มาเป็นดูโอ้..แม้ไม่หวานไม่แหวว แต่จะเป็นเยี่ยงนี้ ต่อๆไป อีกซักแค่ 40 ปี ก้อพอเนอะ
Group Blog
 
All blogs
 

ตอนที่ 7 - New habitat

หลังจากต้องหัวซุกหัวซุน หาที่อยู่ใหม่ เพราะแจ้งย้ายไปแล้ว

แต่ดันตกลงกับนังจีน Jency ไม่ได้ มีอย่างที่ไหนฟะ

คุยกันดิบดี เรียบร้อย จนแจ้งย้ายไปแล้ว พึ่งมาบอกว่าจะ

คิดตังเราตั้งแต่ก่อนย้ายเข้าตั้งอาทิตย์นึง หะ..รู้ทั้งรู้ว่าตรู

จะย้ายออกจากที่นี่ได้วันไหน ดันไม่บอก พึ่งมาบอกตอนหลัง

ยังมีหน้ามาบอกว่าเราเองก็ลำบากใจเหมือนกัน แต่ก็ลดให้แล้วนะวันนึง

นัง...เอ้ยยย.... เลยยกเลิกแมร่งไป ตรูหาใหม่ก้ได้วะ

แล้วก็มาได้ที่นี่แหละ ลองไปดูบรรยากาศรอบๆ บ้านกัน

นี่ก็ป้ายรถเมล์ที่ต้องใช้เดินทางไป-กลับ



เดินหาบ้าน...ไหนวะ Thebarton เดินๆๆๆ



เดินไปทางซ้าย.....ก็แล้วว




เดินไปทางขวา.....ก็แล้วว



หลังไหนฟะเนี่ยยยยย



เอ..ไอ้หลังริมนั้นมันดูคุ้นๆ แฮะ



หน้าตาเหมือนในรูปที่ส่งมาให้ดูเลยว่ะแฮะ.



เดินไปดูใกล้ๆ เห็นบ้านเลขที่ก็เอออ น่าจะใช้เว้ยย



แล้วก็มาถูกบ้านเจงๆ เข้าไปทักทายกันเรียบร้อยก็ดูสภาพ ว่าที่-ที่ซุกหัวนอนหน่อยย

เปิดผัวะเข้าไปก็เจอครัวก่อนเลย



ไม่มี Microwave แฮะ มีแต่ตู้อบกะเตาแก๊ส



ถัดเข้ามาก็เป็น LIving room



ทางเดินจาก Living room ไปสู่ห้องนอนด้านใน สามห้องเรียงต่อกัน



นี่ก็สภาพ ว่าที่-ที่ซุกหัวนอนใหม่อ่ะจ้า...



แล้วก็เจรจาต้าอวยกันพักใหญ่ เราน่ะแค่อยากไปเห็นเจ้าบ้านเท่านั้นแหละ

ว่าดูท่าเป็นยังไง จะอยู่ร่วมบ้านกันได้ไหม เห็นว่าโอเค ก็ตอบตกลงไปเลย

Landlord ขอเวลาคิดสองวันจะให้คำตอบ แล้วในที่สุดก็เมล์กลับมาบอก

ว่าตกลง. เลยได้ที่สิงสถิตย์ดังนี้แล...พี่น้อง

อันนี้บ้านใกล้ๆ กัน ที่หลงนึกว่าเป็นหลังที่จะมาดู ดีนะไม่ทันกดกริ่ง

ไม่งั้นละหน้าแต่กยับเยิน....นน ฮี่ๆๆ




 

Create Date : 09 กันยายน 2550    
Last Update : 9 กันยายน 2550 21:49:33 น.
Counter : 279 Pageviews.  

