การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้เกิดชนชั้นกรรมาชีพ ความแร้นแค้นของพวกเขาเป็นพลังให้เกิดความเท่าเทียม
สวัสดีวันสงกรานต์ 2554 ได้กลับมานานเลยนะเนี้ยวันนี้ มาถึงก็ไม่พูดำร่ำทำเพลงอะไรวันนี้ขอนำเสนอเรื่องของ ลัทธิคอมมิวนิสต์ เป็นสิ่งที่น่าเกลียด น่ากลัวสำหรับประเทศที่เรียกตัวเองว่าเสรีนิยมทั่วๆ ไปจุดเริ่มต้นของลัทธินี้มาจากชนชั้นกรรมมาชีพที่ปรกติสื่อสารไม่ค่อยเก่ง และไม่มีมีปากเสียงทางสังคมเท่าไหร่ มะเริ่มกันเลย แนวคิดคอมมิวนิสต์นี้เริ่มมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 แรกพิมพ์เป็นหนังือที่ไม่มีใครติดตามเลยจนกระทั่ง คาร์ลมาร์กซ์ และเฟรดเดอรืค เองเกลส์ผู้แต่งที่เป็นคนงานเยอรมันทำงานในอังกฤษ ชวนเชื่อว่าเป็นแนวทางแห่งการพัฒนาโลกในยุดอนาคต นักคิดทั้งสองคิดว่าจากประวัติศาสตร์ของมนุษย์นั้นมีการต่อสู้ และความขัดแย้งระหว่างชนชั้นมาโดยตลอด ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากแนวคิดความขัดแย้งนี้ทั้งสิ้นตั้งแต่สมัยโรมมันเรืองอำนาจจนมาถึงยุดที่พวกเขีชีวิตคือช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม พวกเศรษฐีใหม่ก็ขัดแย้งกับนายทุนเก่าเดิม กรรมกรในสมัยนั้นก็มาจากแรงงานภาคเกษตรกรรมที่อพยพมาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น ชนชั้นกลางเริ่มมีบทบาททางสังคมสูงขึ้นจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้ แต่ปราศจากการเหลียวแลชนชั้นกรรมาชีพที่ทำงานให้ โดยดูได้จากการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม กรรมกรไม่ได้รับค่าจ้างอย่างยุติธรรม ในช่วงแรกของการเรียกร้องเป็นไปอย่างไร้รูปแบบ เช่นการก่อจราจล หยุดงานประท้วง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชนชั้นกลางที่เป็นเศรษฐีใหม่สะดุ้งสะเทือนนัก จนกระทั่งกรรมาชีพได้รวมตัวกันก่อตั้งสหภาพได้เป็นผลสำเร็จ ในเขตโรงงานชนบท สหภาพมีหน้าที่ต่อรองค่าจ้างให้สูงขึ้น ทั้งสองนักคิดทำนายต่อไปว่า เมื่อใดก็ตามถ้าชนชั้นกลางรวมกับกรรมาชีพได้เป็นผลสำเร็จต่อต้านนายทุนผู้กดขี่ถึงจัดนั้นการปฏวัติก็จะเกิด โดยจะยึดเอาทรัพย์สินและโรงงาน โดยส่งต่อการควบคุมดูแลให้กับรัฐกฏระเบีบเก่าจะถูกกวาดล้าง คอมมิวนิสต์ที่เข้าใจถึงคนชั้นกลางก็จะเข้ามาแทนที่ โดยทุกคนอาจจะต้องจ่ายภาษีที่หนักแต่ผลตอบแทนจะลกับมาสู่ความอยู๋ดีกินดี ของทุกคนในสังคม ที่สำคัญ ชนชั้นควรถูกกำจัดทิ้งไป คลื่นการปฏิวัตินี้ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงหนีไม่พ้นฝรั่งเศษ ฮังการีโดยลุกขึ้นสู้กับอิทธิพลของออสเตรีย เยอรมันและอิตาลีก็ค่อยๆ เห็นประชาธิปไตยโดดเด่น สวิสเซอร์แลนด์ก็มีสงครามกลางเมืองกรุงปาร์คค่อยๆ เป็นศูนย์กลางของพันธมิตรแพนสลาวิค การต่อสู้กินเวลานานเกินกว่าที่ชีวิตของมาร์คจะทนอยุ่ เพื่อรอดูวันที่บุคคลเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงและการปฏิวัติกลับกลายเป็นเครื่องมือของชนชั้นสูงที่สวมหน้ากากแห่งความเท่าเทียมกันเรียกร้องผลประโยชน์ของตัวเองซะส่วนใหญ่ แต่ลัทธินี้ก็ฝั่งรากลึกลงสุ่หัวจิตหัวใจของชนชั้น กรรมาชีพในแต่ละประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกหมางเมินโดยผู้นำที่ไม่สนใจความเป็นอยู่ของคนที่เป็นรากฐานของประเทศ น่าเสียดายที่ลัทธิถูกนำไปใช้โดยผู้นำเผด็จการซะส่วนใหญ่เลยทำให้ ไม่มีการเกิดขึ้นจริงๆ จังๆ สักที แม้แต่ในรัสเซีย หรือจีนก็เป็นลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ฉบับแก้ไขปรับปรุงเสียแล้วทั้งนั้น
Free TextEditor
Create Date : 15 เมษายน 2554 |
Last Update : 15 เมษายน 2554 11:41:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1663 Pageviews. |
|
|