน พร้อมทั้งสังหารทหารเอกซุนกวนไปอีกสอง แม้ว่ากองทัพที่มีเพียงแปดร้อยคน แต่ก็บุกทะลวงจนจะถึงตัวซุนกวน แต่ก็ถูกกองทัพง่อที่มากกว่ามาก ล้อมเอาไว้ได้ เตียวเลี้ยวใช้ฝีมือตีหักไปได้ พร้อมลูกน้องสิบกว่าคน ทหารที่เหลืออยู่ในวงล้อมจึงร้องตะโกนขึ้นว่า “ท่านขุนพลจะทิ้งพวกเราหรือ” เตียวเลียวได้ยินจึงหันกลับเข้ามาสู่วงล้อมอีกครั้ง นำทหารบุกซ้ายทะลวงขวา ตั้งแต่รุ่งสางยันเที่ยง จนทหารง่อเสียขวัญ ซุนกวนเองก็อกสั่นขวัญแขวน จึงถอนทัพเข้าสู่เมืองหับป๋า และตั้งมั่นไว้อย่างมั่นคง ไม่ว่าซุนกวนจะยกทัพมากี่ครั้งก็ไม่อาจตีหักเอาเมืองได้ จนในที่สุดซุนกวนต้องถอยทัพกลับ ถ้าไม่ได้เตียวเลี้ยวที่ร่วมเป็นร่วมตายกับเหล่าทหาร ไม่ทอดทิ้ง และฝึกฝนหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายนี้ ให้พร้อมรบ ก็คงมิอาจสำแดง“ฤทธิ์” ใช้ทัพน้อยเอาชนะทัพมากได้







Create Date : 13 สิงหาคม 2550
Last Update : 13 กันยายน 2550 8:15:58 น. 2 comments
Counter : 1616 Pageviews.  
 
 
 
 
ถ้าจำไม่ผิดศึกนี้โจโฉรู้ดีว่า เตียวเลี้ยวนั้นผิดใจกับลิเตียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
(เอ๋ หรือกับงักจิ้นจำไม่ได้) จดหมายที่มอบให้จึงเปรียบเสมือนวินัยที่สั่งการไว้
การฝึกทัพต้องสม่ำเสมอ แต่ความเป็นหนึ่งเดียวย่อมต้องสม่ำเสมอกว่า
การที่เขียนไว้ว่าเตียวเลี้ยวหันกลับไปช่วยทัพของตนคือข้อพิสูจน์ของกลนี้
แต่ก่อนหน้านั้น การที่เตียวเลี้ยวยอมลดราวาศอกกันกับคู่อริ(ตกลงคนไหนแน่จำไม่ได้จริงๆ 555+)
เพื่อการณ์ใหญ่นั้นก็ถือเป็นวินัยทัพที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน

“จะชนะขุนศึกร่วมคายไปใย ในเมื่อข้าศึกที่แท้นั้นล้อมอยู่นอกค่าย”
 
 

โดย: โกะก๊ก (gokok ) วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:23:46:00 น.  

 
 
 
dawhenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him
 
 

โดย: fs IP: 124.122.247.144 วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:0:11:57 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

adept
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




แม้สายน้ำมิอาจไหลย้อนกลับ แต่เราสามารถแลหลัง เหลียวดูมันได้
[Add adept's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com