ทุกเพลงที่เราร้อง สะท้อนจากทุกสิ่งที่เราเป็น
Photobucket
Group Blog
 
All blogs
 

DIE # 1 : กลับคำเสีย









"กลับคำเสีย"


พอดี Blog นี้ ขออนุญาตส่วนตัวนิดนึงนะ
ด้วยความที่ผมเนี่ย เป็นคนชอบเรียบเรียงภาษา (แต่ไม่ได้เรื่อง)
แล้วผมเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมาตั้งแต่เด็ก
เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ (อะไรก็ได้ ยกเว้นหนังสือ การเมือง เหอๆๆ)
มันทำให้ผม เมื่อผมมีเวลาว่างๆ ผมจะชอบเขียน ชอบฟัง ชอบอ่าน ไปเรื่อยเปื่อย
(จะบอกย้ำทำไมเนี่ย ไม่เข้าใจ ก็เพิ่งบอกไป 3 บรรทัดข้างบน)

ป่าวหรอกครับ ประเด็นก็คือ เสมัยเด็กๆ เนี่ย
เมื่อผมเริ่มที่จะได้มีโอกาสเลือกฟังเพลงด้วยตัวเอง
(ซึ่งเมื่อก่อน พ่อจะยัดเยียดแต่ ไวพจน์ พุ่มพวง สุนารี
แล้วก็เพลง “แว่วเสียงซึง” ฉบับ “Original” ให้ฟัง เหอๆๆ
ซึ่งไม่รู้ว่าใครร้อง แต่ผมชอบสุดๆ 555+)
ก็เริ่มจะเจาะความหมายของเพลงที่ฟังมากขึ้น
อยากที่จะเข้าไปสัมผัสถึงสิ่งที่เพลงได้สื่อออกมา ว่ามันคืออะไร
เพราะปกติ เมื่อก่อนเวลาฟังเพลง ก็ “อืม เพราะ” กับ “เพลงไรเนี่ย ไม่เพราะเลย”
มีอยู่แค่นี้ จนหลังๆ มาคิดดูว่า อืม เพลงเพราะรึไม่เพราะ
มันจะต้องมีปัจจัยอะไรประกอบบ้างน้า

แน่นอน อย่างแรกคือ “ดนตรี” สองคือ “เสียงร้อง”
เมื่อก่อนมีแค่นี้ คือ “เสียงนักร้องดี ดนตรีเล่นเพราะ” จบ
แต่อย่างที่บอก พอมาเริ่มประถม 4 ผมเริ่มที่จะฟังเพลง
โดยที่เจาะความหมายเพลงให้มากขึ้น
เลยได้รู้ว่า “เนื้อร้อง” เป็นตัวสร้างเรื่อง ให้เรามีมโนภาพ
ในหัวสมองเราว่า เออ มันต้องเป็นแบบนี้นะ อย่างนี้นะ
จินตนาการไปตามเนื้อเพลง (เหอๆๆ เข้าขั้นบ้ารึเปล่าเนี่ย ตอบผมหน่อย)
เพราะฉะนั้น หลายๆ ครั้ง ที่ผมนั่งฟังเพลงคนเดียว
แล้วผมก็นั่งยิ้ม หลายครั้งนั่งเหงา และหลายๆ ครั้ง น้ำตาแตก เหอๆๆ
แค่ฟังเพลง ก็ทำให้เราเปลี่ยนอารมณ์ได้เยอะเหลือเกิน

คราวนี้ ผมกำลังจะบอกว่า ในช่วงสมัยแรกๆ ที่ผมจำความได้
(หลังปี 2526 มาแล้วน่านแหละ (เฮ้อ ไม่อยากจะบอกเลย))
เพลงเพราะ เพลงดังช่วงนั้น ถ้าเป็นเพลงแดนซ์รึเพลงเร็ว
ใครๆ ก็จะนึกถึงค่ายเพลงฝั่ง “ลาดพร้าว” กันทั้งนั้น
แต่ถ้าเป็นเพลงช้า เพลงซึ่ง แน่นอน “อโศก” กินขาด
(แต่ถ้ารุ่นนั้นจริงๆ มีอีกค่ายที่ฮอตฮิตวัยรุ่นช่วงนั้นคือ “คีตา”)
แต่ผมอ่ะ ฟังเพลงเร็วได้ไม่เท่าไรหรอก เพราะเป็นคนเต้นไม่เป็น
เพราะฉะนั้น เพลงเต้นสมัยยุค 2526 ผมรู้จักไม่ค่อยเยอะหรอก
เท่าที่จำได้ก็มีฝั่งคีตาก็มี “แมงมุม แม่มด แสงระวี เสือ ฮันนี่ หัวงู เอ้ชุติมา
วอนซะแล้ว สุรวุฒิ แจงเวง พี่เปิ้ลจารุณี หัวไม่ล้าน ฝันดี-ฝันเด่น ฯลฯ
ฝั่งลาดพร้าว ก็จะมี เท้าไฟ พี่ทัช ปอด ปอด บอยสเก๊าท์ หลงตัวเอง พี่เออนันต์
ถอนสายบัว เป็นอันสลบ นุ๊กสุทธิดา สมชายจรดปลายเท้า ของพี่เต๋า
เจอาร์-วอย อนัน อันวา.......ฯลฯ นี่ขนาดว่าไม่ค่อยฟัง จำไม่ค่อยได้นะ
(นึกแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กอีกจังอ่ะคับ คิดถึง หงิงๆๆ)