ตอนที่ 6 - Food Evolution

จะ review เรื่องอาหารประทังชีวิตให้ดูนะตอนนี้
เริ่มจากนี่เลย ...มันจะขาดไปด้ายยยยังง้ายยย




วันต่อมา - อยากกินข้าววุ้ย เลยไปหา Frozen meal มาอันนึง เป็นข้าวผัดแครอทถั่วลันเตากะแฮม




หน้าตามันดูน่าเจี๊ยะดีใช่ไหมล่ะท่าน แต่ทว่า...จืดสนิทข้าวก็ไม่มีรสชาติอันใดเล้ยยย




วันต่อๆ มาเลยลงทุนมากขึ้น ได้สมการอาหารมาดังนี้จ้า...

อันแรกก็เอา Fried noodle (Koreng ของ Indo.)




กับกะหล่ำปลี (ช่วยลดเวลาในการนั่งใน toilet ได้เป็นอย่างดี เอิ้กกกๆ)




แล้วก็ปรุงรสเพิ่มด้วยซอสขวดนี้




ตบท้ายก็โรยหน้าด้วยขวดนี้ รักแกจริงๆๆๆ จ๊วบๆๆ




ตามสมการข้างต้นก็ได้ผลลัพพ์ออกมาดังนี้แล..




สีสันน่ากิน แถมแซ่บหลายเด้อออ...




แล้วนี่ก็ไส้กรอกหมู (ราคาถูก-อีกแล้ว ฮี่ๆๆ รู้กันหมดพอดีว่าตระหนี่แค่หนายย)




เวฟออกมาก็ได้หน้าตาน่าเจี๊ยะแบบนี้...




หาข้าวกินยากนัก เลยไปซื้อข้าวสารมาถุงนึง




หุงออกมาก็ได้ข้าวเป็นเม็ดๆ เจ้นนี้..




อาหารหลักมีแล้ว ก็หาอาหารว่างหน่อยนึง
ขนมปังแผ่น Soy bread ราคาถูก (เพราะสภาพแผ่นไม่สวย)




มีขนมปัง เก๊อะต้องมีนี่เลย...แยมสตอเบอรี่ (ของ Home made อีกแล้ว...ว)




บวกกันออกมาก็ได้หน้าตาหยั่งงี้...




ลูกอมดับกลิ่นปากเสียหน่อย..




กะน้ำดื่มรสมะนาว (เข้าข้นเสียจ๊นน...เจือจางแล้วได้อีกหลายขวด คุ้มหลาย ชอบๆๆ...)





 

Create Date : 11 สิงหาคม 2550    
Last Update : 23 สิงหาคม 2550 18:32:20 น.
Counter : 521 Pageviews.  

ตอนที่ 5 - Dude ? Where're my school ?

หลังจากหาข้อมูลเรื่องการตารางเวลา กับการนั่งรถบัส ก็ได้เวลาไปลุยยยยย

บรรยากาศที่ป้ายรถเมล์ ตรงนี้มันใหญ่ เพราะเป็น Interchange station แล้วยิ่ง weekend ยังงี้ แท่บจะร้าง




รถเรามาแว้วววว...
สังเกตเห็นอะไรแหม่งๆ ไหม ?
รถที่นี่เหมือนบ้านเราคือขับชิดซ้าย แต่ไหงมันกลับมาวิ่งฝั่งนี้ ที่นี่ตามชุมทางที่ถนนตัดผ่านพื้นที่เพื่อขึ้นมาเป็นพิเศษ มันจะทำเกาะกลางให้เป็นลานกว้างเพื่อรับส่งคน แทนที่จะไปปรับพื้นที่สองฝั่งซ้ายริมทางให้เป็นลานรับส่ง เข้าใจว่าเพื่อไปรบกวนพื้นที่ธรรมชาติให้น้อยที่สุดอะนะ

ดังนั้นเฉพาะเวลารถบัสจะเข้าชุมทางแบบที่ว่านี้ ก็จะวิ่งตัดข้ามไปอีกเลนนึงแทน พอวิ่งออกจากท่าก็จะตัดเลนกลับเข้าฝั่งซ้ายมือของรถเหมือนเดิม




ลุงหนวดคนขับ สังเกตเห็นว่า driver ทุกคนจะใส่เสื้อกั๊กสีเขียวเหมียนกันหมด สงกะสัยจะเป็น uniform นะ




สงสัยป่าวว่าทำมั้ยยย..พื้นที่รถมันวิ่งถึงเป็นแค่ รางคอนกรีตซ้าย-ขวา ความกว้างมากกว่าหน้ายางแค่นิดเดียว (สงสัยให้ post ไว้นะจ๊ะ แล้วจะมาขยายความให้ฟัง)




พอรถผ่าน North Terrace แปบเดียวก็ถึง Adelaide city พอลงตรง Grenfell St. ก็เดินๆๆ ทะลุลงทางใต้มาอีกสองถนนก็ถึง ....อ้า โรงเรียน เจอแร้ว...วววว Eynesbury College




สถาบันตั้งอยู่แยก Victoria Square พอดี มองไปฝั่งตรงข้ามเป็น Post office เห็นอาคารแล้วนึกถึงเรื่อง Harry Potter ตะหงิดๆ รูปนี้ถ่ายจากฝั่ง Franklin St.




มุมมองจากฝั่ง Flinders St.




บรรยากาศทางเดินตรง Victoria Square ไม่ยักกะพลุกพล่านอย่างอนุสาวรีชัยฯ บ้านเราแฮะ




แล้วก็เดินสำรวจหาธนาคารมาตาม King Willium St. เจอ Adelaide Bank




แล้วก็ Commonwealth Bank นอกจากนี้แล้วในเมืองยังมีธนาคารอีกหลายเจ้ามั่กๆ โดยเฉพาะละแวกที่ไกล้กับ King Willium St. เช่น HSBC, SA Bank etc.




พอเจอธนาคารสมใจแล้วก็เลยเดินกลับมาสำรวจ ถนนด้านที่ตัดผ่านด้านหลังสถาบันภาษามั่ง ก็เจอ Cole supermarket แล้วก็ Central market เนี่ยแหละ




และแล้วก้เจอของดี...โฮะ โฮะ โฮะ (ทำปากสามเหลี่ยมแบบชิราโทริเรโกะไปด้วยจะได้อารมย์มากยิ่งขึ้น)




แหล่งอาหารและข้าวของราคาถูก.....China Town จ้า...สาธุๆๆ ลูกช้างไม่อดตายแร้วววว




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2550    
Last Update : 11 สิงหาคม 2550 22:14:38 น.
Counter : 442 Pageviews.  

ตอนที่ 4 - ห๋า!!! นี่ทำมั๊ยตรูอยู่ใกล้รร.เหลื้อเกินนน

ได้แผนที่ Adelaide มาอัน ($4.95) หลังจากเลือกแล้วเลือกอีก จนพนง.มันมองว่านี่มันจะมาอ่านฟรีป่าววะ
(เฮ่อๆ คนนะเฟ้ย ไม่ใช่สแกนเนอร์) พอกางออกหาดูว่าเอ๊นี่ตรูอยู่ส่วนไหน ปรากด...ไกลโค-ตะ-ระจากรร.ในเมือง สังเกตจากปลายปากกาด้านบนขวา ไปยังตัวเมืองอะเดอเลด (ตรงคำว่า Adelaide นั่นแหละ)




หลังจากไปกว้านหยิบบรรดาเอกสาร (แจกฟรีไปทั่ว) เกี่ยวกับการเดินทางมาอ่าน ก็จับทางได้ว่าต้องเริ่มจาก Metro Guide ก่อน




ข้างในจะแสดงแผนที่ซึ่งระบุว่าถนนแต่ละเส้นมีรถบัสสายอะไรให้บริการบ้าง




พอรู้ว่ามีรถบัสสายไหนวิ่งจากหอพักไปไกล้ๆ ปลายทางที่ต้องการ ก็มาดู Timetable ของรถบัสสายนั้นๆ ว่าเราจะ
ไปขึ้นป้ายไหนมีเที่ยวกี่โมง ขากลับไปขึ้นป้ายไหนกี่โมง