ส่วนเพลงช้าเพราะๆ กินใจ มันต้องมาฝั่งอโศกนี่
แล้วถ้าได้มีโอกาสเจาะลึกเข้าไปถึงคนที่สร้างสรรค์เนื้อร้องขึ้นมา
2 คนคุณภาพที่จะต้องมีให้เห็นในทุกๆ เพลงดัง
นั่นก็คือ พี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค และ พี่นิ่ม สีฟ้า
ซึ่งผมถือว่า พี่เค้า เป็น 2 คนที่ผมนับถือในความสามารถ
มาตั้งแต่ผมยังอยู่ประถมศึกษาแล้ว
แล้วก็รู้สึกชื่นชอบในผลงาน ภาษา ที่สื่อออกมาผ่านเพลง
ทุกอย่างมันง่าย ไม่เยอะ ไม่ประดิษฐ์
ง่ายๆ พื้นๆ แต่มันก็ดังได้

ก็เลยขอเขียน Blog นี้มาโดยเฉพาะ สำหรับผลงานของพี่ทั้ง 2
ประเดิม Blog นี้ ผมขอเริ่มต้นด้วยงานเพลงของพี่ดี้ก่อนเลยละกัน
เพราะถ้าไปดู Blog ร้องเพลงของผม ยังไม่มีงานของพี่ดี้ซักกะเพลง
แต่ฟาดงานของพี่นิ่ม ไปซะแล้วเพลงนึง
วันนี้เลือกเพลง “กลับคำเสีย” เพลงดังมากๆ รุ่นผมยังเด็กๆ มาให้ฟัง
แล้วผมเชื่อว่า มันยังดังอยู่จนถึงทุกวันนี้
(แหงล่ะ เครื่องเสียงบ้านชั้นดี เพลงมันเลยดัง เหอๆๆ)
นึกถึงวง “กัมปะนี” เพลงนึงที่ผมชอบคือ “สรุปว่าบ้า”
เป็นเพลงสนุกๆ ที่วัยเด็กมันจะต้องขยับตาม
เอาเป็นว่าลองฟังความหมายเพลงนี้ดู
แล้วจะบอกว่า “สุดยอด” มันเป็นยังไง



เพลง : กลับคำเสีย
อัลบั้ม :
ศิลปินต้นฉบับ : กัมปะนี
ร้องใหม่โดย : my_reflection
*เวอร์ชั่นที่ผมร้องนี่ ผมเอามาจากเวอร์ชั่นคอนเสิร์ตพี่ดี้
ที่พี่ก้องนูโว ร้องไว้ในคอนเสิร์ตนะครับ เสียงมันจะแตกๆ อู้อี้ๆ นิดนึง
ก็ทนๆ ฟังกันหน่อยละกันครับ

แค่เพียงหนึ่งนาที ที่เธอพูดไป
รู้ตัวบ้างไหม ว่าพูดอะไรออกมา
ใจเย็นๆ ดีไหม ฉันจะให้เวลา
คำที่เธอพูดมา ฉันจะลืมมันไป

กลับคำเสีย อย่าเอ่ยมันออกมา
โปรดจงคิดดูอย่างช้าๆ ในใจ
คำบางคำนั้นแรงเกินไป
และมันทำร้ายจิตใจเกินทน
กลับคำเสีย อย่าเอ่ยคำล่ำลา
อาจเป็นเพราะเราเหนื่อยและล้าเกินไป
มองดีๆ พูดจากันใหม่
ก็เรามีกันอยู่เพียงสองคน

แค่เพียงหนึ่งนาที ที่เธอพูดไป
ซึ่งมันอาจทำลาย ร้อยล้านนาทีที่ดี
ดีต่อกันพันครั้ง ครั้งนึงย่อมจะมี
มันคงมีสักที ที่คลางแคลงในใจ

กลับคำเสีย อย่าเอ่ยมันออกมา
โปรดจงคิดดูอย่างช้าๆ ในใจ
คำบางคำนั้นแรงเกินไป
และมันทำร้ายจิตใจเกินทน
กลับคำเสีย อย่าเอ่ยคำล่ำลา
อาจเป็นเพราะเราเหนื่อยและล้าเกินไป
มองดีๆ พูดจากันใหม่
ก็เรามีกันอยู่เพียงสองคน

กลับคำเสีย อย่าเอ่ยมันออกมา
โปรดจงคิดดูอย่างช้าๆ ในใจ
คำบางคำนั้นแรงเกินไป
และมันทำร้ายจิตใจเกินทน
กลับคำเสีย อย่าเอ่ยคำล่ำลา
อาจเป็นเพราะเราเหนื่อยและล้าเกินไป
มองดีๆ พูดจากันใหม่
ก็เรามีกันอยู่เพียงสองคน



Special Thanks : เพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมและรับฟังทุกๆ ท่านนะครับ
รบกวนช่วยกัน Comment ก็จะขอบพระคุณมากเลยนะครับ




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2551 14:02:55 น.
Counter : 451 Pageviews.  


my_reflection
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add my_reflection's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.