ต้องเช็คให้ดีๆ เพราะช่วงเวลาที่ไม่ใช่ Peak เวลาเดินรถจะเปลี่ยนแปลงไปหรือข้ามหลายๆ ป้ายไป ไม่รับคนป้ายนั้น
วันธรรมดา (Mon. to Fri.) กับ Weekend and Holoday จะตารางต่างกัน




รู้สายรถบัสที่จะขึ้นกับเวลาและป้ายไป-กลับแล้วก็ ต้องมาเรื่องตั๋ว ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Bus, Train, Tram ใช้ตั๋วเหมือน
กันหมด และราคาไม่ขึ้นกับระยะทาง แต่ขึ้นกับความต้องการในการใช้งาน ที่เห็นนี่เป็นตั๋วประเภท DayTrip ปกติ
ราคา $7.3 แต่แสดงบัตร Full-time student ลดเหลือแค่
$3.8 เอง ชอบๆ (ดีที่หน้าเด็ก ไม่งั้นเวลาใช้บัตรนักเรียนคงทะแม่งๆ ไงชอบก๊ล..ล)
ที่เห็นเป็นด้านหน้าของบัตร ระบุประเภทของบัตร และโปรดอย่างงว่าทำไมราคามัน $4.1 อันนี้เป็นตั๋ว DayTrip แบบ Zone คือขึ้นได้ไม่จำกัดระยะทางและจำนวนครั้ง แต่ใช้ได้ภายในระยะเวลา 2 ชม.เท่านั้น ซึ่งเวลาเริ่มใช้งานคือตอนขึ้นรถแล้วเสียบบัตร เครื่องมันก็จะพิมพ์เดือนกับวันที่ใช้งาน และเวลาที่จะหมดอายุออกมา (ขากลับไม่อยากเสียตังเพิ่ม เลยต้องวิ่งแจ้นกันน่าดู)




ด้านหลังของบัตร จะเป็นแถบแม่เหล็ก เวลาขึ้นรถก็ Insert เข้าไปให้กล่องรับบัตรมันอ่านค่า แล้วจะพิมพ์วันที่ของการเดินทางออกมารอแปบเดียว มันก็คายบัตรคืนให้ กะป๋งกะเป๋าระเมล์ไม่ต้องมี คงลดปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว (ขณะวิ่งให้บริการ) ลงไปได้ไม่น้อย โฮะๆๆ




ป้ายรถบัส (Bus stop.) หน้า รพ. (แต่ตอนเดินทางไปเรียน ไม่ได้นั่งป้ายนี้หรอก สายที่ขึ้นป้ายนี้มันวิ่งเส้นทางที่ยาวกว่าอีกสายนึง) ถ้าในเมืองป้ายจะเป็นอักษรตามด้วยตัวเลข แต่ถ้าออกนอกเมืองอะเดอเลด ป้ายจะกลายเป็นเลขอย่างเดียว ไม่มีตัวอักษร แต่บางจุด อาจมีอักษรห้อยท้าย อย่างป้ายตัวอย่างนี้




แล้วที่ป้ายรถบัส ก็จะมี Timetable ขยายใบเบ้อเริ่มให้ดูเหมือนกัน




หน้าตาก็เป็นเจ้นนี้แล เบิ่งกันเอาเอง



โอ้...ข้อมูลแน่นปึ้ก ไม่มีหลงเป็นแน่แท้ ตอนต่อไปเป็นการเดินทางไปสำรวจที่เรียนภาษาว่าไปยังไงอยู่ตรงไหนของเมือง ซู่ๆ เอ้ยย สู้ๆๆ




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2550    
Last Update : 10 สิงหาคม 2550 22:15:34 น.
Counter : 444 Pageviews.  

ตอนที่ 3 - นี่คือสถาน...แห่งบ้านทราย เอ้ย ทอเรนซ์

หลังจากตกระกรำลำบากลำบน ระหกระเหิน ก็ได้เข้าห้องพักเสียที... เป็นตึกเจ็ดชั้น แต่ละชั้น
แบ่งเป็น 2 คอลัมม์ 3 แถว ที่เห็นนี่ทางเดินระหว่าง Reception พาไปห้องพัก



ห้องอยู่เกือบสุดทางเดินแหนะ..แต่ก็ดีเว้ย ชอบ




ถึงแล้ววว...หน้าห้องมีช่องให้เสียบป้ายชื่อผู้เช่ากับชื่อห้องไมต้องติดด้วยว้า..ยังกะเด็กๆ




พอเปิดประตูเข้าไป อ้าววว เฮ้ยยย ทำไมสมบัติเราเต็มห้องวะ แล้วก็ระลึกได้ว่า..นี่มันถ่ายสองวันต่อมา
หลังจากฟื้นคืนชีพแล้วนิหน่า...ฮี่ๆ




ของแทนจายจากหั่นหนี แม้กระทั่งยาหม่องก็หอบเอามาด้วย




เตียงที่คืนแรกหาผ้าห่มไม่เจอ เลยต้องนอนขดยังกะลูกหมา ใส่เสื้อกางเกงสี่ชั้นยังไม่หายหนาว (ในห้องนะเนี่ย)
สะลึมสะลือคว้าไปคว้ามา อ้าว..ตรูนอนทับผ้าห่มนี่หว่า ผ้าชั้นนอกมันคลุมจนมองไม่ออก นึกว่าผ้าคลุมเตียง
ปล่อยให้ตรูนอนหนาวอยู่ได้ค่อนคืน...




มีโทรทัศน์กะตู้เย็นใบกะติ๊ดให้ด้วย ทั้งหมดนี่ค่าเช่า อาทิตย์ละ $125 (long-term rate) included electricity,
water,gas,air cond.,heater ส่วนเนต $22 ต่อเดือน




ทิวทัศน์เมื่อมองจากหน้าต่างออกไปข้างนอกทางด้านขวาข้างล่างจะเป็นลานจอดรถของ Modbury Hospital
เจ้าของหอพักนี่แล (บางห้องจึงเป็นพวกหมอชาวต่างชาติที่มาเรียนต่อเฉพาะทางกับรพ.)




อันนี้มองออกไปข้างนอกทางด้านซ้าย จะเห็นถนนฝั่งด้านข้างของหอพัก ทำเลดีจริงๆ อยู่สี่แยกวงเวียนพอดี




ได้เวลาออกไปสำรวจรอบๆ ว่ามีอะไรมั่ง




สัญญานของหน้าหนาว




ฝั่งตรงข้ามหอพักเป็น ห้างสรรพสินค้า MYER ซึ่งมี Supermarket อีกหลายๆ แบรนด์ในนั้น เช่น BILO,
TARGET, WOOLWORTH และ BigW หลังจากสำรวจมาถ้วนทั่ว ก็พบว่า Woolworth มีของถูกให้เลือกมากสุด




หน้า Modbury Hosp. เป็น SA Bank ที่จริงมี Commonwealth Bank ฝั่งตรงข้ามไกล้ๆ สี่แยกด้วย
แต่ลืมถ่ายมา





ดูถนนเด่ะ นี่ขนาดย่านชุมชนตอนกลางวันแสกๆ นะเนี่ย ร้างซะขนาดนี้..




ปากทางเข้า Modbury Hosp. พอเดินเข้าไปเลี้ยวขวาก็จะเป็นอาคารหอพัก Torrens Valley




สำรวจแค่จิ๊บๆ เท่านี้พอ กลับมาพักผ่อนตุนแรงไว้หาทางว่าจะเดินทางไป Eynesbury College ได้จังได๋นะตรู...




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2550    
Last Update : 23 สิงหาคม 2550 18:34:58 น.
Counter : 1535 Pageviews.  

1  2  3  4  

Hashave
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วัน นี้ มี +ไอ้ม๋า+
วัน หน้า มี +บ้านอันอบอุ่น+
ทำ วัน นี้ เพื่อ วัน หน้า
วัน ไหน ไหน ไม่ แปร เปลี่ยน

Friends' blogs
[Add Hashave's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.